รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: ความสุขของนางซินฯ


วิลล์พาเพื่อนๆออกมานั่งเก้าอี้ชุดเดิม ครานี้ เด็กมาเสิร์ฟอาหารเต็มโต๊ะ พร้อมเครื่องดื่ม วาสิฐีกุมมือสั่นๆของพรรณยุดา ซึ่งยังมีท่าทีไม่อยากบุกอย่างในทีแรก แต่โดนจูงกึ่งลากให้เดินตามวาที่คุณหมอไปที่โต๊ะชายหนุ่ม
วิลล์เปิดยิ้มกว้าง ทักทายวาสิฐี ซึ่งใจเต้นแรงไม่แพ้ชายหนุ่ม
“ว้าส มานั่งด้วยกันครับ” เขาลุกขึ้นเชิญ พลางเลื่อนเก้าอี้ตัวใกล้ให้วาสิฐีนั่ง ซึ่งถ้าไม่ทำเพื่อเพื่อนวาสิฐีไม่มีทางเสนอตัวเข้มาอย่างนี้แน่ ยิ่งเห็นความกระตือรือร้นของวิลล์ หญิงสาวยิ่งร็สึกเจ็บแปลบไปทั้งร่างทีเดียว
ฝ่ายเมืองเอกชะงักงันประหลาดระคนดีใจที่ได้พบพรรณยุดา เขาเอาแต่มองค้างด้วยความคาดไม่ถึง สุธีสะกิดเพื่อนถามเพราะเห็นความผิดปรกติ
“เป็นอะไรแมคทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก เอ้ะเพื่อนนายหรือวิลล์” สุธีหันไปถามเพื่อนที่ใครมองว่าเป็นชาวต่างชาติ อย่างไม่น่ามีเชื้อสายไทยปนอยู่ เดวิดและวิลล์ละม้ายแต่ไม่เหมือนกัน เพราเดวิดมีส่วนเหมือนมารดาอยู่มกากว่า
“หลานสาวชื่อ ยูดาร์มานี่ด้วย นี่เมืองเอ้ก กับสู้ที่”
สุธีบ่นว่า
“ให้พวกฉันแนะนำตัวเองก็ได้ชื่อของพวกฉันจะได้มีความหมายคงเดิม”
“สู้ที่ปากไม่ค่อยดี ว้าสอย่าไปฟัง ยุดาฟังด้าย”วิลลิ์เอ่ยปากพลางกันท่าไปด้วย
“ยุดารู้จักอาจารย์แล้วค่ะน้าวิลล์ จึงมาทักทาย พึ่งทราบว่าอาจารย์เป็นเพื่อนน้าวิลล์”
เมืองเอกอดนึกไปถึงคำพูดของน้องชายไม่ได้ ถ้าพรรณยุดาบอกรักทางโปสการ์ดจริงดังว่า มีหรือเธอจะมาพูดคุยได้ตามปรกติดังเช่นที่เคยพบในฐานะศิษย์กับอาจารย์
“นั่งสิยุดา ในวงนี้มีแต่คนอายุมาก ๆ ทั้งนั้น”
“ไปเต้นกันเถอะค่ะอาจารย์” พรรณยุดาทำใจกล้าชวน สุธีนึกสนุกบุ้ยไบ้ไปทางวาสิฐี
“หลานสาวของนายที่ใส่ชุดสีครีมฉันจอง”
“นั่น พาร์ตเนอร์ฉันต่างหาก”วิลล์กันท่าโจ่งแจ้ง
“อะไรมาเมืองไทยไม่กี่วันนายมีหุ้นส่วนแล้วหรือ เร็วปานกามนิตหนุ่มเชียว”
“เขาชื่อวาสิฐีนายรู้หรือเปล่า” วิลล์บอกเพื่อน พรรณยุดาพลอยรับรู้น้าชายแอบมองวาสิฐี
“วู้”
ญาติสาวเป่าปากแข่งกับญาติหนุ่ม ๆ เมื่อพรรณยุดาคล้องแขนชายหนุ่มรูปงามลิลาสเป็นคู่แรก คู่อื่น ๆ ตามไปสุธีเหลือบเห็นเหมือนแขแต่งชุดราตรีสั้นแม้ไม่สะดุดตาแต่เข้าใจว่าเป็นแขกก็เข้าไปเชิญเต้นรำด้วยวางท่าเป็นเจ้าชาย เหมือนแขรีบปฏิเสธ
“เอ่อ ไม่ค่ะ ดิฉัน”
“อย่ารังเกียจเลยครับผมเป็นเพื่อนวิลล์ คุณคงจะเป็นญาติคนใดคนหนึ่ง”
“ไม่ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นเด็กกำพ้าอยู่ในอุปการะของคุณหญิงค่ะ” เหมือนแขบอกความจริงไม่อาย
งามพริ้มแต่งกายดูดีสีฉูดฉาดรำคาญเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งมัวพินอบพิเทาอยู่ เธอจึงตัดหน้าทันที
“เต้นรำกับดิฉันก็ได้ค่ะ”กล่าวจบเธอคล้องแขนชายหนุ่มร่างท้วมออกไป สุธีชายตามองเหมือนแขนิดหนึ่ง พลางคิดวว่าเด็กบ้านนี้ดูดีเป็นบ้า แต่น่าเสียดายที่เป็นแค่เด็กในอุปการะเท่านั้นเอง
“คุณชื่ออะไรครับผมสุธี”
“งามพริ้มค่ะเป็นเพื่อนของพรรณยุดาค่ะ”
คนอย่างงามพริ้มไม่แคร์ใคร ว่าจะเอาไปนินทาประการใด เพราะการเหยียบใครขึ้นไปให้สูงได้เธอจะทำ แม้คนที่เหยียบนั้นจะเป็นเหมือนแขก็ตาม
“หนูแขไม่ทันกินเสียเลย”
“แขพูดเรื่องจริงนี่จ้ะยายปุ่น ไม่อยากให้เขาเหวี่ยงออกกลางฟลอ เมื่อรู้ว่าเป็นเด็กขอมาเลี้ยงเท่านั้น”
“งามพริ้มไม่เห็นคิดมากอย่างแขเลย”
“ช่างเขาเถิดจ้ะยาย แข่งเรือแข่งพาย แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแขไม่คิดแข่งกับใครหรอกค่ะ”
“ยายจะทำนายไว้ว่าในชีวิตหนูแขจะมีความสุขเพราะรักแท้”
“ขอบคุณค่ะยาย แขคิดเพียงว่าอยากเป็นครูของเด็กๆในถิ่นกันดารที่ไม่มีใครอยากไปสอนค่ะ”
ยายปุ่นมองความจริงใจของเหมือนแขแล้วได้อวยพรให้หญิงสาว งามพร้อมทั้งใจได้พบชายหนุ่มที่แสนดีและมีรักแท้ชั่วกาล!!
วิลล์แตะแขน วาสิฐีนุ่มนวลและสุภาพ วาสิฐีค่อนข้างตกใจเพราะนึกรู้ว่าลูกชายคุณหญิงจะขอเต้นรำ
“เต้นกับผมสักเพลง”
“วาสิเต้นไม่เป็นค่ะน้าวิลล์ วาสิขอตัวนะคะ”
“ไม่เป็นก็จะสอนให้เต้นรำ เห็นมั้ยเขาจับคู่กันสนุกผมอยากสนุกอย่างเขาบ้าง”
เขายื่นมือมาตรงหน้าเธอวาสฐีนั่งนิ่งเหมือนถูกตรึง ไกลออกไปที่มุขหน้าตึก นายแพทย์เดวิดยืนกอดอกมองมาที่ลานจัดงานเลี้ยง หมอทอแสงกระแอมให้เสียง มองภาพเดียวกันกับสามีได้เห็น แต่เธออดค่อนแคะเสียไม่ได้ว่า
“พลาดพี่จะไปน้องล่ะทีนี้ แต่คุณแม่คงไม่ยอมแน่คุณได้ยิน คุณชายวิจารณ์วาสิมั้ยค่ะเดวิด”
“ถ้าวิลล์ต้องการมีหรือจะไม่ได้”
“กรณีนี้ไม่เหมือนเดียน่านะคะ”
“วิลล์ไม่มองคนที่ชาติกำเนิด” แพทย์หนุ่มบอกภรรยาและอยากพูดต่อผมก็เช่นกัน วาสิฐีเป็นคนดีแค่นั้นพอแล้วสำหรับความรักที่ไม่หวังผลสิ่งใด
ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นวิลล์คว้าเรียวแขนวาสิฐีฉุดออกไปบังคับเต้นจนได้ และช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน เสียงเป่าปากเชียร์วิลล์และวาสิฐีดังอย่างสนุกสนาน วาสิฐีเผลอเงยขึ้นมองคนชอบบังคับ เขาก้มหน้าลงมาจนชิดใกล้ หญิงสาวสุดแสนเก้อเขิน เพราะวิลล์รั้งร่างอรชรได้รูปทรงสวยไปทุกส่วนของหญิงสาวเข้าไปชิดใกล้เกินท่าเต้นธรรมดา
“ไหนว่าเต้นไม่เป็น เต้นนุ่มเหมือนซิลเดอเรนล่า”
“น้าวิลล์คงเป็นเจ้าชายที่ซ้อมเต้นกับซิลเดอเรล่ามามากแล้ว”
“นั่นสิถึงเวลาเที่ยงคืนก็ถูกพรากไป” เขากระชับแขนรั้งวาสิฐีจนชิดใกล้ยิ่งกว่าชิด
“จังหวะนี้วาสิเต้นไม่ถนัดค่ะหยุดนะคะ” เธอร้องขอหากคนร่างใหญ่เกเร
“ไม่หยุด ถ้าหนีจะกอดแน่นกว่านี้”
“น้าวิลล์อย่าเอาแต่ใจสิคะ วาสิ”
“ผมอยากบอกให้รู้ว่าผมชอบวาสิฐี”
“วาสิมีคนรักแล้วค่ะ”เธอปฏิเสธทันทีทั้งที่เจ็บปวดใจนัก
เธอแอบได้ยินคำสนทนาในห้องโถงเมื่อย้อนกลับไปเก็บต่างหูไว้ในห้อง
ถึงอนาคตจะเป็นหมอแต่ชาติกำเนิดยังเป็นเช่นเดิม
วิลล์ขมไปทั้งปากทั้งคอ เอ่ยเรียบเจือขื่น
“ไม่ต้องรีบพูดก็ได้ ผมรู้อยู่แล้วคนสวยอย่างนี้ต้องมีคู่รัก ใครคือคนโชคดี”
“เขาอาจจะโชคร้าย”
“ถ้าอย่างนั้นก็เลือกผมน่ะสิ ผมอยากโชคร้ายถ้าได้วาสิฐี”
ถ้อยคำตรงไปตรงมาเปิดเผย วาสิฐีอกสั่นถ้าเธอเกลียดอาจจะวิ่งหนี แต่นี่เธอรักเขา รักมานานเหลือเกินแล้ว ความรักความเข้าใจ และรู้ว่าอีกฝ่ายรักเธอ วาสิฐีเผลอใจซุกหน้ากับอุ่นอุ่น แต่พริบตาเดียวเธอดึงตัวเองออก
“ผมชอบนะว้าส ผมขอเป็นคนโชคร้ายที่คุณเลือก” ชายหนุ่มดึงร่างเธอเข้าไปใกล้อีกครั้ง มีความสุขมากราวกับว่าโลกที่กำลังหมุนอยู่นี้มีเพียงเขาและเธอคนที่เขาพึงใจที่สุดเป็นมนุษย์คู่เดียวเท่านั้นที่กำลังเต้นรำอย่างแสนหวาน
หากว่า ไม่เพียงแต่วิลล์ที่มีความสุขล้นเหลือ เมืองเอกก็เช่นกัน เขาทอดเสียงอ่อนโยนขณะเอ่ยปากบอกกับพรรณยุดา
“ผมได้รับการ์ดอวยพรแล้วนะยุดา” เขาก้มหน้ามาบอกผู้ที่อยู่ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง หญิงสาวกระพริบตาเรียวยาวหากกลมใสแจ๋ว เอ่ยหลีกเลี่ยงไปทางอื่น
“ในคณะหรือต่างคณะก็ส่งไม่ใช่แต่ยุดาคนเดียวนี่คะ”
“อ่านแต่คำท้าย ๆ ได้มั้ย”เมืองเอกหยอดเสียงหวาน ลองเชิง เธอรีบเบือนหลบไปมองทางอื่น ขวยเขินเกินระงับ
โอ้พรรณยุดารู้สึกว่ากายตัวเองร้อนผ่าวเช่นใบหน้าที่แดงจัดจนเขาจับสังเกตได้!
“อาจารย์ คงมีคำท้าย แบบนั้นให้กับคนอื่นแล้วใช่มั้ยคะ”
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบด้วยอุ้งมือใครสักคน เจ็บปวด ช้าไปปีเดียว การนิ่งเงียบคือการตอบรับความจริง หญิงสาวในวงแขนอยากร้องไห้กับอกกว้าง นี่เสียนักเป็นความจริงจากที่เพื่อนของเธอได้เห็นมากับตา ผู้ชายถือดอกบัว คำอุปมาอุปไมย อย่าว่าแต่ดอกบัวเลย แม้จะเป็นดอกอุตพิตอย่างติ่ง พรรณยุดาก็กลัวแล้ว พรรณยุดาอยากร้องไห้ เมื่อได้รับการกระชับอ้อมแขนแน่นเข้าไปอีกของเมืองเอก
ส่วนวิลล์ก้มหน้าลงไปจนใกล้ดวงหน้างาม วาสิฐีรีบเบือนหนีวิลล์ไวไฟเช่นชาวอเมริกาแท้ วาสิฐีนึกถึงคุณหญิงจิตตรีผู้มีพระคุณ ซึ่งคาดหวังให้วิลล์ได้มีคู่ครองที่สมฐานะชาติตระกูล เพราะเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่จะทำหน้าที่นั้น
คุณหญิงสร้างเธอมาด้วยความเมตตาเธอไม่อาจชิงดวงใจของท่านมาครอบครอง วาสิฐีเตือนตัวเองว่า หยุดต้องหยุด
“อุ้ย”เธอแสร้งเท้าแพลงยุติการใกล้ชิดจนเธอกลัวใจตัวเอง
“เป็นอะไร” เขาโอบประคองนุ่มนวล ห่วงใยแท้จริง
“ข้อเท้าคงแพลงค่ะ”
“แย่จริง มาผมจะอุ้ม”
“อุ้ยไม่ค่ะ วาสิพอเดินไหว เชิญน้าวิลล์สนุกต่อเถอะค่ะ”
เมื่อเธอเดินจาก เขาจึงรู้ เธอโกหกเรื่องเท้าแพลง เธอต้องการเพื่อหนีจากไปอย่างสุภาพ วาสิฐีจากไปจริงๆ ไม่ร่วมงาน หญิงสาวคงไม่รู้ หรืออาจจะรู้ก็ได้ว่า ทิ้งให้วิลล์ เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะค่อนข้างเบื่อกับบรรยากาศที่เขาคิดก่อนหน้านี้ว่าไม่อยากให้เวลาผ่านไป อยากให้เวลาหยุดนิ่ง เพื่อให้ซฺนเดอเรนล่าอยู่ในอ้อมกอดของเขาตลอดกาล
พรรณยุดาขอตัวจากเมืองเอก ชายหนุ่มจำต้องปล่อย เพราะว่าถ้าเขาเองถลำลึก คนที่เจ็บปวดคือหญิงสาวคนที่เขาคิดว่า ไม่ได้เกิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่แอบรักมานานแล้ว เมืองเอกไม่อยากให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ได้เดินทางท่ามกลางการแอบกิน เพราะหญิงสาวต้องเจ็บอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ แม้เวลานี้เธอยังไม่อาจอยู่ร่วมงาน แม้จะไม่ได้คำจอบจากเขาว่ามีใครอยู่ พรรณยุดายังผละหนีไป ราวกับว่า เวลาของนางซินฯหมดลงแล้ว
เจ้าชายอย่างเขารู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่ไม่อาจนำรองเท้าแก้วไปสวมให้ได้ เพราะอีกข้างหนึ่งได้มีคนสวมใส่เป็นเจ้าของแล้ว จะให้สองหญิงสวมรองเท้าคนละข้างได้อย่างไร เขาไม่ใช้ผู้ชายสารเลวอย่างนั้น!
ต่างกลับมานั่งโต๊ะด้วยท่าทางอึดอัด เว้นจากสุธีที่ภาคภูมิใจในเสน่ห์ของตนเอง จีบงามพริ้มติดจนขอตามานั่งที่ร่วมโต๊ะ สุธีพางามพริ้มไปร่วมโต๊ะด้วย
“ไม่ว่านะวิลล์ที่เพื่อนหลานสาวนายจะมานั่งโต๊ะด้วย”
“ไม่ว่า”
“เป็นอะไรทุกคนยินดีต้อนรับนายแต่นายทำหน้าเหมือนไม่อยากรับต้อน”
“ฉันไม่มีอะไรนี่” วิลล์ตอบออกมาอย่างคนเบื่อโลก
ส่วนสุธีไม่พอใจเพื่อนทั้งคู่ จึงชวนงามพริ้มคุยต่อโดยที่สองเพื่อนไม่ได้ฟัง
เมืองเอก และวิลล์ ต่างคนต่างคิดต่าง คนต่างทำความเข้าใจกับตัวเอง ทางรัก ทางเลือก ผิดหวัง เสียใจใครตั้งหลักได้ก่อนคนนั้นได้รับชัยชนะ!!
เหมือนแขออกจากงานก่อนงานเลิก เพื่อช่วยในครัวเก็บก่อน ยายปุ่นรีบไล่ออกมาทันที เหมือนแขเปลี่ยนชุดสวนหรูออก ยังขืนช่วย ป้าปุ่นเอ็นดูอีกฝ่ายเหมือนลูกหลาน ต่างจากงามพริ้มซึ่งไม่ย่างกรายเข้าไปในครัว
เธออาบน้ำแล้ว ฝันหวานว่า ถ้าเธอไปได้สวยกับสุธีมหาเศรษฐีหนุ่มต่อไปเธอจะเชิดหน้าชูตาได้ในสังคม!
คืนเดียวกันนั้นแต่คนละที่ ลดาวัลย์แต่งกายงาม ออกไปเที่ยวกับเพื่อน ขณะที่พี่สาวไปงานวันเกิดเพื่อนสาว และกลับบ้านค่อนข้างดึก อำภาโบกแท็กซี่ คนแรกขับเลย คันที่สองเลี้ยวเข้ามาจอด แต่รถเก๋งอีกคัน ซึ่งขับตรงมาชนเข้าอย่างจัง อำภากระโดดหลบขึ้นบนฟุตบาท เจ้าของรถแท็กซี่เป็นฝ่ายผิด แต่เอาเรื่องรถเก๋ง ซึ่งเลียบเมืองลงไปเจรจา
“ขับรถภาษาอะไรวะ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่เห็นหรือไงว่า รถผมเปิดไฟเลี้ยวเข้ามาแล้ว”
“ไฟเลี้ยวเปิดระยะกี่เมตรก่อนจะเลี้ยว พี่เปิดปุ๊บเลี้ยวปั๊บ ให้เทวดามาขับ ก็ไม่มีใครเบรกทัน พี่จะให้ประกันผมเคลมเอง หรือจะจ่ายก่อนเพราะประกันผมเอาผิด เลือกเอาก็แล้วกันว่า ให้หาคนชนไม่ได้ กับจะเอาคนชนให้ได้ แต่ผมบอกก่อนนะว่าผมไม่ผิดทุกประตู เพราะผมมาทางตรง ทั้งรอยอุบัติเหตุชี้ชัดว่าพี่น่ะ ผิดเต็มๆ”เลียบเมืองไม่ยอม ข่มขู่ และเสนอแนะตามประสาที่พี่ชายบอกว่า เป็นหัวหมอ
ทั้งที่ตนเองเผลอเหยียบคันเร่งเพราะเข้าใจว่า อำภาเป็นวาสิฐี แต่เมื่อลงมา เห็นหญิงสาวหลบฉากออกไปท่าทางไม่แยแสว่ารถสองคันชนกันเพราะเธอเป็นต้นเหตุ โดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
“ผมจะแจ้งประกันแล้วนะพี่ จะไปหรือจะอยู่จ่ายเงินค่าซ่อมแทนประกันล่ะ”
แท็กซี่โบกมือให้เลียบเมือง ก่อนเรียกอำภาให้ขึ้นรถ อำภา รีบถอยหลังห่างไปอีก
“เอ้า คุณโบกรถจนทำให้ผมเกิดอุบัติเหตุ คุณจะไม่ยอมขึ้นรถมาช่วยจ่ายเสียค่าเวลาอีกหรือไง”
“เฮ้ยพี่” เลียบเมืองออกปีกกางกั้นอย่างสุภาพบุรุษ “มาหาเรื่องน้องเขาได้อีก พี่เป็นคนยังไงกันแน่วะ”
“จะเสียบเองหรือไง”แท็กซี่ปากเสียทิ้งท้ายก่อนที่จะขึ้นรถไป เลียบเมืองหันไปมองอำภาอีกครั้ง ทำท่าจะกลับขึ้นรถ แต่เปลี่ยนใจ เดินไปหาอีกฝ่าย อำภาระวังตัวแจ เธอแอบคิดว่าหากนายคนหน้าตาดีคนนี้จะทำอะไรเธอ เธอจะโน้มคอลงมาเข่าลอยตรงจุดให้จุก การนั้นจะเตะเสยปลายคาง ล้มแล้วจะใช้รองเท่าส้นสูงฟาดหน้าให้เสียโฉม
“เอ้า น้องสาว มองหน้าเหมือนวางแผนทำร้ายพี่เลยนะ”
“คุณอย่ามาทำตีซี้หน่อยเลย”พูดจบอำภาเดินออกไปโบกรถ ค่อนข้างระวังตัว เพราะชุดที่ใส่วันนี้เป้นชุดราตรีสั้น สวยและดูเซ็กซี่ เลียบเมืองยิ่งมองอีกฝ่ายใกล้ยิ่งเห้นว่าเธอละม้ายเหมือนเพื่อนสาวที่เขาชอบมากขนาดเรียกว่ารัก และไม่คิดว่าจะมีใครทำให้ใจเขวได้
“หน้าตาเหมือนเพื่อนพี่น่ะครับ”
“มุกโบราณมากเลยนะ จะซิวเด็กทั้งที หามุกที่เด็กโปรดหน่อยเถอะ อ้อแล้วเด็กคนนี้ไม่สนใจหรอกนะ”อำภาว่าส่ง เลียบเมืองแสบสัน เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนเจ้าชู้มหาสันดานอย่างที่หญิงสาวคงด่าในใจ
“ก็เห็นว่าหน้าตาเหมือนวาสิฐี เพื่อนหมอคนดีของพี่เท่นั้น แต่ว่า คุณคงไม่ได้เป็นญาติกบเขาหรอก เพราะวาสิฐีคนดีเธอไม่ปากจัด”
วาสิฐี หญิงสาวได้ยินชัด ไม่ใช่ฟังผิด เป็นหมอตามที่พี่สาวใฝ่ฝัน อำภากราดเข้าไปใกล้ เลียบเมืองเป็นฝ่ายถอยฉาก เพราะเกรงกลัวว่า เธอจะคิดว่าเขาเล่นมุกอีก เขารีบออกตัว
“พอ พอแล้ว ไม่เชื่อไม่เป็นไร พอแล้ว พี่ไปดีกว่า กันชนรถยุบด้วย แม่ด่าเสียก็ไม่รู้”เขาบ่นพึมพำ อำภาเข้าไปคว้าจับท่อนแขนอีกฝ่าย พลางถามรัว
“วาสิฐีที่พี่บอก นามสกุล อะไร เป็นหมอ หรือว่ากำลังเรียน ถ้าเรียนน่าจะอยู่ปีสุดท้าย พี่วาอยู่ที่ไหน คุณเป็นอะไรกับพี่วา คุณบอกมาสิว่าพี่วาที่คุณพูดถึงนามสกุลอะไร”
“วาสิฐี แพรทอง”
อำภาชะงัน ก่อนจะปล่อยน้ำตารินไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย สุดท้ายเธอทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ อย่างไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจได้มากมายขนาดนี้ เลียบเมืองส่งผ้าเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย พลางเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“น้อง เอ่อตกลงว่า ใช่คนที่รู้จักมั้ย เอ่อเช็ดน้ำตาก่อนเถอะ”อำภายื่นมือมาหยิบผ้าเช็ดหน้า ซับน้ำตา พลางส่งยิ้มเป็นไมตรีให้กับชายหนุ่มพร้อมแนะนำตัวว่า
“ชื่ออำภาค่ะ เป็นลูกคนแม่กับพี่วา พี่วาอยู่กับพี่ยุดา อ้ำ เอ่อชื่อเล่นว่าอ้ำค่ะ อยากพบพี่วามาก แต่ไม่กล้าไปหาค่ะ กลัวคุณแม่ตามไปรบกวนความสงบสุขของพี่วา เอ่อขอโทษค่ะที่นินทาแม่ตัวเอง”กล่าวแล้ว อำภาหัวเราะเก้อ เธอเป็นคนตรงไปตรงมาอย่างนี้เสมอ ช่างแตกต่างกับคนที่เธอหน้าตาเหมือนราวกับพิมพ์เสียยิ่งนัก วาสิฐีเป็นคนนิ่ง ขนาดที่เรียกว่าเย็นชายังได้..แต่น้องสาว น่ารัก คิดแล้วเลียบเมืองรีบเก็บความรู้สึกเขวกับคืน ด้วยการเตือนตัวเอง แม้ไม่มีหวังกับวาสิฐี ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะใจง่ายให้หัวใจหญิงข้างทางเยงเวลาไม่ทันถึงชั่วโมงอย่างนี้
“อ้ำ เรียกพี่ว่าพี่ไมก็ได้ครับชื่อจริงชื่อเลียบเมือง แปลกดีมั้ย”
“ชอบค่ะไม่เหมือนใครเลยค่ะ พี่ไมแปลกดีนะคะ ปกติอ้ำไม่เคยเห็นใครแนะนำชื่อจริงกันเลยค่ะ”
“อ้ำก็แนะนำชื่อจริงมาก่อนนี่”
“เออจริง อ้ำลืมค่ะ”หญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าของเลียบเมืองปิดปากหัวเราะ ไม่มีท่าทีดุอย่างที่เลียบเมืองเห้นในทีแรกเลย
“พี่เป็นเพื่อนสนิทของวาสิ เป็นนักเรียนปีสุดท้าย เอไว้ใจให้พี่พารถบุบๆคันนี้ไปส่งมั้ย”
“ได้ค่ะ ได้ อ้ำอยารู้เรื่องของพี่วาค่ะ พี่ไมเล่าให้อ้ำฟังเยอะๆนะคะ”
“เอาเรื่องผ่าศพดีมั้ย”
“ยี้”อำภาร้องอุทาน แล้วตีแขนอีกฝ่ายอย่างสนิทสนมไม่รู้ตัว เลียบเมืองเปิดประตูรถให้หญิงสาวนั่งคู่ เขาอ้อมตัวไปทำหน้าที่ขับรถ ซึ่งกันชนยุบจากการชนข้างรถแท็กซี่
“พรุ่งนี้วาคงกลับหอพัก ไปหามั้ย พี่มารับ-ส่งได้นะอ้ำ แหมช่อเดียวกับดาราเลย”
“ของอ้ำเป็นกิริยากินข้าวค่ะ ส่วนดาราอ้ำไม่ทราบค่ะว่าแปลว่าอะไร แต่เป็นดาราที่อ้ำชอบมากมากเลยค่ะ เธอสวยดี”
เลียบเมืองอยากบอก คนสวยกว่านั่งอยู่ตรงนี้คนหนึ่ง และอยู่ในบ้านคุณหญิงกับเพื่อนสนิทอย่างยุดาอีกคน ทุกอาทิตย์ พรรณยุดาต้องโฉบวาสิฐีกลับบ้านไปเสมอ เขาเข้าไม่เคยติด
“พี่วาเป็นแฟนพี่ไมหรือคะ”
“อยากอยู่หรอก แต่ว่า วาเขาไม่ได้คิดอะไรกับพี่เลยน่ะสิ ขอไปทานข้าว เขาจะนัดทั้งคณะไปหมดเลย จะดูหนังสักรอบ คุณยุดาก็นั่งตรงกลาง อีกสามคนเป็นเพื่อนร่วมคณะอีก อย่างนี้ไม่เรียกว่าอกหักซ้ำซาก ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีแล้ว”
“พี่วาน่ารักนะคะ”
“ไม่เถียงเลยสักนิด เขาเป้นคนเดียวที่เคารพอาจารย์ใหญ่และไม่กลัวท่านเลย มือแน่มาก ส่วนพี่กำพระเอาไว้ก่อน ตอนนอนท่านเอ่อ เรื่องนี้นักเรียนไม่ค่อยพูดกัน”
อำภาหัวเราะไปกับอารมณ์ดีของชายหนุ่มที่ชื่อว่า เลียบเมือง เธอยังมีความหวังว่า สักวันจะแอบไปพบพี่สาวของเธอให้จงได้ทีเดียว
เวลาเที่ยงคืนแล้ว เสียงนาฬิกาบอกเวลาดังมาให้ได้ยิน คามสุขของหญิงสาวแต่ละที่ได้มาถึงเวลาที่หยุด ณ ตรงนั้น!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ค. 2555, 12:47:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ค. 2555, 12:47:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 2088





<< ต้นรักผลิใบ   แอบนัด >>
nutcha 9 พ.ค. 2555, 14:59:58 น.
หนูอ้ำจะหลงรักเลียบเมืองหรือเปล่าค่ะ


nutcha 9 พ.ค. 2555, 15:00:18 น.
หนูอ้ำจะหลงรักเลียบเมืองหรือเปล่าค่ะ


nutcha 9 พ.ค. 2555, 15:00:35 น.
หนูอ้ำจะหลงรักเลียบเมืองหรือเปล่าค่ะ


nunoi 9 พ.ค. 2555, 17:48:36 น.
หนูอ้ำน่ารักจริงๆ เหมาะกับพี่ไม มากๆ


tookta 9 พ.ค. 2555, 22:17:07 น.
อ้ำจิตใจงดงามเหมือนยุดาเลยค่ะ ชื่นชม


คิมหันตุ์ 10 พ.ค. 2555, 00:01:48 น.
ลงชื่อเชียร์ น้องอ้ำ กับ หมอไม เลยทีเดียว น่ารัก มาก


นางแก้ว 10 พ.ค. 2555, 09:13:45 น.
คู่หวาน วิลล์ สปอยแมน และวาสิฐี สามมั่นที่มีความรักและความกตัญญู
คู่ซึ้ง เมืองเอก พรรณยุดา ขวากหนามยิ่งใหญ๋สิ่งใดที่ทำให้ซึ่งจนต้อง
คู๋รัก เลียบเมือง อำภา ดุเดือด ร้อนแรง
ทุกคู่มีอุปสรรค แต่พวกเขาจะฝ่าสิ่งกีดขวางไปได้ตามแต่ละวิธีการ ซับซ้อน ไม่จำเจ สับสน ไม่วุ่นวาย ฝากคู๋สุดท้าย เหมือนแขกับคุณธี ไม่รู้จะมาโคจรเมื่อไหร่ในเมื่อคู่นี้ เงียบสุดๆ


Zephyr 10 พ.ค. 2555, 18:42:21 น.
สามคู่เลย เย้
แอบคิดว่าจะเชียร์หนูแขกะสุธี คุณนางแก้ว จัดให้ ดีใจสุดๆเลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account