เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 17





บทที่ 17




ปารัชซุกไซ้จมูกไปยังซอกคอขาวเนียนจนคนถูกรุกรานต้องดันร่างนั้นให้ออกห่างหากก็ไม่เป็นผล หญิงสาวจึงตัดสินใจงับไปยังแขนที่รัดตัวเธอไว้แน่นเต็มเขี้ยว

“โอ๊ย!” อ้อมแขนนั้นหลุดออก ปารัชสะบัดแขนข้างที่ถูกกัดอย่างแรง เป็นจังหวะเดียวกันที่ศรินดาได้โอกาสผลักร่างสูงให้พ้นตัวอย่างแรง หญิงสาวออกตัววิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อให้พ้นจากอันตรายตรงหน้า แต่ก็ช้ากว่าคนตัวโตที่แค่ก้าวไม่กี่ก้าวก็ทันเธอ

“จะไปไหนครับ” มือหนาจับท่อนแขนกลมกลึงก่อนที่จะออกแรงกระชาก

“ปล่อยฉันนะ!” รินตะโกน สะบัดมือตบหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง

เผียะ! ปารัชจ้องมองหญิงสาวด้วยใบหน้าดุดันจนศรินดาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว

“ฤทธิ์มานักนะ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเย็นก่อนจะต่อยไปที่ท้องของรินจนหญิงสาวตัวงอด้วยความจุกจนพูดไม่ออก

ปารัชยิ้มมุมปากอย่างสะใจ เล่นตัวอย่างนี้แต่ความจริงก็คงไม่พ้นกับผู้หญิงอย่างว่าที่เขาเคยเจอ ชายหนุ่มรุกรายคนที่ไม่มีทางสู้อย่างจาบจ้วง คนที่ยังจุกไม่หายพยายามที่จะใช้แรงทั้งหมดต่อต้าน และเมื่อปารัชซุกไซ้มาที่คอระหงหญิงสาวก็ถือโอกาสฝากรอยเขี้ยวไว้ที่คอนั่นอีกรอย

“โอ๊ย!” ปารัชร้องเสียงหลง ฝ่ามือหนายกขึ้นฟาดดวงหน้าหวานอย่างแรงจนรินสลบไป

“ฤทธิ์มากนักนะคุณริน หึ! เล่นตัวมาก งั้นคืนนี้ก็เป็นของผมหน่อยเป็นไง” ปารัชอุ้มหญิงสาวขึ้นหวังจะพาเข้าโรงแรมเพื่อทำอะไรมิดีมิร้าย

“เฮ้ย!” ปารัชชะงักเมื่อมีตะโกนเรียกจากด้านหลัง

“ปล่อยศรินดาเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งดังขึ้นพร้อมร่างของธนาดลที่ก้าวยาวๆไม่กี่ก้าวถึงตัวปารัชที่มีศรินดาอยู่ในอ้อมแขน

“แกเป็นใคร”

“ฉันบอกให้แกปล่อยศรินดาลงเดี๋ยวนี้!!” ธนาดลเดินเข้าหาปารัชอย่างคุกคาม สายตาที่มองอีกฝ่ายแทบจะแผดเผาให้สลายไปคาตา

ปารัชวางร่างบางที่อุ้มไว้ลงบนพื้นตามคำพูดของธนาดล สายตามองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ ธนาดลกำหมัดแน่น มองหน้าอีกฝ่ายอย่างเคียดแค้นก่อนจะปล่อยหมัดลุ่นๆต่อยเข้าหน้าของปารัชอย่างแรงจนชายหนุ่มเซถลาไปนอนกองกับพื้น

“อย่าคิดที่จะแตะต้องผู้หญิงคนนี้อีกถ้ายังไม่อยากตาย!” ชายหนุ่มพูดเสียงเหี้ยม คนอย่างธนาดลสามารถทำตามคำพูดที่ได้พูดไว้ได้จริงๆ

“แกเป็นใคร แล้วรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” ปารัชถามเมื่อลุกขึ้นตั้งตัวได้

“ฉันไม่อยากรู้ว่าแกเป็นใคร แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นของฉัน ใครหน้าไหนก็ห้ามมายุ่ง” ธนาดลบอกเสียงกร้าว

“แล้วแกจะได้รู้ว่าถ้าหาญกล้ามาทำร้ายคนอย่างฉันมันจะเป็นยังไง” ปารัชบอกเบาๆก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป แม้จะเจ็บใจแต่ก็ไม่กล้าพอเมื่อเห็นสายตาสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามราตรีที่ทั้งเหี้ยมเกรียมและดุดันของธนาดล

ธนาดลวิ่งเข้าไปหาร่างของศรินดาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มช้อนร่างบางนั้นมาไว้แนบอก คิ้วเข้มขมวดชิดเมื่อเห็นเลือดที่ไหลซิบที่มุมปาก

“บ้าเอ๊ย!” คำสบถหลุดออกจากริมฝีปากเบาๆ อ้อมแขนแข็งแรงกำลังตวัดอุ้มร่างนั้น หากก็ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะจู่ๆก็มีใครบางคนดึงคอเสื้อเขาจากด้านหลังและปล่อยหมัดแรงๆมาโดนหน้าจนตัวเองเซถลา

“แกทำอะไรริน ฉันถามว่าแกทำอะไรริน!!” นนทนัฐถามด้วยน้ำเสียงดุดัน ร่างสูงเข้ามาดูผู้หญิงที่รักสุดหัวใจอย่างหวงแหน

ธนาดลมองภาพนั้นอย่างเจ็บหนึบในหัวใจ ชายหนุ่มไม่แม้ที่จะอธิบายในสิ่งที่ถูกต้องให้นนทนัฐฟัง ให้ใครต่อใครคิดว่าเขาทำน่ะดีแล้ว แล้วให้ศรินดาคิดว่าคนที่ช่วยคือนนทนัฐไม่ใช่เขา นั่นก็ดีแล้วเหมือนกัน

“แกจะไปไหนไอ้ดล ฉันถามว่าแกทำอะไรรินทำไมแกไม่ตอบ” นนทนัฐถามเมื่ออุ้มร่างของศรินดาขึ้นมาเรียบร้อย

ธนาดลมองนนทนัฐด้วยหางตาก่อนจะตอบเสียงเรียบว่า “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของแก” แล้วชายหนุ่มก็เดินหายไปในความมืด ทิ้งให้นนทนัฐกัดฟันแน่นมองตามไปด้วยความโกรธแค้น

มันจะมากไปแล้วไอ้ดล...

แกทำอย่างนี้กับริน

มันมากไปแล้ว...














ธนาดลเดินเข้าบ้านด้วยสภาพที่แตกต่างจากเมื่อคราวขาไปอย่างสิ้นเชิง มุมปากแตกเลือดซิบเพราะหมัดของนนทนัฐ เสื้อเชิ้ตด้านในถูกปลดกระดุมคออกสองเม็ด เน็คไทด์ถูกคลายออก แขนเสื้อถูกพับขึ้นมาจนถึงข้อศอก และเสื้อสูทก็ถูกพาดไว้บนบ่าอย่างลวกๆ

“ไปโดนหมาที่ไหนฟัดมาน่ะดล” ผู้เป็นพี่ชายที่นั่งรอน้องชายในห้องรับแขกเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก

“แถวนี้ล่ะพี่ต้น” ธนาดลตอบเนือยๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างพี่ชาย

“แล้วรินล่ะดลทำไมพี่ไม่เห็น”

ธนาดลหลับตานิ่ง พิงศีรษะเข้ากับพนักของโซฟา “อยู่กับไอ้นนท์ พรุ่งนี้ก็คงจะกลับมั้งฮะ” ธนาดลพูดเสียงเรียบเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากในใจกลับร้อนรุ่มต่างจากสิ่งที่พูดออกไปราวฟ้ากับดิน

“ว่าไงนะ! อยู่กับนนท์! แล้วนี่ดลปล่อยรินเข้าไปได้ยังไง ปล่อยให้ไปกับไอ้นนท์ได้ยังไง” พนาดรถามน้องชายเสียงหลง ไม่เคยไว้ใจนนทนัฐมาตั้งแต่สมัยก่อนมาจนถึงตอนนี้ความคิดนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะพี่ต้น พอศรินดากลับมาแล้วพี่ต้นค่อยถามเองแล้วกัน ผมขึ้นห้องก่อนฮะ รู้สึกเหนื่อยยังไงไม่รู้” ไม่แม้แต่จะอธิบายอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ เพราะธนาดลรู้สึกเหนื่อยอย่างคำที่เขาพูดจริงๆ

มันเหนื่อย...ที่ต้องคอยเก็บความรู้สึกที่มันตรงข้ามกับความต้องการของหัวใจ

มันเหนื่อย...ที่ต้องทำเป็นไม่รักผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆที่ในใจมันบอกว่ารักเต็มหัวใจ

พนาดรมองตามน้องชายที่เดินขึ้นบ้านด้วยแววตาที่สงสัยในบางอย่าง เขารู้จักน้องของเขาคนนี้ดี และพอดูออกว่าตอนนี้น้องชายคนนี้กำลังรู้สึกอะไร

แม่ครับ...ความเจ็บปวดของแม่ในตอนนั้นกับความเจ็บปวดที่ดลต้องแบกรับความแค้นไว้ในตอนนี้

อันไหน...มันทรมานมากกว่ากันครับแม่











แสงแดดยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านสีขาวโปร่งมากระทบร่างแบบบางที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงโดยเจ้าตัวไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อยเพราะกำลังจมดิ่งอยู่ในห้วงความฝันที่มีแต่ความมืดมิด ในความมืดรินกำลังเดินคว้าง หญิงสาวไม่มีใครอยู่ข้างกายแม้แต่คนเดียว

‘คุณคะ คุณได้ยินไหม ที่นี่ที่ไหนคะ คุณพารินออกไปได้ไหม’ รินตะโกนถามเมื่อเห็นร่างๆหนึ่งอยู่ไกลๆ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเขา ยิ่งใกล้ขึ้นรินยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกับแผ่นหลังนั้น แต่พอจะถึงร่างๆนั้นก็ค่อยๆก้าวเดินเหมือนจะช้าหากแต่ละก้าวกลับสร้างระยะห่างอย่างไกลแสนไกล

‘คุณ! รอรินด้วย อย่าทิ้งรินไว้คนเดียวนะ! รอรินด้วย!!’ ยิ่งวิ่งตาม ยิ่งเรียกร้อง ร่างนั้นก็ยิ่งห่างออกไป

“รอรินด้วย!!” ร่างบางสะดุ้งลุกขึ้นพรวด เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า

เธอฝันร้าย...ใช่ฝันร้าย

ฝันว่าเธออยู่คนเดียว แล้วเธอก็พบและวิ่งตามใครบางคน

ใครบางคนที่เธอรู้สึกว่าคุ้นเคย...มานานแสนนาน

ศรินดากวาดสายตามองไปรอบห้องและพบว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของเธอ หญิงสาวเริ่มตื่นตระหนกเมื่อตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องใครก็ไม่รู้ น้ำตาจึงรื่นขึ้นพาลจะไหลขึ้นมาทันที

“ตื่นแล้วหรือริน” น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดออก

“นนท์” รินเอ่ยชื่อนนทนัฐเบาๆ “นนท์ช่วยรินไว้เหรอ”

นนทนัฐเดินเข้ามานั่งที่ขอบเตียงข้างๆศรินดา “ก็รินเป็นเจ้าหญิงของนนท์นี่ เจ้าชายก็ต้องช่วยเจ้าหญิงสิครับ” ก่อนจะเผยยิ้มอย่างอ่อนโยน

“แล้วนนท์ทำอะไรคุณปารัชหรือเปล่า” ถามอกไปเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของนนทนัฐเพราะศรินดารู้ดีว่าถ้าใครกล้าไปมีเรื่องกับผู้ชายอย่างปารัชนั้นคงไม่ดีแน่

นนทนัฐเบิกตากว้างกับคำถามนั้น ไม่เข้าใจว่าปารัชมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย ก็คนที่ทำร้ายศรินดาคือ ธนาดลไม่ใช่หรือ

“ปารัช...ลูกชายเจ้าพ่อแถบนี้น่ะหรือ”

“อืม” ศรินดาพยักหน้าเบาๆ “เขาคิดจะทำไม่ดีกับริน แต่โชคดีนะ ที่นนท์มาช่วยรินไว้ได้ทัน ขอบคุณมากๆเลยนะนนท์” เธอคลี่ยิ้มให้บางๆ นึกไม่ออกเลยว่าถ้านนทนัฐมาไม่ทันแล้วชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร

“เอ่อ...ไม่เป็นอะไร” นนทนัฐเอ่ยรับอย่างไม่เต็มปาก เพราะคนที่ช่วยศรินดาไม่ใช่เขาแต่เป็นธนาดลต่างหาก แต่สถานการณ์แบบนี้ให้รินรู้ว่าคนที่ช่วยคือเขา มันก็ดีไม่ใช่หรือ มันดี...ถ้าผู้หญิงคนนี้จะยอมมีใจให้เขาบ้างแม้จะเป็นการกระทำที่แลดูเห็นแก่ตัวก็ตาม

“รินขอกลับบ้านนะนนท์ พี่ต้นคงเป็นห่วงแย่แล้ว” ศรินดาดึงผ้าห่มให้พ้นตัว

“ไหวเหรอริน ยังเจ็บอยู่รึเปล่า” นนทนัฐถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยพร้อมกับเข้ามาประคอง

“ไหว...รินอยากกลับบ้าน นนท์ไปส่งรินหน่อยนะ” หญิงสาวยืนยันเพราะแค่นี้เธอก็ทำให้ที่บ้านเป็นห่วงมากแล้ว

“ได้...เดี๋ยวนนท์ไปส่งรินเอง” นนทนัฐรับปาก ค่อยๆประคองร่างบอบบางของศรินดาอย่างระมัดระวัง ผู้หญิงคนนี้เปรียบดั่งดวงใจของเขา แม้ต้องทำอย่างไรหรือใช้วิธีไหนเขาก็ต้องปกป้องและโอบหัวใจดวงนี้มาแนบกาย...ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม...












ใช้เวลาไม่กี่นาทีรถยนต์ของนนทนัฐก็มาจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ศรินดาก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็วด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมโดยให้นนทนัฐกลับบ้านไปก่อน เพราะขืนเขาอยู่มีหวังพนาดรคงได้เอาเรื่องแน่ แต่ละย่างก้าวที่เดินหญิงสาวยังรู้สึกเจ็บบริเวณท้องหน่วงๆไม่หาย แต่ก็ฝืนทนเดินเข้าบ้านเพราะป่านนี้ทั้งบ้านคงจะรู้เรื่องกันหมดแล้ว คงจะรู้กันหมดเพราะผู้ชายคนนั้นไม่น่าจะพลาดโอกาสที่จะใส่ร้ายเธอ แต่รินก็คิดผิดหมดเมื่อไม่มีใครรอพบเธอเลยยกเว้นพนาดรเพียงคนเดียว

“พี่ต้องการคำอธิบายเรื่องเมื่อคืนทั้งหมดนะศรินดา” พนาดรบอกเสียงเรียบ น้ำเสียงบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ

“คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะคะ” น้องสาวเรียบเคียงถามหากสายตายังไม่ยอมสบดวงตาของพี่ชายต่างสายเลือด

“ยังไม่มีใครรู้ว่ารินไม่กลับบ้าน แล้วพวกท่านก็ไม่อยู่บ้านด้วยคุณพ่อออกไปดูไร่กับนายดล ส่วนน้าริสาออกไปตลาดกับเอื้อง”

“แล้วพี่ต้นรู้ได้ยังไงคะ”

“พี่มีตาพอที่จะรู้ว่าใครกลับหรือไม่กลับบ้านนะศรินดา”

หญิงสาวลอบกลืนน้ำลาย น้อยครั้งนักที่พนาดรจะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอย่างนี้ และเธอก็รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่พี่ต้นพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่าพี่ต้นกำลังโกรธมากถึงมากที่สุด

“รินขอโทษค่ะ”

“พี่ต้องการคำตอบและคำอธิบาย ไม่ใช่คำขอโทษ” ดวงตาคู่คมพิศมองหน้าน้องสาวชัดๆและก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นรอยแดงช้ำที่ดวงหน้าหวานและรอยแผลปากแตกบวกกับรอยนิ้วมือที่เหมือนถูกตบอย่างแรง

“หน้าไปโดนอะไรมาริน ใครทำอะไรริน บอกพี่มา” พนาดรถามอย่างร้อนรน และเมื่อถูกถามน้องสาวก็โผเข้ากอดพี่ชายทันที

“พี่ต้น...ปารัช...คุณปารัช...เขาทำร้ายริน” น้ำตาที่กลั้นไว้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลออกมาราวกับทำนบที่แตก

พนาดรดันน้องสาวออกจากอก บรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา “อย่าร้องนะริน น้องสาวพี่เข้มแข็งจะตายไปจริงไหม อย่าร้องนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนที่คอยปลอบประโลมเสมอยามที่เธอร้องไห้นั้นแผ่วเบาทว่านุ่มนวล แล้วน้ำตาที่ไหลก็ค่อยๆหยุดราวกับสั่งได้

“นนท์ช่วยรินไว้ค่ะพี่ต้น นนท์ช่วยรินไว้รินเลยไม่เป็นอะไร” รินบอก ยิ้มให้พนาดรนิดหนึ่งเพื่อยืนยันว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงๆ

“ดีจัง โชคดีจริงๆเลยริน” พนาดรรั้งตัวน้องสาวมากอดแน่น

“แล้ว...คุณดลเขาว่าอะไรรินหรือเปล่าคะที่รินไม่กลับบ้าน”

“ไม่นี่ ไม่เห็นว่าดลจะพูดอะไร แค่บอกว่ารินอยู่กับนนท์เพราะเกิดเรื่องนิดหน่อย”

คิ้วเรียวสวยขมวดชิด แววตาบอกความสงสัยอย่างปิดไม่มิด

แปลกจริงๆ เขารู้ได้ยังไงว่าเธอมีเรื่อง แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่กับนนทนัฐ

แล้วอีกอย่างที่แปลก...

ทำไมเขาถึงไม่ใส่ร้ายเธออย่างที่เขาเคยทำ

แปลกไปนะ...คุณดล

“แล้ววันนี้พี่ต้นจะไปไหนหรือคะ” หญิงสาวถามเมื่อเห็นพี่ชายแต่งตัวพิถีพิถันกว่าปกติ

“เอ้อ...” พนาดรเก้อเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็โดนถามแบบนี้

“พี่จะไปซื้อของนิดหน่อยน่ะ รินจะเอาอะไรไหม”

“ไม่ล่ะค่ะ รินขอตัวไปอาบน้ำนะคะพี่ต้น แล้วเดี๋ยวรินจะเข้าไปในไร่”

“เดี๋ยวริน”

“คะ?”

“ดลฝากบอกว่าถ้าไม่ไหวจะไม่เข้าไปในไร่ก็ได้นะ”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ ทั้งที่ในใจมีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งข้อ

คุณดลเป็นอะไรไป ไม่เคยเลยที่เขาจะสงสารเธอขึ้นมา

แล้วทำไมคราวนี้ถึงได้ทำแบบนี้

คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะคุณดล











ภายในห้องสรรพสินค้าหรูใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ คุณหมอสาวหน้าหมวยกำลังยืนจ้องมองคนที่ตัวโตกว่าอย่างเอาเรื่อง

“มีอะไรคะถึงได้นัดน้ำออกมาเจอ” สลิลธารถามด้วยน้ำเสียงที่มีแววความไม่พอใจเจืออยู่เต็ม

“ธุระนิดหน่อยน่ะครับ” พนาดรตอบเรียบๆ

“ธุระของพี่ต้น ไม่ใช่ของน้ำแล้วพี่ต้นจะนัดน้ำมาทำไมคะ”

“อยู่ห่างจากคุณหมอเขตซักชั่วโมงสองชั่วโมงไม่ได้เลยหรือน้ำ”

ดวงตาเรียวสวยตวัดมามองพนาดรอย่างโกรธเกรี้ยว “จะมากไปแล้วนะพี่ต้น ถ้าจะชวนมาเพื่อจะทะเลาะกันอย่างนี้อย่ามาชวนกันดีกว่า”

“แล้วน้ำล่ะทำไมไม่คุยกับพี่ดีๆก่อน รวนใส่พี่ทำไม” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ สลิลธารนั้นโมโหใส่เขาก่อนชัดๆ

“น้ำไม่ได้รวน!” คำตอบนั้นหนักแน่น สลิลธารผินหน้าไปอีกทาง

ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน “โอเคครับ...พี่ผิดเอง” แล้วก็เป็นฝ่ายพนาดรที่ยอมแพ้...อย่างเคย เพราะถ้าไม่อย่างนั้นวันนี้มีหวังไม่ได้ไปไหนกันพอดี

“พอใจน้ำหรือยัง”

“ค่ะ” สลิลธารตอบ เหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์พอใจ

พนาดรโคลงศีรษะอย่างเหนื่อยใจ ทุกทีเลย...เป็นเขาที่ต้องยอมถอยอย่างนี้ทุกที แต่เขากลับไม่รู้สึกไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย กลับกัน...เขาชอบเสียด้วยซ้ำยามคุณหมอคนนี้ทำแก้มป่องๆงอนๆ

“แล้วพี่ต้นโทรตามน้ำออกมาทำไมคะ” สลิลธารยอมพูดกับชายหนุ่มดีๆเมื่อเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้ให้กับเธอ

“คือพี่อยากซื้อเครื่องประดับให้ใครบางคน แต่พี่เลือกไม่ถูกเลยให้น้ำมาช่วยเลือกให้หน่อย”

สลิลธารทำสีหน้าฉงน “รินก็อยู่นี่คะ ทำไมต้องตามน้ำมาด้วย” ถามไปก็อดที่จะรู้สึกแปลบๆที่หัวใจไม่ได้ แอบอิจฉาผู้หญิงคนนั้นที่จะได้ของขวัญชิ้นนี้จากพนาดร

“คือ...รินเค้าไม่ว่างน่ะ แล้วพี่ก็ไม่รู้จะพึ่งใครเลยลองโทรหาน้ำดู” พนาดรเดินเข้าร้านขายเครื่องประดับร้านใหญ่ในห้างโดยมีสลิลธารเดินตามข้างหลัง ชายหนุ่มชี้ไปที่สร้อยคอทองคำขาวสองสามเส้นที่วางโชว์อยู่ แล้วจึงกวักมือเรียกสลิลธารให้เข้ามาช่วยเลือก

“น้ำชอบแบบไหน”

สลิลธารมองรูปหน้าคมนั่นแว่บหนึ่ง นี่เขาถามอย่างกับจะซื้อให้เธอย่างนั้นล่ะ

“พี่ต้นจะมาถามน้ำทำไมคะ น้ำไม่ใช่คนรับนะ ถ้าน้ำเลือกแล้วเขาไม่พอใจจะทำยังไง”

พนาดรไหวไหล่เล็กน้อย “ให้น้ำเลือกก็ดีกว่าพี่เลือกนั่นแหละ น้ำเลือกเถอะ เอามาเส้นนึง นี่ถ้าพ่อไม่สั่งพี่ก็ไม่ถ่อมาถึงนี่หรอก”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเพียงรู้ว่าพนาดรไม่ได้เต็มใจที่จะซื้อสักนิด หัวใจมันก็พองอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่บอกกับตัวเองเสมอว่าเธอจะไม่มีทางมอบหัวใจคืนกลับไปให้ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว

“แล้วคนที่พี่ต้นจะให้เป็นคนยังไงล่ะคะ”

“อืม” พนาดรทำท่าคิดหนัก “ก็ทันสมัยนะ แต่งตัวเก่ง ทันตามแฟชั่นอะไรประมาณนี้”

“งั้นก็...” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังสร้อยคอทองคำขาวที่ประดับด้วยพลอยสีส้ม (Orange Sapphire) “อันนี้ดีไหมคะ สดใสดี น่าจะเหมาะกับเธอ”

“แล้วอันนี้ล่ะ” พนาดรชี้ไปยังสร้อยคอทองคำขาวที่มีจี้รูปปลาโลมาซึ่งประดับด้วยอความารีน

“อันนั้นดีกว่าค่ะ ถ้าเธอเป็นอย่างที่พี่ต้นบอกนะ น้ำว่าอันนั้นดีกว่า อันนี้มันเรียบไปนะ น้ำว่า”

“เหรอ...แต่น้ำชอบอความารีนใช่ไหม” ชายหนุ่มถามขึ้นเบาๆ

“เอ่อ...ค่ะ” สลิลธารอ้อมแอ้มตอบ นึกไม่ถึงว่าพนาดรจะจำได้ว่าเธอชอบอัญมณีชนิดไหน

“งั้นเอาเส้นนี้แล้วกันครับ” พนาดรบอกพนักงานขายในร้านแล้วจึงจัดการจ่ายเงินให้เรียบร้อย

“น้ำไปรอพี่ที่รถก่อนนะเดี๋ยวพี่ตามไป” ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตั้งคำถาม พนาดรก็เดินลิ่วออกจากร้านไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้สลิลธารอ้าปากงับลม

บ้า! พี่ต้นบ้า! ชวนคนอื่นเค้ามาแล้วยังจะมาทิ้งกันอีกนะ บ้าที่สุดเลย!!












พนาดรเดินมายังรถที่จอดไว้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆให้สาวที่ยืนหน้างอ สลิลธารไม่สนใจ สะบัดหน้าหนีเสียอย่างนั้น

“โกรธอะไรพี่อีกครับ” พนาดรถามเมื่อขับรถออกจากนอกห้างเรียบร้อย

“เปล่าค่ะ”

“อย่ามาโกหกเลย เห็นๆอยู่ว่าโกรธ”

“แล้วพี่ต้นทิ้งน้ำทำไมล่ะ” ปลายน้ำเสียงที่ตอบนั้นสะบัด สลิลธารงอนกลับมาอีกแล้ว

“พี่ไม่ได้ทิ้งแค่ให้น้ำกลับไปรอที่รถเฉยๆ”

“ก็นั่นแหละเขาเรียกว่า...” คำสุดท้ายหายไปเมื่อคนข้างๆยื่นกล่องของขวัญสีชมพูหวานมาให้

“อะไรคะ” ถามอย่างอึ้งๆและงงงันเพราะไม่เข้าใจว่าพนาดรจะให้ของขวัญเธอทำไม

“ของขวัญ” ชายหนุ่มตอบพร้อมรอยยิ้มละมุน

“เนื่องในโอกาสอะไรคะ”

“เนื่องในโอกาสที่อยากให้ครับ”

สลิลธารยื่นมือรับกล่องของขวัญสีชมพูนั่นก่อนจะบรรจงแกะโบว์ออกและค่อยๆเปิดมันออกมาดูสิ่งที่อยู่ข้างใน

“อาจจะไม่แพงเท่าไหร่นะ แต่พี่คิดว่ามันน่ารักแล้วเหมาะกับน้ำดี เลยซื้อมาให้ สร้อยข้อมือคงใส่ได้ไม่บ่อย แต่ถ้าที่ห้อยมือถือก็ช่วยใช้หน่อยแล้วกัน" พนาดรพูดรัวเร็ว แทบไม่เว้นช่องว่างในการหายใจ

สลิลธารอมยิ้มกับท่าทีเก้อเขินนั่น ถึงจะไม่แสดงออกว่าเขินแต่อาการพูดเร็วๆของพี่ต้นนี่แหละที่แสดงว่ากำลังเขินอยู่

“ขอบคุณนะคะ” มือบางหยิบสร้อยข้อมือคลิสตัลรูปดาวสีชมพูสลับกับสีขาวมาใส่และหยิบเจ้าพวงกุญแจหมี teddy ที่ทำจากคลิสตัลเช่นกันมาห้อยไว้กับมือถือ

“น้ำใช้แล้วนะพี่ต้น” เธอยื่นมือถือให้พนาดรดู

“อืม” ชายหนุ่มตอบรับในลำคอ

สลิลธารอมยิ้ม พี่ต้นใจดีอย่างนี้เสมอ แล้วเธอจะห้ามใจตัวเองอยู่ได้อย่างไร

ไม่เข้าใจว่าทั้งๆที่ปฏิเสธแล้วแต่ทำไมถึงยังมาทำดีกันอยู่

แล้วเธอ...ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ปฏิเสธไปอย่างที่เคยปฏิเสธมาแล้ว

นี่เธอ...จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกหรือ

สลิลธารลอบมองเสี้ยวหน้าของชายหนุ่มที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงกุมหัวใจเธอไว้ทั้งดวง

ทำไมคะพี่ต้น พี่ต้นสู้บ้างสิคะ สู้เพื่อน้ำบ้างได้ไหม

ถ้าพี่ต้นสู้ซักนิด น้ำคงไม่ต้องเย็นชากับพี่ต้น

ถ้าพี่ต้นสู้ซักนิด น้ำจะได้ปฏิเสธหมอเขตไปได้อย่างเต็มปาก

ถ้าพี่ต้นไม่สู้อยู่อย่างนี้ บางที...บางทีน้ำอาจจะใจอ่อนยอมรับหมอเขตก็ได้นะคะ

ถ้าพี่ต้นไม่สู้...น้ำอาจจะรักหมอเขต...ก็ได้นะคะ













พนาดรจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลตามคำบอกของคนข้างๆว่าเธอจะมาทำธุระที่นี่ ตาคู่คมลอบมองเสี้ยวหน้ามน ถอนหายใจออกมาเบาๆไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ ไม่ว่าจะคิดยังไง ธุระของสลิลธารคงต้องมีคุณหมอเขตคนนั้นมาเกี่ยวแน่ๆ คิดแล้วก็อยากจะตะโกนบอกไปจริงๆว่า ‘ห้ามไปนะ’ แต่ก็นั่นล่ะ มันก็แค่ความคิดลมๆแล้งๆที่ไม่มีวันเป็นจริง

“ขอบคุณนะคะพี่ต้น” สลิลธารหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม

“พี่เดินไปส่งนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ น้ำไปเองได้” อีกฝ่ายปฏิเสธเต็มเสียงจนชายหนุ่มอดที่จะน้อยใจไม่ได้

“กลัวหมอเขตเข้าใจผิดหรือ”

“พี่ต้นกำลังจะหาเรื่องน้ำอีกแล้วใช่ไหม” น้ำเสียงหวานเริ่มแข็งขึ้นมาทันใด

“พี่ไม่ได้หาเรื่อง แค่ถามเฉยๆ” พนาดรบอกเสียงอ่อย

สลิลธารเชิดหน้าขึ้น “พี่ต้นไม่มีสิทธิ์มาถามน้ำอย่างนี้ค่ะ” น้ำเสียงเจือความงอนไว้ไม่ปิดบัง ร่างระหงก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว พนาดรจึงรีบลงจากรถบ้างและก้าวเดินตามมาติดๆ

“น้ำ...อย่างอนได้ไหม” มือหนารั้งแขนหญิงสาวไว้ให้หยุด

“น้ำไม่ได้งอน” มือบางแกะมือของพนาดรให้หลุดจากแขนของตนเอง

“ขอบคุณสำหรับสร้อยข้อมือกับพวงกุญแจนะคะ” พูดจบก็เดินผละออกไป

“น้ำ!”

“น้ำ!”

สองเสียงตะโกนเรียกชื่อหนึ่งสาวพร้อมกัน เสียงหนึ่งเป็นของพนาดรแน่ๆหากอีกเสียงกลับไม่ใช่เสียงของนายแพทย์สิขเรศดังที่ชายหนุ่มคาด แต่เป็นเสียง...

“ป๊า!”
...เป็นเสียงบิดาของสลิลธาร บุคคลอันดับท้ายๆในโลกที่พนาดรอยากเจอ! ชายอายุราวหกสิบกว่ามองมาทางพนาดรด้วยสายตาที่บอกได้เต็มปากว่า ‘ไม่เป็นมิตร’ สักนิด

“น้ำมากับไอ้หมอนี่ได้ยังไง” คุณตฤนหันมาถามลูกสาว

“เอ่อ...” แต่ก็ไม่ได้คำตอบที่พอใจจึงหันไปถามชายหนุ่มคู่กรณีแทน

“นายมาทำอะไรที่นี่กับลูกสาวฉัน”

พนาดรกลืนน้ำลายอย่างฝืดเฝื่อน ลำคอแห้งผาก รู้สึกเหมือนลืมปากไว้ที่ไหนสักแห่ง ไม่รู้จะตอบคำถามว่าอย่างไร เพราะถ้าเขาตอบได้ไม่เป็นที่พอใจล่ะก็...มีหวังไม่มีชีวิตรอดกลับถึงไร่แน่ๆ

“เอ่อ...คือผม”

--------------------------------------------------------------------------------------------


แหะๆ มาช้าไปวันนึ่งเพราะติดธุระค่า ขอโทษนะคะ :)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทุกคอมเมนท์ ทุกไลค์นะค้าาาา



คุยกันเหมือนเดิมเนาะ...



คุณ Amata : แล้วตัวร้ายก็เข้ามาช่วยแต่ไม่ได้ความดีเลยค่าาา

คุณ anOO : คุณดลช่วยค่ะ แต่นนท์ได้ความดีซะงั้นอ่า..

คุณ nunoi : ช่วยเรียบร้อยแต่นนท์ได้หน้าไปค่ะ แงๆ

คุณ ดาวคันชั่ง : มาช่วยค่ะ แต่รินไม่รู้...

คุณ MYsister : คุณดลมาแล้วววว แต่หนูรินเข้าใจผิดคิดว่านนท์ช่วยอ่ะค่าาา

คุณ Auuuu : งานเข้าแต่รอดมาได้ เพราะคุณดลแท้ๆ

คุณ teesaparn : ปากไม่ตรงกับใจก็แบบนี้ล่ะค่ะ :(




ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 เม.ย. 2555, 08:37:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 เม.ย. 2555, 08:37:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 4061





<< บทที่ 16   บทที่ 18 >>
Auuuu 26 เม.ย. 2555, 09:15:44 น.
ทำไมทุกคนไม่ไว้ใจนนท์หว่า??
พี่ต้นเจอว่าพ่อน้ำซะแล้วว จะเป็นยังไงบ้างหว่า
ลุ้นๆๆๆ


nunoi 26 เม.ย. 2555, 10:11:21 น.
เริ่มสงสารพี่ดลซะแล้ว พี่ต้นสู้เพื่อหนูน้ำ หน่อยซิค่ะ


roseolar 26 เม.ย. 2555, 10:42:22 น.
พี่ดลน่าสงสารจัง ขอกอดปลอบที ไม่ได้คิดจะแต๊ะอั๋งนะคะ แค่อยากปลอบใจแทนรินเท่านั้นเอง ฮาาา เฮ้อ!!ต้องทนแบกรับความทุกข์ของแม่ไว้จนไม่สามารถรักรินได้ดังใจหวัง ทรมานน่าดูเลย
ส่วนพี่ต้น ดูท่าจะเจอศึกหนักซะแล้ว ไหนจะพ่่อตา ไหนจะหมอเขต แต่ถ้ารักหมอน้ำจริงก็ต้องสู้นะคะ
ปล.เป็นกำลังใจให้คุณปอแก้วเสมอ อาจไม่ค่อยได้เข้ามาเมนท์บ่อยๆ แต่ก็ตามอ่านอยู่ตลอดนะคะ :)


MYsister 26 เม.ย. 2555, 11:05:35 น.
nai Non na song-sai jingjing.....


ดาวคันชั่ง 26 เม.ย. 2555, 11:36:00 น.
อ้าว นนท์ แอบรับสมอ้างความดีความชอบเป็นของตัเองซะงั้น

สงสารดล และตอนนี้พี่ต้นน่ารัก สู้ๆนะคะ


anOO 26 เม.ย. 2555, 12:10:45 น.
นายนนท์ได้หน้าเลยนะ แต่เดี๋ยวรินคงได้รู้ความจริงแหละ
พี่ต้นเจอป๊าจังๆ แล้วอย่าถอยไปไหนอีกนะ เดินหน้าลุยเต็มที่ ประกาศไปเลย


WallyValent 26 เม.ย. 2555, 17:21:57 น.
พี่ต้น <3 จุ๊บๆๆๆ
(ปล.มาแทะเล็มผู้ชายแล้วก็เดินจากไปเงียบๆ) 5555+


Heronett 27 เม.ย. 2555, 00:19:41 น.
โอ้ยยย พี่ต้น อ่อนแท้เหลา น่าสงสารจังเลย ชอบคู่ของพี่ต้นมากๆ 55 น่ารักจัง


Amata 27 เม.ย. 2555, 10:30:17 น.
น่ารักนะ ทั้งพี่ทั้งน้อง แต่แหมพี่ต้นกล้าๆหน่อยสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account