เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 13


บทที่ 13



ฟอร์จูนเนอร์สีดำคันสวยพุ่งทะยานด้วยความเร็วร่วมหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้โดยสารที่นั่งร่วมทางมาอย่างไม่เต็มใจจึงต้องนั่งตัวเกร็งไปตลอดทาง อาการหน้ามืด่อยยังชั่วขึ้นมาก แต่อาการอกสั่นขวัญแขวนเริ่มเข้ามาแทนที่ หญิงสาวเหลือบมองด้านข้างของคนขับ แค่ด้านข้างเธอก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังโกรธมากถึงมากที่สุด แล้วเขาจะทำอะไรกับเธอ...นั่นคือคำถาม

“คุณจะพาฉันไปไหน” หญิงสาวรวบรวมความกล้าก่อนจะถามเสียงเบา

“นั่งเงียบไปเงียบๆถ้าไม่อยากให้ฉันโมโหไปมากกว่านี้” ธนาดลตอบเสียงเย็นโดยไม่แม้แต่จะหันมามองเสี้ยวหน้าของคู่สนทนา

ชายหนุ่มหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าบ้าน รินลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเขาไม่พาเธอไปฆ่าหมกศพริมชายป่าตามที่เป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน หากจะโล่งอกได้แน่หรือ ในเมื่อตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยสักคน...

ยังไม่ทันได้คำตอบ ร่างบางก็ถูกดึงให้ลงจากรถอย่างแรง ชายหนุ่มถูลู่ถูกังหญิงสาวมาจนถึงในบ้าน ศรินดาเองก็พยายามที่จะปลดตัวเองให้หลุดจากมือที่แข็งปานเหล็กนั่น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็ไม่ยอมปล่อย และตัวเธอเองก็มีแต่จะเจ็บตัวมากขึ้นเท่านั้น

“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” รินสะบัดแขนสุดแรง ฝืนตัวที่สุดไม่ยอมให้คนตัวโตลากเธอไปได้โดยง่าย

“สะบัดไป ต่อให้สะบัดจนแขนหัก ฉันก็ไม่ปล่อยเธอ!” ธนาดลว่า และทำการ ‘ลาก’ คนที่กำลังขัดขืนขึ้นบันได

“จะไปไหน” ศรินดาถามเสียงตื่นเมื่อเห็นว่าทางที่เขาพาไปมันชักไม่น่าไว้วางใจ

ธนาดลไม่ตอบ ชายหนุ่มยังคงทั้งลากทั้งดึงต่อไปโดยไม่สนใจเสียงโอดโดยของรินแม้แต่น้อย

“เอื้อง! เอื้อง! ช่วยรินด้วย!... เอื้อง !” รินตัดสินใจตะโกนขอความช่วยเหลือจากสาวใช้ ไม่สนแล้วว่าใครจะมองจะคิดยังไง ตอนนี้ชีวิตเธอต้องปลอดภัยที่สุด

ธนาดลหยุดกึก ตาคมมองร่างที่ร้องขอความช่วยเหลืออย่างท้าทาย “เรียกไป...เรียกให้ตายก็ไม่มีใครมาช่วยเธอ ฉันจะบอกเธอให้เอาบุญนะ ว่าเอื้องมันไม่อยู่ให้เธอร้องเรียกหรอก!” เขาตวาดและดึงรินให้เดินตามด้วยแรงทั้งหมดที่มี

“ปล่อยนะ ปล่อย คุณจะพาฉันไปไหน” ศรินดาร้องถามตลอดทาง แต่ไม่ต้องรอคำตอบจากปากของธนาดล ตากลมโตก็เบิกกว้างเนื่องจากเจ้าตัวตกใจสุดขีด เมื่อทางที่เขากำลังพาเธอไป คือทางไปห้องนอนของเขาเอง!

“ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล๊อยยย!!” รินหวีดร้องเสียงสูง ขืนตัวเต็มที่เพื่อไม่ให้ธนาดลดึงไปได้ เธอไม่อยากอยากเจอเหตุการณ์อย่างคืนนั้น

...มันน่ากลัว ไม่!!! ...

“คุณพาฉันมาที่ห้องคุณทำไม” รินถามเสียงสั่นรู้สึกถึงความอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ธนาดลยิ้มมุมปากสายตาส่อแววเย้ยหยัน “ทำไม...หรือต้องพาไปโรงแรมถึงจะชอบ”

“คุณ!” รินร้องเสียงสูง ถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างโกรธเกรี้ยว

“อย่าเอาความคิดชั่วๆของคุณมาใช้กับฉัน”

“ทำไมฉันจะใช้ไม่ได้ ความคิดชั่วๆมันก็เหมาะกับผู้หญิงชั่วๆที่ชอบยั่วผู้ชายไปวันๆอย่างเธอ!”

เผียะ!

ฝ่ามือเล็กฟาดไปเต็มแรงบนใบหน้าคมของธนาดล

“อย่าดูถูกฉัน คนเลวๆอย่างคุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกฉัน”

ธนาดลยกมือขึนลูกแก้มเบาๆ จ้องมองไปยังร่างเล็กบางไม่วางตา

“ตบได้เจ็บดีนี่ศรินดา”

“น้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคนอย่างคุณ!”

ธนาดลมองรินด้วยสายตาแข็งกร้าว ไฟแห่งความโกรธกำลังโหมกระหน่ำสู่จิตใจของชายหนุ่ม

“คนอย่างฉันมันทำไม ต้องดีอย่างไอ้นนท์หรือไงเธอถึงจะชอบ”

รินเชิดหน้ารับคำ “ใช่สิ...นนท์เป็นคนดี เป็นคนดีจนคนอย่างคุณไม่มีทางเทียบได้!”

เพียงเท่านั้นความอดทนอดกลั้นของธนาดลก็ขาดผึง ชายหนุ่มดันร่างบางให้ติดกำแพง มือหนายึดบ่าของรินไว้แน่น ก่อนจะประทับจูบลงบนรินฝีปากบางอย่างรวดเร็วและจาบจ้วง รินพยายามที่จะหลบหนีรอยประทับนั่น หากแต่พอหนีก็เหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะรุกหนักยิ่งขึ้น

ริมฝีปากอุ่นไล้มาจนถึงซอกคอขาว มือที่ตรึงอยู่ที่บ่าค่อยไล้ไปที่สาบเสื้อ ตลอดจนทรวดทรงของหญิงสาวราวกับว่าจะสำรวจอย่างคร่าวๆ ก่อนที่จะสำรวจจริง!

“ปล่อย...” ศรินดาพยายามที่จะพูด หากพอมีคำใดหลุดออกมา ริมฝีปากลึกก็ทาบเพื่อปิดปากอย่างรวดเร็ว เนิ่นนานกว่าคราวแรกจนรินส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆอย่างห้ามไม่อยู่

รสจูบที่จาบจ้วงและร้อนแรงในที่แรกค่อยๆกลายมาเป็นความอ่อนหวานล้ำลึกจนรินเผยอรับจุมพิตนั่นอย่างเผลอไผล ธนาดลเองก็ไม่คิดที่จะหักห้ามตัวเอง ยิ่งร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนให้ความร่วมมือด้วยแล้ว ความต้องการของเขาก็ยิ่งพุ่งพล่านอย่างห้ามไม่อยู่

เขาต้องการเธอ เขาต้องการศรินดา!

วงแขนแข็งแรงช้อนร่างบางโดยที่อีกฝ่ายไม่แม้จะปฏิเสธ เพราะตอนนี้สติของศรินดาหลุดลอยไปไกลจนหญิงสาวแทบไม่เหลือความคิดอะไรอีกแล้วในหัว มันเบลอๆไม่ค่อยชัดเจน ยิ่งเจอแบบนี้ยิ่งคิดไม่ออก จะต่อต้านหรือปฏิเสธก็ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมด

หากพอแผ่นหลังของตัวเองสำผัสกับฟูกนุ่ม สติที่กระจัดกระจายหายไปแทบจะกลับมารวมอยู่ครบ มือบางดันร่างสูงใหญ่ที่กำลังทาบทับเป็นพัลวัน และอาการเหล่านั้นก็สร้างความแปลกใจกับธนาดลได้อย่างดี

...ทำไม...ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้ปฏิเสธ แล้วทีตอนจูบเมื่อกี้ ทำไม...

“อย่า” รินใช้มือดันหน้าคมที่กำลังโน้มใกล้เข้ามา แต่ไม่สำเร็จ ธนาดลปิดปากคนช่างพูดด้วยริมฝีปากของตัวเอง จับมือเล็กๆทั้งสองข้างไว้ด้วยเพียงมือข้างเดียว ริมฝีปากค่อยไล้ผ่านพวงแก้ม ต่ำลงมายังซอกคอ...

“ไม่...” หญิงสาวหันหน้าหนี หากธนาดลยังรุกต่อไปโดยไม่ฟังเสียง ตอนนี้เขาห้ามความต้องการของตัวเองไม่อยู่แล้วจริงๆ

มืออีกมือที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรไล้มาหยุดที่เนินอก ก่อนจะลงมือปลดกระดุมออกที่ละเม็ดจนหมด มือหนาปล่อยมือคู่เล็กก่อนจะไล้เพื่อนสำรวจเรือนร่างของรินและมาอ้อยอิ่งอย่ที่เนินทรวง รินจิกผ้าปูที่นอนด้วยมือทั้งสองอย่างแรง เมื่อธนาดลรุกหนักขึ้น ร่างหนาทาบทับลงมาจนรินตกใจ น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลพราก แต่คนที่ยังระรานก็ยังไม่สนใจ จนศรินดายกมือที่แสนจะเย็นเฉียบขึ้นมาแตะแก้มเขาเบาๆ...ธนาดลจึงชะงักในสิ่งที่ตนเองกำลังกระทำอยู่

“พอแล้ว...ขอร้องล่ะ...พอแล้ว” น้ำตาที่ไหลจนแทบเป็นสายเลือดและมือที่เย็นเฉียบราวกับว่ามีน้ำแข็งปกคลุมทำให้ธนาดลหยุดการกระทำทุกอย่างลง

ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งข้างเตียง ปล่อยให้รินร้องไห้สะอึกสะอื้นโดยมีแค่ผ้าห่มพันกาย ธนาดลก้มหน้าต่ำทบทวนความคิด ว่าที่เขาทำไปทั้งหมดนี่สาเหตุมันเพราะอะไรกันแน่ เขาใกล้จะแก้แค้นสำเร็จแล้ว เขากำลังจะทำลายสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นรักที่สุดได้แล้ว อีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น...แค่นิดเดียว ถ้าเขาไม่เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาปิ่มจะขาดใจนั่น เขาคงทำไปสำเร็จแล้ว

เขา...สงสารศรินดา

เขาโกรธที่มีผู้ชายมายุ่งกับผูหญิงคนนี้โดยเฉพาะนนทนัฐ

เขาโกรธที่เธอยิ้มและคุยกับผู้ชายคนอื่น

เขาอยากเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้เป็นของเขาคนเดียว ห้ามให้ใครแตะต้อง

แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า ‘หึง’

แล้วถ้าหึง ก็แสดงว่า เขารักผู้หญิงคนนี้...ใช่ไหม

ธนาดลเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองหลงรักผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่า...ลึกๆในใจมันบอกว่า ‘รัก’

...ขอโทษนะครับแม่ ขอโทษ...ที่ผมรักคนที่ไม่น่าจะรัก แต่ผมสัญญาครับ ไม่ว่ายังไง ผมก็จะแก้แค้นผู้หญิงคนนี้ แต่ขอเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมครับ พรุ่งนี้...ผมจะกลับมาเป็นธนาดลคนที่แบกความแค้นไว้คนเดิม แต่วันนี้ผมขอนะครับ ผมขอทำดีให้กับคนที่ผมรู้ตัวว่า ‘รัก’ บ้าง มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมจะทำ เพราะนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปทุกอย่างจะเหมือนเดิม รวมทั้งความรู้สึกของผมด้วย...
ความรู้สึกที่ผมทั้งแค้นทั้งเกลียดศรินดา...

ความรู้สึกที่ไม่มีคำว่ารัก...

ธนาดลได้แต่ก้มหน้านิ่งโดยไม่พูดอะไรออกมา ปล่อยให้มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ดังเรื่อยๆอยู่ในห้อง

“คุณมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ คิดแต่จะรังแกผู้หญิง...” รินว่า เพื่อให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ

“นนท์...” แล้วชื่อของนนทนัฐก็หลุดออกมาจากปากอย่างแผ่วเบา

...รินอยากไปร้องไห้ข้างๆนนท์ รินอยากมีใครซักคนที่เป็นห่วงริน ใครซักคนที่ถามรินว่ารินเป็นอะไรไหมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน...

หญิงสาวคิดอย่างนี้จริงๆ เธอต้องการใครซักคนมาเป็นที่พึ่ง ใครสักคนที่ห่วงเธอ และนนทนัฐก็เป็นคนแรกที่เธอนึกถึง

“อย่าเอ่ยชื่อมันให้ฉันได้ยิน” ธนาดลหันไปมองร่างบางด้วยแววตาขุ่นมัว เขาเกลียดที่สุดยามที่ผู้หญิงคนนี้เอ่ยชื่อนนทนัฐออกมาจากปาก

“ทำไม! ฉันจะพูดชื่อใครมันก็เรื่องของฉัน” รินโต้กลับ

“อย่ามายั่วโมโหฉันนะศรินดา” ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำ

“ฉันไม่ได้ยั่วโมโหใครทั้งนั้น ฉันอยากเจอนนท์ ได้ยินไหมว่าฉันอยากเจอนนท์!!” รินตะโกนใส่ธนาดล รู้ทั้งรู้ว่าทำแบบนี้จะทำให้เขายิ่งโมโห แต่เธอก็อยากที่จะทำ เธออยากให้เขารู้ว่าผู้ชายอย่างเขาไม่มีทางที่จะเทียบเคียงกับนนทนัฐได้เลย ไม่เลยสักนิด!

ธนาดลขบกรามแน่นจนเห็นสันนูน ชายหนุ่มกำลังกดอารมณ์โกรธที่กำลังปะทุขึ้นไม่ให้มันพังออกมา เพราะถ้าเขาเป็นอย่างตอนแรกอีกที คราวนี้เขาคงปล่อยให้มีอะไรเกินเลยไปจริงๆ

“แต่งตัวแล้วออกไปได้แล้ว” ธนาดลลุกขึ้นยืนหันหลังให้ริน “ถ้าฉันออกมาแล้วเห็นว่าเธอยังอยู่ อย่าคิดว่าฉันจะหยุดอย่างตอนนี้” พูดจบร่างสูงก็เดินเข้าห้องน้ำไป

ศรินดาหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ใส่ไปน้ำตาที่ไหลออกมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ร่างบอบบางเดินสะโหลสะเหลออกจากห้องไปด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตาและริมฝีปากอวบอิ่มแดงช้ำ ซอกคอมีรอยแดงๆประทับอยู่หลายรอย

เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องปิดลงธนาดลจึงออกมาจากห้องน้ำ ตาคมมองไปบนเตียงยับยู่ยี่ที่เหลือแต่ความว่างเปล่า นับน์ตาสีดำสนิทแฝงไปด้วยแววปวดร้าวอยู่จางๆ

วันนี้จะเรียกว่าการแก้แค้นได้หรือเปล่านะ แต่ถ้าแก้แค้น มันก็เป็นการแก้แค้นที่เขาเองก็เจ็บพอดู...









ศรินดาปิดประตูห้องนอนของตัวเอง ร่างบางก็ทรุดฮวบลงกับพื้นและปล่อยทั้งน้ำตาและเสียงสะอึกสะอื้นออกมา

เธอรังเกียจตัวเอง รังเกียจทุกส่วนที่ธนดลแตะต้อง รังเกียจจนเธอคิดว่าให้เธอตายไปเสียยังดีกว่าที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่เธอยังตายไม่ได้ ต่อให้โดนทำร้ายมากแค่ไหน เธอก็ยังตายไม่ได้ เธอจะตายได้ก็ต่อเมื่อเห็นธนาดลลทรมานอย่างแสนสาหัส จะเป็นอะไรไปไม่ได้เมื่อยังไม่ได้ทำร้ายเขาให้เจ็บปางตายกับมือ

ปากบางเม้มเป็นเส้นตรงแม้จะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่มีอะไรมาสัมผัสก็ตาม

คุณจะต้องทรมานมากกว่าฉัน

จะต้อง...เจ็บ...มากกว่าฉัน










ธนาดลยังคงก้มหน้านิ่งอยู่ริมขอบเตียง ชายหนุ่มไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อยว่าตัวเอง ‘เผลอใจ’ ไปกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่มื่อไหร่ แล้วทำไมคนที่เขารักต้องเป็นคนที่เขาแค้นและต้องการทำลาย แบบนี้ถ้าเขาทำร้ายเธอมันก็ไม่ต่างกับที่เขาทำร้ายตัวเอง...ไม่ต่างกันเลย ดวงตาสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามรัตติกาลปิดสนิทลง เสียงถอนหายใจดังออกมายาวเหยียด

ไม่น่ารู้ตัวว่ารักเลย ตัดใจซะให้ได้ตอนนี้ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องแก้แค้น ดังนั้นตัดใจซะตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการทำร้ายคนที่ตัวเองรักมันไม่สนุกเลย...ไม่สนุกเลยจริงๆ

แต่ขอเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม...

พรุ่งนี้จะไม่มีธนาดลที่รักศรินดา

พรุ่งนี้และวันต่อๆไป จะมีเพียงธนาดลที่แค้นศรินดา...เท่านั้น

ทั้งที่กำลังจะชนะแต่ธนาดลกำลังรู้สึกว่าสังเวียนความแค้นแห่งนี้ตนเองกำลังถูกต้องให้จนมุมด้วยความรู้สึก ‘รัก’ ที่เกิดขึ้นในหัวใจ

ชายหนุ่มพาร่างของตัวเองมาหยุดนิ่งที่หน้าห้องของศรินดา มือใหญ่ยกขึ้นทำท่าจะเคาะ แต่พอจะเคาะก็กลับหยุด เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง เก้ๆกังๆทำอะไรไม่ถูก

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คนอย่างเขาตัดสินใจอะไรได้ไม่เด็ดขาด ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเข้าไป ‘ปลอบ’ เธอคนนั้นดีหรือเปล่า แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการก็ตาม

...ขอเขาทำดีกับคนที่รักบ้าง เพียงแค่สักครั้ง...ก็ยังดี...

ก๊อกๆ...เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ หากไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

ก๊อกๆ...ธนาดลเคาะประตูอีกที ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม ชายหนุ่มจึงเคาะติดต่อกันไปเรื่อยๆ เอาให้ตายกันไปข้างนึง ไม่มือเขาก็ประตูนี่ล่ะ

หากผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิมเมื่อในห้องยังคงเงียบกริบไม่มีเสียงตอบกลับมา ธนาดลหยิบกุญแจสำรองที่หยิบติดขึ้นมาเผื่อสถานการณ์แบบนี้มาไขประตู ร่างสูงค่อยๆก้าวเข้าไปในห้อง ไม่ทันได้ตั้งตัว หมอนใบใหญ่ก็บินหวือเข้ามากระแทกใบหน้าเต็มๆ ตามติดด้วยคิตตี้จังตัวใหญ่ และอะไรต่อมิอะไรที่เจ้าของห้องคว้าได้

ร่างบางยืนหอบ ในมือถืออาวุธชิ้นสุดท้าย หนังสือนิยายเล่มโปรดที่หนามากกว่าหนึ่งพันหน้า!

“ออกไปนะ! ออกไปเดี๋ยวนี้!!” รินตะโกนไล่ สภาพหญิงสาวไม่ต่างอะไรกับตอนที่ออกมาจากห้องของ
ธนาดลมากนัก ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตาบวมแดงและเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

หากธนาดลกลับไม่ทำตามนั้น ชายหนุ่มก้าวเข้ามาจนถึงตัวหญิงสาว

“ออกไป!!” รินฟาดนิยายเล่มหนากว่าพันหน้าใส่ศีรษะของธนาดลที่ยังพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวอย่างแรง
ฝ่ายธนาดลเองก็กัดฟันอดทนความเจ็บที่จี๊ดขึ้นบนหัว ร่างสูงยืนนิ่งไม่โต้ตอบเหมือนอย่างที่เคยเป็น

“พอใจหรือยัง” เสียงทุ้มนุ่มถามเบาๆ รินเชิดหน้า เม้มปากแน่น มือบางยกขึ้นและฟาดลงบนหน้าขาวแรงๆไปหนึ่งที

เผียะ!

ใบหน้าของธนาดลมีรอยนิ้วมือแดงครบห้านิ้วทันที

“พอใจหรือยัง” ชายหนุ่มถามอีกครั้ง

เผียะ! แล้วมือบางก็ฟาดอีกครั้ง...เช่นกัน

“พอใจหรือยัง” คำถามเดิมถามขึ้นเป็นครั้งที่สาม

“ยัง! ยังไม่พอ ต่อให้ทำยังไงก็ไม่พอ...ไม่พอ” รินทรุดลงนั่งและปล่อยน้ำตาให้ออกมาอีกครั้ง ธนาดลทรุดตัวลงนั่งบ้าง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสอย่างเบามือ แต่รินกลับปัดมือนั้นออกอย่างแรง

“อย่ามาแตะ ฉันรังเกียจ ได้ยินไหมว่าฉันรังเกียจคุณ!” ดวงตารินส่องประกายแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างชัดเจน
ธนาดลพยักหน้า พึมพำเบาๆ “ได้ยิน”

...ได้ยิน...และรู้ว่าผู้หญิงคนนี้รังเกียจเขามากแค่ไหน...

“ออกไปนะ ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ!” รินตะโกนไล่ นิ้วเรียวชี้ไปที่ประตูสั่นระริก

ธนาดลถอนหายใจออกมายาวเหยียด ร่างสูงลุกขึ้นยืน หยิบกระดาษโน้ตบนโต๊ะหนังสือของหญิงสาวมาแผ่นหนึ่ง ก่อนจะตวัดปลายปากกาเพื่อเขียนคำสั้นๆหนึ่งคำ

คำ...ที่คนอย่างเขาไม่เคยพูดออกมาง่ายๆ

คำ...ที่เขาเองไม่เคยคิดที่จะพูดกับเธอคนนี้

คำ...ที่เขาจะบอกกับเธอเป็นครั้งแรก...ครั้งเดียว

คำๆนั้น...คำเดียวสั้นๆ

...ขอโทษ...

----------------------------------------------------------------------------------------------

คุณดลน่ะ...ยังไม่ยอมทิ้งความแค้นได้เสียที อาจะเพราะจำภาพของแม่ได้ขึ้นใจและเสียใจมากเมื่อคราวนั้น...

ถึงตอนนี้แล้วคิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ บอกกันได้น้าาาา ยินดีรับฟังจ้าาาา

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์แล้วก็กดไลค์นะคะ ขอบคุณค่าาาา




คุยกันเหมือนเดิมค่ะ....


คุณ Gingfara : เสียใจทีหลังไปเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ

คุณ viengkawe : ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันนะคะ ^^ คุณดลรู้ตัวแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมลืมความแค้น แล้วตัวเปรียบเทียบอย่างนายนนท์ก็ต่างกับพระเอกเราราวฟ้ากับเหวด้วยสินะคะ แย่เลย...

คุณ nunoi : ตอนนี้คุณดลกำลังเป็นอย่างนั้นเลยค่ะ กำลังรู้สึกขัดแย้งในตัวเองแบบสุดๆไปเลย

คุณ MYsister : มากๆเลยล่ะค่ะ แต่ตอนนี้คุณดลกก็เริ่มที่จะเจ็บปวดแล้วนะคะ :"(

คุณ teesaparn : อย่างที่คุณ teesaparn บอกเลยค่ะ หึง...และรัก...นั่นเอง

คุณ ปรางขวัญ : ไม่ต้องระวังแล้วล่ะค่ะ เกลียดไปแล้ว เต็มๆเลย

คุณ Amata : ความจริงน่าจะทำอย่างนั้นนะคะ แต่ไม่รู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะโดนเอาคืนมากกว่านี้หรือเปล่า - -?

คุณ มะลิ : ดีใจที่ชอบนะคะ :)

คุณ roseolar : ตอนนี้ยิ่งทำร้ายตัวเองก็ยิ่งจะเจ็บไม่ต่างกันเลยล่ะค่ะ ร้ายไปรินเจ็บตัวเองก็เจ็บด้วย (แต่ก็ยังจะทำ เฮ้ออออ...) เอาใจช่วยรินต่อไปด้วยนะคะ :)

คุณ anOO : ตอนนี้รู้คำตอบแล้ว คงต้องรอดูผลลัพธ์ค่ะว่าจะทำร้ายรินลดลงไหม - -?

คุณ หมูบูลิน : งี่เง่าสุดๆไปเลยล่ะค่ะ แต่อย่าเพิ่งทิ้งคุณดลไปไหนน้า...อยู่ด้วยกันก่อน :)

คุณ Auuuu : ตอนนี้ก็มานั่งเศร้าอกตรมแล้วล่ะค่ะ ;(

คุณ ดาวคันชั่ง : คุณดลรู้ตัวแล้วล่ะค่ะ แต่การตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดูท่าว่าจะสับสนและขัดแย้งในตัวเองสูงพอควรเลย...





ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2555, 10:05:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2555, 19:38:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1984





<< บทที่ 12   บทที่ 14 >>
ปรางขวัญ 21 เม.ย. 2555, 10:27:36 น.
คุณดลจะญาติดีกับรินเมื่อไหร่คะ แก้แค้นไปก็เจ็บปวดทั้งสองฝ่าย ทางที่ดีรีบง้อหนูรินดีกว่า ถ้าหนูรินปลงใจไปกับนนท์ แล้วจะเสียใจนะคะคุณดล ^^ ยกนี้แอบเชียร์คุณดลเพราะรู้ใจตัวเองนี่แหละ แต่อย่าทำให้หนูรินเสียใจนะ ไม่งั้นจะเชียร์นนท์แทน อิอิ


nunoi 21 เม.ย. 2555, 11:10:01 น.
ไม่ทันไรคุณดลก็เริ่มเจ็บซะแล้ว ยิ่งแก้แค้นก็ยิ่งเจ็บปวดกันทั้งคู่น๊า


ดาวคันชั่ง 21 เม.ย. 2555, 13:59:42 น.
ยิ่งรู้ความรู้สึกตัวเองแบบนี้ ก็ยิ่งเจ็บกว่าเดิม ใช่มั้ยคุณดล ><

ปล รอพี่อาร์มกับหนูมุกอยู่นะคะ ^^


anOO 21 เม.ย. 2555, 16:43:25 น.
ตอนนี้มันบีบหัวใจพอสมควรนะ นายดลเริ่มสับสนในตัวเองแล้วล่ะ
แต่รินนี่สิ จะทำยังต่อไปดี อย่าประชดนายดลโดยการหันไปคบนายนนท์ล่ะ


Auuuu 21 เม.ย. 2555, 19:02:02 น.
เศร้าจัง เฮ้ออออออออ


MYsister 21 เม.ย. 2555, 21:17:02 น.
ap song-sarn kun Don ah... T_T


เด็กหญิงม่อน 22 เม.ย. 2555, 07:23:52 น.
อ่านทีเดียว 13 ตอนรวดเลยค่ะ
อ่านตอนนี้แล้วสงสารคุณดลจัง


Amata 22 เม.ย. 2555, 20:12:35 น.
ดีแล้ว ที่รู้จักจะ ขอโทษ... จะได้โดนโกรธ โดนเกลียดน้อยลงๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account