รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: สาวน้อยกับรักแรกพบ


สาริตกลับจากทำงานโดยที่เดือนนี้เขายังไม่มีงานไปต่างจังหวัด ชายหนุ่มจึงมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น นั่นหมายความว่าเขาได้สังเกตเห็นว่าสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือของสุภาหายไปเขาจึงถาม เธอทำตกใจ
“ตายจริงสุถอดไว้ในกระเป๋า” สุถารีบวิ่งขึ้นไปดูสักครู่รีบลงมาเอ่ยกับสามี
“หายไปแล้วค่ะไปไหนก็ไม่ทราบ”
“อะไรกัน คุณลองนึกให้ดี ๆ ซิว่าลืมไว้ที่ไหน”
สุภาทำนึกอยู่นานก็นึกไม่ออก สุดท้ายบีบน้ำตาฟูมฟาย สาริตไม่อยากตำหนิแต่อดติโทษไม่ได้
“ไม่รู้จักรักษาของอย่างนี้ต่อไปผมคงไม่ซื้อของมีค่าให้แล้ว”
“คุณริตขา ภาไม่รู้จริงๆค่ะว่าลืมไว้ไหน หรือว่า จริงสิคะวันนั้นไปตลาด ภาโดนกรีดกระเป๋า ใช่สิต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ”
“จริงหรือหาเรื่องแก้ตัว”
“คุณริตอย่างว่าภาอย่างนั้นสิคะ ภาจะแก้ตัวทำไมภาไม่มีเหตุผลที่จะโกหกนี่คะ”
“งั้นก็แล้วไปเถอะ แต่ผมยังคงไม่ขอซื้อของมีค่าให้คุณอยู่ดี ผมเสียดายทองคำตั้งห้าบาท” เขาถือกระเป๋าไปรอลูกอยู่ที่รถ สุภาตามไปจนถึงรถเก๋ง ถามสามีด้วยท่าทีเป็นปกติว่า
“คุณจะไปต่างจังหวัดเมื่อไหร่ค่ะคุณริต”
“ไปมะรืนนี้ไปทำงานอาทิตย์เดียว”
หญิงวัยสามสิบเศษหัวใจพองโตคับอก เธอไม่ได้เข้าบ่อนมานานเมื่อวานพึ่งไปขายสร้อยเพื่อใช้หนี้พนัน รู้จากสามีว่าจะไปต่างจังหวัดเธอจะใช้เงินที่เหลือจากขายสร้อยไปเล่นต่อการพนันเป็นสิ่งที่ใครได้ก้าวล่วงเข้าสู่วงการแล้วความพินาศฉิบหายได้เข้าสู่ชีวิตไปครึ่งหนึ่ง
สุภาเข้าบ่อนเล่นไพ่ทันทีที่มีโอกาสและวันนี้เธอหมดตัวกลับบ้าน วาสิฐีทำงานบ้านทุกอย่างด้วยรู้ดีว่าเมื่อบิดาไม่อยู่ สุภาจะร้ายเสมอ เย็นมากแล้วกับข้าวก็ยังไม่มีวาสิฐีจึงเดินออกไปซื้อกับข้าวสำเร็จ มาเป็นมื้อเย็น อำภาตักข้าวให้จนครบสามคนพี่น้อง ลดาวัลย์อายุเจ็ดปีบ่นงึมงำเมื่อเห็นกับข้าวสำเร็จสามอย่าง
“อยากจะอ้วก ไม่เห็นจะอร่อยเลยแกงปากซอยเนี่ย พี่วาไปทอดไข่หน่อยซี่”
“กินต้มจืดก็ได้นี่จ้ะด๋าเดี๋ยวพี่วาตักปลาหมึกให้เยอะ ๆ”
ลดาวัลย์ผลักจานออกห่างขมวดคิ้วยุ่ง ส่งเสียงดังอย่างคนเอาใจ
“พี่วาไปทอดไข่ให้หน่อย ถ้าไม่ทำให้ ด๋าจะฟ้องคุณแม่คอยดู”
วาสิฐีเข้าไปจัดการให้ตามคำสั่งน้องคนเล็ก อำภาเงื้อมือตีน้องสาวเผียะเต็มฝ่ามือด้วยความหมั่นไส้ที่น้องสาวไม่รักวาสิฐีดังที่อำภารัก
“โอ๊ย”
“พี่วาเขาเป็นพี่สาวเรา โดนคุณแม่ทั้งหยิกทั้งตี ทำไมไม่สงสารพี่วาบ้างนะให้พี่วาได้พักเหนื่อยบ้างเถอะ มีอะไรก็กินๆเข้าไป”
“พี่วาไม่ใช่พี่สักหน่อย แม่บอก” ลดาวัลย์เถียงอุบอิบ
“อีเด็กปากนรก” อำภาด่ากราดด้วยถ้อยคำของมารดาที่ชอบด่าทอลูกเลี้ยง เงื้อมือจะตบปากน้องสาวซึ่งรีบหลบทันที ด้วยความกลัวคนจริงอย่างพี่สาวคนนี้ เธอตะโกนบอกวาสิฐีทันควัน
“พี่วา ด๋าไม่เอาไข่ทอดแล้ว”
วาสิฐีตีไข่ใส่ชามแล้ว ถึงน้องจะยกเลิกคำสั่งก็ยังต้องทำต่อ อำภาไล่ตีน้องสาวเป้นการลงโทษแทนวาสิฐี ซึ่งไม่เคยแตะเนื้อตัวน้องคนเล็กสักนิด
สุภาใช้เท้าเหวี่ยงรองเท้ากระเด็นก้าวเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย นางเห็นลูกสาวสองคนนั่งทานข้าวกันตามลำพัง และมีจานข้าวเปล่าอีกจาน วางอยู่โดยไม่มีเจ้าของสุภาหาเรื่องลงอารมณ์ร้ายได้ในทันที
“นังวาไปไหน”
อำภาตอบ
“พี่วากำลังไปเจียวไข่ให้...”อำภารายงานไม่ทันจบ สุภาด่าทอลูกเลี้ยงทันใด
“หน็อยแน่ น้องกินแกงถุงตัวเองกระแดะจะแดกไข่เจียว ไหนเอาน้ำมันราดหน้ามันสักหน่อยเป็นไง”
เธอพาร่างอวบได้รูปสวยลิ่วเข้าไปในครัววาสิฐีกำลังตักไข่ใส่จาน สุภาคว้าจานได้โปะใส่อก ดีที่วาสิฐีใช้มือกันไว้
“ว้าย คุณน้า”
น้ำมันร้อนจากไข่เจียวลวกมือยาวไปถึงแขนวาสิฐีร้องไห้โฮ ด้วยความแสบปะร้อน สุภาคว้าตะหลิวเหล็กฟาดใส่วาสิฐีไม่ยั้งมือ เด็กหญิงหนีลนลานออกไปปะทะกับร่างสูงโปร่งของบิดา เขารีบคว้าร่างบอบบางของลูกสาวเข้ามากอดแน่น สุภาชะงักงัน อาวุธในมือร่วงสู่พื้นอย่างตกใจ
“คุณริต”
“นี่มันอะไรกันสุภา เรื่องอะไรมาตีวาสิอย่างนี้”
“ก็”
“ก็อะไร”
เขาชี้หน้าสุภาอย่างเกรี้ยวกราดสุดระงับ
“นี่ถ้าไม่กลับบ้านกะทันหัน ผมไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“สาริตคุณไม่ถามสักคำหรือว่าทำไมฉันต้องตีวาสิฐี คุณรู้มั้ยว่าลูกคุณมันทั้งดื้อด้านแค่ไหน งานการไม่หยิบจับสักอย่างเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ทอดไข่กินตามลำพังในครัวคนเดียว”
“ไม่จริงค่ะคุณพ่อ คุณน้าออกจากบ้านตั่งแต่เช้า”อำภาฟ้องร้องแทนพี่สาวอย่างเหลืออดต่อความใจร้ายของมารดา เด็กหญิงเข้ามาลูกรอยแดงที่แขนของวาสิฐี
“คุณแม่ชอบตีพี่วาอยู่ทุกวัน”
“ตอแหล”สุภาด่าลูกตัวเองอย่างลืมตัว “แกจะให้คุณพ่อเข้าใจแม่ผิด เพราะแกเองก็พากันแกล้งด๋าใช่มั้ย”
“คุณแม่ใจร้าย คุณแม่โกหก โกหกคุณพ่อมาตลอด”
“นังอ้ำ หยุดนะ นังลูกไม่รักดี”
“คุณนั่งล่ะหุบปากเสียที นี่ถ้าผมไม่เข้ามาเห็นด้วยตาตัวเอง ผมอาจจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ได้ อ้ำเล่าไปว่าพี่วาโดนแกล้งอะไรบ้าง” สาริตเข้าข้างลูกสาว
“พี่วาทำงานบ้าน อ้ำก็ช่วยด้วย วันนี้คุณแม่ออกไปแต่เช้าเข้าบ้านกี่โมงพึ่งกลับบ้าน พี่วาหาข้าวให้อ้ำกับด๋าทาน น้องด๋าจะทานไข่เจียว พี่วาก็ตามใจจึงไปเจียวให้ แต่คุณแม่กลับมาตีเอาตัเอา ดูสิคะ แดงหมดเลย ไปพี่วาอ้ำจะทายาให้”
สาริตโกรธอย่างบอกไม่ถูก เขาจูงมือวาสิฐีไปนั่งเด็กหญิงเป็นสีชมพูจัดเพราะความร้อนของน้ำมัน ชายหนุ่มยังคิดว่าโชคดีที่ลูกสาวไม่โดนน้ำมันเดือดลวกใส่ เขาเอ่ยเสียงสั่นตำหนิตัวเอง และปรามภรรยา
“ผมหูตาบอดมาสี่ห้าปีแล้วสุภา ต่อไปนี้อย่าทำร้ายวาสิฐีอีกเด็ดขาด”
จากนั้นสาริตผุดลุกไปหยิบหลอดยาทาแก้น้ำร้อนลวกจากตู้ยาประจำบ้าน ใบหน้าบึ้งตึง สุภาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะประชดสุภาไม่อาจจะทำอะไรต่อสาริตสามี ผู้มีความเด็ดขาด บทใจดำเขาดำได้สนิทนัก
เธอประชดอีกฝ่ายด้วยการกระชากแขนลดาวัลย์จนร่างเล็กถลาตามแรง
“อ้ำ ด๋าขึ้นข้างบนกับแม่”
“อย่าทำกิริยาแบบนี้กับผมนะสุภา ถ้าไม่พอใจก็ออกไปจากบ้านของผมได้เลย”
หญิงวัยสามสิบเศษร้องไห้โฮ ปล่อยแขนลูกโดยแรง จากนั้นเธอจ้ำอ้าวขึ้นห้องชั้นบน
อำภาทอดสายตามองขึ้นไปชั้นบนของบ้าน ลดาวัลย์ค่อยๆเดินเลี่ยงก่อนจะวิ่งไปหามารดา วาสิฐีแอบมองอำภา ซึ่งมีน้ำตาเอ่อขังขอบตา เด็กหญิงกำลังสับสนระหว่างสิ่งดีงามที่ได้ทำลงไปและมารดาเป็นผู้ได้รับการขับไล่ไสส่ง
วาสิฐีสงสารน้องจึงเอ่ยกับบิดา
“คุณพ่อขา อย่าไล่คุณน้าเลยค่ะสงสารน้อง”
“เขาทำร้ายลูกมานานแล้วหรือยัง ทำไมไม่บอกความจริงกับพ่อ”
“วากลัวค่ะคุณพ่อ”
“ต่อไปนี้ลูกต้องพูดความจริง ไม่ต้องกลัวอะไร รู้มั้ยวาสิพ่อรักลูก”
“คุณพ่อ”
วาสิฐีโอบกอดบิดาความรู้สึกเงียบเหงาโหยหาหมดไปจนสิ้น แผลในใจที่มีมานานว่าไม่มีความยุติธรรมสำหรับพ่อสู่ลูก หากบัดนี้ความจริงได้เปิดเผยออกมาจากคำบอกเล่าของอำภา ซึ่งรักวาสิฐีอย่างไม่มีเงื่อนไข เธอรักพี่แต่งแม่ราวกับเป็นสายเลือดผูกพันเป็นสายเดียว

ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังอีกสองปีต่อมา
พรรณยุดาคว้าแขนเพื่อนทันทีที่เดินเข้าไป วาสิฐีตกใจไม่น้อยที่โดนจู่โจมจากเพื่อนรัก
“อุ๊ย ยุดาอะไรกันจ๊ะ แหมเดินดีดีก็ได้ ไปรอรถกันเถอะ”
“ยุดาดีใจม้ากมาก ยุดาแทบรอวาสิ ไม่ไหวแน่ะ อยากบอกวาสิเป็นคนแรก”
“เรื่องอะไรจ๊ะ” วาสิพลอยตื่นเต้นไปพร้อมกับเพื่อน
“น้าวิลล์กลับจากเมืองนอกแล้วล่ะ กลับมาตั้งแต่เมื่อคืนยุดาไม่รู้หรอก แต่เจอตอนเช้าหัวใจจะวาย”
พรรณยุดาทำท่าเอนทับเด็กหญิงอีกฝ่ายหัวเราะเสียงใส
“แต่น้าวิลล์อยู่แค่สามวันเท่านั้นเองก็ต้องกลับไปอีก โธ่เอ๊ย”
“ตกลงดีใจหรือเสียใจ เอาให้แน่ยุดา”เด็กหญิงวัยสิบสี่ปีย้อนถามสีหน้าสดใส
“ก็ ดีใจน่ะสิดีใจจนเก็บเอาไว้ไม่ได้ต้องรอวาสิ”
“บอกกับงามพริ้มหรือเหมือนแขก็ได้ อยู่บ้านเดียวกันกับยุดาแท้ๆ ไม่ต้องรอบอกวาอย่างนี้ก็ได้น่าอึดอัดใจแทนจริงๆ”
“แหว่ะ” พรรณยุดาแลบลิ้นแพลบทำท่าขย้อน เมื่อวาสิฐีแนะนำเช่นนั้น เพระเธอไม่ชอบงามพริ้ม เด็กในอุปการะของคุณหญิงยาย เธอไม่ให้อีกฝ่ายขึ้นมาตีเสมอฐานะของเธอ แต่ พรรณยุดาละเว้นวาสิฐี ไว้ด้วยความรักและสนิทสนม
“ไม่มีใครเหมือนวาสิของยุดาหรอกจ้ะ ก็เราเป็นฝาแฝดกันนี่นา เกิดราศีเดียวกัน ปีเดียวกัน”
“จ้า ๆ”
รถหรูรอรับพรรณยุดา ซึ่งเมื่อเด็กหญิงเหลือบเห็น เธอรีบฉุดข้อมือวาสิฐีให้วิ่งตามเข้าไปหาชายหนุ่มร่างสูงผิวขาวจัดใบหน้าคมคายบอกความเป็นคนต่างชาติมากกว่าคนไทยอย่างชัดเจน ดวงตาสีฟ้าจัดจนออกเป็นสีน้ำเงิน ร่างสูงดูสง่างาม แม้จะแต่งกายตามสบายด้วยยีนราคาแพงกับเสื้อสีน้ำเงินลายขวาง คอปาด อายุไม่มากนัก แต่ความคมคายหล่อจัดเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็นไม่น้อย
พรรณยุดาทักทายชายหนุ่มผู้เป็นญาติผู้ใหญ่ ด้วยเสียงใสด้วยความดีใจสุดขีด
“สวัสดีค่ะน้าวิลล์ขา”
“ไฮ ยูด้า”เสียงขานรับผิดเพี้ยน
วาสิฐีเงยหน้ามองร่างสูงเด็กหญิงตาค้างตะลึงจนเขายิ้มทักทายอีกฝ่าย ปากบางอย่างคนยึดมั่นขยับ
“โอ้ เองเจิ้ล เพื่อนยูด้าหรือครับ?”
“ใช่ ใช่ค่ะ”วาสิฐีใจเต้นรัวเมื่อต้องพูดตอบโต้ และเธอรู้สึกหายใจขัด อึดอัด ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นจะสามารถเรียกได้วง่าความรัก เธอจะรู้จักได้อย่างไร เธอยังไม่เต็มสาวเลย แต่เธอกลับแปลกประหลาดใจ หายใจติดขัดบอกไม่ถูก สาวน้อยวัยกระเตาะโดนความรักแรกพบเล่นงานเข้าเสียแล้ว
“ไนซ์ ทู มีท ยู”
“ไนซ์ ทูมีท ยู ทู”
“น้าวิลล์พูดภาษาไทยสิคะที่นี่กรุงเทพฯ ไม่ใช่อังกฤษ ดินแดนที่ฝนตก200กว่าวันในหนึ่งปีนะคะ” พรรณยุดาต่อว่าน้าชายอย่างไม่เกรงใจ ส่วนน้าชายตามใจหลานสาวได้เกือบทุกครั้งเช่นกัน
“นา น้า”ชายหนุ่มรูปงามเรียบเรียงสำเนียงอย่างยากลำบาก
“นานา จะไปโสงเอง กี่โมงถึงบ้านครับใกล้เท่าไหร่”นั่นคือภาษาแม่ของชายหนุ่ม ที่นอกจากพูดได้ไม่ชัดยังเรียงประโยคได้ผิดเพี้ยนไปมาก
พรรณยุดารีบกระตุ้นเพื่อนให้ไปด้วย ขณะนั้นงามพริ้มและเหมือนแขเดินเข้ามาขอพรรณยุดาจะไปด้วยหากอีกฝ่ายตัดบท
“เดี๋ยวรถโรงเรียนก็ไปส่งอยู่แล้วนี่ พวกเธอก็รู้ว่าน้าวิลล์เป็นลูกคุณหญิงงามจิตไม่ใช่คนขับรถให้ตัวเอง”
วิลล์ขยับจะชวนอีกเด็กหญิงทั้งสอง แต่พรรณยุดารีบดันหลังร่างสูงใหญ่ของน้องชายของแม่ ให้ขึ้นรถแล้วเจ้ากี้เจ้าการเปิดประตูให้เพื่อนซี้ขึ้นนั่งรถตอนหลัง ตัวเองขึ้นนั่งคู่กับน้าชายออกคำสั่งราวกับอีกฝ่ายเป็นองครักษ์ส่วนตัวว่า
“ไปร้านไอศกรีม ก่อนอื่นค่ะ แล้วไปซื้อของขวัญต่อ จากนั้นไปส่งถึงบ้านวาสิหกโมงเย็น”
“ออล ไรท์ ยูด้า เพื่อนชื่อวาสิฐี วา วาที่วัดความยาวหรือ”
“ไฮ้ ไม่ใช่สักหน่อยน้าวิลล์ วาสิคือ วาสิฐี”พรรณยุดาย้ำเสียงสูง “ยูโนว์ วาสิฐี”
“กามนิต วาสิฐี ภรตพุทธศาสนาหรือ”วิลล์เอ่ยเสียงอ่อนพยายามพูดให้ชัด
“ใช่ ใช่แต่วาสิฐีคนนี้จะเป็นหมอไม่เต้นคลีอวดใคร”
วิลล์หัวเราะดังลั่นรถ ยีผมหลานสาวอย่างเอ็นดู ชายหนุ่มเป็นคนชอบอ่านหนังสือ แต่เป็นหนังสือต่างประเทศ เพราะความรู้ภาษาไทยของเขามีน้อย เทียบได้กับเด็กประถมสองเท่านั้น
วิลล์สังเกตเพื่อนสนิทของหลานสาว ซึ่งบางครั้งเผลอแสดงความเหงาผ่านดวงตาคู่สวย ซึ่งชายหนุ่มคิดว่าหากเมื่อมีความสุขดวงตาเจิดจรัสคู่นี้คงเปล่งแสงได้น่าดูมากๆอย่างแน่นอน
พรรณยุดาสั่งไอศกรีมรสโปรด วาสิฐีเช่นกัน ยามดีใจเด็กหญิงยิ้มได้น่ารัก จนวิลล์ชม ส่วนพรรณยุดาผู้วางตัวเป็นเจ้าหญิงสั่งน้าในสายเลือดราวกับเขาเป็นองค์รักษ์ให้หยิบของขวัญราคาแพงให้เลือกแล้วก็เปลี่ยนโน่นนี่ตลอดเวลาจนวิลล์แสร้งดุเสียงเข้ม
“ยูดาร์ไอให้ยูเลือกอีกครั้งอย่างเดียวราคาเท่าไหร่ก็ได้” เขาเรียงคำพูด
“แหมล้อเล่นก็ไม่ได้ เอาตุ๊กตาหมีตัวโต ๆ จะเอาไว้กอดแทนน้าวิลล์”
เขาหยิบมาให้ พรรณยุดารั้งร่างสูงให้โน้มมาใกล้หอมแก้มเขาเบา ๆ แล้ววอนเว้า
“ให้วาสิด้วยนะ”
“ได้เลย ว๊าสอยากได้อะไร”สำเนียงของชายหนุ่มเปล่งชื่อวาสิสั้นอย่างพรรณยุดาเรียกไม่ได้ จึงเรียกแต่ว่าว้าสโดยตัวเองหมายความว่าอีกอีกฝ่ายคือแจกัน (vase)
เด็กหญิงส่ายหน้าโบกมือพร้อมปฏิเสธด้วยความเกรงใจ สุดท้ายวิลล์เลือกตุ๊กตาคริสตัลชุดบัลเลต์ ยามไขลานจะหมุนไปรอบพร้อมเพลง green filed
“เปิดกล่องได้เอาไว้ใส่ความลับ” เขาบอก พลางเปิดกล่องใต้ฐานตุ๊กตาด้วยมือเปล่า เด็กหญฺงมองความว่างเปล่าด้วยความสนใจ เมื่อชายหนุ่มแนะนำ จากนั้นวาสิฐีไหว้ขอบคุณอีกฝ่าย รับของขวัญมาด้วยความยินดี
เวลาต่อมา ชายหนุ่มขับรถมาส่งเด็กหญิงจนถึงบ้าน เขาทำหน้าที่สุภาพบุรุษอย่างคุ้นเคยด้วยการ เปิดประตูรถให้ วาสิฐีลงจากรถ โดยมีสายตาอยากรู้อยากเห็นของสุภาจ้องเขม็ง มาจากห้องรับแขกซึ่งเปิดม่านรับแสง ทำให้เห้นโดยบังเอิญ
วาสิฐีรอรถของอีกฝ่ายจากไปเธอยกมือโบกลาเพื่อน แต่สุภามองด้วยสายตาที่ไม่ดีสักอย่าง เมื่อเด็กหญิงวางกระเป๋าเรียนและยกมือทำความเคารพแม่เลี้ยงแล้ว ความปากไวของสุภาหลุดถ้อยคำไม่ดีออกมาทันที
“แค่สิบสี่ก็มีตัวผู้มาส่งแล้ว เถอะจะฉีกผ้าอ้อมไม่ทัน”
“อะไร” สาริตถามเสียงเครียดได้ยินไม่ถนัดนัก สุภาปั้นหน้ายิ้มหวานหะนไปตอบสามี
“วาสิไม่ได้กลับรถโรงเรียน แต่มีผู้ชายมาส่งค่ะคุณริตเห็นไม่ถนัด ท่าทางเหมือนฝรั่ง”
“รถใครมาส่ง” สาริตรีบเรียกลูกเข้าไปสอบถาม วาสิฐีนั่งพื้นตอบคำถามบิดา
“ยุดาค่ะคุณพ่อ คุณน้าของยุดาเป็นคนขับรถมาส่ง ชื่อคุณวิลล์ เป็นลูกครึ่งฝรั่งลูกชายคนเล็กของคุณยายยุดาค่ะ”
ผู้ให้กำเนิดจึงไม่พอใจภรรยาที่คิดไม่ดีต่อลูกสาว สุภากลืนน้ำลายลำบาก แต่ไปลงความเกลียดลูกเลี้ยงเป็นหลายเท่าทวีคูณ เมื่อวาสิฐียิ่งเติบโตสาริตทั้งรักและหวงห่วงมากขึ้นทุกที โดยที่สุภาไม่มีโอกาสทำร้ายลูกเลี้ยงอีกเลยนับจากวันที่สาริตประกาศกร้าว และสุภากลัวน้ำใจอำภาลูกตัว ซึ่งรักความยุติธรรมจนน่าหยิกให้เนื้อขาดเสียนัก
วาสิฐีขอตัวขึ้นไปห้องพักเพื่อทำการบ้าน เธอวางสิ่งของแล้ว อดที่จะเหลือบสายตามองของขวัญจากวิลล์ที่ให้มาเสียไม่ได้ ตุ๊กตาคริสตรัลราคาแพงลิบ ตัวแสนสวย สง่า เธอจะทำการบ้านให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำมาตั้งไว้บนโต๊ะหนังสือ เพื่อชมเชย!!
วิลล์รู้จักเพื่อนสนิทของหลานสาวจากการเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง เห็นตัวจริงในวันนี้ เขายังสนใจที่จะพูดถึงต่อ
“เพื่อนคนเก่งของยูดาร์”
“ยุดาค่ะน้าวิลล์ ยูดาร์เป็นชื่อแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่หรือคะ ยุดา ยุดา ออกเสียงไม่น่ายาก หน้าตาก็ฝรั่งแท้ไม่ติดคุณยายเลยสักนิด”พรรณยุดาต่อว่าน้าชายอย่างแก่แดด
“ยูดาร์”
“น้าวิลล์ต้องเข้าวัดไทยให้มากกว่านี้อีกนะคะ” หลานสั่งสอน
“ครับ ครับ ครั้งหน้าถ้ามาเมืองไทยจะพูดไทยช้าดช้าด”
“น้าวิลล์ต้องหาคนรักเป็นคนไทยไว้สอนภาษาด้วย” หลานสั่ง
“ฉันเสียใจ”
“อ้าวน้าวิลล์มีแฟนแล้วหรือคะ”
“มีแล้ว”
“สวยมั้ย ใช่คนไทยหรือเปล่า”
“ไม่ใช่แต่ก็เป็นคนดีมาก”
พรรณยุดาทำหน้าเศร้าเอ่ยเสียงอ่อย
“น้าวิลล์คงไม่กลับมาอยู่กับคุณยายที่เมืองไทยแล้วใช่มั้ย”
“ตอนนี้น้าวิลล์ยังต้องเรียนหนังสืออยู่เลย”
“แฟนน้าวิลล์ เขาจะมาอยู่ด้วยมั้ยคะน้าวิลล์”
วิลล์ยิ้มในสีหน้าไม่ตอบคำ พรรณยุดาแง่งอนเข้าใส่จนถึงบ้านที่คฤหาสน์ ดิศยศักดิ์



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2555, 20:28:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2555, 20:28:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 2017





<< ชายผู้เอาแต่ใจ   สิ้นชาติขาดกัน >>
tookta 4 พ.ค. 2555, 21:11:29 น.
อายุ 12 เจอชายในฝันแล้วเหรอจ๊ะน้องวา อิจฉา 55


คิมหันตุ์ 5 พ.ค. 2555, 01:51:50 น.
ุtookta อายุ 14 แล้วจ้า..อีกสองปีถัดจากป.หก น่าจะสิบสี่เนอะ ^^
ปล.ก็ยังเด็กไปหน่อยอยู่ดี....อิอิ


นางแก้ว 5 พ.ค. 2555, 10:14:21 น.
ไม่ผิดค่ะ นางเอกอายุ14
แอบรักพระเอก แห่ะ ไม่เณ้วไปหรอกค่ะ เพราะสิบสี่ก็มีหัวใจ และเธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าชอบ อยากฟัง


Zephyr 5 พ.ค. 2555, 10:38:12 น.
เอ้ นางเอกสิบสี่ พระเอกเท่าไรล่ะคะ
ยุดาก็น่ารักจัง มีคู่มั้ยคะ ให้เธอเป็นแม่สื่อให้เพื่อนสิคะ


tookta 5 พ.ค. 2555, 14:13:52 น.
อ่านเร็วไป 55 อายุ 14 จ๊ะ ขอบคุณคุณคิมหันต์ ตอนเราอายุ 14 ก็ฝันหวานแล้วเหมือนกันค่ะ55


นางแก้ว 5 พ.ค. 2555, 14:24:29 น.
แล้ววันข้างหน้าสาวๆของเราก้มีผู้ชายดีเลิศเข้ามาคู่เคียง
วิลล์-ฉายา ปอย แมน
เมืองเอก-พระเอกตลอด
เลียบเมือง-พระเอกอีกคน


tookta 5 พ.ค. 2555, 18:19:35 น.
วาว ไรเตอร์ใจดีเล่นแถมเป็น 3 แพคคู่ สุดยอดไปเลย นางเอกคง น้องวา น้องภา แล้วน้องยุดา หรือเปล่าคะเนี่ย


นางแก้ว 5 พ.ค. 2555, 19:02:21 น.
น้องอ้ำ วาสิฐี และก็ยุดาค่ะ


Zephyr 5 พ.ค. 2555, 21:39:05 น.
คุณนางแก้วเรียงชื่อนางเอกแบบนี้ บอกเป็นนัยหรือป่าวคะว่าใครคู่ใคร


นางแก้ว 6 พ.ค. 2555, 09:32:14 น.
ค่ะใช่ค่ะ แต่ว่าจ๋าไม่ได้เรียงตามความสำคัญ นึกได้ก็เขียนชื่อค่ะ อย่างฉายาพระเอกสุดโต่งคือ นาย สปอยแมน ผู้ชายนิสัยเสีย เอาแต่ใจ อิอิ บอกแค่นี้เดี่ยวค่อยลุ้นกันค่ะ


Zephyr 6 พ.ค. 2555, 09:38:45 น.
อ่าว งั้น น้องอ้ำคู่กะวิลล์เหรอคะ โธ่หนูวาของช้าน เศร้า


nutcha 6 พ.ค. 2555, 13:39:53 น.
หนูวาไม่ได้คู่กับชายในฝันเหรอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account