เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 18




บทที่ 18



ศรินดาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยในชุดไปรเวทสบายๆ หญิงสาวแตะมุมปากที่ถูกทำร้ายเบาๆ บรรจงทายาให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุดแล้วจึงลงมาชั้นล่างเพื่อเข้าไปทำงานในไร่ ไม่ว่าอย่างไรหญิงสาวตัดสินใจแล้วว่าจะเข้าไปทำงาน เธอจะไม่ให้ผู้ชายคนนั้นดูถูกเธอว่าเธอเป็นคนจับจด ทำอะไรไม่สำเร็จ ที่สำคัญ...เธอจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเขา ไม่มีทาง! ในใจร้องลั่นปฏิเสธ โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ว่าเมื่อคืนที่เธอรอดมาได้นั้น คนที่ช่วยเธอไม่ใช่นนทนัฐอย่างที่เธอเข้าใจ แต่เป็น...ธนาดล คนที่เธอจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเขานั่นเอง!

“จะไปไหน”


ร่างบางชะงักกึกเมื่อเสียงๆหนึ่งที่ต่อให้ตายเธอก็ไม่มีวันลืมว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร ศรินดาหมุนตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่คงเพิ่งกลับมาจากไร่

“เข้าไปในไร่ค่ะ” เธอตอบกลับไป อดที่จะขมวดคิ้วน้อยๆเพราะความเจ็บที่แปลบขึ้นมาของแผลที่มุมปากไม่ได้และอาการนั้นก็ไม่พ้นสายตาของธนาดล ชายหนุ่มกำมือแน่นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

“พี่ต้นไม่ได้บอกเธอหรือว่าไม่ต้องเข้าไป”

“บอกค่ะ” รินตอบ ธนาดลเลิกคิ้วสูง

“บอก? บอกแล้วทำไมไม่ทำตาม” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ รู้ว่าศรินดานั้นดื้อ แต่เจ็บตัวขนาดนี้ก็น่าจะเพลาๆความดื้อลงบ้างมิใช่หรือ

ทำไมนะศรินดา ทำไมถึงไม่เข้าใจบ้างว่าคนอื่นเขาเป็นห่วงมากแค่ไหน

เป็นห่วง...ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สมควรที่จะรู้สึกแบบนั้น

แต่มัน...ก็ห้ามไว้ไม่อยู่จริงๆ

“เพราะฉันไม่ต้องการความหวังดีจากคนอย่างคุณ” พูดพร้อมกับมองหน้าธนาดลชัดๆหากก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยแดงเป็นปื้นที่ข้างแก้มชายหนุ่ม

ธนาดลเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองมาที่รอยช้ำก็รีบหันหน้าไปอีกทางไม่ให้ศรินดาได้เห็นรอยแดงนั้นชัดนัก

“ถ้าเธออยากไปมันก็เรื่องของเธอ” ร่างสูงบอก หมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากจะตอบคำถามเกี่ยวกับรอยแดงนั่น ไม่อยากบอกว่าสาเหตุของรอยนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร

“เดี๋ยว” เรียกแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก คนที่ถูกรั้งชะงักแต่ก็ไม่หันหน้ามาพูดกันตรงๆ

“มีอะไร” เสียงทุ้มห้าวถามเสียงต่ำ

“หน้าคุณไปโดนอะไรมา” สาบานได้ว่าเธอไม่ได้เป็นห่วงเขา ไม่ได้เป็นห่วงจริงๆ...มันก็แค่...อยากรู้

“เรื่องของฉัน” แม้ปากจะตอบไปแบบนั้นหาในใจกลับโลดแล่นขึ้นมา

อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นห่วงได้ไหมศรินดา...

เธอเป็นห่วงฉัน...หรือเป็นฉันที่คิดมากไปเอง

ศรินดาเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง นั่นสินะ...เขาจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของเขา ไม่น่าเลยที่เธอคิดจะถามเขาแบบนี้ ถาม...ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบคงออกมาไม่พ้นอย่างนี้

“นั่นสินะ...ต่อให้คุณตายมันก็เรื่องของคุณไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับฉัน” เสียงหวานนั้นแดกดัน แล้วอาการโลดแล่นในหัวใจของธนาดลก็ดับวูบลงทันทีที่ศรินดาพูดจบ

อย่างนั้นหรือ...ฉันมันไร้ค่าขนาดนั้น ไร้ค่า...จนเธอไม่เห็นความสำคัญเลยใช่ไหม

“แต่คุณต้องตอบคำถามฉัน คุณรู้ว่าฉันอยู่กับนนท์ได้ยังไง”

ธนาดลหัวเราะเสียงต่ำในลำคอ “เดี๋ยวนี้เธอมีสิทธิ์คาดคั้นเอาคำตอบจากฉันแล้วหรือศรินดา” พูดทั้งๆที่ยังหันหลังให้หัวใจเจ็บปวดอย่างไรชอบกล

“ตอบคำถามมาเดี๋ยวนี้นะคุณดล คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่กับนนท์ คุณรู้ได้ยังไงว่านนท์ช่วยฉัน" เสียงหวานเริ่มแข็งเมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ธนาดลกัดฟันแน่นเมื่อศรินดาพูดออกมาเต็มปากเต็มคำว่า ‘...นนท์ช่วยฉัน’

ไอ้นนท์มันไม่ได้ช่วยเธอเลย ฉันต่างหากคือคนที่ช่วยเธอ ฉันต่างหากศรินดา! เป็นฉันไม่ใช่มัน!!

“เธอไม่จำเป็นต้องรู้” แม้ในใจจะตะโกนออกไปอย่างนั้นหากสิ่งที่พูดมากลับเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดอย่างสิ้นเชิง

“จำเป็นสิ ฉันจำเป็นต้องรู้ ต้องรู้ว่าทำไมคุณถึงรู้ว่าฉันอยู่กับนนท์ ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์!” รินกระแทกเสียง หญิงสาวต้องการรู้ความจริง ความจริงที่ว่าเขารู้ได้อย่างไร และเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคืนนั้นด้วยหรือไม่

“ฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์”

“คุณโกหก!” ศรินดาตะโกนสวนคำตอบของธนาดลทันที

“คุณโกหก คุณอยู่ในเหตุการณ์ด้วย คุณรู้คุณเห็นทุกอย่างว่านายปารัชกำลังทำร้ายฉัน คุณเห็นแต่คุณก็ยืนมองดูฉันที่ถูกทำร้ายอย่างเลือดเย็น ใช่ไหม?” รินมองแผ่นหลังกว้างที่ยืนหันหลังให้เธอ ธนาดลกำหมัดแน่น บังคับไม่ให้ตัวสั่นเทิ้มกับคำพูดใส่ร้ายของหญิงสาว

“เธอต้องการให้ฉันตอบว่าอะไร... ‘ใช่’ อย่างนั้นใช่ไหม” ชายหนุ่มย้อนถาม

“ตอบตามความจริง คุณอยู่ในเหตุการณ์ใช่ไหม” รินเน้นทุกคำช้าๆชัดๆ เธออยากรู้...อยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้เลือดเย็นขนาดที่ดูเธอถูกทำร้ายได้อย่างนั้นใช่ไหม

ธนาดลหันมามองหน้าผู้หญิงที่กำลังคาดคั้นเอาคำตอบจากเขาช้าๆ ตาคู่คมสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามราตรีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย

“ใช่...ฉันอยู่”

คำตอบของธนาดลเล่นเอารินแทบเข่าอ่อน เลือดเย็น ผู้ชายคนนี้เลือดเย็นที่สุด!

“คุณมันเลว เลวที่สุด!!” น้ำเสียงหวานเอ่ยลอดไรฟัน ธนาดลพยายามสุดความสามารถที่จะกลับมาเป็นธนาดลคนเดิม ธนาดล...คนที่เกลียดศรินดา

“ใช่ ฉันมันเลว ฉันอยู่ดูนายปารัชอะไรนั่นมันทำร้ายเธอ ฉันอยู่ดูเธอด้วยรอยยิ้ม อยู่ดูว่าเมื่อไหร่เธอจะถูกทำลายจนไม่มีชิ้นดี แต่ก็มีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้มาสะเออะทำตัวเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย คิดแล้วก็น่าสมเพชที่หน้ามืดมาช่วยผู้หญิงอย่างเธอ”

เผียะ! ผ่ามือเล็กสะบัดไปเต็มแรงประทับครบห้านิ้วบนใบหน้าของธนาดล ร่างบางสั่นระริก น้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตา

“ฉันเกลียดคุณ! เกลียดๆๆ เกลียดที่สุด!!” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มให้มันสมกับที่เขาทำกับเธอแล้วก็รีบวิ่งขึ้นห้องไป

ธนาดลเองเมื่อร่างของรินลับไปจากสายตา ร่างสูงๆนั้นก็ต้องพิงเข้ากับผนังและค่อยๆนั่งลงกับพื้นเพราะไม่แม้แต่มีเรี่ยวแรงให้ยืนต่อ มันหดหายไปหมดเมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดคำว่า ‘เกลียด’ ออกมาได้เต็มปาก พูดออกมาจนเขารู้สึกว่าเธอเกลียดเขาจริงๆ และความรู้สึกนี้ต่อให้เขาลบล้างมันด้วยความดี ความเกลียดนี้ก็ไม่อาจจางหายไปได้ แม้จะเคยได้ยินคำนี้มามากครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะรู้สึกเจ็บอย่างเช่นครั้งนี้

เธอเคยบอกว่าฉันเลือดเย็น แต่เธอรู้ไหม ว่าเธอในตอนนี้ก็เลือดเย็นไม่แพ้ฉันเลย

เธอเคยบอกว่าฉันใจร้าย แต่เธอรู้ไหม ว่าเธอในตอนนี้ก็ใจร้ายไม่แพ้ฉันเลย

ใจร้ายจริงๆศรินดา

ใจร้าย...ที่มาทำให้รัก แต่กลับรักอย่างที่อยากจะรัก...ไม่ได้












ศรินดาปิดประตูห้องดังปึงแล้วก็ทรุดลงอยู่หลังประตูบานนั้น น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไหลออกมาเป็นสาย ที่ร้องไห้นี่เพราะโกรธผู้ชายคนนั้นใช่ไหมริน โกรธอย่างเดียว ไม่มีความรู้สึกอื่นมาเจือปนใช่ไหม ในใจร่ำร้องถามตัวเองเป็นร้อยรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกอื่นนอกจากความเกลียดชัง แต่ทำไมหัวใจมันต้องเจ็บด้วย มันเจ็บเมื่อรู้ว่าเขาไม่แม้จะสนใจใยดีเธอเลยแม้แต่น้อย กลับมองดูเธอถูทำร้ายได้อย่างเลือดเย็น

ร่างบางสั่นสะท้านมากขึ้นเมื่อความรู้สึกต่างๆประดังประเดเข้ามา ไม่ใช่ใช่ไหมริน เธอไม่ได้ ‘รัก’ เขาใช่ไหม มือบางปาดน้ำตาที่ไหลเปรอะสองข้างแก้มออกอย่างลวกๆ

“ฉันไม่ได้รักคุณ ริน...ไม่ได้รักคุณดล ไม่ได้รักจริงๆ” คำปฏิเสธความรู้สึกดังออกมาอย่างไม่มั่นคง หยาดน้ำตาถูกปล่อยให้ไหลออกมาอีกระลอก

“แก้แค้น...ฮึก...แก้แค้นเท่านั้น...ฉัน...ฮึก...ต้องแก้แค้น...คุณ...”

ทันใดนั้นกระดาษโน้ตใบหนึ่งที่เธอวางไว้บนโต๊ะก็ร่วงลงมาข้างหน้า รินเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดูช้า คิดว่าจะทิ้งไปหลายรอบแล้ว แต่พอจะทิ้งมันก็ต้องชักมือกลับมาทุกที

...ขอโทษ...

ลายมือหวัดที่เขียนคำสั้นๆลงไปในวันนั้น แล้วเธอก็หยิบมันมาดูก่อนนอนทุกคืนเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน
ทำกันแบบนี้แล้วทำไมต้องขอโทษด้วย
อย่าทำให้ฉันเขวได้ไหม

อย่าทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลัง ‘รัก’ คนที่ไม่สมควรจะรักได้หรือเปล่า

มือบางขยำกระดาษโน้ตใบนั้นแล้วเขวี้ยงลงถังขยะ เมื่อความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัว

มันเป็นแค่การแสดงศรินดา มันเป็นแค่การแสดงที่คนอย่างนั้นหลอกล่อให้เธอตกหลุมพลาง หลุมพลางที่เขาวางกับดักที่เรียกว่า ‘รัก’ ไว้

อย่าเชียวนะ...อย่าได้กระโดดลงไป เพราะถ้าเธอโดด เธอนั่นแหละที่จะเจ็บจนตาย

ฉันจะไม่หลงกลคุณเด็ดขาด ไม่มีวัน! ฉันไม่มีวันรักคุณ!!














บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล พนาดรยืนประสานมือไว้ด้านหน้าแน่น แม้จะเคยเจอบิดาของสลิลธารมาแล้วแต่ไม่ว่าจะเจออีกกี่ครั้งความรู้สึกตื่นเต้นก็ไม่เคยจางหายเลยสักครั้ง สายตาดุแสนดุนั่น...ไม่ว่าถูกมองกี่ครั้งก็รู้สึกเสียวสันหลังได้ทุกที

“ว่ายังไง นายมาทำอะไรที่นี่กับลูกสาวฉัน” คุณตฤนถามพนาดรอีกครั้ง สลิลธารมองทางบิดาทีและชายหนุ่มอีกคนที

นี่มันวันมหาวินาศอะไรกันนะ ที่จับคนอย่างป๊าเธอมาเจอกับพี่ต้นตอนนี้!

“เอ่อ...คือผม...ผม...” พนาดรพูดตะกุกตะกักไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรมันถึงจะดีในสายตาของผู้ชายคนนี้เพราะต่อให้เขาหาคำตอบที่มันดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้าคนตอบคือเขามันก็เป็นคำตอบที่แย่ที่สุดในสายตาของคุณตฤนอยู่ดี

“ผม...ผมอะไร ฉันถามว่านายมาทำอะไรที่นี่ กับลูกสาวฉัน!” คุณตฤนถามอีกครั้ง ขีดจำกัดความอดทนเริ่มลดลง

“...ป๊าคะ น้ำว่า...” ยังไม่ทันจะได้ว่าบิดาก็หันมาสั่งเสียงเฉียบเสียก่อน

“เราไม่ต้องว่าอะไรทั้งนั้น อยู่เฉยๆ!”

“ส่วนนาย” คุณตฤนหันมาทางพนาดรอีกครั้ง “ตอบคำถามฉันมาเดี๋ยวนี้”

“คือ...ผม...ผมชวนน้ำไปช่วยเลือกของน่ะครับ” ตอบแล้วในหัวก็มีเสียงตะโกนกลับมาว่า ...โดนแน่ ไอ้ต้น แกโดนแน่ๆ

“นายเห็นลูกฉันเป็นคนใช้หรือยังไง”

...นั่นไง! กะแล้ว เขาพูดอะไรไม่มีวันเข้าหูผู้ชายคนนี้เลยหรือไรนะ...

“ผมยังไม่ได้บอกซักคำเลยนะครับ” น้ำเสียงที่ตะกุกตะกักในตอนแรกเริ่มเข้มขึ้นมาบ้าง

“ไม่ได้บอกแต่การกระทำของนายมันบอกว่าอย่างนั้น” คุณตฤนเถียง ท่านไม่ชอบขี้หน้าไอ้หนุ่มคนนี้จริงๆ ไม่ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นมันมาก่อร่อก่อติดสลิลธารตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้ว ไม่รู้ว่าลูกสาวเขาคบไอ้คนแบบนี้ไปได้ยังไง

“ผมยืนยันได้ว่าผมไม่เคยเห็นว่าน้ำเป็นคนใช้ครับ” พนาดรยืนยันหนักแน่น

“นายบอกกับฉันทางโทรศัพท์ว่ายังไง ยังจำได้หรือเปล่า นายบอกว่านายจะไม่ยุ่งย่ามกับลูกสาวฉัน ทำไมไม่รักษาคำพูด น้ำกำลังจะหมั้นกับหมอเขต หรือว่านายไม่รู้” คุณตฤนพูดคล้ายเยาะเพระดูออกว่าพนาดรนั้นคิดอย่างไรกับสลิลธาร แต่ท่านไม่ยอมหรอก ไม่ยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างนี้เด็ดขาด!

“ป๊า!” สลิลธารร้องเสียงหลงเมื่อบิดาพูดถึงเรื่องหมั้น “น้ำยังไม่ได้คุยกับหมอเขตเรื่องนี้เลยนะคะ”

“เพราะรู้ว่าน้ำไม่คุยไงป๊าถึงต้องขึ้นมาคุยด้วยตัวเอง และถ้าป๊าไม่ขึ้นมาคงไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนี้มาเกาะแกะลูกสาวป๊า”

“ป๊าขา...พี่ต้นเขาไม่ใช่โจรนะคะ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนเฮียเต้ ป๊าไม่เห็นจะต้องเป็นห่วงเลย” สลิลธารเถียงหากก็ไม่เต็มเสียงเพราะรู้ว่าบิดาไม่ชอบขี้หน้าพนาดรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าไม่ถูกกันตั้งแต่ชาติปางไหน

“ป๊าไม่ชอบมัน” คุณตฤนพูดออกมาตรงๆให้เจ้าตัวอย่างพนาดรรับรู้ อาการไม่ชอบหน้าของท่านที่มีต่อผู้ชายคนนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบัง!

ทั้งพนาดรและสลิลธารถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ชายหนุ่มตัดสินใจยอมโอนอ่อนให้ผู้ที่อาวุโสกว่า

“งั้นผมขอลานะครับ” พนาดรยกมือไหว้เพื่อลา

“เดี๋ยว” แต่คุณตฤนกลับเรียกรั้งไว้

“ครับ”

“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายให้รู้เรื่อง ตามมา” ผู้อาวุโสเดินนำโดยมีพนาดรเดินตามหลัง สลิลธารมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ป๊าเธอคงจะไม่จับพี่ต้นหักคอหรอกนะ แล้วความสนใจของหญิงสาวก็ถูกเบนให้มาสนใจกับโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงร้อง

“ฮัลโหล”

“เจอป๊าหรือยัง” ปลายสายถามเรียบๆตามประสา

“เจอแล้ว เฮียเต้บ้า! บ้าๆๆ!! ทำไมไม่โทรมาบอกให้เร็วกว่านี้ว่าป๊าจะขึ้นมา รู้หรือเปล่าว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” น้องสาวตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือ แม้รู้ว่าพี่ชายไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม แต่ดันโทรมาไม่ดูเวลาเองนี่ โดนซะเถอะ!

“ก็เฮียไม่ว่างติดเคสผ่าตัด แล้วเรื่องใหญ่น่ะเรื่องอะไร พูดอย่างกับป๊าไปเจอไอ้ต้นงั้นแหละ”

“ก็ใช่น่ะสิคะ! ป๊าเจอพี่ต้นกำลังคุยกันอยู่ ที่นี้เข้าใจรึยังล่ะ เฮีนเต้บ้า!” ไม่รู้จะระบายที่ใครเลยลงกับพี่ชายเสียอีกที

“เอาเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ป๊าไม่ฆ่าไอ้ต้นหรอก แค่นี้นะ เฮียมีคนไข้” แล้วสายก็หลุดไป

“ฮัลโหลๆๆ เฮียเต้ อย่าเพิ่งวางสิ เฮีย!!” วางโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิดที่สุด ชะเง้อมองคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ไกลๆ

“เอ้าน้ำ ชะเง้อจนคอจะยาวเป็นนกกระจอกเทศอยู่แล้ว มองอะไรครับ” สิขเรศที่ไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ถามหญิงสาวขำๆ

“หมอเขต! มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ เจอป๊าน้ำหรือยัง แล้วป๊าบอกอะไรกับหมอเขตหรือเปล่า” สลิลธารรัวคำถามใส่ชายหนุ่มผู้มาใหม่อย่างรวดเร็ว

“ตอบคำถามไหนก่อนดีครับ” เขาถามยิ้มๆอย่างเคย

“ทุกคำถามเลยค่ะ น้ำอยากรู้ทุกคำถาม”

“โอเคฮะ คำถามแรกนะ... ผมเพิ่งมาเมื่อกี้นี่แหละ แล้วก็ยังไม่ได้เจอคุณลุงเลย ไม่รู้ด้วยว่าท่านขึ้นมาเพราะฉะนั้นเลยยังไม่ได้คุยอะไรกัน เข้าใจชัดไหมครับ” หมอเขตตอบทุกคำถาม สลิลธารพยักหน้าหงึกหงัก

“แล้วน้ำล่ะ ชะเง้อมองอะไร” คราวนี้เป็นคุณหมอเขตที่ตั้งคำถามบ้าง

“โน่นไง” หมอน้ำบุ้ยหน้าไปทางที่บิดาและพนาดรคุยกันอยู่

“คุณลุงกับคุณต้น ทำไมหรือ?”

“ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ แค่พ่อไม่ชอบพี่ต้น”

“ไม่ชอบ? ทำไมถึงไม่ชอบล่ะครับ”

หมอน้ำตวัดสายตามามองคุณหมออีกคน...ขี้สงสัยจริง...หญิงสาวนินทาในใจ

“ก็...แบบว่าเรื่องมันยาวน่ะค่ะ” สลิลธารบอกปัด ก็จะให้บอกได้อย่างไรว่าพี่บิดาเธอไม่ชอบพนาดรก็เพราะ...เพราะ...ลูกสาวคนเดียวของท่านดันมอบหัวใจให้ผู้ชายคนนั้นไปทั้งดวง

“ยาวมากเลยหรือ” คุณหมอเขตถามอย่างจับผิด ก็พอเดาได้คร่าวๆอยู่หรอกว่าทำไมคุณตฤนไม่ชอบพนาดร ‘อาการหวงลูกสาว’ ไม่น่าจะพ้นจากสมมติฐานนี้ แต่ที่เขาสงสัยมันไม่ใช่ข้อนี้ เขาสงสัยว่าพนาดร ‘รัก’ สลิลธารหรือไม่ และสลิลธารเอง ‘รัก’ พนาดรหรือไม่ นั่นล่ะที่เขาอยากรู้ เพราะถ้ารักจริงๆ เขาจะได้ถอนตัวถอนใจออกได้ทัน แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาจะถอนหัวใจออกจากผู้หญิงคนนั้นไหวแน่หรือ…เขาไม่แน่ใจเลยจริงๆ

“หมอเขตสงสัยอะไรน้ำอยู่รึเปล่าคะ” สลิลธารจับน้ำเสียงก่อนหน้านี้ได้ว่ามันมีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่

“เปล่าครับ” ชายหนุ่มปฏิเสธ

“หมอเขต รู้มั้ยคะว่าหมอเขตเป็นคนดีมากๆเลยนะ แต่บางครั้งน้ำก็อ่านหมอเขตไม่ออกเลยว่า น้ำไม่รู้ว่าหมอเขตคิดอะไรอยู่ มีอะไรบอกน้ำได้นะคะ” สลิลธารบอก ยิ้มให้อีกทีเพื่อเป็นการยืนยันในคำพูด

“ได้ครับ ถ้าผมมีอะไรผมจะบอกน้ำ...สัญญา” แววตาหลังกรอบแว่นสีดำแน่วแน่ดั่งคำพูด ...แต่ถ้าผมบอกจริงๆน้ำจะรับได้ไหม จะรับได้รึเปล่าถ้าผมบอกว่า...รัก












ทางด้านคุณตฤนที่กำลังทำการซักฟอกพนาดร ชายหนุ่มที่ท่านไม่รู้สึกถูกชะตามาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ผู้ชายที่เอาแต่ทำงานอยู่ในไร่ จะไปควรค่าอะไรกับลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจที่ทรงอำนาจอย่างคุณตฤน!!

“ฉันจะถามไม่อ้อมค้อม นายรักลูกสาวฉันใช่ไหม” แล้วคำถามนั้นก็ออกมาอย่างตรงๆเหมือนไม้บรรทัด

“ครับ” คราวนี้ไม่มีแววอึกอักในน้ำเสียงของพนาดรแม้แต่น้อย

“งั้นก็หยุดความรู้สึกทั้งหมดของนายซะ ฉันไม่วันยกลูกสาวให้นายแน่” คุณตฤนพูดออกมาด้วยความเด็ดขาด

“ผมทราบดีครับ ว่าคุณลุงไม่มีวันที่จะยกน้ำให้ผม ผมรู้ตัวดีว่าไม่คู่ควรกับน้ำ แต่ถ้าจะให้ห้ามความรู้สึกที่มีต่อน้ำ ผมคงต้องปฏิเสธครับ”

“ได้...เพราะยังไงน้ำก็ต้องแต่งงานกับหมอเขต เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด แต่ฉันขอบอกนายอีกครั้ง อย่าเจอน้ำอีก ถ้าฉันรู้ว่านายเจอน้ำอีก ไร่ของนายได้ล้มแน่ๆ อยากจะลองฤทธิ์เดชกับฉันก็เอา” คุณตฤนเหยียดยิ้มอย่างผู้กำชัยชนะ พนาดรกัดฟันแน่น ผู้ชายคนนี้ถึงจะอายุมากแล้วหากเขี้ยวเล็บยังแพรวพราว ชายหนุ่มรู้ว่าถ้าท่านเอาจริงไร่ที่บิดาเขาอุตส่าห์สร้างมาได้คงได้ล้มไปจริงๆแน่ คุณตฤนคงหาทางปิดตลาดการส่งออกใบช้าของไร่เขาได้ไม่ยาก

“ครับ...ผมจะ...ไม่เจอน้ำอีก” พนาดรรับข้อเสนอนั้น ไร่สำคัญกว่าทุกสิ่ง สำคัญกว่าแม้แต่หัวใจของเขาเอง

“นายก็เข้าใจอะไรง่ายดีนี่ ขอให้ทำตามคำพูดด้วยล่ะ” คุณตฤนเดินผ่านพนาดรเพื่อกลับไปหาลูกสาว ร่างสูงยังยืนนิ่งอยู่กับที่ จบแล้วสินะ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสลิลธาร จบแล้ว...

“อ้าว...ว่าไงหมอเขต” เมื่อจัดการกับเสี้ยนหนามอันใหญ่อย่างพนาดรสำเร็จ คุณตฤนจึงปลีกตัวเดินออกมาทักนายแพทย์สิขเรศที่ยืนเคียงข้างลูกสาว

“สวัสดีครับคุณลุง” สิขเรศกระพุ่มมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม

“พี่ต้น” สลิลธารเรียกคนที่กำลังเดินผ่านเพื่อไปยังรถที่เขาจอดอยู่ หากอีกฝ่ายกลับไม่มองกลับมาเลยแม้แต่น้อย

...เป็นอะไร พี่ต้น...เป็นอะไรไป...

“ป๊าคุยอะไรกับพี่ต้นคะ” สลิลธารหันกลับมาถามบิดา

“ก็เรื่องทั่วๆไป” คุณตฤนตอบ แล้วจึงหันไปคุยกับคุณหมออีกคนแทน สลิลธารมองบิดาเขม่น เธอรู้ว่าป๊าเธอไม่ได้คุยเรื่องทั่วๆไปแน่

ตาเรียวสวยมองตามแผ่นหลังกว้างนั้น รู้สึกหวิวๆในหัวใจอย่างไรชอบกล มันเหมือนกับว่า เธอจะไม่ได้เจอเขาอีกถึงแม้จะอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ใกล้กันแค่เอื้อมถึงแต่กลับรู้สึกว่ามันยิ่งไกลแสนไกล













ศรินดาเดินออกมาจากห้อง ล้างหน้าล้างตาที่เปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตาไม่ให้เหลือร่องรอย หญิงสาวเดินช้าๆตามทางเดินอย่างเผลอไผลโดยไม่ระวังว่าข้างหน้ามีใครคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากห้องหนังสือ ธนาดลรั้งร่างที่จะล้มลงกับพื้นจนปะทะอกของตัวเอง วงแขนแข็งแรงกอดร่างนุ่มนิ่มไว้หลวมๆ พยายามบังคับความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลให้มันสงบนิ่ง บังคับไม่ให้รั้งร่างนี้มากอดไว้แนบแน่น ซึ่งมันยากเหลือเกิน

รินเองก็ตกใจไม่น้อยที่ถูกกอดเอาไว้หลวมๆ หากคราวนี้หญิงสาวไม่ปฏิเสธอ้อมกอดนั้นเหมือนอย่างเคย ตาคู่หวานช้อนมองใบหน้าคมอย่างหวานหยดย้อย ริมฝีปากกระตุกยิ้มน้อยๆอย่างเขินอาย ก่อนที่จะขยับพูดประโยคๆหนึ่งออกมาเบาๆ ทว่ากลับดังในโสตประสาทของธนาดล

“ฉันรักคุณ”

----------------------------------------------------------------------------------------

เอาตอนใหม่มาแปะให้ก่อนค่ะ แล้วต้องรีบออกไปทำธุระอย่างด่วนๆ

ค่ำๆจะกลับมาตอบเมนท์นะคะ ขอติดไว้ก่อน

ตรงไหนตกหล่นขอโทษด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์และกดไลค์ค่ะ :)



กลับมาตอบเมนท์ค่าาาาาาา....


คุณ Auuuu : เพราะทุกคนกลัวว่านนท์จะไม่หวังดีกับคนอื่นในครอบครัวน่ะค่ะ ประมาณว่ารักและหวังดีกับรินคนเดียว

คุณ nunoi : พี่ต้นก็อยากจะสู้นะคะ แต่อุปสรรคก็เยอะเกินจริงๆ

คุณ roseolar : ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ^___^ ส่วนพี่น้องคู่นี้รักช้ำชอกกันจริงๆ คนพี่ก็มีอุปสรรคจากหลานคน คนน้องก็มีอุปสรรคจากความแค้น เง้อ...เขียนไปเขียนมามันชักจะเศร้าไปกันใหญ่แล้วใช่ไหมคะเนี่ยยยย

คุณ MYsister : อิอิ นนท์ไม่ใช่คนไม่ดีนะคะ แต่เค้าแค่ดีมากกกกกกับรินแค่คนเดียว

คุณ ดาวคันชั่ง : นนท์แอบร้ายก็ตอนนี้แหละค่ะ ก็น้า...ความรักไม่เข้าใครออกใครนี่คะ ส่วนพี่ต้นตอนนี้ถอยง่ายไปหน่อยเนอะ T T

คุณ anOO : กว่าจะได้รู้ความจริงไม่รู้ว่านนท์จะได้หน้าไปอีกกี่งานน่ะสิคะ คุณดลก็เป็นพระเอกหลังม่านไป ส่วนพี่ต้น...ก็ประกาศนะคะ ประกาศแล้วก็ถอย...

คุณ WallyValent : เดินมาแทะเล็มพี่ต้นเงียบๆ งั้นภาคพิเศษอย่าลืมมากรี๊ดให้ได้ทุกตอนนะ :)

คุณ Heronett : คู่ของพี่ต้นบางทีก็น่ารัก บางทีก็น่าเศร้าค่ะ T^T

คุณ Amata : พี่ต้นอยากกล้าค่ะ แต่ป๊าน้ำดุเกิ๊นนนนน // ปล. ขอให้ตาหายเจ็บไวๆนะคะ


**** ปล. พรุ่งนี้เจอกันเหมือนเดิมค่า (พี่อาร์มก็มาน้าาาาา) ****



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2555, 10:21:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 เม.ย. 2555, 21:50:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 2126





<< บทที่ 17   บทที่ 19 >>
Heronett 27 เม.ย. 2555, 11:34:49 น.
โอ๊ยยยยพี่ต้นนะพี่ต้น ทำไมยอมง่ายแบบนี้เนี่ย คนเชียร์เซ็งนะเนี่ยยย


Amata 27 เม.ย. 2555, 11:41:43 น.
ตามคุณดลคุณต้นน้องรินน้องน้ำไม่ทันแล้ว ตาก็เกิดมาเจ็บอีก(ถูกน้องตบลูกแบดใส่เต็มเบ้าตา)
ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคู่เลยน๊า...


nunoi 27 เม.ย. 2555, 11:55:49 น.
เอาหล่ะซิ หนูรินเริ่มทำการแก้แค้นซะแล้ว แต่ระวังนะจ๊ะ ตัวเองจะเจ็บไปด้วย
พี่ต้นยอมง่ายไปนะ สู้ๆหน่อยซิค่ะ เอาใจช่วยอยู่นะเนี๊ยะ


MYsister 27 เม.ย. 2555, 11:59:10 น.
Nu'rinnnn tum a-rai ja ????? ;-) kun Don ja lov mai a?? T-T
P.s kun Amata take care na ka ;-)


เด็กหญิงม่อน 27 เม.ย. 2555, 12:39:34 น.
หนูรินทำอะไรอ่าาาาาาาาาาา สงสารคุณดล


ดาวคันชั่ง 27 เม.ย. 2555, 13:38:08 น.
ได้เวลารินเอาคืนแล้วสินะคะ แค้นกันไปแค้นกันมา เฮ้อ

สงสารพี่ต้น พ่อหมอน้ำใจร้าย


tutas 27 เม.ย. 2555, 14:01:57 น.
กว่าจะตามอ่านให้ถึงตอนล่าสุดเหนื่อยเอาการเลยค่ะคุณปอแก้ว แต่พออ่านมาถึงตอนนี้แล้วทำไมมันดราม่าอย่างนี้ล่ะคะ เศร้าจังเลย สงสารทุกคนเลยค่ะ แงๆๆ


anOO 27 เม.ย. 2555, 14:21:51 น.
ยัยเริ่มแก้แค้นแล้วใช่ไหมเนี้ย
พี่ต้น ทำไมไม่สู้หน่อยล่ะ อีตาคุณป๊าก็ช่างขู่จริงๆ


Auuuu 27 เม.ย. 2555, 15:57:13 น.
เฮ้อออออออออออออออ


หมูบูลิน 27 เม.ย. 2555, 18:37:44 น.
สงสารทั้ง2คู่เลยอะ


บุรีวาด 28 เม.ย. 2555, 01:54:05 น.
ตามมาอ่านรวดเดียวเลยค่ะ แอบเครียดนะคะเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account