รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: อุ้งมือมาร

ลูกสาวคนโตอายุย่างเข้าสิบเจ็ดปีแล้ว เธอพาร่างสูอรชร เดินลงมาพร้อมกับอำภา น้องต่างปี ลดาวัลย์ออกมาจากห้องส่วนตัวของตนเองและอาภาซึ่งอยู่ห้องเดียวกัน ภาพลูกสาวทั้งสามเดินเรียงกันลงมาทำให้สาลิตมองอย่างชื่นชม ในความเจริญเติบโตสมไวของทุกคน
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อ”
“วาสิคั้นน้ำส้มไว้แต่มืดเลยหรือลูก”สาลิตถามลูกสาว สุภามองครึ่งตา อยากตอกใส่หน้าสามีว่า รู้ทั้งรู้จะถามหาพระแสงเลเซอร์ไปทำไมกัน หรือกลัวว่าจะไม่ได้ชื่นชมลูกคนโปรดให้แม่เลี้ยงอย่างเธอแสลงใจ
“อ้ำล่ะ ทำอะไรเมื่อเช้า”
“เก็บห้องค่ะ ด๋านอนดิ้น รื้อหนังสือมาวางทิ้ง ไม่อ่านสักตัว เลยตีไปสองทีค่ะคุณพ่อ”
สาลิตหันไปสอนลูกคนเล็ก เพราะเกียจคร้านการเรียนกว่าพี่คนอื่น
“ด๋าต้องรักการเรียนให้มากๆรู้มั้ย ต่อไปจะได้ไม่ลำบาก”
“เรียนน้อยอย่างคุณแม่ไม่เห็นลำบากเลยค่ะ คุณแม่จบแค่มอศอสามแต่งงานกับคุณพ่อแล้วสบายออกค่ะ นั่งนอนแล้วก็เล่นไพ่”
“แม่ไม่ได้เล่นนะด๋า”สุภารีบโต้แย้งทันที สาลิตถอนใจยาวความเชื่อใจในตัวสุภาว่าพูดจริง ไม่เสแสร้ง ไม่หลงเหลือในใจอีกแล้ว วันนี้เหมือนเขาตาสว่าง ได้คิดในหลายเรื่อง
เมื่อหวนคิดเรื่องหลัง พะวาเมียเก่าผู้หญิงแสนดี แต่เขามองข้ามไปเพราะตัณหาหน้ามืด ไปคว้าผู้หญิงกลางคืน ซึ่งเอาใจเก่ง ยอมเขาทุกอย่าง และเขาไม่ปฏิเสธเลยว่าหลงอีกฝ่ายหัวปรักหัวปรำเรื่องบนเตียง ซึ่งพะวานอนแข็งเหมือนท่อนไม้ เวลานอนร่วมกัน
หากความดี ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย และผู้ชายใจบอดอย่างเขาจะมีสักกี่คนที่รับเลี้ยงดู ผู้หญิงอย่างสุภา เขาไม่อยากให้ลูกสาวของเขาต้องมีชีวิตเพื่อจับผู้ชายอย่างนั้น เขาอยากให้ทุกคนได้มีความรู้ไว้เลี้ยงตัวเองอย่างมีศักดิ์ศรี
“ด๋าต้องเรียนมากมาก อยากเป็นคุณหมอแบบพี่วา หรือพี่อ้ำยิ่งดี”
ลดาวัลย์ไม่โต้แย้งอีก แต่คิดตามประสาเด็กว่า อยู่อย่างมารดาสบายที่สุด และลับหลังบิดา นอกจากอำภาจะมาขับเคี่ยวเรื่องเรียนแล้ว มารดาไม่สนใจตน ดังนั้นบางทีบอกพี่สาวไม่มีการบ้าน ละเลยไม่ทำหน้าที่ แค่ยอมโดนตี ไม่นานก็หาย
อำภาตักข้าวเสิร์ฟให้ทุกคน พอมาถึงน้องสาวคนเล็กจึงหยอกว่า
“ใช้สมองน้อยกินก้นถ้วยก็พอนะด๋า”
“คุณพ่อดูพี่อ้ำสิคะ” เด็กหญิงฟ้องร้อง ทำให้สาลิตยิ้มออกเมื่ออำภาตัดให้น้องสาวเต็มถ้วยไม่ได้ทำอย่างที่แสร้งหยอก
ลูกๆขึ้นรถไปกับผู้เป็นบิดาสาลิตส่งวาสิฐีเป็นคนสุดท้าย เด็กสาวยกมือไหว้ลาบิดา สาลิตยิ้มรับ อวยพรลูกสาวอย่างไม่เคยได้ทำมาก่อนว่า
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วาสิของพ่อต้องเรียนเป็นหมอให้ได้นะลูก”
“เอ่อ ค่ะ”วาสิฐีใจหายก่อนรับคำของบิดา
สาลิตเลี้ยวรถจากไป ชายหนุ่มมองจากทางกระจกหลังได้เห็นเพื่อนสนิทของวาสิฐี เดินเข้ามาหา เขาถอนใจ ยิ้มให้กับตัวเอง จากนั้นจึงขับรถออกไปอย่างระมัดระวัง
ถนนสายหลักที่ชายหนุ่มขับอยู่ทุกวัน ดูรถว่างอย่างที่สาลิตไม่เคยเห็น แต่เมื่อเขาเห็นว่าว่างจึงเร่งเครื่องเพื่อขับไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น เขากลับต้องรีบเบรก เมื่อเห็นว่า ไม่ได้ว่างอย่างที่สายตาของเขาเห็น ลางบางอย่างบอกเขาจากข้างใน...ผู้ถึงแก่คราวตาย จะประมาทเสมอ
โอ้ ไม่ เขาอยากดูความสำเร็จของลูกๆทุกคน เขาไม่อยากปล่อยให้คนอย่างสุภาเลี้ยงลูกสาลิตร่ำร้องในอก ภาพกองเศษเนื้อบนถนน ทำให้เขานึกถึงภาพซากศพของพะวาชายหนุ่มหักหลบสิ่งที่เขาเห้น แต่นั่นเป้นความว่างเปล่า และที่เขาเห็นความว่างเปล่า กับเป็นท้ายรถบรรทุกวัตถุอันตราย
อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคค
วาระสุดท้ายของสาลิตคือเปล่งเสียงร้องดังสุดชีวิต จากนั้นรถเก๋งของเขาเข้าไปอัดเข้ากับท้ายรถอย่างจัง รถขนวัตถุไวไฟ กระเด็นไปข้าง
หน้าอย่างเสียหลัก คนขับพยายามหักพวงมาลัยให้เขาที่ แต่รถไถลลื่นลงข้างทาง โดยมีซากรถของสาลิตซึ่งอัดก๊อบปี้ติดไปด้วย
ภาพสยดสยองของอุบัติเหตุทำให้คนที่ผ่านเหตุการณ์สดร้องอย่างเสียขวัญ บางคนเกรงกลัวมากกว่านั้นคือการกลัวรถบรรทุกจะระเบิด หลายคนตัดสินใจเปลี่ยนสันทางอย่างเร่งรีบ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ ความอลหม่านและความตาย ทำให้เกิดเรื่องชุลมุนอย่างที่เคยเกิดมาก่อนหน้านี้
ความตายคือความเป็นอนิจจัง สิ่งแน่นอนที่ต้องเกิดกับสัตว์โลกไม่มีใครหลีกหนีไปได้!!
สุภาเป็นลมล้มพับเมื่อนายตำรวจสองนายมาแจ้งข่าวร้ายให้รู้สาลิตขับรถประสานงากับรถสิบล้อเสียชีวิตคาที่ สุภากอดศพสามีร่ำไห้อาลัยรักนักหนา
“ฉันจะอยู่ได้ยังไงคุณลิต ลูกเราสองคนจะทำยังไง คุณลิตขา คุณลิต”
สุภาเป็นอย่างที่เธอพร่ำรำพันชีวิตของเธอจะทำอย่างไรต่อไป สาลิตเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูสมาชิกในบ้านไม่ให้ลำบาก เขาเหมือนแพซึ่งรับบริวารทุกคนไว้ทั้งหมด เมื่อเขาจากไปแล้ว เสมือนแพที่แตกเป็นเสี่ยง ผู้หญิงรักความสบายอย่างสุภาจะทำอย่างไรต่อไปได้เล่า
เสียงพร่ำรำพันของแม่เลี้ยงดังเข้าหูวาสิฐี และพรรณยุดา ซึ่งยืนเคียงข้างให้กำลังใจอีกฝ่ายตลอด เวลาที่บำเพ็ญกุศล จนถึงฌาปนกิจ
บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบเหงา สุภาทอดอาลัยลูกสาวสองคนขนาบข้าง วาสิฐีนั่งห่างที่บันไดทางขึ้น
ในระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากในบ้าน วาสิฐีเดินไปรับ สุภาตวัดสายตามองลูกเลี้ยง ในดวงตาแฝงความร้ายกาจราวกับงูร้ายจ้องมองเหยื่อที่พร้อมจะฉกกัดทุกเมื่อ
วาสิฐีไปรับโทรศัพท์บ้าน หากเห็นภาพได้ เธอจะได้เห็น พรรณยุดาถือสายโทรศัพท์พร้อมรูปคลำอัลบั้มรูปสีขาวหุ้มด้วยกำมะหยี่อย่างดี สั่นระริกด้วยมือของผู้จับสั่นเทา หยาดน้ำตาของพรรณยุดาร่วงเผาะรดรูปแต่งงานของวิลล์และเดียน่า สาวผมทองรูปร่างบอบบางจนดูผอมเหมือนเนื้อหุ้มกระดูก
วาสิฐีรับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิท ปลายสายร้องไห้สะอึกสะอื้น
“น้าวิลล์แต่งงานแล้วรู้มั้ยวาสิ ยุดา ยุดาเสียใจมาก”
“ยุดา” วาสิฐีใจหวั่นไหวสะท้านประหลาด เธอพลอยเสียใจไปด้วยทั้งที่รู้ชายหนุ่มอยู่กับหญิงสาวผู้มีดรคร้ายมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะแต่งงาน
“ฝรั่งคนนั้น ฝรั่งคนนั้นผอมยังกับผีอมโรคเป็นลูคีเมียร์ขั้นร้ายแรงด้วยน้าวิลล์รู้ว่าเขาต้องตาย เขามีลูกไม่ได้แต่น้าวิลล์ยังแต่งงานกับเขาอีกยุดาเกลียดที่สุดเลย ยุดาไม่รักน้าวิลล์ต่อไปแล้วยุดาจะไม่ไปอเมริกาอีกเลยคอยดู
“ยุดา น้าวิลล์เขาคงรักจริงจึงแต่งงาน”คนปลอบใจรู้สึกหดหู่บอกไม่ถูก
“เห็นรูปแล้ว เหมือนเทพบุตรกับนางผีร้ายยังไงอย่างงั้นเลย”
“โธ่ ยุดา”
ขณะที่วาสิฐีอุทานเธอเองหมดแรงใจที่จะปลอบ เพราะยังอยู่ในระหว่างความเศร้าต่อการสูญเสียบิดา แม้กับอำภายังไม่ค่อยได้สนทนากันดังเดิม
ครู่ต่อมาพรรณยุดาวางสายไปแล้ว วาสิฐีจึงวางสายตาม เสียงแข็งกร้าวตามมาทันที
“ไม่ต้องรงต้องเรียนแล้วออกจากโรงเรียนมาช่วยฉันทำงาน”
วาสิฐีตกใจเป็นอันมากเมื่อได้เห็นความฝันของตนเองจมอยู่ใต้ฝ่าเท้าของแม่เลี้ยงใจร้าย สุภาลากข้อมืออีกฝ่ายไปผลักให้นั่งเก้าอี้
“ฉันไม่มีปัญญาส่งแกเรียนหรอกนังวา”
“แต่ แต่เงินทดแทนของคุณพ่อ”
“เอ๊ะแกจะลำเลิกเงินพ่อแกได้ยังไง แกเป็นพี่แกต้องเสียสละให้น้องสิไปเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันจะพาแกไปหาโมเดลลิง อย่างแกทั้งสาวทั้งสวยเทสต์ผ่านสบายมากอยู่แล้ว ฉันรู้จักคนที่อยู่ในวงการแกช่วยเหลือน้องได้”
“วารักน้อง วาจะเลี้ยงน้องเอง แต่วาอยากเรียนด้วยนะคะ” วาสิฐีปฏิเสธผลคือฝ่ามืออูมของแม่เลี้ยงตบฉาดแก้มเนียนขาว วาสิฐีล้มคว่ำไปทันที
“คุณน้าขา อย่าให้วาลาออกจากเรียนเลยนะคะ”
“เรียนมามากแล้ว อยากเรียนต่อก็เรียนภาคค่ำก็ได้ แต่แกไปเทสต์ก่อน ได้เป็นนางแบบได้เป็นดาราจะหาเงินมาเรียนเท่าไหร่ก็ได้ แกยังช่วยอำภาน้องรักของแกได้”
อำภามองวาสิฐีด้วยความเห็นใจ เด็กสาวก้มหน้าสะอื้นไห้ กับการทวงบุญคุณ และภาระด้วยการอ้างความรับผิดชอบ เธอจะเอ่ยถ้อยคำเพื่อทำลายน้ำใจของน้องสาวได้อย่างไรกัน ในนาทีนี้เธอจะเอาตัวรอดด้วยการทิ้งอำภาได้หรือ ถ้าเธอไม่ทำ วาสิฐีคิดว่าอำภาคงไม่รอดแน่ ดังนั้นเธอจึงได้แต่ร้องไห้ด้วยความเวทนาชะตากรรมของตนเอง
ลดาวัลย์ เอ่ยว่า
“พี่วาได้เป็นดาราก็ดีสิ ได้เงินเยอะ คุณแม่จะได้เอาไปเล่นไพ่ได้มากกว่าเดิม คุณพ่อก็ตายไปแล้วนี่ ไม่มีคนมาห้ามปราม”
“นังด๋า อีลูกเวร ฉันเป็นแม่แกนะ”
ลดาวัลย์ไหวไหล่ ดื้อดึง ส่วนอำภา กัดริมฝีปากแน่น สุภาเอ่ยสำทับกับลูกเลี้ยงว่า
“เอาล่ะ แกไปแต่งตัวได้แล้วนังวา ไม่ต้องมาทำอ้อยสร้อย แกต้องเลี้ยงน้อง เรื่องเงินอะไรนั่นฉันไม่เอาของแกหรอก”
“คุณแม่” อำภาเอ่ยขัดขณะที่วาสิฐีผุดลุกขึ้นอย่างอ่อนล้าในใจด้วยความหมดหวังกับอนาคตตัวเอง”ทำไมคุณแม่ต้องเกลียดพี่วาขนาดนี้คะ คุณพ่อก็ไม่อยู่แล้ว คุณแม่ยังไม่สงสารพี่วาอีกหรือคะ”
“โอ๊ย นี่ตอนท้องแกฉันฝันว่าเห็นแม่ชีใส่ผ้าเหลือง ไม่คิดเลยนะว่าแกจะมาทำตัวเป็นแม่พระอย่างนี้นังอ้ำ หรือว่าแกจะเป็นฝ่ายออกจากโรงเรียน ไม่เรียนหมออย่างที่แกต้องการ ฉันบอกก่อนนะว่าบ้านนี้มีหมอได้คนเดียว ฉันไม่มีปัญญาส่งเสีย”
“คุณแม่ก็เลิกเล่นการพนันสิคะ แล้วก็คิดหาทำข้าวแกงหรือขนมขาย ทั้งอ้ำทั้งพี่วาจะช่วยคุณแม่”
“ชะช้า ปล่อยให้ตอแหลได้ ตอแหลไม่เว้นวรรคเชียวนะยัยอ้ำ แกเป็นลูกแกไม่ต้องมานำเสนออะไรที่มันปัญญาอ่อนอย่างนั้นหรอก ฉันจะมาตากหน้าขายของได้ยังไง เอาตามที่ฉันสั่งนี่ล่ะ นังวาไปแต่งตัว ชักช้าเดี๋ยวไม่ทัน”
“คุณแม่ อย่าใจร้ายกว่านี้ได้มั้ยค่ะ”
“นังอ้ำ นี่มึงจะลองดีกับแม่ให้ได้ใช่มั้ย” สุภาหันไปเล่นงานลูกตัว วาสิฐีร้องกรีด เมื่อเห็นอำภาโดนกระชากแขน เธอกรากเข้าไปห้ามปรามจึงโดนตบหน้ากลับมาอีก อำภาแค้นใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ลดาวัลย์เอ่ยเสียงดังว่า
“โธ่เอ๊ยพี่วา เป็นดาราดีจะตายไป ทำๆไปเถอะค่ะ ถ้าได้ดีมีเสี่ยมาเลี้ยงก็ไม่ต้องมาสนใจคุณแม่หรอก เจ็บจำกับการกระทำของคุณแม่ไปเลย”
“นังด๋า นี่แกพวกใคร”
ลดาวัลย์ทำบุ้ยปากไม่โต้เถียงมารดาให้เจ็บตัว อำภากอดพี่สาวต่างมารดา วาสิฐีปล่อยน้ำตาไหลเงียบงัน ครู่หนึ่งเธอเดินขึ้นชั้นบน อำภาตามไป แต่สุภาฉุดแขนลูกสาวพร้อมตะคอกใส่
“จะเสี้ยมอะไรอีกนังอ้ำ”
“พี่วาหนีไปหาเพื่อนพี่วาเลย ไม่ต้องมาสนใจพวกอ้ำหรอก คุณแม่คงไม่คิดเอาอ้ำไปขายหรอก เพราะอ้ำเป็นลูกในไส้” เด็กสาววัยสิบหก ส่งเสียงดัง เอ่ยความลับที่รู้เท่าทันมารดาว่าต้องการทำลายชีวิตของวาสิฐีถ้ามีโอกาส เธอไม่อาจยอมรับความเลวร้ายดังนี้ได้
ขาย...คำนี้ทำให้วาสิฐีสะท้านใจอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงฝ่ามือของสุภาตบหน้าของอำภาดังมาฉาดใหญ่ ก่อนที่จะมีเสียงด่าหยาบคายไหลทะลักออกจากปากของสุภาราวกับสิ่งโสโครกพรั่งพรูออกมา อำภากรีดร้องดังลั่นๆก่อนที่จะขู่มารดาผู้ให้กำเนิดว่า
“อ้ำจะหนีไปจากบ้าน จะแจ้งความ ไม่ขออยู่ในความปกครองของคุณแม่ ถ้าไม่หยุดตีอ้ำเดี๋ยวนี้”
ได้ผลชะงัดนักเมื่อสุภาได้ยินคนจริงอย่างอำภาโต้ตอบ ซึ่งอำภาไม่อกตัญญูดังวาจาที่ลั่น แต่เธอต้องเอาตัวให้รอดก่อน จึงขู่ออกไปอย่างได้ผล
เมื่อเป็นอิสระ อำภาวิ่งขึ้นไปหาพี่สาวข้างบน สุภาคว้าตัวไว้ไม่ทัน นางจึงได้เห็น สองพี่น้องโผเข้ากอดกันและขังตัวเองไว้ในห้องไม่สนมใจว่าสุภาจะใช้กำลังเตะถีบใส่ประตูแรงมากแค่ไหน
“นังด๋า เอาชะแลงมาให้แม่”
“ไม่เอา เดี๋ยวลับหลังคุณแม่ พี่อ้ำกระทืบด๋าตายคาเท้าแน่สิ”
“เวร เวร อย่าคิดนะว่าแกจะรอดพ้น อยากอดตายในห้องก็อดตายกันไปเลย ฉันจะเฝ้าอยู่อ่างนี้ล่ะ ออกมาเมื่อไหร่แม่จะตบไม่เลี้ยงทีเดียว สุมหัวกันดีนักล่ะก็”
วาสิฐีและอำภาขังตัวเองอยู่แต่ในห้องหลังจากหนีสุภาเข้าไปในห้องได้สำเร็จ สุภาโคตรด่าอยู่พักใหญ่ด้วยนิสัยต่ำทรามตามความชอบของตนเองโดยที่ไม่เกี่ยวกับบิดามารดาว่าได้สั่งสอนมาหรือไม่!!
แม่เลี้ยงใจร้าย และแม่ตัวที่ไม่อาจคาดเดาน้ำใจได้อย่างสุภานั่งเฝ้าอย่างเหนื่อยและเมื่อย ไม่นานนักนางค่อยย่องลงมาจากชั้นบน ลงมาโทรศัพท์ เลื่อนการนัดหมายกับใครบางคน ซึ่งลดาวัลย์ทำเหมือนไม่ได้ฟัง แต่ทุกเรื่องเข้าหูหมด
มารดาของเธอคิดขายวาสิฐีให้กับผู้ชายอย่างที่อำภากล่าวหาจริงๆลดาวัลย์ทำท่าขนลุกขนชัน แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2555, 17:24:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ค. 2555, 17:24:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1934





<< สิ้นชาติขาดกัน   ทางเดินสู๋ฝัน >>
Zephyr 5 พ.ค. 2555, 17:54:07 น.
เวลาแม่เลี้ยงคนนี้รับกรรมขอแบบเน้นๆเลยนะคะ


tookta 5 พ.ค. 2555, 18:36:01 น.
เดาไม่ออก น้องวาจะรอดไหมเนี่ย ถูกขายแน่ๆ แล้วอนาคตแพทย์หญิงคงได้แต่เฝ้ามองที่สุดปรายรุ้ง เศร้าจังไรเตอร์ เคยอ่านนิยายของไรเตอร์มีแต่นางเอกเก่ง มั่นใจ รวย แสบสันต์ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มาอ่านเรื่องนี้ต้องจูนคลื่นใหม่ เพราะนางเอกอ่อนโยน บอบบาง ยอมทุกคน ใจอ่อนด้วย 55 แต่ก็สนุกที่มีน้องภาเป็นสีสันค่ะ


nutcha 6 พ.ค. 2555, 14:07:19 น.
สงสารหนูวาจริง ๆ แล้วจะรอดไหมเนี่ย


nunoi 6 พ.ค. 2555, 16:53:38 น.
ขอให้รอดนะหนูวา


zilvermoon 14 พ.ค. 2555, 22:38:28 น.
เห็นด้วยกับคุณเฟอร์อย่างแรง ขอให้โดนกรรมตามทันแบบไม่มีตกหล่นเอาชนิดดับเบิ้ลเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account