ทะเลรัก สีเพลิง
ความเจ็บปวดในอดีต ทำให้เขากลับมาทวงคืนเอากับเธออย่างสาสม ทว่าเมื่อได้อยู่ใกล้กัน หัวใจเขากลับยังไหวหวั่นอยู่เช่นเดิม...แล้วเขาจะทำเช่นไร เมื่อมั่นใจว่ายัง 'รัก' อยู่ แต่เธอกลับเป็นฝ่ายเกลียดเขาเสียเอง...^^


Tags: Romance ^O^

ตอน: บทที่ 5






5.


นัยน์ตาอ่อนแสงเฝ้ามองการทำงานของหญิงอวบซึ่งทำหน้าที่ดูแลตนมาหลายวัน นับตั้งแต่วันที่ล้มป่วยลง อดรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของอีกฝ่ายไม่ได้ หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้น ตั้งใจว่าจะเข้าไปช่วยทำงาน ทว่าเพียงแค่เธอก้าวลงจากเตียงนอน เสียงดุก็ดังขึ้น

“ไม่ต้องลุกขึ้นมาเลยนะ นอนอยู่อย่างนั้นแหละ ไว้หายแล้วค่อยคิดจะมาช่วยป้า”

“ฉันค่อยยังชั่วแล้ว งานเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ฉันพอช่วยได้นะ”สายลมบอก

“อย่ามารู้ดีไปกว่าหมอ”เสียงทุ้มที่ดังแทรกเข้ามาทำให้คนที่คิดจะลุกขึ้นช่วยงาน และคนที่กำลังทำงานอยู่ต่างก็สะดุ้งตกใจด้วยกันทั้งคู่ สายลมหันไปมองร่างสูงที่ยืนพิงประตูห้อง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครานิ่งขรึมมองจ้องตอบมาด้วยนัยน์ตาดุดัน

“ป้าเอาเสื้อผ้าไปซักก่อนนะจ๊ะ”ป้าชื่นพูดขึ้นลอย ๆ แล้วก็รีบเดินออกจากห้องพักของหญิงสาวไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังกับนายตน

เขมินทร์เดินเข้ามาหยุดยืนที่ข้างเตียงไม้เล็ก ๆ มองหญิงสาวที่กลับไปนอนหันหลังให้ตนด้วยแววตาอ่อนโยน มือใหญ่เอื้อมไปแตะบนหน้าผากของอีกฝ่าย ทว่าเพียงแค่มือของเค้าแตะโดนหน้าผากของเธอ สายลมก็ปัดมันออกอย่างแรง

“ไม่ต้องมาแตะต้องตัวฉัน”

“ทำไม....มากกว่าแตะตัวฉันก็ทำมาแล้ว จำไม่ได้หรือไง หรือว่าต้องให้เตือนความจำอีกสักครั้ง”

เขมินทร์นึกหมั่นไส้กิริยาท่าทางของเธอจนอดไม่ได้ที่จะพูดจาส่อเสียดใส่เธอ

“ไอ้ทุเรศ ไอ้บ้า ไอ้.........”

“ถ้าเธอยังไม่หยุดด่าฉันนะ เธอได้โดนจริง ๆ แน่สายลม”เขมินทร์ชี้นิ้วใส่ บอกด้วยน้ำเสียงคุกคาม และพร้อมจะทำอย่างที่พูดแน่ หากอีกฝ่ายไม่เชื่อฟัง ซึ่งแน่นอนว่าคนถูกคาดโทษไม่คิดจะดื้อแพ่ง ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือมากกว่า...สายลมบอกกับตัวเองเช่นนั้น

“กินข้าว กินยาหรือยัง” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยอมเงียบแล้ว เขมินทร์ก็ถามออกไป แม้น้ำเสียงจะไม่ได้นุ่มนวลแสดงถึงความห่วงใย แต่ในเสี้ยวของความรู้สึก สายลมกลับรู้สึกดีอยู่นิด ๆ ทั้งที่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้มีความรู้สึกเช่นนั้นได้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่วายตอบประชดใส่เขา

“คนอย่างฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก”

“เออ!...ก็ดี”เขมินทร์นึกอยากจะบีบคอเธอนัก เขารึอุตส่าห์ถามดี ๆ ดันตอบกวนโทสะเขาเสียนี่ การโต้เถียงที่ดูจะเริ่มบานปลายถูกยุติลงด้วยเสียงของป้าชื่นซึ่งมาพร้อมกับการปรากฏตัวของหญิงสาวคนหนึ่ง

“นายจ้ะ คุณเกศินีมาถึงแล้วค่ะ”

“ทำอะไรอยู่หรือคะพี่เขม”เสียงหวานถามแทรกเข้ามา เดินชนไหล่แม่บ้านเข้ามาหาชายหนุ่ม ก่อนที่สายตาของเธอจะไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวซึ่งนอนอยู่บนเตียงนั้น

“ใครกันคะ ทำไมพี่เขมต้องเข้ามาดูแลเองด้วย”น้ำเสียงหาเรื่องถามพลางตวัดสายตาใส่คนบนเตียงอย่างไม่พอใจ

“คนงานใหม่น่ะ เขาไม่สบาย พี่ก็แค่เข้ามาดูตามหน้าที่คนเป็นนายเท่านั้นแหละ น้องเกตุมาถึงนานแล้วหรือจ๊ะ”เขมินทร์ปรายตามองหญิงสาวบนเตียง ก่อนหันกลับมายิ้มหวานให้คนที่ควงแขนตนอยู่ เกศินีเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้เขา ตอบคำถามของเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“เพิ่งมาถึงเองค่ะ รอพี่เขมอยู่ที่บ้านตั้งนานก็ไม่เห็นกลับเสียที เกตุก็เลยให้ป้าชื่นพามาหานี่แหละค่ะ เหนื่อยมาก ๆ เลยค่ะ”

“ถ้างั้นก็ไปครับ พี่จะพาไปพักผ่อนให้หายเหนื่อยนะจ๊ะ”พูดจบก็พากันเดินออกจากห้องไป คล้ายกับว่าในห้องนี้ไม่มีอะไรให้น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว ป้าชื่นเหลียวมองนายตนที่เดินไปพร้อมกับหญิงสาวจนลับตา แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา บ่นพึมพำกับความมารยาของหญิงสาวอยู่คนเดียว

“เป็นอะไรไปป้าชื่น บ่นอะไรงุบงิบ ๆ”สายลมมองแม่บ้านใหญ่พึมพำอยู่นาน ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป

“หมั่นไส้คน อย่างกับนางอิจฉาในละครก็ไม่ปาน คนอะไรหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง”

“นั่นแน่...มีนินทาด้วย”สายลมยิ้มกว้าง ล้ออีกฝ่าย

“ป้าไม่ได้นินทานะ แต่มันเรื่องจริง อย่าหาว่าป้าอย่างโน้นอย่างนี้เลย เมื่อกี้ตอนอยู่ที่เรือนใหญ่นะ แว้ดๆๆๆ แหม...พออยู่ต่อหน้านายล่ะ พี่เขมคะ พี่เขมขา เฮ้อ!” จบประโยคของคนไม่ได้นินทา เสียงหัวเราะสดใสก็ดังขึ้น ส่งให้คนพูดเองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตามไปด้วย

“ป้าชื่นรู้ไหม สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันยังทนอยู่ที่นี่ได้คือ ป้าชื่นนะ”สายลมบอกพลางส่งยิ้มให้กับแม่บ้านสาวใหญ่ ป้าชื่นมองหน้าคนพูด เดินตรงเข้าไปหา หย่อนตัวลงนั่งบนเตียงใกล้ ๆ หญิงสาว ก่อนที่มืออวบจะดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้หลวม ๆ


หลังจากที่อาการไข้หายดี สายลมก็ต้องกลับมาทำงานของตนตามปกติ หากแต่สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ การที่เธอต้องมาคอยรับคำสั่งจากหญิงสาวที่เธอเพิ่งได้รู้ว่า หล่อนเป็น ‘คนรัก’ ของชายหนุ่ม สายลมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนเชิดหน้าสูง ออกคำสั่งกับตนอย่างเหนื่อยหน่าย

“มองหน้าฉันทำไม จะขัดคำสั่งฉันใช่ไหม”เกศินีแหวใส่

“ฉันทำไม่เป็น ขอโทษด้วย”สายลมตอบออกไปตรง ๆ หลังได้ยินคำสั่งของเธอ

“เป็นแม่บ้านประสาอะไรฮะ แค่อาหารง่าย ๆ ก็ทำไม่เป็น”พูดจบก็กระแทกตัวลงนั่ง แต่ก็ยังไม่วายเชิดหน้าสูงเช่นเดิม นัยน์ตาเหยียดนิด ๆ ปรายมองหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่บนพื้น

“ก็เป็นประสานี้แหละ มีอะไรไหม”สายลมไม่ยอมลงให้อีกฝ่ายง่าย ๆ ด้วยการตอบคำถามที่ทำเอาคนฟังทั้งนาย และบ่าวต่างมีสีหน้ากันไปคนละแบบ เกศินีกรีดเสียงร้องดังลั่น ผิดกับแม่บ้านรุ่นใหญ่ซึ่งยืนอยู่ไกล ๆ ที่เอาแต่ก้มหน้า ปิดปากไม่ให้เสียงหัวเราะตัวเองได้หลุดรอดออกมา

“แก ฉันจะฟ้องพี่เขม ให้เขาไล่แกออก!”

“ดีเลย ฉันก็อยากจะออกใจจะขาดอยู่แล้ว ทำให้ได้ก็แล้วกันนะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว”สายลมไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยอนุญาตก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขก โดยมีเสียงกรี๊ดดังไล่หลังเธอไป

“ระวังจะเป็นเรื่องนะคุณ”ป้าชื่นบอกกับหญิงสาวเมื่อเธอเดินเข้ามาหา

“คนเขาจ้องจะหาเรื่อง ยังไงมันก็ต้องเป็นเรื่องค่ะป้า”สายลมบอก ก่อนเดินกลับไปยังห้องพักที่ตนทำความสะอาดค้างเอาไว้

และแล้วคำพูดของป้าชื่นก็เป็นจริง ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ในอาการนิ่งเฉยนั่งฟังคำฟ้องจากหญิงสาวที่นั่งเบียดตัวเองเข้าหาเขาจนน่าอึดอัด แต่เขมินทร์ก็ยังคงให้เกียรติด้วยการยอมให้หญิงสาวทำตามใจเธอ

“จริง ๆ นะคะพี่เขม แม่คนนั้นเถียงเกตุทุกคำ เกตุแค่บอกว่าอยากกินแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายที่พี่เขมชอบ แต่แม่คนนั้นกลับบอกว่า ‘ไม่ทำ อยากกินก็ทำเอง’ พี่เขมดูสิคะ ขนาดเกตุบอกว่าเกตุจะให้พี่เขมจัดการ หล่อนยังเชิดหน้าใส่ แล้วบอกว่า ‘เอาเลย อยากออกใจจะขาดอยู่แล้ว’...พี่เขมไล่มันออกไปเลยค่ะ เลี้ยงไม่เชื่อง!”

เขมินทร์พยายามระงับอารมณ์ตัวเองไม่ให้เดือดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ทว่าคำพูดสุดท้ายของเกศินีกลับพัดกระพือไฟโทสะของเขาจนลุกโชนและไม่อาจดับลงได้ หากเขายังไม่ได้ทำอะไรกับเจ้าของคำพูดแสนท้าทายนั้นเสียก่อน

“สายลมอยู่ไหน!”เสียงเข้มตวาดถามดังลั่นบ้าน จนป้าชื่นที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ สะดุ้งโหยง นึกหวั่นแทนหญิงสาวที่ยังไม่รู้ตัวจะต้องโดนกับอะไรบ้าง

“ป้าชื่น!”

“เอ่อ...เพิ่ง เพิ่งกลับบ้านพักไปจ้ะ”ป้าชื่นละล่ำละลักบอกเสียงสั่น หันไปมองหญิงสาวที่ยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะด้วยความหมั่นไส้

เขมินทร์ลุกก้าวพรวดออกไปทันทีที่รู้ว่าคนที่ตนต้องการพอยู่ที่ไหน ร่างสูงเดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังบ้านพักของหญิงสาวผู้เป็นเชลย ใบหน้าขึงเครียดเสียจนคนงานที่เดินผ่านต้องก้มหน้างุดไม่กล้ากล่าวทักทายผู้เป็นนาย ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านพักหลังเล็ก มือใหญ่ทุบปังลงไปบนบานประตูครั้งแล้วครั้งเล่าตามแรงอารมณ์ของตนเอง

“มาแล้วค่ะ มาแล้ว”เสียงหวานที่ยังไม่รู้ตัวว่า ในเวลาอันใกล้นี้ตนต้องพบเจอกับอะไรบ้างร้องบอก ก่อนที่จะก้าวเดินมาเปิดประตู

“ใครเป็นอะไรหรือ....”พูดยังไม่ทันจบประโยค ร่างบางก็มีอันต้องเซถลาไปด้านหลังจนเกือบล้ม เมื่อคนตัวโตไม่พูดพร่ำทำเพลง ผลักเธอเข้าไปด้านใน พร้อมกับปิดประตูโครมใหญ่

“อยากลองดีมากเลยใช่ไหม สายลม”เสียงทุ้มเข้มถาม ขณะก้าวย่างเข้าหาหญิงสาว

“เป็นบ้าอะไรของนาย...ฉันลองดีอะไร”สายลมตวาดถามกลับพลางถอยร่นหนีอีกฝ่าย สายตาสอดส่ายมองหาอาวุธเพื่อใช้ป้องกันตัว

“คนอย่างเธอ มันไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ นะสายลม”

“ถ้าโลงศพนั้นมันไม่ใช่ญาติพี่น้องฉัน ถึงฉันเห็น ฉันก็ไม่มีวันหลั่งน้ำตาให้อยู่แล้ว”แม้จะรู้ดีว่า ความหมายที่ชายหนุ่มต้องการสื่อนั้นคืออะไร แต่หญิงสาวก็ยังทำพาซื่อ บอกออกไปตรง ๆ กับประโยคคำพูดนั้น

“สายลม!!!”มือใหญ่แข็งแรงดั่งคีมเหล็ก คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาว กระชากตัวเธอเข้าหาเต็มแรง ไม่สนใจว่าการกระทำของตนจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บหรือไม่

“ปล่อย!”

“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”เสียงเข้มตะคอกกลับ ใบหน้ากร้าวกระด้างแทบชิดติดใบหน้าของเธอ ดวงตาที่จ้องมองส่งประกายเจิดจ้าบ่งบอกอารมณ์

“แล้วนายมีสิทธิ์อะไร......อึก”เสียงพูดหายไปพร้อมกับที่ริมฝีปากหนาหนักกระแทกเข้าที่ปากของเธอเต็มแรง หญิงสาวพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเธอดิ้นรนมากเท่าไหร่ แรงรัดรึงก็ยิ่งทวีความแรงขึ้น

“ไอ้บ้า...ฉันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของนายนะ”หญิงสาวตวาดใส่หน้าเขาทันทีที่ปากของเธอได้รับอิสรภาพ น้ำตาแห่งความโกรธแค้นจับตัวเกาะพราวเต็มทั้งสองตา

“ทำไมจะไม่ใช่...เธอไม่มีสิทธิ์โต้เถียง ขัดขืน หรือแม้แต่คิดจะไปจากที่นี่ ถ้าฉันไม่ปล่อยเธอไปเอง จำไว้...สายลม จำให้ขึ้นใจ จำใส่สมองเล็ก ๆ ของเธอนี้ไว้ซะ”
หญิงสาวนิ่งไปไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เข้าใจในทันทีว่า ที่ตนต้องตกที่นั่งลำบากอยู่ตอนนี้มีสาเหตุมาจากใคร ใบหน้าแดงก่ำเชิดขึ้นสูง มองท้าทายอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ

“อย่าท้าทายฉัน สายลม”เขมินทร์ข่มเสียงพูดออกไป นิ้วเรียวเลื่อนมาจับคางของอีกฝ่ายบีบแน่นอยู่อย่างนั้น

“จำสิ่งที่นายทำกับฉันเอาไว้ให้ดี...จำเอาไว้ สักวันฉันจะเอาคืนให้สาสม!”ดวงตาฉ่ำน้ำฉายแววแห่งความโกรธแค้นมองเขา มองคล้ายกับจะตราตรึงใบหน้าของเขาเอาไว้ให้ลึกสุดใจ เพื่อสักวันเธอจะทำให้เขาได้เจ็บช้ำบ้าง

เขมินทร์สะท้านไปนิดกับดวงตาคู่นั้นของเธอ ชายหนุ่มสะบัดมือออกจากปลายคางของเธอเต็มแรง ก่อนผลักร่างบางออกห่างอย่างไม่ปราณี เขาพยายามข่มความรู้สึกหวาดกลัวคำอาฆาตของเธอเอาไว้ไม่ให้มันได้เผยตัวตนออกมา ก่อนหันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเธออีก

“จำเอาไว้ให้ดี...ฉันจะทำให้นายเจ็บมากกว่าที่ฉันเจ็บเป็นร้อยเท่า พันเท่า จำไว้!”เธอตะโกนตามหลังเขาไปสุดเสียง น้ำตาที่ทนกลั้นเอาไว้ไหลรินออกมาในที่สุด



.............................................................

อ่านเรื่องนี้ไปพลาง ๆ ก่อนนะจ๊ะ รอตอนเกือบจบ และตอนจบของวัตรในเร็ว ๆ นี้จ้า ^^



ภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 เม.ย. 2555, 01:07:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 เม.ย. 2555, 01:07:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 2347





<< บทที่ 4 ( ไม่มีชื่อตอน เพราะยังนึกไม่ออกค่า แหะ ๆ )   ทะเลรักสีเพลิง บทที่ 5.1 >>
mhengjhy 25 เม.ย. 2555, 09:06:59 น.
ง่า แค้นจริงจังเสียด้วย


ม่านฝัน 25 เม.ย. 2555, 10:29:35 น.
รอต่อค่ะ


anOO 25 เม.ย. 2555, 15:28:18 น.
มองไม่ออกเลยจริงๆ ว่าสุดท้ายคู่นี้จะรักกันได้ยังไง


นกขมิ้น 25 เม.ย. 2555, 20:46:42 น.
รอเหมือนกันจ้า


nunoi 28 เม.ย. 2555, 21:39:52 น.
แก้แค้นกันไปกันมา จะเข้าใจกันได้ยังไงเนี๊ยะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account