รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: สิ้นชาติขาดกัน

เวลาผ่านไปอีกสองปีเศษ
ตุ๊กตาบัลเลย์แก้วคริสตัล เต้นตามลานไขซึ่งเปิดเพลงหวานซึ้ง วาสิฐีเด็กสาวหวนนึกถึงคนให้ สองปีมาแล้ว เด็กสาวไม่เคยลืมดวงหน้าเรียวขาว ผิวสวยดั่งลูกครึ่งทั่วไป ชายคนนั้น น้าชายของเพื่อนรัก ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับคนรัก ซึ่งพรรณยุดามีเรื่องมาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆว่า..”ทำท่าเหมือนจะตาย แต่ไม่ตายเสียที’
วาสิฐีอยากมีความสุข อยากสมหวัง แต่ไม่ได้หมายความว่าได้มาจากการเหยียบคนตายขึ้นไป ความปรารถนาที่ได้ต้องมาด้วยความชอบธรรม
ความรักกระนั้นหรือ...ใช่ เธอแอบหลงรักวิลล์มาตั้งแต่อายุสิบสี่ปี เด็กสาวยอมรับด้วยดวงใจน้อยๆมาโดยตลอดว่ามีใจแอบรักวิลล์
วาสิฐีเฝ้ารอฟังข่าวของเขาจากพรรณยุดา โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่า เพื่อนรักของเธอคิดอย่างไรกับน้าชายคนโปรดของตนเอง
ส่วนวาสิฐี นอกจากได้ตามขาวชายหนุ่มจากพรรณยุดา เธอยังอิ่มเอมใจต่อการคิดแฝงในสายรุ้งทุกครั้งที่ได้เห็นยามฝนตก และแดดออกจางๆ ภาพชายหนุ่มพร้อมร้อยยิ้มกว้างจริงใจจะปรากฏให้วาสิฐีได้จินตนาการ
หากวิลล์คือสายรุ้ง วาสิฐีเด็กสาวคนนี้คงได้แต่มองหาด้วยความหวัง โดยไม่อาจแตะต้องได้เลย แรงรักคือสิ่งกระตุ้นให้เด็กสาวอยากได้ดี อยากทะเยอทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อใกล้เคียง แม้วาสนาเธอไม่คิดเทียบเท่า แต่เธอยังอยากได้ชิดใกล้ แม้แต่ได้รับเพียงการได้ยินเรื่องราว เท่นั้น หัวใจดวงน้อยเป็นสุขเหลือประมาณ
เด็กรุ่นสาวรัดผมหางม้าเป็นพวงผมหน้าตัดสั้นเต่อแต่เจ้าตัวยังดูน่ารักมากกว่าเด๋อด๋า อีกคนหนึ่งผมรัดเปียยาวผูกริบบิ้นสีขาวผิวพรรณขามอมชมพูด้วยเลือดฝาดพรรณยุดายกแขนของตนเปรียบเทียบกับเพื่อน แล้วทำหน้ามุ่ย
“ดูผิวยุดาเจ๊กตามคุณพ่อเลยนะเนี่ยออกจะเหลืองไม่สวยเหมือนวาสิเลย”
“โธ่ยุดาเอาอีกแล้วชมตั่งแต่เด็กจนอายุสิบเจ็ดเข้านี่ยังชมอยู่นั่น”
“ก็วาสิสวยนี่นา ยุดาช้อบชอบ ยุดาไม่ให้วาสิกับใครด้วยล่ะ”
กล่าวแล้วพรรณยุดากอดเพื่อนไว้อย่างหวงแหนดังวาจา วาสิฐีหัวเราะเสียงใสญาติชายร่วมชั้นกระเซ้าเด็กสาวทั้งสองคน
“ใครทอม ใครดี้ สองคนนี้ ดูไม่ออกเพราะสวยทั้งคู่ไม่มีหล่อเลย”
พรรณยุดาเปิดยิ้มให้กับม.ล.พีระเดช เด็กหนุ่มร่างโปร่งบางเรียนเก่งพอ ๆ กับวาสิฐี หน้าตาของหม่อมรุ่นหนุ่มดูสวยมากกว่าจะเรียกว่าหล่อได้ เขามีความสุภาพอ่อนโยนอย่างผู้หญิงมากกว่าสุภาพบุรุษทั้งนี้เพราะการถูกเลี้ยงมาจากในวังโดยแท้พรรณยุดาหันไปแซวญาติผู้พี่ซึ่งอยู่วัยเดียวกัน เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาร่วมนั่งด้วย
“ใครจะสวยเท่าคุณพี่กันน้า”
“โธ่ยุดา ผมเป็นผู้ชายนะครับถ้าจะชมล่ะก็ใช้คำว่าหล่อเถอะครับ”
“ก็คุณพี่สวยเหมือนนางละครนี่นา”
“ไม่เอาล่ะอย่างนี้ผมไว้หนวดเคราดีกว่า แล้วก็จะต้องไปเล่นกล้ามบ้างแล้วโตขึ้นจะไม่มองว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย”
“โถ คุณพี่ ยุดารู้น่าว่าคุณพี่คิดอย่างไรกับวาสิฐีของยุดา”
วาสิฐีไหวตัวหยิกหลังมือพรรณยุดาขณะที่ ม.ล.พีระเดชหน้าแดงด้วยความเขินอายหากพรรณยุดาตัดบทเสียดื้อ
“ถึงอย่างไรตอนนี้ยุดาก็ไม่ให้วาสิเป็นแฟนใครหรอก”
“ยุดา ไม่เอานะวาสิไม่ชอบเลย อย่าล้อวาอย่างนี้”
“อ้าวนี่วาสิชอบคุณพี่เข้าให้แล้วหรือ”
“โธ่ยุดา”วาสิฐีเอ็ดอึง“วาไม่คิดอะไรอย่างนั้นนะวาสิพึ่งจะสิบเจ็ดยังเด็กอยู่”
“หมายความว่าจบมหาวิทยาลัยก็ไม่เด็กแล้วสิ”พรรณยุดากล่าวลดเลี้ยว ม.ล.พีระเดช ชอบอกชอบใจ หากวาสิฐีค้อนเพื่อนรักพร้อมผลักใสพรรณยุดาจนชน ม.ล.พีระเดช
“เชิญสองคนจีบกันเองเถอะวาสิไม่รู้ด้วยแล้ว”เธอแง่งอนออกไปจากกลุ่มทันที
“อ้าว” พรรณยุดาอุทานแล้วรีบวิ่งตามไปง้องอนครู่ต่อมา หม่อมหลวงพีระเดชได้ยินเสียงหัวเราะสดใสจากสองสาว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่เขาใฝ่ปองอยู่แล้ว
เวลาไม่เคยรอใครมันเป็นสิ่งเดียวบนโลกนี้ที่ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ไม่รู้ใคร รักโกรธหรือเงียบเหงาสาลิตลุกจากเตียงนอนทำธุระส่วนตัวแล้วจึงแต่งกายไปทำงาน ห้องอาหารของครอบครัวสมาชิกอยู่พร้อมหน้า วาสิฐีทำหน้าที่ตักข้าวให้ทุกคนอำภาไหว้ขอบคุณพี่สาวอย่างอ่อนหวานสองคนนี้สนิทสนมรักใคร่กันดีใบหน้ายังละม้ายกัน ลดาวัลย์ถอดแม่ไปไม่มีผิดทั้งใบหน้ารูปร่างออกอวบ ๆ แม้จะอายุสิบเก็ดปีก็ตาม
แทนที่จะสดชื่นยินดีที่เห็นครอบครัวมีความสุข หากสาลิตเงียบเหงาห่วงใยและสังหรณ์ร้าย ๆ ถ้าเขาตาย สุภาคงจะกลับไปร้ายต่อวาสิฐีดังเดิม ถ้าไม่มีพ่ออยู่เสียแล้ววาสิฐีจะทำอย่างไร พ่อยังไม่อยากตายเวลานี้…
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อไปต่างจังหวัดกี่วันคะ”
“สามวัน” เขาจับหางเปียของลูกสาวเล่น
“เรียนชั้นไหนแล้ววาสิ”
“ปีสุดท้ายแล้วค่ะคุณพ่อ”
“ยังอยากเป็นหมออยู่หรือเปล่าสิบเจ็ดแล้วนี่นะลูกสาวพ่อ”
“ค่ะวาสิเลือกเรียนแผนกวิทย์ วาสิอยากเรียนแพทย์”
วันนี้เขาอาวรณ์ลูกสาวคนนี้อย่างเหลือเกิน บ้านสองชั้นหลังไม่ใหญ่ก็จริงสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง และเงินบางส่วนของ พะวา อยากขอโทษในความผิดแต่หนหลังอำนาจความใคร่ชุดเขาให้ทิ้งภรรยาที่เขาเคยรักนักหนา นานแล้วที่ไม่เคยคิดถึงจนเมื่อคืนฝันเห็นภาพ พะวามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของวาสิฐี ยืนร้องไห้ก่อนจะวิ่งไปให้รถชน หากในความฝันนั้น รถที่พะวาให้ชนกลับเป็นรถของสาลิตชนร่างบอบบางของภรรยาผู้อาภัพแหลกเหลว เลือดกระจายใส่เต็มตัวของชายหนุ่ม เสียงหวีดร้องของวาสิฐีดังสั่นโสตประสาท
“กรี๊ด ไม่”
สาลิตผุดลุกขึ้นนั่งกลางดึก เหงื่อกาฬแตกพลั่ก เขาหวาดกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิต ชายหนุ่มรูปงามเป็นคนใจแข็ง เมื่อก้าวหน้าเดินเขาไม่เคยเสียใจในการมองกลับไปเบื้องหลัง หากคืนนี้ความหลังของเขาไปขวางทางอย่างน่าสะพรึงกลัว
เป็นลางสังหรณ์ หรือว่าเขาคิดมากเพราะเป็นห่วงลูกสาวคนโตมากเกินไป สาลิตค้นหาสาเหตุจากความฝันร้าย สุดท้ายเขาเดินไปล้างหน้าจากอ่างน้ำ แวบหนึ่งที่เขามองกระจก ให้ตาย เขาเห็นพะวา ยืนซ้อนข้างหลัง
“โอ๊ะ ไม่” เขาอุทาน หัวใจเต้นแรง ก่อนเพ่งสายตามองยังจุดเดิม ซึ่งมีแต่ความว่างเปล่า
“บ้าจริงๆ คิดอะไรบ้าจนประสาทแล้วเรา”
สาลิตให้กำลังใจตัวเองด้วยความเข้มแข็ง แต่ไม่อาจนอนหลับได้อีก เขาจึงเดินลงไปชั้นล่าง เดินออกไปรับลมเย็นเพื่อให้จิตใจปลอดโปร่ง และคิดว่าจะกลับไปหลับได้อีกสักงีบ เพราะว่า นี่เพิ่งตีสาม
เวลาตีสาม ไม่ว่าความเชื่อของชาติใด มักมีว่า เป็นเวลาของผีร้ายมีอำนาจมากในการคิดทำร้ายคน
แต่ความเชื่อนั้นไม่มีผลต่อชายหนุ่มผู้ชื่อสาลิต เขาปิดปากหาวหวอด คิดว่าคงจะไปหลับได้ แต่ว่าเขากลับนอนลืมตาโพรงจนสว่างคาตา



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2555, 17:22:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ค. 2555, 17:22:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 1925





<< สาวน้อยกับรักแรกพบ   อุ้งมือมาร >>
Zephyr 5 พ.ค. 2555, 17:43:37 น.
ได้เวลาชดใช้แล้วค่ะคุณพ่อ เตรียมตัวเดินทางไกลนะคะ


nutcha 6 พ.ค. 2555, 13:50:06 น.
หนูวาคงโดนเล่นงานหนักแน่ถ้าพ่อไม่อยู่แล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account