รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: ทางเลือกของอำภา


วิลล์นั่งดื่มกินหลังสัมมนากับคนสำคัญเป็นชายวัยหกสิบเศษท่าทางภูมิฐานและมีชื่อเสียงทางวงสังคมและการเมือง พล.ตรีอนุสรณ์ สิงหเสนา นายทหารโดดเล่นการเมืองให้กำเนิดของเมืองเอก และเลียบเมือง
“คุณเป็นหนุ่มอนาคตไกลมากเลย ดอกเตอร์ สนใจการเมืองบ้างมั้ยผมยินดีสนับสนุนเต็มที่”
“ผมรักอิสระครับรับผิดชอบได้ก็แต่คนของผม ประเทศนี้ยังใหญ่เกินไป”
“ถ่อมตัว ผมเชื่อสายตาว่ามองคนไม่ผิด ถ้าคุณบอกว่าทำคุณต้องทำได้”
“ผมยังพึ่งหัดเดินได้ไม่กี่ก้าวเองครับท่าน ขอบคุณที่ให้เกียรติผมครับ”
“จริง ๆ หนุ่มโสดรูปงามอย่างนี้ผมเสียดายที่ไม่มีลูกสาว นี่ ดอกเตอร์ เกริ่นสเปกของคุณให้ฟังหน่อยได้มั้ย อย่าพูดว่าอย่างไงก็ได้ขอให้เป็นคนดี”
“ทำไมครับ”
“เพราะแขนโก่ง ขาเป๋ ต่อให้ดียังให้ก็ลำบากใจใช่มั้ยล่ะ ว่าไงล่ะนางในฝันของคุณ”
วิลล์หัวเราะเสียงดังอย่างร่าเริงไม่ยอมตอบ เสธ.อณุสรจึงเอ่ยนางในฝันของตัวเองให้ฟังเป็นที่ครึกครื้นในวงสนทนา ขณะนั้นลิลนรีและเพื่อนหญิงอีกคนเดินเข้ามาที่กลุ่มของท่านพลตรี ทักทายกันอย่างสนิทสนม ครั้นหญิงสาวที่เคยควงวิลล์ในเวลาแสนสั้นเหลือบมาเห็นชายหนุ่มผู้เหมือนชาวต่างชาติเต็มตัว จึงตกใจ แต่วิลล์ยิ้ม และค้อมศีรษะให้นิดเป็นการให้เกียรติ
ลูกสุดหวงของคุณหญิงจิตตรี เพิ่งรู้อาชีพเบื้องหลังความงามและเรื่องหัวสูงของลิลนรี ที่แท้เธอมีเบื้องหลังในวงสังคม ซึ่งวิลล์ไม่รู้ว่าภาษาไทยเรียกอย่างไร เธอเฉิดฉันท์ในไฮโซอย่างไร วิลล์ไม่รู้คำว่าที่ว่า ‘ใช้เต้าไต่’ ขึ้นสังคมระดับสูง ลิลนรีเก็บงำคงวามลับได้ยอดเยี่ยม หลังจากตามจับหนุ่มแถวหน้าหลายคนไม่ติด เธอจึงหันไปหาคนแก่ และมาเจอเสธ.อนุสรณ์ เมื่อได้เข้ามาอยู่ในอุปการะ เธอพอใจกับรายได้เป็นกอบเป็นกำ และความที่เธอเก็บเรื่องลับได้ ทำให้พลตรี เลี้ยงดูอยู่นาน โดยที่คุณหญิงที่บ้านไม่ระแคะระคายสักนิด!!
ทางด้านเมืองเอกไม่อาจข่มความทุรนทุรายในใจได้เลย เขายังคิดถึงพรรณยุดา ยิ่งไม่ได้เห็นหน้าความคิดถึงยิ่งมากกว่าเดิมหลายเท่านัก ครั้นหาเรื่องจะไปพบเพื่อนรัก
บัดนี้วิลล์ก็ไม่มีเวลาว่างสักวันเดียว ถ้าชายผู้กำลังร้อนรักจะเดินทื่อเข้าไปคงแปลก เขาอยากแอบโทรหาพรรณยุดาทันทีที่ถึงเมืองไทย แต่ เขายังไม่รู้ว่าจะหาเรื่องพูดอย่างไรถ้าเธอถามว่า กับบุษราเป็นอย่างไร เขาจะโกหกเธอไม่ได้ ในเมื่อเขายังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดขาดลงไปสักอย่าง ว่าจะเลือกรักหรือหน้าที่ลูกที่ดี
หลังจากวันเกิดอยากกินของสุธีแล้ว เมืองเอกโทรไปหายุดาเพียงครั้งเพื่อบอกวาไปต่างประเทศ เป็นการพูดคุยที่แสนธรรมดา ก่อนลงท้ายว่าคิดถึง เขาหยิบโทรศัพท์มาดูราวกับว่ามันเป็นของพิสดาร จึงได้แต่จ้องมอง ยับยั้งชั่งใจหลายครา
เมื่อบุษรามาหาเขาเก็บกระดาษไว้ใต้หมอนราวหนุ่มน้อยริซ่อนรักไม่มีผิด เขาจะบอกถอนหมั้นหญิงสาวได้อย่างไร และที่ทำให้ทุกข์ยิ่งนัก คือพรรณยุดาไม่ใช่ผู้หญิงไม่มีค่า เธอคือหญิงสาวทาเขารักจับใจ เขาจะทำอย่างไร
เสียงเพลงหวานดังเรียกเข้ามา เมืองเอกรับสายจึงรู้ว่าเป็นคนที่เขาคิดถึง เขาใจเต้นแรงราวกับได้จูบเธออีกครั้ง
“ยุดา”
“พี่แมคกลับมาแล้วหรือคะ ไม่คิดถึงยุดาแล้วหรือคะถึงเงียบไป”
“เอ่อมีงาน...”
“ถ้าอย่างนั้นยุดาไม่รบกวนค่ะ”พรรณยุดาบอกอย่างน้อยใจ จากนั้นปิดเบอร์โทร เมืองเอกติดต่อกลับไป พอดีสาวใช้มาตาม บอว่าบุษรามาหา เมืองเอกจึงปิดสายทั้งที่พรรณยุดาเปิดเสียงรับแล้ว
หญิงสาวเจ็บจิ๊ดที่หัวใจ คำว่าคนมีเจ้าของพุ่งเข้ามาเสียบเข้ากลางหัวใจ ทำให้หญิงสาวขมขื่นยิ่งนัก เธอเดินกลับเข้าห้องพักอย่างคนหมดแรง เธออยากโทรหาวาสิฐี แต่อีกฝ่ายเข้าเวรดังนั้นพรรณยุดาจึงกลืนความทุกข์เอาไว้เพียงลำพัง
ทางอำภากลับจากทำงาน เลียบเมืองเลี้ยวรถไปรับอีกฝ่าย อำภาถอนใจยาว ก่อนยอมขึ้นรถของเลียบเมือง พลางถาม
“พี่ไมไม่ทำงานทำการเลยหรือไง สามทุ่มแล้วยังมาถึงนี่ได้”
“พี่กลัวแท็กซี่จะงาบดวงใจของพี่ไปทำร้ายๆไม่ดีน่ะสิครับ จับหัวใจพี่ดูสิว่าห่วงแค่ไหน” เลียบเมืองคว้ามือนุ่มมากุมอกด้านซ้าย อำภาจึงหยิกหัวนมไปหนึ่งที เลียบเมืองสูดปากร้องอู้ยด้วยความเจ็บ ก่อนเอ่ยทะเล้น
“นี่ถ้าหัวนมติดเล็บอ้ำไปพี่ไมกลายเป็นคนหัวนมบอดเชียวนะ แล้วอ้ำจะทำยัง”
“หมายว่าว่าไงล่ะคะ”
“มีสามีหัวนมบอดในอนาคต”
“แหมพูดได้ล่ะก็เข้าเนื้อใหญ่เชียวนะ”
“หาเรื่องตื่นเต้นทำกันมั้ยอ้ำ” เขาเหลือบสายตามามองพร้อมถาม อำภาใจเต้นแรง ก่อนด่าอีกฝ่าย
“พี่ไมอย่ามาบ้ากับอ้ำนะ รักง่าย ไม่ได้หมายความว่าใจง่ายนะ”
“เอาน่า พี่จะพาไปวา”
“ลองดูสิจะได้เห็นฤทธิ์อ้ำบ้าง เอ๊ะ เมื่อครู่ว่าไปโรงพยาบาลหรือคะ เอ่อ”
“ไปเซอร์ไพรซ์ให้วาหัวใจวายเลยดีมั้ย นี่ไงเรื่องน่าตื่นเต้น”
“พี่ไม ขอบคุณค่ะ ไปค่ะ อ้ำอยากไปค่ะ”
“ฟังแผนพี่ก่อนมั้ย”
“แผนอะไรคะ”
“เอียงหูมาใกล้ๆสิ”
อำภาทำหน้าง้ำ ต่อว่าเลียบเมืองอย่างคนปากจัด
“อย่ามาหาเศษหาเลยหน่อยเลยคุณหมอ ในรถมีอยู่สองคนไม่ต้องกระซิบก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นไม่บอก”
“แหม” อำภาอุทาน พลางเหน็บผมยาวไว้ข้างหู พลางเอียงเข้าไปใกล้ รถติดไฟแดง หมอเลียบเมืองยื่นหน้าเข้ามากระซิบ ทำเสียงกระซิบ ซิบ อำภาฟังไม่ออกจึงถามคะ คะ เยงเข้าไปใกล้ เลียบเมืองจึงหอมฟอดใหญ่ แล้วรีบบอก
“ปลอมเป็นคนไข้ไงได้ยินหรือยัง”
“ทำหัวหมอไปดีเถอะ อ้ำเป็นหัวหน้าแผนกเครื่องกล ระวังเถอะจะพาลูกน้องมาตัดหัวซะ”
“คนใจร้าย เราคิดถึงแทบตาย ตัวเองไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำด้วยกันสักแก้ว แค่ได้ชื่นใจนิดหน่อยแค่นี้จะฆ่าจะแกงกันเลยเชียว”
อำภามีสีหน้าเปลี่ยนไป เดือนนี้เธอติดลบการเงิน บัตรเงินสดกดจนหนี้เพิ่ม ฃทำงานหนักเท่าไหร่ไม่รู้จักพอกับราบจ่ายที่มารดาขยันหาเรื่องเดือดร้อน ไม่ให้เล่นการพนัน ก็แอบไปเล่นถึงกับขนของไปจำนำทีวีเหลือเพียงเครื่องเดียวในห้องน้องของลดาวัลย์ ซึ่งบอกมารดาเสียงขาดว่าถ้าเอาไปเธอจะเผาเตียงมารดา ทีวีสิบสี่นิ้วจึงรอดจากการจำนำเพียงห้าร้อยบาทไปได้
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น อำภารับสายด้วยเสียเนือย
“คุณแม่ โทรมาทำไมหรือคะ”
“รีบกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้เลย แม่กำลังจะตายอยู่แล้วนะอ้ำ”
“ขาคุณแม่เป็นอะไรคะ”อำภาอุทานอย่างตกใจ เลียบเมืองเหลือบสายตามองอย่างห่วงใย
“ฉันกำลังแย่แล้ว รีบมาที่บ้านด่วนเลย พาแม่ไปหาหมอทีอ้ำ”
“ค่ะ ค่ะคุณแม่”อำถารีบรับคำ หันมาบอกชายหนุ่มว่า “แม่อ้ำไม่สบายมาค่ะพี่ไม รีบไปรับท่านก่อนนะคะ”
เลียบเมืองรีบทำตามคำสั่งด้วยการขับรถเร็วมากขึ้น
ลดาวัลย์ กลับมาจากวิทยาลัยค่อนข้างมืด ยังไม่ทันลงจากรถแท็กซี่ เธอเห็นรถเชฟโรเล็ตสีดำติดกระจกมืด เธอให้แท็กซี่ขับผ่านเลยบ้านไป พร้อมกับสังเกตภายในบ้านไปด้วย จากห้องรับแขกซึ่งเป็นกระจกไม่ผิดผ้าม่าน ลดาวัลย์ลูกสาวจอมแสบของสุภาได้เห็นภาพทุกช็อต หน้าบ้านของเธอ มีชายสามคนกำลังซุ่มอยู่ ท่าทางเป็นพวกคุมบ่อนหรืออาจจะเป็นนักเลงหัวไม้ ในบ้านสุภากำลังนั่งรับรองแขกร่างอ้วน ซึ่งมาตามนัดหมายของอีกฝ่าย พร้อมกับบริวารสามคน
ลูกสาวคนเล็กของสุภาใจหายวะวับ รีบให้แท็กซี่ขับรถเลยบ้าน ใช้โทรศัพท์ซึ่งเพื่อนบอกว่าเอาไปแลกข้าวแม่ค้ายังให้ครึ่งจาน แต่ลดาวัลย์ต้องใช้ เพราะดีกว่าไม่มีใช้ เธอเคยเก็บเงินซ้อของแพงใช้ แต่มันก็หายเข้าไปในบ่อน ดังนั้นรุ่นไม่มีใครอยากได้จึงเป็นรุ่นที่ปลอดภัยสำหรับการใช้งาน เธอติดต่อหาเพื่อน เมื่ออีกฝ่ายรับสายเธอบอกว่า
“กูขอไปนอนค้างด้วยคน”
“มึงเพิ่งกลับไปจะมาหากูอีก มึงติดใจอะไรกู กูไม่ฉิ่งฉับนะอีเชี่ยะ”
“มึงนั่นละเชี่ยะคิดเห้... มึงไม่ต้องถาม รู้ไว้ว่า ที่บ้านกูหาความปลอดภัยไม่ได้แล้ว”
“อ้าวมีโจรไปอยู่แทนมึงแล้วหรือ”
“กูไม่เคยกลัวโจร กูมีปืนในกระเป๋า” ลดาวัลย์พูดอย่างขู่แท็กซี่ไปในตัว “แต่กูยิงแม่กูไม่ได้เข้าใจมั้ย ไม่ต้องถามห่าอะไรแล้ว นี่พี่ขับไปส่งตรงที่รับหนูมานั่นละ”ประโยคท้ายเธอสั่งแท็กซี่ให้ขับรถวนซอยถัดไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
“อีด๋า นี่กูจ่ายเงินค่ารถไปให้มึงเมื่อกี้อย่าบอกนะว่า มึงจะมาบีบคอกูอีก”
“เออ เออแค่นี้”ลดาวัลย์ไม่อยากพูดให้ว่าแท็กซี่ไปเก็บเงินที่เพื่อนข้างหน้า เพราะเธอไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะอ้างว่าต้องไปส่งรถ หรือว่าแก๊สหมด ไล่เธอลง เธอจะ หญิงฉลาดเอาตัวรอดเก่งอย่างลดาวัลย์จึงต้องเอาเปรียบคนใกล้ตัวไปพลางๆก่อน
แท็กซี่เลี้ยวเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เวลานั้นมีหญิงสาวสวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวเล็กยืนรอพร้อมกระเป๋าเงินในมือ
ลดาวัลย์ลงจากรถ โดยที่เพื่อนมาจ่ายเงินค่ารถให้ เมื่อรถไปแล้วจึงด่าอีกฝ่าย
“มึงกำลังแทะกูอยู่นะด๋า”
“มึงเงียบก่อนน่า ทีใช้ให้กูไปตบคนที่ด่ามึงกูยังไปตบรายตัวให้ทีเรื่องเงินเสือกทวงอยู่ได้” ลดาวัลย์ลำเลิกขึ้นบ้างคนจ่ายเงินจึงได้เงียบเสียงลงไป
ลูกคนเล็กของสุภาสะกิดใจขึ้นมาได้ว่า พี่สาวของเธออาจจะไม่รอด ซึ่งเธอมองนาฬิกาแล้วคาดเดาว่าอาจจะกำลังกลับบ้าน และนั่น พี่สาวเธออาจจะเป็นเหยื่อผีพนัน
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าของอำภาดังขึ้นมาอีก เป็นเบอร์โทรของน้องสาวอำภายิ่งห่วงมารดาขึ้นมาอย่างจับใจ
“ด๋า คุณแม่เป็นอะไรมากเหรอ ดูคุณแม่ก่อนนะ”
“พี่อยู่ไหน”
“กำลังกลับไปดูแม่จะถึงแล้วล่ะ คุณแม่โทรมาว่าไม่สบายมาก”
ลดาวัลย์เพิ่งรู้สึกว่ามารดาน่ารังเกียจเป็นที่สุดในเวลานี้เอง นี่คือสายเลือดของมารดา เลือดที่กตัญญูมากที่สุด ไม่ใช่ลูกที่เอาตัวรอดอย่างเธอไม่ใช่ลูกเลี้ยงอย่างวาสิฐี แต่เป็นอำภา ลูกที่แบกรับภาระล้นเต็มบ่า ทำไมแม่จึงเร่ขายลูกได้ลงคอ
ลดาวัลย์กลืนก้อนขมลงคอ เธอไม่เคยอ่อนแอ แต่เวลานี้เธออ่อนไหวอย่างที่สุด อำภากำลังกลับไปเพื่อช่วยมารดาเพราะคิดว่าผู้ให้กำเนิดกำลังเป็นอันตราย แต่ความจริง แม่กำลังให้เจ้าเสี่ยพุงพุ้ยมาที่บ้าน
เพื่ออะไรถ้าแม่ไม่ได้เงินก่อนใหญ่จากการส่งลูกไปเป็นเมียน้อย หรือไปเป็นเมียหลวงเพราะค่าของเงิน แม่จะมองด้วยสายการปลดภาระตามประสาคนคิดง่าย แต่ชีวิตของลูกทั้งชีวิต
“ด๋า แม่เป็นอะไร บอกพี่เร็วๆอย่าเงียบ”
“หนีไปเถอะพี่อ้ำ หนีแม่ไปเถอะ”
“ด๋า...”
ลดาวัลย์เปล่งเสียงร้องไห้โฮอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ต่อให้เคยโดนอำภาลงโทษความดื้อด้วยการหยิกตี แต่ลดาวัลย์ไม่เคยเจ็บอย่างนี้เลย เด็กสาวหมดแรงเดิน
น้องผู้เข้มแข็ง น้องสาวที่อำภามองว่าดื้อมหาวายร้าย บัดนี้ใครทำให้ร้องไห้เพียงนี้
“ด๋า เป็นอะไร”เสียงจากโทรศัพท์เป็นห่วงพอกันกับเพื่อนซึ่งเดินข้างกาย
“แม่พาคนมาที่บ้าน มีผู้ชายอีกสามคน แม่อาจจะพาด๋า หรือพี่ไปให้ไอ้บ้านั่นเพื่อล้างหนี้ พี่อ้ำ อย่ากลับบ้านนะ ด๋าไม่กลับไปแล้ว ไม่อยากอยู่กับคุณนายสุภาอีกแล้ว”
“ด๋า”
“ไม่ต้องห่วงด๋า ด๋าอยู่กับเพื่อน แต่แม่กำลังหลอกพี่อ้ำ แม่พาไอ้เสี่ยเหี้ยนั่นมางาบ ไม่พี่ ก็ด๋า แต่ด๋าเชื่อว่าเป็นพี่มากกว่า พี่อ้ำพี่อย่ากลับบ้านนะ ถ้าพี่ไม่มีที่อยู่ พี่มาหาด๋าก็ได้ ถ้าอีเพื่อนด๋าไม่ให้อยู่ด๋าจะกระทืบมัน”
“หาเรื่องกระทืบกูอีก แค่เห็นน้ำตามึงกูคิดว่าปีนี้น้ำอาจจะท่วมเมืองจีนทั้งประเทศก็ได้”
อำภา เงียบ นิ่งอึ้ง ถือโทรศัพท์ค้าง เลียบเมืองห่วงเป็นอันมาก เขาบีบมือที่กุมโทรศัพท์แน่น เขย่าเบาๆถามเสียงอ่อน
“ด๋าเป็นน้องสาวไม่ใช่หรือ มีอะไร เกิดอะไรขึ้นกับน้องหรืออ้ำ”
คำพูดของเลียบเมืองแสดงความเป็นห่วงยิ่งทำให้อำภาสะเทือนใจซ้ำ หยาดน้ำตาเอ่อท้น ก่อนหยาดรินลงมาอย่างเงียบงัน
“อ้ำ บอกพี่มีอะไร แม่หรือน้องเป็นอะไร มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย พี่ช่วยอ้ำได้ทุกอย่างนะ เชื่อพี่เถอะ”
“ช่วยเหรอคะ ช่วยจากการจำนองตัวอ้ำกับคนที่ด๋าโทรมาบอกว่าแม่หามาให้อ้ำหรือคะพี่ไม”
“ว่า...อะไรนะ อ้ำ...”
เลียบเมืองหาที่จอดรถข้างทาง อำภาทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เธอสับสน เธอหาทางเดินของชีวิตไม่ได้ เธอหมดหนทางเดินแล้ว ดิ้นต่อไปไม่ได้แล้ว เธอไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอทำอะไรผิดบาปมากไปกว่านี้อีกแล้ว
ชายหนุ่มดึงแขนหญิงสาวไว้ อำภาปลดมืออีกฝ่าย แต่เลียบเมืองดึงร่างสมส่วนเต็มมือเข้ามากอดแนบอก
“มีอะไร บอกพี่มาเถอะอ้ำ พี่อยู่ข้างอ้ำเสมอ”
“พี่ไมจะรู้อะไร พี่ไมจะเข้าใจชีวิตอ้ำหรือคะ”
“บอกสิ บอกพี่มาให้พี่รู้ ไม่ว่าเรื่องยากแค่ไหน พี่ต้องเข้าใจจนได้”
อำภาสอดแขนโอบกอดชายหนุ่มแน่น ร้องไห้โฮอย่างมิอาจกั้น จากนั้นถ้อยคำที่อัดอั้นตันใจมานานจึงได้หลั่งไหลออกมาตั้งแต่บ้านติดหนี้เป็นเงินห้าแสนบาท บัตรทุกใบเครดิตทุกใบที่อำภาใช้เต็มไปด้วยหนี้ ไม่มีปัญญานำรถที่ถูกยึดไปกลับมาขับ เธอจึงตะลอนนั่งรถเมล์ ไม่มีปัญญาแม้แต่นั่งแท็กซี่กลับบ้านทั้งที่เหนื่อยอ่อน บ่อยครั้งความเหนื่อยล้าทำให้นั่งสุดท้าย และต้องต่อรถกลับมาใหม่ ชีวิตของเธอยังทุกข์ไม่มากพอกับความต้องการมากเท่าการเล่นพนันของมารดา
“คุณแม่พูดมานานแล้ว เรื่องให้อ้ำแต่งงานไปกับเสี่ยเงินหนา แม่อยากหมดหนี้ แต่ชีวิตที่เป็นผีพนันจะหมดหนี้ได้หรือคะพี่ไม คนอย่างอ้ำน่ารังเกียจเกินกว่าที่พี่ไมคิดมากนัก อ้ำไม่สามารถให้ใครเข้ามาในชีวิตของอ้ำได้ ไม่อยากให้แม่รู้จักคนที่อ้ำรู้จักทุกคน”อำภาบอกเครือสะอื้น
เธอไม่ได้นินทาไม่อยากว่าร้ายแม่ให้ใครฟัง แต่ว่าใครที่กำลังกอดเธออยู๋ ไม่ใช่คนอื่นอีกแล้ว และสิ่งที่กำลังเกิดกับเธอมันเป็นเรื่องสุดทน ทำไมสาวสวยไม่มีคนรัก หลายคนสงสัย แต่อำภาไม่เคยแยแสสนใจใครมากกว่าครอบครัวกับภาระหนักอึ้ง ผู้ชายน่าตาดีเธอจะมีเมื่อไหร่ก็ได้
แต่หญฺงสาวสวยพร้อมคนนี้จะหาคนที่แม่เธอสามารถบอกขายเธอให้กับคนคนนั้นได้หรือกับเลียบเมืองเล่าเขาได้ฟังทุอย่าง ยังจะกล้าบอกอีกหรือว่าจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบชีวิตเธอ
“อ้ำ ให้พี่ช่วยนะ มันไม่ได้เหลือกำลังที่พี่จะช่วยอ้ำ”
“ไม่ได้ค่ะ พี่ไมเป็นแค่คนรัก”
“แล้วคนรักกันอย่างจริงใจด้วยความรักทั้งหมดของพี่ นั่นไม่ใช่คนที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันหรือ”
อำภายิ่งร้องไห้หนักมากยิ่งขึ้น เลียบเมืองกอดร่างหญิงสาว จูบปลอบเบาที่ข้างแก้ม
“ไม่ต้องทำงานหนักอีกแล้วที่รัก พี่จะใช้หนี้ให้เอง”
“อ้ำไม่มีอะไรตอบแทนอ้ำไม่มีค่าพอ”
“อ้ำ” เลียบเมืองประคองใบหน้างามซึ่งเปื้อนคราบน้ำตา “พี่ไม่ได้ฉวยโอกาส แต่พี่คิดมานานแล้ว อ้ำไม่มีเวลาให้พี่ ทำให้พี่คิด แต่เราต้องให้แม่รู้จักพอ ใช้หนี้ให้ท่านให้หมด ชีวิตเป็นของอ้ำ ตกลงมั้ย”
“พี่ไม...”
“อย่าว่าพี่เลยนะอ้ำ เพราะไม่อย่างนั้น อ้ำจะแบกรับภาระนี้ตลอดชีวิต อ้ำไปอยู่กับพี่เถอะ แม่อ้ำไม่ต้องการอะไรเท่ากับเงิน เราจะส่งให้ท่านเท่าที่เรามีให้”
อำภาอับอายเหลือเกินที่ได้ยิน แต่ไม่อาจไม่ยอมรับความจริง ถ้าเธอไม่เลือกทางเดินสายนี้ ชีวิตของเธอต้องจบที่เสี่ยและไม่แน่ว่าจะเสี่ยกี่คน
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้า เป็นสายของมารดา อำภามองหมายเลขอย่างใช้ความคิด หยาดน้ำตารินรดหน้าจอโทรศัพท์ ในที่สุดเธอตัดสินใจรับสาย
“คะแม่”
“แม่กำลังแย่นะทำไมไม่รีบกลับ”
“ด๋าอยู่หรือเปล่า”
“อีลูกเวรนั่นจะไปพึ่งอะไรมันได้ ขืนมันมาเห็นแม่นอนเป็นลม มันคงได้จุดแก๊สรมควันให้แม่รีบตายน่ะสิ”
แม่ใส่ร้ายได้กระทั่งลูกตัว เพื่อให้ได้รับความเห็นใจเป็นมาตลอดตั้งแต่พี่สาวต่างแม่โดนรับการกระทำ
“เสี่ยหมายอยู่บ้านใช่มั้ยคะแม่”
“แกรู้ได้ยังไงอ้ำ เอ่อไม่มี ไม่จริง”
“แม่เอาเงินเขามาเท่าไหร่คะ วันนี้เขาถึงมาที่บ้าน”
“แกอย่าพูดมากเลย รีบกลับบ้านมาเร็วๆก็แล้วกัน”เสียงคนที่บอกว่าป่วยตวาดดังลอดไปให้เลียบเมืองได้ยิน ชายหนุ่มวางท่าทีเฉยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของอำภาในเวลานี้
“อ้ำจะไม่กลับบ้านอีกแล้วค่ะแม่ อ้ำไม่ยอมให้แม่เอาตัวอ้ำไปพนันกับใคร”
“อีอ้ำ อีลูกอกตัญญู กลับมานะ กลับมาเดี๋ยวนั้น แกอยากจะให้เสี่ยบีบคอแม่ตายหรือไงที่ไม่ได้แกคืนนี้”
อำภาปิดสายร้องไห้ คิดว่าตัวเองใจดำ ที่ปล่อยให้มารดาเป็นอย่างคำขู่ แต่มารดาเธอพูดออกมาแต่ละครั้งเธอไม่รู้ว่าไหนจริงคำไหนเท็จ เธอแยกไม่ออกแล้ว
เลียบเมืองเคลื่อนรถออกไปยังจุดหมายของชีวิต แต่เขาบอกบางอย่างให้อำภาสบายใจ
“พี่จะแจ้งตำรวจให้เข้าไปดูที่บ้านอ้ำนะ อย่ากลัวว่าคนพวกนั้นจะร้ายแม่อ้ำได้”
“ขอบคุณค่ะ พี่ไมหัวหมอจริงๆค่ะ” เธอเอ่ยเครือเสียงหัวเราะปนอออกมา
เลียบเมืองกำลังทำหน้าที่นำทางชีวิตของอำภา ซึ่งอาจจะรวดเร็ว แต่สถานการณ์นี้ เขาไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย มันอาจจะสายเกินไป!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2555, 22:25:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2555, 22:25:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1950





<< ดาบอัศวิน   สอนได้สั่งไม่ได้ >>
Thananya 13 พ.ค. 2555, 00:31:24 น.
ชีวิตสองสาวที่มีแม่หน้ามืดผีพนันเข้าสิงนี่น่าสงสารจริงๆ จะร้องไห้ตาม
ไม่เคยเห็นมีใครรวยยั่งยืนเพราะการพนันสักคน ทำไมติดกันจังนะ เฮ้อ


Zephyr 13 พ.ค. 2555, 08:28:08 น.
เฮ้อ นี่หรือแม่คน สงสารอ้ำสุดใจ
การพนันทำให้คนลืมทุกอย่างจริงๆ แม้แต่ลูกก็ทำกันได้ เป็นแม่แบบไหนกัน
คนแบบนี้สมควรเป็นแม่คนด้วยหรือ


nutcha 13 พ.ค. 2555, 16:07:58 น.
ถ้าใครโดนผีมันสิงแล้วก็ไร้ซึ่งคำว่าผิด ชอบ ชั่ว ดี ทั้งนั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account