คนที่คุณไม่รู้ว่าใคร
ตลอดชีวิตที่ผ่านอย่าว่าแต่แฟนเลย คนมาจีบสักคนยังไม่มี
แต่อยู่ดีๆ พอถึงคราวจะมี มันก็ มี มี มี มาตั้งสาม มี แล้วหล่อนจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
นิยายคลายเครียด ถ้าผู้อ่านหวังเจอเรื่องประมาณดราม่า น้ำตาหยด อาจต้องผิดหวัง เพราะนิยายเรื่องนี้จะทำให้คุณน้ำลายไหล แบบว่าหนุ่มๆเรื่องนี้เค้าน่าหม่ำกันทั้งนั้น
ปล. ฝากนิยายเรื่องแรกไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
รอยสรวล
แต่อยู่ดีๆ พอถึงคราวจะมี มันก็ มี มี มี มาตั้งสาม มี แล้วหล่อนจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
นิยายคลายเครียด ถ้าผู้อ่านหวังเจอเรื่องประมาณดราม่า น้ำตาหยด อาจต้องผิดหวัง เพราะนิยายเรื่องนี้จะทำให้คุณน้ำลายไหล แบบว่าหนุ่มๆเรื่องนี้เค้าน่าหม่ำกันทั้งนั้น
ปล. ฝากนิยายเรื่องแรกไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
รอยสรวล
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 2 เหตุเกิดจาก ไอ้นั่น
ตอนที่ 2 เหตุเกิดจาก ไอ้นั่น
เสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงความสนใจของกล้วยจากเอกสารสัญญาตรงหน้า ทำไมเลขาหน้าห้องหล่อนไม่สายในมาแจ้งก่อน
“ใคร” ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ทันทีที่ประตูเปิดออกและได้เห็นหน้าแขกผู้มาเยืยนกล้วยก็หมดความสงสัย
“สวัสดีครับ คุณผู้จัดการฝ่ายการตลาด กระผมหนุ่มโรงงานตัวเล็กๆมารับท่านไปทานข้าวครับ” ภามในชุดเสื้อเชิร์ตกางเกงยืนซีดส่งเสียงทักทาย
“วันนี้เข้าโรงงานเหรอ”
“ฮะ” รับคำเสร็จก็ก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวรุ่นพี่สาว
“อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะพัก”
“ผมตั้งใจมาก่อนเวลา กลัวว่ากรรมการผู้จัดการใหญ่จะมาฉกพี่กล้วยไปซะก่อน” กล้วยเงยหน้ามองหนุ่มรุ่นน้องที่ตอนนี้เข้ามายืนจนชิดเก้าอี้ ด้วยความสูง
ที่ไม่ธรรมดาทำเอาหล่อนรู้สึกเมื่อยต้นคอนิดๆ
“วันนี้พี่แพทมีประชุมยาว” กล้วยตอบกลับ สายตาคอยมองวนเวียนไปที่เดิมๆ อย่างห้ามใจไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายถอยออกไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะทำงานหล่อน หญิงสาวก็เผลอถอนหายใจ มองตาม ไอ้นั่น ที่ห่างออกไปด้วยความเสียดาย
“ผมว่าจะถามพี่หลายครั้งแล้ว” เสียงถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของภามฉุดอีกฝ่ายให้หลุดจากภวังค์
“ว่า...”
“เอ่อ...ผมสังเกตหลายทีแล้วว่าพี่ชอบมองผมแปลกๆเวลาผมอยู่ใกล้ๆ” ชายหนุ่มอยากเสริมว่า โดยเฉพาะ ตรงนั้น แต่ระงับไว้ได้ซะก่อน
กล้วยตาโตกับคำสันนิษฐานที่ใกล้เคียงความเป็นจริงของภาม รีบปฏิเสธทันที
“เปล๊า...ไม่มี้” ทำเสียงสูงให้มีพิรุธไม่พอ ยังยกมือขึ้นโบกไปมาอย่างลืมตัว พอนึกขึ้นได้ว่าที่หล่อนทำล้วนเป็นอาการของคนโกหกทำทั้งสิ้น ก็รีบกลับลำ
“เปล่า ไม่มีอะไร” เสียงโทนปรกติกับอาการเก็บมือเก็บไม้เรียบร้อยที่ตามมา ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เมื่ออีกฝ่ายยังคงมองมาแบบคาดคั้น ไม่ทันแล้วเหรอวะคะ
“ว่าไงครับ”
“ไปกินข้าวกัน” มือเรียวปิดแฟ้มเอกสารดังปึงพร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อไม่พร้อมจะรบก็ต้องถอยทัพกลับไปวางแผนซะก่อน
*********************
ภาม ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ เอาเถอะเขาจะปล่อยให้จำเลยตัวเล็กหนีไปได้ก่อน แต่คราวหน้าไม่มีทางแน่
ร้านที่หนุ่มรุ่นน้องพามาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ที่ทำงานของทั้งสอง ภามรู้ใจหล่อนว่าชอบอาหารอะไร ร้านแบบไหน เพราะสนิทสนมกันมานาน พอเดินเข้ามาในร้านกล้วยก็ต้องตกใจ
อะไรคนมันจะเยอะขนาดนี้ คงเป็นเพราะเป็นเวลาใกล้เที่ยง ว่าแต่จะมีโต๊ะหรือนี่
“สองท่านนะคะ จองไว้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่....” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ถามอย่างสุภาพ
“จองไว้ครับ ผมภาม” เพราะเสียงของชายหนุ่มคนข้างหวาน แววตาก็ดูระริกระรี้จนเกินเหตุทำให้กล้วยต้องหันไปพิจารณาพนักงานสาวคนเดิมอีกครั้ง อืม..น่ารักดี
“งั้นเชิญด้านนี้ค่ะ คุณภาม” พนักงานสาวเจ้าเดิมตอบกลับ สองหนุ่มสาวประสานสายตากันไปมา ประหนึ่งว่าโลกนี้มีเพียงเราสอง กล้วยถอนหายใจเฮือก เดินตามหลังหนุ่มรุ่นน้องไปอย่างเซ็งๆ
หล่อนนึกว่าภามจองโต๊ะด้านนอกสำหรับสองคนไว้ที่ไหนได้ เล่นจองเป็นห้องเลย
ปัดโธ่ นั่งได้ตั้งสี่คน แต่มาแต่สองเสียดายที่นั่งแย่ เอาเป็นว่าทางร้านต้องเสียสเปซตอนช่วงพีคไทม์ไปฟรีๆ
“เชิญครับคุณผู้หญิง” เสียงกระตุ้นเตือนของคนที่หล่อนเดินตามหลัง ที่อยู่ดีๆมาอยู่หลังหล่อนแทนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ดังขึ้น ชายหนุ่มผายมือเข้าไปด้านในห้องเป็นเชิงว่าให้เกียรติสุภาพสตรีก่อน
กล้วยถอดรองเท้าไว้ด้านนอกเสร็จก็ก้าวเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็กนั่นก่อน มองไปรอบๆเพื่อตัดสินใจเลือกที่นั่ง เพราะมาแค่สองแต่ที่นั่งมีตั้งสี่ หล่อนเลยต้องเลือกนานเลย เป็นความผิดของคนจอง
สุดท้ายกล้วยก็ตัดสินใจเลือกที่นั่งด้านในที่ตรงกันข้ามกับประตู จะได้เปิดโอกาสให้หนุ่มรุ่นน้องได้นั่งที่นั่งติดกับประตู จะได้ติดต่อพูดคุยกับพนักงานสาวๆได้สะดวกเต็มที่
“ให้นามบัตรไปรึยัง” อยู่ดีๆหญิงสาวก็โพล่งถามขึ้น ทำเอาภามที่กำลังจะทรุดตัวลงนั่งทางฝั่งด้านขวาสะดุ้ง
“โถ...พี่กล้วยผมใจหายหมด” พูดพลางยกมือขึ้นทาบอก ประหนึ่งว่าหล่อนทำเขาตกอกตกใจซะเต็มประดา
“หายไปกับน้องคนเมื่อกี้หมดแล้วเหรอ” เสียงพูดเรียบๆของอีกฝ่ายทำให้ภามไม่ได้แน่ใจว่าคนพูดๆจริงจังหรือล้อเล่น จะว่ากันตรงๆ เขาไม่เคยเดาใจรุ่นพี่สาวคนนี้ได้เลย
“แหมมม ปล่าวครับใจผมก็อยู่กับผมเหมือนเดิมนี่แหละ แต่...” ชายหนุ่มลากเสียงเว้นช่วงเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ไม่พอยังพาเอาร่างกายใหญ่โตและ ไอ้นั่น ที่หล่อนแพ้ทาง ขยับเข้ามาจนชิด
“ถ้าจะหายก็คงหายมาอยู่แถวๆนี้ละครับ” ภามยังคงหยอดต่อ ไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้สติสตังค์ของคู่สนทนาลอยหายไปแล้ว
“พี่กล้วย พี่กล้วยครับ” กล้วยสะดุ้ง สติยังคงเลือนๆ ไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ หล่อนอยากจับ ถู ไถ ขยำ ขยี้ ไอ้นั่น เหลือเกิน เพราะสายตาลวนลามที่เปิดเผยสุดๆ คราวนี้เหยื่อหนุ่มเลยรู้ตัว
ภามรู้แล้วว่ารุ่นพี่สาวมองอะไร อาการผิดปรกติทั้งหมดที่เขาเคยสงสัยมาเฉลยเอาตอนนี้ ชายหนุ่มยิ้มกว้าง อยากหัวเราะแต่ห้ามตัวเองไว้ได้ทันไม่อยากที่อีกฝ่ายไหวตัว ชายหนุ่มเริ่มขยับ ไอ้นั่น เข้าไปจนใกล้หญิงสาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงจ้องมันนิ่งเหมือนตกอยู่ในภวังค์จึงเริ่มแผนการต่อไป
“พี่กล้วยครับ...” พูดเสียงอ่อนหวาน คล้ายอยากสะกดจิตอีกฝ่าย
“ถ้าอยากจับก็จับได้นะครับ”
“จริงเหรอ” กล้วยพูดเหมือนคนละเมอ มือน้อยๆชื้นเหงื่อเพราะความตื่นเต้น ยกขึ้นช้าๆเคลื่อนที่ไปสู้เป้าหมาย
“.......”
“..............”
“.......”
“ขอโทษนะคะ”
“เฮ้ย!” สองหนุ่มสาวประสานเสียงพร้อมเพรียง ผละออกจากกันแล้วกลับไปนั่งประจำที่ตัวเองอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย พนักงานเสริฟที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามามองลูกค้าหน้าตาดีทั้งสองอย่างงงๆ อะไรจะต้องนั่งตัวตรงกันซะขนาดน้านน
“รับอะไรดีคะ”
***********************
คุยกันท้ายเรื่อง
ไอ้นั่น คืออะไรเอ่ย ฮ่าๆๆๆ ยังไม่เฉลยนะคะ ปล่อยให้เดาเล่นๆกันไปก่อน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
รอยสรวล
เสียงเคาะประตูดังขึ้นดึงความสนใจของกล้วยจากเอกสารสัญญาตรงหน้า ทำไมเลขาหน้าห้องหล่อนไม่สายในมาแจ้งก่อน
“ใคร” ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ทันทีที่ประตูเปิดออกและได้เห็นหน้าแขกผู้มาเยืยนกล้วยก็หมดความสงสัย
“สวัสดีครับ คุณผู้จัดการฝ่ายการตลาด กระผมหนุ่มโรงงานตัวเล็กๆมารับท่านไปทานข้าวครับ” ภามในชุดเสื้อเชิร์ตกางเกงยืนซีดส่งเสียงทักทาย
“วันนี้เข้าโรงงานเหรอ”
“ฮะ” รับคำเสร็จก็ก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวรุ่นพี่สาว
“อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะพัก”
“ผมตั้งใจมาก่อนเวลา กลัวว่ากรรมการผู้จัดการใหญ่จะมาฉกพี่กล้วยไปซะก่อน” กล้วยเงยหน้ามองหนุ่มรุ่นน้องที่ตอนนี้เข้ามายืนจนชิดเก้าอี้ ด้วยความสูง
ที่ไม่ธรรมดาทำเอาหล่อนรู้สึกเมื่อยต้นคอนิดๆ
“วันนี้พี่แพทมีประชุมยาว” กล้วยตอบกลับ สายตาคอยมองวนเวียนไปที่เดิมๆ อย่างห้ามใจไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายถอยออกไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะทำงานหล่อน หญิงสาวก็เผลอถอนหายใจ มองตาม ไอ้นั่น ที่ห่างออกไปด้วยความเสียดาย
“ผมว่าจะถามพี่หลายครั้งแล้ว” เสียงถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของภามฉุดอีกฝ่ายให้หลุดจากภวังค์
“ว่า...”
“เอ่อ...ผมสังเกตหลายทีแล้วว่าพี่ชอบมองผมแปลกๆเวลาผมอยู่ใกล้ๆ” ชายหนุ่มอยากเสริมว่า โดยเฉพาะ ตรงนั้น แต่ระงับไว้ได้ซะก่อน
กล้วยตาโตกับคำสันนิษฐานที่ใกล้เคียงความเป็นจริงของภาม รีบปฏิเสธทันที
“เปล๊า...ไม่มี้” ทำเสียงสูงให้มีพิรุธไม่พอ ยังยกมือขึ้นโบกไปมาอย่างลืมตัว พอนึกขึ้นได้ว่าที่หล่อนทำล้วนเป็นอาการของคนโกหกทำทั้งสิ้น ก็รีบกลับลำ
“เปล่า ไม่มีอะไร” เสียงโทนปรกติกับอาการเก็บมือเก็บไม้เรียบร้อยที่ตามมา ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น เมื่ออีกฝ่ายยังคงมองมาแบบคาดคั้น ไม่ทันแล้วเหรอวะคะ
“ว่าไงครับ”
“ไปกินข้าวกัน” มือเรียวปิดแฟ้มเอกสารดังปึงพร้อมกับลุกขึ้นยืน เมื่อไม่พร้อมจะรบก็ต้องถอยทัพกลับไปวางแผนซะก่อน
*********************
ภาม ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ เอาเถอะเขาจะปล่อยให้จำเลยตัวเล็กหนีไปได้ก่อน แต่คราวหน้าไม่มีทางแน่
ร้านที่หนุ่มรุ่นน้องพามาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ที่ทำงานของทั้งสอง ภามรู้ใจหล่อนว่าชอบอาหารอะไร ร้านแบบไหน เพราะสนิทสนมกันมานาน พอเดินเข้ามาในร้านกล้วยก็ต้องตกใจ
อะไรคนมันจะเยอะขนาดนี้ คงเป็นเพราะเป็นเวลาใกล้เที่ยง ว่าแต่จะมีโต๊ะหรือนี่
“สองท่านนะคะ จองไว้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่....” พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ถามอย่างสุภาพ
“จองไว้ครับ ผมภาม” เพราะเสียงของชายหนุ่มคนข้างหวาน แววตาก็ดูระริกระรี้จนเกินเหตุทำให้กล้วยต้องหันไปพิจารณาพนักงานสาวคนเดิมอีกครั้ง อืม..น่ารักดี
“งั้นเชิญด้านนี้ค่ะ คุณภาม” พนักงานสาวเจ้าเดิมตอบกลับ สองหนุ่มสาวประสานสายตากันไปมา ประหนึ่งว่าโลกนี้มีเพียงเราสอง กล้วยถอนหายใจเฮือก เดินตามหลังหนุ่มรุ่นน้องไปอย่างเซ็งๆ
หล่อนนึกว่าภามจองโต๊ะด้านนอกสำหรับสองคนไว้ที่ไหนได้ เล่นจองเป็นห้องเลย
ปัดโธ่ นั่งได้ตั้งสี่คน แต่มาแต่สองเสียดายที่นั่งแย่ เอาเป็นว่าทางร้านต้องเสียสเปซตอนช่วงพีคไทม์ไปฟรีๆ
“เชิญครับคุณผู้หญิง” เสียงกระตุ้นเตือนของคนที่หล่อนเดินตามหลัง ที่อยู่ดีๆมาอยู่หลังหล่อนแทนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ดังขึ้น ชายหนุ่มผายมือเข้าไปด้านในห้องเป็นเชิงว่าให้เกียรติสุภาพสตรีก่อน
กล้วยถอดรองเท้าไว้ด้านนอกเสร็จก็ก้าวเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็กนั่นก่อน มองไปรอบๆเพื่อตัดสินใจเลือกที่นั่ง เพราะมาแค่สองแต่ที่นั่งมีตั้งสี่ หล่อนเลยต้องเลือกนานเลย เป็นความผิดของคนจอง
สุดท้ายกล้วยก็ตัดสินใจเลือกที่นั่งด้านในที่ตรงกันข้ามกับประตู จะได้เปิดโอกาสให้หนุ่มรุ่นน้องได้นั่งที่นั่งติดกับประตู จะได้ติดต่อพูดคุยกับพนักงานสาวๆได้สะดวกเต็มที่
“ให้นามบัตรไปรึยัง” อยู่ดีๆหญิงสาวก็โพล่งถามขึ้น ทำเอาภามที่กำลังจะทรุดตัวลงนั่งทางฝั่งด้านขวาสะดุ้ง
“โถ...พี่กล้วยผมใจหายหมด” พูดพลางยกมือขึ้นทาบอก ประหนึ่งว่าหล่อนทำเขาตกอกตกใจซะเต็มประดา
“หายไปกับน้องคนเมื่อกี้หมดแล้วเหรอ” เสียงพูดเรียบๆของอีกฝ่ายทำให้ภามไม่ได้แน่ใจว่าคนพูดๆจริงจังหรือล้อเล่น จะว่ากันตรงๆ เขาไม่เคยเดาใจรุ่นพี่สาวคนนี้ได้เลย
“แหมมม ปล่าวครับใจผมก็อยู่กับผมเหมือนเดิมนี่แหละ แต่...” ชายหนุ่มลากเสียงเว้นช่วงเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ไม่พอยังพาเอาร่างกายใหญ่โตและ ไอ้นั่น ที่หล่อนแพ้ทาง ขยับเข้ามาจนชิด
“ถ้าจะหายก็คงหายมาอยู่แถวๆนี้ละครับ” ภามยังคงหยอดต่อ ไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้สติสตังค์ของคู่สนทนาลอยหายไปแล้ว
“พี่กล้วย พี่กล้วยครับ” กล้วยสะดุ้ง สติยังคงเลือนๆ ไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ หล่อนอยากจับ ถู ไถ ขยำ ขยี้ ไอ้นั่น เหลือเกิน เพราะสายตาลวนลามที่เปิดเผยสุดๆ คราวนี้เหยื่อหนุ่มเลยรู้ตัว
ภามรู้แล้วว่ารุ่นพี่สาวมองอะไร อาการผิดปรกติทั้งหมดที่เขาเคยสงสัยมาเฉลยเอาตอนนี้ ชายหนุ่มยิ้มกว้าง อยากหัวเราะแต่ห้ามตัวเองไว้ได้ทันไม่อยากที่อีกฝ่ายไหวตัว ชายหนุ่มเริ่มขยับ ไอ้นั่น เข้าไปจนใกล้หญิงสาว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงจ้องมันนิ่งเหมือนตกอยู่ในภวังค์จึงเริ่มแผนการต่อไป
“พี่กล้วยครับ...” พูดเสียงอ่อนหวาน คล้ายอยากสะกดจิตอีกฝ่าย
“ถ้าอยากจับก็จับได้นะครับ”
“จริงเหรอ” กล้วยพูดเหมือนคนละเมอ มือน้อยๆชื้นเหงื่อเพราะความตื่นเต้น ยกขึ้นช้าๆเคลื่อนที่ไปสู้เป้าหมาย
“.......”
“..............”
“.......”
“ขอโทษนะคะ”
“เฮ้ย!” สองหนุ่มสาวประสานเสียงพร้อมเพรียง ผละออกจากกันแล้วกลับไปนั่งประจำที่ตัวเองอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย พนักงานเสริฟที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามามองลูกค้าหน้าตาดีทั้งสองอย่างงงๆ อะไรจะต้องนั่งตัวตรงกันซะขนาดน้านน
“รับอะไรดีคะ”
***********************
คุยกันท้ายเรื่อง
ไอ้นั่น คืออะไรเอ่ย ฮ่าๆๆๆ ยังไม่เฉลยนะคะ ปล่อยให้เดาเล่นๆกันไปก่อน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ
รอยสรวล
รอยสรวล
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2555, 06:33:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2555, 06:35:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 1180
<< ตอนที่ 1 คุณอาคะขากะคุณหลานโรแมนติก | ตอนที่ 3 กล้วย แทนตัว >> |
เทียนจันทร์ 23 เม.ย. 2555, 14:12:25 น.
มันยังไงกันนี่ วาบหวิวฮะเปล่า
มันยังไงกันนี่ วาบหวิวฮะเปล่า