ทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก (รีไรท์)
เป็นเรื่องเก่าที่เคยลงที่นี่แล้ว เมื่อ 3-4 ปีก่อนได้มั้งคะ ตอนนี้เราเอามารีไรท์ใหม่ เพราะต้องการส่งสำนักพิมพ์แบบจริงจัง เพราะตอนนี้เรียนจบแล้ว มีเวลาแล้ว ถ้าคนที่เคยอ่านแล้ว เราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ลงซ้ำซาก แต่ถ้าช่วยอ่านตอนรีไรท์ใหม่อีกครั้ง และลงคำติชมไว้ เพื่อแก้ไข้ก่อนส่งสำนักพิมพ์ เราก็ยินดีและขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับใครที่ไม่เคยอ่าน ก็รบกวนลงคำติชมไว้เพื่อการปรับปรุงได้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

เรื่องย่อ...

พนักงานสาวออฟฟิศที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งานใหม่ ปรากฏว่าชนชายคนหนึ่ง ล้มลงที่สถานีรถไฟฟ้า หล่อนโวยวายและทุบตีเขา แต่ที่ไหนได้ ปรากฏว่าเขานั่นแหละคือประธานบริษัทที่หล่อนจะไปสมัครงาน!!!
Tags: Romantic comedy

ตอน: นินทา

ตอนที่ 21

ฉันมาลองคิดดูแล้ว เรื่องรักหลอกๆของฉันกับคุณนรินทร์น่าจะเก็บเป็นความลับไว้ก่อนนะ แล้วเรื่องการแต่งงานของเราสองคนก็ยังไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วเราสองคนคงทำตัวกันยากลำบาก อีกทั้งแทนที่จะเป็นการหลอกแค่ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย...อ้อ คุณจิทัศน์ด้วย เรากลับต้องมาหลอกคนทั้งบริษัท แล้วใครจะรู้...เขาต้องออกงานสังคมบ่อย เราสองคนอาจจะต้องหลอกคนทั้งประเทศเลยก็เป็นได้

หา?????!!!!! คนทั้งประเทศเลยหรือ? ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ ไม่นะ

ไม่น้า!!!!!!!!!!!!!!

“คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” พ่อยามร่างมหึมาหน้าบริษัททักฉันขึ้นอย่างเป็นห่วงเป็นใย หลังจากเห็นฉันทำหน้าเหมือนคนเสียสติอยู่แถวนั้น

“อะ...ไม่เป็นอะไรค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นคน” โถ่เอ๊ย! ฉันต้องรีบไปบอกคุณนรินทร์แล้วล่ะว่าควรเก็บเรื่องของเราสองคนไว้ก่อน ถึงแม้ตอนนี้พนักงานส่วนมากคิดว่าฉันกับคุณนรินทร์คบกัน แต่เราก็ปฏิเสธไปก่อนก็ได้นี่นา

คิดได้ดังนั้นฉันเลยรีบวิ่งไปดักรอเขาที่ลานจอดรถประจำตำแหน่ง อีก 10 นาทีเขาคงจะมาถึงแล้ว ฉันแอบรอเขาอยู่ที่พุ่มไม้แถวลานจอดรถ ฉันไม่อยากให้ใครเห็นน่ะเดี๋ยวคิดว่าฉันกับคุณนรินทร์ต้องมีอะไรกันแน่ๆ

โอ๊ย! นี่มันผ่านไป 15 นาทีแล้วนะ ทำไมเขายังไม่มาอีกล่ะ แมลงอะไรก็ไม่รู้กัดฉันเต็มไปหมด ทั้งเจ็บทั้งคันชะมัด แล้วฉันมาทำบ้าอะไรอยู่ที่พุ่มไม้เนี่ย ฉันเสียสติไปแล้วเหรอ และก็ดูจะเป็นจริงเช่นนั้น เนื่องจากมีพนักงานคนหนึ่งพึ่งขับรถเข้ามาจอด พอเจ้าหล่อนเปิดประตูรถลงมา ก็จ๊ะเอ๋กับฉันที่มีเศษใบไม้ทั่วตัว กำลังตบซ้ายตบขวาไล่แมลงให้วุ่น

“คุณ....คุณทรัพย์สิดี เลขาท่านประธานใช่ไหมคะ” หล่อนถามฉันด้วยความประหลาดใจ

ฉันหันไปมองหล่อนด้วยความตะลึงเช่นกัน ก็ไม่คิดว่าเธอจะเห็นฉันนี่นา ตายๆ ฉันถูกเผาทั่วทั้งบริษัทแน่ๆ

“เอ่อ...คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” หล่อนถามฉันอีก

ฉันก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วรีบโกหกลมๆแล้งๆไปว่า “เปล่าค่ะ...ใบไม้แถวนี้สวยดีนะคะ” แต่แล้วฉันก็นึกอะไรออก

“คุณคะ วันนี้วันอะไรคะ” ฉันถามออกไป

หล่อนงง “วันพุธค่ะ”

“หา? อะไรนะคะ วันพุธ! โอ๊ย! แล้วฉันมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย! เอ่อ...ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบก็กระโดดออกจากพุ่มไม้แล้วติดเกียร์เบอร์แรงสุดที่เท้าวิ่งจ้ำอ้าวขึ้นลิฟท์ไปชั้น 15

ก็ถ้านี่เป็นวันพุธแสดงว่าคุณนรินทร์ก็ไม่ได้ขับรถมาทำงานน่ะซิเขานั่งบีทีเอสมาทำงาน!!!!

ฉันวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากลิฟท์แล้วเดินดิ่งไปที่หน้าประตูห้องทำงานของคุณนรินทร์ พนักงานแถวนั้นซุบซิบกันอีกแล้ว คราวนี้คงเป็นเพราะเศษใบไม้ทั่วตัวฉันเป็นแน่แท้

แล้วฉันก็เคาะประตู “เข้ามาได้” เสียงเขาดุเชียว

ฉันจึงเปิดประตูเข้าไป

“คุณนรินทร์คะ.....” ฉันเตรียมพูดเต็มที่ แต่เขา....

“สิดี!!! คุณไปไหนมา ทำไมวันนี้มาทำงานสาย บอกเหตุผลผมมาซิ แล้วนี่คุณเป็นอะไร ไปล้มลุกคลุกคลานที่ไหนมาล่ะ ตัวมอมแมมเชียว”

อ้าว...ที่ฉันมาสายก็เพราะ...โถ่เอ๊ย! คงพูดไม่ได้สินะ ไม่อย่างนั้นคงโดนหัวเราะใส่แทบแย่

“คือฉันมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วยน่ะค่ะ” แล้วฉันก็ดึงเศษใบไม้ออกทีละใบ

“เรื่องอะไร เรื่องที่คุณมาสายน่ะหรือ” แล้วเขาก็พลิกเอกสารทำงานต่อ

“ไม่ใช่ค่ะ” ฉันเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หน้าเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้เชิญก็เถอะ

“คือ...คุณนรินทร์คะ เรื่องหลอกๆของเราสองคน ควรจะเก็บเป็นความลับไว้ดีกว่านะคะ อีกอย่างตอนนี้เรายังไม่ควรแต่งงานกัน หลอกพ่อแม่คุณก่อนก็ได้ว่าเราหมั้นกันแล้ว แค่หมั้นเฉยๆก่อนดีกว่านะคะ ฉันไม่อยากโกหกคนทั้งประเทศน่ะค่ะ”

เขาไม่สะทกสะท้านยังคงเซ็นงานต่อไป

“เอ่อ...คุณนรินทร์คะ....” ฉันเรียกเขาอีกที

“เสียใจด้วยสิดี เรื่องของเราสองคนถึงปฏิเสธไปก็เท่านั้น คนเขารู้กันทั้งบริษัทแล้ว คุณทับทิมเป็นคนป่าวประกาศน่ะ ผมว่าก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องแต่งงาน ถ้าคุณลำบากใจ บอกว่าเราแค่หมั้นกันก่อนก็ได้ ผมตกลง”

“ระ...รู้กันทั้งบริษัทแล้วหรือคะ! คุณนรินทร์คะ งั้นเราก็ต้องหลอกคนทั้งบริษัทเลยหรือคะ ฉันก็ถอนตัวจากงานนี้ยากสิคะคุณ โถ่...ยัยทับทิมตัวแสบเอ๊ย!” ฉันบ่น

“คุณคิดว่าผมอยากทำหรือ แต่เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ผมทำอย่างไรล่ะ นี่รู้ไหมป้าเนียรน่ะ ไปหาฤกษ์หายามให้เราสองคนเรียบร้อยแล้ว คุณกับผมต้องหมั้นกันเดือนหน้า”

ฉันเข่าแทบอ่อน “เดือนหน้า!!!!”

“สิดี เราค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่า คุณกลับไปทำงานก่อนเถอะ อ้อ เดี๋ยวกลางวันนี้ไปทานข้าวกับผมนะ”

เขาเสียสติไปแล้วเหรอ ทำไมพูดถึงเรื่องหมั้นได้หน้าตาเฉยแบบนี้ เขาไม่สะทกสะท้านอะไรเลยนะ อ๋อใช่ซี่...เขาเป็นผู้ชายนี่นาจะเสียหายอะไร บ้าที่สุด!!!

ฉันกลับมานั่งประจำที่ เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเริ่มพิมพ์งานที่ค้างไว้ โชคดีที่วันนี้ไม่มีโทรศัพท์กวนประสาทเลยสักรายเดียว เอ...ชีวิตมันจะสงบสุขเกินไปหรือเปล่านะ หรือว่าฉันควรจะเป็นคนโทรไปกวนประสาทเอง จะเริ่มต้นที่ใครดีล่ะ...คุณแม่คุณนรินทร์ดีไหมเอ่ย...หล่อนจะได้เกลียดฉันแล้วสั่งให้เลิกคบกันไปเลย

นี่น่ะหรือแฟนคุณนรินทร์ เป็นแค่เลขาหน้าห้องเนี่ยนะ”

“นั่นสิเธอ สงสัยอ่อยท่านประธานจนได้เรื่อง น่าเกลียดที่สุด”

“นั่นสิ แถมสวยสู้คุณถวิกาไม่ได้สักนิดเดียว”

เสียงพนักงานสาวที่เดินผ่านหน้าโต๊ะทำงานฉัน พูดนินทาฉันโดยที่ไม่คิดว่าฉันจะได้ยิน แต่เสียใจ...ฉันได้ยิน! แค่แกล้งก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานไปเท่านั้นแหละ เฮ้! พวกหล่อน แน่จริงพูดกันตัวๆเลยดีกว่า นี่! แล้วคิดเหรอว่าฉันอยากตกอยู่ในสภาพนี้ตายล่ะ คุณนรินทร์ของพวกเธอ อย่างกับน่าอ่อยให้ตายแล้ว ฮี่เธ่อ...อ๋อใช่สินะ ลืมไปว่าคุณนรินทร์เขาเป็นที่กรี๊ดในหมู่สาวๆที่บริษัท โถ่เว้ย...อย่างน้อยฉันก็ไม่เคยไปเข้าร่วมวงแฟนคลับอย่างพวกเธอหรอกนะยะ นั่นสิ...ใครบอกว่าชีวิตสงบสุขมีจริง ถึงไม่มีโทรศัพท์โรคจิต แต่มีพวกโรคจิตชอบนินทาแทน

“เอ่อ...สิดี เป็นอะไรหรือเปล่า” นลินเดินมาถามฉันที่ทำหน้ามุ่ยแล้วขมุบขมิบปากบ่นกับตัวเอง

วันนี้มันวันอะไร มีแต่คนถามฉันว่าเป็นอะไรหรือเปล่า...พวกคุณนั่นแหละที่ ‘เป็นอะไรหรือเปล่า’ มีแต่คนทำให้ฉันเป็นบ้าทั้งนั้น...กลียดโลกนี้จริงๆ

“เปล่าค่ะ นลินเอาเอกสารมาส่งคุณนรินทร์เหรอ” แต่ฉันก็รีบทำสีหน้าให้ปกติ

นลินทำหน้าล้อ “แหม เดี๋ยวนี้เรียกสนิทสนมนะ ใช่จ้ะ ไปก่อนนะ”

เหอๆ...หล่อนก็เอากับเขาด้วยหรือ

ฉันจะบอกความจริงกับนลินดีไหมนี่...อย่าดีกว่า มีแค่ฉันกับคุณนรินทร์ก็เกินพอแล้ว...เอ...ที่จริงหนุเล็กก็รู้ด้วยนี่นา ไม่ได้การละ!!! ฉันต้องรีบไปบอกเธอให้หุบปาก!!!

ใกล้ถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ฉันเกิดปวดชิ้งฉ่องเลยรีบไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่กำลังปลดทุกข์อันแสนสาหัสนั้น ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันในห้องน้ำอย่างเมามัน

“ยัยทรัพย์สิดีเปิ่นๆคนนั้นน่ะหรือคุณทับทิมที่เป็นแฟนคนใหม่ของคุณนรินทร์ ต๊าย สู้คุณถวิกาไม่ได้จนนิดเดียว” ขาเม้าคนหนึ่งพูดขึ้น

“ฮึ ก็ใช่น่ะสิคะ ไม่รู้ไปทำคุณไสยอะไรหรือเปล่า ไม่สมกันเลยจนนิดเดียว”
ยัยทับทิมใส่ร้ายป้ายสีฉันใหญ่ เดี๋ยวฉันก็สั่งให้คุณนรินทร์ลากคอเธอออกจากบริษัทเสียเลยนี่...เอ่อ...ฉันคงไม่มีอำนาจขนาดนั้นหรอกนะ

ฉันรอให้ปากปีจอทั้งสองคนออกไปก่อนจึงค่อยเปิดประตูห้องน้ำออกมา ฉันล้างมือแล้วมองตัวเองที่กระจก ฉันไม่เหมาะสมกับเขาตรงไหนหรือ...เอ่อ...ไม่ใช่ว่าฉันอยากเหมาะสมกับเขาหรอนะ แต่...ทำไมคนพวกนั้นพูดราวกับว่าหน้าตาฉันมันแย่มากนักล่ะ แล้วอยู่ดีดี ทำไมฉันต้องโดนพวกพนักงานนินทาด้วย ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ฉันทำให้พวกหล่อนไม่ต้องไปทำงานกับสิทรานะ ฉันช่วยพวกเขาไว้นะ!!!!

แต่แล้วทุกอย่างก็ยังไม่จบ ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็มีพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์สาวสวยสุดเซ็กซี่ 3 คน เดินมาล้อมฉันไว้ ตอนแรกฉันก็คิดว่าฉันคิดไปเองว่าพวกเธอล้อม แต่กลับเป็นจริงเพราะพวกหล่อนพูดขึ้นว่า

“เธอใช่ไหมที่เป็นแฟนคุณนรินทร์” แม่นมโตคนหนึ่งโพล่งขึ้น แล้วมองฉันหัวจรดเท้า ฮึไม่รู้ว่าต้องยัดซิลิโคนไปมากขนาดไหนถึงขนาดเท่านั้นได้น่ะ

“ฮึ ดูสารรูปซิ เตี้ยก็เตี้ย” อันนี้เป็นคำพูดของแม่สูงเท่าเสาไฟฟ้า เฮ้รู้ไหม คนที่สูงมากๆน่ะ มีโอกาสเป็นโรคกระดูกเสื่อมมากกว่าคนเตี้ยนะยะ

“บอกมาซิ! ว่าเธอไปทำเสน่ห์อะไรใส่คุณนรินทร์ หา! เธอถึงได้เป็นแฟนเขา รู้ไหมว่าคุณนรินทร์น่ะ เป็นคุณนรินทร์ของทุกคนนะยะ ยัยเฉิ่มอย่างเธอไม่มีสิทธิ์” ส่วนนี่ก็ยัยปากปาร้า

ก่อนหน้านี้ฉันพยายามรวบรวมสติมามากพอแล้วนะ!!!!

ผึง! เสียงสติขาด นั่นเอง

“นี่!!! ฉันปล่อยพวกเธอพูดมากไปแล้วนะ!!!!” ฉันตะโกนดังลั่น มือกำหมัดแน่นพร้อมสู้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าพวกหล่อนถอดรองเท้าส้นเข็มขว้างใส่ฉันหรอกนะ แต่เป็นคุณนรินทร์ต่างหาก!!! คุณนรินทร์เดินออกมาจากห้องน้ำชายแล้วเดินเข้ามาโอบไหล่ฉัน

“เงียบเถอะน่า” เขากระซิบบอกฉันเบาๆ แล้วทำหน้าดุใส่สามสาวพวกนั้น ที่ตอนนี้ทำหน้าตกใจสุดขีดในชีวิต

“พวกคุณมีปัญหาอะไรหรือครับ” เขาพูดเสียงเฉียบ ทำเอาฉันกลัวไปด้วย แล้วเขาก็สูดหายใจเข้าลึกมากๆ

“คุณสิดีนี่แหละที่ผมคบหาอยู่ เราสองคนจะแต่งงานกันเดือนหน้า” ฉันยืนอึ้งพุดอะไรไม่ออก เหมือนกับตัวเองหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง สามสาวนั่นก็เช่นกัน แล้วพวกหล่อนก็กรี๊ดเสียงดังลั่นไม่เกรงใจเจ้าของบริษัท ก่อนจะวิ่งจู๊ดหายไป

คุณนรินทร์ลดมือลงจากไหล่ฉัน แล้วก้มหน้ามองพื้น ทุกอย่างดูสับสนไปหมด แต่งงานเดือนหน้า...โอย...แม่สามสาวนั่นต้องเสียใจแน่ถ้ารู้ว่าหากพวกหล่อนไม่ล้อมฉันคุณนรินทร์ก็ยังเป็นคุณนรินทร์ของทุกคนเช่นเดิม พวกเธอทำผิดถนัด

คุณนรินทร์เงียบไปพร้อมๆกับที่ฉันยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก แต่แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นช้าๆ

“ผม...ขอโทษด้วยนะ”

เงียบไปอีกอึดใจ

“แต่ ถ้าไม่ทำอย่างนี้ คุณก็คงถูกนินทาเสียๆหายๆไม่เลิก”

อืม....ต้องขอบคุณเขาอยู่เหมือนกันนะ “อ่า...ขอบคุณค่ะคุณนรินทร์ แต่เราคงไม่ต้องแต่งกันจริงๆใช่ไหมคะ คือหมายถึงเดือนหน้า”

“คงต้องแต่งแล้วล่ะสิดี ถ้าไม่เช่นนั้น คุณจะถูกว่าเสียหายมากไปกว่านี้” เขาถามสีหน้าจริงจัง

“พร้อมจะแต่งงานกับผมไหม”

แต่พอมาถึงประโยคนี้ฉันกลับขับก๊าก ขำกลิ้ง ฮาสุดๆ

“คุณนรินทร์คะ คุณไม่ต้องทำเครียดขนาดนั้นก็ได้เราไม่ได้จะแต่งกันจริงๆสักหน่อย”

แล้วเขาก็ทำหน้าโกรธ ก่อนจะลากฉัน ไปขึ้นรถประจำตำแหน่งของทางบริษัทเพื่อออกไปทานอาหารกลางวัน

เขาผลักฉันเข้าไปในรถเต็มแรง

“โอ๊ย! เจ็บนะ ทำไมคุณต้องโกรธด้วยล่ะ ฉันยังไม่ทำอะไรเลยนะ!”

เขาเข้ามานั่งที่คนขับแล้วปิดรถดังปัง

“ทำไมคุณต้องพูดเรื่องนั้นเสียงดังด้วยล่ะ เกิดมีคนมาได้ยินเข้า เรื่องของเราก็แตกกันพอดี คุณนี่รู้จักเก็บความลับเสียบ้างนะ”

อะเหรอ...ฉันพูดเสียงดังเหรอ... “แหม ฉันขำนี่คะ เห็นคุณทำหน้าอายๆถามว่าพร้อมจะแต่งงานไหม ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้”

“หา?....ผม....ผมทำหน้าอายด้วยเหรอ” เขาถามตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบเปลี่ยนเสียง

“แล้วทำไม! ยังไงเราก็ต้องแสดงบทบาทให้สมจริงอยู่แล้วนี่นา!!!!”

เอาล่ะๆ ฉันขี้เกียจต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว

“ค่ะคุณ สมบทบาทแม้กระทั่งไม่มีคนอื่นเห็นเนี่ยนะ โหย อย่างนั้นถ้าฉันแต่งกับคุณไป ก็ต้องไปนอนห้องเดียวกับคุณให้สมบทบาทด้วยล่ะสิ อี๋”

แล้วเขาก็เหยียบเบรกกระทันหันดัง เอี๊ยด!!! ลั่นท้องถนน ก่อนจะหันมาระเบิดอารมณ์ใส่ฉันด้วยอารมรณ์โมโหจัดจนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศ

“คุณสิดี!!!! คิดอะไรก่อนพูดได้ไหม!!!!!”

อ้าว...เมื่อกี้ฉันพูดอะไรไปล่ะ????



ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 เม.ย. 2555, 14:13:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 เม.ย. 2555, 14:13:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1771





<< ขอบคุณ   มีความสุข >>
Edelweiss 22 เม.ย. 2555, 15:16:13 น.
555 สิดี เธอฮามากก


Pat 22 เม.ย. 2555, 17:24:05 น.
สิดีเอ้ย ทำคุณนรินทร์โกรธ(หรือ)อายจนหน้าแดงล่ะนั่น อิอิ


konhin 22 เม.ย. 2555, 20:48:03 น.
คุณนรินทร์คิดลึกอ่ะดิ


mhengjhy 22 เม.ย. 2555, 21:51:22 น.
ไม่รู้ใครคิดลึกกว่าใคร 555


yayee62 22 เม.ย. 2555, 22:05:32 น.
คิดก่อนพูด


ling 22 เม.ย. 2555, 22:40:53 น.
ต๊องได้ตลอดเลยสิดีเนี้ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account