รักสุดสายที่ปลายรุ้ง (ไฟปรารถนา)

ความรัก ความผูกพัน และความกตัญญู สิ่งไหนในหัวใจคน ที่ต้องมาก่อน ต่างคนต่างใจ รอพิสูจน์จากหลากหลายชีวิต
Tags: รัก ต้องได้ ครอง

ตอน: สอนได้สั่งไม่ได้


แป้งนำรถเข้าเก็บขณะที่วิลล์เดินเข้าตึก ลำไยทำหน้าที่เปิดประตูและปิดเรียบร้อย
“ขอบใจ ต้องลำบากรอฉันทุกคืน”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณวิลล์ขา”
“เรียกอะไรนะ”
“คุณวิลล์”
“ได้ยินวิลล์ขา ฟังชอบกล”
“เอ่อ แห่ะ” แม่บ้านไม่รู้จะหาคำอะไรมาอธิบายให้ชายหนุ่มได้ฟัง
ร่างสูงใหญ่เดินขึ้นชั้นบน ไฟผนังเปิดส่องทาง ชายหนุ่มผ่าน ห้องใหญ่ของมารดา และถัดไปเป็นห้องพระ ห้องพรรณยุดาอยู่ตรงข้ามกับวาสิฐี แสงไฟลอดจากช่องเล็ก ๆ ใต้ประตูไม้ บอกให้รู้ว่าในห้องมีคนอยู่ ใจคนหนุ่มพองวาบด้วยความดีใจ เขาหยุดเคาะเรียกหาสองครั้ง
วาสิฐีปิดหนังสืออ่านเสริม ลุกจากเก้าอี้ทักนำมาก่อนเปิดประตูว่า
“นอนไม่หลับหรือยุดา”
หญิงคนงามชะงักคำ เมื่อร่างสูงยืนเท้าประตูยื่นหน้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ กระทบจมูก ริมฝีปากสวยเอ่ยเรียกเสียงอ่อนแววตาเปิดเผยจากใจ
“ว้าสจ้า”
“พึ่งกลับเหรอคะน้าวิลล์ กลับดึกจังเลย”
“ถ้ารู้ว่าว้าสว่าง น้าจะเลิกนัดทั้งหมด”
น้าวิลล์ขาอย่าหวานกับว้าสอย่างนี้เลยใจวาสิจะขาดอยู่แล้ว!!
“เป็นนักธุรกิจใหญ่จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันคะ”
“คิดถึงมาก” เขาหันหน้าลงไปใกล้วาสิฐีรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใจเต้นรัวระทึกวิลล์ยิ้มในสีหน้า แววตาสีน้ำเงินเปล่งประกายระยับ
“นอนเถอะดึกมากแล้วกู๊ดไนท์”
“ราตรีสวัสดีค่ะ”
เขาไม่ยอมไปเธอก็ไม่กล้าปิดประตูสักครู่เขาจึงไปพักผ่อนแต่โดยดี โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้เป็นต้นเหตุให้จิตใจที่สงบมิอาจหลับใหลได้
วิลล์ในชุดนอน เดินออกมาจากห้องแต่งกายแล้วมานอนเหยียดยาวบนเตียง ดึงหมอนมากอด พลางคิดถึงสาวคนที่เพิ่งจากมา เขาอยากอยู่กับเธอเหลือเกิน อยากให้เธอมานอนแนบข้าง ให้ได้สมรักทุกคืน ไม่ต้องนอนฝันหวานอยู่อย่างนี้ เขาน่าที่จะพูดกับมารดาของเขาเพื่อขออยู่กับวาสิฐี...วิลล์คิดแล้วยิ้มให้กับตัวเองด้วยคิดถึงความสำเร็จไปรออยู่ก่อนแล้ว
อำภาสวมชุดนอนซึ่งเป็นของอพาร์ตเม้นต์ชั้นดี เปิดเช่าเป็นรายวันและรายเดือน เลียบเมืองให้บัตรเครดิตของตนเองไว้กับอำภา หญิงสาวพลิกบัตรทอง บัตรเครดิตซึ่งสามารถใช้ได้ทั่วโลก เขาให้แล้วจากไป ทิ้งเธอไว้ให้อยู่คนเดียว หญิงสาว อยากโทรไปหามารดา
ลดาวัลย์ในชุดนอนบางพลิ้ว เช่นเดียวกับเพื่อนสาวซึ่งยังนั่งอุดหูทั้งสองข้าง เอลดาวัลย์ปิดสายโทรศัพท์แล้ว
“นี่ถ้าไม่บอกไม่รู้นะว่าใครเป็นใคร”
“กูรึห่วง คิดวาพี่อ้ำจะกลับบ้าน แต่พอแม่ด่าไฟแลบอย่างนี้กูรู้เลยว่าพี่กูไม่ต้องซวยกับชีวิตซ้ำซ้อน”
“แม่มึงเนี่ย ถ้าไม่บอกกูคิดว่าเป็นแม่เล้า”
“ถ้าด่าแม่กู มึงโดนตบ”ลดาวัลย์ขู่ เพื่อนสาวจึงร้องเสียงโหย
“กูคิดถึงข่าวแม่ตระเวนขานลูกสาวที่พัทยา ไม่ตั้งใจว่าแม่มึงสักนิด”
เสียงโทรดังมาอีก ลดาวัลย์ทำท่าจะกดปิด จึงเห็นว่าเป็นเบอร์โทรของพี่สาวจึงเปิดรับ
“พี่อ้ำ ด๋าเพิ่งโทรไปให้แม่ด่า ท่าทางยังสบายดี สองวันพี่ค่อยกลับ ว่าแต่พี่อยู่กับใคร กับพี่คนนั้นเหรอ”
“เปล่า อยู่คนเดียว มาอยู่กับพี่ก็ได้นะด๋า”
“ที่ไหนล่ะ”
อำภาบอกสถานที่ ลดาวัลย์ รับคำ
ห้าทุ่มเศษ
เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้น อำภายังไม่อาจนอนหลับ เดินมาเปิดประตุรับพลางถาม
“มาแล้วหรือ”
“ใครหรือ”เสียงอ่อนหวานดังแทรกเข้ามาจากชายร่างสูงโปร่ง อำภาค่อนข้างตกใจที่เห็นเลียบเมืองไม่ใช่ลดาวัลย์น้องสาวอย่างที่เข้าใจ
“พี่ไม มาทำไมคะ”
“เอาของใช้มาให้อ้ำ เสื้อผ้า แล้วก็...”
“ก็กลับไปสิคะ”
“กลับไปถึงบ้านแล้ว วนกลับมาอีก นอนไม่หลับ”เขาปิดประตูห้อง อำภาเสมองถุงกระดาษหลายถุงในมือของชายหนุ่ม
เลียบเมืองวางถุงกระดาษทั้งหมดไว้บนเก้าอี้ใกล้ประตูห้อง ดวงตาคู่คมจับนิ่งที่ร่างงามของอำภา หญิงสาวใจสั่น อยากตะโกนไล่ แต่หัวใจอ้างว้างกลับกดตัวเองให้นิ่ง และสั่นด้วยความประหม่าร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ อำภาถอยหลังติดเตียง เลียบเมืองเหลือบสายตาเห็นแล้ว เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ อำภาเสียงหลังจึงล้มลงบนเตียงสปริงง่ายดาย ร่างสูงทาบทับ แขนทั้งสองคร่อมร่างงามเอาไว้กันการหลบหนี
ใบหน้างามของชายหนุ่มก้มลงเคล้าคลึงดวงหน้า ซึ่งเลี่ยงหลบอยู่ไปมา ความอ่อนไหว โหยหาของอารมณ์หนุ่มสาวเข้าครอบงำ เลียบเมือง จูบละเรื่อย หน้าผาก พวงแก้ม ซอกคอ เรียวลิ้นฉกเข้าติ่งหู ชายหนุ่มขยับตัวเล็กน้อย เพื่อปลดสายผูกชุดคลุมของหญิงสาวออก ความละอายใจทำให้อำภาดึงมืออีกฝ่ายไว้ หากมือเรียวใหญ่อีกข้างของเขา กับลูบไล้ความงดงามของปทุมถันเบาสลับ หญิงสาวเคลิบเคลิ้ม ล่องลอย คราวเสียงเบาพลิ้ว ราวกับตกอยู่ในห้อวงแห่งความฝัน เรียวแรงที่มีพานหาย ร่างงามนิ่ง ปล่อยชายหนุ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในกาย เหวี่ยงทิ้ง ความงดงามละลานตาปรากฏแก่สายตาคม ซึ่งกวาดมองถ้วนทั่ว อำภาละอายใจยิ่งนักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอเปลือยเปล่า หญิงสาวดึงผ้าห่มมาคลุมกาย ชายหนุ่มเกิดความพุ่งพล่าน ความแกร่งของเรือนกายยิ่งฟ้องร้องอยากออกมาสู่โลกภายนอกให้หญิงสาวได้เห็นว่า ชายอย่างเขามีความยิ่งใหญ่น่าครอบของเป็นเจ้าของมากเพียงใด
ร่างเปลือยของเลียบเมืองเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับอำภา ก่อนที่เขาจะเหวี่ยงมันทิ้งออกไปอีก ความเสียวซ่านก่อกำเริบ แทงทะลุไปทั่วทุกอณุเนื้อความประหม่าทำให้ มือเรียวยึดผ้าปูที่นอนขยำรวบเข้ามาไว้เต็มกำ ริมฝีปากสวยถูกจุมพิตเนิ่นนาน ครู่หนึ่งเลียบเมืองปล่อยออก ทอดสายตามองหญิงสาวอีกครั้ง หญิงนี้เขาแน่ใจได้เลยว่าไม่เคยถูกชายใดจูบมาก่อน ดวงหน้างามถูกเลือดในกาย ฉีดซ่านแดงจัด ชายหนุ่มลูบไล้ ระเรื่อยไปตามเรือนกายด้วยความรัก ความพอใจ เนื้อเนินอุ่นอิ่ม
ร่างงามขาวโพลน เลียบเมืองก้มจูบด้วยความเสน่หาเปี่ยมล้ม เธอมีความงดงามยิ่งกว่าสตรีทุกคนที่เคยผ่านมาในชีวิตหนุ่ม ที่ปลดปล่อยอารมณ์ตามธรรมชาติเรียกร้อง ร่างเปลือยของเขาทาบทับบนร่างสวยงามนั้น หญิงสาวถึงกับหวาดผวา เขาจูบริมหูเอ่ยคำหวานปลอบกระซิบมิให้แตกตื่น ฝังจมูกซุกไซร้ไม่เลือกที่ใด เธอหอมไปทั้งตัว อำนาจดำกฤษณาพาให้จมดิ่งสู่ห้วงเหวโลกีย์
“พี่แทบคลั่งแล้วรู้มั้ย” น้ำเสียงสั้นพร่า คล้ายคลั่งจริงดังคำ เขาโถมเบียดแน่นไล้เลียเนินเนื้อเนียนละเอียด เธอบิดกายเสียวสะท้ายทุกคราที่ได้รับรอยอุ่นจากริมฝีปาก เขาจูบด้วยรอยจุมพิตอ่อนหวานทั่วร่าง โดยเฉพาะสองบัวตูมคู่ ซึ่งมีปลายยอสีชมพูสดสวยรอให้เขาลิ้มชิมรส เมือเรียวยาวซุกซนด้วยความชำนาญ ลูบไล้เนื้อเรียบลื่น เหมือนแพรไหมที่หายากยิ่งในโลกนี้ด้วยความลื่นมือนั้นแทรกความอบอุ่นเต็มมือ
ความอุ่นชื้นได้ที่กำลังรอรับการสอดประสานด้วยความสุกงอมแห่งอารมณ์ เรียวขาสองข้างถูกแยกด้วยเข่าแข็งแรง ความเป็นชายแทรกเข้า ยากเย็นจนมิอาจรีบร้อน ค่อยคืบพาตัวเข้าทีละนิดจนจมดิ่งหายไปทั้งกาย ไม่มีสิ่งใดเคยผ่านมาก่อนเลย...เลียบเมืองมั่นใจ
“อา...”เธอครางครวญเจ็บร้าว ชายหนุ่มจุมพิตอ่อนโยนปลุกปลอบในที
“เจ็บมากมั้ย ที่รัก ฟิตดีเหลือเกิน อ้ำจ๋า อื้ม” เขาคลายท่าทีหักโหม
จูบปลอบ ผ่อนแรงช้าๆ ซุกจมูกจูบซอกก้ม จนกระทั่งเขาและกร่อนกายเกร็งสะท้ายเมื่อทุกอย่างถึงจุดหมาย ครู่หนึ่งจึงลงนอนแนบข้างรั้งเธอมากอดไว้ในอ้อมแขน อำภาซุกหน้ามิให้เขาเห็นหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
“อ้ำยอดเยี่ยมที่สุดเลยรู้มั้ยที่รัก”
เขาจูบลงบนเรือนผมนุ่มสลวย ขยับย้ายไปยังเรียวปากร้อนผ่าวยังคงดูดดื่ม อยู่บนยอดอกหญิงสาวด้วยความรุ่มร้อน หื่นหิว ขณะที่มือทั้งสองรุกรานรวดเร็ว อาการยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุราวกับเจ้าเด็กหัวดื้อ ทำให้อำภา พาลโกรธ เพราะเจ็บไม่คลาย หากในความโกรธแอบแฝงความตื่นเต้นอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธ เมื่อคิดไปว่าเขากำลังจะทำอะไร
เขาดึงขาทั้งสองของหญิงสาวแยกห่างจากกัน อำภาหลับตาแน่น ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกช้อนลุกจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่ไม”
ฝักบัวถูกเปิดน้ำราดรดบนร่างได้ส่วน หยาดน้ำไหลลงตามเนินอกแสนสวย ปลายยอดมีพรายน้ำเกาะราวกับเป็นน้ำค้างยามเช้า เลียบเมืองมองภาพหญิงสาวราวกับตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง ริมฝีปากได้รูปครอบครองปลายยอดเล็กๆ ลิ้มรสความเย็นของสายน้ำและความอ่อนหวานด้วยความรู้สึก ปลายนิ้วชายหนุ่มทำความสะอาดชำระล้างสิ่งที่ผ่านไปก่อนหน้านี้ ไม่นานนักเขาผิดฝักบัว แล้วฉวยหยิบผ้าเช็ดตัวบนราวผ้ามาซับตามร่างกายหญิงสาวอย่างทะนุถนอม รอยแดงปรากฏบนผิวขาว เขาแตะริมฝีปากราวกับว่ากำลังแต้มยาวิเศษให้กับเธอ อำภากอดชายหนุ่มเอาไว้พยุงกาย เลียบเมืองแสนดีจึงได้ช้อนร่างเธอโอบอุ้มกลับไปที่เตียงอีกครา ครั้งนี้เขาเริ่มนำความแปลกที่สุดเท่าที่หญิงสาวควรเรียนรู้ ความงามที่สามีทุกคนอยากแห่งสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ของภรรยา แม้เวลานี้มีรอยช้ำเพราะการบุกเบิกครั้งแรก แต่ไม่ได้ทำให้อำภาเจ็บช้ำมากเกินไปนัก แต่เมื่อชายหนุ่มก้มหน้าไปหอมกลิ่นดอกไม้สุดสวย อำภาถึงกับยกมือปกปิดด้วยความกระดากอาย แต่นั่น คือสิ่งที่ผู้ชายต้องการที่สุด
ความอายคือสิ่งกระตุ้นให้เขาได้ค้นหา ความอยากลิ้มรสน้ำหวานยิ่งมากเป็นหลายเท่า เพียงแตะแต้มปลายลิ้นอุ่นชื้นไปยังปลายอดเกสร หญิงสาวสะดุ้งครางร้องราวกับถูกทำร้ายด้วยความหวานแปลกล้ำ
ลำคอเธอแห้งผาก และดื่มด่ำกับความอ่อนหวาน เลื่อนตัวเองขึ้นมาจูบริมปากหญิงสาว อำภาหอบหายใจอื้ออึง ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงที่เขานำพา
ริมฝีปากเขาเขาบดขยี้ลงกลีบดอกชั้นใน เต็มอิ่ม ร่างหญิงสาวสั่นระริกจนรับรู้ได้ อาการถึงจุดที่หมายของหญิงสาวมาถึงแล้ว และอีกครั้ง
“พี่ไม พอแล้ว พอแล้ว มาหาอ้ำเถอะค่ะ อ้ำอยากรู้”
“”ได้สิคะ ที่รัก”เลียบมือขานรับด้วยความเต็มใจ ค่อยประคองความแกร่งเข้าที่เข้าทาง แม้คับด้วยความรัดรึงไม่ต่างจากคราแรก อำภาเสียวจัดไม่แพ้กันกับคนรักของเธอแต่เธอช่างกล้าหาญ ที่สอดรับราวกับว่าให้ข้าศึกจู๋โจมถึงกำแพงในคราวเดียว เพื่อการสู้รบตัวต่อตัวจะได้โรมรันกันอย่างที่เธอพร้อมแล้ว เลียบเมืองปลดปล่อยอารมณ์ร่วมไปกับหญิงสาว
ทั้งสองครางสั่นพลิ้วราวกับเสียงของคนใกล้ขาดใจ ในเวลาเกือบพร้อมกันเมื่อเลียบเมืองรู้สึกได้ว่าความอบอุ่นในร่างกายของเขา พุ่งเข้าไปในร่างหญิงสาวจนหมดสิ้น
ร่างสูงใหญ่เกร็งสั่นเทิ้มจนต้องโอบกระหวัดรัดร่างหญิงสาว ซึ่งอ่อนซบโอบกอดเขาไว้เพื่อพยุงกายกระตุกซ้ำสองของหญิงสาวได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มเกรงว่าน้ำหนักของเขาจะทำให้เธอหายใจไม่สะดวกจึงได้พลิกร่างลงไปนอนแนบข้างแล้วดึงร่างของหญิงสาวลงไปนอนกอดแนบแน่นเต็มสุขลึกล้ำ ไม่ลืมสัญญา
“ชีวิตพี่ไมอยู่ในกำมือของเมียแล้ว อยากได้อะไรพี่ไมคนนี้จะหามาให้เมียทุกอย่าง ไม่ให้เมียพี่คนนี้ต้องลำบากอีกแล้ว”
“พี่ไม...อย่าทิ้งอ้ำนะคะ”
หญิงสาวเว้าวอนกับอ้อมอกแข้งแรง ราวกับเป็นกำแพงคุ้มภัยให้กับเธอตลอดชีวิตนี้แล้ว เลียบเมืองจูบแก้มหอมกรุ่น
“ไม่มีทาง ไม่มีวันนั้นสำหรับพี่ ไม่มีวันที่พี่จะทิ้งเมียพี่คนนี้แน่นอน”
อำภาพริ้มตาหลับ รู้สึกตื่นเต้น และค่อยอ่อนเพลีย หายใจแผ่ว หลับใหลไปท่ามกลางความไว้วางใจผู้ชายที่เขาเรียกเธอว่า เมีย!!
บ้านสราญจิต
ทุกเช้าประมุขของบ้านจะออกกำลังกายโดยเดินเล่นในสวนพร้อม รองศาสตราจารย์นายแพทย์เดวิดผู้เป็นบุตรชายส่วนพรรณยุดาถ้าเป็นวันหยุดจะนอนตื่นสาย
คุณหญิงทอดถอนใจให้ลูกชายสังเกตได้จึงไถ่ถามห่วงใย ประคองท่านนั่งเล่นที่เก้าอี้ไม้ยาวตั้งริมสระน้ำหลังตึกเขานั่งเคียงข้าง
“คุณแม่มีอะไรไม่สบายใจหรือครับ”
“วิลล์ เขาชอบพอวาสิฐีหรือ”
“เออคุณแม่ทราบได้อย่างไรครับ”
“เมื่อคืนแม่เห็นโดยบังเอิญ”ท่านปกปิดว่ารู้มาจากหญิงมุกดา “ ถึงแม้จะรักและเอ็นดูวาสิมากแต่สิ่งนี้วาสิถือขึ้นมาเป็นสะใภ้แม่ แม่ไม่ยอมจริง ๆ”
นายแพทย์เดวิดกุมมือมารดาบีบเบาอย่างอ่อนโยน เขารักวาสิฐีใกล้ชิดในฐานะศิษย์อาจารย์อีกทั้งยังเป็นผู้ปกครอง เขารู้ว่าวาสิฐีมีความรักให้กับวิลล์ เป็นความรักที่หญิงสาวปกปิด หากน้องชายของเขากลับอยากเปิดเผย และสิ่งที่หญิงสาวกลัวได้เริ่มขึ้นแล้ว ความเหลื่อมล้ำทางฐานะและชาติตระกูล
“คุณแม่สร้างบุคคลากรขึ้นมาคนหนึ่ง เธอมีจิตสำนึกที่กตัญญูรู้คุณ”
“หมอหมายความว่าอย่างไร”
“วาสิเจียมตัวเสมอมา เธอเป็นเด็กดี ทำไมคุณแม่จึงยอมรับเธอไม่ได้ล่ะครับ”
คุณหญิงรู้สึกเจ็บจิ๊ดราวถูกเข็มแหลมทิ่มแทง วาสิฐีเจียมตัวหรือว่าอะไร ท่านไม่เข้าใจ สีหน้าสดชื่นมีความสุขของวิลล์ทำให้มารดาแน่ใจว่าลูก รักเด็กในบ้านอย่างแน่นอน
“แม่ยอมรับสิ่งนี้ไม่ได้ ทายาทของสายเลือดทางแม่ ทางบราวน์ ไม่อาจจะยอมรับเด็กในบ้านได้”
เดวิดนิ่ง ไม่โต้ตอบ หากโอบบ่าของมารดา ซึ่งสั่นสะท้านด้วยการร่ำไห้
“อย่าคิดมากเลยครับคุณแม่ ยังไงวาสิฐียังคงเป็นวาสิฐีที่พร้อมจะจากไปเพื่อคุณแม่อยู่แล้ว”
“หมอ...ทำไมล่ะทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ วาสิฐีอยู่ที่นี่ ทำงานโรงพยาบาลไป แล้ววิลล์แต่งงานกับคนที่แม่เลือก ทำไมเรื่องจึงเป้นอยางนี้ไม่ได้”
“ไม่มีใครได้โดยไม่มีการสูญเสีย คุณแม่เคยสอนผมนะครับ”
คุณหญิงส่ายหน้าไม่อาจยอมรับความจริงนั้นได้ ใช่ท่านสอนลูก สอนทุกคน หกว่าเมื่อท่าต้องสูญเสีย ท่านมิอาจยอมรับได้ ทำไมเล่า หญิงมุกดาจึงไม่อาจเอาชนะใจลูกชายดื้อด้านของท่านได้ คิดแล้วคุณหญิงจึงหาวิธีรวบรัดด้วยตัวของท่านเอง!!
เวลาต่อมาอีกเช้าวันหนึ่ง
ลำไยเดินนำ หม่อมหลวงมุกดามาที่ห้องอาหาร เธอไหว้ทักทาย คุณหญิงจิตตรี นายแพทย์เดวิดและ แพทย์หญิงทอแสง รวมทั้งวิลล์ชายหนุ่มที่เธอพึงพอใจ
วิลล์เลื่อนเก้าอี้ให้อย่างสุภาพบุรุษ พรรณยุดา วาสิฐี เคารพนอบน้อมต่างฝ่ายต่างมีจริยาอันงดงามต่อกัน
“หญิงมารบกวนหรือเปล่าค่ะเนี่ย” หญิงมุกดาเอ่ยกับทุกคนน้ำเสียงเบาเช่นเคย
“น้าเชิญมาร่วมในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง วันนี้เป็นวันหยุดเรามีสังสรรค์กันบ้าง จะไปพักที่สวนจ้ะ”
“น่าสนุก พี่วิลล์ว่างงานแล้วหรือคะ” ครานี้หันไปทางหนุ่มรูปงาม
“ไปกันหลายคนก็คงสนุกดี”
“ฟังแปลก เอ่อหญิงคงไม่” เธอทำท่าเกรงใจ แต่กลับไปย้อนถามวาสิฐี “วาสิฐีพี่ขัดคอเธอกับคุณวิลล์หรือเปล่า”
วาสิฐีค่อนข้างตกใจกับคำกล่าวของหญิงสูงศักดิ์กว่า จนช้อนกระทบขอบจานมีเสียง เธอ รีบปฏิเสธ
“ขัด ขัดคออะไรกันคะคุณหญิง วาสิไม่ได้ เอ่อ”
วาสิฐีเหลือบแลมองคุณหญิงจิตตรี เธอได้เห็นว่าสายตาผู้อาวุโสสุดที่เหลือบแลมาเล็กน้อย ซึ่งเคยมีแววตามาก หากขณะนี้มีความหวาดระแวง คาดคั้น ไร้เมตตา หญิงสาวอยากร้องไห้ แล้ววิ่งหนีไปให้สุดขอบฟ้า
ทุคนมองไปที่วาสิฐีอย่างไม่ตั้งใจรวมทั้งวิลล์ หญิงสาวซึ่งมีอาการผิดปกติ และชายหนุ่มสาวแคร์ความรู้สึกของวาสิฐีเป็นอันมาก เขาเรียนรู้วาจาประชดมาจากการใช้ชีวิตประจำวันดังนั้นเขาจึงตอบหญิงมุกดาตัดหน้าวาสิฐี
“ไม่มีใครมาขัดคอหรอกครับ ดีนะครับเที่ยวกันหลายคน ผมจะชวนแมค ชวนที และถ้าพวกเขามีเพื่อนๆมาด้วยจะสนุกมาก”
พรรณยุดาแอบมองค้อนหญิงมุกดา และเทใจให้คะแนนน้าชาย ส่วนอีกฝั่งของความหวัง เธอแสนขุ่นเคืองกับเมืองเอกซึ่งมีท่าทีไม่ชัดเจน และหายเงียบไป เธอเองไม่ยอมโทรศัพท์หาแม้จะคิดถึงมากเพียงใดก็ตาม วันนี้น้าชายบอกว่าจะชวนเมืองเอกมาด้วย
หญิงมุกดาเริ่มไม่พอใจต่อการกระทำของวิลล์ซึ่งนอกจากปกป้องวาสิฐีอย่างออกนอกหน้าแล้ว เขายังทำตัวไม่รักษามารยาทด้วยการให้สาวใช้ไปหยิบโทรศัพท์มาให้ระหว่างทานอาหาร คุณหญิงทักท้วง
“เดี๋ยวค่อยโทรก็ได้วิลล์ เอาแต่ใจเหมือนเด็กอย่างนี้เสียมารยาทในการทานอาหาร วิลล์รู้หรือทำเป็นไม่รู้”
“วิลล์เป็นอย่างนี้ ทุกคนก็ทราบ คุณหญิงมุกดาเป็นสมาชิกใหม่ คุณหญิงควรรู้ไม่ใช่หรือครับ”เขาโต้มารดาเหมือนครั้งเมื่ออายุสิบขวบไม่มีผิด อาละวาดอยากได้ของที่ต้องการ ไม่สนใจมารยาท และทุกคนต้องเอาใจ เด็กชายคนนั้น
วันนี้ทุกคนยังได้แต่มองการกระทำของวิลล์อย่างไม่กล้าทัดทาน
หญิงมุกดารู้สึกหน้าชาไปทั้งแถบกับการโดนประชดกลับ
กริ่งโทรศัพท์ของเมืองเอกดังขึ้น เขาลุกจากวงทานอาหารเช้าไปรับสาย ครู่หนึ่งจึงได้เดินกลับมา พร้อมกับอาการจับผิดของมารดา เมืองเอกรายงานว่า
“วิลล์ลูกชายคุณหญิงจิตตรีชวนไปพักที่สวนของเขา”
“เอาหนูบุษไปเที่ยวด้วยคน”
“อย่าเลยครับเขาไปกันหลายคน” เมืองเอกปฏิเสธไม่ให้มีพิรุธ เพราะคิดว่า พรรณยุดาต้องไปด้วย แค่คิดก็ใจเต้นระทึกราวกับลั่นกลองรบอยู่แล้ว
“แกน่าจะแต่งงานกับหนูบุษได้แล้วนะแมค หมั้นกันมาหลายปีจนผู้หญิงอายุมากแล้ว เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้”
“ผมยังไม่พร้อมครับคุณแม่”
“แกพูดคำนี้มาหลายปีแล้วนะ เจ้าไมอีกคน อ้างแต่เข้าเวร ไม่ยอมกลับบ้าน สักวันจะสะกดรอยว่ามีเวรมีกรรมที่ไหนกันแน่”
เรื่องนั้นเมืองเอกก็ไม่รู้ เขาได้แต่ทำงาน และว้าวุ่นกับปัญหาที่เขายังไม่กล้าตัดสินใจ วันนี้ยังได้แต่หวังจะพบพรรณยุดา ทั้งที่กลัวคำถามของเธอว่าทำไมไม่ติดต่อไป!!
เวลาเกือบสามโมงเช้า ขบวนรถของบ้านสราญจิตได้เคลื่อนออก โดยที่คุณหญิงดึงหญิงมุกดาให้ไปกับวิลล์ และท่านนั่งไปด้วยเป็นการกำกับลูกชาย ซึ่งท่านค่อนข้างเหนื่อยเพราะความดื้อของวิลล์ สุธีและเมืองเอกตามไป
สิบเอ็ดนาฬิกาทุคนจึงพร้อมกันที่บ้านสวน ซึ่งเป็นเรือนไทย
โต๊ะยาวถูกจัดเตรียม แม่ครัวเอกคือยายแป้นผู้ช่วยมือหนึ่งคือลำไยเด็กสาวอีกสองคนช่วยกันจัดเตรียมอาหารสด ไว้รอนาย เหมือนแขช่วยไม่วางมือ หากงามพริ้มเลี่ยงไปทางอื่นเสีย
นายทิ้งผู้เป็นบิดาและนายแป้งช่วยกันตั้งโต๊ะทำความสะอาด คุณหญิงจิตตรีนั่งเล่นบนเก้าอี้นอนข้างสระน้ำกว้างยาวหลายสิบเมตรกลางสระน้ำมีศาลารูปทรงไทยไว้นั่งเล่นมีสะพานทอดข้ามไปได้
จักรยานน้ำผูกที่ท่าสองคัน คุณหญิงมุกดาตื่นเต้นถึงกับออกปากชวนวิลล์ลงไปนั่งเล่น พรรณยุดาชวนวาสิฐีลงเล่นเรือ แต่คุณหญิงจิตตรีท้วงไว้
“ยุดาอย่าตามไปราวีน้าชายเราเลยน่า”
“ก็” พรรณยุดาทำหน้าบุ้ย เมืองเอกเอ่ยทันทีว่า
“ไปที่ศาลาไทยกันมั้ยท่าทางลมเย็นดี ผมขออนุญาตนะครับคุณแม่ไปที”
“เฮ่ยฉันสนใจงานครัว นายไปดักเจ้าวิลล์ดีกว่า” เขาเปิดทางให้เพื่อนและตัวเอง
สุธีมองเหมือนแขด้วยสายตาเจ้าชู้ เขาสะดุดตาเธอตั้งแต่วันงานต้อนรับการกลับมาของวิลล์ วันนี้เขาเพิ่งได้เห็นอีกฝ่ายได้ชัด เด็กในปกครองของคุณหญิงสวยๆทั้งนั้น แต่เขาไม่สามารถมองวาสิฐีได้ และไม่คิดมอง เพราะถือคติ หญิงของเพื่อนคือแม่ของเขา ห้ามแตะต้อง เป็นสุภาษิตของลูกผู้ชายไทยแต่โบราณ
เหมือนแขร่างอวบดูนุ่มนวลถูกชะตา เขาเตร่ไปชวนเที่ยวชมสวนไม้ร่มรื่น หมอทอแสงชี้ชวนให้สามีดูหนุ่มสาวแต่ละคู่ โดยเฉพาะวาสิฐีอย่างจงใจ หญิงสาวจัดทำโต๊ะอาหารราวกับว่าเธอเองไม่ได้มีสิทธิ์พิเศษใดๆ
“วาสิฐีฉลาดนะ เอาใจคุณแม่ไม่ให้โกรธ”
เดวิดกลับรู้สึกสงสารวาสิฐีมากยิ่งขึ้น เขากลัวว่า หากมีเรื่องบีบบังคับให้หมอสาวต้องตัดสินใจ เขากลัวว่าวสิฐีจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกเลย!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 พ.ค. 2555, 22:26:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 พ.ค. 2555, 22:26:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 2047





<< ทางเลือกของอำภา   ด้วยรักคือรัก >>
violette 12 พ.ค. 2555, 23:27:55 น.
สงสารวาาาาา


Thananya 13 พ.ค. 2555, 00:58:14 น.
น่าสงสารทั้งไปหมดทุกคน อยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไปหมด ทางเลือกของอำภาก็น่ากลัวจะมีเรื่องให้เสียใจ


sirynth 13 พ.ค. 2555, 02:55:42 น.
I really wish Wasi would run away, Will's mom is totally confused.


Zephyr 13 พ.ค. 2555, 08:55:18 น.
ทุกคนดูกล้ำกลืนฝืนทนมากเลยค่ะ
นางเอกทั้งสามนี่อุปสรรคเยอะเนอะ หึหึ กว่าจะจบเรื่องคงน่วมแน่ๆเลย
เชียร์ให้วาสิหนีเลย ให้วิลล์ไปตาม เอาให้คุณหญิงแม่เจ้ายศเจ้าอย่างลงแดงกันไปข้างนึงเลย ฮึ


nutcha 13 พ.ค. 2555, 15:39:44 น.
หนูอ้ำเรียบร้อยโรงเรียนเลียบเมืองซะแล้ว สงสารวาสิจัง


nutcha 13 พ.ค. 2555, 15:40:34 น.
หนูอ้ำเรียบร้อยโรงเรียนเลียบเมืองซะแล้ว สงสารวาสิจัง


zilvermoon 15 พ.ค. 2555, 00:23:29 น.
ยายหมอทอแสงนี่เป็นอะไรมากมั้ย..ยายคุณหญิงมุกดาไหนตอนแรกจะพูดจะจาเงียบๆ ค่อยๆ เป็นผู้ดีจับ พอเห็นผู้ชายถึงขั้นดีแตกเลยหรือเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account