เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง
ตอน: ตอนที่ 15
อัลบัมภาพลูกชายบนเตียงนอนคือสิ่งย้ำเตือนความจริงในอดีต ทั้งที่มารดาทั้งปลอบทั้งเตือนให้เลิกสนใจเรื่องนี้ แต่แพรธาราไม่อาจสลัดความรู้สึกที่อยากจะรับรู้เรื่องราวในอดีตของตัวเองมากกว่านี้ได้ หญิงสาวพยายามค้นหาภาพถ่ายงานแต่งงานและเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนั้นจากข่าวสารในอินเทอร์เน็ต แต่ข้อมูลทุกอย่างหมือนจะหายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
“ทำไมนะ...ไม่มีข่าวงานแต่ง ข่าวอุบัติเหตุเลยสักนิด”
แพรธาราถอนหายใจอย่างผิดหวัง คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด
“คราวก่อนนิตยสารนั่นยังมีรูปแต่งงานของเรากับพี่มาร์คเลยนี่ ใช่แล้ว...พี่มาร์ค”
ดอกเตอร์สาวคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อหาทางออกได้ ทุกเรื่องที่เธออยากรู้คงไม่มีทางไหนดีไปกว่าการไปถามหากับเจ้าของเรื่องราวตัวจริง คนที่จะเล่าทุกอย่างให้เธอรู้ได้โดยไม่ปิดปัง
“แต่เขาจะยอมให้เราพบหรือเปล่า”
แพรธาราพึมพำกับตัวเอง ยังจำได้ว่าก่อนจากกันวันนั้นเขาพูดเหมือนไม่อยากพบหน้าเธออีก ใคร่ครวญทวนถามตัวเองอยู่หลายรอบ
“ช่างสิ...ยังไงก็ต้องลองดูก่อน ถ้าไม่ให้พบเราก็จะดักคอย...ยังไงก็ต้องรู้เรื่องตาหนูให้ได้”
ดอกเตอร์สาวกล่าวอย่างมาดมั่นหลังตัดสินใจแน่วแน่ รีบคว้าอัลบัมของลูกชายลงมาที่ลานจอดรถหน้าบ้านทันที
“แพรจะไปไหนครับ”
สุทัศน์รีบร้อนลงจากรถทันทีที่เลี้ยวรถผ่านประตูหน้าคฤหาสน์ทันเห็นคนรักกำลังจะขึ้นรถออกจากบ้าน สาวสวยชะงักเล็กน้อยแต่ก็ยอมหยุดยืนคอยคนรักที่เดินตรงมาหา
“แพรมีธุระกับเพื่อนสนิทสมัยเรียนค่ะ นัดกันไว้นานแล้วแต่ไม่ได้เจอกันสักที”
“งั้นให้แซมไปส่งนะครับ”
“อย่าเลยค่ะ” เผลอตัวห้ามเสียงดัง ก่อนจะได้สติ “คือ...แพรอยากคุยกับเพื่อน ๆ ตามประสาผู้หญิง ถ้าแซมไปด้วยพวกนั้นจะอึดอัดเปล่า ๆ ค่ะ”
“แพรยังโกรธแซมอยู่หรือครับ”
“เปล่าค่ะ”
แพรธาราปฏิเสธเสียงแผ่ว ลอบถอนใจอย่างอึดอัด รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำผิดกับคนรัก ถึงเขาจะเคยพยายามล่วงเกิน แต่ก็เพราะความเข้าใจผิด ความโกรธและอารมณ์ชั่ววูบว่าเธอหลอกลวงเขา ยิ่งคำยืนกรานของมารดาว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไม่มีวันตัดขาดได้แน่ แพรธาราก็ไม่อยากโกหกคนรักเลย แต่ก็ฝืนหัวใจของตัวเองไม่ไหวเพราะสิ่งเดียวที่ตอนนี้หัวใจต้องการคือการรับรู้เรื่องราวในอดีต
“แพรไม่ได้โกรธแซมแล้วล่ะค่ะ” แพรธาราจับแขนคนรักเบา ๆ พยายามจะถนอมน้ำใจเขา “แพรรู้ว่าสิ่งที่แซมทำตอนนั้นเพราะโกรธและน้อยใจ เข้าใจว่าแพรหลอกลวง แต่แพรขอยืนยันค่ะว่าแพรไม่เคยคิดหลอกแซมเลยนะคะ แพรไม่รู้เรื่องพวกนั้นมาก่อนเลยจริง ๆ”
“แซมดีใจที่แพรเข้าใจแซมเสมอ ถ้างั้นก็ให้แซมไปส่งสิครับจะขับรถไปเองทำไม”
“ก็ได้ค่ะ” แพรธารายอมอ่อนให้ “แต่แซมไม่ต้องคอยแพรหรอกนะคะ ผู้หญิงคุยกันนาน...แพรกลัวแซมจะเบื่อ”
“ได้ครับ”
แพรธาราคลี่ยิ้มโล่งอกที่เขายอมตาม แอบขอโทษเขาในใจที่ต้องโกหก ก่อนจะลอบส่งแมสเสจขอร้องเพื่อนสาวคนสนิทสองคนให้ออกมาพบ
รถยนต์คันหรูจอดเทียบหน้าอาคาร Regent ที่สูงตระหง่านพลุกพล่านด้วยผู้คนเข้าออกยามบ่ายหลังพนักงานเพิ่งกลับมาจากพักเที่ยง แพรธาราเหลียวมองประตูทางเข้าเล็กน้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้เพื่อนรักทั้งสองที่ยอมยื่นมือมาช่วยเหลือ
“ขอบใจณิชและยิปโซมากนะ”
“แพร...” ณิชาเรียกรั้งไว้ก่อนที่เพื่อนจะลงจากรถ “คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้”
“ใช่” แพรธารายืนยัน “ตอนเกิดเรื่องลงหนังสือพิมพ์ฉันไม่เคยถามอะไรพวกเธอ เพราะไม่เชื่อข่าว แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันกับ...กับพี่มาร์คเคย...เคยแต่งงานกัน”
“เคยรักกันด้วย”
ยิปโซเผลอแสดงความคิดเห็น จนโดนณิชาหันมาถลึงตาดุใส่
“ก็มันจริงนี่” เสียงแย้งอ่อย ๆ
“ฉันยังไม่อยากเชื่อขนาดนั้น แต่งก็เพราะโดนคลุมถุงชน...เลิกก็เพราะถูกบังคับ” แพรธาราแย้ง “ถ้าผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่ง...เขาจะทำแบบนี้เหรอ”
สองสาวหันมองหน้ากันอย่างจนคำตอบ
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องพวกนี้เลย” แพรธาราเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้ที่ฉันอยากรู้คือเรื่องลูก ส่วนเรื่องของเขากับฉัน...มันจบไปแล้ว และคงต้องจบไปตลอดกาล”
“แพร...ณิชไม่ได้อยากย้ำหรอกนะ” ณิชาขัดอีกครั้ง “แต่ณิชก็เห็นเหมือนยิปโซ...นั่นทำให้ณิชกลัวว่าถ้าแพรก้าวเข้าไปในนั้นอีกครั้ง แพรอาจจะพบกับความลำบากใจก็ได้นะ”
“ณิชกลัวแพรจะทำใจเรื่องตาหนูไม่ได้อีกน่ะเหรอ วางใจเถอะนะ...แพรเชื่อว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว” แพรธารายืนยัน “การที่แพรไม่รู้เรื่องตาหนูต่างหากที่แพรจะทรมาน”
“มันจะไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ”
แพรธาราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอียงคอมองเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ ทำไมทั้งสองคนมีสีหน้าเหมือนกังวลอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนที่เจอหน้าและขอให้ช่วยพามาหามหาสมุทรที่ทำงาน แรกเริ่มเพื่อนทั้งสองปฏิเสธเสียงแข็ง แต่พอเห็นว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้จึงจำยอมช่วยเหลือ
“หมายความว่าไง พูดเหมือนพี่มาร์คจะทำร้ายแพร”
“ไม่มีทางหรอก” ยิปโซปฏิเสธ “พี่มาร์คไม่มีวันทำร้ายเธอ แต่การที่เธอพบเขา...มันอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกยุ่งยากใจก็ได้นะ”
“เรื่องนั้นไม่มีทางหรอก...แค่คุยกันครั้งสองครั้งจะมีอะไรล่ะ” แพรธาราแย้งเสียงกลั้วหัวเราะ “แพรไปก่อนนะแล้วพรุ่งนี้จะโทรหาจ๊ะ...ขอบใจอีกครั้งนะที่ช่วย”
สองสาวได้แต่ถอนใจเบา ๆ เมื่อเพื่อนรักผละไป ไม่รู้จะคัดค้านห้ามปรามเพื่อนอย่างไร ทั้งที่ตลอดมาพวกเธอแอบหวังว่าความรักจะมีอานุภาพเหนือกว่าทุกสิ่ง แต่เมื่อตอนนี้แพรธารามีสุทัศน์เป็นคนรักแล้ว เรื่องของเพื่อนและมหาสมุทรคงเป็นไปไม่ได้อีก แล้วการกลับมาพบกันครั้งนี้จะไม่กระตุ้นอานุภาพแห่งรักจริงหรือ เมื่อแววตาของมหาสมุทรจะอ่อนโยนและอบอุ่นเสมอยามทอดมองอดีตภรรยา
เลขานุการสาวของประธานบริษัทอัญมณีเบิกตากว้างอย่างตกใจ จดจำแพรธาราได้ดีว่าเป็นสาวสวยที่เคยมาขอพบท่านประธานจนมีเรื่องราวเป็นข่าวใหญ่โตบนหน้าหนังสือพิมพ์ ยิ่งเมื่อสาวสวยเอ่ยปากขอพบท่านประธานหนุ่มตามคาด เลขานุการก็แทบจะหยุดหายใจ
“ขอ...ขอพบท่านประธานหรือคะ”
เลขานุการสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้าลำบากใจชัดเจน ยิ่งแพรธาราพยักหน้ารับเลขานุการคนเก่งก็เริ่มเครียด หากไม่กล้าปฏิเสธจำต้องกดโทรศัพท์เรียนให้นายหนุ่มทราบ และก็เหมือนครั้งก่อนท่านประธานหนุ่มยังคงอนุญาตให้หญิงสาวเข้าพบเสมอ
“เชิญค่ะ”
เลขานุการสาวรีบเปิดประตูให้ด้วยใจสั่น ๆ ภาวนาให้ครั้งนี้อย่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีก
“สวัสดีครับ”
มหาสมุทรเงยหน้าจากงานเอกสารมาทักทายแพรธาราอย่างแปลกใจ หญิงสาวไม่ได้นัดและไม่ได้ร้องขอภาพลูกชายเพิ่ม แต่กลับดั้นด้นมาหาเขาที่นี่
“ขอโทษที่มารบกวนโดยไม่ได้แจ้งค่ะ ถ้าพี่มาร์คยุ่ง...แพรมาใหม่วันหลังได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ยุ่งมากมายอะไร” มหาสมุทรปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “แพรมีอะไรให้พี่ช่วยครับ”
สายตาที่เขาทอดมองมาทำให้แพรธาราต้องรีบเมินหลบ แล้วเสหยิบอัลบัมภาพลูกชายส่งให้เขา
“พี่บอกแล้วว่า...”
“แพรทราบค่ะว่าพี่มาร์คยกให้แพรแล้ว แต่แพรอยากรู้เรื่องของตาหนูมากกว่านี้ค่ะ” แพรธาราขัดขึ้นก่อน “ถ้าพี่มาร์คยินดีจะเล่าให้แพรฟัง”
มหาสมุทรคลี่ยิ้มกว้าง ยื่นมือรับอัลบัมรูปมาเปิดดูตั้งแต่หน้าแรกด้วยสีหน้าอ่อนโยน ขยับลุกมานั่งข้าง ๆ แพรธารา
“ภาพพวกนี้ถ่ายตอนตาหนูได้สองเดือนที่บ้านของเรา”
“คะ...”
แพรธาราหันมามองหน้าเขาด้วยความงุนงง
“เรือนหอของ...เอ่อ...” มหาสมุทรชะงักอย่างรู้สึกตัว “บ้านที่สุขุมวิทจ๊ะ เสาร์อาทิตย์พี่จะไปพักที่นั่น ถ้าแพรอยากไปดูก็ไปได้...พี่หนุ่มรู้ที่อยู่ครับ ของทุกอย่างยังเก็บไว้เหมือนเดิม”
แพรธาราพยักหน้ายิ้ม ๆ ไม่ได้สักถามต่อ มหาสมุทรยิ้มเศร้ากับตัวเองก่อนจะเปิดภาพต่อไปเป็นภาพที่ลูกชายตัวน้อยอายุได้สามเดือนกำลังชอบเล่นของเล่น
“ลูกเลี้ยงง่ายมากและชอบเรียนรู้ อารมณ์ดีอยู่ตลอด แต่ไม่ชอบอยู่คนเดียวจ๊ะถ้าไม่เห็นเราลูกจะร้อง” มหาสมุทรยิ้ม “แล้วนี่ก็ตอนที่ลูกเริ่มตั้งไข่ เริ่มคลาน เริ่มพยายามส่งเสียง”
แพรธาราเอื้อมมือไปสัมผัสภาพน่ารักแต่ละรูปที่มหาสมุทรเล่าให้ฟัง ก่อนจะหยุดที่ภาพลูกชายตัวน้อยกำลังยกกำปั้นเล็ก ๆ ปิดตาตัวเอง
“แกคงง่วง...”
“ไม่ใช่หรอกครับ แกชอบเล่นจ๊ะเอ๋...รู้ความตั้งแต่ตอนห้าเดือนแล้วครับ” มหาสมุทรเล่า “ลูกพูดเร็วเริ่มเรียกพี่ว่าอ้อ...เรียกแม่ว่าแอ้ตั้งแต่เดือนเจ็ดเดือนแปดแล้วครับ จำได้ว่าตอนนั้นแพรหัวเราะขำพี่มาก แข่งกับลูกเรียกพี่ว่าอ้อตลอดเลย”
แพรธารายิ้มทั้งน้ำตา ทุกเรื่องที่เขาเล่าเธอจำไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับทำให้หัวใจที่อ้างว้างชุ่มชื่นซาบซึ้งกับความเอาใจใส่ยามอยู่ร่วมกันของครอบครัวเล็ก ๆ นี้
“พี่ทำให้แพรร้องไห้หรือเปล่า” มหาสมุทรทักอย่างไม่สบายใจเมื่อหันมาเห็นดวงตาคู่สวยเคลือบด้วยน้ำตา “เวลาพูดถึงลูก...พี่จะเล่าได้เป็นวัน ๆ สงสัยวันนี้แพรคงเบื่อแล้ว”
“ไม่ค่ะ แพรยังอยากฟังต่อแต่แพรต้องรีบกลับค่ะ เดี๋ยวคุณปู่จะคอย”
“ครับ...”
มหาสมุทรรับคำเสียงเบา รู้สึกใจหายที่เวลาได้อยู่ด้วยกันช่างน้อยนิด แต่ไม่วายเอ่ยถามอย่างห่วงใย
“แพรเอารถมาใช่ไหมครับ”
“เปล่าค่ะ แพรให้ณิชมาส่งค่ะ ตั้งใจว่าจะกลับแท๊กซี่ค่ะ”
“งั้นพี่ไปส่ง”
“อย่าเลยค่ะ...”
สาวสวยรีบร้อนปฏิเสธ จนมหาสมุทรชะงักค้าง หน้าหมองลงถนัดตาจนแพรธาราต้องรีบอธิบาย
“แพรไม่อยากให้มีปัญหากันน่ะค่ะ ครั้งก่อนพี่มาร์คก็โดนตำหนิเพราะแพรไปทีหนึ่งแล้ว แพรไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่โดนดุอีกค่ะ”
“พี่ไม่เคยคิดว่าแพรเป็นตัวปัญหาหรือต้นเหตุเรื่องร้ายอะไรทั้งนั้น”
มหาสมุทรแย้งทั้งสีหน้าและแววตา แววตาที่มีแต่คำว่าห่วงใย
“พี่เข้าใจดีทุกอย่าง แต่พี่อยากขอร้อง”
“คะ...”
“พี่มีรถไว้คอยบริการรับส่งลูกค้า เดี๋ยวพี่จะให้เขาไปส่ง” มหาสมุทรเสนอ “เย็นแล้วไม่ปลอดภัยที่จะกลับคนเดียว และรถคันนี้ก็คงไม่เป็นที่น่าสังเกต”
“ขอบคุณค่ะ”
แพรธารายิ้มรับไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจของเขา หันไปหยิบกระเป๋าถือและอัลบัมภาพคืนก่อนจะสาวเท้าไปที่หน้าประตูหลังจากมหาสมุทรนัดแนะกับเลขานุการสาวเสร็จ
“แพร...”
“คะ...”
สาวสวยชะงักฝีเท้า หันกลับมาเผชิญเหน้าเมื่อมหาสมุทรเรียกรั้งไว้
“ถ้าหาก...ถ้าหากว่าแพรว่างจะมาฟังเรื่องของตาหนูอีกก็ได้นะครับ พี่ยินดีเสมอ”
“ค่ะ แพรจะมาอีกแน่ค่ะ”
“จริงนะครับ”
รอยยิ้มอ่อนโยนแฝงแววดีใจฉายชัดบนใบหน้าคม
“ค่ะ แพรอยากฟังเรื่องของตาหนูและอยากเห็นรูปอื่น ๆ ของลูกด้วยน่ะค่ะ”
“ได้สิครับ พี่จะเตรียมเอาไว้ให้” มหาสมุทรตอบรับอย่างยินดี “เอ่อ...ถ้าคราวหน้าจะมาให้คนของพี่ไปรับหรือว่าให้พี่หนุ่มมาส่งได้ไหมครับ พี่เป็นห่วง”
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบกับดวงตาคมอย่างแปลกใจ ทุกคำพูดทุกการกระทำบ่งบอกว่าห่วงใย โดยเฉพาะสายตาที่หญิงสาวต้องรีบเมินหลบทุกครั้งไป เมื่อสายตาคมคู่นั้นบอกความหมายมากมายที่แพรธารากลัวเหลือเกินว่าหัวใจของตัวเองอาจจะอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานได้
*******************
sai – พิมดาวไม่ถนัดเผยโฉมตัวร้ายเท่าไหร่ คงจะไม่มีใครได้เห็นธาตุแท้แบบจริง ๆ จังของแซมนะคะ เห็นแต่ความรักของพี่มาร์คเท่านั้นล่ะ ถ้าเรื่องนี้พิมดาวเขียนได้ตามที่ตั้งใจนะคะ
ใบบัวน่ารัก – ความรักอยู่ไหน เดี๋ยวคุณปู่จะตอบในอีกสองถึงสามตอนถัดไปค่ะ เป็นเหตุผลที่คุณปู่จอมบงการจะใช้ตอบกับแพรค่ะ
panon – อย่างที่บอกธาตุแท้นายแซมอาจจะไม่ได้เห็น คุณปู่ไม่ใช่ดูคนไม่ออก แต่ท่านเลือกมองคนละด้านกับคนอื่นน่ะค่ะ
an00 – ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ผิดหวังเลยนะคะ แต่ด้านมืดของแซมจะไม่เปิดเผยออกมาหรอกนะคะ คือเรื่องนี้อย่างที่บอกว่าถ้าครั้งหนึ่งเคยรักกันเมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง หัวใจยังรู้สึกเหมือนเดิมอีกไหมมากกว่า ตัวร้ายเลยแนวโลภ ๆ มากกว่าค่ะ
Edelweiss – จริง ๆคุณปู่รู้จักครอบครัวนี้ดีค่ะ เลยใช้ความโลภของครอบครัวนี้ให้เป็นประโยชน์น่ะค่ะ แต่ก็คาดไม่ถึงเรื่องที่นายแซมจะมัดมือชกแพรน่ะค่ะ
Auuuu – ตอนนี้ชักเริ่มสงสารตัวเองแล้วสิ ทุกคนอยากเห็นธาตุแท้แซม อย่างนี้พิมดาวจะโดนรุมไม่เนี่ยที่ไม่ได้เห็นกันน่ะค่ะ อิอิ
******************
“ทำไมนะ...ไม่มีข่าวงานแต่ง ข่าวอุบัติเหตุเลยสักนิด”
แพรธาราถอนหายใจอย่างผิดหวัง คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด
“คราวก่อนนิตยสารนั่นยังมีรูปแต่งงานของเรากับพี่มาร์คเลยนี่ ใช่แล้ว...พี่มาร์ค”
ดอกเตอร์สาวคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อหาทางออกได้ ทุกเรื่องที่เธออยากรู้คงไม่มีทางไหนดีไปกว่าการไปถามหากับเจ้าของเรื่องราวตัวจริง คนที่จะเล่าทุกอย่างให้เธอรู้ได้โดยไม่ปิดปัง
“แต่เขาจะยอมให้เราพบหรือเปล่า”
แพรธาราพึมพำกับตัวเอง ยังจำได้ว่าก่อนจากกันวันนั้นเขาพูดเหมือนไม่อยากพบหน้าเธออีก ใคร่ครวญทวนถามตัวเองอยู่หลายรอบ
“ช่างสิ...ยังไงก็ต้องลองดูก่อน ถ้าไม่ให้พบเราก็จะดักคอย...ยังไงก็ต้องรู้เรื่องตาหนูให้ได้”
ดอกเตอร์สาวกล่าวอย่างมาดมั่นหลังตัดสินใจแน่วแน่ รีบคว้าอัลบัมของลูกชายลงมาที่ลานจอดรถหน้าบ้านทันที
“แพรจะไปไหนครับ”
สุทัศน์รีบร้อนลงจากรถทันทีที่เลี้ยวรถผ่านประตูหน้าคฤหาสน์ทันเห็นคนรักกำลังจะขึ้นรถออกจากบ้าน สาวสวยชะงักเล็กน้อยแต่ก็ยอมหยุดยืนคอยคนรักที่เดินตรงมาหา
“แพรมีธุระกับเพื่อนสนิทสมัยเรียนค่ะ นัดกันไว้นานแล้วแต่ไม่ได้เจอกันสักที”
“งั้นให้แซมไปส่งนะครับ”
“อย่าเลยค่ะ” เผลอตัวห้ามเสียงดัง ก่อนจะได้สติ “คือ...แพรอยากคุยกับเพื่อน ๆ ตามประสาผู้หญิง ถ้าแซมไปด้วยพวกนั้นจะอึดอัดเปล่า ๆ ค่ะ”
“แพรยังโกรธแซมอยู่หรือครับ”
“เปล่าค่ะ”
แพรธาราปฏิเสธเสียงแผ่ว ลอบถอนใจอย่างอึดอัด รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทำผิดกับคนรัก ถึงเขาจะเคยพยายามล่วงเกิน แต่ก็เพราะความเข้าใจผิด ความโกรธและอารมณ์ชั่ววูบว่าเธอหลอกลวงเขา ยิ่งคำยืนกรานของมารดาว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอไม่มีวันตัดขาดได้แน่ แพรธาราก็ไม่อยากโกหกคนรักเลย แต่ก็ฝืนหัวใจของตัวเองไม่ไหวเพราะสิ่งเดียวที่ตอนนี้หัวใจต้องการคือการรับรู้เรื่องราวในอดีต
“แพรไม่ได้โกรธแซมแล้วล่ะค่ะ” แพรธาราจับแขนคนรักเบา ๆ พยายามจะถนอมน้ำใจเขา “แพรรู้ว่าสิ่งที่แซมทำตอนนั้นเพราะโกรธและน้อยใจ เข้าใจว่าแพรหลอกลวง แต่แพรขอยืนยันค่ะว่าแพรไม่เคยคิดหลอกแซมเลยนะคะ แพรไม่รู้เรื่องพวกนั้นมาก่อนเลยจริง ๆ”
“แซมดีใจที่แพรเข้าใจแซมเสมอ ถ้างั้นก็ให้แซมไปส่งสิครับจะขับรถไปเองทำไม”
“ก็ได้ค่ะ” แพรธารายอมอ่อนให้ “แต่แซมไม่ต้องคอยแพรหรอกนะคะ ผู้หญิงคุยกันนาน...แพรกลัวแซมจะเบื่อ”
“ได้ครับ”
แพรธาราคลี่ยิ้มโล่งอกที่เขายอมตาม แอบขอโทษเขาในใจที่ต้องโกหก ก่อนจะลอบส่งแมสเสจขอร้องเพื่อนสาวคนสนิทสองคนให้ออกมาพบ
รถยนต์คันหรูจอดเทียบหน้าอาคาร Regent ที่สูงตระหง่านพลุกพล่านด้วยผู้คนเข้าออกยามบ่ายหลังพนักงานเพิ่งกลับมาจากพักเที่ยง แพรธาราเหลียวมองประตูทางเข้าเล็กน้อยก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้เพื่อนรักทั้งสองที่ยอมยื่นมือมาช่วยเหลือ
“ขอบใจณิชและยิปโซมากนะ”
“แพร...” ณิชาเรียกรั้งไว้ก่อนที่เพื่อนจะลงจากรถ “คิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้”
“ใช่” แพรธารายืนยัน “ตอนเกิดเรื่องลงหนังสือพิมพ์ฉันไม่เคยถามอะไรพวกเธอ เพราะไม่เชื่อข่าว แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันกับ...กับพี่มาร์คเคย...เคยแต่งงานกัน”
“เคยรักกันด้วย”
ยิปโซเผลอแสดงความคิดเห็น จนโดนณิชาหันมาถลึงตาดุใส่
“ก็มันจริงนี่” เสียงแย้งอ่อย ๆ
“ฉันยังไม่อยากเชื่อขนาดนั้น แต่งก็เพราะโดนคลุมถุงชน...เลิกก็เพราะถูกบังคับ” แพรธาราแย้ง “ถ้าผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่ง...เขาจะทำแบบนี้เหรอ”
สองสาวหันมองหน้ากันอย่างจนคำตอบ
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งคิดเรื่องพวกนี้เลย” แพรธาราเปลี่ยนเรื่อง “วันนี้ที่ฉันอยากรู้คือเรื่องลูก ส่วนเรื่องของเขากับฉัน...มันจบไปแล้ว และคงต้องจบไปตลอดกาล”
“แพร...ณิชไม่ได้อยากย้ำหรอกนะ” ณิชาขัดอีกครั้ง “แต่ณิชก็เห็นเหมือนยิปโซ...นั่นทำให้ณิชกลัวว่าถ้าแพรก้าวเข้าไปในนั้นอีกครั้ง แพรอาจจะพบกับความลำบากใจก็ได้นะ”
“ณิชกลัวแพรจะทำใจเรื่องตาหนูไม่ได้อีกน่ะเหรอ วางใจเถอะนะ...แพรเชื่อว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว” แพรธารายืนยัน “การที่แพรไม่รู้เรื่องตาหนูต่างหากที่แพรจะทรมาน”
“มันจะไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ”
แพรธาราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอียงคอมองเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ ทำไมทั้งสองคนมีสีหน้าเหมือนกังวลอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตอนที่เจอหน้าและขอให้ช่วยพามาหามหาสมุทรที่ทำงาน แรกเริ่มเพื่อนทั้งสองปฏิเสธเสียงแข็ง แต่พอเห็นว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจเธอได้จึงจำยอมช่วยเหลือ
“หมายความว่าไง พูดเหมือนพี่มาร์คจะทำร้ายแพร”
“ไม่มีทางหรอก” ยิปโซปฏิเสธ “พี่มาร์คไม่มีวันทำร้ายเธอ แต่การที่เธอพบเขา...มันอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกยุ่งยากใจก็ได้นะ”
“เรื่องนั้นไม่มีทางหรอก...แค่คุยกันครั้งสองครั้งจะมีอะไรล่ะ” แพรธาราแย้งเสียงกลั้วหัวเราะ “แพรไปก่อนนะแล้วพรุ่งนี้จะโทรหาจ๊ะ...ขอบใจอีกครั้งนะที่ช่วย”
สองสาวได้แต่ถอนใจเบา ๆ เมื่อเพื่อนรักผละไป ไม่รู้จะคัดค้านห้ามปรามเพื่อนอย่างไร ทั้งที่ตลอดมาพวกเธอแอบหวังว่าความรักจะมีอานุภาพเหนือกว่าทุกสิ่ง แต่เมื่อตอนนี้แพรธารามีสุทัศน์เป็นคนรักแล้ว เรื่องของเพื่อนและมหาสมุทรคงเป็นไปไม่ได้อีก แล้วการกลับมาพบกันครั้งนี้จะไม่กระตุ้นอานุภาพแห่งรักจริงหรือ เมื่อแววตาของมหาสมุทรจะอ่อนโยนและอบอุ่นเสมอยามทอดมองอดีตภรรยา
เลขานุการสาวของประธานบริษัทอัญมณีเบิกตากว้างอย่างตกใจ จดจำแพรธาราได้ดีว่าเป็นสาวสวยที่เคยมาขอพบท่านประธานจนมีเรื่องราวเป็นข่าวใหญ่โตบนหน้าหนังสือพิมพ์ ยิ่งเมื่อสาวสวยเอ่ยปากขอพบท่านประธานหนุ่มตามคาด เลขานุการก็แทบจะหยุดหายใจ
“ขอ...ขอพบท่านประธานหรือคะ”
เลขานุการสาวเอ่ยถามด้วยสีหน้าลำบากใจชัดเจน ยิ่งแพรธาราพยักหน้ารับเลขานุการคนเก่งก็เริ่มเครียด หากไม่กล้าปฏิเสธจำต้องกดโทรศัพท์เรียนให้นายหนุ่มทราบ และก็เหมือนครั้งก่อนท่านประธานหนุ่มยังคงอนุญาตให้หญิงสาวเข้าพบเสมอ
“เชิญค่ะ”
เลขานุการสาวรีบเปิดประตูให้ด้วยใจสั่น ๆ ภาวนาให้ครั้งนี้อย่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีก
“สวัสดีครับ”
มหาสมุทรเงยหน้าจากงานเอกสารมาทักทายแพรธาราอย่างแปลกใจ หญิงสาวไม่ได้นัดและไม่ได้ร้องขอภาพลูกชายเพิ่ม แต่กลับดั้นด้นมาหาเขาที่นี่
“ขอโทษที่มารบกวนโดยไม่ได้แจ้งค่ะ ถ้าพี่มาร์คยุ่ง...แพรมาใหม่วันหลังได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ได้ยุ่งมากมายอะไร” มหาสมุทรปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม “แพรมีอะไรให้พี่ช่วยครับ”
สายตาที่เขาทอดมองมาทำให้แพรธาราต้องรีบเมินหลบ แล้วเสหยิบอัลบัมภาพลูกชายส่งให้เขา
“พี่บอกแล้วว่า...”
“แพรทราบค่ะว่าพี่มาร์คยกให้แพรแล้ว แต่แพรอยากรู้เรื่องของตาหนูมากกว่านี้ค่ะ” แพรธาราขัดขึ้นก่อน “ถ้าพี่มาร์คยินดีจะเล่าให้แพรฟัง”
มหาสมุทรคลี่ยิ้มกว้าง ยื่นมือรับอัลบัมรูปมาเปิดดูตั้งแต่หน้าแรกด้วยสีหน้าอ่อนโยน ขยับลุกมานั่งข้าง ๆ แพรธารา
“ภาพพวกนี้ถ่ายตอนตาหนูได้สองเดือนที่บ้านของเรา”
“คะ...”
แพรธาราหันมามองหน้าเขาด้วยความงุนงง
“เรือนหอของ...เอ่อ...” มหาสมุทรชะงักอย่างรู้สึกตัว “บ้านที่สุขุมวิทจ๊ะ เสาร์อาทิตย์พี่จะไปพักที่นั่น ถ้าแพรอยากไปดูก็ไปได้...พี่หนุ่มรู้ที่อยู่ครับ ของทุกอย่างยังเก็บไว้เหมือนเดิม”
แพรธาราพยักหน้ายิ้ม ๆ ไม่ได้สักถามต่อ มหาสมุทรยิ้มเศร้ากับตัวเองก่อนจะเปิดภาพต่อไปเป็นภาพที่ลูกชายตัวน้อยอายุได้สามเดือนกำลังชอบเล่นของเล่น
“ลูกเลี้ยงง่ายมากและชอบเรียนรู้ อารมณ์ดีอยู่ตลอด แต่ไม่ชอบอยู่คนเดียวจ๊ะถ้าไม่เห็นเราลูกจะร้อง” มหาสมุทรยิ้ม “แล้วนี่ก็ตอนที่ลูกเริ่มตั้งไข่ เริ่มคลาน เริ่มพยายามส่งเสียง”
แพรธาราเอื้อมมือไปสัมผัสภาพน่ารักแต่ละรูปที่มหาสมุทรเล่าให้ฟัง ก่อนจะหยุดที่ภาพลูกชายตัวน้อยกำลังยกกำปั้นเล็ก ๆ ปิดตาตัวเอง
“แกคงง่วง...”
“ไม่ใช่หรอกครับ แกชอบเล่นจ๊ะเอ๋...รู้ความตั้งแต่ตอนห้าเดือนแล้วครับ” มหาสมุทรเล่า “ลูกพูดเร็วเริ่มเรียกพี่ว่าอ้อ...เรียกแม่ว่าแอ้ตั้งแต่เดือนเจ็ดเดือนแปดแล้วครับ จำได้ว่าตอนนั้นแพรหัวเราะขำพี่มาก แข่งกับลูกเรียกพี่ว่าอ้อตลอดเลย”
แพรธารายิ้มทั้งน้ำตา ทุกเรื่องที่เขาเล่าเธอจำไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับทำให้หัวใจที่อ้างว้างชุ่มชื่นซาบซึ้งกับความเอาใจใส่ยามอยู่ร่วมกันของครอบครัวเล็ก ๆ นี้
“พี่ทำให้แพรร้องไห้หรือเปล่า” มหาสมุทรทักอย่างไม่สบายใจเมื่อหันมาเห็นดวงตาคู่สวยเคลือบด้วยน้ำตา “เวลาพูดถึงลูก...พี่จะเล่าได้เป็นวัน ๆ สงสัยวันนี้แพรคงเบื่อแล้ว”
“ไม่ค่ะ แพรยังอยากฟังต่อแต่แพรต้องรีบกลับค่ะ เดี๋ยวคุณปู่จะคอย”
“ครับ...”
มหาสมุทรรับคำเสียงเบา รู้สึกใจหายที่เวลาได้อยู่ด้วยกันช่างน้อยนิด แต่ไม่วายเอ่ยถามอย่างห่วงใย
“แพรเอารถมาใช่ไหมครับ”
“เปล่าค่ะ แพรให้ณิชมาส่งค่ะ ตั้งใจว่าจะกลับแท๊กซี่ค่ะ”
“งั้นพี่ไปส่ง”
“อย่าเลยค่ะ...”
สาวสวยรีบร้อนปฏิเสธ จนมหาสมุทรชะงักค้าง หน้าหมองลงถนัดตาจนแพรธาราต้องรีบอธิบาย
“แพรไม่อยากให้มีปัญหากันน่ะค่ะ ครั้งก่อนพี่มาร์คก็โดนตำหนิเพราะแพรไปทีหนึ่งแล้ว แพรไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่โดนดุอีกค่ะ”
“พี่ไม่เคยคิดว่าแพรเป็นตัวปัญหาหรือต้นเหตุเรื่องร้ายอะไรทั้งนั้น”
มหาสมุทรแย้งทั้งสีหน้าและแววตา แววตาที่มีแต่คำว่าห่วงใย
“พี่เข้าใจดีทุกอย่าง แต่พี่อยากขอร้อง”
“คะ...”
“พี่มีรถไว้คอยบริการรับส่งลูกค้า เดี๋ยวพี่จะให้เขาไปส่ง” มหาสมุทรเสนอ “เย็นแล้วไม่ปลอดภัยที่จะกลับคนเดียว และรถคันนี้ก็คงไม่เป็นที่น่าสังเกต”
“ขอบคุณค่ะ”
แพรธารายิ้มรับไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจของเขา หันไปหยิบกระเป๋าถือและอัลบัมภาพคืนก่อนจะสาวเท้าไปที่หน้าประตูหลังจากมหาสมุทรนัดแนะกับเลขานุการสาวเสร็จ
“แพร...”
“คะ...”
สาวสวยชะงักฝีเท้า หันกลับมาเผชิญเหน้าเมื่อมหาสมุทรเรียกรั้งไว้
“ถ้าหาก...ถ้าหากว่าแพรว่างจะมาฟังเรื่องของตาหนูอีกก็ได้นะครับ พี่ยินดีเสมอ”
“ค่ะ แพรจะมาอีกแน่ค่ะ”
“จริงนะครับ”
รอยยิ้มอ่อนโยนแฝงแววดีใจฉายชัดบนใบหน้าคม
“ค่ะ แพรอยากฟังเรื่องของตาหนูและอยากเห็นรูปอื่น ๆ ของลูกด้วยน่ะค่ะ”
“ได้สิครับ พี่จะเตรียมเอาไว้ให้” มหาสมุทรตอบรับอย่างยินดี “เอ่อ...ถ้าคราวหน้าจะมาให้คนของพี่ไปรับหรือว่าให้พี่หนุ่มมาส่งได้ไหมครับ พี่เป็นห่วง”
ดวงตาคู่สวยช้อนขึ้นสบกับดวงตาคมอย่างแปลกใจ ทุกคำพูดทุกการกระทำบ่งบอกว่าห่วงใย โดยเฉพาะสายตาที่หญิงสาวต้องรีบเมินหลบทุกครั้งไป เมื่อสายตาคมคู่นั้นบอกความหมายมากมายที่แพรธารากลัวเหลือเกินว่าหัวใจของตัวเองอาจจะอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานได้
*******************
sai – พิมดาวไม่ถนัดเผยโฉมตัวร้ายเท่าไหร่ คงจะไม่มีใครได้เห็นธาตุแท้แบบจริง ๆ จังของแซมนะคะ เห็นแต่ความรักของพี่มาร์คเท่านั้นล่ะ ถ้าเรื่องนี้พิมดาวเขียนได้ตามที่ตั้งใจนะคะ
ใบบัวน่ารัก – ความรักอยู่ไหน เดี๋ยวคุณปู่จะตอบในอีกสองถึงสามตอนถัดไปค่ะ เป็นเหตุผลที่คุณปู่จอมบงการจะใช้ตอบกับแพรค่ะ
panon – อย่างที่บอกธาตุแท้นายแซมอาจจะไม่ได้เห็น คุณปู่ไม่ใช่ดูคนไม่ออก แต่ท่านเลือกมองคนละด้านกับคนอื่นน่ะค่ะ
an00 – ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ผิดหวังเลยนะคะ แต่ด้านมืดของแซมจะไม่เปิดเผยออกมาหรอกนะคะ คือเรื่องนี้อย่างที่บอกว่าถ้าครั้งหนึ่งเคยรักกันเมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง หัวใจยังรู้สึกเหมือนเดิมอีกไหมมากกว่า ตัวร้ายเลยแนวโลภ ๆ มากกว่าค่ะ
Edelweiss – จริง ๆคุณปู่รู้จักครอบครัวนี้ดีค่ะ เลยใช้ความโลภของครอบครัวนี้ให้เป็นประโยชน์น่ะค่ะ แต่ก็คาดไม่ถึงเรื่องที่นายแซมจะมัดมือชกแพรน่ะค่ะ
Auuuu – ตอนนี้ชักเริ่มสงสารตัวเองแล้วสิ ทุกคนอยากเห็นธาตุแท้แซม อย่างนี้พิมดาวจะโดนรุมไม่เนี่ยที่ไม่ได้เห็นกันน่ะค่ะ อิอิ
******************
พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2555, 22:15:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2555, 22:15:46 น.
จำนวนการเข้าชม : 1394
<< ตอนที่ 14 | ตอนที่ 16 >> |
Edelweiss 23 เม.ย. 2555, 22:39:38 น.
สงสารพี่มาร์มากค่ะ
สงสารพี่มาร์มากค่ะ
sai 23 เม.ย. 2555, 23:03:13 น.
ทำไมนะพออ่านคอมเม้นที่ไรเตอร์ตอบคนอื่นเรารู้สึกเคืองคุณปู่ของแพรจังเลย เฮ้อออ
ทำไมนะพออ่านคอมเม้นที่ไรเตอร์ตอบคนอื่นเรารู้สึกเคืองคุณปู่ของแพรจังเลย เฮ้อออ
anOO 24 เม.ย. 2555, 14:50:20 น.
ดูท่าทางยัยแพรก็ยังคงหัวอ่อน ตามใจผู้ใหญ่อีกเหมือนเคยล่ะซิ
ดูท่าทางยัยแพรก็ยังคงหัวอ่อน ตามใจผู้ใหญ่อีกเหมือนเคยล่ะซิ
Pat 24 เม.ย. 2555, 18:49:16 น.
สงสารมาร์คจังเลย จนอยากรู้มากๆแล้วว่าเพราะอะไรถึงต้องให้เลิกกัน
สงสารมาร์คจังเลย จนอยากรู้มากๆแล้วว่าเพราะอะไรถึงต้องให้เลิกกัน
panon 25 เม.ย. 2555, 10:08:42 น.
สงสารจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยย
สงสารจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยย