อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
สำหรับเรื่องนี้เป็นงาน y ครับ..ถ้าไม่ชอบกากบาทสีแดงขอบบนขวา แต่ถ้าชอบก็จะมีศาสนาประกอบกันไปด้วยครับ เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี 49
พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..
สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com
ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..
สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com
ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
Tags: งาน y + ศาสนา
ตอน: 10
10.
เจดีย์ภูเขาทอง มีสีขาวตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า ลักษณะของเจดีย์ฐานเขียงฐานปัทม์เป็นแบบเจดีย์ทรงมอญ สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าบุเรงนอง แต่ส่วนต่อที่ซ่อมแซมจากคราวหักลงมามีลักษณะไม้ย่อมุมสิบสอง ศิลปกรรมแบบอยุธยา..ในความผสมผสานจึงกลายเป็นที่ถกเถียงว่า เหตุแห่งการสร้างแต่เดิมนั้นบรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้าหรือว่าเก็บกระดูกทหารพม่า เพื่อประกาศถึงชัยชนะ
จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ สุริยา กล่าวกับลูกทัวร์ว่า
“วันนี้วันมาฆบูชา ณ ที่ตรงนี้เหมาะที่จะประกอบพิธีจุดประทีปเทียน..เนื่องด้วยเป็นเวลาใกล้พระอาทิตย์ลับฟ้า..พระเจดีย์องค์นี้จะสร้างด้วยเหตุใดก็แล้วแต่นั่นคือเรื่องราวในอดีตที่เราไม่อาจแก้ไข แต่ปัจจุบัน พวกเราชาวพุทธด้วยกัน..อโหสิกรรม ระลึกนึกคุณของพระศาสดาที่ตรัสรู้แล้วเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนให้พวกเราได้พ้นจากบ่วงทุกข์ เป็นดีที่สุด”
พิธีเวียนเทียนทำอย่างง่าย ๆ โดยใครที่มีแรงป่ายปีนขึ้นไปส่วนบนฐาน ตรงกลางองค์เจดีย์ที่บูรณะใหม่..ก็ขึ้นไปเดินรอบองค์เจดีย์ ณ จุดนั้น หากใครไม่มีแรง เพียงนั่งสวดมนต์ส่งจิตใจอยู่ด้านล่างก็ได้..
รถบัสที่เช่ามาใช้ในวันนี้ เคลื่อนตัวออกไปแล้ว สุริยาจึงได้ขนขวดน้ำดื่มและกระติกน้ำแข็งมากองรวมกันไว้ที่หน้าร้านพี่สมใจ..ก่อนจะกดออดให้พี่สาวออกมารับของเข้าไปเก็บไว้ แล้วได้แนะนำให้แสงทองได้รู้จักกับญาติของตน แสงทองยกมือทำความเคารพ..พี่สมใจมีใบหน้างุนงง ด้วยไม่คุ้นหน้ากับเด็กสาวหน้าใสไร้เครื่องสำอาง..หากแต่สุริยาไม่กล่าวว่าอะไร พอเสร็จกิจตรงนั้นจึงขอตัวกลับ..
โดยยังไม่ทันก้าวพ้นจากบริเวณนั้น เสียงของรุ่งโรจน์ก็ดังขึ้น
“ผมขอโทษ” เสน่ห์ของรุ่งโรจน์อยู่ตรงนี้เอง ถ้าผิดเขาพร้อมที่จะกล่าวคำนั้น
แต่แสงทองกลับหันไปมองด้วยใบหน้างอฉึ่ง..ก่อนจะกล่าวว่า
“วันนี้ไม่มีไปตัดริบบิ้นที่ไหนหรือเจ้าคะ” แล้วก็แขวะเข้าให้อีก...รุ่งโรจน์หน้าเจื่อนลง ก่อนจะชวนทั้งสองคนไปหาอะไรกิน..
“ผมว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวผัดแถวนี้ก็ได้ ..” สุริยาพยายามข่มความรู้สึกตนเต็มที่..
ทั้งสองคนเดินตามเจ้าของทัวร์เถื่อนไปอย่างว่าง่าย..
สุริยาพาไปนั่งในร้านที่รสชาติและบรรยากาศแย่ที่สุดในบริเวณนั้น รุ่งโรจน์ไม่กล่าวว่าอะไร แสงทองเองก็เงียบเฉยไปเสียดื้อ ๆ ..
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคนเยอะไหม”
“ค่อนคันรถ ไม่เต็มคันหรอกครับ..มันหยุดสามวันติด คนกลับบ้านกัน หรือไม่ก็ทัวร์อยุธยานี่จัดบ่อยเดือนเว้นเดือนเห็นจะได้ ฐานลูกค้าก็ไม่กว้างขวางมาก แถมยังมีคู่แข่งด้วย เขาจัดไปเที่ยวทะเล อีกทัวร์ก็จัดไปทางเหนือ..คงมีบางกลุ่มที่ไปกับทัวร์นี้ บางโรงงานเขาก็จัดกันเอง..”
สุริยาถอนหายใจออกมา
“จริง ๆ อุปสรรคมันก็แยะนะครับ..หากทริปไหนขี้เกียจวิ่ง ขาดทุนก็เคย..”
“ขาดทุนแล้วคุณทำอย่างไร”
“คิดเสียว่าหยวน ๆ ครับ อย่างที่บอก ผมไม่มีภาระรับผิดชอบอะไรมาก ..อยู่กับป้า ถ้าไม่มีเงินก็กินกับป้า..ไม่มีภาระเลี้ยงดูใครหรือว่าต้องผ่อนอะไร..ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกอุปสรรคกับคุณ”
“ไม่ต้องบอกหรอก เขาจะทำกับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้” แสงทองยังไม่วางความขุ่นใจนั้น จนกระทั่งรุ่งโรจน์ ทนอึดอัดไม่ไหวจึงต้องแก้ตัว..
“คือ เมื่อตอนเช้าคุณแม่...”
“แล้วทำไมไม่โทรมาบอกว่าไปไม่ได้ ทำไมปล่อยให้รอ” แสงทองใส่อารมณ์
“คือ ตื่นสายครับ”
สุริยาสะกิดแสงทองให้หยุด..แสงทองจึงเงียบ..เปรยประโยคสุดท้ายที่ตรงใจ
“บอกตามตรงนะ อารมณ์ผู้หญิง ชอบให้เคลียร์ค่ะ..อะไรที่มันติดใจอยู่นิดนึง มันทำให้ไม่มีความสุขหนูไม่ชอบคนโกหก..พูดความจริงต่อกันทุกอย่างมันก็จบ”
พอดีก๋วยเตี๋ยวที่แต่ละคนสั่งถูกนำมาวางตรงหน้าต่างคนต่างก้มหน้าโซ้ยเนื้อ น้ำ เข้าปาก..พอท้องอิ่ม อีกอารมณ์จึงเข้ามาแทนที่
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม”
“ไม่..อยากกลับบ้านนอน..” แสงทองรีบออกตัว..สุริยาเองก็ปฏิเสธ..
“ผมไม่ชอบควันบุหรี่ ไม่อยากเห็นคนดื่มเหล้า มันสงสารน่ะ ..ขอโทษนะที่เป็นคนเรื่องมาก”
“แล้วถ้าไป เที่ยวทะเลแถว ๆ ปราณบุรี หัวหิน ชะอำล่ะ ไปไหม..ไปคืนนี้เลย ..ไปหาที่นอนแถวนั้น เช้ามา เราก็..ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น กินข้าว แล้วก็เล่นน้ำทะเลทั้งวัน”
“วิเศษสุด” แสงทองพูดออกมาด้วยอารมณ์ดีใจสุดขีด โดยลืมตัวว่าเมื่อครู่งอนรุ่งโรจน์อยู่ สุริยาเมื่อเห็นอาการหญิงสาวเป็นอย่างนั้นจึงยิ้มกว้างพร้อมกับสั่นหัว
“ไปเลยนะ”
“เสื้อผ้าล่ะ” สุริยาถาม
“ไปหาซื้อเอาข้างหน้า” รุ่งโรจน์ร้องบอก
“ไม่หรอก กลับไปที่บ้านผมก่อนดีกว่า ไปเอาของผมของคุณ แล้วก็ไปเอาหนังสือ ฉบับเพชรบุรี ประจวบ ข้อมูลท่องเที่ยวไปด้วย เผื่อไปสำรวจด้วย อย่าไปซื้อใหม่เลย เสียดายตังค์”
“จ้า ฉวยโอกาสทันทีเลยนะคะ” แสงทองแซว
รถเก๋งสีดำคันที่รุ่งโรจน์ขับแล่นออกจากประตูน้ำพระอินทร์ในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม โดยมีสุริยานั่งข้างหน้าและแสงทองนั่งกึ่งนอนอยู่ที่เบาะทางด้านท้าย..ความเร็วที่รุ่งโรจน์ใช้ประมาณ..ร้อยกว่า..จนแสงทองต้องร้องปราม..
“หนูยังไม่ได้รับปริญญาตรี ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่รู้รสของการครองเรือน ขอร้องเถอะ ลดความเร็วนิดนึง”
“คุณสุริยาล่ะกลัวไหม” น้ำเสียงสุภาพนิ่มนวล
“ถ้าผมบอกไม่กลัวคุณจะเชื่อไหม..” คนฟังเพียงหันมาสบตา บอกให้รู้ว่า เชื่อ..
“ตายหมด กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย แม้ถึงที่ตายวายชีวา อยู่สวรรค์ชั้นฟ้าก็ต้องตาย..แต่ก็อยากให้ศพสวย ๆ ..ไม่อยากทรมาน..”
“อธิษฐานอีกป่ะ” แสงทองแซว
“มีบ้างครับ..ถ้าทำบุญแล้วนึกออก หรือมีเรื่องสะเทือนใจระหว่างเดินทางได้เห็นอุบัติเหตุอย่างนี้ ได้เห็นคนเจ็บกำลังจะตายแบบทุกข์ทรมาน ความกลัวความกังวลมันติดค้างในใจ พอไปทำบุญแล้ว นิดนึงนะ เมื่อถึงคราวหลับตาลาละโลก ขอให้ไปง่าย ๆ ไม่เป็นภาระใคร ให้มีสติรู้พร้อม เผื่อมีราชรถทิพย์มาเกยจะได้ขึ้นถูก”
“งั้นทำบุญก็หวังผลซิ”
“ก็ดีกว่าคนที่หวังผลแต่ไม่ทำบุญมั้ง ทุกคนก็อยากเป็นดี ๆ กันทั้งนั้นแหละแสงทอง สุดแต่ว่าใครมันจะเข้าใจ เหตุ อะไรที่ได้มาดี ๆ หรือไม่เท่านั้นเอง”
“หนูชอบนะ อธิษฐานที่ว่า ให้เจอกัลยาณมิตร บัณฑิต นักปราชญ์..นี่แสดงว่า เมื่อก่อนพี่เคยอธิษฐานใช่ปะ จึงมาเจอหนู ส่วนพี่รุ่งไม่รู้ใช่หรือเปล่า..”
“ใช่ ผมก็บัณฑิต นักปราชญ์”
“ปราดหน้าเขานะซิ บอกให้ขับช้า ๆ นี่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ”
“เขาไม่ให้พูด” รุ่งโรจน์ร้องขัด
“ทำมาเป็นกลัวเชียวแค่คำพูด กลัวการกระทำดีกว่าพี่..ถ้าพี่ขับช้าคนนั่งก็มันสุขใจ ก็แค่นั้น”
สุริยาปรบมือให้อีกคน
“ฝึกไว้ ขึ้นทัวร์ก็หาประโยคเด็ดไปเคาะหัวสมองลูกทัวร์หน่อยแล้วกัน แต่อย่าให้เขารู้นะว่าเรากำลังล้างสมองเขา” สุริยาชี้แนะ
“ตกลงเราจะใช้ชื่อว่าอะไร ตอนไปจดทะเบียน” น้ำเสียงของสุริยาจริงจัง
“ชื่อเก่าสุริยาทัวร์ ชื่อใหม่ ก็รุ่งสุริยาทัวร์แล้วกัน” แสงทองเสนอแนะ..
“เหมือนนักร้องลูกทุ่งน่ะ” รุ่งโรจน์เอ่ยขัด
“ไม่ดีรึ เขาจะได้นึกว่าไปกับพี่รุ่งสุริยาไง ดีไม่ดีนะ กลายเป็นมีแม่ยงแม่ยกไปด้วย จริง ๆ พี่สุริยาก็มีแม่ยกนะ เห็นป้า ๆ ทั้งหลายกิ๊วก๊าวเชียวเมื่อเจอหน้าพี่”
“ก็มีผมอยู่คนเดียวจะให้ไป..สนใจใคร”
“อย่าเพิ่งไปพูดเลย ตราบใดที่เจ้าของเงินยังไม่วางเงินมา มันก็แค่ความฝันในอากาศ”
“สำหรับ รุ่งโรจน์ คำไหนคำนั้น..”
“จ้ะ..ให้มันจริง ๆ เถอะ กลัวแต่ว่า” แสงทองพูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์ของรุ่งโรจน์ก็ดังขัดจังหวะ..
สุริยาสันนิษฐานว่าเป็นแม่ เขาจึงไม่ยอมรับ หากแต่แสงทองเอ่ยขึ้นมาว่า
“กลัวอะไรกับความจริง” เขาจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมากดคุยด้วย
“ครับ..อยู่ต่างจังหวัดครับ..ไม่สะดวกแล้วคุณแม่...เอาไว้วันหลังนะครับ ผมบอกแล้วไง ต้องบอกผมล่วงหน้าห้าวัน..มากับเพื่อนครับ..เพื่อนใหม่ครับ คุณแม่ไม่เคยเห็นหรอก..กลับพรุ่งนี้ครับ..รักแม่ที่สุดเลย..ครับฝันดีนะครับ..”
“อ้อนเก่งอย่างนี้ซิน่า” แสงทองยังแซวไม่เลิก..สุริยาได้คิด มีแสงทองมาอีกคนก็ดี เวลาไปไหนจะได้มีเรื่องคุยกันเยอะ ๆ แสงทองเป็นคนร่าเริง..อยู่ใกล้ ๆ แล้วสบายใจ ...หากชายใดได้เธอไปครอบครองคงมีความสุข..
“เงียบเลยพี่รุ่ง คิดอะไร”
“คิดว่าเธอมีแฟนหรือยังหนอ”
“แฟนเคยมี แต่ตอนนี้เลิกกันไปแล้ว..แฟนเคยมีแต่ตอนนี้มีเมียไปแล้ว...” แสงทองร้องเป็นเพลง..จนทำให้รุ่งโรจน์หัวเราะออกมา..ก่อนจะเลื่อนมือมาเปิดเพลงของพี่เบิร์ด ธงไชย คล้ายกำลังจะเอาใจใครบางคน
“ชอบอะไรนักหนา วันนั้นก็เห็นเปิดบนคอนโด นี่ยังตามมาหลอกหลอนอีกรึ..ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางไหนเนี่ย มีเพลงพุ่มพวง ไหม หัวใจถวายวัด..หลวงพ่อเจ้าขา โปรดเมตตาลูกหน่อยได้ไหม..หนุ่มในฝันของสาวไทยคงไม่ฟัง งั้นเปิดเพลงคู่แท้ ให้หน่อยอยากฟัง”
“เหตุผล” รุ่งโรจน์ร้องถาม
“เพื่อบางทีพี่ยาอาจจะรู้สึกเหมือนหนูไง..” แสงทองพูดทำนองจีบอีกคนแบบหน้าตาเฉย
“แล้วผมล่ะไม่อยู่ในความรู้สึกค้นหากันมานานบ้างรึ” รุ่งโรจน์แกล้งเย้า
“ไม่เจ้าค่ะ มิบังอาจ มิบังควรอาจเอื้อมหมายจันทร์ ภัยจะมาถึงตัว..เพราะถึงอย่างไร น้ำกับน้ำมันก็ไม่มีวันเข้ากันได้..รักชอบพี่ก็เหมือนความฝันในอากาศ..กินแห้วตลอดกาล”
“เราสองคนอาจจะเป็นไฟกับน้ำมันก็ได้นะ อยู่รวมกันพัดพาไปทางไหนให้แหลกเป็นจุนไปเลย”
พอดีที่รถเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน รุ่งโรจน์เติมจนเต็มถังโดยใช้เครดิตการ์ดชำระ หลังจากนั้นก็ขับไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ
“ใครจะเข้าห้องน้ำเชิญครับ” แสงทองรีบลงจากรถทันที..เมื่อแสงทองลงไป เขาก็ถามอีกคนที่ยังนั่งอยู่ “หิวไหม” สุริยาสั่นหัว
“เหนื่อยไหมครับวันนี้” น้ำเสียงดูห่วงใยเหลือกำลัง..สุริยาไม่ตอบ กลับถามคืน
“คุณคงหิวน้ำ ขอตัวเดี๋ยวหนึ่งนะ”
สุริยารีบลงจากรถไปที่ร้านสะดวกซื้อ แสงทองเมื่อเห็นจึงวิ่งรี่ไปหา..
“กินอะไรหยิบมา เลี้ยงตลอดการเดินทาง”
แสงทองคว้าขนมแห้ง สองสามอย่าง พร้อมกับหมากฝรั่ง..
พอกลับไปที่รถพบรุ่งโรจน์ปรับเบาะงีบหลับ..แสงทองจึงฉีกผ้าเย็นที่ซื้อมา..แตะไปที่หน้าผาก..ส่งผลให้อีกคนสะดุ้งโหยง..
“เอ๊า จะได้สดชื่น..”
“ง่วงนอนหรือเปล่า” ด้วยเห็นเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน..สุริยาจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะพาไปไม่ตลอดรอดฝั่ง..ไปฝังเสียก่อน
“แสงทองขับรถเป็นรึเปล่า”
“เป็น แต่ที่บ้านนอกนะ ในเมืองไม่เคย”
“แล้วมานี่บอกใครหรือยัง” สุริยาเอ่ยถามขึ้น เมื่อรถแล่นไปบนถนนด้วยความเร็วดั่งเดิม..
“โทรบอกรูมเมทแล้วค่ะ อิสตรีสองนาง..บอกว่าตามสบาย..” ตอบไปพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ
“แล้วคืนนี้จะนอนกับพวกพี่หรือว่าจะแยกห้อง” รุ่งโรจน์ถามขึ้นบ้าง...
“หนูไม่ใช่คนกลัวผีนะ กลัวคนมากกว่า ขอนอนคนเดียวแล้วกันค่ะ ..”
“คุณรุ่ง เลือกที่นอนไม่ต้องเลิศอลังการมากนะครับ เอาพอนอนได้” เพราะรู้ว่างานนี้อย่างไร รุ่งโรจน์ต้องเป็นคนจ่าย..เขาจึงต้องรีบตัดความฟุ่มเฟือยของอีกคนไป เดี๋ยวยอดวงเงินในเครดิตการ์ดกระฉูดแม่เขาจะมาว่าได้
“ครับ ผมรู้ ว่าพวกคุณเน้นประหยัดแต่สะดวก..โอเค แล้วนี่เคี้ยวกันหนึบหนับไม่คิดถึงผมบ้างรึ..” น้ำเสียงประชดประชัน
พอเจ้าตัวพูดจบ สุริยาก็ยัดขนมโดโซะเข้าปากคนร้องขอไปหนึ่งชิ้น เขาเคี้ยวกรอบ ๆ ก่อนจะร้องขอน้ำด้วยติดคอ..สุริยาอีกนั่นแหละ ที่รีบหยิบขวดน้ำใส่หลอดจ่อจนถึงปาก
ความสุข..ความสุข..บางทีมันก็มาเองนะ...สุริยายิ้มให้กับวาสนาของตน
และค่ำคืนเพ็ญเดือนสาม รุ่งโรจน์ก็เลือกบ้านพักแบบเกสเฮ้าส์ที่ริมทะเล อ.ปราณบุรี ..ราคานั้นอยู่ที่ห้องละ 400 บาท..รุ่งโรจน์บอกว่าให้สุริยาเป็นเจ้าภาพ สุริยายิ้ม พอรู้ว่าอีกคนคิดอะไร..เขาจึงเอ่ยกับแสงทองว่า คืนนี้เลี้ยงค่าห้องเช่นกัน..แสงทองยกมือขอบคุณ..ก่อนจะแยกตัวเขาห้องของตน..พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้เช้าจะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น อยากรู้ว่ามันจะสวยเหมือนที่บนยอดเขาปางจันทร์หรือไม่..
และเช้าวันนั้นเป็นเช้าที่สดใสสำหรับสุริยา รุ่งโรจน์ยังเป็นเช่นเดิม นอนเอามือก่ายอยู่ที่ยอดอกเขาราวกับว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่..เมื่อพระอาทิตย์ทอแสงสีทองแตะขอบฟ้า เขาจึงค่อย ๆ เลื่อนตัวลงจากเตียง ทำกิจส่วนตัวด้วยเสียงเบาที่สุด ด้วยกังวลว่าจะทำให้คนขับรถพักผ่อนไม่เต็มที่ เมื่อคืนก่อนจะหลับเขายังขอร้องแกมบังคับให้สุริยาช่วยบีบนวดต้นคอและบริเวณศีรษะ..สุริยาก็ใจดีนึกถึงบุญคุณที่เขาพามาจึงบีบให้ทั้งบริเวณแขน ฝ่ามือ แผ่นหลัง บริเวณขาและฝ่าเท้า
“ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณก็เป็นหมอนวด คราวหลังจะขอใช้บริการอีก”
“แพงนะครับ ..”
“เท่าไหร่..”
“ต่อการพาไปเที่ยวสำรวจสถานที่ หนึ่งครั้ง..”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบว่าอะไร..พลางแต่ครางอือ ๆ เป็นสุข ขณะที่มือเขาบีบไปบนสรรพางค์กาย..
เช้าวันนั้น เมื่อเขาเดินออกมาจากบ้านพัก พบแสงทองเดินถือเปลือกหอยถุงใหญ่..ใบหน้าสาวเจ้าสุขสดชื่นเต็มกำลัง..
“พี่ยา..เร็ว ๆ ถ่ายรูป..” ในมือของสุริยามีกล้องดิจิตอลอยู่ด้วย พอไปถึงก็กดชัตเตอร์..ประหนึ่งว่าแสงทองเป็นนางแบบชั้นนำ
“ถ่ายรูปขึ้นนะ” เขาชม
“จริงอ่ะ แสดงว่าหนูสวยน่ะซิ” น้ำเสียงแสงทองเล่นเหมือนเคย แต่แววตาที่มองอีกคนนั้น เปิดเผยส่วนที่อยู่ลึก ๆ ในหัวใจ
“วันนี้เราจะไปไหนต่อ”
“มีหลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดห้วยมงคล..แล้วสำรวจแถว ๆ ปราณนี่แหละ อาจจะขับรถกลับไปหัวหิน ไปสำรวจวัดแถบนั้น เขาตะเกียบ เขาหินเหล็กไฟ แล้วก็พระราชวังมฤคทายวัน พระราชวังบ้านปืน เขาวังเพชรบุรี วัดมหาธาตุ อีกหลาย ๆ วัดในเพชรบุรี”
“ไม่น่าหมดนะวันเดียว”
“สำรวจเส้นทางเฉย ๆ ข้างใน เราก็พอรู้เห็นจากสื่อต่าง ๆ แล้ว..ที่ต้องไปให้เห็นกับตาว่าเข้าทางไหน เคลื่อนรถอย่างนี้นะ แผนที่มันไม่ค่อยละเอียดหรอก บางทีพอเราเดินทางไปเอง อาจจะมีที่ใหม่ ๆ เกิดขึ้นดีกว่าในหนังสือเก่าที่เราอ่านอีก ประมาณสิบปากว่ าไม่เท่าตาเห็น บางทีหนังสืออธิบายซะดีเลิศ พอไป จริง ๆ ประมาณว่าเที่ยวไปด่าไป”
“งั้นถ้าเราจะเขียนหนังสือท่องเที่ยว เราก็เขียนแบบเที่ยวไปด่าไปเลยดีกว่าใช่ไหม”
“ใช่..ตัวอยากเป็นนักเขียนไม่ใช่รึ ก็เอานี่แหละข้อมูลพวกนี้ไปเก็บไว้ แต่อธิบายในแบบฉบับเรา อย่ามาเลยเป็นอย่างนี้ ...ลำบาก..บางทีพอเขียนอย่างนี้อาจจะทำให้คนอยากมาก็ได้..อยากไปดูว่ามันทุเรศจริงหรือเปล่า....เรื่องแผนที่ก็สำคัญนะ..ถ้าเราทำแผนที่ประกอบสักนิด มันก็จะน่าสนใจยิ่งขึ้น”
สองหนุ่มสาวยังคุยเรื่องงานเรื่องอนาคตกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...แดดร้อนขึ้น สุริยาจึงชวนกลับที่พัก..เมื่อไปถึง แสงทองเข้าห้องพักของตนเพื่อเก็บของและรอให้สองหนุ่มมาเรียก ส่วนสุริยาเมื่อกลับไปถึงห้องก็พบคนขับรถยังนอนคลุมโปงในผ้าห่มอุ่น..แต่มันถึงเวลาต้องปลุก เขาจึงเดินไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะเขย่าตัว..พอเขย่าปุ๊บคนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมากระชากเขาลงไปกกกอดทันที..
“เฮ้ย..เล่นอะไร..” ในผ้าห่มอุ่น เช้าวันนี้ รุ่งโรจน์มีอารมณ์รุนแรงกว่าทุกครั้ง เขาทั้งกอดรัดและพยายามใช้หนวดเคราที่ขึ้นหลอมแหลมถูไปที่ซอกคอและใบหน้าสุริยา..ส่วนมือก็จี้..จี๋ไปตามสะเอวเพื่อให้อีกคนหัวเราะ..เมื่อรูปการณ์เป็นอย่างนั้นสุริยาจึงคลายตระหนกเสียได้ แต่ก็ยังไม่เลิกดิ้นรนด้วยรู้สึกเหนื่อยเต็มกำลัง พอเขาหยุด จึงเป็นว่า คนทั้งคู่นอนมองตากัน..
รุ่งโรจน์ก็หอมฟอดที่ใบหน้า คล้ายอีกคนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อึดใจเขารีบดันตัวลุกขึ้น เผยให้เห็นว่าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะแก้เขินด้วยประโยคที่ว่า
“นึกว่าจะเดินเก็บหอยเก็บปูไปจนถึงหัวหินซะอีก หิวแล้ว ไปเถอะ”
สุริยาค่อย ๆ ลุกขึ้นพลางใช้มือลูบทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็ลุกขึ้นมาเก็บของและเสื้อผ้าชุดเมื่อวานลงกระเป๋า
“อากาศดีไหมข้างนอก” รุ่งโรจน์คงจะแก้เขิน แต่สุริยาไม่ตอบ ทำเป็นเก็บของลงกระเป๋าด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“แสงทองไม่บ่นแย่แล้วรึ ว่านอนกินบ้านกินเมือง รึว่าคุณสองคนกินข้าวกันแล้ว”
สุริยาก็ยังไม่ตอบ จนกระทั่งอีกคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง แล้วก็กอดเอวจนแน่นซบส่วนศีรษะไปกับแผ่นหลัง พลางถามว่า.. “โกรธอะไรผม..เมื่อกี้ผมล้อเล่น ..ก็คุณน่ารัก ผมอดใจไม่ไหว”
“ปล่อยเถอะ จะรีบไป” สุริยาพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจสั่นรัวอย่างกับกลองแห่สิงโต เป็นอีกมุมหนึ่งที่เขาไม่คิดว่ารุ่งโรจน์จะมีต่อกัน
“ไม่โกรธผมนะ”
“จะโกรธอะไร.. ก็คุณบอกว่าล้อเล่น” น้ำเสียงบอกให้รู้ว่ายังไม่พอใจ
“แล้วถ้าผมทำจริง ๆ ล่ะ โกรธไหม”
สุริยาไม่ตอบ เพียงแต่หันมาบีบบริเวณหัวไหล่ของอีกคน แล้วสบตาคู่ใสนั้นเพื่อค้นหาบางอย่าง..ยังไม่ทันจะเห็นอะไรบางอย่างที่ว่า
เสียงประตูก็ดังขึ้น..เป็นแสงทองนั่นแหละที่คงจะหิวจนแสบท้องแสบไส้..
“ช้าจัง..ไปสั่งอาหารรอที่ร้านเมื่อกี้นะ” แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป สุริยาจึงรีบยกกระเป๋าแล้วเดินไปที่ประตู..ด้วยหวั่นเกรงว่าหากอยู่ต่อ รุ่งโรจน์อาจจะเผยอะไรที่ทำให้เขาลำบากใจอย่างแน่นอน..
รุ่งโรจน์เดินตามลงมาในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีดำกับกางเกงสแลคเนื้อดีตัวเมื่อวาน..ใบหน้าขาวใสถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดยี่ห้อดัง..ท่าทางเดินมานั้นสง่าผ่าเผย จนแสงทองต้องพูดออกมา...
“ถ้าพี่เขาตัดสินใจทำอย่างที่แม่เขาต้องการ รับรองพี่รุ่งติดท็อปโหวตดาราชายอย่างแน่นอน”
สุริยาเงยหน้าจากเมนูอาหาร ปรายตามองไปอีกคน แล้วรีบก้มหน้าเก็บความรู้สึก..คนที่ถูกเอ่ยถึงมาหยุดนั่งที่ตรงข้าง ๆ กัน พลางใช้มือพาดไปที่พนักเก้าอี้ที่อีกคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วชะโงกหน้าไปดูเมนูในมือจนแก้มเกยบ่า
“สั่งอะไรมาบ้าง ที่นี่มีอะไรรสเด็ด”
“มีเขียด กับปลาร้าบอง” สุริยาตอบเสียงห้วน ๆ ...
“อยากกินก็เอามาดิ๊..” รุ่งโรจน์ว่าไปอย่างมีอารมณ์ขุ่นนิด ๆ เมื่ออีกคนยัดเมนูกลับมาให้ดูเอง
“ตื่นสายอย่างนี้แล้วจะไปได้ทั่วไหมเนี่ย” แสงทองเงยหน้าจากหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยสีหน้ามีกังวลฃ
“ไม่ทันก็อยู่ต่ออีกวันซิครับ”
“ไม่นะ พรุ่งนี้มีเรียนอีกอย่าง ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา อยากเปลี่ยน”
“เดี๋ยวก็หาซื้อเอาแถวนี้ ผ้าบาติกลายดอกนั่นไง จะเล่นน้ำก็ซื้อชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงขาสั้น”
“เงินมีน้อย” แสงทองบอกตามตรง
“เธอไม่รู้รึว่ามากับใคร” สุริยาต่อให้ด้วยน้ำเสียงแดกดันแต่รุ่งโรจน์ไม่สนใจก้มหน้าเขียนรายการอาหาร พร้อมกับเรียกเด็กมารับออเดอร์
“เมื่อคืนฝันดีไหมจ๊ะ” น้ำเสียงที่ถามแสงทอง หวานผิดปกติ
“หลับเป็นสุข เพราะดีใจที่ได้มาทะเล”
“ไม่เคยมาซิ” แสงทองสั่นหัว แต่ตอบว่า “ไม่ค่อยได้มาหรอก นานหลายปีแล้ว..ตั้งแต่เด็ก ๆ”
“คราวหน้า ถ้าหนูอยากไปไหนบอกพี่นะ” สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองก็เปลี่ยนไป “พี่พร้อมจะพาไปทุกที่ เมื่อวานบอกว่าขับรถเป็นใช่ไหม แต่เคยเฉพาะที่บ้านนอก วันนี้ลองขับนะ”
“จะดีหรือ”
“ดีซิ ต้องทำให้ได้..เผื่อวันข้างหน้าทำมาหากินร่ำรวยจะได้ซื้อรถมาขับ หรือไม่ ไปไหนมาไหนด้วยกัน จะได้เปลี่ยนกันขับบ้าง..เมื่อคืนผมเหนื่อยจะแย่ ไม่ได้ขับรถระยะไกล ๆ มานานแล้ว..ทั้งเมื่อยทั้งปวดขา”
“ถ้าพี่สุริยาขับเป็น ก็คงเปลี่ยนพี่รุ่งได้”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบ พอดีกับที่อาหารมาวาง แสงทองจึงเจ้ากี้เจ้าการตักข้าว รินน้ำแจกตามหน้าที่สตรี..และอาหารที่วางบนโต๊ะก็ทำให้สุริยาหน้าถอดสี ด้วยอีกคนแกล้งเขากับแสงทองอย่างแน่นอน.
ปลาร้าทรงเครื่องกับผักลวกราดกะทิ..กับกบทอดกระเทียมตัวเหลืองจ๋าเหยียดแข้งเหยียดขายาว..
“ถูกใจจัง” แสงทองร้องบอก พลางดึงกบไปฉีกแล้วเคี้ยวกรอบ ๆ
ส่วนรุ่งโรจน์เพียงนั่งมองจานข้าวเฉย ๆ ..ดูสองคนกิน ดึงบุหรี่ที่บริกรนำมาวางพร้อมกับไฟแช็คขึ้นมาแกะซอง ทำท่าจะจุดสูบ
“อ้าว ไม่กินข้าวก่อนล่ะ” พอแสงทองร้องทัก เขาจึงยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ด้วยสวมแว่นตาสีดำ สุริยาจึงไม่เห็นความรู้สึกอีกคนทางสายตา แต่เมื่อเห็นรูปการณ์ดังนั้นเขาจึงเงียบ อยากจะดูฤทธิ์เดช คนเอาแต่ใจตัวอีกสักระยะ ไม่อยากที่จะงอนง้อหรือพูดด้วยในขณะนี้
“ไหนพี่ว่าไม่ได้ติดไง”
“ก็จะสูบเฉพาะตอนมีอารมณ์อยากจะสูบเท่านั้น”
เท่าที่จำได้ เขาเคยบอกว่าจะสูบเฉพาะตอนที่มีเรื่องเครียดเท่านั้น แสดงว่าตอนนี้..
เจดีย์ภูเขาทอง มีสีขาวตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า ลักษณะของเจดีย์ฐานเขียงฐานปัทม์เป็นแบบเจดีย์ทรงมอญ สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าบุเรงนอง แต่ส่วนต่อที่ซ่อมแซมจากคราวหักลงมามีลักษณะไม้ย่อมุมสิบสอง ศิลปกรรมแบบอยุธยา..ในความผสมผสานจึงกลายเป็นที่ถกเถียงว่า เหตุแห่งการสร้างแต่เดิมนั้นบรรจุพระธาตุของพระพุทธเจ้าหรือว่าเก็บกระดูกทหารพม่า เพื่อประกาศถึงชัยชนะ
จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ สุริยา กล่าวกับลูกทัวร์ว่า
“วันนี้วันมาฆบูชา ณ ที่ตรงนี้เหมาะที่จะประกอบพิธีจุดประทีปเทียน..เนื่องด้วยเป็นเวลาใกล้พระอาทิตย์ลับฟ้า..พระเจดีย์องค์นี้จะสร้างด้วยเหตุใดก็แล้วแต่นั่นคือเรื่องราวในอดีตที่เราไม่อาจแก้ไข แต่ปัจจุบัน พวกเราชาวพุทธด้วยกัน..อโหสิกรรม ระลึกนึกคุณของพระศาสดาที่ตรัสรู้แล้วเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนให้พวกเราได้พ้นจากบ่วงทุกข์ เป็นดีที่สุด”
พิธีเวียนเทียนทำอย่างง่าย ๆ โดยใครที่มีแรงป่ายปีนขึ้นไปส่วนบนฐาน ตรงกลางองค์เจดีย์ที่บูรณะใหม่..ก็ขึ้นไปเดินรอบองค์เจดีย์ ณ จุดนั้น หากใครไม่มีแรง เพียงนั่งสวดมนต์ส่งจิตใจอยู่ด้านล่างก็ได้..
รถบัสที่เช่ามาใช้ในวันนี้ เคลื่อนตัวออกไปแล้ว สุริยาจึงได้ขนขวดน้ำดื่มและกระติกน้ำแข็งมากองรวมกันไว้ที่หน้าร้านพี่สมใจ..ก่อนจะกดออดให้พี่สาวออกมารับของเข้าไปเก็บไว้ แล้วได้แนะนำให้แสงทองได้รู้จักกับญาติของตน แสงทองยกมือทำความเคารพ..พี่สมใจมีใบหน้างุนงง ด้วยไม่คุ้นหน้ากับเด็กสาวหน้าใสไร้เครื่องสำอาง..หากแต่สุริยาไม่กล่าวว่าอะไร พอเสร็จกิจตรงนั้นจึงขอตัวกลับ..
โดยยังไม่ทันก้าวพ้นจากบริเวณนั้น เสียงของรุ่งโรจน์ก็ดังขึ้น
“ผมขอโทษ” เสน่ห์ของรุ่งโรจน์อยู่ตรงนี้เอง ถ้าผิดเขาพร้อมที่จะกล่าวคำนั้น
แต่แสงทองกลับหันไปมองด้วยใบหน้างอฉึ่ง..ก่อนจะกล่าวว่า
“วันนี้ไม่มีไปตัดริบบิ้นที่ไหนหรือเจ้าคะ” แล้วก็แขวะเข้าให้อีก...รุ่งโรจน์หน้าเจื่อนลง ก่อนจะชวนทั้งสองคนไปหาอะไรกิน..
“ผมว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวผัดแถวนี้ก็ได้ ..” สุริยาพยายามข่มความรู้สึกตนเต็มที่..
ทั้งสองคนเดินตามเจ้าของทัวร์เถื่อนไปอย่างว่าง่าย..
สุริยาพาไปนั่งในร้านที่รสชาติและบรรยากาศแย่ที่สุดในบริเวณนั้น รุ่งโรจน์ไม่กล่าวว่าอะไร แสงทองเองก็เงียบเฉยไปเสียดื้อ ๆ ..
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้างคนเยอะไหม”
“ค่อนคันรถ ไม่เต็มคันหรอกครับ..มันหยุดสามวันติด คนกลับบ้านกัน หรือไม่ก็ทัวร์อยุธยานี่จัดบ่อยเดือนเว้นเดือนเห็นจะได้ ฐานลูกค้าก็ไม่กว้างขวางมาก แถมยังมีคู่แข่งด้วย เขาจัดไปเที่ยวทะเล อีกทัวร์ก็จัดไปทางเหนือ..คงมีบางกลุ่มที่ไปกับทัวร์นี้ บางโรงงานเขาก็จัดกันเอง..”
สุริยาถอนหายใจออกมา
“จริง ๆ อุปสรรคมันก็แยะนะครับ..หากทริปไหนขี้เกียจวิ่ง ขาดทุนก็เคย..”
“ขาดทุนแล้วคุณทำอย่างไร”
“คิดเสียว่าหยวน ๆ ครับ อย่างที่บอก ผมไม่มีภาระรับผิดชอบอะไรมาก ..อยู่กับป้า ถ้าไม่มีเงินก็กินกับป้า..ไม่มีภาระเลี้ยงดูใครหรือว่าต้องผ่อนอะไร..ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกอุปสรรคกับคุณ”
“ไม่ต้องบอกหรอก เขาจะทำกับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้” แสงทองยังไม่วางความขุ่นใจนั้น จนกระทั่งรุ่งโรจน์ ทนอึดอัดไม่ไหวจึงต้องแก้ตัว..
“คือ เมื่อตอนเช้าคุณแม่...”
“แล้วทำไมไม่โทรมาบอกว่าไปไม่ได้ ทำไมปล่อยให้รอ” แสงทองใส่อารมณ์
“คือ ตื่นสายครับ”
สุริยาสะกิดแสงทองให้หยุด..แสงทองจึงเงียบ..เปรยประโยคสุดท้ายที่ตรงใจ
“บอกตามตรงนะ อารมณ์ผู้หญิง ชอบให้เคลียร์ค่ะ..อะไรที่มันติดใจอยู่นิดนึง มันทำให้ไม่มีความสุขหนูไม่ชอบคนโกหก..พูดความจริงต่อกันทุกอย่างมันก็จบ”
พอดีก๋วยเตี๋ยวที่แต่ละคนสั่งถูกนำมาวางตรงหน้าต่างคนต่างก้มหน้าโซ้ยเนื้อ น้ำ เข้าปาก..พอท้องอิ่ม อีกอารมณ์จึงเข้ามาแทนที่
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหม”
“ไม่..อยากกลับบ้านนอน..” แสงทองรีบออกตัว..สุริยาเองก็ปฏิเสธ..
“ผมไม่ชอบควันบุหรี่ ไม่อยากเห็นคนดื่มเหล้า มันสงสารน่ะ ..ขอโทษนะที่เป็นคนเรื่องมาก”
“แล้วถ้าไป เที่ยวทะเลแถว ๆ ปราณบุรี หัวหิน ชะอำล่ะ ไปไหม..ไปคืนนี้เลย ..ไปหาที่นอนแถวนั้น เช้ามา เราก็..ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น กินข้าว แล้วก็เล่นน้ำทะเลทั้งวัน”
“วิเศษสุด” แสงทองพูดออกมาด้วยอารมณ์ดีใจสุดขีด โดยลืมตัวว่าเมื่อครู่งอนรุ่งโรจน์อยู่ สุริยาเมื่อเห็นอาการหญิงสาวเป็นอย่างนั้นจึงยิ้มกว้างพร้อมกับสั่นหัว
“ไปเลยนะ”
“เสื้อผ้าล่ะ” สุริยาถาม
“ไปหาซื้อเอาข้างหน้า” รุ่งโรจน์ร้องบอก
“ไม่หรอก กลับไปที่บ้านผมก่อนดีกว่า ไปเอาของผมของคุณ แล้วก็ไปเอาหนังสือ ฉบับเพชรบุรี ประจวบ ข้อมูลท่องเที่ยวไปด้วย เผื่อไปสำรวจด้วย อย่าไปซื้อใหม่เลย เสียดายตังค์”
“จ้า ฉวยโอกาสทันทีเลยนะคะ” แสงทองแซว
รถเก๋งสีดำคันที่รุ่งโรจน์ขับแล่นออกจากประตูน้ำพระอินทร์ในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม โดยมีสุริยานั่งข้างหน้าและแสงทองนั่งกึ่งนอนอยู่ที่เบาะทางด้านท้าย..ความเร็วที่รุ่งโรจน์ใช้ประมาณ..ร้อยกว่า..จนแสงทองต้องร้องปราม..
“หนูยังไม่ได้รับปริญญาตรี ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่รู้รสของการครองเรือน ขอร้องเถอะ ลดความเร็วนิดนึง”
“คุณสุริยาล่ะกลัวไหม” น้ำเสียงสุภาพนิ่มนวล
“ถ้าผมบอกไม่กลัวคุณจะเชื่อไหม..” คนฟังเพียงหันมาสบตา บอกให้รู้ว่า เชื่อ..
“ตายหมด กลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย แม้ถึงที่ตายวายชีวา อยู่สวรรค์ชั้นฟ้าก็ต้องตาย..แต่ก็อยากให้ศพสวย ๆ ..ไม่อยากทรมาน..”
“อธิษฐานอีกป่ะ” แสงทองแซว
“มีบ้างครับ..ถ้าทำบุญแล้วนึกออก หรือมีเรื่องสะเทือนใจระหว่างเดินทางได้เห็นอุบัติเหตุอย่างนี้ ได้เห็นคนเจ็บกำลังจะตายแบบทุกข์ทรมาน ความกลัวความกังวลมันติดค้างในใจ พอไปทำบุญแล้ว นิดนึงนะ เมื่อถึงคราวหลับตาลาละโลก ขอให้ไปง่าย ๆ ไม่เป็นภาระใคร ให้มีสติรู้พร้อม เผื่อมีราชรถทิพย์มาเกยจะได้ขึ้นถูก”
“งั้นทำบุญก็หวังผลซิ”
“ก็ดีกว่าคนที่หวังผลแต่ไม่ทำบุญมั้ง ทุกคนก็อยากเป็นดี ๆ กันทั้งนั้นแหละแสงทอง สุดแต่ว่าใครมันจะเข้าใจ เหตุ อะไรที่ได้มาดี ๆ หรือไม่เท่านั้นเอง”
“หนูชอบนะ อธิษฐานที่ว่า ให้เจอกัลยาณมิตร บัณฑิต นักปราชญ์..นี่แสดงว่า เมื่อก่อนพี่เคยอธิษฐานใช่ปะ จึงมาเจอหนู ส่วนพี่รุ่งไม่รู้ใช่หรือเปล่า..”
“ใช่ ผมก็บัณฑิต นักปราชญ์”
“ปราดหน้าเขานะซิ บอกให้ขับช้า ๆ นี่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ”
“เขาไม่ให้พูด” รุ่งโรจน์ร้องขัด
“ทำมาเป็นกลัวเชียวแค่คำพูด กลัวการกระทำดีกว่าพี่..ถ้าพี่ขับช้าคนนั่งก็มันสุขใจ ก็แค่นั้น”
สุริยาปรบมือให้อีกคน
“ฝึกไว้ ขึ้นทัวร์ก็หาประโยคเด็ดไปเคาะหัวสมองลูกทัวร์หน่อยแล้วกัน แต่อย่าให้เขารู้นะว่าเรากำลังล้างสมองเขา” สุริยาชี้แนะ
“ตกลงเราจะใช้ชื่อว่าอะไร ตอนไปจดทะเบียน” น้ำเสียงของสุริยาจริงจัง
“ชื่อเก่าสุริยาทัวร์ ชื่อใหม่ ก็รุ่งสุริยาทัวร์แล้วกัน” แสงทองเสนอแนะ..
“เหมือนนักร้องลูกทุ่งน่ะ” รุ่งโรจน์เอ่ยขัด
“ไม่ดีรึ เขาจะได้นึกว่าไปกับพี่รุ่งสุริยาไง ดีไม่ดีนะ กลายเป็นมีแม่ยงแม่ยกไปด้วย จริง ๆ พี่สุริยาก็มีแม่ยกนะ เห็นป้า ๆ ทั้งหลายกิ๊วก๊าวเชียวเมื่อเจอหน้าพี่”
“ก็มีผมอยู่คนเดียวจะให้ไป..สนใจใคร”
“อย่าเพิ่งไปพูดเลย ตราบใดที่เจ้าของเงินยังไม่วางเงินมา มันก็แค่ความฝันในอากาศ”
“สำหรับ รุ่งโรจน์ คำไหนคำนั้น..”
“จ้ะ..ให้มันจริง ๆ เถอะ กลัวแต่ว่า” แสงทองพูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์ของรุ่งโรจน์ก็ดังขัดจังหวะ..
สุริยาสันนิษฐานว่าเป็นแม่ เขาจึงไม่ยอมรับ หากแต่แสงทองเอ่ยขึ้นมาว่า
“กลัวอะไรกับความจริง” เขาจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมากดคุยด้วย
“ครับ..อยู่ต่างจังหวัดครับ..ไม่สะดวกแล้วคุณแม่...เอาไว้วันหลังนะครับ ผมบอกแล้วไง ต้องบอกผมล่วงหน้าห้าวัน..มากับเพื่อนครับ..เพื่อนใหม่ครับ คุณแม่ไม่เคยเห็นหรอก..กลับพรุ่งนี้ครับ..รักแม่ที่สุดเลย..ครับฝันดีนะครับ..”
“อ้อนเก่งอย่างนี้ซิน่า” แสงทองยังแซวไม่เลิก..สุริยาได้คิด มีแสงทองมาอีกคนก็ดี เวลาไปไหนจะได้มีเรื่องคุยกันเยอะ ๆ แสงทองเป็นคนร่าเริง..อยู่ใกล้ ๆ แล้วสบายใจ ...หากชายใดได้เธอไปครอบครองคงมีความสุข..
“เงียบเลยพี่รุ่ง คิดอะไร”
“คิดว่าเธอมีแฟนหรือยังหนอ”
“แฟนเคยมี แต่ตอนนี้เลิกกันไปแล้ว..แฟนเคยมีแต่ตอนนี้มีเมียไปแล้ว...” แสงทองร้องเป็นเพลง..จนทำให้รุ่งโรจน์หัวเราะออกมา..ก่อนจะเลื่อนมือมาเปิดเพลงของพี่เบิร์ด ธงไชย คล้ายกำลังจะเอาใจใครบางคน
“ชอบอะไรนักหนา วันนั้นก็เห็นเปิดบนคอนโด นี่ยังตามมาหลอกหลอนอีกรึ..ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางไหนเนี่ย มีเพลงพุ่มพวง ไหม หัวใจถวายวัด..หลวงพ่อเจ้าขา โปรดเมตตาลูกหน่อยได้ไหม..หนุ่มในฝันของสาวไทยคงไม่ฟัง งั้นเปิดเพลงคู่แท้ ให้หน่อยอยากฟัง”
“เหตุผล” รุ่งโรจน์ร้องถาม
“เพื่อบางทีพี่ยาอาจจะรู้สึกเหมือนหนูไง..” แสงทองพูดทำนองจีบอีกคนแบบหน้าตาเฉย
“แล้วผมล่ะไม่อยู่ในความรู้สึกค้นหากันมานานบ้างรึ” รุ่งโรจน์แกล้งเย้า
“ไม่เจ้าค่ะ มิบังอาจ มิบังควรอาจเอื้อมหมายจันทร์ ภัยจะมาถึงตัว..เพราะถึงอย่างไร น้ำกับน้ำมันก็ไม่มีวันเข้ากันได้..รักชอบพี่ก็เหมือนความฝันในอากาศ..กินแห้วตลอดกาล”
“เราสองคนอาจจะเป็นไฟกับน้ำมันก็ได้นะ อยู่รวมกันพัดพาไปทางไหนให้แหลกเป็นจุนไปเลย”
พอดีที่รถเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน รุ่งโรจน์เติมจนเต็มถังโดยใช้เครดิตการ์ดชำระ หลังจากนั้นก็ขับไปจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ
“ใครจะเข้าห้องน้ำเชิญครับ” แสงทองรีบลงจากรถทันที..เมื่อแสงทองลงไป เขาก็ถามอีกคนที่ยังนั่งอยู่ “หิวไหม” สุริยาสั่นหัว
“เหนื่อยไหมครับวันนี้” น้ำเสียงดูห่วงใยเหลือกำลัง..สุริยาไม่ตอบ กลับถามคืน
“คุณคงหิวน้ำ ขอตัวเดี๋ยวหนึ่งนะ”
สุริยารีบลงจากรถไปที่ร้านสะดวกซื้อ แสงทองเมื่อเห็นจึงวิ่งรี่ไปหา..
“กินอะไรหยิบมา เลี้ยงตลอดการเดินทาง”
แสงทองคว้าขนมแห้ง สองสามอย่าง พร้อมกับหมากฝรั่ง..
พอกลับไปที่รถพบรุ่งโรจน์ปรับเบาะงีบหลับ..แสงทองจึงฉีกผ้าเย็นที่ซื้อมา..แตะไปที่หน้าผาก..ส่งผลให้อีกคนสะดุ้งโหยง..
“เอ๊า จะได้สดชื่น..”
“ง่วงนอนหรือเปล่า” ด้วยเห็นเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน..สุริยาจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะพาไปไม่ตลอดรอดฝั่ง..ไปฝังเสียก่อน
“แสงทองขับรถเป็นรึเปล่า”
“เป็น แต่ที่บ้านนอกนะ ในเมืองไม่เคย”
“แล้วมานี่บอกใครหรือยัง” สุริยาเอ่ยถามขึ้น เมื่อรถแล่นไปบนถนนด้วยความเร็วดั่งเดิม..
“โทรบอกรูมเมทแล้วค่ะ อิสตรีสองนาง..บอกว่าตามสบาย..” ตอบไปพลางเคี้ยวขนมตุ้ย ๆ
“แล้วคืนนี้จะนอนกับพวกพี่หรือว่าจะแยกห้อง” รุ่งโรจน์ถามขึ้นบ้าง...
“หนูไม่ใช่คนกลัวผีนะ กลัวคนมากกว่า ขอนอนคนเดียวแล้วกันค่ะ ..”
“คุณรุ่ง เลือกที่นอนไม่ต้องเลิศอลังการมากนะครับ เอาพอนอนได้” เพราะรู้ว่างานนี้อย่างไร รุ่งโรจน์ต้องเป็นคนจ่าย..เขาจึงต้องรีบตัดความฟุ่มเฟือยของอีกคนไป เดี๋ยวยอดวงเงินในเครดิตการ์ดกระฉูดแม่เขาจะมาว่าได้
“ครับ ผมรู้ ว่าพวกคุณเน้นประหยัดแต่สะดวก..โอเค แล้วนี่เคี้ยวกันหนึบหนับไม่คิดถึงผมบ้างรึ..” น้ำเสียงประชดประชัน
พอเจ้าตัวพูดจบ สุริยาก็ยัดขนมโดโซะเข้าปากคนร้องขอไปหนึ่งชิ้น เขาเคี้ยวกรอบ ๆ ก่อนจะร้องขอน้ำด้วยติดคอ..สุริยาอีกนั่นแหละ ที่รีบหยิบขวดน้ำใส่หลอดจ่อจนถึงปาก
ความสุข..ความสุข..บางทีมันก็มาเองนะ...สุริยายิ้มให้กับวาสนาของตน
และค่ำคืนเพ็ญเดือนสาม รุ่งโรจน์ก็เลือกบ้านพักแบบเกสเฮ้าส์ที่ริมทะเล อ.ปราณบุรี ..ราคานั้นอยู่ที่ห้องละ 400 บาท..รุ่งโรจน์บอกว่าให้สุริยาเป็นเจ้าภาพ สุริยายิ้ม พอรู้ว่าอีกคนคิดอะไร..เขาจึงเอ่ยกับแสงทองว่า คืนนี้เลี้ยงค่าห้องเช่นกัน..แสงทองยกมือขอบคุณ..ก่อนจะแยกตัวเขาห้องของตน..พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้เช้าจะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น อยากรู้ว่ามันจะสวยเหมือนที่บนยอดเขาปางจันทร์หรือไม่..
และเช้าวันนั้นเป็นเช้าที่สดใสสำหรับสุริยา รุ่งโรจน์ยังเป็นเช่นเดิม นอนเอามือก่ายอยู่ที่ยอดอกเขาราวกับว่าเขาเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่..เมื่อพระอาทิตย์ทอแสงสีทองแตะขอบฟ้า เขาจึงค่อย ๆ เลื่อนตัวลงจากเตียง ทำกิจส่วนตัวด้วยเสียงเบาที่สุด ด้วยกังวลว่าจะทำให้คนขับรถพักผ่อนไม่เต็มที่ เมื่อคืนก่อนจะหลับเขายังขอร้องแกมบังคับให้สุริยาช่วยบีบนวดต้นคอและบริเวณศีรษะ..สุริยาก็ใจดีนึกถึงบุญคุณที่เขาพามาจึงบีบให้ทั้งบริเวณแขน ฝ่ามือ แผ่นหลัง บริเวณขาและฝ่าเท้า
“ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณก็เป็นหมอนวด คราวหลังจะขอใช้บริการอีก”
“แพงนะครับ ..”
“เท่าไหร่..”
“ต่อการพาไปเที่ยวสำรวจสถานที่ หนึ่งครั้ง..”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบว่าอะไร..พลางแต่ครางอือ ๆ เป็นสุข ขณะที่มือเขาบีบไปบนสรรพางค์กาย..
เช้าวันนั้น เมื่อเขาเดินออกมาจากบ้านพัก พบแสงทองเดินถือเปลือกหอยถุงใหญ่..ใบหน้าสาวเจ้าสุขสดชื่นเต็มกำลัง..
“พี่ยา..เร็ว ๆ ถ่ายรูป..” ในมือของสุริยามีกล้องดิจิตอลอยู่ด้วย พอไปถึงก็กดชัตเตอร์..ประหนึ่งว่าแสงทองเป็นนางแบบชั้นนำ
“ถ่ายรูปขึ้นนะ” เขาชม
“จริงอ่ะ แสดงว่าหนูสวยน่ะซิ” น้ำเสียงแสงทองเล่นเหมือนเคย แต่แววตาที่มองอีกคนนั้น เปิดเผยส่วนที่อยู่ลึก ๆ ในหัวใจ
“วันนี้เราจะไปไหนต่อ”
“มีหลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก วัดห้วยมงคล..แล้วสำรวจแถว ๆ ปราณนี่แหละ อาจจะขับรถกลับไปหัวหิน ไปสำรวจวัดแถบนั้น เขาตะเกียบ เขาหินเหล็กไฟ แล้วก็พระราชวังมฤคทายวัน พระราชวังบ้านปืน เขาวังเพชรบุรี วัดมหาธาตุ อีกหลาย ๆ วัดในเพชรบุรี”
“ไม่น่าหมดนะวันเดียว”
“สำรวจเส้นทางเฉย ๆ ข้างใน เราก็พอรู้เห็นจากสื่อต่าง ๆ แล้ว..ที่ต้องไปให้เห็นกับตาว่าเข้าทางไหน เคลื่อนรถอย่างนี้นะ แผนที่มันไม่ค่อยละเอียดหรอก บางทีพอเราเดินทางไปเอง อาจจะมีที่ใหม่ ๆ เกิดขึ้นดีกว่าในหนังสือเก่าที่เราอ่านอีก ประมาณสิบปากว่ าไม่เท่าตาเห็น บางทีหนังสืออธิบายซะดีเลิศ พอไป จริง ๆ ประมาณว่าเที่ยวไปด่าไป”
“งั้นถ้าเราจะเขียนหนังสือท่องเที่ยว เราก็เขียนแบบเที่ยวไปด่าไปเลยดีกว่าใช่ไหม”
“ใช่..ตัวอยากเป็นนักเขียนไม่ใช่รึ ก็เอานี่แหละข้อมูลพวกนี้ไปเก็บไว้ แต่อธิบายในแบบฉบับเรา อย่ามาเลยเป็นอย่างนี้ ...ลำบาก..บางทีพอเขียนอย่างนี้อาจจะทำให้คนอยากมาก็ได้..อยากไปดูว่ามันทุเรศจริงหรือเปล่า....เรื่องแผนที่ก็สำคัญนะ..ถ้าเราทำแผนที่ประกอบสักนิด มันก็จะน่าสนใจยิ่งขึ้น”
สองหนุ่มสาวยังคุยเรื่องงานเรื่องอนาคตกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...แดดร้อนขึ้น สุริยาจึงชวนกลับที่พัก..เมื่อไปถึง แสงทองเข้าห้องพักของตนเพื่อเก็บของและรอให้สองหนุ่มมาเรียก ส่วนสุริยาเมื่อกลับไปถึงห้องก็พบคนขับรถยังนอนคลุมโปงในผ้าห่มอุ่น..แต่มันถึงเวลาต้องปลุก เขาจึงเดินไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะเขย่าตัว..พอเขย่าปุ๊บคนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้นมากระชากเขาลงไปกกกอดทันที..
“เฮ้ย..เล่นอะไร..” ในผ้าห่มอุ่น เช้าวันนี้ รุ่งโรจน์มีอารมณ์รุนแรงกว่าทุกครั้ง เขาทั้งกอดรัดและพยายามใช้หนวดเคราที่ขึ้นหลอมแหลมถูไปที่ซอกคอและใบหน้าสุริยา..ส่วนมือก็จี้..จี๋ไปตามสะเอวเพื่อให้อีกคนหัวเราะ..เมื่อรูปการณ์เป็นอย่างนั้นสุริยาจึงคลายตระหนกเสียได้ แต่ก็ยังไม่เลิกดิ้นรนด้วยรู้สึกเหนื่อยเต็มกำลัง พอเขาหยุด จึงเป็นว่า คนทั้งคู่นอนมองตากัน..
รุ่งโรจน์ก็หอมฟอดที่ใบหน้า คล้ายอีกคนเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อึดใจเขารีบดันตัวลุกขึ้น เผยให้เห็นว่าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะแก้เขินด้วยประโยคที่ว่า
“นึกว่าจะเดินเก็บหอยเก็บปูไปจนถึงหัวหินซะอีก หิวแล้ว ไปเถอะ”
สุริยาค่อย ๆ ลุกขึ้นพลางใช้มือลูบทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็ลุกขึ้นมาเก็บของและเสื้อผ้าชุดเมื่อวานลงกระเป๋า
“อากาศดีไหมข้างนอก” รุ่งโรจน์คงจะแก้เขิน แต่สุริยาไม่ตอบ ทำเป็นเก็บของลงกระเป๋าด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“แสงทองไม่บ่นแย่แล้วรึ ว่านอนกินบ้านกินเมือง รึว่าคุณสองคนกินข้าวกันแล้ว”
สุริยาก็ยังไม่ตอบ จนกระทั่งอีกคนเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง แล้วก็กอดเอวจนแน่นซบส่วนศีรษะไปกับแผ่นหลัง พลางถามว่า.. “โกรธอะไรผม..เมื่อกี้ผมล้อเล่น ..ก็คุณน่ารัก ผมอดใจไม่ไหว”
“ปล่อยเถอะ จะรีบไป” สุริยาพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจสั่นรัวอย่างกับกลองแห่สิงโต เป็นอีกมุมหนึ่งที่เขาไม่คิดว่ารุ่งโรจน์จะมีต่อกัน
“ไม่โกรธผมนะ”
“จะโกรธอะไร.. ก็คุณบอกว่าล้อเล่น” น้ำเสียงบอกให้รู้ว่ายังไม่พอใจ
“แล้วถ้าผมทำจริง ๆ ล่ะ โกรธไหม”
สุริยาไม่ตอบ เพียงแต่หันมาบีบบริเวณหัวไหล่ของอีกคน แล้วสบตาคู่ใสนั้นเพื่อค้นหาบางอย่าง..ยังไม่ทันจะเห็นอะไรบางอย่างที่ว่า
เสียงประตูก็ดังขึ้น..เป็นแสงทองนั่นแหละที่คงจะหิวจนแสบท้องแสบไส้..
“ช้าจัง..ไปสั่งอาหารรอที่ร้านเมื่อกี้นะ” แล้วเสียงนั้นก็เงียบไป สุริยาจึงรีบยกกระเป๋าแล้วเดินไปที่ประตู..ด้วยหวั่นเกรงว่าหากอยู่ต่อ รุ่งโรจน์อาจจะเผยอะไรที่ทำให้เขาลำบากใจอย่างแน่นอน..
รุ่งโรจน์เดินตามลงมาในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีดำกับกางเกงสแลคเนื้อดีตัวเมื่อวาน..ใบหน้าขาวใสถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดยี่ห้อดัง..ท่าทางเดินมานั้นสง่าผ่าเผย จนแสงทองต้องพูดออกมา...
“ถ้าพี่เขาตัดสินใจทำอย่างที่แม่เขาต้องการ รับรองพี่รุ่งติดท็อปโหวตดาราชายอย่างแน่นอน”
สุริยาเงยหน้าจากเมนูอาหาร ปรายตามองไปอีกคน แล้วรีบก้มหน้าเก็บความรู้สึก..คนที่ถูกเอ่ยถึงมาหยุดนั่งที่ตรงข้าง ๆ กัน พลางใช้มือพาดไปที่พนักเก้าอี้ที่อีกคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วชะโงกหน้าไปดูเมนูในมือจนแก้มเกยบ่า
“สั่งอะไรมาบ้าง ที่นี่มีอะไรรสเด็ด”
“มีเขียด กับปลาร้าบอง” สุริยาตอบเสียงห้วน ๆ ...
“อยากกินก็เอามาดิ๊..” รุ่งโรจน์ว่าไปอย่างมีอารมณ์ขุ่นนิด ๆ เมื่ออีกคนยัดเมนูกลับมาให้ดูเอง
“ตื่นสายอย่างนี้แล้วจะไปได้ทั่วไหมเนี่ย” แสงทองเงยหน้าจากหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวด้วยสีหน้ามีกังวลฃ
“ไม่ทันก็อยู่ต่ออีกวันซิครับ”
“ไม่นะ พรุ่งนี้มีเรียนอีกอย่าง ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามา อยากเปลี่ยน”
“เดี๋ยวก็หาซื้อเอาแถวนี้ ผ้าบาติกลายดอกนั่นไง จะเล่นน้ำก็ซื้อชุดว่ายน้ำ หรือกางเกงขาสั้น”
“เงินมีน้อย” แสงทองบอกตามตรง
“เธอไม่รู้รึว่ามากับใคร” สุริยาต่อให้ด้วยน้ำเสียงแดกดันแต่รุ่งโรจน์ไม่สนใจก้มหน้าเขียนรายการอาหาร พร้อมกับเรียกเด็กมารับออเดอร์
“เมื่อคืนฝันดีไหมจ๊ะ” น้ำเสียงที่ถามแสงทอง หวานผิดปกติ
“หลับเป็นสุข เพราะดีใจที่ได้มาทะเล”
“ไม่เคยมาซิ” แสงทองสั่นหัว แต่ตอบว่า “ไม่ค่อยได้มาหรอก นานหลายปีแล้ว..ตั้งแต่เด็ก ๆ”
“คราวหน้า ถ้าหนูอยากไปไหนบอกพี่นะ” สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองก็เปลี่ยนไป “พี่พร้อมจะพาไปทุกที่ เมื่อวานบอกว่าขับรถเป็นใช่ไหม แต่เคยเฉพาะที่บ้านนอก วันนี้ลองขับนะ”
“จะดีหรือ”
“ดีซิ ต้องทำให้ได้..เผื่อวันข้างหน้าทำมาหากินร่ำรวยจะได้ซื้อรถมาขับ หรือไม่ ไปไหนมาไหนด้วยกัน จะได้เปลี่ยนกันขับบ้าง..เมื่อคืนผมเหนื่อยจะแย่ ไม่ได้ขับรถระยะไกล ๆ มานานแล้ว..ทั้งเมื่อยทั้งปวดขา”
“ถ้าพี่สุริยาขับเป็น ก็คงเปลี่ยนพี่รุ่งได้”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบ พอดีกับที่อาหารมาวาง แสงทองจึงเจ้ากี้เจ้าการตักข้าว รินน้ำแจกตามหน้าที่สตรี..และอาหารที่วางบนโต๊ะก็ทำให้สุริยาหน้าถอดสี ด้วยอีกคนแกล้งเขากับแสงทองอย่างแน่นอน.
ปลาร้าทรงเครื่องกับผักลวกราดกะทิ..กับกบทอดกระเทียมตัวเหลืองจ๋าเหยียดแข้งเหยียดขายาว..
“ถูกใจจัง” แสงทองร้องบอก พลางดึงกบไปฉีกแล้วเคี้ยวกรอบ ๆ
ส่วนรุ่งโรจน์เพียงนั่งมองจานข้าวเฉย ๆ ..ดูสองคนกิน ดึงบุหรี่ที่บริกรนำมาวางพร้อมกับไฟแช็คขึ้นมาแกะซอง ทำท่าจะจุดสูบ
“อ้าว ไม่กินข้าวก่อนล่ะ” พอแสงทองร้องทัก เขาจึงยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ด้วยสวมแว่นตาสีดำ สุริยาจึงไม่เห็นความรู้สึกอีกคนทางสายตา แต่เมื่อเห็นรูปการณ์ดังนั้นเขาจึงเงียบ อยากจะดูฤทธิ์เดช คนเอาแต่ใจตัวอีกสักระยะ ไม่อยากที่จะงอนง้อหรือพูดด้วยในขณะนี้
“ไหนพี่ว่าไม่ได้ติดไง”
“ก็จะสูบเฉพาะตอนมีอารมณ์อยากจะสูบเท่านั้น”
เท่าที่จำได้ เขาเคยบอกว่าจะสูบเฉพาะตอนที่มีเรื่องเครียดเท่านั้น แสดงว่าตอนนี้..

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 เม.ย. 2554, 11:33:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 เม.ย. 2554, 11:33:22 น.
จำนวนการเข้าชม : 1792
<< 9 | 11. >> |



จุฬามณีเฟื่องนคร 29 เม.ย. 2554, 11:53:10 น.
พอดีกำลังจัดทำต้นฉบับ เพราะเรื่องนี้เป็นอีกเล่มที่พิมพ์เอง จัดจำหน่ายเองครับ..
พอดีกำลังจัดทำต้นฉบับ เพราะเรื่องนี้เป็นอีกเล่มที่พิมพ์เอง จัดจำหน่ายเองครับ..

loveleklek 29 เม.ย. 2554, 11:57:59 น.
เริ่มรับจองเมื่อไหร่คะ
เริ่มรับจองเมื่อไหร่คะ

จุฬามณีเฟื่องนคร 29 เม.ย. 2554, 12:04:58 น.
ยังไม่ได้สรุปราคาครับต้องรอให้อรุณสวัสดิ์คลอดก่อนครับ..ค่อย ๆ ทำทีละเรื่อง..ครับ..สองคนนี่สองเล่มใช่ป่ะ..
ยังไม่ได้สรุปราคาครับต้องรอให้อรุณสวัสดิ์คลอดก่อนครับ..ค่อย ๆ ทำทีละเรื่อง..ครับ..สองคนนี่สองเล่มใช่ป่ะ..

Gingfara 29 เม.ย. 2554, 12:15:28 น.
ว้าวๆๆๆๆๆ น่าลุ้นแฮะ
ว้าวๆๆๆๆๆ น่าลุ้นแฮะ

Auuuu 29 เม.ย. 2554, 15:19:49 น.
หนุกหนานๆ มาต่อเร็วๆนะคะ ชอบ ^^
หนุกหนานๆ มาต่อเร็วๆนะคะ ชอบ ^^

innam 30 เม.ย. 2554, 15:43:33 น.
มันอย่างไรกันแน่เรื่องนี้
มันอย่างไรกันแน่เรื่องนี้

หมูบิน 1 พ.ค. 2554, 09:08:53 น.
อ่านมารวดเดียว เม้นท์ทีเดียวไม่ว่ากันนะค่ะ เรื่องหนังสือ เรื่องนี้ขอผ่านนะค่ะ คงไม่ว่ากันเนอะ
อ่านมารวดเดียว เม้นท์ทีเดียวไม่ว่ากันนะค่ะ เรื่องหนังสือ เรื่องนี้ขอผ่านนะค่ะ คงไม่ว่ากันเนอะ

manida 4 พ.ค. 2554, 21:32:57 น.
ลุ้น ๆ ๆ สนุกดีค่ะ ^^
ลุ้น ๆ ๆ สนุกดีค่ะ ^^

อมลลดาOWOอมรรัตน์ 30 พ.ค. 2554, 14:32:38 น.
ลุ้น ๆ
ลุ้น ๆ