ทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก (รีไรท์)
เป็นเรื่องเก่าที่เคยลงที่นี่แล้ว เมื่อ 3-4 ปีก่อนได้มั้งคะ ตอนนี้เราเอามารีไรท์ใหม่ เพราะต้องการส่งสำนักพิมพ์แบบจริงจัง เพราะตอนนี้เรียนจบแล้ว มีเวลาแล้ว ถ้าคนที่เคยอ่านแล้ว เราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ลงซ้ำซาก แต่ถ้าช่วยอ่านตอนรีไรท์ใหม่อีกครั้ง และลงคำติชมไว้ เพื่อแก้ไข้ก่อนส่งสำนักพิมพ์ เราก็ยินดีและขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยอ่าน ก็รบกวนลงคำติชมไว้เพื่อการปรับปรุงได้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เรื่องย่อ...

พนักงานสาวออฟฟิศที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ ปรากฏว่าชนชายคนหนึ่ง ล้มลงที่สถานีรถไฟฟ้า หล่อนโวยวายและทุบตีเขา แต่ที่ไหนได้ ปรากฏว่าเขานั่นแหละคือประธานบริษัทที่หล่อนจะไปสมัครงาน!!!
Tags: Romantic comedy

ตอน: ขอบคุณ

ตอนที่ 20

เมื่อความวุ่นวายผ่านพ้นไป พนักงานทุกคนก็เข้าประจำที่ของตนเอง บางคนที่เก็บสัมภาระแล้วก็รื้อออกมาจัดเข้าที่เดิม ต่างคนต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุขดังเดิม แต่ใครจะรู้...ว่าเบื้องหลังความสงบของวันนี้ต้องแลกมาด้วยความยุ่งเหยิงในชีวิตของฉันภายภาคหน้า

เลิกงานแล้วฉันอยู่ในห้องทำงานของคุณนรินทร์ เขากำลังจัดเอกสารให้เข้าที่ ส่วนฉันก็นั่งที่เก้าอี้รับแขกมองภาพทุ่งทิวลิปเพื่อผ่อนคลายอารมณ์...แล้วก็นึกถึงแจ๊กกี้ ต้องขอบคุณเขาที่ยกภาพนี้ให้ฉัน เมื่อฉันจัดการกับปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันสาบานว่าจะกลับไปหาเขาแน่นอน

“คุณสิดี” คุณนรินทร์เรียกขึ้น

“คะ?” ฉันจึงละสายตาจากภาพไปมองเขา

“คุณ....ชอบภาพนี้เหรอ”

“ค่ะ ชอบ”

“แล้วให้ผมทำไมล่ะ”

“ก็ให้วันเกิดท่านยังไงล่ะคะ”

“อ้อ...ขอบคุณนะ คุณได้รูปนี้มาจากไหนเหรอ” เขาถาม เหมือนอยากรู้

"เอ่อ คนรู้จักน่ะค่ะ" ฉันตอบสั้นๆด้วยไม่มีอารมณ์จะคุยอะไรมากนัก เขาจ้องภาพนั้นอีกสักพักแล้วเดินถือสูทพร้อมกระเป๋าเอกสารเข้ามาหาฉัน ทำหน้าลังเลเล็กน้อย

“คุณ...เอ่อ...พร้อมไหม”

ฉันถอนหายใจดังพรืด “ก็...ไม่มีทางเลือกแล้วนี่คะ”

“อืม เดี๋ยวผมจะพาคุณไปพบกับครอบครัวของผมที่บ้าน เพื่อเป็นการยืนยันแล้วพวกเขาจะได้ฉีกสัญญานั่นทิ้งเสียที ไปถึงให้คุณเรียกผมว่านรินทร์เฉยๆนะ” เขาตีหน้าเครียด

“เอ่อ...คุณนรินทร์คะ...ฉันกลัวว่าจะทำไม่ได้”

“ไม่ต้องห่วงเรียกบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินเอง”

“ไม่ใช่ค่ะ ที่จะต้องโกหกว่าเราแต่งงานกันไปตลอดน่ะสิคะ”

แล้วเขาก็ทำหน้าลำบากใจ “ผมก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะ”

นั่นสินะ...ใครอยากจะตกอยู่ในสภาพนี้กัน “เราไปกันเถอะค่ะนรินทร์” ฉันตัดบทแล้วทำท่าร่าเริง

“เอ่อ...แหม่งๆยังไงไม่รู้ ขอเรียกว่าคุณนรินทร์ไม่ได้เหรอคะ” ฉันถามแกล้งหัวเราะคิกคัก ทั้งที่ในใจมีแต่ความกังวล

“เรียกนรินทร์เฉยๆเถอะ แล้วคุณก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นร่าเริงหรอกนะ ทำตัวให้เป็นปกติดีกว่า”

อ่านะ...ช่างรู้ทันไปเสียหมด

แล้วเราก็เดินเคียงข้างกันออกจากออฟฟิศท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพนักงาน

“แต่ตอนที่ไม่ได้อยู่ต่อหน้าพ่อแม่คุณ ขอฉันเรียกว่าคุณนรินทร์ได้ไหมล่ะคะ เวลาทำงานจะได้สะดวกใจกว่า” ฉันถามเขาระหว่างทางไปบ้านของ ‘ว่าที่สามี’ ให้ตายสิ เกลียดคำนี้ชะมัด

“ตามใจคุณแล้วกัน แต่ผมจะเรียกคุณว่า สิดี ดีกว่านะ”

“ก็แล้วแต่คุณค่ะ เอ่อคุณนรินทร์คะ แต่คุณแม่คุณไม่ชอบฉันไม่ใช่หรือคะ”

เขาปลดเน็คไทให้หลวมที่คอ “คุณแม่ไม่มีทางเลือก”

เหอๆ...ฉันก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกันแหละน่า

“แล้วเรื่องของคุณแม่คุณเป็นอย่างไรบ้าง” เขาถามพร้อมทำท่าเป็นห่วงเป็นใย

“ก็...เหมือนเดิมค่ะ...เลวร้ายกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม่จะขายบ้าน” แล้วฉันก็สลด

เขาทำเสียงครางในลำคอ “พรุ่งนี้ผมจะส่งทนายไปหาแม่คุณที่สำนักพิมพ์ ผมจะดำเนินการให้ทุกอย่าง คุณไม่ต้องเป็นห่วง บอกคุณแม่คุณด้วยว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”

นี่ถ้าเขาทำโดยไม่มีผลประโยชน์อื่นทับซ้อนฉันคงมองเขาด้วยความซาบซึ้งและกระโดดเข้าไปสวมกอดเลยทีเดียว...จะเป็นโชคร้ายหรือโชคดีล่ะ ที่มันไม่ใช่

“ขอบคุณค่ะ” แล้วเราก็มาถึงบ้าน นราธร

บ้านของคุณนรินทร์เป็นบ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่โตจนเกินไป และไม่ได้ตกแต่งอย่างหรูหราจนดูฟุ่มเฟือย บริเวณรอบบ้านมีต้นไม้ใหญ่น้อยมากมาย มีสวนกล้วยไม้และสระว่ายน้ำหลังบ้าน ที่หน้าบ้านมีศาลาและสระเลี้ยงปลาขนาดย่อมไว้นั่งพักผ่อน ดูร่มรื่นน่าอยู่เป็นที่สุด

ฉันเดินตัวหดอยู่หลังคุณนรินทร์ จนเขาชักรำคาญเลยปลอบฉันว่าไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรผิด และฉันควรจะมาเดินข้างๆเขาไม่ใช่เดินตามก้นเขา

ฉันถอดรองเท้าไว้หน้าบ้าน เดินเคียงคู่คุณนรินทร์เข้าไปในห้องรับแขก

“คุณแม่ล่ะครับป้าเนียร” เขาคุยกับแม่บ้านวัยกลางคนอย่างสุภาพ

ป้าเนียร มองฉันแว่บหนึ่งอย่างสงสัย ฉันเลยยกมือไหว้ หล่อนเลยยิ้มให้แล้วรับไหว้ตอบ ก่อนจะหันไปหาให้คุณนรินทร์ด้วยดวงตาเปี่ยมไปด้วยความรักความเอ็นดู

“เดี๋ยวก็ลงมาค่ะ คุณหนูพาใครมาคะ” แล้วหล่อนก็ชะเง้อชะแง้มองฉันอีกที

“เอ่อ...” คุณนรินทร์ลังเล แล้วกระซิบบอกป้าเนียรเบาๆ

“แฟน...แฟนผมน่ะครับ” เขาพูดตะกุกตะกัก แต่กระนั้นก็ทำให้ป้าเนียรเอามือป้องปากด้วยความตกใจ ก่อนจะฉีกยิ้มให้ฉันแล้วเข้ามาจับเนื้อจับตัวฉันพูดคุยใหญ่

อย่าว่าแต่ป้าเนียรจะตกใจเล้ย ฉันได้ยินคำนี้จากปากเขาก็แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี โถ่สวรรค์ เป็นเจ้านายลูกน้องกันอยู่ดีดีไม่ชอบ ทำไมชะตาเล่นตลกให้พวกเราต้องมาทำอะไรบ้าบอก็ไม่รู้

“อู๊ย.....แม่คุณ น่ารักน่าเอ็นดูเสียจริง รู้ไหมคะว่าตั้งแต่เลี้ยงดูคุณรินมา ป้ายังไม่เคยเห็นคุณหนูพาสาวคนไหนมาบ้านเลย อ้อ..ก็มีอยู่คนหนึ่ง แต่นั่นหล่อนบุกมาหาเอง แหมคุณรินทร์นี่ตาถึงนะคะ หนูคนนี้ดูเรียบร้อยน่ารักไม่เหมือนคนก่อนเลยจริงๆ นั่งก่อนนะคะ เดี่ยวป้าไปหาน้ำหาขนมมาให้ทาน” แล้วป้าเนียรก็เดินตัวปลิวไปหลังบ้าน

ฉันหันไปมองคุณนรินทร์ด้วยความลำบากใจ แต่ก็รู้สึกว่าเขาอายเล็กน้อยเมื่อป้าเนียรบอกเขาว่า ‘แฟนคุณรินน่ารักดีค่ะป้าชอบ’

คุณนรินทร์หันมามองฉันด้วยท่าทีเขินๆ “เอ่อ...ป้าจำเนียรน่ะ เลี้ยงผมกับน้องมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าแม่บ้านแล้ว คุณสิดี ถ้าป้าเขาชอบคุณ ก็ถือว่าปลอดภัยไปเปลาะหนึ่งแล้วนะ”

ฉันหัวเราะแห้งๆ “แหะๆ ก็ดีค่ะ เธอบอกว่าฉันน่ารักด้วยนะคะ”

“เอาเถอะๆ เดี๋ยวผมเอาของขึ้นไปเก็บก่อน คุณรออยู่นี่สักครู่นะ”

คุณนรินทร์หายไปไม่ถึงนาที ป้าเนียรก็เอาน้ำเก๊กฮวยและขนมไทยๆมาเสิร์ฟฉันเพียบ แล้วแนะนำคะยั้นคะยอให้ฉันกินใหญ่

“อร่อยดีนะคะ คุณป้าทำเองเหรอทั้งหมดเลยเหรอคะ” ฉันพูดทั้งๆที่ขนมต้มอยู่เต็มปาก แต่ดูท่าป้าเนียรจะไม่ถือ

“ก็ช่วยๆกันทำกับพวกในครัวแหละค่ะคุณ คุณชื่ออะไรคะ ป้าจะได้เรียกถูก แล้วนี่คบกับคุณรินของป้ามานานแล้วเหรอคะ คุณรินถึงยอมพามาที่บ้านอย่างนี้”

ไม่รู้จะตอบอะไรก่อนเลยแฮะ “ชื่อทรัพย์สิดีค่ะ เรียกหนูสั้นๆว่าสิดีก็ได้นะคะ ส่วนเรื่องนั้น....เอ่อ...เอ่อ”

“เนียร ไปดูพวกในครัวทำอาหารเถอะ” เสียงคุณราชาวดีเดินลงบันไดมาพร้อมกับลูกชาย

“ค่าคุณใหญ่ ป้าไปก่อนนะคะ ทานให้อร่อยล่ะ” แล้วป้าเนียรก็จากไปอีกครั้ง

ฉันรีบกลืนขนมพวกนั้นลงท้องไปให้หมด แล้วจัดท่านั่งให้เรียบร้อยที่สุด พอคุณนรินทร์พาคุณราชาวดีเข้ามานั่งฉันก็รีบยกมือไหว้อย่างสวยงาม

ตอนแรกฉันคิดว่าหล่อนคงจะทำท่าหยิ่งผยองไม่รับไหว้ แล้วเชิดหน้ามองไปเสียทางอื่น แต่ก็เปล่า คุณราชาวดีรับไหว้ฉันอย่างอ่อนช้อยและสายตาจับจ้องฉันเขม็ง ถึงจะเป็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรเท่าไร แต่ก็ดีกว่าไม่มองเลย

“คุณแม่ครับนี่...ทรัพย์สิดี...แฟนผมฮะ...”

เงียบ...ไม่มีใครพูดอะไรทั้งสิ้น คุณราชาวดีจ้องฉัน ฉันก็ยิ้มน่ารักๆให้ แล้วเหลือบมองคุณนรินทร์ที่ทำท่าอึดอัดใจ

“แม่จำได้ เลขาหน้าห้องลูกใช่ไหม” คราวนี้ละสายตาจากฉันไปคุยกับลูกชายแทน

“ครับ ใช่ครับ” เขาตอบหน้าซีดเผือด

“คบกันมานานหรือยัง” เธอถามเสียงแข็ง คราวนี้มองหน้าฉัน

“เอ่อ 6 เดือน…”

“ปีนึงครับ”

ฉันกับคุณนรินทร์แย่งกันพูด ทำเอาคุณราชาวดีเลิกคิ้วงงๆ

“ตกลง 6 เดือน หรือ 1 ปี” แล้วจ้องฉันเค้นคำตอบ

“เอ่อ...1 ปีค่ะ เราคบกันก่อนที่หนูจะมาเป็นเลขาน่ะค่ะ” แล้วฉันก็สบตาคุณนรินทร์ที่เหงื่อแตกพลั่ก

“เรื่องแค่นี้ยังจำผิด...ฮึ....ลูกแน่ใจนะนรินทร์ที่จะแต่งกับ แม่คนนี้ “

“ครับคุณแม่ เรา...” เขามองฉันแว่บหนึ่ง “เรา รัก กันมากครับ”

ฉันกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แล้วคุณราชาวดีก็มองฉันอีก ฉันเลยปั้นหน้าระรื่น “ค่ะเรา รัก กันมาก”

“แล้วก่อนหน้านี้ที่แม่นัดบอดให้บ่อยๆ ทำไมไม่บอกแม่”

“ก็...” คุณนรินทร์เลิ่กลั่ก “ผมไม่อยากขัดใจคุณแม่น่ะสิครับ แล้วตอนนั้นผมก็ยังไม่มั่นใจในความรักของเราเท่าไร แต่ตอนนี้เราสองคนก็...”

“เอาละๆ เดี๋ยวแม่จะไปช่วยพวกในครัวเขาหน่อย ลูกก็พา แม่คนนี้ ไปเดินเล่นก่อนแล้วกัน 6โมงเย็นค่อยมาทานอาหารเย็น คุณพ่อจะกลับมาจากเล่นกอล์ฟพร้อมคุณจิทัศน์แล้วจะมาทานข้าวด้วย เราจะได้บอกเลิกสัญญาเสียที”

แล้วคุณราชาวดีก็จากไป ปล่อยให้เราสองคนนั่งอึ้งกิมกี่ในห้องรับแขกลำพัง

“ทำไมต้อง 1 ปี คะ” ฉันถาม

คุณนรินทร์ยกมือปาดเหงื่อ “มันจะได้ดูไม่สั้นเกินไป แต่ก็ไม่นานจนจับผิดได้”

แล้วเขาก็ยิ้มให้ฉัน...ยิ้มนี้ช่าง....ดูไม่เหมือนยิ้มอื่นๆของเขาเลย...ยิ้มนี้มัน....มันอะไรกัน

“คุณผ่านแล้วล่ะสิดี” ดูเขาจะโล่งอกและดีใจเหลือเกิน จะบอกให้นะ ความจริงฉันภาวนาให้คุณราชาวดีเกลียดฉันด้วยซ้ำ เผื่อเราจะได้ไม่ต้องหลอกลวงใครอีกต่อไป

“คุณนรินทร์คะ นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย” ฉันเตือนสติเขา

แล้วเขาก็ทำท่าตกใจ ลุกขึ้นมาจูงมือฉันให้ไปเดินเล่นด้วยกัน

“คุณอย่าดังไป เราต้องทำให้เหมือนจริงที่สุดต่างหาก”


คุณนรินทร์พาฉันเดินชมทั่วบ้านอย่างสบายอารมณ์ แต่สำหรับฉันมันกลับตรงกันข้าม นั่นก็เพราะพวกคนรับใช้ของบ้านเขาน่ะซิแอบดูพวกเราแล้วก็ซุบซิบกันอยู่ได้

“คุณบอกคุณแม่คุณหรือยัง เรื่องนี้น่ะ” เขาถามขณะพาฉันไปดูสระว่ายน้ำ

“ยังค่ะ ก็ฉันพึ่งตัดสินใจวันนี้เอง แต่คุณนรินทร์คะ หวังว่าเราคงไม่ต้องจัดงานแต่งหลอกๆให้ใหญ่โตนักนะคะ” ฉันกังวลกับเรื่องนี้จริงๆ

เขาทำหน้าครุ่นคิด “ไม่ต้องหรอก แต่คุณแม่จะยอมหรือเปล่าเท่านั้น”

ฉันถอนหายใจ “นั่นสิคะ แต่ฉันว่าคุณแม่คุณดูไม่ชอบฉันเท่าไรหรอก ท่านคงไม่คิดจะจัดงานให้วุ่นวาย”

“ใครบอก...คุณแม่ผมน่ะ ถ้าไม่ชอบใคร จะไม่ยอมให้ผมเข้าไปยุ่งด้วยหรอก ไม่ต้องห่วง เราก็แค่เล่นให้สมบทบาทก็พอ”

“เหอๆ ถ้าฉันมีดีกรีระดับนางเอกช่อง 7 ก็ดีสินะคะ” แล้วฉันก็หัวเราะเบาๆ

เขาทำหน้าล้อเลียน “คงยากนะ คุณคงต้องไปทำศัลยกรรมอีกเยอะ”

เฮ้ย....เกินไปแล้วพี่น้อง “แหม...นั่นสิคะ คุณก็น่าจะผ่าตัดเอาต่อมขี้โมโหออกด้วย คนอะไร ขวางชะมัด” ประโยคหลังนี่ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ

“นี่คุณที่ผมขี้โมโห ก็เพราะคุณชอบทำอะไรผิดแปลกไปจากคนธรรมดาน่ะแหละ ใครกันแน่ที่ขวาง หา!” เขาโวยวายใส่ฉัน แล้วอยู่ดีดีคนรับใช้ก็วิ่งเข้ามาบอกว่า ถึงเวลาทานอาหารเย็นแล้ว เขาเลยรีบเปลี่ยนสีหน้าให้ยิ้มแย้ม แล้วโอบไหล่ฉัน ทำท่ารักใคร่นักหนา

ฉันที่ไม่เคยโดนผู้ชายแตะต้องเนื้อตัวบ่อยนัก บวกกับอยากแก้แค้นเขาเมื่อกี้ เลยเหยียบเท้าเขาเต็มแรง

“โอ๊ย!...เอ่อ ที่รักจ๊ะไปทานข้าวกันเถอะ” เขาร้อง แต่ก็รีบเสแสร้งต่อหน้าคนรับใช้ แถมบีบไหล่ฉันแรงขึ้นเป็นการแก้แค้น

“ค่ะที่รัก!” ฉันก็กัดฟันพูด แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะแขนถูกล็อคไว้ด้านหน้า แล้วเราสองคนก็เดินแสดงเป็นข้าวใหม่ปลามัน ผ่านสาวรับใช้ไป พอพ้นสายตาฉันก็พยายามดิ้นออกจากเขาให้หลุด

“โอ๊ย! ปล่อยนะ!” ฉันสะบัดตัวออกมาได้

“ฉันว่าเราควรทำสัญญาตกลงกันเป็นการส่วนตัวดีกว่านะคะ เช่น ห้ามแตะต้องตัวกัน ยกเว้นมีเหตุจำเป็นสุดๆ”

เขาทำหน้าท้าทาย “เมื่อกี้ก็เป็นเหตุจำเป็นสุดๆไงล่ะ ฮึ เลิกเถียงแล้วทำตัวดีดีไปแสดงละครต่อดีกว่านะ”

ฮึ้ย! เปลืองตัวจริง นี่พวกนักแสดงสาวตามทีวียอมไปได้ไงน่ะ ให้ผู้ชายมาถูกเนื้อต้องตัวแบบนี้ เขามีกฎหมายคุ้มครองดาราพวกนั้นบ้างหรือเปล่านะ อ้อแล้วก็จะดีมาก ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกกฎหมายคุ้มครองผู้หญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานหลอกๆด้วยน่ะนะ

แล้วคุณนรินทร์กับฉันก็เดินเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหาร ที่นั่น คุณนรินทร์ senior คุณราชาวดี และคุณจิทัศน์ นั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตา คุณจิทัศน์มองฉันกับคุณนรินทร์ด้วยความตะลึง และสงสัยเป็นที่สุด

ฉันยกมือไหว้คุณพ่อคุณนรินทร์และคุณจิทัศน์ แล้วคุณนรินทร์ก็เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่ง ก่อนที่เขาจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างฉัน

เอ่อ...คุณพ่อครับ นี่แฟนผมครับ ทรัพย์สิดี” เขาแนะนำตัวฉันเรียบๆ

คุณจิทัศน์แสดงความอึ้งอย่างเห็นได้ชัด “ผมพึ่งทราบว่าคุณทั้งสองคบกัน” เขาพูด

แล้วคุณนรินทร์ก็โอบไหล่ฉันอีกรอบ โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ขยะแขยงชะมัด เขาโค-ตะระฉวยโอกาสเลย

แน่ละ มันเป็นเรื่องของเราสองคน นายจะไปรับรู้ได้อย่างไร” เขาพูดท้าทาย....เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้เลยนะนี่ ทำเอาคุณจิทัศน์หน้าเจื่อน

แล้วสาวใช้ก็เริ่มตักข้าวเสิร์ฟ มีป้าเนียรคอยสั่งนู่นสั่งนี่

“หนูทรัพย์สิดีนี่เป็นเลขาของตารินใช่ไหม ถ้าพ่อจำไม่ผิด เราเคยเจอกันแล้วที่งานวันเกิดของตารินนี่” คุณนรินทร์ผู้พ่อพูดกับฉันด้วยใบหน้าเป็นมิตร ผิดกับผู้เป็นแม่ที่เอาแต่ส่งสายตาดุดุมาให้ฉัน แล้วก็ไม่คุยกับฉันเลย

“ค่ะใช่ ค่ะ ท่านสบายดีนะคะ” ฉันพูดหน้ายิ้มแย้ม

“ก็เรื่อยๆแหละหนู แล้วนี่คบกันมานานหรือยัง” เขาถาม

ฉันอ้าปากจะตอบ แต่คุณนรินทร์ซึ่งยังคงโอบไหล่ฉันด้วยความรักจอมปลอมสุดแสนจะน่ารังเกียจและลามกจกเปรตที่สุด ก็ไร้มารยาทพูดแทรกขึ้นมา

“ปีนึงครับ เรารักกันมากครับคุณพ่อ”

ทั้งคุณนรินทร์ผู้พ่อและคุณจิทัศน์ มองเราทั้งสองตาเป็นมัน ฉันสังเกตเห็นผู้เป็นแม่ เหลือบมองด้วยความไม่พอใจนิดหนึ่ง ก็อีตาบ้าทำเวอร์โอบไหล่ฉันไม่ยอมปล่อย ฉันรู้หรอก ถ้าไม่มีคุณจิทัศน์เขาคงไม่ทำแบบนี้ แต่นี่เขาจะหลอกให้คุณจิทัศน์ตายใจไงล่ะ

“เอ่อนรินทร์คะ ปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ ฉันทานข้าวไม่ถนัดน่ะค่ะ” ฉันแกล้งพูดอ่อนหวานกับเขา แต่เขากลับถลึงตาใส่ ฉันเลยถลึงตาใส่กลับบ้าง ในที่สุดเขาจึงยอมปล่อยมือออกจากไหล่ฉัน

แล้วคุณนรินทร์ผู้พ่อก็หัวเราะชอบใจ “รักกันก็ดีแล้ว ฮ่ะๆ แม่ ท่าทางเราจะเจอลูกสะใภ้ที่เอาตานรินทร์อยู่แล้วล่ะ หึหึ จริงไหม พ่อทัศน์ สัญญาที่เราตกลงกันไว้คงต้องยกเลิกล่ะนะ คงไม่โกรธลุงใช่ไหม”

คุณจิทัศน์อึกอัก “ครับคุณลุง ผมไม่คิดอะไรหรอกครับ” แล้วเขาก็หันมามองเราสองคนด้วยความสงสัยต่อไป

เรื่องราวบนโต๊ะอาหารก็เป็นไปด้วยดี ส่วนมากคุณพ่อคุณนรินทร์จะเป็นฝ่ายเริ่มคุยถามฉันเรื่องนู้นเรื่องนี้ ฉันก็ตอบไปตามธรรมดา แต่ดูจะกลายเป็นเรื่องตลกเสียมากมาย คุณแม่คุณนรินทร์นั้นคอยพูดถากถางเล็กๆน้อยๆ ฉันก็พอยอมรับได้ เพราหล่อนคงหวงลูกชายเสียเหลือเกิน ส่วนคุณจิทัศน์ก็คอยถามจับผิดพวกเรา แต่คุณนรินทร์ก็ตอบไขข้อข้องใจไปได้หลายข้อ

ระหว่างนั้นคุณนรินทร์ก็คอยตักกับข้าวใส่จานฉัน จนพูนจานไปหมด ฉันเลยเคี้ยวตุ้ยๆ บอกกับเขาเบาๆว่า “พอได้แล้วคุณนรินทร์” แต่เขาก็ยังคงตักต่อไปไม่ลดละ ปากก็พูดปาวๆว่า “ท่านนี่สิที่รัก อร่อยมากนะ”

นี่เขาจะปัญญาอ่อนไปถึงหนายยยยยยยยยยย ฉันเลยแก้แค้นตักใส่จานเขาบ้าง

“คุณชอบนี่เหรอคะ เดี๋ยวฉันตักให้ค่ะ นี่ๆๆๆๆๆๆ กินเยอะๆๆๆๆๆ จะได้แข็งแรง”

แล้วสงครามตักข้าวย่อมๆก็เกิดขึ้น คุณพ่อคุณนรินทร์หัวเราะในพฤติกรรมของเราทั้งสองคนแล้วชมว่าน่าเอ็นดู ถึงแม้คุณแม่คุณนรินทร์จะดูไม่พอใจ และคุณจิทัศน์ยังจ้องจับผิดเราสองคนต่อไปก็ตาม

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ฉันและคุณนรินทร์เดินมาส่งคุณจิทัศน์ที่รถ เขาจับผิดเราเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะบอกว่า “ผมแปลกใจที่คุณสองคนคบกัน แต่อย่างไรก็ ยินดีด้วยนะครับ” แล้วเขาก็ขับรถออกไป

“ฮึ...ยินดีด้วย คราวที่แล้วก็พูดแบบนี้” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ฉันกลับได้ยิน

แล้วเขาก็ขับรถพาฉันมาส่งที่บ้าน พร้อมเข้าไปแนะนำตัวกับแม่ของฉัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แม่มาก ก่อนจะน้ำตาซึมขอบคุณคุณนรินทร์ไม่หยุดทั้งเรื่องที่ดึงฉันลงมาจากคาน...ฮึ....และเรื่องที่คุณนรินทร์จะจ้างทนายความและออกค่าเรื่องทั้งหมดให้

ฉันเดินออกมาส่งคุณนรินทร์ที่หน้าบ้าน คืนนี้อากาศเย็นเล็กน้อยต่างกับอากาศตอนกลางวันลิบลับ สายลมอ่อนๆพัดโชย ละแวกนั้นเงียบสงัดไร้ผู้คน ฉันสัมผัสได้ถึงความสบายใจที่แม่ได้รับ และความโล่งใจของฉันที่ไม่ต้องขายบ้าน ถึงแม้ต่อจากนี้ไป เรื่องราวระหว่างฉันกับคุณนรินทร์ฉบับจอมปลอมจะเริ่มต้นขึ้น แต่เราจะนึกถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นทำไม ยึดปัจจุบันนี้ให้สบายใจไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือ

“เอ่อ...ขอบคุณนะคุณสิดี” อยู่ดีดีเขาก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“คะ?”

“ขอบคุณที่ยอมตัดสินใจแบบนี้ ถึงแม้จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมขอบคุณมาก ถึงเราจะหลอกลวงคนอื่น และไม่ได้รักกันจริงๆ แต่รู้ไหม ผมดีใจที่เลือกคุณ เพราะผมรู้ว่าเราน่ะเข้ากันได้”

ฉันสมองตื้อไปหมด นึกหาเหตุผลไม่ค่อยออกว่าทำไมถึงเห็นด้วยกับคำที่ว่าเราเข้ากันได้ ทั้งๆที่เราก็ทะเลาะกันบ่อย และเพราะอะไรก็นึกไม่ออกอีกเช่นกัน ว่าฉันรู้สึกซาบซึ้งที่เขาช่วยหาทนายและออกค่าอะไรต่างๆให้มากมาย ทั้งๆที่ตัวเขาก็มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับฉัน แต่ค่ำคืนนี้ที่ทุกอย่างดูเข้าร่องเข้ารอยแล้วฉันเลยไม่อยากทำลาย ฉันยิ้ม ดวงตาฉายแววประหลาดที่รู้สึกได้ถึงความสุข

“ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณนรินทร์”




ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 เม.ย. 2555, 13:32:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 เม.ย. 2555, 13:32:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1837





<< ตัดสินใจ   นินทา >>
goldensun 21 เม.ย. 2555, 15:00:12 น.
โอบบ่าลามกตรงไหนจ๊ะ หนูสิดี รู้สึกว่า สิดีจะไม่ค่อยปิ๊งคุณนรินทร์เลยนะคะ มาตอนท้ายค่อยมีแววหน่อย จิทัศน์จะเข้ามาแทรกรึเปล่า


ling 21 เม.ย. 2555, 16:15:46 น.
ตลกได้ทุกตอนเลยค่ะ


ลายเส้น 21 เม.ย. 2555, 17:00:28 น.


pattisa 21 เม.ย. 2555, 21:29:14 น.
ตกลงสองคนนี้ชอบกันป่ะเนี่ย


agentaja 22 เม.ย. 2555, 00:25:15 น.
สิดี เธอรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าเค้าเหมือนจะสารภาพรักเธอกลายๆ นะยะ


จิงโกะ 22 เม.ย. 2555, 08:02:23 น.
แหม ว่าที่ แม่สามี กะ ว่าที่ ลูกสะใภ้ เขาจะพูดจากันตอนไหน หรือจะหยั่งเชิงกันไปตลอด


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account