พรางรักพรางพิศวาส

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 3

พรางรักพรางพิศวาส

ตอนที่3

ชัชรับร่างหญิงสาวที่สลบไปเพราะฤทธิ์ยาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง จนจมูกแทบชิดแก้มนวลซับสีเลือดเนื่องจากไม่สบาย กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณของที่นี่ที่เขาชื่นชอบก่อนหน้านี้ คงไม่เท่ากลิ่นเนื้อสาวรัญจวนยวนใจอ่อนๆตรงหน้าที่ได้สัมผัส และอยากจะสัมผัสให้ลึกซึ้งแนบไปถึงใจเมื่อได้ยินบทสนทนาซึ่งเขาก็ไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองนัก แต่รู้ว่าหญิงสาวในอ้อมกอดเขาเรียกเจ้าของร้านที่นี่ว่า ‘ แม่ ’

ชายหนุ่มปรับให้ร่างบางมายืนพิงอกเขา แล้วโอบไหล่ไว้เพื่อไม่ให้ใครสงสัย เดินตรงไปยังรถโฟร์วิลคู่ใจสีดำที่จอดอยู่ด้านนอก เปิดประตูด้านข้างคนขับออกแล้ววางหญิงสาวลง เอื้อมมือไปรัดเข็มขัดนิรภัยให้ นิ้วแกร่งปัดปอยผมลอนสีดำที่คลอเคลียแก้มนวลออกไปทัดที่ใบหู พลางนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทำให้เขาได้พลอยประจันทร์กลับมาโดยไม่ต้องสืบหา และได้พลอยบริสุทธิ์มาประดับใจโดยที่ไม่ต้องสืบประวัติให้ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่คำว่าพรหมจรรย์ที่เหลืออยู่ ก็ทำให้ใจเขาพองโต จนอยากจะตีตราจองเป็นเจ้าของร่างบางที่อยู่ตรงหน้า แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่แน่ใจในตัวเธอหลายอย่าง ทั้งของสำคัญของเขาไปอยู่ที่เธอได้อย่างไร ไหนจะความสัมพันธ์กับหญิงเจ้าของร้านที่ดูจะคลุมเครือ และเขาจะเจอมันด้วยวิธีใดคงไม่มีใครรู้เพราะเขาจะเก็บไว้เป็นความลับไว้กับตัวเองเท่านั้น คิดแล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าคมเพราะไม่ใช่เรื่องยากหากจะสืบประวัติ นิ้วแกร่งจึงไล้แก้มนวลเรื่อยมาจนถึงริมฝีปากอิ่มอ้อยอิ่ง ใช้ปลายนิ้วแม่โป้งไล้คลึงกลีบปากที่แสนนุ่มละมุน แล้วยกปลายนิ้วนั้นขึ้นมาสัมผัสที่ปากตัวเองเพียงบางเบา แล้วกลับไปแตะที่ริมฝีปากอิ่มนุ่มอีกครั้งอย่างสนิทเสน่หา


“ แล้วเราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้ นางโจร ”

******


แสงตะวันที่ส่องไปทั่วห้องสีขาวสะอาดตา ทำให้คนที่อยู่บนเตียงต้องพลิกตัวหนีหันหลังให้ และกระพริบตาปรอยๆขึ้นมองเมื่อเริ่มรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่แค่เพียงคนเดียว และก็เป็นจริงอย่างที่คิด เมื่อเห็นร่างหนึ่งกำลังเลื่อนผ้าม่านให้แสงส่องเข้ามา ร่างที่นอนอยู่จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดตาไล่แสง ก่อนที่ผ้าม่านจากหน้าต่างอีกบานจะถูกเลื่อนจนเพิ่มแสงสว่างจนแผดจ้า คนที่นอนอยู่จึงโอดครวญและลุกขึ้นนั่ง ผมยาวสีน้ำตาลทองคลอเคลียอยู่ที่แก้มเรื่อและต้นคอขาวลาดมายังไหล่มน ดวงตากลมโตหรี่มองคนกระทำ เม้มริมฝีปากแดงระเรื่อ แล้วทำแก้มป่องเหมือนจะร้องไห้

“ โธ่นม ปลุกกันแต่เช้าเลยหรือคะ ”

นางเอื้องส่ายหน้ายิ้มให้อย่างเอ็นดู แล้วรูดผ้าม่านที่หน้าต่างบานสุดท้ายขึ้นจนสุด

“ เช้าที่ไหนกันคะ สายแล้วค่ะ ”

ร่างเล็กคอตก แล้วหลับตาลงอีกครั้ง และต้องสะดุ้งเมื่อถูกตีเข้าที่แขน

“ โอ๊ย! นม ตีเพียงทำไมคะเนี๊ย ” หญิงสาวลูบแขนตัวเองที่โดนตีไปมา แล้วยื่นแก้มป่องเหมือนเด็กๆ

“ แค่ทำโทษเด็กดื้อนอนตื่นสาย ไปเรียนเมืองนอกเมืองนามานานแล้วลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคนแก่รึไง ”

ดวงตาใสสีดำซุกซนกลิ้งเกลือกขึ้นบนไปมาเหมือนใช้ความคิด แล้วยิ้มออกมาจนเต็มใบหน้า

“ เฮ้อ! ลืม…..”

“ คุณหนู!!! ”

“ ซะเมื่อไหร่ล่ะค่ะ ” พูดจบคนบนเตียงก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยืดตัวขึ้นหอมแก้มนุ่มของนางเอื้องที่ทำหน้าบึ้งเพราะเกือบจะน้อยใจ หญิงสาวซบหน้าระหว่างทรวงนิ่มอย่างอ้อนๆแล้วยกแขนกอดเอวหนาไว้ นางเอื้องยกมือขึ้นมาลูบผมนิ่มไปมาอย่างแสนรัก

“ อยู่ที่โน้นเป็นไงบ้างคะ สบายเหมือนเมืองไทยรึเปล่า ”

ร่างน้อยในอ้อมแขนส่ายหน้าเบาๆ “ เพียงคิดถึงบ้านแทบทุกวัน ยิ่งวันไหนที่คุณพ่อ คุณแม่ นม หรือพี่ชัชโทรไปหา เพียงก็อยากจะเรียนจบซะเดี๋ยวนั้น จะได้กลับมาหาคนที่เพียงรักและรักเพียงเสียที ” ร่างบางซุกในอ้อมแขนและกระชับกอดแน่นขึ้น

“ โถ แม่คุณของนม ” นางเอื้องน้ำตาซึมออกมาอย่างสงสารคุณหนูของนางที่ต้องระเหเร่ร่อนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนถึงต่างประเทศ และการไปอยู่เพียงคนเดียวไกลพ่อไกลแม่ไกลพี่คงทำให้เหงาไม่น้อย เหมือนตัวนางเองที่อยู่ไกลลูกหลานก็เหงาและคิดถึงแทบขาดใจเหมือนกัน

“ ไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่านะคะ คุณท่านรอทานข้าวอยู่ข้างล่าง ”
เพียงชีวาทำตาโตแปลกใจ แล้วผละออกจากร่างหนา เงยหนาขึ้นถามนางเอื้องเสียงตระหนก

“ นายโจรทราบ ”

“ ทุกอย่างค่ะ ”

มือบางยกขึ้นตบหน้าผากตัวเองอย่างเสียรู้ “ จบกัน แผนย่องขึ้นบ้านโจร ” พูดจบเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาพร้อมกันจนลั่นห้อง เมื่อนึกถึงว่าแผนกี่เรื่องกี่ครั้งที่ตัวเองก่อจะต้องถูกผู้ชายสองคนที่จับได้ คนหนึ่งเป็นพ่อ คนหนึ่งเป็นพี่ที่เหมือนพ่อ และถึงแม้จะคนละท้องแต่เธอก็รักเหมือนพี่ชายแท้ๆโดยไม่มีข้อแม้ใดๆมาทำให้ใจเคลือบแคลง

“ นายโจรจ๋า ดูซิว่าใครมา ”

เสียงเล็กหวานที่คุ้นหูไม่ได้ทำให้คนหน้าเคราที่อยู่หลังหนังสือพิมพ์แสดงอาการใดออกมา นอกจากลอบยิ้มอยู่ด้านหลังและยกกาแฟขึ้นจิบ พลิกกระดาษแผ่นใหญ่หน้าต่อไปอ่านต่อ ทำให้เจ้าของเสียงหวานย่นจมูกเพราะรู้ว่าถูกเอาคืนเข้าให้แล้ว นางเอื้องที่ถือโถข้าวอยู่ข้างโต๊ะและคมกับขวานที่ยืนเข้มอยู่จึงยิ้มออกมาให้ในท่าทางที่แสนน่ารักของคุณหนูเพียงชีวา

“ ข้าน้อยสมควรตาย ที่กลับมาโดยไม่บอกแล้วหวังจะย่องเบาขึ้นบ้านนายโจร ”

“ แน่ใจหรือ ” โชติเลื่อนกระดาษหนังสือพิมพ์ลงจากหน้าแล้วพับลงวางไว้บนโต๊ะข้างตัว

“ ค่ะ ”

“ อย่าท้าพ่อ เพียงชีวา ”

“ ไม่ได้ท้า แต่เพียงผิด เพียงยอมรับ เพื่อไม่ให้เสียเกียรติลูกสาวของนายโจร ที่ต้องเข้มแข็งและอดทนเหมือนที่แม่คอยสอนมาตลอดว่าไม่ว่าถูกหรือผิดยังไงก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตนกระทำ ”

โชติยิ้มอย่างภูมิใจในสายเลือดที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่กล้ายอมรับผิด แต่ยังไงคนผิดก็ต้องได้รับบทลงโทษ

“ แม่รู้รึเปล่าว่ากลับมา แล้วมาหาพ่อที่นี่ ”

“ เปล่าค่ะ ”

“ แล้วจะทำยังไงกับความผิดที่มีต่อแม่ครั้งนี้ ”

“ พานธูปเทียน พานดอกไม้ไปขอขมา ” เพียงชีวาก้มหน้ารับผิด จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าของคนที่เธอเรียกว่านายโจร

“ แต่สำหรับพ่อ วันนี้ต้องอยู่บ้าน ห้ามออกไปไหน เพราะพ่อจะพาผู้ชายมาดูตัวแก ”

“ นายโจร / นายท่าน ” หญิงสองคนอุทานขึ้นมาพร้อมกัน เพียงชีวาหันไปขอความช่วยเหลือทางสายตาจากนางเอื้อง และไม่ว่าหญิงสาวจะขอความช่วยเหลือหรือไม่ก็ตาม ยังไงนางก็ไม่เห็นด้วยที่พ่อจะจับลูกคลุมถุงชน

“ นายท่านคะ คุณหนูยังเด็ก อย่าเพิ่งให้ออกเรือนเลยค่ะ ”
“ ฉันก็ไม่ได้บอกซะหน่อย ว่าจะให้ยัยเพียงออกเรือน แค่พาคนมาดูตัวเท่านั้น ”

“ แต่….”

โชติยกมือขึ้นห้าม “ คุณหนูของเอื้องโดนตามใจมามากแล้ว และนี่คือบทลงโทษที่ยัยเพียงควรได้รับ จะได้เลิกเล่นอะไรเป็นเด็กๆเสียที ”

หญิงสองคนสองวัยหันมาสบตากันอีกครั้งด้วยความหนักใจ แต่ก็พูดอะไรออกไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะคำสั่งของนายโจรหรือนายท่าน คือคำศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนแปลงยกเลิกได้ แล้วแยกย้ายอิริยาบถทำหน้าที่ของแต่ละคน เมื่อได้ยินอีกคำสั่งหนึ่ง

“ ตักข้าวเถอะ ฉันหิวแล้ว ”

นางเอื้องจึงเดินไปตักข้าวให้นายท่านด้วยสีหน้าหนักใจ ส่วนเพียงชีวาก็เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วสอดตัวลงไปนั่งอย่างใจลอย ครุ่นคิดจนไม่ใส่อาหารโปรดตรงหน้าที่มีหลากหลายอย่าง พลางนึกถึงคนๆนึงที่อาจจะช่วยเธอได้ ‘ พี่ชัช ’ ลูกชายอีกคนหนึ่งของนายโจร

****

แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาทางช่องไม้ซีกเล็กที่เรียงตัวกันเป็นตัวเพิงบ้านอย่างง่ายๆ เสียงโมบายกระดิ่งที่แขวนดังขับขานยามสายลมพัดกระทบ จนคนที่นอนบนฟูกจึงกระพริบตาปรอยๆไล่แสงที่กระทบเข้ามาสะท้อนดวงตา แล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆที่หน้าผาก จึงเอามือหยิบขึ้นมาดู ผ้าสีขาวชื้นที่พับเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า ทำให้เรื่องผ้าปริศนาเมื่อคืนย้อนเข้ามาสู่ความทรงจำ
เมื่อคืนเธอกำลังหาต่างหูพลอยประกายจันทร์ที่หล่นหายแล้วผ้าผืนขาวเล็กปริศนาก็มาปิดจมูกเธอ แล้ว แล้ว เธอก็จำอะไรที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ได้ หรือว่า

“ โดนวางยา ” เธอกระซิบออกมาแผ่วเบากับตัวเอง

“ ฟื้นแล้วหรอ ”

อลินหันไปทางต้นเสียงที่ไม่ได้มองหน้าเธอ ชายหนุ่มร่างสูงยืนพิงประตู แต่สายตาหรุบมองลงไปที่มือ หมุนอะไรเล่นไปมาอย่างที่เธอไม่สนใจนอกจากความสงสัยที่ว่า เขาเป็นใคร และทำแบบนี้ทำไม ร่างบางยันตัวขึ้นนั่งหันมองไปรอบห้อง ที่มีเพียงหน้าต่างคู่สองบาน ตู้เสื้อผ้าหนึ่งใบ และกระจาดผลไม้บนโต๊ะข้างเตียง รวมถึงเตียงนอนที่เธอนอนอยู่

“ คุณเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน ” เสียงหวานดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มที่เขารู้ว่านุ่มแค่ไหนจากการที่ปลายนิ้วได้สัมผัสเมื่อคืน

“ เก่งที่ไม่โวยวาย ”

หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น แล้วถอนหายใจออกมาเมื่อไม่ได้คำตอบ แต่กลับโดนแหย่แทน

“ คุณไม่ตอบคำถามไม่เป็นไร แต่กรุณาพาฉันกลับบ้าน เพราะถ้าคุณต้องการเงิน คุณคงผิดหวัง ฉันคงมีให้ไม่มาก เพราะฉันก็แค่คนหาเช้ากินค่ำ ”

“ งั้นฉันคงสมหวัง เพราะสิ่งที่ฉันอยากได้ไม่ใช่เงิน ”

“ แล้วคุณอยากได้อะไร ”

ชัชก้าวเดินเข้ามาหาร่างบาง หญิงสาวกระถดตัวหนีไปชิดริมเตียงเรื่อยๆจนติดกำแพง และไม่ทันที่จะได้ลุกขึ้นหนี มือหนาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อเท้ากลม จนร่างบางของอลินมาชิดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม จนเธอต้องเอามือขึ้นมาดันไหล่เขาไว้ ริมฝีปากได้รูปจึงโน้มมาชิดกระซิบริมฝีปากอิ่ม และจ้องเข้าไปในดวงตากลมโตที่ไหววูบไปอย่างตระหนก

“ ผู้ชายอยากได้อะไรจากผู้หญิงล่ะ และฉันก็ต้องการสิ่งนั้น ”

“ ฉันไม่มี ” เธอเชิดหน้าตอบและพยายามดันให้ตัวเขาออกห่างจากตัวเธอ แต่คงไม่เป็นผลนอกจากคนที่จับจะปล่อยเอง

“ ฉันรู้ว่าเธอมี ”

“ แต่ฉันไม่ให้ ”

“ จะให้ดีๆหรือจะให้เพราะจูบ ”

หญิงสาวจึงเม้มริมฝีปากไว้แน่น เพราะไม่อยากเสียจูบให้คนแปลกหน้า ที่ชาตินี้เธอสาบานได้ว่าไม่เคยเจอชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอเลยสักครั้ง ชายหนุ่มที่เธอคิดว่าโฉด ชั่วและห่ามที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

“ เงียบปฏิเสธหรือเงียบยั่วนางโจร ” ชัชถามขึ้นเมื่อเห็นคนหวงเนื้อหวงตัวเอาแต่เม้มริมฝีปากแน่น และคำถามก็ยังคงไม่ได้คำตอบเหมือนเดิม ชายหนุ่มจึงขยับเข้าใกล้ร่างบางเข้าไปอีก แล้วก้มหน้าจะควานหาความหวาน แต่ก็ต้องหยุดเพียงแค่นั้น เมื่อเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าหน้าอกเสื้อสั่นขึ้นชัชจึงผละออกจากร่างงาม

อลินขยับตัวเล็กน้อยและเป่าปากออกมาอย่างโล่งใจที่รอดพ้นออกจากระยะหวามที่ไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ แต่แล้วตากลมโตก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อชายแปลกหน้าของเธอรั้งต้นคอสวยเข้ามาจูบคลึงฝีปากอิ่มที่อุ่นร้อน มือหนาคลึงคลำไปทั่วร่างจากต้นแขน สีข้าง เลื่อนสู่สะโพกกลมมน เลื่อนขึ้นมายังเสื้อเชิ้ตสีดำ แล้วเลิกออกผ่านหน้าท้องแบนราบ เลื่อนไปสู่แผ่นหลังละเอียด หยุดนิ่งที่ตะขอบรา จนหญิงสาวสะดุ้งตกใจ เป็นโอกาสที่ชายหนุ่มเข้าไปค้นหาความหวานล้ำจากริมฝีปากอิ่มที่แม้กลีบกุหลาบก็คงกระด้างเกินไปหากจะมาเทียบเปรียบกัน

ชัชเคล้าคลึงริมฝีปากอิ่มที่ซาบซ่านถึงความหวานฉ่ำ แล้วผละออกอย่างเสียดาย เพราะเสียงอู้อี้ที่ดังในลำคอ ทำให้เขารู้สึกตัวขึ้นมาบ้างว่าเธอคงหายใจรับบทวาบหวามจากเขาไม่ทัน และคงต้องเรียนรู้อีกเยอะและยาวไกล เพราะตั้งแต่นี้ไปเขาจะไม่ปล่อยให้ใครมาเป็นครูสอนเธอนอกจากเขาเพียงผู้เดียว
หญิงสาวได้แต่ยืนอ่อนระทวยในอ้อมแขนเขา และกว่าเธอจะได้สติก็ต่อเมื่อชายแปลกน้าแต่หน้าไม่แปลก กระซิบแผ่วเบาเย้าอารมณ์ที่ข้างหูว่า “ เงียบเพราะยั่ว ” แล้วจะรุกมาที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่…

“ เพี๊ยะ ” หน้าคมหันไปตามแรงฝ่ามือที่ฟาดลงมาบนใบหน้า แต่ความเจ็บที่เขาได้รับคงไม่เท่ากับความเสียใจที่เธอมี เพราะดวงตาหวานฉ่ำแดงก่ำเหมือนคนจะร้องไห้

“ ถ้าคุณรังแกฉันจนพอใจ ก็ปล่อยฉันไปเถอะ ยังมีอีกหลายชีวิตที่ฉันต้องกลับไปรับผิดชอบ และฉันจะคิดซะว่าเราสองคนไม่เคยเจอกัน ถ้าเจอกันก็ไม่ต้องทัก และคำว่านางโจรของคุณคงไม่ใช่ฉัน เพราะฉันไม่เคยขโมยของของใคร แค่แพะที่คุณจับมารับบาป ”

“ เดี๋ยวก็รู้ ” ชายหนุ่มพูดอย่างหยันๆแล้วผลักร่างบางให้นั่งลงที่เตียงนอน

“ เอ๊ะ! ”

“ นั่งลง เดี๋ยวจะมีคนเอาอาหารกับยามาให้ แล้วกินซะ เพราะถ้าฉันกลับมาแล้วยังเหลือ ฉันจะป้อนเธอด้วยปาก และถ้าคิดหนีมันจะโดนมากกว่าจูบเมื่อกี๊ เพราะฉันจะจูบไปทั้งตัวเธอ ”
พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกจากห้อง ปิดประตูดัง “ โครม”
ปล่อยให้หญิงสาวกำมือผ้าปูที่นอนแน่นเพราะความเจ็บช้ำที่ได้รับ น้ำตาไหลรินออกมาอย่างสุดกลั้น พลางคิดถึงชีวิตที่บ้านว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง หากรู้ว่าเธอหายตัวไป เพราะตอนนี้เธอคงทำได้แค่นี้ คืออยู่ในนี้ตามคำสั่งเขา ชีวิตจะได้ปลอดภัย และยังคงเหลือความสาวไว้เพื่อหล่อเลี้ยงหลายชีวิตในร้าน และหากเกิดอะไรขึ้น เธอจะกลับไปมองหน้าแม่ได้อย่างไร เพราะแค่ทำของสำคัญหายไปมันก็รู้สึกแย่พอแล้ว แล้วความคิดก็วกกลับมาที่เดิม ว่าเขาเป็นใครถึงมาทำหยาบคายกับเธอแบบนี้ แถมยังบอกว่าเธอเป็นนางโจร


****

ชัชเดินออกมาจากเพิงบุปผาที่โอบล้อมไปด้วยดอกไม้หอมหลากหลายที่เขาชื่นชอบกลิ่นของมัน แต่คงไม่เท่ากลิ่นของคนในเพิงที่หอมและหวานยิ่งกว่า เขาพาเธอมาที่เหมืองสายแร่พลอยเพื่อจะได้พิสูจน์ความจริงหลายอย่างที่เขาอยากรู้ และในเมื่อของชิ้นสำคัญที่เขาตามหา มันไปอยู่ที่เธอ แล้วจะไม่ให้เรียกว่า นางโจรได้อย่างไร

คิดแล้วชัชก็ได้แต่เหยียดมุมปากขึ้นจนยากจะเดาว่ายิ้มหรือหยันกันแน่ แล้วหยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กดรับและกรอกเสียงออกไป

“ ไงยายเพียง โทรซะถี่เชียว ”

“ พี่ชัชทำไรอยู่คะเนี๊ยะกว่าจะรับ รู้มั๊ยว่าน้องเดือดร้อน ”

“ ไม่รู้ ” ชัชตอบพลางยกมือขึ้นลูบริมฝีปาก เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ไม่ได้รับโทรศัพท์เมื่อครู่

“ งั้นฟังนะคะ พี่กำลังจะได้น้องเขย นายโจรกำลังจะยกเพียงให้ผู้ชาย ”

****

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ค่ะ

จุฑารา



จุฑาราา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 เม.ย. 2555, 17:24:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 เม.ย. 2555, 17:28:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1822





<< ตอนที่2   ตอนที่ 4+แจกหนังสือ >>
มะลิ 28 เม.ย. 2555, 20:35:45 น.
ปูเสื่อรอตอนต่อไปค่ะ เข้มข้นขึ้นทุกที


ธนพร 28 เม.ย. 2555, 21:04:44 น.
นางโจรโดนจูบ อ๊ายๆ


pattisa 29 เม.ย. 2555, 21:55:32 น.
จะให้ดูตัวหรือจะยกให้เลย พูดให้เคลียร์ พี่ชายยิ่งไมชอบพ่อ่ยู่เดี๋ยวเข้าใจผิด


ตุ๊กตาสีนำ้เงิน 4 พ.ค. 2555, 21:08:41 น.
ชอบๆๆๆ อยากอ่านอีก


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account