อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
สำหรับเรื่องนี้เป็นงาน y ครับ..ถ้าไม่ชอบกากบาทสีแดงขอบบนขวา แต่ถ้าชอบก็จะมีศาสนาประกอบกันไปด้วยครับ เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี 49

พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..

สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com


ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
Tags: งาน y + ศาสนา

ตอน: 9

9


รถบัสที่เช่ามาใช้ในวันนี้ เคลื่อนตัวออกไปแล้ว สุริยาจึงได้ขนขวดน้ำดื่มและกระติกน้ำแข็งมากองรวมกันไว้ที่หน้าร้านพี่สมใจ ต่อจากนั้นก็ไปกดออดให้พี่สาวออกมารับของเข้าไปเก็บไว้ พร้อมกับแนะนำให้รุ่งโรจน์ได้รู้จักกับญาติของตน รุ่งโรจน์ยกมือทำความเคารพ..พี่สมใจมีใบหน้างง ๆ ด้วยคงจะคุ้นหน้ากับหนุ่มหน้าใสไฮโซคนนี้เป็นแน่ หากแต่สุริยาไม่กล่าวว่าอะไร พอเสร็จกิจตรงนั้นจึงขอตัวกลับ

บนรถเก๋งสีดำ รุ่งโรจน์ไม่ได้ขับเข้าซอยบ้านป้าของสุริยา หากแต่ขับเลยไปจอดที่ใต้ถุนคอนโดพร้อมกับปลุกอีกคนที่หลับผล็อยไปให้ลืมตาตื่น..

สุริยางัวเงียก่อนจะร้องถามว่า “ที่ไหน”

“บ้านของเราไง ขึ้นไปพักข้างบนเถอะ ดูคุณเหนื่อยมากนะวันนี้” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์อบอุ่นกว่าทุกครั้ง สุริยาปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย พอถึงห้อง 618 ไกด์เถื่อนก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาสีครีม ด้วยรู้สึกหมดแรงเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่ออกทัวร์

“คุณต้องมีผู้ช่วย ไม่ใช่วิ่งรอกทำคนเดียวซะทุกอย่าง” รุ่งโรจน์มานั่งข้าง ๆ พลางใช้หลังมือแตะหน้าผากอีกคน

“ตัวอุ่น แดดร้อนด้วยวันนี้ ระวังจะเป็นไข้นะ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้น กลับมาอีกทีมียาสองเม็ดกับน้ำหนึ่งแก้ววางอยู่บนโต๊ะ

“กินยาป้องกันก่อน ดีกว่าแก้ วันที่ 16 คุณต้องไปอีกไม่ใช่รึ เดี๋ยวไม่สบาย” สุริยาลุกขึ้นคว้ายาแล้วก็ดื่มน้ำตาม ก่อนจะล้มตัวลงนอน ส่วนรุ่งโรจน์เลี่ยงไปโทรศัพท์ สุริยาเคลิ้มหลับแต่ก็ได้ยินว่า..กำลังคุยกับแสงทองเรื่องทัวร์ของตน

และมาสะดุ้งตื่นอีกที ตอนกลางดึกในห้องนอนเย็นฉ่ำ ด้วยความงุนงงว่าเข้ามานอนในนี้ได้อย่างไร สุริยาขยับตัวจะลุกขึ้น เพื่อค้นหาโทรศัพท์ของตนมาดูเวลา แต่ก็พบว่าเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่เป็นชุดนอนของคนที่นอนเคียงกันเป็นแน่ แม้หาโทรศัพท์ของตนไม่พบ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงบอกเวลาตีสอง นึกถึงคนเป็นป้า ป่านฉะนี้คงเป็นห่วง เขาจึงลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูออกมาด้านนอก มองหาโทรศัพท์มือถือ และได้เห็นมันถูกวางไว้บนกองเสื้อและกางเกงของตน

รู้สึกขุ่นในใจเล็กน้อยที่อีกคนถือวิสาสะถอดเสื้อผ้า ในยามที่ตนไร้ความรู้สึก คว้าโทรศัพท์มือถือได้จะกดหาป้า ก็เห็นว่าหากโทรกลับไปจะเป็นการรบกวนเสียมากกว่า สุริยาทรุดตัวนั่งพิงโซฟาด้วยความรู้สึกสับสน งุนงงกับการกระทำของอีกคน ตั้งใจรอเวลาถึงตีสามจะโทรหาป้า หรือจะหนีกลับบ้าน แต่รู้สึกว่าหนังตาทั้งสองข้างหนักเหลือเกิน

สุริยามาตื่นอีกทีด้วยได้ยินเพลงด้วยรักและผูกพันของพี่เบิร์ดแว่วเข้ามาในโสตประสาท ขยับตัวรู้สึกว่ามีผ้าห่มคลุมทับทำให้อบอุ่น พอลืมตาตื่น จึงได้เห็นแสงสว่างลอดผ้าม่านมารำไร ยังไม่ทันคลายความงัวเงีย คนที่เป็นเจ้าของห้องเปิดประตูห้องกลับเข้ามา ใบหน้ายิ้มแย้ม ในมือมีถาดข้าวผัดสองจานพร้อมกับแกงจืดเต้าหู้สดหนึ่งถ้วย..

“ตื่นแล้วรึ เมื่อคืนท่าทางคุณจะเหนื่อยหนัก ผมปลุกให้ไปนอนข้างใน ก็ไม่รู้สึกตัว ผมก็เลยจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แล้วอุ้มเข้าไปนอนข้างใน..คุณไม่โกรธผมนะ”

“ทำไม ผมต้องโกรธคุณด้วย” สุริยารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

“อ้าว..ก็เห็นคุณหนีออกมานอนข้างนอก”

“ทำไมยาของคุณ ถึงทำให้ผมง่วงได้ถึงขนาดนี้” สุริยายังสงสัย

“คุณเหนื่อยมาก ไม่รู้ตัวหรือไง กลับมาจากปางจันทร์คุณได้พักเต็มที่หรือยัง เมื่อวานผมเห็นคุณวิ่งตามคนตั้งแต่เช้ายันค่ำ ยืนพูดไมโครโฟนตลอดเวลาที่รถวิ่ง คิดดูเถอะว่าคุณใช้พลังงานไปเท่าไหร่ เชื่อผมเถอะ ขืนคุณคิดทำคนเดียวอย่างนี้ สักวันคุณจะน็อค แล้วถ้าน็อค อย่างพรุ่งนี้ ใครจะพาลูกทัวร์คุณเที่ยว ตอนนี้ถ้าคุณคิดจะก้าวหน้า คุณต้องทำให้มันเป็นระบบ เพียงคุณบริหารเท่านั้น ทัวร์คุณไปได้ไกลอย่างแน่นอน”

“แต่ผมไม่มีทุนสำรองมากมาย” สุริยาไม่ได้บอกใครหรอก ว่าเขาต้องส่งเสียพ่อแม่เดือนละเท่าไหร่ให้ป้าเดือนละเท่าไหร่ หรือส่งให้พระอาจารย์ได้เลี้ยงเณรรุ่นน้องเดือนละเท่าไหร่


ทุกคนคิดว่า เขาตัวคนเดียวคงจะมีเงินเหลือกินเหลือใช้

แต่เปล่าเลย เขามีเงินสำรองในบัญชีเพียงสองหมื่นกว่าบาท คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องมีทัวร์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เสียภาษีให้รัฐ โฆษณาได้เต็มที่ แต่มันก็เป็นเพียงความฝันในอากาศ ไม่มีทุนสำรอง ขืนทำงานใหญ่มีหวังได้พังลงมา

“คุณไปอาบน้ำ แล้วออกมากินข้าว ให้อารมณ์ดี ๆ ก่อน ผมมีอะไรดี ๆ จะเสนอคุณ”

สุริยาลุกขึ้นยืน ถามถึงผ้าเช็ดตัว อีกคนจึงว่า

“เปิดตู้ พอใจผืนไหน พอใจเสื้อกางเกงตัวไหนก็หยิบไปใช้ตามสบาย สำหรับคุณผมไม่ถือ เพราะรู้ว่าคุณเป็นคนสะอาดไม่สำส่อนแน่ ๆ”

“รู้ได้อย่างไร” สุริยาหันมาน้ำเสียงเข้มขึ้น

“รู้ได้แล้วกัน ” รุ่งโรจน์ทำน้ำเสียงว่าถือไพ่เหนือกว่า สุริยาเข้าห้องนอนไปเปิดตู้คว้าผ้าเช็ดตัวของเขาที่วางอยู่เป็นแหนบมาได้ก็ตั้งท่าจะเข้าห้องน้ำ รุ่งโรจน์ที่เดินตามมาเกาะวงกบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ สุริยาเหลือบตามามองก่อนจะตวัดผ้าเช็ดตัวขึ้นบ่า

“จริง ๆ ไม่ต้องเข้าไปแก้ในห้องน้ำหรอก แก้ตรงนี้ก็ได้ ของคุณ เมื่อคืนนี้ ผมเห็นหมดแล้ว”

ที่นี้ส่งผลให้สุริยาต้องปิดประตูห้องนอนดังปัง บอกให้อีกคนรู้ว่า ไม่พอใจที่เขามาละลาบละล้วงกันแบบนี้


สักพักสุริยาก็ออกมาจากห้องนอนพร้อมใบหน้าที่สดชื่นมีชีวิตชีวาผิดกับเมื่อครู่ และเมื่อเห็นรุ่งโรจน์ทำทีว่านั่งรอกินข้าวมื้อเช้าด้วยการฟังเพลงพี่เบิร์ดที่เขาโปรดปราน สุริยาก็รู้สึกผิดที่ใส่อารมณ์กับเจ้าบ้าน

“ลืมบอกไปว่าไม่ต้องรอ กินก่อนได้เลย”

“ก็รอไปแล้ว..เร็วซิ..รีบมากินข้าวด้วยกันผมหิวแล้ว” รุ่งโรจน์กุลีกุจอยื่นจานข้าว พร้อมกับแก้วน้ำให้

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติเหลือกำลังจริง ๆ ที่ได้รับการดูแลเยี่ยงนี้” เมื่อเห็นว่าอีกคนดูดีมีความสุขสุริยามีอารมณ์ที่จะสำบัดสำนวนขึ้นมาบ้าง

จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เขารู้สึกว่ารุ่งโรจน์เต็มใจที่จะปฏิบัติต่อเขาแบบนี้..หรือบางทีเขาอาจจะเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของลูกเศรษฐีนี่ก็เป็นได้ พอเบื่อ สักวันก็ห่างหายกันไป ช่วงรอให้เบื่อ เขาก็ทำเป็นโอนอ่อนผ่อนตามไปก่อนละกัน ถือเสียว่า ผลบุญหนุนนำ คิดพลางก็ยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก..

รุ่งโรจน์ขมวดหัวคิ้วก่อนจะเอ่ยปากถาม “เป็นอะไร”

“เป็นบุญของผมแท้ ๆ ที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากคุณชายเช่นนี้ ถ้ามีสิ่งใดที่ผมจะตอบแทนได้บ้างก็บอกนะครับ”

“ใครว่า นี่ผมกำลังตอบแทนความดีของคุณอยู่ต่างหาก ถ้าวันนั้นที่ปางจันทร์”

สุริยารีบโบกมือห้ามไว้

“อย่าอ้างถึงมันเลย ผมละอายจัง เหมือนกำลังคิดมาทวงความดีความชอบจากคุณ”

“ผมชอบใจคุณ อยากเห็นคุณมีความสุข อยากแบ่งปันสิ่งที่ผมมีให้คุณบ้าง ถ้าผมบอกอย่างนี้คุณจะเชื่อใจผมไหม” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์จริงจัง สุริยารู้สึกว่า หากตัวเองเป็นผู้หญิงคงจะละลายอยู่ในวงแขนของเขาเป็นแน่ แต่เมื่อเป็นผู้ชายด้วยกัน จึงทำได้เพียงยิ้ม ๆ

ประโยชน์อยู่ที่ตัวเขา..ความสุขอยู่ที่อีกคน ประโยชน์เกื้อกูลกัน ก็ไม่ผิดที่จะน้อมรับไมตรีจิตนี้ไว้..เมื่อกินข้าวอิ่ม สุริยาจัดจานซ้อนไว้บนถาดกำลังจะยกไปหาที่ล้าง

“ไม่ต้องหรอก วางไว้หน้าประตู เดี๋ยวเขาก็ขึ้นมาเก็บ จะดื่มกาแฟไหม ผมจะชงให้”

สุริยารีบปฏิเสธ แต่ก็ช้ากว่ารุ่งโรจน์ที่เดินไปชงมาส่งให้ พร้อมของตนอีกหนึ่งแก้ว

“ไม่เห็นคุณสูบยา”

“ผมไม่ได้ติด จะสูบเฉพาะตอนที่เครียด ๆ เท่านั้น” คนเคยถูกตำหนิว่าไม่ดี รีบแก้ตัว

“ดี แสดงว่าตอนนี้คุณไม่เครียดแล้วใช่ไหม”

“ใช่ เพราะผมอยู่ใกล้คุณไง ผมจึงไม่เครียด” พอได้ยินดังนั้นสุริยาต้องเบือนหน้าหนีสายตาที่จ้องมองมา หากรุ่งโรจน์เป็นเกย์ ชอบผู้ชายด้วยกันจริง ๆ เขาจะทำอย่างไร..คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก และยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะคุยกันด้วยเรื่องอะไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น


รุ่งโรจน์รีบกรากไปเปิดด้วยอาการกระตือรือร้น พอประตูเปิด เผยให้เห็นสาวสวยนามแสงทองยืนยิ้มกว้าง ถือของพะรุงพะรัง

“สวัสดีค่ะ” แสงทองก้าวเข้ามาพลางเอ่ยคำทักทาย พร้อมกับวางถุงที่ถือมาไว้ที่เคาน์เตอร์มุมครัว

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย” รุ่งโรจน์ถาม

“เห็นว่าอยู่กันแค่สองคน รู้ว่าต้องไม่มีอะไรจะกินแน่ ๆ”

“มาได้อย่างไร” สุริยาร้องถามเมื่อแสงทองเดินมานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน

“พี่รุ่งโทรไปชวน บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ...”


ขณะที่สุริยากำลังคุยสัพเพเหระอยู่กับแสงทอง รุ่งโรจน์ก็นำขนมและผลไม้ที่แสงทองซื้อมาจัดใส่จาน..โดยอ้างว่าตนเป็นเจ้าบ้านต้องดูแลแขกให้ดีที่สุด..หลังของว่างมื้อนั้นพร่องไป..รุ่งโรจน์จึงเอ่ยขึ้นว่า

“ผมมาคิด ๆ ดูแล้ว ผมอยากจะร่วมทุนกับคุณสองคน ทำบริษัททัวร์”

ทีนี้คนฟังทั้งคู่ตกตะลึง

“เกิดอะไรขึ้น ไปเที่ยวมา ไหว้พระมาวันเดียว ..พระวัดไหนท่านช่วยดลใจ” แสงทองทำเสียงตลก แต่สุริยาไม่ตลกด้วย เพราะเขากำลังจะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์ ..รุ่งโรจน์กำลังจะทุ่มเทบางอย่างให้กับเขา มากเกินไปรึเปล่า

“ทำหน้าเหมือนไม่ดีใจ” แสงทองเอ่ยถาม คนที่นั่งเคียงกัน..สุริยาได้แต่ยิ้มแหย ๆ ..ส่วนรุ่งโรจน์ในแววตามีประกายแห่งความสุขเหลือกำลัง

“ผมไปเที่ยวกับคุณสุริยามาเมื่อวาน ผมได้ยิน คนแก่คนหนึ่งพูดกัน ถ้าไม่ได้สุริยาเห็นจะไม่ได้มาเที่ยวไหว้พระ ไม่ได้มาเที่ยวในราคาประหยัดแบบนี้ ผมเห็นว่ามันคุ้มค่าเงิน มันถูกมากกับเงินค่าตั๋วแค่นั้น กับบริการอย่างนั้น กับความรู้ที่คุณมอบให้พวกเขา”

“อยากไปเห็นบ้างจัง” แสงทองขัดจังหวะ..

“ผมจะเป็นนายทุน ให้คุณบริหาร ส่วนแสงทองเป็นผู้ช่วย ..ทำให้เต็มที่ ใช้ความรู้บวกความฝัน คุณสองคนคือแสงสว่าง คุณสองคนต้องทำให้คนอื่นมีความสุขได้” น้ำเสียงรุ่งโรจน์จริงจังจนสุริยารู้สึกกริ่งเกรง กอปรกับว่าตนเองยังรู้จักผู้ชายตรงหน้าน้อยไปเสียแล้ว

“ทำไมเชื่ออย่างนั้น” แสงทองถามบ้าง..

“ก็..วันที่เราขึ้นไปบนเขาปางสุดยอดด้วยกัน ผมได้เห็นลักษณะพิเศษของแสงทอง ลำพังถ้าเธอไม่นึกถึงความสุขของคนอื่น เธอคงไม่ลำบากลำบน พาผมกับคุณยะไปให้เหนื่อยหรอก ใช่ไหม”

สุริยาพยักหน้าเบา ๆ

“ผมเองเคยใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระมาแยะแล้ว..เรื่องแค่นี้ พวกคุณจะหาว่าผมเอาเงินมาเล่นก็ว่าเถอะ แต่ผมอยากเห็น ความฝันของคุณสุริยาเป็นจริง ถึงแม้มันจะเป็นเพียงทัวร์ไหว้พระ ทัวร์ในประเทศ แต่มันมีประโยชน์กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง คุณต้องการกลุ่มลูกค้าระดับล่างระดับรากหญ้า เหมือนกับสายการบินต้นทุนต่ำ ตัดสิ่งที่ฟุ่มเฟือยออกไป เอาพอสบาย ช่วยเหลือตัวเองบ้าง ดีกว่านั่งรถไปเอง หรือรอให้ลูก ๆ มาพาไป หรือไปกันเองอย่างไม่มีความรู้”

สุริยารู้เลยว่า ขณะที่เขาบรรยายอยู่บนรถ รุ่งโรจน์ตั้งใจฟังถ้อยคำของเขาเป็นอย่างมาก

เขารู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างประหลาด ด้วยเคยอธิษฐานจิต ขอให้มีบริษัททัวร์เป็นอัศจรรย์ และอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือเงินทุน และหมู่คณะที่รักจะดูแลคนอื่นประดุจญาติพี่น้องของตน

วันนี้เขาได้เจอะเจอคนทั้งสองคนพร้อม ๆ กัน

“คุณสุริยาว่าอย่างไร”

“คุณแน่ใจแล้วรึ ว่าคุณพร้อมจะมาร่วมหัวจมท้ายกับผม ลำพังตัวผมเอง ผมรู้ว่าผมต้องการอะไรปรารถนาอะไร ส่วนคุณ เราเพิ่งจะรู้จักกัน คุณไว้ใจผมอย่างนั้นหรือ คุณมั่นใจว่าคุณพร้อมจะเป็นผู้ให้กับคนอื่นได้หรือ ถ้าทัวร์ของเราเข้าสู่ระบบจริง ๆ มันมีค่าใช้จ่ายมันมีต้นทุนที่สูงขึ้น คุณพร้อมที่จะทำบุญทางอ้อมอย่างนั้นหรือ”

“ผมคิดว่าคุณคงทำกำไรให้ผมได้..เพราะกำไรของผมก็คือความสุขที่เห็นคุณมีความสุข”

แสงทองยิ้มให้สุริยาก่อนจะบอกว่า

“พี่อธิษฐานไว้ที่พระบาทปางจันทร์ไม่ใช่รึ อยากมีบริษัททัวร์ที่ถูกกฎหมาย ก็จะได้แล้วนี่ไง ทำหน้าดีใจหน่อยซิ”

“พี่ไม่คิดว่ามันจะได้มาง่าย ๆ อย่างนี้นะซิ แสงทอง”

“ถ้าคุณสองคนตกลง ที่นี้เรามาคุยกันในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป”

แล้วสุริยาก็ร่ายความรู้ที่ได้ศึกษามาในเรื่องการจัดตั้งบริษัทนำเที่ยว และมัคคุเทศก์

“ลำพังผมตอนนี้เห็นคงจะไม่อยากเข้าสู่ระบบการศึกษาใด ๆ แล้วผมเบื่อ” สุริยาบอกตามตรง

“นี่ไง แสงทอง ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย เมื่อตรงไหนมีอบรมมัคคุเทศก์เมื่อไหร่ เธอก็ดำเนินการในส่วนนั้นได้เลย ส่วนเรื่องเงินสำหรับตรงนั้นผมจะออกให้ทั้งหมด”

“ตกลงคุณจะจัดตั้งเป็นห้างหุ่นส่วนหรือบริษัท” สุริยาถามความคิดเห็น

“ผมอยากได้รูปแบบห้างหุ้นส่วน มีเราเพียง 3 คนเท่านั้น ผมบอกตามตรงนะ ข้อเสียคือ ผมเป็นคนที่คบกับคนค่อนข้างยาก แต่ข้อดีถ้าผมเลือกจะคบหากับใครแล้วผมจริงใจ ตอนนี้ผมเลือกคุณสองคน อย่าให้ผมต้องอ้างนะว่า เพราะคุณทั้งสองเคยช่วยผมไว้”

“หนูไม่ได้ช่วยนะ ตกกะไดพลอยโจนต่างหาก”

รุ่งโรจน์หัวเราะ

“ถ้าเธอไม่ช่วย สุริยาเขาก็คงเหนื่อยกว่านั้น หรือถ้าเธอไม่ทำกับข้าวให้ผมกินตั้งหลายมื้อ ผมก็คงอดตาย โดยเฉพาะไอ้เขียดทอดกับปลาร้าบองนั่น”

ทีนี้ทั้งสามคนหัวเราะพร้อม ๆ กัน

“หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่ว่า อยากจะแกล้งคนกรุงเล่น ๆ ก็เท่านั้น”

หลังจากนั้น ก็คุยในเรื่องรายละเอียดผลประโยชน์

“40-30-30” รุ่งโรจน์เสนอขึ้นก่อน สุริยาจึงเอ่ยมาว่า

“50-25-25 เพราะคุณเป็นทุนพวกผมเป็นคนทำงาน กินเงินเดือนพออยู่ได้แล้วกัน”

แต่แสงทองเสนอว่า

“สำหรับคนจับเสือมือเปล่าอย่างหนู ขอเสนอ เป็น 50-40-10 เพราะว่าหนูเป็นเพียงคนที่บังเอิญโชคดีเท่านั้น ทุนเป็นของพี่รุ่ง โครงการเป็นของพี่สุริยา และตอนนี้หนูยังคงลงมาช่วยเต็มตัวไม่ได้ เพราะยังต้องเรียน ขอแค่มีเงินรายได้ต่อครั้งหรือไม่ก็เงินปันผลต่อปีก็พอ”

“คนอื่นที่ไหน คนกันเองทั้งนั้น” รุ่งโรจน์แย้ง

“ไม่เจ้าค่ะ แต่จริง ๆ แล้วหนูคิดการไกลกว่านั้น ไม่แน่วันหนึ่งข้างหน้า หนูอาจจะมี 10+50 หรือไม่ก็10+40 แล้วแต่พี่คนหนึ่งคนใด จะเป็นพ่อของลูกในท้องหนู” แสงทองพูดหน้าตาเฉย

ทีนี้รุ่งโรจน์ใช้หนังสือ อสท. เคาะหัวแสงทองดังปึง

“มันก็ขึ้นอยู่กับเธอ จะทำให้ใครหนึ่งในสองคนติดกับดักเธอได้”

“พูดเรื่องอื่นเถอะ” สุริยารีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“จริง ๆ แสงทอง ...งานนี้เธอต้องถามตัวเองเหมือนกันว่าพร้อมจะลุยตรงนี้ไหม ถ้าพร้อม ในเบื้องต้นที่เรายังเล็ก ๆ กันอยู่อย่างนี้ มันต้องมีไกด์ และผมเองก็ไม่อยากที่จะไปอบรม ชอบที่จะอ่านเองจากหนังสือที่วางขายอยู่มากกว่า..ถ้าเธอพร้อมลุย มันก็เป็นสัญญาใจนะ ว่าเธอเรียนจบ เธอต้องมาร่วมหัวจมท้ายกับเรา เธอเรียนมาอย่างนั้นเธอคงมีความฝันของเธอ..”

“โอ..เค จริง ๆ หนูซึ้งใจกับพี่ทั้งสองคนนะคะ ที่อยากดึงหนูมามีส่วนร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าหนูยังไม่เคยไปเที่ยวกับพี่สุริยา แต่ฟังจากที่พี่รุ่งพูดมา แสดงว่ามันคงดีมีประโยชน์ต่อคนอื่นอยู่บ้าง ทัวร์ของเราเป็นกึ่งการกุศล จุดขายของเราคือวัดในเมืองไทย หรือพระธาตุเจดีย์ทั่วไทย..กลุ่มเป้าหมายคือชาวพุทธ คือผู้สูงอายุ..คือสตรี..คือคนดีรักบุญกุศล..ความฝันของหนูคือเป็นคนเขียนหนังสือเรื่องสั้น นิยาย บทความ สารคดี อย่างที่หนูเรียนมา งานนี้มันคงทำให้หนูได้เห็นโลกกว้าง..ได้เป็นนายตัวเอง ได้เป็นเจ้าของกิจการมีงานทำ มีเงินใช้ ได้พัฒนาตนเอง ..ตกลงค่ะ หนูยินดีร่วมหัวจมท้าย หนูมั่นใจในความสามารถพี่สุริยา มั่นใจในกำลังเงินของพี่รุ่ง..โอเคไหมคะ”

พอพูดจบ รุ่งโรจน์ก็ยื่นมือขวาคว่ำไว้ สุริยายื่นไปทับ ต่อด้วยมือขาวเหลืองของสาวแสงทอง..

“..เยส..สส”



ตกลงเย็นวันนั้นแสงทองขอกลับไปนอนที่อพาร์ทเมนต์ โดยบอกออกมาตรง ๆ ว่า ไม่ไว้ใจสองหนุ่ม กลัวท้องไม่มีพ่อ..หญิงสาวจะกลับเอง แต่รุ่งโรจน์ไม่ยอม บอกว่าต้องไปส่ง..ส่วนพรุ่งนี้เช้ารุ่งโรจน์จะไปรับ แต่แสงทองบอกว่าถ้าไปรับ จะไม่ไปด้วย..ขอขึ้นรถมาแต่เช้ามืดดีกว่า แค่นี้เธอมาถูก..

หลังจากที่ส่งแสงทองเรียบร้อย..รุ่งโรจน์ก็พาสุริยาไปหัดขับรถ เหตุผลของอีกคนก็คือ

“เวลาไปไหน ถ้าคุณขับเป็น ผมก็จะได้พักผ่อน”

สุริยาจำนนต่อเหตุผลนั้น

เมื่อขับมาส่งที่บ้าน รุ่งโรจน์จึงเอ่ยปากขอโทษที่เผลอดุนักเรียนใหม่ไปหลายหน.. สุริยาเม้มปากพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ความโกรธคือการทำร้ายตัวเอง ทำให้ใจตนขุ่น เป็นทุกข์โดยใช่เหตุและอาจทำให้เสียเพื่อนไปด้วย เมื่อได้ยินคำนั้น เขาจึงยิ้มกว้างออกมา พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษคืนที่ทำหน้าบึ้งใส่ และสุดท้ายก่อนจะลงจากรถ เขาเอ่ยปากขอบคุณ คนที่มีน้ำใจกับเขาอย่างมากเกินไป


หลังจากสุริยาลงจากรถ รุ่งโรจน์ก็ขอตัวกลับบ้าน อ้างว่า มีธุระ

สุริยามองรถโตโยต้า คัมรี่สีดำ แล่นออกจากบ้านตัวเองไปด้วยความรู้สึกแปลก ๆ พยายามไม่ดีใจจนเกินไป เนื่องด้วยสิ่งที่รุ่งโรจน์พูดมานั้นยังไม่เกิดขึ้นจริง ด้วยรู้ว่าเมื่อหวัง แล้วผิดหวัง ความทุกข์มันจะเกาะกิน แต่ความรู้สึกในขณะนี้ เขารู้สึกว่าโลกสดใสทีเดียว จนกระทั่งป้าร้องทักว่า

“ไง มีเก๋งนั่งสบายแล้วซิ”

เขาได้แต่ยิ้ม ๆ ..ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านแล้วเปิดเพลง ‘พะวงรัก’ ที่ป้าชอบ ให้ป้าฟังไปสามรอบ..


วันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็นวันมาฆบูชา..เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันเพ็ญเดือนสาม จาตุรงคสันนิบาต พระภิกษุขีนาสพ หมดอาสวะกิเลส โดยมีพระพุทธเจ้าบวชให้ จำนวน 1,250 รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย พระพุทธองค์แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ หลักการเผยแผ่ธรรมและการครองตนของสมณะ..

สุริยานึกถึงเมื่อครั้งเป็นสามเณร..การท่องจำกับไม้เรียวที่พระอาจารย์ถวายให้สามเณรแต่ละรูปในทุก ๆ เช้าเย็น คราบน้ำตาในวันนั้น กับสิ่งที่ติดอยู่ในใจ ช่างคุ้มค่าเมื่อได้มาเผชิญโลกในวันนี้

หลักธรรมมากหัวข้อที่ต้องท่องจำเพื่อสอบนักธรรมตรี, โท, เอก ให้ได้ ให้พ้นไม้เรียว หลายต่อหลายหัวข้อ ผุดขึ้นในมโนวินิจฉัย แยกแยะถูกผิดดำขาวของหัวใจ..อารมณ์สุขบางประการจึงเกิดขึ้นในขณะที่หลาย ๆ คนเห็นแต่ว่าเป็นทุกข์..คุณของพระธรรม..เป็นเช่นนี้เอง..

วันนั้นแสงทองนั่งรถเมล์มาถึงตั้งแต่หกโมงเช้าอย่างที่พูดไว้

ส่วนรุ่งโรจน์จวนจะได้เวลารถออกจากจุดนัดหมายก็ยังไร้วี่แวว

“ไม่มาแล้วมั้ง” แสงทองดูมีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมา


ส่วนสุริยา ก็ทำหน้าที่ของตน คือจัดคนขึ้นนั่งประจำที่ และวันนี้ สุริยาทัวร์ มีลูกค้าไม่เต็มคัน ด้วยเด็กอ้อยมาบอกแล้วว่า

“มันเป็นวันหยุดสามวัน จึงมีคนกลับบ้านต่างจังหวัดบ้าง ส่วนหนึ่งก็ไปตั้งแต่วันเสาร์ อีกส่วนก็ไปกับเจ้าอื่น”

เจ้าอื่น ทัวร์ทำนองเดียวกัน จัดไปเที่ยวภูหมอก ดอกไม้ ขุนเขา ทะเล แล้วแต่ถนัด ย่อมถูกใจคนจำนวนหนึ่ง เป็นธรรมดาที่ธุรกิจย่อมมีคู่แข่ง ทุกคนปรารถนาที่จะร่ำรวยกันทั้งนั้น สำหรับเขานึก ๆ แล้วสักวันหนึ่งจะดำรงอุดมการณ์เช่นนี้ได้หรือ

จนกระทั่งเลยเวลารถออกไป 20 นาที เมื่อลูกทัวร์มาครบ สุริยาจึงตัดสินใจไม่รอคนที่แสงทองบ่นอุบอิบว่า

“พี่ยาที่พูดกับเราไว้เมื่อวานหวังว่าคงไม่เป็นแค่ลมผ่านปากเขาหรอกนะ..” ดูหญิงสาวยังไม่ไว้ใจในตัวรุ่งโรจน์เท่าไหร่

“คงติดธุระมั้ง ช่างเขาเถอะอย่างไรเขาก็ไปมาแล้วหนึ่งรอบ คงไม่อยากไปซ้ำ และสุดท้าย สุภาษิตไทยก็ยังใช้ได้เสมอนะ หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน”

“และถ้าหนทางพิสูจน์คน กาลเวลาพิสูจน์ม้าได้หรือเปล่า” สาวเจ้ารวนให้ก่อนจะขึ้นรถไปนั่งที่เบาะตนเอง

และงานที่ตนทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ ก็กลับมาอีกรอบ โดยที่เขาไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายแต่ประการใด ทุกครั้งที่เปิดไมโครโฟนบรรยายประวัติศาสตร์ชาติไทย ผสมกับประวัติศาสตร์ศาสนา สอดแทรกหลักธรรม มีคนบนรถเพียงคนเดียวที่ทำท่าสนใจ เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด นั่นคือกำไร..รู้ว่ามีบ้างที่ขึ้นมาลองเที่ยวด้วยกัน เห็นว่าทัวร์นี้เป็นอย่างนี้ ไม่ถูกจริตก็ต่างคนต่างไป

..ไม่แน่ วันหนึ่งข้างหน้า หากเขามีงบประมาณเพียงพอที่จะสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย เมื่อนั้นคงได้ดึงคนอีกกลุ่มกลับมาเพื่อประโยชน์ทางธรรมะที่ตั้งใจเผยแผ่ ด้วยบัวมีสี่เหล่า บางทีพูดซ้ำ ๆ บัวเหล่าที่ สาม และสี่ อาจจะรู้สึกว่าศาสนามีคุณขึ้นมาบ้างก็ได้


เมื่อลูกทัวร์ลงจากรถ ณ จุดแรกวัดพนัญเชิง แสงทองจึงเข้ามาคุยด้วย

“เก่งมาก ไม่คิดว่าพี่จะพูดได้ลื่นไหลขนาดนี้”

พอถูกชม สุริยาจึงได้แต่ยิ้ม ๆ ไม่คิดยกหาง..คิดเสมอว่ายังไม่ดีที่สุด

“แล้วคิดว่าทำได้ไหม”

“ประวัติศาสตร์นี่พอลุ้นนะ แต่หลักธรรม กับพิธีกรรม เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย อาทิ ต้องกราบสวย ๆ ต้องถวายของดี ๆ ต้องตั้งใจ อานิสงส์นั่นนี่ หนูว่าคงอีกไกล”

“คงจะจริง ถ้าไม่ท่องจำไว้ตั้งแต่เณร ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดได้ลื่นไหลหรือเปล่านะ อย่างบางหัวข้อ สมัยนั้นถูกไม้เรียวฟาดไปหลายทีเหมือนกันกว่าจะจำได้ ไม่น่าเชื่อนะ เข้าใจคำว่าบุญเก่าไหม”

คู่สนทนาส่ายหัว

“บุญเก่าคือ เรื่องดี ๆ ที่ผ่านไปแล้ว พี่เป็นอย่างนี้ได้ ก็เพราะเรื่องดี ๆ ที่ได้ทำไว้เมื่อวาน ..เพราะฉะนั้น เรื่องดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ก็ต้องทำดี ๆ ตั้งแต่วันนี้ เริ่มอ่านเถอะ รับรอง เธอจะเก่งได้ไม่แพ้พี่”

“เจ้าค่ะ จะพยายาม”

“วันนี้ ก็ดูพี่ไปก่อน มาครั้งหน้า จะให้ลองทำหน้าที่”

“หนูกลัวไมค์”

“ของมันฝึกกันได้ ไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอกคนสวย”


“เจ้าค่ะ อันลิงค่างกลางป่า จับมามัด สารพัด หัดได้ดั่งใจหมาย เป็นนักเรียนครูเพียรสอนแทบตายถ้าเอาดีไม่ได้ก็อาย...ลิง”

พูดจบสาวเจ้าก็สะบัดหน้าพรืดวิ่งข้ามสะพานไปไหว้พระ ส่วนตัวเขาก็ตามไปถ่ายรูปลูกทัวร์ ไว้เป็นที่ระลึก ..นึก ๆ ก็อดตำหนิตัวเองไม่ได้ ..หยาบขึ้นรึเปล่า นึกถึงเงินจนไม่ได้เข้าไปไหว้พระครบทุกวัดเหมือนเมื่อก่อน..แต่อย่างว่า ทำคนเดียวคิดคนเดียว..คงจะจริงอย่างที่รุ่งโรจน์ว่าไว้ หากล้มลง คนที่ซื้อทัวร์ จะทำอย่างไร

ระหว่างทำหน้าที่ สุริยาก็อดนึกถึงคนที่ผิดนัด ก็อดที่จะหวัง ว่าเขาอาจขับรถตามมาเพื่องานของเรา แต่เงานั้นก็เงียบหายจนกระทั่งเย็น..หนังสือพิมพ์รอบเย็นออกวางจำหน่าย แสงทองจึงวิ่งร่าถือมาด้วยใบหน้าสมใจหมาย

“นี่ไง..คุณรุ่งโรจน์ของพี่” เจ้าตัวชี้ไปที่ภาพข่าวงานของแวดวงไฮโซ..

“คุณพ่อ คุณแม่ คนข้าง ๆ คาดว่าจะเป็นคู่ควงคนไหม ถ้าใช่ ก็กิ่งทองใบหยก” น้ำเสียงบอกให้รู้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“เห็นไหมล่ะ อย่าไปหวังอะไรมากนักเลย ถ้าเขาทิ้ง เราจะกินแห้ว แต่ก็เถอะ พี่สุริยา หนูตัดสินใจแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หากเขาไม่ทำอย่างที่พูดไว้เมื่อวาน แต่หนูจะร่วมหัวจมท้ายกับพี่อย่างเต็มที่ หนูจะไปอบรมไกด์ จะพยายามฝึกพูดไมค์ ส่วนเรื่องกิจกรรมไม่ต้อง เด็กรามถนัด หรือถ้าคิดจะโต หนูก็จะช่วยทุบกระปุกร่วมทุน พี่ว่าดีไหม”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 เม.ย. 2554, 11:33:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 เม.ย. 2554, 11:33:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 1619





<< 8   10 >>
อมลลดาOWOอมรรัตน์ 30 พ.ค. 2554, 14:31:02 น.
น่าติดตามมาก ๆ คะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account