ซ้อนซ่อนรัก

“อาการของคุณธามธง บอกได้ชัดนะคะว่าเป็นโรคSexual Sadism”
“พูดง่ายๆ ก็คือ...”
“ค่ะ คุณธามธงเป็นโรคซาดิสม์”
..................................


เมื่อชีวิตสมรสของ “ธามธง” และ “เพียงพร” ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เพราะปมอดีตปวดร้าวทำให้ความสุขเกือบพังทลาย
...ความลับ-ความรักที่จำต้องเก็บซ่อนไว้ของ “เอกรัช” ผู้ชายอบอุ่นที่หวังดูแลเธอมาตลอด
...สัมพันธ์ลับที่ต้องซ่อนไว้ภายใต้รักซ้อนของ “มนรดา” ปรารถนาครอบครองทำให้เธอเรียกร้องต้องการ
...จิตแพทย์สาว “เวทิตา” ผู้บำบัดดูแลรักษาจิตไร้สำนึกที่ซ่อนอยู่ภายใน


เมื่อรักไม่ได้มีแค่สอง...คนที่หวังครอบครองเป็นเงื่อนซ้อนซ่อนอยู่ในรัก

Tags: เอสเอ็ม ดราม่า ซาดิสม์

ตอน: ตอนที่ 3

ตอนที่ 3

ราตรีรัตติกาลคืนนี้ไร้ดวงดาวเสียจริง เอกรัชยืนมองท้องฟ้าพลางจิบกาแฟอุ่น ดึกมากแล้วแต่เขาก็ชินกับการนอนเช่นนี้ งานเขียนเพิ่งเริ่มได้นิดหน่อยแต่ใจเหม่อลอยของเขาทำให้เขียนต่อไม่ได้ เขาคิดถูกหรือเปล่าที่อาศัยร่วมชายคากับสองคนที่รัก ยามดึกสงัดเช่นนี้สองสามีภรรยาคงแสดงความรักต่อกันอยู่ในห้องบนชั้นเดียวกัน

เอกรัชพ่นลมหายใจ วันที่เขาเจ็บปวดที่สุดคือวันที่เพียงพรแต่งงาน ผู้หญิงที่เขาดูแลและบอกกับตัวเองตลอดว่าคือน้องสาว เขาคิดเอาเองว่าวันเวลากับความห่างไกล คงทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ไม่ใช่เลย ในวันนี้เขายังรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากวันนั้น ใครกันนะเอ่ยมาว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น มันคงใช้ไม่ได้กับเขา

....................


ร่างใหญ่เดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางอิดโรย เขาเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ความจริงอยากนอนต่ออีกสักหน่อย ติดตรงที่ว่าวันนี้เขาต้องออกไปหาข้อมูลเพื่อหนังสือเล่มใหม่

“อ้าว ไอ้เอก ตื่นเช้าเชียว”

“เออโว้ย แกกับน้องเพียงทักฉันเหมือนกันเลยนะ ทำไมวะฉันตื่นเช้ามันแปลกมากนักเหรอ?”

“แปลกสิวะ” ธามธงเอ่ยอารมณ์ดี “มา กินข้าวเช้าด้วยกันก่อน”

“เออดี ฉันหิวมากกกกกก”

เอกรัชลากเสียงอารมณ์ดีก่อนนั่งร่วมโต๊ะ เขาไม่เอะใจกับอาหารมื้อเช้าของสามีหนุ่ม ไข่ลวกหลายใบตรงหน้าธามธงพานทำให้เขาอดแซวไม่ได้

“โด๊ปแต่เช้าเชียวนะ เมื่อคืนหนักเหรอวะ”

“ทำนองนั้น”

“หึ แกพูดให้ฉันเริ่มอิจฉาแล้วนะเนี่ย”

“อิจฉาก็แต่งงานซะทีซิวะ อายุก็เยอะแล้วหาคนดูแลได้แล้ว”

“อยู่นู้นทีนี่ทีจะไปเจอใครได้ไงวะ อกหักมาหลายปีขี้เกียจหาใหม่แล้วว่ะ”

“แกเคยอกหักด้วยเหรอ? ฉันไม่ยักรู้”

“แล้วแกเคยสนใจฉันด้วยเหรอ สมัยเรียนก็เห็นสนใจแต่น้องเพียง...เอ่อ แล้วน้องเพียงไปไหนล่ะ ไม่มากินข้าวเช้าด้วยกันเหรอ?”

“ยังไม่ตื่น สงสัยไม่ค่อยสบาย นี่ก็สั่งป้านิ่มไว้แล้วว่าสายๆ ถ้ายังไม่ดีขึ้นให้พาไปหาหมอหน่อย ถ้าฉันไม่ติดลูกค้าสำคัญก็คงพาไปเอง” ธามธงยกข้อมือขึ้นดูเวลา “เฮ้ย ฉันไปก่อนนะเดี๋ยวค่ำๆ เจอกัน”

เอกรัชพยักหน้ารับรู้ มือหนาใช้ช้อนเขี่ยอาหารเช้าไปเรื่อยก่อนยกกาแฟขึ้นจิบเพียงเล็กน้อยแล้วลุกออกไป แต่แทนที่จะออกไปหาข้อมูลอย่างที่ตั้งใจไว้ ร่างใหญ่กลับเดินขึ้นชั้นบนตรงไปยังห้องนอนของเพียงพร มือหนายกขึ้นตั้งท่าจะเคาะประตูแต่ก็ต้องลดลง

เมื่อไรจะเลิกเป็นอย่างนี้เสียที ทำไมต้องพะวงกับคนรักของเพื่อนสนิท มันไม่ดีเลยสักนิด...

“อ้าว พี่เอก” ร่างเล็กที่เปิดประตูออกมาทักขึ้นอย่างงงๆ เอกรัชได้เพียงแต่ยิ้มเจื่อนให้ “มีอะไรเหรอคะ?”

“เออ พอดีเห็นไอ้ธามบอกว่าน้องเพียงไม่ค่อยสบาย พี่...พี่ก็เลยขึ้นมาดู”

“ขอบคุณมากนะคะ”

“แล้วนี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปหาหมอมั้ย? พี่ไปเป็นเพื่อน”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เอก เดี๋ยวกินยาแล้วนอนพักก็คงหาย เมื่อคืนเพียงนอนดึกก็เลยเพลียๆ”

อย่างว่าสินะ ธามธงออกจะรักเพียงพรมากมาย คงแสดงบทรักต่อกันทุกค่ำคืนไม่รู้เบื่อ ภรรยาจะอ่อนเพลียเพราะรสสวาทของสามีก็ไม่แปลก เอกรัชเหมือนมีอะไรจุกอก ชอบทำให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่เรื่อย เพียงพรคงไม่ได้เป็นอะไรมากมายอย่างที่เขาวิตกเสียหน่อย

“งั้น...พี่ขอตัวไปเขียนงานต่อก่อนนะ ถ้าน้องเพียงอยากไปหาหมอก็ไปบอกพี่แล้วกัน”

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่เอก”

เพียงพรมองดูแผ่นหลังกว้างของพี่ชายแสนดี ผ่านไปนานเท่าไร เอกรัชก็ยังห่วงใยเธอไม่เคยเปลี่ยน เพียงพรเปลี่ยนใจหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ น้ำตาอุ่นไหลออกทางเรียวตาอย่างที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ทำไมเธอถึงรู้สึกถึงความอบอุ่นประหลาดจากเอกรัช บางครั้งเธอก็เผลอคิดไม่ได้ว่าอยากให้คนที่เธอใช้ชีวิตร่วมด้วยเป็นพี่ชายที่แสนดีคนนี้ แต่เธอก็ละอายต่อความคิดนั้น

..........................

ธามธงละมือจากเอกสารที่กองพะเนินตรงหน้า เขากดโทรศัพท์หาภรรยาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อปลายสายปิดเครื่อง เขาจึงโทรเข้าบ้านหวังถามอาการของเพียงพรกับหัวหน้าแม่บ้าน

“สวัสดีค่ะ”

“ผมเองนะครับป้านิ่ม น้องเพียงเป็นยังไงบ้างครับ?”

“คุณเพียงยังไม่ลงมาทานข้าวเลยค่ะคุณผู้ชาย แต่ป้าเอานมไปให้ที่ห้องแล้วค่ะ เห็นว่าทานอะไรไม่ค่อยลง”

“งั้นบอกน้องเพียงด้วยนะครับว่าผมจะรีบกลับ ฝากป้านิ่มดูแลน้องเพียงด้วยนะครับ ถ้าไม่ดีขึ้นรีบพาไปหาหมอเลยนะครับ” ธามธงสั่งเสียงจริงจัง

“ค่ะคุณผู้ชาย”

ธามธงวางสายอย่างกังวล เขาใช้ร่างกายเพียงพรหนักไปหรือเปล่า เขารักเพียงพรมาก แต่ไม่รู้ทำไมว่ายามต้องการสวาทปรารถนาจึงห้ามตัวเองไม่ได้ เพลิงพิศวาสของเขารุนแรงจนบางครั้งเขาก็รู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดปมด้อยที่ทำให้คนรักต้องเจ็บตัว

ผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง หน้าตา การศึกษา ฐานะ กลับมีความน่ารังเกียจแฝงอยู่ ธามธงคิดเสมอว่าบางทีเขาไม่ต่างอะไรจากซาตานในคราบเทพบุตร แต่เขาหยุดปรารถนาเช่นนั้นไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเป็นเช่นนี้

....................

หนังสือเล่มหนาถูกปิดลง นิ้วเรียวยาวเคาะบนหนังสือเล่มที่เพิ่งถูกปิดไปเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง วันนี้เขาไม่มีสมาธิเขียนหนังสือเอาเสียเลย เพียงพรแค่เป็นอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็พานทำให้เขาว้าวุ่นเสียแล้วเหรอ

เป็นเอามากนะ...ไอ้เอก

เอกรัชถอนหายใจลุกออกมายืนสูดอากาศหน้าระเบียงกว้าง ดวงตาเข้มหลุบมองแปลงดอกไม้เล็กๆ มันคือกุหลาบสีขาว ดอกไม้โปรดของเพียงพร ธามธงคงปลูกเอาใจภรรยาสุดสวย

“หึ หาเรื่องเจ็บแท้ๆ เล๊ยไอ้เอกเอ๊ย”

เสียงทุ้มบ่นกับตัวเอง เขาสะบัดศีรษะไล่ความคิด ลงไปหาอะไรใส่ท้องดีกว่า ตั้งแต่เช้าเขาได้กาแฟอุ่นรองท้องไปนิดเดียว หากกินอิ่มงานน่าจะเดินได้ดีกว่านี้

ร่างใหญ่เดินเชื่องช้าจนมาหยุดที่หน้าห้องนอนของเพียงพร เป็นเวลาเดียวกับที่ป้านิ่มออกมาพร้อมถาดอาหาร

“คุณเอกคะ ช่วยดูคุณเพียงหน่อยได้มั้ยคะ ตัวร้อนจี๋เลย” ทันทีที่เห็นเอกรัช หัวหน้าแม่บ้านก็ร้องบอก

เอกรัชไม่รอถามอะไรต่อรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินตรงไปที่เตียงใหญ่ ร่างเล็กนอนหน้าซีดผิดกับเมื่อเช้าที่เจอ มือใหญ่อังหน้าผากพลันสะดุ้งเพราะความร้อน

“น้องเพียง น้องเพียง” เสียงทุ้มนุ่มร้องเรียกเจือกังวล

“เอาไงดีคะคุณเอก”

“เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่นี่ครับ เห็นบอกว่าจะกินยาแล้วนอน ทำไมตกบ่ายตัวร้อนจี๋”

“ป้าว่าพาคุณเพียงไปหาหมอดีกว่านะคะ เดี๋ยวป้าจะบอกคนขับรถให้เอารถออก”

“ครับป้า”

พ้นร่างแม่บ้านไป เอกรัชหันมามองร่างเล็กที่หลับตาอยู่ มือใหญ่ลูบศีรษะอย่างรักใคร่ เพียงพรพยายามปรือตามองผู้ชายตรงหน้า ความร้อนวิ่งทั่วร่างจนเธอรู้สึกไม่สบายกายและยากที่จะขยับตัว

“พี่เอก...”

“น้องเพียงไปหาหมอนะ เดี๋ยวพี่พาไป”

“เพียงไม่อยากไปค่ะ”

“ไม่ได้นะน้องเพียง อย่าทำให้พี่เป็นห่วงสิ”

เพียงพรมองดวงตาคมที่แฝงไว้ด้วยความห่วงใย พี่เอกของเธอไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ เคยดูแลแทนธามธงอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ทุกครั้งที่ธามธงไม่อยู่ข้างกาย เอกรัชจะเป็นคนแรกที่คอยดูแลเธอเสมอ

ร่างเล็กถูกช้อนขึ้นโดยแขนแกร่ง ใบหน้าสวยซุกแนบตรงอกอบอุ่นด้านซ้าย เสียงหัวใจเต้นของเอกรัช เธอได้ยินมัน ใจเธอก็เต้นแรงไม่แพ้กัน ความรู้สึกอบอุ่นปกป้องที่เธอร้องเรียกหา เหมือนกับว่าพี่ชายคนนี้จะมีให้ได้ตลอด

....................

ไม่นานนักธามธงก็บึ่งรถคันหรูมาถึงโรงพยาบาล ร่างใหญ่รีบก้าวไปยังห้องพักวีไอพี ทันทีที่เห็นร่างเล็กนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย สามีก็โผเข้าประคองกอดภรรยาสุดที่รักอย่างไม่อายสายตาใคร มือใหญ่ทั้งลูบศีรษะทั้งสัมผัสดวงหน้าสวย ริมฝีปากอุ่นกดลงบนหน้าผากอย่างรักใคร่ห่วงใย

“น้องเพียงเป็นยังไงบ้างคะ”

“เพียงแค่เป็นไข้เองค่ะพี่ธาม ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“พี่เป็นห่วงหนูแทบแย่”

“พี่ธามไม่น่าต้องทิ้งงานมาเลยนะคะ หมอฉีดยาให้แล้วเดี๋ยวคงดีขึ้น”

เพียงพรระบายยิ้มน้อยๆ ให้สามีที่นั่งกุมมือพานมองเลยไปยังร่างสูงอีกคนที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหน้าต่าง เอกรัชเบือนหน้าออกมองด้านนอก มันยากนักที่จะอยู่มองสามีภรรยาพรรณนาคำหวาน

“เดี๋ยวฉันไปรอข้างนอกก่อนนะ”

เสียงพูดช่างห้วนเหลือเกินในความรู้สึกของคนฟัง แววตาเฉยชาที่หลบวูบนั่นอีก เพียงพรมองตามจนประตูปิดลง

“น้องเพียง...”

“ค่ะ พี่ธาม”

“พี่...พี่ขอโทษนะคะที่เมื่อคืน...”

“เพียงไม่อยากพูดเรื่องนี้ค่ะ”

มือเล็กบิดออกจากการเกาะกุมพลางเบือนหน้าหนี เพียงพรน้ำตารื้น รักหรือก็รัก แต่กามตัณหาดิบเถื่อนมันทำให้เธอทรมานทั้งกายใจเสียเหลือเกิน ร่างกายเธอมิใช่อิฐใช่ปูนถึงจะรองรับอารมณ์โรจน์ร้อนรุนแรงได้ทุกคืนวัน

“พี่เองก็รู้สึกไม่ดีที่เป็นอย่างนี้ แต่...แต่พี่ห้ามตัวเองไม่ได้”

“ที่เพียงไม่สบายไม่เกี่ยวกับพี่ธามหรอกค่ะ อากาศเปลี่ยนเพียงก็เลยเป็นไข้ พี่ธามอย่าคิดมากเลยนะคะ”

ถึงแม้มันจะไม่ใช่อย่างที่เธอพูด แต่เธอก็มิอยากให้สามีเฝ้าโทษตัวเอง เขาคงรู้สึกผิดจริงๆ แววตาเศร้าเจือวิตกมันบ่งบอกได้ดี และถึงแม้เขาจะยอมรับว่าเป็นความผิดของตน แต่มันก็มิทำให้กามาโรจน์ร้อนออกไปจากตัวธามธงได้

“น้องเพียง...พี่สัญญานะคะว่าพี่จะพยายามข่มใจ พี่จะถนอมน้องเพียงมากกว่านี้นะคะ”

“พี่ธาม...”

“พี่รักน้องเพียงมากนะคะคนดี”

หากเป็นอย่างที่สามีรับปากไว้ก็คงดี เธอเองก็รักธามธงมาก หวังอยากมีความสุขกับครอบครัวเหมือนคนปรกติธรรมดา อยากร่วมสวาทรักด้วยอ่อนโยนมิใช่เถื่อนโหด บางครั้งเธอก็แอบคิดไม่ได้ว่าธามธงอาจมีอะไรซ่อนอยู่ภายใน บางอย่างที่เธอไม่อาจล่วงรู้ได้

ร่างใหญ่ยืนกอดอกพิงกำแพงไม่ห่างจากประตูห้องพักคนไข้ เขาไม่ได้ยินบทสนทนาของคู่สามีภรรยาหรอก แต่แค่อากัปกิริยาที่สามารถมองเห็นจากช่องกระจกตรงประตูนั่น มันก็ทำให้คนแอบรักเช่นเขารู้สึกชาวาบไปทั้งหัวใจ

.................

ทั้งที่วันนี้เพียงพรจะต้องกลับบ้าน แต่งานที่กองพะเนินทำให้ธามธงปลีกตัวไปรับภรรยาสาวสวยไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่พ้นโยนหน้าที่ให้เพื่อนสนิท มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่เอกรัชต้องทำหน้าที่ดูแลเพียงพรแทนธามธง ครั้งเมื่อเขาไปศึกษาต่อต่างประเทศ ก็มีเพื่อนรักคนนี้ที่ไว้ใจฝากเพียงพรให้ดูแลแทนได้

ประธานหนุ่มวางสายจากเพื่อนสนิทและก้มหน้าตรวจตราดูเอกสารต่างๆ เสียงเคาะประตูดังพอเป็นมารยาทก่อนร่างอรชรจะปรากฏกายในห้องทำงานพร้อมถาดกาแฟร้อนและของว่าง ประธานหนุ่มหล่อมิได้สนใจเลขาคนใหม่

“ขอบคุณมากครับคุณสุ เสร็จงานแล้วคุณกลับก่อนได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมขอเคลียร์งานก่อน”

“ดิฉันชื่อมนรดาค่ะ คุณสุธานันท์ลาออกไปแล้วค่ะท่านประธาน”

ใบหน้าหล่อเงยมองร่างอรชรตรงหน้า คิ้วขมวดตั้งคำถามกับตัวเองเพียงครู่เดียวก็ได้คำตอบพลางระบายยิ้มกว้างออกมา

“นั่นสิ คุณสุธานันท์ออกไปแล้วนี่นา ผมลืมไปเลย”

“ท่านประธานคงทำงานหนักจนลืมไปว่าวันนี้ดิฉันเริ่มงานเป็นวันแรก”

“ผมลืมวันเวลาประจำ อีกหน่อยคุณคงชิน” ธามธงเอ่ยติดตลก

“ดื่มกาแฟกับของว่างก่อนนะคะ ตอนกลางวันท่านประธานก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยไม่ใช่เหรอคะ ดิฉันก็มัวแต่เรียนรู้งานเลยไม่ได้นำอาหารกลางวันมาเสิร์ฟ ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ งานผมเยอะด้วยเลยลืมเรื่องกินไป...วันนี้คุณกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ผมขอทำงานต่อก่อน”

เลขาสาวสวยพยักหน้า ร่างอรชรเดินกลับออกไปจากห้องทำงานหรู ปล่อยให้ประธานหนุ่มทำงานต่อโดยไม่รบกวน

....................

เวลาล่วงเลยจนสองทุ่ม ธามธงถึงได้เงยหน้าจากงานเอกสาร นิ้วเรียวยกขึ้นกดเบ้าตาก่อนทิ้งแผ่นหลังลงเอนกับพนักพิง ความจริงเขาไม่ค่อยชอบชีวิตที่เป็นอยู่สักเท่าไร งานธุรกิจของครอบครัวไม่ได้อยู่ในหัวสมองเขาเลยแม้แต่น้อย จะว่าไปก็อิจฉาเพื่อนรักที่ได้ทำงานอย่างใจชอบและตรงตามที่เรียน เขาเสียอีก ทั้งที่จบระดับปริญญาตรีสาขาวารสารแท้ๆ กลับต้องบินไปเรียนบริหารราวกับต้องเริ่มใหม่และกลับมานั่งโต๊ะประธานกรรมการ กี่ปีแล้วที่ต้องเรียนรู้งานในบริษัทที่เป็นทรัพย์มรดกทั้งที่ไม่ชอบ แต่หลายคนก็ลงความเห็นว่าธามธงบริหารงานได้ดี แต่นั่นใช่สิ่งที่เขาต้องการซะเมื่อไรกัน

สายตาดุมองที่แก้วกาแฟโดยลืมไปสนิทว่าเลขาคนใหม่นำมาเสิร์ฟ ป่านนี้คงเย็นชืดแล้วล่ะ กลับไปชื่นใจภรรยาคนสวยที่บ้านเห็นจะดีกว่า

รถคันหรูจอดสนิทเมื่อถึงโรงรถของคฤหาสน์ ร่างสูงเดินเนิบช้าราวกับเหนื่อยซะเหลือเกิน สายตาดุพลางมองหาภรรยาคนดีซึ่งปรกติจะเดินมารับ

“น้องเพียงล่ะครับป้านิ่ม” ธามธงถามเมื่อเห็นแม่บ้านประจำคฤหาสน์

“นอนอยู่ค่ะคุณผู้ชาย”

“แล้วไอ้เอกไม่อยู่เหรอครับ เงียบเชียว”

“คุณเอกออกไปข้างนอกค่ะ เห็นว่าจะไปหาเพื่อนที่ทำงาน...คุณผู้ชายจะรับอาหารเลยมั้ยคะ ป้าจะได้ตั้งโต๊ะให้”

“น้องเพียงทานข้าวเย็นไปหรือยังครับเนี่ย” น้ำเสียงนุ่มแฝงความห่วงใยทำเอาหญิงสูงวัยอดยิ้มให้กับความรักของคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงของบ้านนี้ไม่ได้

“เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณเอกให้คุณเพียงทานข้าวทานยาเรียบร้อยแล้วคุณเอกถึงออกไปข้างนอกน่ะค่ะ”

“อ๋อครับ งั้นผมขอไปดูน้องเพียงก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยลงมาทาน”

ธามธงนึกโล่งอกที่มีเอกรัชคอยดูแลภรรยาให้ ความสนิทรักใคร่กันมากมายทำให้ไม่ทันนึกว่าเพื่อนสนิททำเช่นนั้นเพราะแอบหลงรักเพียงพรมาตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยด้วยกัน แม้ธามธงไม่สั่งให้ดูแล เอกรัชก็พร้อมที่จะทำอยู่แล้ว

ร่างเล็กที่หลับซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาทำให้ธามธงอมยิ้มน้อยๆ เขานั่งลงบนเตียงข้างกายหญิงสาว มือใหญ่ลูบศีรษะภรรยาอย่างรักใคร่ เขาจะหักห้ามกามตัณหารุนแรงของเขาได้หรือเปล่า มันเป็นคำถามที่อยู่ในสมองเมื่อเห็นเรือนร่างเนียนสวยนอนหลับเป็นสุขอยู่ตรงหน้า ธามธงกลืนน้ำลายยากลำบาก ความรุนแรงมันฝังลึกเหลือเกินยากจะถอน ทำไมยามใคร่ปรารถนาเขาถึงกลายเป็นซาตานป่าเถื่อน หรือความรักของเขาถูกสาปให้เป็นเช่นนี้...







พัณอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 เม.ย. 2555, 20:05:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 เม.ย. 2555, 20:05:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1490





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
Zephyr 29 เม.ย. 2555, 23:09:24 น.
ทำไมพี่ธามต้องรุนแรง เฮ้อ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account