เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 20

ตอนนี้อาจมีบางฉากที่ค่อนข้างแรงนะคะ ถ้าอ่านแล้วคิดว่าแรงไปก็ขอโทษด้วยค่ะ -/\-




บทที่ 19



ฟอร์จูนเนอร์สีดำปลาบหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าวัดๆหนึ่ง วัดซึ่งตั้งอยู่นอกตัวเมือง วัดเล็กๆที่เงียบสงัดทว่าร่มรื่น ต้นโพธิ์ต้นใหญ่ขยายกิ่งก้านสาขากรองแสงแดดจนเหลือเพียงแสงสีทองส่องรำไรทอดลงสู่พื้น ธนาดลหาที่จอดรถ ดับเครื่องยนต์ ปลดเข็มขัดนิรภัยให้พ้นตัว เสี้ยวหน้าคมหันมามองผู้หญิงที่ร่วมเดินทางมาด้วยก่อนจะออกคำสั่งเบาๆ

“ลงได้แล้ว”

“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม” แทนที่จะทำตามที่เขาบอก แต่หญิงสาวกลับตั้งคำถามถามเขาแทน

“ลงมา อย่าถาม” ชายสั่งเสียงเย็น เปิดประตูลงจากรถโดยไม่สนใจคนข้างๆเลยแม้แต่น้อย ศรินดามองคนที่ลงจากรถด้วยแววตาขุ่นเคืองพลางท่องนะโมสามจบ ทำใจให้สงบไม่ให้วีนแตกขึ้นมากลางวัด ไม่อย่างนั้นเธอคงจะตกนรกแทนที่จะได้ขึ้นสวรรค์เพราะความดีที่เพียรสะสมมาเป็นแน่

หญิงสาวเปิดประตูรถก่อนจะยืนมองคนที่กำลังรวบช่อกุหลาบช่อโตซึ่งห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลเพื่อกันหนามอันแหลมคมไว้ในอ้อมแขน ไม่รู้ทำไมศรินดาถึงอดยิ้มตามกับท่าทางเก้งก้างนั่นไม่ได้ ผู้ชายตัวโตกำลังพยายามถือกุหลาบช่อใหญ่อย่างระมัดระวังไม่ให้กลีบสวยงามทว่าบอบบางเหล่านั้นช้ำเพียงสักกลีบเดียว

“ยิ้มอะไร” น้ำเสียงทุ้มถามดุๆเพื่อกลบเกลื่อนท่าทาง รินเชิดหน้า กลั้นยิ้ม

“เปล่า”

“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม ยังจะมาโกหกอีก อยู่ในวัดในวา โกหกผิดศีลไม่รู้หรือ”

“ก็ยิ้ม...แล้วทำไม ผิดกฎหมายมาตราไหนมิทราบ” รินลอยหน้าลอยตาถามกลับ

“ก็ไม่ได้ผิดมาตราไหนแต่มันเกะกะสายตาฉัน” คนตัวโตตอบกลับเสียงขุ่น ไม่ชอบจริงๆยามศรินดาทำหน้าตาอมยิ้มอย่างนี้เพราะมันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัดเธอออกจากใจยากขึ้นกว่าเดิม

“แล้วใครใช้ให้คุณมอง” รินถามกลับ จงใจจะกวนประสาทอีกฝ่ายเต็มที่

“ไม่ได้มองแต่มันเห็นเอง” ตอบออกไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองนี่ ‘ไถ’ ไปข้างๆคูๆได้เก่งเสียจริง

“ไถไปได้นะ” รินบ่นเบาๆ หากก็ไม่พ้นระบบการฟังของธนาดล

“เธอพูดว่าไงนะ”

“ก็บอกว่า...ไถไปได้น” ตอบแถมต่อท้ายในใจว่า...ไร้เหตุผลสิ้นดี

“นี่เธอ!”

“อ๊ะๆ” รินทำเสียงห้าม เมื่ออีกฝ่ายทำท่าทางแยกเขี้ยวจะตะครุบเธอ “ที่นี่วัดนะคะ เก็บอารมณ์หน่อยก็ดีนะคุณดล”

เจอดักอย่างนี้คนที่เตรียมจะ ‘ทะเลาะ’ จึงต้องสงบปากสงบคำทันที ท่องในใจว่า ขันติ...ขันติ อย่าได้ขันแตกมาเชียว ที่สำคัญวันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายปีที่เขามาทำบุญให้กับบุคลที่รักที่สุดด้วยตัวเขาเอง

แม่มาอยู่ที่นี่เมื่อนานมาแล้ว ตามคำขอสุดท้าย...แม่อยากกลับมาอยู่ใกล้ๆพ่อ

ธนาดลผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ เหลือบมองคนที่พามาด้วยนิดหนึ่งโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะมองมาที่กุหลาบช่อใหญ่ที่ตนเองถืออยู่ ดอกไม้ที่มารดาของเขาชอบมากที่สุด

แม่ไม่โกรธนะครับที่ผมพาศรินดามาด้วย

และแม่...ก็คงจะไม่โกรธใช่ไหมครับ

ที่ผม...รักผู้หญิงคนนี้ รัก...มากจริงๆ

ร่างสูงก้าวเดินนำหน้าได้ระยะหนึ่งก็ต้องหยุดเมื่อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนที่ต้องเดินตามมา ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไปมองคนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ปากบางเม้มแน่น จมูกเชิดรั้น คิ้วเรียวสวยขมวดชิด บ่งบอกได้อย่างดีว่าเจ้าตัวคงจะไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่

“เป็นอะไร ทำไมไม่เดินตามมา”

“แล้วทำไมฉันต้องเดินตามคุณ”

“ฉันให้เดินตามก็เดินอย่างมาถามมาก”

“ไม่” รินปฏิเสธเสียงแข็ง ยืนนิ่งอยู่กับที่

“ฉันบอกให้เธอตามฉันมา” น้ำเสียงนั้นทั้งแข็งและเย็นชาในคราเดียว

“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม คุณมาทำบุญให้ใครใช่ไหม” หญิงสาวคาดเดา และคิดว่าไม่น่าจะผิดด้วย กุหลาบหลากสีสันหลายดอกที่เขาหอบมาด้วย ดอกไม้ที่มารดาของเขาชอบมากที่สุด

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”

“แล้วคุณพาฉันมาทำไมเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของฉัน คุณมาไหว้กระดูกแม่คุณใช่ไหม แล้วที่คุณพาฉันมาด้วยเพราะคุณต้องการจะต่อว่าฉันต่อหน้ากระดูกแม่คุณใช่หรือเปล่า ใช่ไหม” เสียงหวานเอ่ยรอดไรฟัน ธนาดล มองไปยังดวงหน้าสวยนิ่งเรียบ ดวงตาคู่คมสีนิลสบสายตาอีกคู่หนึ่งตรงๆ

ไม่ใช่เลย...ฉันไม่ได้พาเธอมาเพื่อว่าร้าย

ไม่ใช่...สักนิดเดียว

“เงียบทำไม ที่ฉันพูดมันคือความจริงใช่ไหม คุณใจร้ายมากนะคุณดล ใจร้ายจริงๆ” อยากจะต่อว่าให้เขาเจ็บมากกว่านี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเวลาว่าเขา น้ำตาเธอต้องรื่นขึ้นมาทุกที

นี่เธอเป็นอะไรไปศรินดา เธอเป็นอะไร!

ธนาดลยังคงยืนนิ่งและเงียบ ไม่มีคำตอบอะไรหลุดออกจากริมฝีปากหยักลึก

“คุณคิดจะทรมานให้ฉันตายทั้งเป็นเลยใช่ไหม”

ไม่ใช่! ในใจตะโกนออกไปอย่างนั้น

“ที่คุณทำอยู่ตอนนี้มันชดใช้กับความเจ็บปวดที่คุณได้รับหรือยังคะ ความทรมานที่ฉันได้รับตอนนี้ มันพอที่จะชดใช้ให้คุณพอหรือยัง” น้ำเสียงศรินดาสั่นจนธนาดลจับได้ ชายหนุ่มลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

“เธอยังต้องโดนอีกเยอะศรินดา” ก่อนจะตอบในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่หัวใจคิดอย่างที่สุด

...และฉันก็คงต้องเจ็บอีกเยอะ...ไปพร้อมๆกับเธอ

“ได้ค่ะ...แต่ฉันไม่มีทางที่จะยอมเจ็บคนเดียว เพราะคุณ...เป็นคุณที่จะต้องเจ็บมากกว่าฉัน” รินย้ำหนักแน่นเดินมาเผชิญหน้ากับธนาดลก่อนจะเดินผ่านไป

ธนาดลหมุนตัวเดินตามคนที่ย้ำเน้นความเจ็บปวดที่เขาต้องเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังครับ...จะจำไว้ว่าแม่ต้องทรมานมากแค่ไหน

จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเจ็บกว่าแม่ ผมจะทำให้ได้ครับแม่

ธนาดลเร่งฝีเท้าเพื่อมาเดินเคียงข้างศรินดา เคียงข้าง...หากรู้สึกว่ายิ่งเดินกลับยิ่งห่างไกลมิใช่ใกล้อย่างที่ควรจะเป็น

ศรินดาเหลือบมองร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยไม่สนใจสิ่งใดรอบข้าง มอง...แล้วก็รู้สึกเจ็บลึกๆอยู่ในอก คิดหาคำตอบหลายต่อหลายครั้งว่าทำไมพักหลังเธอถึงอ่อนไหวกับคำพูดของเขามากนัด มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอคิดว่าธนาดลเปลี่ยนไป ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่แค่นั้นก็พอที่จะทำให้เธอรู้สึกได้ว่า...เขาเปลี่ยนไป

แต่มันก็เป็นแค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ สั้นมากจนเธอเองเกือบลืมไป มันเหมือนกระพริบตาแล้วพอลืมตาขึ้นมาก็หายไปและกลับมาเป็นธนาดล ผู้ชายที่ใจร้ายที่สุดในสายตาของเธอดังเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย เธอต่างหากที่เริ่มเปลี่ยน ใจเต้นเวลาเขาเข้าใกล้ เจ็บที่หัวใจเวลาเขาต่อว่าแรงๆ อาการแบบนี้ยากนักที่จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ ‘รัก’

ไม่ใช่! เธอไม่ได้รักเขา ไม่มีทาง!! เธอไม่ได้รัก...ไม่ได้รัก...ไม่ได้รัก!!!

มันก็แค่ความอ่อนไหว อารมณ์ชั่ววูบหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คำว่า ‘รัก’

ไม่ใช่แน่นอนเธอไม่มีวันที่จะ ‘รัก’ ผู้ชายคนนั้น ไม่มีวัน!!











ใช้เวลาไม่นานนักทั้งคู่เดินมาถึงโกฏิเก็บกระดูกซึ่งศรินดาคาดว่าน่าจะเป็นของมารดาธนาดล หากสิ่งที่ทำให้ทั้งเธอและเขาตกใจกคือภาพของผู้หญิงวัยกลางคนซึ่งกำลังปัดกวาดโกฏิกระดูกจนสะอาดไม่มีแม้ใบไม้สักใบร่วงอยู่ข้างๆ กุหลาบสีขาวถูกจัดไว้ในแจกันอย่างดี

“แม่!” รินร้องออกมาอย่างตกใจเช่นเดียวกับมารดา ศิรสาหันมามองตามเสียงที่เรียก ไม้กวาดที่ถืออยู่ร่วงลงพื้นเพราะตกใจกับสายตาของธนาดลที่มองมา

“ริน...คุณดล”

“มาคุยกับผมนอกวัดด้วย” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม ไม่อยากที่จะให้เกิดการมีปากมีเสียงกันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้

“คุณมาทำไม!” ธนาดลถามเสียงต่ำ เมื่อทั้งสามเดินออกมานอกบริเวณวัด ไม่พอใจที่สุดยามเมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ต่อหน้าโกฏกระดูกของมารดา

“คือน้า...น้า...” ศิรสาอึกอัก หาคำตอบให้กับลูกเลี้ยงผู้เอาแต่ใจอย่างธนาดลไม่ได้

“ผมถามว่าคุณมาที่นี่ทำไม!!” ความอดทนของธนาดลหมดลงทันทีเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการในครั้งแรก ชายหนุ่มก้าวเข้าหาผู้สูงวัยกว่าอย่างมาดร้าย แต่ศรินดาก็ยังเร็วกว่าที่จะเอาตัวเองเข้ากั้นไว้

“คุณจะทำอะไรแม่ฉัน” หญิงสาวถาม จ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาแข็งกร้าว

“ไม่เกี่ยวกับเธอ...หลบไป”

“นี่แม่ฉัน ฉันไม่มีวันยอมให้คุณทำร้ายแม่ฉันเด็ดขาด!” ศรินดาบอกเสียงเด็ดขาด สองแขนกางกั้นปกป้องมารดา

“ฉันบอกให้เธอหลบไปศรินดา เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะแม่เธอ แม่เธอคนเดียว!” ธนาดลกระชากร่างบางออกให้พ้นทาง

“ริน!!” ศิรสาร้องปิ่มจะขาดใจเมื่อเห็นลูกสาวล้มไปกองกับพื้นตรงหน้า

“เจ็บใช่ไหมที่เห็นคนที่รักที่สุดเป็นอย่างนี้ คุณเจ็บใช่ไหม แล้วผมล่ะ ผมที่เสียแม่ไปตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ เด็กขนาดนั้นต้องมาเห็นแม่ตายไปต่อหน้าต่อหน้า คุณคิดบ้างหรือเปล่าว่าผมจะเจ็บมากแค่ไหน!” สิ่งที่อัดอั้นมาตั้งแต่อดีต ความเจ็บปวด ชอกช้ำถูกระบายออกมาจากให้คนที่ชายหนุ่มคิดมาเสมอว่าคือสาเหตุที่ทำให้แม่ต้องตาย

ศิรสา...คือคนที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียใจ!

“น้าขอโทษค่ะคุณดล น้าไม่คิดว่าคุณพินธุ์เธอจะป่วย น้าไม่ได้คิดแย่งคุณธฤตมาจากคุณพินธุ์เธอเลยนะคะ” ศิรสาเอ่ยออกมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลริน

“ไม่ได้แย่งงั้นหรือ แล้วที่คุณมันเรียกว่าอะไร! พ่อเลิกกับแม่เพราะคุณ เพราะคุณคนเดียว!!..เลวที่สุด...ผู้หญิงเลว” กุหลาบช่อใหญ่ถูกปาไปตรงหน้าแทบจะโดนศิรสา รินรีบลุกขึ้นมาทันทีแม้จะรู้สึกเจ็บขาแต่ก็ยังออกแรงผลักคนตัวโตให้ออกห่างจากมารดาของตน

“ออกไปนะ! อย่ามายุ่งกับแม่ฉัน คุณว่าแม่ฉันเลว แล้วคุณล่ะ คุณมันดีกว่าแม่ฉันตรงไหน ถ้าแม่ฉันเลวแล้ว อย่างคุณเขาเรียกว่าอะไร!!” หญิงสาวเถียงแทนมารดา น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

“ริน” มารดาแตะแขนเบาๆเชิงเตือนว่าให้พอ ศิรสาไม่อยากให้ลูกสาวตนเองมีปัญหากับธนาดลมากไปกว่านี้ เธอรู้ว่าธนาดลนั้นรักมารดามาก จึงไม่แปลกที่จะเสียใจมากและแค้นมากอย่างนี้ เด็กคนนี้น่าสงสาร...ศิรสารู้ดีกว่าใคร

“แม่เลิกยอมผู้ชายคนนี้ได้ไหมคะ เลิกกลัวเขาสักที รินทนมาพอแล้วค่ะแม่ รินจะไม่ทนเขาอีกแล้ว พอกันที! “ รินหันมาบอกมารดาก่อนจะหันไปมองธนาดลดังเดิม

“ทำไม” ธนาดลถามเสียงต่ำ “อย่างฉันนี่มันเลวมากนักหรือ ถึงฉันจะเลวแต่ฉันก็ไม่เคยแย่งของของใคร ไม่เคยแย่งสามีของใครเหมือนแม่เธอ!”

“แม่ฉันไม่ได้แย่งของของใคร คุณพ่อแต่งงานกับแม่ฉันหลังจากที่หย่ากับแม่คุณแล้ว เพราะฉะนั้นแม่ฉันไม่ใช่คนที่ผิด” ศรินดาปกป้องมารดาเต็มที่ เธอไม่ยอมให้ใครมาว่าร้ายมารดาเธอเด็ดขาดโดยเฉพาะธนาดลด้วยแล้ว ต่อให้เขาทำร้ายเธอยังไงเธอทนได้แต่การทำร้ายของเขามันต้องไม่ล่วงเลยมาถึงแม่ของเธอ!

“แม่เธอนั่นแหละที่ผิด ถ้าไม่มีแม่เธอ พ่อจะไม่ขอหย่ากับคุณแม่ ถ้าไม่มีแม่เธอ คุณแม่ฉันก็ไม่ต้องตรอมใจตายทั้งๆที่ท่านก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้...” ธนาดลตอบกลับเสียงเย็น ดวงตาคู่คมนั้นสั่นเทา รอยน้ำตาปรากฏให้เห็นอยู่จางๆ

“น้าขอโทษค่ะคุณดล น้าขออโหสิในเรื่องทั้งหมดที่คุณดลโกรธแค้นน้า คุณดลอโหสิให้น้านะคะ”

ธนาดลมองไปที่ศิรสาด้วยแววตาเย็นชา ริมฝีปากเหยียดยิ้มเยาะ

“คุณไม่คิดว่ามันง่ายไปหน่อยหรือ คุณรู้สึกถึงรสแห่งความทรมานได้ครึ่งของผมกับแม่หรือยัง คุณรู้ไหมว่าแม่ผมเป็นยังไงตอนที่เดินออกจากบ้าง รู้บ้างไหมว่าแม่ต้องเสียน้ำตาไปมากเท่าไหร่ เวลาที่คุณอยู่สุขสบายในบ้าน” ธนาดลระบายทุกอย่างออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อนึกถึงอดีตเมื่อคราวยังเด็ก

“คุณอย่าเอาแต่ความคิดของคุณเป็นหลักได้ไหม คุณอย่าคิดว่าสิ่งที่คุณคิดต้องถูกฝ่ายเดียว แม่ฉันไม่เคยแย่งสามีใคร ไม่เคย!” คนเป็นลูกสาวออกโรงปกป้องสงสารมารดาที่กำลังร้องไห้จับใจ

ธนาดลหันมามองหน้าศรินดาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวหากก็แฝงไปด้วยแววตัดพ้อน้อยๆที่คนที่เขารักไม่แม้ที่จะเข้าใจเขาเลย...ไม่เข้าใจสักนิดเดียว

“แล้วที่แม่ฉันต้องเลิกกับพ่อล่ะ อย่างนี้มันเรียกว่าอะไร” ชายหนุ่มย้อนถาม

“แล้วทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าท่านอาจจะเข้ากันไม่ได้ เลยต้องเลิกลากัน ทำไมไม่คิดบ้างว่าอาจจะเป็นแม่คุณที่เข้ากับคุณพ่อไม่ได้ อาจจะเป็นแม่คุณที่ทำตัวเองมีนิสัยที่เข้ากับคุณพ่อไม่ได้ อาจจะเป็นแม่คุณที่ทำตัวน่าเบื่อ อาจจะ...”

เผียะ!

เสียงฝ่ามือกระทบกับดวงหน้าหวานดังพอที่จะให้รู้ว่าคนตบออกแรงเท่าใด ศรินดาหันหน้ากลับมามองคนที่ตบเธอพร้อมด้วยน้ำตาคลอเต็มดวงตา เช่นเดียวกับธนาดล ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ ทำอะไรหรือพูดอะไรไม่ออกเลย เพราะความโกรธชั่ววูบที่ระงับไว้ไม่ได้ทำให้ธนาดลพลั้งมือทำร้ายผู้หญิงที่เป็นดั่งหัวใจโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นครั้งแรก

“เธอ...ไม่มีสิทธิ์มาว่าแม่ฉัน” กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอก็ต้องใช้เวลานานพอควร แม้จะเสียใจและรู้สึกโกรธตัวเองแต่คำว่าร้ายของศรินดาเมื่อครู่เขาก็ทนฟังไม่ได้จริงๆ

แม่สำคัญที่สุด...ไม่ว่าใครก็มาว่าหรือตำหนิแม่ไม่ได้!

“แล้วคุณล่ะมีสิทธิ์อะไรมาว่าแม่ฉัน!” รินเถียง น้ำตาที่พยายามกลั้นไหลออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่

“มานี่!” ธนาดลกระชากร่างบางให้ติดมือมา

“ริน!” ผู้เป็นแม่ผวาจะดึงตัวลูกสาวกลับมา

“หยุดอยู่ตรงนั้น! ผู้หญิงคนนี้มากับผม ถ้าจะกลับผู้หญิงคนนี้ก็ต้องกลับกับผม” ธนาดลสั่งเสียงเด็ดขาด ดึงศรินดาให้เดินตามโดยที่ไม่สนใจว่ามารดาของหญิงสาวนั้นร้องขอเช่นไร

“ไม่ต้องเป็นห่วงรินนะคะแม่ รินไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” รินหันไปบอกมารดาด้วยรอยยิ้มเพื่อให้ท่านวางใจว่าเธอจะไม่เป็นอะไรจริงๆ

ธนาดลผลักร่างบางให้ไปนั่งในรถก่อนจะกระชากประตูปิดอย่างแรง ร่างสูงนั่งประจำที่คนขับ สายตาจับจ้องไปเบื้องหน้า

“คุณจะ...”

“นั่งเงียบๆไปถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากกว่านี้ ฉันถือว่าเตือนเธอแล้วนะศรินดา” น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งก่อนที่เจ้าของรถจะขับฟอร์จูนเนอร์ของตนเองออกไปจากวัดอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางภายในรถไม่มีเสียงใครพูดออกมาสักคำ มีแต่ความเงียบเข้าปกคลุม ธนาดลลอบมองเสี้ยวหน้าของศรินดาเพียงนิด คำถามหนึ่งชัดขึ้นในหัวใจ

...เจ็บมากไหมศรินดา ขอโทษนะ...ฉัน...ขอโทษเธอจริงๆ

แว่บหนึ่งตาคู่คมเหลือบไปมองกระจกมองหลังแล้วก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นว่ากำลังมีใครบางคนขับรถตามมา ธนาดลเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วเพื่อให้แน่ใจว่ารถกระบะคันหลังกำลังตามมาไม่ผิดแน่...แล้วก็ใช่อย่างที่คิดจริงๆ! คิ้วเข้มขมวดชิด มือกำพวงมาลัยแน่น เหงื่อเริ่มซึมผ่านไรผมเพราะความกังวล

...ไอ้บ้าเอ๊ย! พวกมันเป็นใคร แล้วต้องการอะไรจากเขา

ส่วนผู้ร่วมทางอย่างศรินดาก็กำเข็มขัดนิรภัยแน่นเช่นกัน รู้สึกกลัวเมื่อธนาดลขับรถเร็วขึ้นและเปลี่ยนเส้นทางไปเสียอย่างนั้น

“ถ้าฉันจอดรถเมื่อไหร่ให้เธอลงจากรถให้เร็วที่สุด เข้าใจหรือเปล่า” ชายหนุ่มสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองกระจกมองหลังเป็นพักๆ

“ลงทำไม? ไม่! ฉันไม่ลง” รินปฏิเสธเพราะถ้าเธอลงตรงนี้แล้วเธอจะไปไหนต่อ ไม่มีทางหรอก เธอไม่ยอมให้เขาปล่อยเกาะเธอแน่ๆ

“ฉันบอกให้เธอลงเธอก็ต้องลง! เจอไล่แบบนี้แล้วยังมีหน้ามาอยู่อีกหรือศรินดา...หรือว่าเชื้อแม่เธอมันไม่ทิ้งแถว เธอถึงไม่มียางอายอย่างนี้”

“จอดรถ!! “ รินตะโกนลั่น เพียงนิดหนึ่ง...ธนาดลก็สังเกตเห็นความหวาดกลัวจากแววตาคู่นั้น ชายหนุ่มเหยียบเบรกจอดรถริมข้างทาง ศรินดาเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็วและออกเดินไปข้างหน้าโดยไม่แม้จะมองมาที่อีกคนเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าเธอมองมา เธอจะรู้ความจริง ความจริงที่ว่ามีผู้ชายคนนี้กำลังเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน

ตาคู่คมอ่อนลง มองร่างที่ค่อยๆเดินไกลออกไปเรื่อยๆด้วยหัวใจที่ปวดร้าว แว่บหนึ่งที่เห็นหยาดน้ำตาคลอในดวงตาคู่นั้น เขาอยากเหลือเกินที่จะดึงร่างนั้นมากอดไว้แนบอก ปลอบประโลมว่าไม่เป็นไร เขาจะปกป้องเธอเอง ปกป้อง...ด้วยชีวิต

แต่เขาก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่ขอให้เธอมาเสี่ยงด้วยกับเหตุการณ์อย่างนี้ ไอ้พวกนั้นน่าจะต้องการที่จะทำร้ายเขาเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะพาเธอมาเสี่ยงด้วยเด็ดขาด แม้จะต้องใช้ถ้อยคำรุนแรงเพื่อไล่เธอลงไป แม้จะต้องทำร้ายจิตใจดวงนั้นให้บอบช้ำ เขาก็ต้องทำ เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไปแล้วฉันจะทำยังไง

และถ้าเธอ...ไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้....ฉัน...จะอยู่อย่างไร

ความรักสำหรับคนอย่างธนาดลไม่ใช่การเสียสละ แต่เป็นการปกป้องคนที่รักด้วยชีวิตทั้งหมดที่เขามี

ปกป้องให้เธอมีชีวิตต่อไป เพราะถ้าหากเขามีชีวิตอยู่แต่เธอต้องหายไป เขาคงทนไม่ได้...ทนไม่ได้จริงๆ

ธนาดลหักพวงมาลัยรถกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมซึ่งปกติจะมีรถขับกันไม่มากนัก รู้ทั้งรู้ว่ามันเสี่ยงมากแค่ไหนที่มาทางนี้ แต่ชายหนุ่มกเลือกที่จะเสี่ยง เพราะถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกชายของพ่อเลี้ยงธฤตไม่คนใดก็คนหนึ่ง ไม่แคล้วที่จะตกเป็นข่าวดังอีก เพราะไม่ว่ายังไงไอ้โจรพวกนี้มันก็ต้องเอาเขาถึงตายอยู่ดี ถ้าเล่นตามติดกันเสียขนาดนี้ ชายหนุ่มเร่งความเร็วเพื่อสลัดรถกระบะที่ตามมา

ปัง!

เสียงปืนดังสนั่นถูกล้อหลังจนรถเสียทิศทาง ธนาดลบังคับรถให้จอดสนิทอย่างยากเย็น แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อประตูรถถูกเปิดออกพร้อมกับปากกระบอกปืนที่จ่อยู่บริเวณขมับ!

“ลงมา!” มือปืนที่มีโม่งคลุมปกปิดใบหน้าบอกเสียงเหี้ยม

“พวกแกต้องการอะไร” ชายหนุ่มถาม

“ก็ไม่ได้ต้องการอะไร แค่มีคนเขาไม่ชอบขี้หน้าแกเลยบอกให้พวกฉันมาจัดการ” ไม่พูดเปล่าเพราะมันเอากระบอกปืนซัดไปบนหน้าชายหนุ่มเต็มแรงจนเลือดกบปาก ตามติดด้วยขาที่แตะมาข้างลำตัว ธนาดลพยายามป้องกันตัวและโต้กลับหากก็ทำอะไรไม่ได้มาก

“เฮ้ย! พอแล้ว นายบอกว่าเอาแค่ปางตาย มึงจะเอามันให้ตายเลยรึไงวะ” หนึ่งในสองคนรีบห้ามคู่หูที่ทำท่าว่าจะซ้อม ธนาดลอย่างหนักเกินกว่าคำสั่งของผู้เป็นนาย

“ก็กูเกลียดมัน อยากจะฆ่ามันให้ตาย”

ธนาดลที่นอนกองอยู่บนพื้นขมวดคิ้วสงสัย รู้สึกคุ้นๆกับเสียงของหนึ่งในสองคนนี้

“อย่าทำเกินคำสั่งนาย!”

“โธ่เว้ย!!” มันแตะไปที่ชายโครงของธนาดลอีกที

“รอดไปนะมึงไอ้ดล”

“ไอ้...ชัย” ธนาดลพูดออกมาอย่างยากลำบาก เจ็บรวดร้าวไปหมดทั้งตัว

“ฉลาดจริงนะนายน้อย” หนึ่งในสองมือปืนถอดโม่งออก แล้วคนที่ปรากฏก็เป็นไอ้ชัยอย่างที่ธนาดลสงสัยจริงๆ

“ใคร...สั่ง...แก...มา”

“จะตายแล้วไม่ต้องพูดมาก!” ไอ้ชัยออกแรงแตะอีกทีจนธนาดลตัวงอเพราะความเจ็บปวด

“เฮ้ย! บอกว่าอย่าทำเกินคำสั่งนาย” อีกคนเตือน

“กูรู้แล้ว” ไอ้ชัยบอกอย่างหงุดหงิด ย่อตัวลงจิกบริเวณศีรษะธนาดลขึ้นมา

“นายน้อยธนาดล หึ! สารรูปดูไม่ได้เลย” มันเหยียดยิ้มเยาะ

“แก...” พูดได้คำเดียวชายหนุ่มก็สลบไป

“ครับนาย” คู่หูไอ้ชัยรับโทรศัพท์หลังจากที่จัดการกับธนาดลและออกมาจากที่เกิดเหตุเรียบร้อย

“จัดการแล้วครับนาย”

“ดีมาก” ปลายสายเหยียดยิ้มก่อนจะตัดสายสนทนา

ฉันเคยบอกแกแล้วว่าอย่าริอาจมาลองดีกับฉัน เพราะถ้าฉันเจ็บ แกนั่นแหละที่ต้องเจ็บมากกว่าฉัน...ธนาดล!

ปารัชเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ก่อนจะหัวเราสะใจอย่างบ้าคลั่ง

“รู้จักคนอย่างปารัชน้อยแล้วไปแล้ว....ธนาดล!”



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุณดล...ช่วยรินไว้อีกตามเคยโดยที่รินก็ไม่รู้อีกตามเคยเช่นกัน - -''
ฉากคุณดลตบหน้าริน...ปอแก้วก็ว่ามันแรงปละไม่ดีเลย แต่อารมณ์ตอนนี้คุณดลเธอกดไว้ไม่อยู่จริงๆค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม คอมเมนท์ กดไลค์นะคะ ^___^



คุยกันเหมือนเดิมค่ะ...



คุณ Auuuu : ศัตรูจากงานเลี้ยงจริงๆนั่นแหละค่ะ ส่วนกุหลาบก็เอาไปไหว้แม่ค่ะ แต่ไม่ได้ไหว้ มีเรื่องซะก่อน

คุณ nunoi : ใช่เลยค่ะ ตอนนี้รินตลอดภัยแต่คุณดลโดนอีกแล้ว (เรียกคะแนนสงสารน่ะค่ะ)

คุณ Heronett : ทั้งคู่เลยล่ะค่ะ คงต้องรอให้ใจอ่อนกว่านี้

คุณ MYsister : คุณดลรอดค่ะ แต่ก็เจ็บตัวตลอดๆเลย

คุณ roseolar : ค่าาาา...พี้ต้นยังไม่ท้อค่ะ แต่หมอเขตก็ไม่ถอยเหมือนกันน้าาา เขียนเรื่องนี้แล้วให้เพื่อนอ่านเพื่อนทุกคนเป็นอย่างคุณ roseolar กันหมดเลยค่ะ ชอบหมอเขตกันหมดเลย ฮาาาาา

คุณ tutas : คุณดลมีความแค้นขัดขวาง ส่วนพี่ต้นมีคุณป๊าขัดขวาง น่างสารทั้งคู่ค่ะ

คุณ anOO : รินไม่ซวยค่ะ คุณดลเธอเล่นบทร้ายปกป้องไปซะก่อน ส่วนพี่ต้น ลุ้นกันยาวๆค่ะ :)

คุณ ดาวคันชั่ง : พี่ต้นแอบฮาใช่ไหมคะ ปอแก้วกลัวเศร้าเกินไปเลยแอบฮาหน่อยๆ อิอิ เพราะคุณดลเขาร้ายมาตอนต้น คนเขียนกลัวคนอ่านเกลียดค่ะ เลยต้องงัดคุณดลโหมดโศกมาให้สงสารหน่อย

คุณ หมูบูลิน : รินไม่เป็นไรค่ะ แต่คุณดลโดนเต็มๆเลย T T





ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2555, 10:39:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 เม.ย. 2555, 14:47:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 2129





<< บทที่ 19   บทที่ 21 >>
nunoi 30 เม.ย. 2555, 11:14:42 น.
โอ๊ยยย จะบีบคั้นหัวใจกันไปถึงไหน


Auuuu 30 เม.ย. 2555, 11:16:07 น.
เฮ้อออออออออ ถ้าทุกคนต่างหันหน้ามาคุยกัน เรื่องคงดีกว่านี้
ส่วนนายชัย แกทำตัวแกเอง ยังไม่สำนึก
ท่าทางงานนี้คุณดล เล่นแรงกลับแน่ๆ ชัวร์ๆ เพราะครั้งแรกปล่อยไป แต่ยังมีครั้งต่อไปอีก


teesaparn 30 เม.ย. 2555, 11:56:17 น.
ปะฉะดะกั๋นตลอดๆ


Amata 30 เม.ย. 2555, 12:04:54 น.
หายเจ็บตาก็มาตามดูน้องรินหนูน้ำก่อนจะปั่นงานตัว


Heronett 30 เม.ย. 2555, 12:28:16 น.
คุณดลทำใจร้ายไปหน่อยแต่ปกป้องรินนะ อยากให้รู้ความจริงไวๆจัง อีกกี่ตอนจบคะ


Pat 30 เม.ย. 2555, 13:45:56 น.
เฮ้อ หนักใจแทน ปล่อยวางบ้างเถอะคุณดล สงสารตัวเองสงสารหนูรินบ้าง


anOO 30 เม.ย. 2555, 13:52:12 น.
นายดลนี่มองแต่มุมของตัวเองนะ ไม่มองมุมคนอื่นบ้างเลย
งานนี้เจ็บตัวฟรี โดยที่สาวเจ้าไม่รู้เรื่องอีกแล้วสิ ยัยรินจะเอะใจบ้างไหมหนอ


บุรีวาด 30 เม.ย. 2555, 14:19:06 น.
เข้มข้นมากเลยค่ะตอนนี้
//เรื่องตบหน้า ถ้ามีเหตุผลรองรับคิดว่าคนอ่านทุกคนเข้าใจค่ะ บุรีวาดเองยังเข้าใจเลย ^^


มุกมาดา 30 เม.ย. 2555, 15:51:48 น.
โอ้อัพไวมาก ไม่เข้ามาหลายวันไปหลายตอนแล้ว ประเดี๋ยวจะทยอยอ่านค่ะ ^^ มาลงชื่อติดตามอ่านก่อน อิ อิ


ดาวคันชั่ง 30 เม.ย. 2555, 16:02:33 น.
สงสารทุกคนเลยค่ะเป็นตอนที่อ่้านแล้วทั้งเศร้า ทั้งกดดัน


เด็กหญิงม่อน 30 เม.ย. 2555, 19:15:24 น.
ทรมานแทนพระนางคู่นี้


MYsister 30 เม.ย. 2555, 22:01:12 น.


lovemuay 30 เม.ย. 2555, 22:04:21 น.
ตามมาอ่าน สนุกมากเลยค่ะ
บีบคั้นหัวใจทั้งสองคู่เลย
คู่นึงก็ทิฐิใส่กัน จมอยู่กับความแค้นมากเกินไปอีก
อีกคู่ก็ตัดใจง่ายเกินไป ไม่คิดจะสู้ พ่อสาวเจ้าเค้าถึงได้ไม่ยอมรับไงค่ะ


หมูบูลิน 1 พ.ค. 2555, 01:23:53 น.
เจ็บแทนทั้ง2คน


roseolar 1 พ.ค. 2555, 09:51:01 น.
อร๊ายยย >///< ปลื้มคุณดล รักคุณดล อยากมีแฟนแบบคุณดล เพราะงั้น...แต่งงานกันนะคะคุณดล เอ้ย!! ไม่ใช่ละ =*= เอาใหม่ๆ เพราะงั้น..จะรอติดตามนะคะคุณดล เขินนนน~


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account