เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 22


บทที่ 22




เช้าวันใหม่ที่อากาศสดใส แสงแดดยามเช้าทอแสงอ่อนไม่ร้อนมากนัก ทางออกด้านหลังของโรงแรมชื่อดัง สลิลธารกำลังเดินออกจากทางนั้นเพื่อไปทำงาน แต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อเห็นใครบางคนยืนดักรออยู่ หญิงสาวตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางทันทีหากก็ช้าไปเสียแล้วเมื่อใครคนนั้นเห็นและรีบตรงมายังเธอ

“จะไปไหนน้ำ”

“ทำงานค่ะ”

“แล้วทำไมไม่ออกทางหน้า เดินออกทางหลังทำไม” พนาดรย้อนถามคิดไม่ผิดที่มีดักรอสลิลธารอยู่ตรงนี้

“เอ๊ะ! พี่ต้น” หญิงสาวแหวเสียงขุ่น ก็เพราะรู้ว่าออกทางหน้าต้องเจอเขาดักรอน่ะสิถึงเลี่ยงมาออกทางหลังแต่พนาดรก็ยังคงรู้ทันความคิดของเธอเสมอ

“น้ำจะไปทางไหนมันก็เรื่องของน้ำ ไม่ใช่เรื่องของพี่ต้น” พูดจบก็รีบเดินผละไปทันทีแต่พนาดรก็ยังเร็วที่รั้งต้นแขนนั้นไว้ทัน

“เดี๋ยว” น้ำเสียงทุ้มเรียกไว้เรียบๆ

“น้ำต้องรีบไปทำงาน ไม่มีเวลามากนักนะคะ”

“รินอยู่ที่ไหน”

เจอคำถามอย่างนี้คนถูกถามก็อดที่จะน้อยใจเล็กๆไม่ได้ มาหาถึงที่นี่ทั้งทีแต่พนาดรกลับไม่สนใจเธอเลย ทำไมถึงได่ใจร้ายกับเธออย่างนี้นะพี่ต้น...ใจร้ายเกินไปแล้ว...

“ออกไปกับนนท์ตั้งแต่เช้าค่ะ” แม้จะน้อยใจแต่ก็ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่โดยดี

“ว่าไงนะ! ออกไปกับนนทนัฐ แล้วน้ำปล่อยให้รินออกไปกับมันสองต่อสองได้ยังไง” น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยแววตำหนิชัดเจน พอถูกดุอย่างนี้ อารมณ์น้อยใจผสมกับอารมณ์โกรธก็ผสมกันจนสลิลธารเสียงแข็งขึ้นมาบ้าง

“แล้วทำไมพี่ต้นต้องมาดุน้ำด้วย น้ำผิดหรือไงที่ปล่อยให้รินไปกับนนท์ ทำไมเวลาเกิดอะไรกับรินแล้วน้ำจะต้องเป็นฝ่ายผิดทุกที ทำไมพี่ต้นต้องมาว่าน้ำอยู่คนเดียว!” น้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาคู่เรียว พนาดรอึ้งไปพักใหญ่เมื่อจู่ๆผู้หญิงตรงหน้าก็ร้องไห้ออกมาอย่างกับเผาเต่า มือไม้พลันจะเก้งก้างเพราะทำอะไรไม่ถูก

“น้ำ...ร้องไห้ทำไม อย่าร้องไห้สิน้ำ พี่ทำอะไรไม่ถูกนะครับ น้ำ...อย่าร้องไห้นะ" พนาดรปลอบแต่ยิ่งปลอบก็ดูเหมือนว่าสลิลธารจะยิ่งร้องหนักขึ้น

“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้นะคนเก่ง พี่ขอโทษนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้น้ำเสียใจ อย่าร้องนะคนดี นิ่งซะนะ”ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว จึงกางแขนออกไปรวบตัวคนขี้แยให้มาอยู่ในอ้อมกอดก่อนจะปลอบประโลมด้วยถ้อยคำที่แสนอ่อนหวาน

“ฮึก...พี่ต้นบ้า! ทำไมต้องมาว่าน้ำอยู่คนเดียว น้ำไม่ได้ผิดซักหน่อย ทำไมต้องมาว่าน้ำด้วย พี่ต้นใจร้าย”คนขี้แยสะอื้นฮักในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น อ้อมกอด...ที่สลิลธารยังคงหวังเสมอว่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือจะมีอ้อมกอดนี้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป

“อย่าร้องสิน้ำ นิ่งซะนะ ร้องมากเดี๋ยวตาก็ได้บวมกันพอดี นิ่งซะนะครับ”

พนาดรกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กดจมูกลงบนเรือนผมนุ่มสลวยไปหนึ่งที ก่อนจะดันร่างบางให้ออกพ้นตัวเพียงเล็กน้อย นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดหยาดน้ำตาออกจากดวงตาทั้งสองข้าง เพราะอยู่ใกล้กันเพียงนิดชายหนุ่มจึงเผลอประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนตามที่เสียงของหัวใจมันเรียกร้อง สลิลธารมองอีกฝ่ายอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ยังรู้สึกถึงความร้อนผะผ่าวบนหน้าผาก พวงแก้มซับสีเรื่อ

คนที่เผลอทำตามใจตัวเองเพราะห้ามใจไว้ไม่อยู่ถึงกับถอยออกห่างเพราะกลัวที่จะทำอะไรเลยเถิดไปกว่านี้ ตาคู่คมมองไปที่ดวงหน้าที่ซับสีเรื่อด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งๆที่สัญญากับบิดาของสลิลธารไว้แล้วว่าจะไม่มาเจอกันอีก ทั้งๆที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะตัดความรู้สึกที่เรียกว่ารักออกไปให้หมด แต่เขากลับทำตามสัญญาเหล่านั้นไม่ได้สักอย่าง...ไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว

“พี่ขอโทษ” ก่อนที่คำขอโทษเบาๆจะถูกเอ่ยออกมา

“ขอโทษทำไมคะพี่ต้น” เมื่อได้ยินคำขอโทษจากปากของอีกฝ่ายความรู้สึกไม่พอใจจึงเริ่มกลับมา เพราะคำว่าขอโทษของพนาดรมันเป็นสัญญาณที่กำลังจะบอกเธอว่าเขายอมแพ้...เหมือนกับทุกครั้งที่พนาดรมักจะถอยห่างจากเธอทีละก้าวจนค่อยๆห่างออกไป

“พี่ไม่สมควรที่จะทำอย่างนี้ น้ำกำลังจะแต่งงานกับหมอเขต”

สลิลธารเงยหน้าขึ้นเพราะต้องการข่มน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอีกครั้ง

“พี่ต้นอยากให้น้ำแต่งงานกับหมอเขตมากขนาดนี้เลยหรือคะ”

“หมอเขตเป็นคนดี” พนาดรเลี่ยงที่จะตอบคำถาม

“มันไม่เกี่ยวกับว่าหมอเขตเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่น้ำถามว่าพี่ต้นอยากให้น้ำแต่งงานกับหมอเขตมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ”

“ไม่สำคัญหรอกว่าพี่จะเห็นว่ายังไง” ชายหนุ่มยังคงบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม

“สำคัญสิคะ สำคัญมากด้วย แค่พี่ต้นบอกมาคำเดียว” สลิลธารจ้องมองชายหนุ่ม รอคำตอบที่กำลังจะออกมา

พนาดรนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบว่า “พี่...ไม่มีความเห็นครับ ขอโทษด้วยที่มากวน” ชายหนุ่มตัดบทง่ายๆก่อนจะหมุนหัวกลับเดินจากไป

“ยากมากหรือคะพี่ต้น แค่คำว่ารักคำเดียว มันพูดยากขนาดนี้เลยหรือคะ”

สลิลธารพูดตามหลังของคนที่เดินจากไป พนาดรนั้นได้ยินทุกคำชัดเจน หากก็ยังข่มใจที่จะเดินต่อไปไม่หันหลังกลับมาและดึงร่างนั้นเข้ามากอด เพราะถ้าเขาหันหลังกลับแม้จะเพียงแค่องศาเดียว เขามั่นใจว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยมือนั้นอีกต่อไปแน่ และถ้าทำอย่างนั้นบิดาของสลิลธารก็สามารถที่จะใช้เส้นสายทั้งหมดที่ท่านมีทำลายไร่ชาของเขาให้พังราบเป็นหน้ากลองได้เพียงชั่วพริบตา












“เป็นอะไรไปครับ” คุณหมอร่างสูงในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตาทรุดตัวลงนั่งข้างๆกับคุณหมออีกคนที่นั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว

“เปล่าหรอกค่ะ” สลิลธารตอบเสียงเบาและไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย

“ร้องไห้มาเหรอ” คุณหมอเขตถาม พิศมองดวงหน้าสวยหากสลิลธารส่ายหน้าปฏิเสธ

“ทำไมตาบวม” สลิลธารยังคงส่ายหน้าปฏิเสธเหมือนเดิม จนสิขเรศถอนหายใจยาว เอื้อมมือไปเอนศีรษะหญิงสาวให้มาซบกับบ่าของตน

“เป็นอะไร ใครทำอะไรให้ครับ” พร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่เจือไปด้วยความห่วงใยล้นปรี่

“เปล่าค่ะ” แต่คนปากแข็งก็ยังบอกปฏิเสธทั้งๆที่สีหน้าของเธอมันไม่ได้ปฏิเสธไปด้วยเลย

“น้ำ...เป็นอะไรครับ อย่าทำแบบนี้ได้ไหม ผมใจไม่ดีเลย” น้ำเสียงของคุณหมอเขตเริ่มสั่นเมื่อถามอะไรสลิลธารก็ตอบปฏิเสธท่าเดียว

“หมอเขตรักน้ำไหม” แต่พอเจอคำถาอย่างนี้เสียงที่สั่นกลับหายสั่นแต่เปลี่ยนเป็นใจต่างหากที่สั่นแทน

“ถามทำไมครับ” คุณหมอเขตยังไม่ยอมตอบคำถาม ที่ไม่ตอบไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่เล่นถามกันอย่างนี้ ใครไม่เขินก็เกินไปหน่อยแล้ว

“ถามไม่ได้ใช่ไหม” สลิลธารยกศีรษะตัวเองให้พ้นจากบ่าของชายหนุ่ม น้ำตาทำท่าจะร่วงมาอีกรอบและ เมื่อเห็นท่าว่าพายุเริ่มตั้งเค้า คุณหมอเขตก็เริ่มที่จะทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปพูดอะไรไม่เข้าท่าไปตอนไหน

“เอ้อ...ก็ถามได้ครับ แค่ตั้งตัวไม่ทัน ก็จู่ๆน้ำเล่นถามขึ้นกลางปล้องแบบนี้”

“ตั้งตัวไม่ทันแสดงว่าไม่รักใช่ไหม” คุณหมอเขตมองหญิงสาวข้างตัวตาค้าง ใครหนอใครทำให้แม่เจ้าประคุณงอนได้ขนาดนี้ แล้วมันก็ช่างเป็นโอกาสที่เหมาะเหลือเกินที่งอนใครก็ไม่รู้แล้วก็มาลงเอากับเขา แบบนี้มันยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีกนะนี่

“ไม่ใช่...โธ่น้ำ” สิขเรศร้องเสียงอ่อน

“รำคาญกันแล้วใช่ไหม” เสียงหวานตัดพ้อ จนสิขเรศเริ่มอยากที่จะโขกหัวเข้ากับกำแพงให้มันรู้แล้วรู้รอด

...เขาทำอะไรผิดไปนี่!!

“ไม่ใช่อย่างนั้น...โอเคครับ น้ำฟังให้ดีๆนะ ผมจะพูดแล้ว” คุณหมอเขตหมุนตัวของสลิลธารให้หันมามองหน้ากันตรงๆ

“ผมรักน้ำ ได้ยินชัดไหมคนขี้งอน” พูดอย่างมันเขี้ยวไม่วายยื่นมือมาบีบจมูกรั้นๆนั่นเสียหนึ่งที สลิลธารช้อนตาขึ้นมามองใบหน้าของคุณหมอที่เปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลา ทำไมพี่ต้นถึงไม่บอกคำๆนี้กับเธอบ้าง แค่คำว่า ‘รัก’ คำเดียวมันไม่เห็นยากสักนิด

“แล้วคิดยังไงถึงมาถามกันแบบนี้ กะจะให้หัวใจวายกันเลยใช่ไหม” เมื่อเห็นว่าคนขี้งอนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติคุณหมอเขตเลยลองแหย่เล่นดู

“น้ำแค่อยากรู้ ไม่คิดว่าหมอเขตจะตกใจ”

“ก็ไม่ได้ตกใจหรอกครับแค่งงๆว่าอยู่ดีๆทำไมน้ำถึงได้ถามขึ้นมา” ใบหน้าที่มักแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มยังคงส่งยิ้มให้สลิลธารเหมือนอย่างเคย

“คำว่ารัก มันพูดยากมากเหรอคะหมอเขต” สลิลธารถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงมันก็เจือไปด้วยความเศร้า เหงา และเปล่าเปลี่ยว

“ก็แล้วแต่คนนะน้ำ บางคนคำว่ารักก็อาจจะพูดออกมาง่ายๆแต่ก็อาจจะไม่มีความหมายอะไรเลย ส่วนบางคนคำว่ารักอาจจะไม่เคยพูดออกมาจากปากเลยซักครั้ง แต่การกระทำมันก็บ่งบอกได้ว่ารักเหมือนกัน บางทีอาจจะมากกว่าคำพูดด้วยซ้ำไป”

สลิลธารนิ่งเงียบ ทบทวนคำตอบของสิขเรศที่เพิ่งได้ยินได้ฟังมา เธอยึดติดกับคำว่ารักที่เป็นเพียงแค่ลมปากมากเกินไปหรือเปล่า แต่คำว่ารัก...อาจจะแสดงออกมาทางอื่น เช่นการกระทำ...และสายตา

หากคำว่า ‘รัก’ ของหมอเขต เธอรู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก แต่เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ทั้งคำพูด การกระทำ และสายตา มันบอกว่าเขารักเธอ...ด้วยหัวใจหนึ่งดวงที่เขามี

แล้วพนาดรเล่า...การกระทำของเขา มันมากพอที่จะบอกได้ไหมว่าพี่ต้นรักเธอ เธอพอจะเชื่อได้ไหมว่าการกระทำที่เขาแสดงออกมามันแปลได้ว่า...พี่ต้นรักเธอ













เมื่อกลับมาจากบ้านของนนทนัฐและพบว่าธนาดลนั้นปลอดภัยดี ลูกเลี้ยงสาวคนเดียวของบ้านจึงเดินเข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาคนที่ต้องการจะพบ

“พี่ต้นคะ” รินส่งเสียงทักพี่ชายที่กำลังเดินลิ่วขึ้นชั้นบนของบ้าน

“ริน! กลับมาเมื่อไหร่ แล้วดลติดต่อกลับมาหรือยัง” เมื่อเห็นว่าน้องสาวกลับมา พี่ชายจึงยิงคำถามใส่เป็นชุด

“ใจเย็นๆค่ะพี่ต้น รินเจอคุณดลแล้วนะคะ” เมื่อได้ยินคำตอบ พนาดรแทบที่จะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่

“จริงเหรอริน แล้วดลเป็นไงบ้าง สบายดีใช่มั้ย”

ศรินดาพยักหน้า “ก็...สบายดีค่ะ แค่มีแผลฟกช้ำนิดหน่อย” เธอพูดไม่จริงทั้งหมดเพราะขืนบอกความจริงออกไปสิ พนาดรได้ลิ่วไปหาธนาดลถึงบ้านของนนทนัฐกันบ้าง

“แผลฟกช้ำ? ดลถูกทำร้ายหรือริน” พนาดรถามกลับ รู้สึกห่วงน้องชายไม่น้อยที่โดนปองร้ายซ้ำสอง เหตุการณ์เรื่องนายชัยคราวแรกยังผ่านไปไม่นานก็ดันเกิดเหตุร้ายอีกครั้ง นี่น้องชายเขาไปสร้างศัตรูไว้ที่ไหนอีกล่ะนี่

“ค่ะ...รินคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น” หญิงสาวตอบ แล้วก็ได้ยินพี่ชายสบถออกมาอีกหลายคำ จับความได้ราวๆว่า ถ้าพี่ต้นรู้ว่าใครทำร้ายคุณดล พี่ต้นไม่ปล่อยมันไว้แน่...อะไรประมาณนี้

“แล้วรินไปเจอดลที่ไหน”

“บ้านนนท์ค่ะ คือนนท์เขาช่วยคุณดลไว้"”

พนาดรขมวดคิ้ว สีหน้าฉายความเคร่งเครียด

“นนทนัฐน่ะหรือที่ช่วยดลไว้”

“ค่ะ”

เมื่อได้ยินคำตอบจากน้องสาว พนาดรก็ยิ่งคิดหนัก ไม่เข้าใจว่านนทนัฐมีเหตุผลอะไรที่มาช่วยน้องชายของเขา เพราะธรรมดาทั้งคู่ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอยู่แล้ว เจอหน้าก็แทบจะไม่มองกันด้วยซ้ำ ประสาอะไรที่นนทนัฐจะมาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน

“ตอนนี้ดลยังอยู่ที่ไร่นนทนัฐใช่ไหม”

“ค่ะ...รินคิดว่าน่าจะให้อยู่ที่ไร่ของนนท์อีกซักสองถึงสามวันเพราะถ้ากลับมาตอนนี้ รินกลัวคุณพ่อจะตกใจน่ะค่ะ” น้องสาวเสนอซึ่งพนาดรพยักหน้าเห็นด้วย

“พี่เห็นด้วย งั้นเดี๋ยวพี่จะเป็นคนบอกคุณพ่อเองว่าดลไปทำธุระเรื่องงานในเมืองสองสามวันจะกลับ ส่วนรินพี่อยากให้รินช่วยดูดลหน่อยได้ไหม บอกตามตรงพี่ไม่ค่อยไว้ใจคนไร่นั้น”

ศรินดาเบิกตากว้าง ลมหายใจกระตุกไปนิดหนึ่งพร้อมๆกับสติที่กลับมา

“แต่ว่าริน...”

“ถ้าพี่ไปได้พี่ไปแทนรินแล้ว แต่...” พนาดรชะงักไม่อยากที่จะพูดเหตุผลออกไป ชายหนุ่มรู้ดีว่านนทนัฐคิดอย่างไรกับน้องสาวของเขาคนนี้ และศรินดาเองก็รู้ดีว่าพี่ชายอย่างเขาไม่ชอบน้ำหน้าของนนทนัฐเท่าใดนัก

“ก็ได้ค่ะ พี่ต้นขอทั้งที รินทำให้พี่ต้นได้เสมอ” หญิงสาวยิ้มกว้าง เข้าใจว่าทำไมพี่ต้นของเธอถึงไม่เข้าไปเยี่ยมคุณดลด้วยตัวเอง เหตุผลง่ายๆเลย...ไม่อยากเหยียบย่างเข้าไปในไร่ของศัตรู

พนาดรเอื้อมมือมาโยกหัวน้องสาวเบาๆอย่างเอ็นดู

...รินน่ารักอย่างนี้เสมอ เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆที่สร้างแต่ความสุขให้กับเขา เพราะฉะนั้นพี่ชายอย่างเขาไม่มีวันที่จะยกนางฟ้าองค์น้อยนี่ให้กับไอ้นนท์เด็ดขาด!












เช้าวันรุ่งขึ้น พนาดรมาส่งศรินดาที่หน้าบ้านของนนทนัฐ ชายหนุ่มยิ้มให้น้องสาว อดไม่ได้ที่จะโยกหัวรินเบาๆอีกตามเคย

“กลางวันพี่จะมารับไปกินข้าวนะริน และถ้านนทนัฐจะเลี้ยงรินก็บอกเขาไปว่าพี่จะมารับ พี่ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนบ้านนี้มากนัก”

“ค่ะพี่ต้น” หญิงสาวยิ้มให้พี่ชาย ก้าวลงจากรถ รอจนรถของพนาดรแล่นจากไปสุดสายตาแล้วจึงเดินเข้าไปในบ้านของนนทนัฐ

“ริน! มาได้ยังไง” นนทนัฐเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นศรินดาที่บ้านของตนเองแต่เช้า

“พี่ต้นมาส่งจ้ะ”

“แล้วจะมาทำไมไม่โทรมาบอกนนท์ก่อนล่ะครับ”

“ไม่เห็นจะต้องยุ่งยากเลยนี่” หญิงสาวแกล้งบ่น

“ก็นนท์จะได้แต่งตัวหล่อๆไว้รอรินไง” นนทนัฐทำหน้าทะเล้น ศรินดาเลยจัดการตีไปที่ต้นแขนของชายหนุ่มเบาๆหนึ่งที

“แค่นี้ก็หล่อแล้วล่ะค่ะคุณนนทนัฐ” บอกแล้วก็หัวเราะร่วน โดยที่หารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาด้วยความไม่พอใจเกินจะบรรยายอยู่มุมหนึ่งของห้องโดยที่ใครบางคนก็ไม่เห็นว่ามีอีกบุคคลอยู่ในห้องนี้ด้วยเช่นกัน

ธนาดลเดินกลับห้องของตัวเองไปอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มเพิ่งรู้วันนี้เองว่าเขาแพ้แล้ว แพ้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงสนามแข่งด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางจะรักเขา ศรินดารักนนทนัฐ ไม่ใช่ธนาดล!

“มีอะไรโทรหานนท์ได้ตลอดเลยนะครับ ถ้าไอ้ดลมันทำอะไรริน” นนทนัฐสั่งเสียงเข้ม เป็นไปได้อยากจะอยู่ที่นี่ด้วยกันกับศรินดาเสียด้วยซ้ำ ติดที่ว่าวันนี้ต้องเข้าไปดูงานในไร่ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางปล่อยศรินดาไว้กับคนอย่างธนาดลเป็นแน่!

“อื้ม”ศรินดาส่งยิ้มให้ นนทนัฐหันมามองดวงหน้าหวาน ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ชายหนุ่มอยากให้รินยิ้มอย่างนี้ให้เขาทุกเช้าก่อนที่เขาจะไปทำงาน อยากจะเห็นรอยยิ้มอย่างนี้ทุกวัน...ทุกคืน

ศรินดาหยุดที่หน้าห้องของธนาดล หญิงสาวเคาะประตูตามมารยาทก่อนจะเปิดเข้าไปและยังดีที่สายตาของหญิงสาวยังดีพอที่จะเห็นหมอนที่บินแหวกอากาศมาทางเธอ ศรินดาเบี่ยงตัวหลบได้ทันก่อนที่หมอนใบใหญ่จะโดนหน้าเธอเต็มๆ

“มาทำไม” ต้นเหตุที่ทำให้หมอนหวิดโดนหน้าเธอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

“พี่ต้นสั่งมา” รินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือกไม่แพ้กัน

“งั้นก็กลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ” คนที่นอนอยู่บนเตียงยันตัวขึ้นนั่งโดยใช้หลังพิงพนักเตียง

“งั้นคุณก็คงต้องทนไปหน่อยนะคะ เพราะฉันยังกลับตอนนี้ไม่ได้” ศรินดาตอบหน้าตาย ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวมุมห้อง เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเตียงก่อนจะเฉไฉไม่รู้ไม่ชี้เมื่ออีกฝ่ายมองกลับมา

“ทำไมยังกลับตอนนี้ไม่ได้ หรือต้องรอให้ไอ้นนท์มันมาอุ้มถึงจะยอมกลับ” น้ำเสียงทุ้มดูถูกชัดเจน

“คุณดล!” คนเฝ้าปึงปังลุกขึ้นยืน “อย่าเอาความคิดสกปรกๆของคุณมาใช้กับฉัน”

“แล้วที่เธอทำอยู่ล่ะ หัวร่อต่อกระซิกกับไอ้นนท์ในบ้านของมันเองมันดีนักหรือไง”

“คนอย่างคุณก็คิดได้แต่อะไรที่มันอกุศล” หญิงสาวว่า หากธนาดลไม่ใส่ใจ

“ก็ดีกว่าผู้หญิงที่วิ่งมาหาผู้ชายถึงบ้านอย่างเธอก็แล้วกัน”

เมื่อถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี ศรินดาก็แทบเลือดขึ้นหน้า หญิงสาวกำมือแน่น ตัวสั่นเทิ้มเพราะความโกรธ ทำไมเธอต้องมาทนให้เขาว่า ทั้งๆที่ความจริงแล้ว เธอมาที่นี่เพราะจะดูแลเขา เธอมาที่นี่เพราะเขาคนเดียวไม่ใช่ใครอื่นเลย

“ฉันจะมาทำอะไรหรือวิ่งหาผู้ชายที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน แล้วมันผิดตรงไหนที่ฉันจะมาหานนท์ ‘คนรักกัน’ ไปมาหาสู่กัน ฉันว่ามันก็ไม่เห็นผิดตรงไหน” ไม่รู้ว่าผีบ้าตนไหนเข้าสิงให้หญิงสาวพูดออกไปอย่างนั้นเพราะมันเหมือนกับเธอตองการประชดธนาดลไม่มีผิด...เหมือนมากจริงๆ

ธนาดลมองผู้หญิงตรงหน้านิ่ง ...หมดแล้ว...หัวใจฉัน ถูกเธอกรีดจนไม่เหลือชิ้นดีแล้วศรินดา...ไม่เหลือเลย

“รักมันหรือศรินดา...เธอรักไอ้นนท์งั้นหรือ” ธนาดลกลั้นใจถาม หวังลึกๆว่าคำตอบมันคงจะเป็น ‘ไม่’

“ค่ะ...ฉันรักนนท์ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะตอบตกลงแต่งงานเมื่อไหร่ดี”

ลมหายใจขาดห้วง หัวใจแทบหยุดเต้น คือความรู้สึกเมื่อได้ยินประโยคที่ออกมาจากปากผู้หญิงที่ผู้ชายอย่างเขา...ผู้ชายอย่างธนาดลรักสุดหัวใจ

...โกหกใช่ไหม...ช่วยบอกทีว่ามันเป็นแค่คำพูดล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องจริง

...ขอร้องล่ะ...ช่วยโกหกที อย่าได้ฆ่ากันทั้งเป็นแบบนี้ เพราะฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ

...เพราะเธอคือ...หัวใจ ลมหายใจ...และทุกๆอย่างที่ชีวิตฉันมี ได้โปรด...อย่าทำแบบนี้เลย...ได้โปรด...

“งั้นหรือ...” แต่ละคำที่ออกมามันช่างขมฝาดเสียจริงในความรู้สึกของธนาดล “...แล้วจะรอช้าทำไมล่ะ ตอบตกลงไปเลยสิ ตอบตกลงไปเลย เธอรอวันนี้มานานแล้วไม่ใช่หรือศรินดา”

มาคราวนี้เป็นฝ่ายศรินดาบ้างที่รู้สึกทำอะไรไม่ถูกราวกับว่าโลกกำลังหยุดหมุน...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอได้ยินธนาดลผลักไสเหมือนอยากให้เธอไปไกลๆน้ำตามันก็พาลจะไหลออกมา

“รีบๆตอบตกลงไปนะศรินดา รีบๆตอบไป...เพราะฉัน...ไม่อยากเห็นหน้าเธอ รีบๆไปเสียที” ชายหนุ่มข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นอย่างสุดความสามารถ นึกสมเพชตัวเองไม่น้อยที่พูดในสิ่งที่ตรงข้ามความต้องการของหัวใจเป็นที่สุด

...สนุกมากไหมไอ้ดล...เล่นกับหัวใจตัวเองแบบนี้ สนุกมากไหม...

ศรินดาข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เมื่อได้ยินธนาดลออกปากไล่เธอชัดเจน

“งั้นคุณดลคงไม่ผิดหวังหรอกค่ะ รอให้นนท์กลับมาก่อน ฉันจะตอบตกลงแต่งงานกับนนท์...” หญิงสาวเว้นช่วงไปนิดหนึ่ง ดวงตาคู่สวยสบกับดวงตาคู่คมอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะปล่อยคำพูดสองคำที่กระแทกหัวใจอีกดวงให้แตกเป็นเสี่ยงๆ

“...ทันที” พูดจบก็เดินลิ่วออกจากห้อง มือบางกระชากประตูปิดดังปึง ก่อนที่ร่างจะค่อยๆทรุดฮวบลงพิงกับประตูอีกด้านหนึ่ง หญิงสาวยกขึ้นปิดปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไปให้คนในห้องได้ยิน

...รักเขาแล้วใช่ไหมริน รัก...ผู้ชายคนนี้แล้วใช่ไหม

...รักจนปฏิเสธหัวใจตัวเองอย่างที่เคยปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหม

...แค้นเขามาก แต่เธอก็รักเขามากเช่นกัน เจ็บมากไหมริน

...ไม่น่ายอมรับว่ารักเลย ถ้าจะรู้ว่ามันเจ็บขนาดนี้ เจ็บ...ไปทั้งใจ

เธอยอมที่จะโกหกตัวเอง ยอมที่จะปฏิเสธความรู้สึกนี้ต่อไป แต่จะปฏิเสธได้นานแค่ไหนหรือ จะปฏิเสธได้อีกนานแค่ไหนว่าเธอไม่ได้รักเขา ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เธอรักเขา...รักจนหมดหัวใจ

รัก...โดยหาคำตอบไม่ได้ว่าเธอรักธนาดลไปตั้งแต่เมื่อไหร่

รัก...คนที่ทั้งแค้นทั้งชิงชังและแกล้งทรมานเธอสารพัด

...ทำไมกันนะ...ทำไมฉันต้องรักคุณด้วย มาทำให้รักกันทำไมหนอคุณดล...ทำไม...


---------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ดราม่า...อีกแล้วววววว T^T
คุณดลอ่ะะะะะ...พูดอะไรออกไป รินประชดเลยม้ายยยยยย
งานนี้รินรู้ใจตัวเองแต่เริ่มที่จะเสียใจบ้างแล้ว
อย่าเพิ่งเครียดกันนะค้าาาา

ปูลู...เข้ามาบอกอีกนิ้ดดดดดนึงว่า...อีกประมาณ 3-4 ตอนเราก็จะพักการดราม่าแล้วนะคะ ^___^


--เหมือนเคยค่ะ ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้น้า--
--ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์และกดไลค์นะคะ (ชอบก็กดไลค์เพิ่มกำลังใจหน่อยนะคะ คนเขียนจะได้มีแรงๆๆๆนะๆๆ ^____^--


คุยกันอย่างเคย....


คุณ Heronett : อ่านคอมเมนท์แล้วคนเขียนฮาเลยค่ะ เห็นด้วยอย่างมาก!!

คุณ roseolar : ใช่เลยค่าาา ถึงไม่บอกว่ารักแต่สายตา การกระทำและความหวังดีมันก็บอกว่ารักได้เนอะ แต่ผู้หญิงนี่คะ...ยังไงก็ต้องการให้ผู้ชายบอกว่ารักนี่นา (เพื่อความมั่นใจ) คุณดลเธอก็ไม่ใช่ผู้ชายอย่างนั้นซะด้วยสิคะ พี่ต้นอีกคน...ฮึ่ยยยย...น่าหงุดหงิดเนอะ ^^"

คุณ เด็กหญิงม่อน : สงสัยจะต้องจับคุณดลฟังเพลงนี้ซักร้อยรอบแล้วล่ะค่ะ

คุณ Auuuu : เหมือนมันจะคลุมเคลือใช่ไหมคะ แต่คนเขียนยังคงยืนยันว่านนทนัฐไม่ใช่คนไม่ดีค่ะ :)

คุณ anOO : ไม่ได้ถูกบังคับค่ะ แถมยังผลักไสรินไปให้นนท์ซะด้วย! ฮึ่มมมมม...

คุณ nunoi : จะเข้าใจเพราะคุณดลทำตัวน่ารักๆๆๆมากกกกกกกเลยล่ะค่ะ แต่อีกพักนึงน้าาาาา

คุณ MYsister : เขียนตอนแรกๆกลัวคนจะเกลียดคุณดลแต่ตอนนี้มีแต่คนสงสารคุณดลแล้ว คนเขียนแอบดีใจเล็กๆนะคะ

คุณ ดาวคันชั่ง : พี่ต้นก็คงรู้สึกประมาณคุณดาวคันชั่งนี่แหละค่ะ บางทีก็มีเซนท์เบาๆว่าคนนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจ อิอิ

คุณ Amata : ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ *-* // อยากให้คุณดลเลิกปากแข็งเหมือนกันค่ะ แต่ดูจากวี่แววเหมือนจะยากเลย ฮืออออ

คุณ lovemuay : แหะๆ คงต้องรอดูกันต่อไปนะคะ :)

คุณ Pat : ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^____^

คุณ หมูบูลิน : ดูน่าสงสัยใช่ไหมคะ ???? แต่คนเขียนยังยืนยันว่านนท์ไม่ได้เลวนะคะ





ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2555, 10:11:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ค. 2555, 11:18:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 2131





<< บทที่ 21   บทที่ 23 >>
WallyValent 2 พ.ค. 2555, 10:41:44 น.
คนหนึ่งรักแต่ไม่บอก คนหนึ่งทั้งรักทั้งบอกแต่ไม่ใช่คนที่เรารัก
โอย เลือกยากจริงๆ เป็นเราแยกวันคี่วันคู่แล้ว ไม่มานั่งปวดหัวหรอก 555 xD


tutas 2 พ.ค. 2555, 11:03:22 น.
ดราม่าเยอะเกินไปแล้วนะค้าาาา พอเถอะค่ะคุณปอแก้ว สงสารทั้งดล ริน พี่ต้น น้ำ หมอเขต นนท์ด้วย อยากให้แฮบปี้ซะที


Amata 2 พ.ค. 2555, 11:12:31 น.
นายนนท์ไม่เลยแต่แค่ฉวยโอกาศอ่ะ


jaijing 2 พ.ค. 2555, 11:13:08 น.
คุณดลน่าสงสาร แต่สงสารไรท์เตอร์มากว่า รู้สึกยังไงคะที่เขียนซะ คนอ่านไม่รู้จะสงสารใครดี เก่งจังเลยค่า อ่านไป ชมไป ไป


Heronett 2 พ.ค. 2555, 12:07:06 น.
สงสารทุกคนเลย ทำไมไม่บอกไปว่ารู้สึกยังไงกันแน่ แบบนี้มีแต่เจ็บกับเจ็บ เห้อๆๆ


MYsister 2 พ.ค. 2555, 12:21:28 น.
Like kun' tutas makkkkkkk KUN Prokeaw jai rai makkk


tutas 2 พ.ค. 2555, 13:40:50 น.
เล่ห์รัก..เล่ห์แค้น ขึ้นอันดับ 3 แล้วค่ะ คุณดลเรามาแรงจริงๆ ^^


anOO 2 พ.ค. 2555, 13:58:19 น.
เซ็ง!!! คู่พี่ต้นกับน้ำก็รักไม่ได้ ไม่ใช่ไม่ได้รัก
ส่วนคู่นี้ก็ผลักไสกันเหลือเกิน เป็นไงล่ะ เจ็บทั้งคู่


เด็กหญิงม่อน 2 พ.ค. 2555, 14:59:29 น.
โอ๊ยยยย ประชดกันไปประชดกันมาทั้งสองคู่เล๊ยยยยยย ปั๊ดเหนี่ยวเลยทั้งพี่ดลทั้งพี่ต้น


หมูบูลิน 2 พ.ค. 2555, 17:03:55 น.
ไม่ได้เลวแต่เห็นแก่ตัวป่ะค่ะwriter


nunoi 2 พ.ค. 2555, 17:56:47 น.
โอ๊ย คู่พี่ต้นรู้ทั้งรู้ว่ารักกัน แต่ รักกันไม่ได้ (ถ้ารักกันก็สงสัยคุณหมอเขต)
คู่คุณดล กับ ริน คิดแต่ว่าอีกฝ่ายแค้น ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองรัก เฮ้อ เหนื่อยจัง (แต่ก็สงสารนายนนท์เหมือนกันน่ะ เพราะรักหนูริน มาตั้งนานแล้ว)


roseolar 2 พ.ค. 2555, 19:10:27 น.
รักแล้วบอกออกไปคงดีกว่าเก็บไว้คนเดียว เฮ้อ!หนักใจแทนคุณดลกับรินจริงๆน้า ไอ้จะบอกว่ารักก็กลัวอีกฝ่ายจะเยาะ ไอ้จะบอกว่าไม่รักก็ต้องแอบมาเสียใจอยู่คนเดียว จะโทษใครไหนได้ล่ะเนี่ย งั้นคงต้องภาวนาให้มีเหตุการณ์มาดลใจให้ต่างฝ่ายต่างรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายและกล้าพอที่จะเปิดเผยความในใจของตนเสียแล้ว
ส่วนคู่พี่ต้น บอกได้คำเดียวคือ เสียดายหมอเขต


Auuuu 2 พ.ค. 2555, 19:36:02 น.
=_____________________="


lovemuay 2 พ.ค. 2555, 20:10:40 น.
แต่ละคน น่าสงสารกันทั้งนั้น แต่คนที่น่าสงสารสุดจริงๆคือหมอเขต เฮ้อ...


ดาวคันชั่ง 2 พ.ค. 2555, 20:54:53 น.
คือหมอเขตก็น่ารักนะคะ แต่เทใจให้พี่ต้นไปหมดแล้ว ><

ส่วนรินกับดล จะทำอะไรตรงข้ามกับความรู้สึกของหัวใจไปอีกนานแค่ไหนคะ ออกแนวชอบความเจ็บปวดกันรึเปล่าเนี่ย


Pat 2 พ.ค. 2555, 23:00:00 น.
เอาเข้าไป ประชดกันเข้าไป เฮ้อ ! คนเรานี่นะทำไมชอบจมอยู่กับความเจ็บปวดที่ก่อกันขึ้นมาเองนะ อ่านมาตั้งนานก็ยังไม่เห็นว่านนท์จะเป็นคนไม่ดีเลยอ่ะ แล้วไหงพี่ต้นถึงไม่ชอบไม่ไว้ใจนนท์หว่า


wane 3 พ.ค. 2555, 06:23:57 น.
สงสารหมอเขต ...มีแววจะกินแห้วทั้งๆ ที่เป็นคนดีขนาดนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account