ลิขิตรัก...ไพ่ยิปซี

‘เมนิลา’ ตกงาน ถังแตก แถมยังโดนแฟนหนุ่มบอกเลิก...แต่โชคร้ายของเธอยังไม่หมดเพียงแค่นั้น
เมื่อเธอได้พบกับ ‘ญาณวดี’ วิญญาณสาวที่สิงสถิตอยู่ในกล่องไพ่ยิปซี
และเพื่อที่จะกอบกู้สถานะการเงินให้กลับมาสู่สภาวะปกติ เมนิลาจึงยอมรับข้อเสนอของญาณวดี
โดยญาณวดีจะสอนเมนิลาดูดวงไพ่ยิปซี แล้วให้เมนิลาไปตามหาตัวฆาตกรที่ฆ่าเธอ
ด้วยเหตุนี้เมนิลาจึงต้องร่วมมือกับ ‘ร้อยตำรวจเอกอัศวิน’ ตำรวจหนุ่มรูปงามที่ติดตามคดีนี้อยู่ลับๆ
จากร่วมมือ มาเป็นร่วมใจ และพัฒนาก่อเกิดเป็นความรัก
แต่แล้วความรักของทั้งคู่ต้องสะดุดลง เมื่อแฟนเก่าของเมนิลากลับมาพร้อมบอกว่าเธอเข้าใจผิด
สุดท้ายเมนิลาจะทำอย่างไร เมื่อรู้ว่าคนใกล้ตัวมีส่วนรู้เห็นกับคดีนี้
แล้วความรักของเมนิลากับอัศวินจะจบลงแบบไหน
และทั้งสองจะสามารถนำตัวฆาตกรออกมารับโทษตามกฎหมายได้หรือไม่
หาคำตอบได้ใน ‘ลิขิตรัก...ไพ่ยิปซี’

Tags: ลิขิตรักไพ่ยิปซี, ลิขิตรัก, ไพ่ยิปซี, อรุณ, ต้นช่อ, ช่อสุนันท์, สืบสวน, ตำรวจ, ฆาตรกรรม

ตอน: ไพ่ใบที่ 1 I - THE MAGICIAN ไพ่เทพแห่งเวทมนตร์ (1/3)

แสงสีส้มทองทอแสงผ่านผ้าม่านลูกไม้โปร่งบาง สาดส่องกระทบร่างบางที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง

‘เมนิลา’ งัวเงียพลิกกายบิดขี้เกียจ ก่อนจะสปริงตัวลุกขึ้นนั่ง มือเรียวรีบควานหานาฬิกาปลุกบนหัวเตียงมาดู และเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว ผ้าห่มผืนนุ่มก็ถูกเหวี่ยงให้พ้นออกจากตัว แล้วรีบตรงดิ่งไปยังห้องน้ำทันที แต่แล้วสองเท้าต้องหยุดกึก สมองหวนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน หญิงสาวทอดถอนหายใจและเดินกลับไปนั่งบนเตียง ก่อนภาพต่างๆ จะฉายขึ้นมาย้ำเตือนตัวเอง

เมื่อวานนี้…

เมนิลาที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทต่างชาติ ไปทำงานตามปกติของทุกวัน ตกบ่ายประมาณสองชั่วโมงก่อนจะเลิกงาน มิสเตอร์สตีฟ ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม สัญชาติเชื้อชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นหัวหน้าได้เรียกให้เธอเข้าไปพบในห้อง

‘เมย์ คุณอยากจะทำงานที่นี่ต่อไปไหม’ หัวหน้าชาวต่างชาติถามหญิงสาวเป็นภาษาอังกฤษ

‘อยากสิคะ’ เมนิลาตอบกลับทันที โดยไม่ได้คิดอะไร

‘คุณรู้ใช่ไหมว่าบริษัทแม่ที่อเมริกากำลังประสบปัญหาขาดทุน...’

คนได้ฟังเริ่มหวั่นใจ เพราะก่อนหน้านี้เธอก็ได้ข่าวมาบ้าง

‘...ดังนั้นบริษัทแม่จึงมีนโยบายที่จะทำการปลดพนักงานออกบางส่วน เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง’ ขณะพูดสายตาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าก็เริ่มสอดส่ายไปยังเรือนร่างที่ได้รูปของหญิงสาว ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่ง ตรงเข้าไปกระซิบที่ข้างหู ‘คุณคงไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้นใช่ไหม’

‘ไม่อยากค่ะ’ หญิงสาวตอบพร้อมส่ายหน้าไปมาทันที และเธอก็เชื่อว่าร้อยทั้งร้อย ใครก็ตามที่ได้คำถามนี้ ก็ต้องตอบเหมือนเธอกันทั้งนั้น

มิสเตอร์สตีฟยิ้มกริ่มที่มุมปากก่อนจะบอกต่อไปว่า

‘ถ้าคุณไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้น เลิกงานแล้วคุณไปกับผมสิ’

เพียงแค่นี้เมนิลาก็พอเดาได้ทันที ว่าหัวหน้าชาวต่างชาติคนนี้ของเธอต้องการอะไร แต่เธอก็ยังตีหน้าซื่อถามย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้เข้าใจผิด

‘ไปกับบอสหรอคะ ไปที่ไหน ไปทำอะไรคะ’

‘ไปสนุกกันไง’ ไม่พูดเปล่า เขายังเอามือหยาบมาลูบไล้ใบหน้ารูปไข่ของเมนิลา ก่อนจะไล้ลงไปยังลำคอระหงส์ของเธอแล้วทำท่าจะไม่หยุดแค่นั้น

เมื่อหัวหน้าชาวต่างชาติแสดงออกอย่างเด่นชัดว่าต้องการอะไร เข่าเรียวไม่รอช้า ยกขึ้นกระแทกเข้าไปยังจุดยุทธศาสตร์ของคนตรงหน้าทันที ผู้หญิงที่ไร้เดียงสาเมื่อครู่กลายร่างเป็นแม่เสือสาวที่พร้อมจะตะปบโจมตีศัตรูได้ทุกเมื่อ

‘ผู้หญิงไทยไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดนะ ต่อให้ไม่มีจะกิน ฉันก็ไม่คิดเอาตัวเข้าแลก’
ขณะมิสเตอร์สตีฟตัวงอเพราะกำลังจุกฤทธิ์เดชของหญิงสาว เขาก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโมโห เธอกล้าดียังไง ถึงมาทำร้ายเขา กะอีแค่ผู้หญิงไทยที่พูดภาษาอังกฤษได้เท่านั้น เดี๋ยวเขาไปหาเลขาคนใหม่ก็ได้

‘ดี! งั้นผมไล่คุณออก’

‘ถ้าคุณไม่ไล่ฉันออก ฉันก็ขอลาออกอยู่แล้ว ใครจะไปทนทำงานกับคนหัวงูอย่างคุณได้’ พูดจบร่างบางยังไม่สะใจ ขอเรียกร้องศักดิ์ศรีให้สตรีด้วยกัน ‘ผู้หญิงเป็นเพศแม่ และไม่ใช่ที่ใช้ระบายความใคร่...จำไว้’ แล้วหมัดหลุนๆ ก็ตรงไปเสยหน้าของคนหัวงูทันที

‘ผมจะแจ้งตำรวจจับคุณในข้อหาทำร้ายร่างกาย’

เมื่อเห็นว่าหัวหน้าหัวงูยังไม่รู้สำนึก ซึ่งผู้หญิงไทยอย่างเมนิลาก็มิได้เกรงกลัวเช่นกัน เธอเกลียดนักพวกที่ชอบใช้อำนาจหน้าที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า

‘เอาเลยๆ ฉันก็จะแจ้งความกลับ ข้อหาลวนลามทางเพศ’

‘คุณไม่มีหลักฐาน ตำรวจไม่เชื่อคุณหรอก’ ชายชาวต่างชาติแสยะยิ้ม

มิสเตอร์สตีฟรู้ดีว่าตำรวจประเทศนี้ทำงานกันอย่างไร เพราะแค่มีเงินก็สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่เขาไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่เมนิลาจะมาทำงานกับหัวหน้าชาวต่างชาติคนนี้ เธอได้รับการเตือนจากเลขาคนก่อน ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมาพอสมควร ซึ่งเธอก็ระมัดระวังตัวมาตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างเล่นงานเธอแบบนี้

‘เอ๊ะ! สาเหตุที่เรื่องเลขาคนก่อนต้องลาออก ภรรยากับลูกๆ ของคุณรู้เรื่องนี้หรือยังนะ’ หญิงสาวแกล้งพูดขึ้นมาลอยๆ หมายจะทิ้งไพ่ใบสุดท้าย

ตอนนี้หัวหน้าหัวงูเริ่มเหงื่อตก เหมือนคนมีชะนักติดหลัง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างด้วยความตกใจ

ใช่...เขาเคยล่อลวงเลขาคนก่อน จนฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ เขาจึงข่มขู่พร้อมกับให้เงินค่าปิดปากไป และถ้าเกิดภรรยาเขารู้เรื่องนี้ ต้องฟ้องหย่าแล้วเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรทั้งสองจนเขาหมดตัวแน่ๆ เพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับภรรยาซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก และถ้าเป็นแบบนี้จริง เขาอาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างที่มี ซึ่งรวมถึงลูกๆ ของเขาด้วย แม้เขาอาจจะไม่ใช่พ่อที่ดี แต่เขาก็เป็นพ่อคนนึงที่รักลูกที่สุด ดังนั้นเขาจะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นมาเป็นอันขาด

‘คุณรีบออกไปจากห้องผมเลยนะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก ผมไล่คุณออก…’

พอนึกถึงตอนนี้ เมนิลาก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ สติกลับมาปัจจุบัน พร้อมคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ว่าเธอควรจะจัดการกับชีวิตตัวเองต่อไปอย่างไรดี
แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้ๆ ก็ดังขึ้นมาเรียกร้องความสนใจ ภาพคู่ของเธอกับคนรักปรากฎขึ้นบนหน้าจอ

...‘จิรเมธ’ แฟนหนุ่มรุ่นพี่โทรเข้ามา...

หญิงสาวรีบกดรับสายด้วยความดีใจ อย่างน้อยเขาน่าจะรับฟังและให้คำปรึกษาได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“สวัสดีค่ะ พี่เมธ...เมื่อวานเมย์โทรหาพี่เมธตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับ” หญิงสาวตัดพ้อด้วยน้ำเสียงน่ารัก ถ้าเป็นเวลาปกติ คนรักของเธอต้องออดอ้อนและกล่าวคำขอโทษ แต่ครั้งนี้คนปลายสายกลับรีบพูดเข้าธุระของตนเองด้วยน้ำเสียงรีบร้อน

“เมย์ ตอนนี้พี่มีปัญหานิดหน่อย พี่ว่าเราห่างๆ กันสักพักดีกว่า”

“พี่เมธ หมายความว่า...” ลำคอของคนที่ได้ฟังตีบตันขึ้นมาทันที

“ใช่! ตามนั้นแหละเมย์...พี่ต้องวางสายแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” สิ้นคำสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป

เมนิลาทรุดกายลงกับพื้น ปล่อยโทรศัพท์ให้ร่วงหลุดออกจากมือ ก่อนจะซุกหน้าลงกับเข่าที่ตั้งชัน แล้วร่ำไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น

...หมดแล้ว หมดสิ้นทุกอย่างแล้ว...

แม้เธอจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่นี่มันก็มากเกินกว่าที่ผู้หญิงคนนึงจะรับไหว ตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังยืนอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ตามลำพัง งานก็ไม่มี แฟนหนุ่มก็ยังมาขอเลิก ทำไมเรื่องเลวร้ายต่างๆ ต้องโหมพัดกระหน่ำมาหาเธอด้วยนะ

เมนิลาร้องไห้จมอยู่ในความทุกข์ จนเวลาล่วงเลยไปครึ่งวัน กระเพาะก็เริ่มทำการประท้วง เลือดนักสู้ก็เริ่มทำการสูบฉีดขึ้นมา หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับความคิดที่ว่า

‘ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป เรื่องแค่นี้จะยอมแพ้ได้อย่างไรกัน’

แม่สาวเลือดนักสู้จึงตัดสินใจว่าจะขับรถออกไปหาอะไรทานข้างนอก แล้วจะเลือกภาพยนตร์สนุกๆ ดูสักเรื่อง เพื่อผ่อนคลายความหมองหม่นที่เกาะกุมอยู่ในจิตใจ



เมนิลาใช้เวลาในการแต่งตัวและเดินทางไม่ถึงชั่วโมง เธอก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังด้วยสภาพการแต่งกายที่เรียบง่าย เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ใบหน้าก็แต้มแต่งแค่แป้งเด็กกับลิปกลอสบางๆ เท่านั้น ตอนนี้ไม่มีเงาผู้หญิงแต่งตัวตามแฟชั่นเหมือนเคย เพราะเธอไม่รู้ว่าจะแต่งตัวสวยๆ ไปให้ใครดูแล้ว

หญิงสาวเดินเลือกร้านอาหารหลายรอบ แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทานอะไรดี จึงเปลี่ยนไปเลือกดูภาพยนตร์แทน แต่เธอก็เกิดอาการเสียดายเงินขึ้นมา และยิ่งเห็นภาพคนรักพากันเดินจูงมือกันชี้ชวนกันเลือกเรื่องภาพยนตร์ที่จะดู เหมือนที่เธอและแฟนหนุ่มชอบทำ เธอก็รู้สึกยิ่งเจ็บปวดแปล๊บๆ คล้ายมีเข็มเล่มเล็กๆ จิ้มที่หัวใจ

สุดท้ายเมนิลาจึงตัดสินใจไปร้านกาแฟเจ้าประจำ เพราะอย่างน้อยเธอต้องมีอะไรรองท้องไว้บ้าง แต่ก็นั่นอีก...

ภาพต่างๆ ระหว่างเธอกับคนรักก็ฉายวนซ้ำไปซ้ำมา ตอกย้ำความจริงที่ว่าวันเก่าๆ ที่มีความสุข มันคงจะไม่มีอีกแล้ว

เธอกับเขาคบกันมาตั้งนาน ผูกพันกันเป็นปี จนใครๆ ต่างพากันอิจฉาในความรักของเธอกับเขา แม้มีบ้างที่เธอกับเขาจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ไม่เคยที่จะทะเลาะกันรุนแรง เธอจึงไม่เคยคิดว่าจะต้องมาลงเอยแบบนี้ ตอนนี้ความฝันที่จะสร้างครอบครัวกับเขาพังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า อย่างที่เขาว่ากันล่ะนะว่า

...โลกนี้ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้ และแน่นอนตลอดไป...

จนเวลาล่วงเลยมาในช่วงหัวค่ำ เมนิลาจึงตัดสินใจขับรถกลับห้องพัก

ห้องพักของเมนิลาอยู่บนคอนโดแถบชานเมือง ที่มีความสูงแค่แปดชั้น แม้จะไม่ได้หรูหรา แต่เธอก็ภูมิใจที่เธอสามารถเก็บเงินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จนมีเงินมาดาวน์ห้องพักแห่งนี้ ถึงแม้ยังมีภาระต้องผ่อนชำระอีกหลายปีก็ตาม
เมนิลาจอดรถด้านหน้าตึกเอ ซึ่งห้องพักของเธอตั้งอยู่บนตึกนี้ ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์ด้วยอาการเหม่อลอย เธอยังทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่แห่กันมาหาเธอไม่ได้ ตอนนี้เธอสงสัยว่า จะมีใครที่ดวงตกแบบเธอบ้างไหม ที่ทั้งตกงาน แถมยังถูกแฟนบอกเลิกอีก

“อุ๊ย!” ร่างบางเซเล็กน้อย เมื่อโดนคนตัวโตกว่าชนกระแทกเข้าทางข้างหลัง

“ขอโทษครับ ขอโทษครับ” ชายแปลกหน้ารีบก้มโค้งขอโทษขอโพย

“ไม่เป็นไร...ค่ะ” พูดยังไม่จบประโยคดี ชายแปลกหน้าก็รีบร้อนเดินจากไปเสียแล้ว

ดวงตากลมโตเหลือบมองเห็นถุงกระดาษตกอยู่ ร่างบางจึงย่อตัวเก็บขึ้นมา ก่อนจะตะโกนร้องบอก

“เดี๋ยวค่ะคุณ คุณทำของตกไว้”

เมนิลามองหาชายร่างสูงที่เดินชนเธอเมื่อครู่ แต่มองซ้ายมองขวาก็มองไม่เห็นใครสักคนเลย เธอจึงเปิดถุงออกดู หวังว่าอาจจะมีชื่อหรืออะไรก็ได้ที่พอบอกตัวตนของเจ้าของถุงใบนี้บ้าง แต่เธอเห็นมีแต่กล่องไม้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณฝ่ามือกว่าๆ สีดำมันเงา ตรงฝากล่องมีรูปวงกลมล้อมรอบดาวห้าเฉกที่ทำจากเงินส่งแสงแวววาวแข่งกับแสงไฟบนเพดานอยู่ข้างในเท่านั้น และพอมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเรือนสวยก็เห็นว่ามันดึกแล้ว เธอจึงตัดสินใจหยิบถุงใบนั้นขึ้นมา และเดินเข้าลิฟต์ไป

เมื่อกลับเข้ามาถึงห้องพัก เมนิลาก็นำถุงที่หิ้วมาไปวางไว้บนโต๊ะตัวเล็กในห้องรับแขก ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ค่อยเอาไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ตรงด้านหน้าทางเข้าคอนโด เผื่อเจ้าของจะมาถามไถ่ เมื่อรู้ว่าทำมันตกหายไป




เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวเจ้าของห้องตื่นขึ้นมาด้วยสภาพอิดโรย เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีเรื่องมากมายที่ต้องให้คิด ร่างบางเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบถุงใส่กาแฟออกมา ก่อนตักกาแฟลงไปในเครื่องชงกาแฟ และกดปุ่มให้เครื่องทำงาน
เมนิลารู้สึกกระปรี่กระเปร่าทันที เมื่อได้กลิ่นต้มกาแฟที่เธอโปรดปราน แล้วระหว่างรอกาแฟต้มเสร็จ เธอก็เดินไปเปิดโทรทัศน์ในห้องรับแขกเพื่อดูข่าวสารบ้านเมือง ตามแบบที่ชอบทำเป็นประจำ

และเมื่อดวงตากลมโตเหลือบเห็นถุงกระดาษที่เมื่อวานเธอหิ้วกลับมาวางอยู่บนโต๊ะ ความอยากรู้อยากเห็นก็ผุดขึ้นในใจ เธอจึงตัดสินใจหยิบเอากล่องไม้ในนั้นออกมา

“ขอดูหน่อยนะ ว่าข้างในนี้มีอะไร” หญิงสาวพูดเหมือนขออนุญาตเจ้าของกล่องใบนี้ก่อน แล้วสองมือจึงค่อยๆ แง้มฝากล่องออกมาอย่างช้าๆ

ทันทีที่ฝากล่องไม้เปิดอ้าออก แสงสีขาวก็ค่อยๆ ส่องแสงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งฝากล่องเปิดอ้าสุด แสงสีขาวก็พุ่งออกมารวมตัวกันทันที เหลือไว้เพียงไพ่ยิปซีที่ยังนอนอยู่ก้นกล่องเท่านั้น และเมื่อเมนิลาเงยหน้าขึ้นมา เธอก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ

“ผะ...ผะ...ผะ...ผี” หญิงสาวติดอ่างกระทันหัน นิ้วเรียวชี้ไปยังลำแสงสีขาวที่ตอนนี้รวมตัวกันเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

เมนิลาหลับตา ปากสวยพร่ำท่องนะโมฯ วกไปวนมาหลายจบ

“ไม่จริง ไม่จริง เมื่อกี้เราตาฝาดไป ผีไม่มีในโลกนี้ เช้าๆ แบบนี้จะมีผีได้ไง” หญิงสาวย้ำบอกกับตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ คาดหวังว่าทุกอย่างไม่ใช่ความจริง แต่แล้วสิ่งที่หวังไว้ก็พังทลายลง เมื่อร่างโปร่งใสยังคงอยู่ที่เดิม

“ว้าย! ผีจริงๆ ด้วย...พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยด้วย ผีหลอก” เสียงใสร้องโวยวาย จนร่างโปร่งใสต้องตะโกนให้หยุด

“นี่! เลิกโวยวายได้แล้ว”

“ไปที่ชอบๆ เถอะนะ เดี๋ยวฉันจะลงไปตักบาตรกรวดน้ำให้ เธออยากกินอะไรล่ะ” เมนิลายกมือไหว้ด้วยความกลัว

“ไม่เอา ตอนนี้ยังไม่อยากกิน” ร่างโปร่งใส่บอกกลับมาด้วยน้ำเสียงเฉยชา
เมื่อได้รับการปฏิเสธหญิงสาวก็ยังไม่ยอมแพ้

“ไม่อยากกิน งั้นอยากได้บ้าน รถ หรือเงินล่ะ ฉันจะได้เผาไปให้”

“ไม่เอา ฉันไม่ใช่คนจีน” ร่างโปร่งใสบอกกลับมาด้วยน้ำเสียงเฉยชาเช่นเดิม

“นู่นก็ไม่อยากกิน นี่ก็ไม่เอา งั้นมาให้ฉันเห็นทำไม” หญิงสาวเริ่มหงุดหงิด จนลืมว่าเธอกำลังโมโหใส่ผี...ผี สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดในโลก

“ฉันชื่อญาณวดี เรียกวดีก็ได้ ก่อนตาย ฉันมีอาชีพเป็นหมอดูไพ่ยิปซี” ร่างโปร่งใสแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ

เมนิลารู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อ ‘ญาณวดี’ ที่ไหนมาก่อน

“หมอดูไพ่ยิปซี?” เธอพยายามใช้ความคิด

...ปิ๊งป่อง...

หญิงสาวดีดนิ้วดังเป๊าะ

“นึกออกแล้ว! อยากรู้ชะตาชีวิต โทรหาญาณวดีสิคะ วดีมีคำตอบให้คุณ โทร 1900 1900 XX” เธอเลียนแบบเสียงและท่าทางของญาณวดีที่เคยเห็นในโทรทัศน์

“ใช่แล้ว” ญาณวดียิ้มอย่างดีใจเมื่อแผนการโฆษณาของเธอได้ผล อย่างน้อยเงินหลักแสนที่เธอจ่ายไป ก็ไม่เสียเปล่า

“แล้วนี่ตายเมื่อไหร่ล่ะ” ตอนนี้ความกลัวมลายหายไปกลายเป็นความอยากรู้อยากเห็นเข้ามาแทนที่

“ฉันตายเมื่อวันก่อน” วิญญาณสาวบอกเสียงเศร้า

“เมื่อวันก่อน” เมนิลาพึมพำกับตัวเอง และคิดว่าน่าจะเป็นวันเดียวกับที่เธอโดนไล่ออก “แล้วทำไมฉันไม่เห็นได้ข่าวเลยล่ะ”

“ไปอยู่ไหนมาเนี่ยะ คนดังอย่างฉันตายทั้งที ป่านนี้ใครๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว มีแต่เธอเท่านั้นละมั้งที่ตกข่าว”

“ผีอะไรหลงตัวเอง ปกติฉันไม่เคยตกข่าวนะจะบอกให้ แต่เป็นเพราะตอนนี้ฉันยุ่งๆ เรื่องหางานทำ เลยไม่มีเวลาตามข่าวต่างหากย่ะ” หญิงสาวพูดปด

อันที่จริงแล้วเมนิลาเป็นมักจะตกข่าวเป็นประจำ เพราะงานเลขาที่อีตาเจ้านายฝรั่งบ้านั่นใช้ให้เธอทำ มีตั้งแต่งานเอกสารยันใช้ให้เธอไปช่วยรับลูกชายคนเล็กของเขาที่โรงเรียน จนครูและผู้ปกครองคนอื่นๆ ต่างพากันคิดว่าเธอเป็นแม่ของเด็กฝรั่งหัวทองคนนี้กันหมดแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลือเธอก็ต้องเลือกที่จะอยู่กับคนรัก แทนที่จะไปสนใจเรื่องคนอื่นไม่ใช่เหรอ คิดแล้วยังแค้นเจ้านายหัวงูไม่หาย วันนั้นเธอไม่น่าแค่เตะผ่าหมาก กับชกหน้าให้เจ็บมือเลย เธอน่าจะกระโดดถีบให้ไอ้ฝรั่งหัวงูหงายหลัง แล้วเรียกเพื่อนพนักงานผู้หญิงที่เคยถูกลวนลามให้มารุมกระทืบซะให้เข็ด...โอ๊ย ยิ่งคิดยิ่งแค้น

“ถ้าไม่เชื่อก็ไปหาข่าวในอินเตอร์เนตได้เลย” ร่างโปร่งใสท้าทายหญิงสาว

...เมื่อท้ามา เมนิลาก็จัดให้...

หญิงสาวเจ้าของห้องไม่รอช้ารีบลุกขึ้นไปยังโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ข้างๆ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพื่อล็อคอินเข้าอินเตอร์เนต เธอคลิกเมาส์สองสามที เว็บไชต์กูเกิ้ลก็ปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอ เธอจึงพิมพ์ชื่อ ‘ญาณวดี’ ลงไปในช่องค้นหา เพื่อให้ช่วยทำการหาข้อมูลให้ เพียงครู่เดียวข่าวเรื่องการตายของวิญญาณสาวก็ปรากฏขึ้นมา

‘เช้านี้พบศพ ‘ญาณวดี’ หมอดูไพ่ยิปซีชื่อดัง ตกมาจากระเบียบห้องพักหรูย่านใจกลางเมือง เบื้องต้นทางตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย...’

พอเมนิลาอ่านมาถึงบรรทัดนี้ ญาณวดีก็รีบแย้งขึ้นมาทันที

“ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตายนะ ฉันถูกฆาตกรรมต่างหาก”

“จริงเหรอ...แล้วใครเป็นฆาตกรล่ะ” เธอถามออกไป โดยที่ดวงตากลมโตยังไม่ละจากจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค มือเรียวยังคลิกเมาส์ไล่อ่านข่าวของร่างโปร่งใสจากสำนักข่าวต่างๆ ไปเรื่อยๆ

“ถ้าฉันรู้ ฉันจะมาปรากฏร่างขอให้เธอช่วยทำไม” ร่างโปร่งใสเท้าสะเอวแว้ดใส่

“แล้วจะให้ฉันช่วยอะไร” หญิงสาวถามออกไป เพราะถ้าไม่ใช่เหนือบ่ากว่าแรงเธอก็จะทำให้

“ฉันอยากให้เธอช่วยไปหาใครบางคนให้ฉันหน่อย”

“ใครล่ะ...ญาติเธอเหรอ”

“เปล่า ฉันจะให้เธอไปหาตำรวจที่ฉันรู้จัก ไปบอกเขาว่าฉันไม่ได้ฆ่าตัวตาย”

“แล้วเขาจะเชื่อฉันเหรอ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “ถ้าไงเธอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฉันซิ ว่าเรื่องราวมันเป็นมาเป็นไปยังไง” ร่างบางนั่งหลังตรง แล้วหันไปเผชิญหน้ากับวิญญาณสาว รอฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างตั้งใจ

“คือ เออ...” ญาณวดีพูดได้แค่นี้ ทั้งๆ ที่เธอพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน แต่นึกเท่าไหร่เธอก็นึกไม่ออก

“เออ...คือ อะไร” เมนิลากระตุ้นถามเมื่อเห็นร่างโปร่งใสอึกอัก

“ฉันจำไม่ได้” วิญญาณสาวบอกเสียงอ่อน ก่อนย้ำเสียงแข็ง “แต่ฉันไม่ได้ฆ่าตัวตายจริงๆ นะ เธอคิดดูสิ ก่อนตายฉันก็กำลังมีชื่อเสียง มีงาน มีเงิน แล้วฉันจะฆ่าตัวตายไปทำไม”

“อาจเป็นเรื่องความรักก็ได้” หญิงสาวแย้งขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอรู้ซึ้งคำว่าอกหักดี ว่ามันเจ็บแค่ไหน และไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงมีคนฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลนี้

“เรื่องความรักก็ยิ่งเป็นไม่ได้ใหญ่ เพราะฉันยังไม่มีแฟน”

“งั้นก็เรื่องครอบครัว”

“ส่วนเรื่องครอบครัวนั้นก็ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะตอนนี้ครอบครัวของฉันนั้นก็ล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว ฉันไม่มีภาระอะไรที่ต้องรับผิดชอบหรือมีญาติที่ไหนอีก...แล้วอย่างนี้ ฉันจะหนีชีวิตที่แสนสุขไปทำไมกันล่ะ จริงไหม”

เมนิลาได้ฟังดังนั้นก็เห็นจริงดังว่า แต่ปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็คือ เธอจะพูดยังไงให้ตำรวจคนนั้นเชื่อว่าหมอดูสาวไม่ได้ฆ่าตัวตายกันล่ะ แต่เมื่อรับปากจะช่วยแล้ว เธอก็ต้องลองสักตั้ง

‘ก็แค่ไปบอกตำรวจ ส่วนตำรวจคนนั้นจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือจะจัดการเรื่องนี้ยังไง มันก็ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว’ หญิงสาวบอกกับตัวเอง เพราะเธอไม่อยากอยู่กับผีนานนักหรอก

...รีบๆ ช่วย จะได้ รีบๆ ไป...



TonChor
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 พ.ค. 2555, 07:25:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ค. 2555, 07:25:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1702





<< บทนำ เปิดสำรับ ล้างไพ่   ไพ่ใบที่ 1 I - THE MAGICIAN ไพ่เทพแห่งเวทมนตร์ (2/3) >>
jink 11 พ.ค. 2555, 12:28:08 น.
เหมือนเคยอ่านบางตอนแต่ไม่จบ จำไม่ได้อีกต่างหากว่าเคยอ่านจากเวบไหน


TonChor 17 พ.ค. 2555, 07:46:02 น.
@Jink - เคยลงที่เว็บเด็กดี กับเว็บห้องสมุดค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account