บ่วงใจ
เมื่อ"ก้องภพ" หนุ่มหล่อไฮโซเพลย์บอยดีกรีปริญญาโทจากนอกถูกบังคับแต่งงาน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เขาไข่ทิ้งไว้
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: S2บ่วงที่9
บ่วงที่ 9
ภายในห้องสุดหรูกลับมือสนิทเพราะเจ้าของห้องนั้นตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลก็เอาแต่นั่งร้องไห้ตั้งแต่บ่ายยันค่ำไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ใต้ตาที่บวมช้ำ ดวงตาแดงก่ำซึ่งมีหยาดน้ำตาเอ่อท้นแล้วไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา สมองขาวโพลนตั้งแต่แพทย์พูดแสดงความยินดีกับเธอ ตอนนี้มือที่กุมหน้าท้องที่ยังแบนราบเรียบอย่างไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตดีแต่ที่แน่ๆคือต้องเก็บลูกไว้อย่างแน่นอนที่สุด
ทำไมต้องเป็นเธอ ทำไมเธอต้องเป็นคนส่วนน้อยที่ยาคุมฉุกเฉินช่วยไม่ได้
สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกเบื้องหน้าแล้วนึกถึง ‘พ่อของเด็ก’ ว่าจะโทรไปบอก ‘ข่าวดี’ นี้หรือไม่
หากเป็นในนิยายหรือละครหากนางเอกท้องก็จะไม่บอกพระเอกแล้วจะพาลูกหนีไปเพราะกลัวจะถูกไล่ให้ไปทำแท้งจนกระทั่งผ่านไปหลายปีพระเอกก็มาเจอลูกแล้วก็จะเอาแต่ลูก หากเลือกได้เธอก็ไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กไม่มีพ่อหลายปีเหมือนในนิยายน้ำเน่านักหรอก ดังนั้นจึงต้องเสี่ยงที่จะโทรไปบอกเขาเรื่องลูก แม้จะกลัวว่าเขาไม่ยอมรับหรือไล่เธอไปทำแท้ง ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็จะยอมให้ลูกไม่มีพ่อดีกว่าจะทำบาปกับชีวิตบริสุทธิ์ที่เกิดจากการกระทำของพ่อแม่
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาของก้องภพก็แทบจะเมาทุกวัน แต่ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน เข็มทิพย์ทำให้เขาเสียศูนย์ไปเลย พอลองจะมีอะไรกับใครสักคนก็เห็นแต่หน้าเธอ นึกถึงเวลาดีๆที่มีด้วยกันแล้วก็พังทลายกับความโมโหและความไม่เชื่อใจ
ความจริงแล้ววันนี้ชายหนุ่มมีนัดกับรับประทานอาหารมื้อเย็นลูกค้าสาวสวยแต่ก็ปฏิเสธเธอไปเพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงสักพัก
พลันเสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์มือถือก็ดังทำลายความเงียบในห้องสุดหรูขึ้น หน้าจอแสดงชื่อ ‘อดีตคนรัก’ แวบแรกก็รู้สึกงงๆ แต่ต่อมาก็คลี่ยิ้มเพราะ
“ว่าไงครับคนสวย จะโทรมาง้อผมเหรอ”
“ฉะ...ฉันท้อง” น้ำเสียงปลายสายสั่นเครือ แต่คนฟังนี่สิแทบจะหาเสียงของตัวเองไม่เจอ มันชาจนไร้ความรู้สึกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ว่า...ว่าไงนะ” ถามดูอีกรอบเผื่อเธอจะพูดผิดหรือล้อเล่น
“ฉันท้องคุณมาหาฉันได้ไหม” แล้วอีกฝ่ายก็ปล่อยโฮออกมา
“ดะ...ได้เดี๋ยวผมไปหา” วางสายเสร็จเข่าก็อ่อนนั่งทรุดลงไปที่โซฟา มองมาที่มือที่กำลังหงายอยู่มันสั่นไม่หยุด ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจเขาหยุดเต้นไปหรือยัง นั่งนึกย้อนไปยังวันเกิดเหตุ
ก้องภพไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าขับรถมาหาเธอทั้งที่สติไม่เต็มร้อยได้อย่างไร มาถึงประตูหน้าห้องก็ใช้คีย์การ์ดที่มีอยู่เปิดเข้าไป ภายในห้องยังคงมือจนเขาต้องเป็นฝ่ายเปิดไฟไล่ความมืดเสียเองก็พบว่าเจ้าของห้องคนปัจจุบันนั่งน้ำตานองหน้าอยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ก้องภพก็เดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ
“ทำไมฉันต้องท้อง ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมฉันโชคร้าย ทำไมฉันต้องเป็นคนส่วนน้อยที่ยาคุมฉุกเฉินใช่ไม่ได้ผล” หญิงสาวยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเครือๆ
“ฉันจะทำยังไงต่อไป”
“ผมจะรับผิดชอบ”
“จะรับผิดชอบยังไงไม่ทราบ อย่าบอกนะว่าจะแต่งงาน หึ ผู้ชายเจ้าชู้แบบคุณหรือจะเสียสละชีวิตโสดอันมีค่าของคุณได้” ก้องภพก็ได้แต่ขบกรามนิ่งเพราะว่าเขาคงไม่พร้อมที่จะสละโสดจริงๆตามที่เธอว่า
หลังจากที่ถกเถียงกันก็สรุปคำตอบได้ว่าการดูแลลูกจะเป็นสิทธิ์ของเข็มทิพย์โดยที่เขาส่งเสียค่าเลี้ยงดู มาเยี่ยมหรือช่วยเลี้ยงได้ตามต้องการ แต่เข็มทิพย์ไม่ให้เขามาอยู่ด้วยเพราะเกรงว่าเขาจะเกิดอารมณ์อยากร่วมรักกับเธอตอนท้องแม้จะรู้ว่ามีได้แต่ป้องกันไว้ดีกว่า
“แค่ลองใช้ชีวิตอยู่กับคุณมาสองเดือนก็เข็ดแล้วล่ะ ไม่มีทางที่คุณจะมาอยู่ที่นี่” ก้องภพก็ได้แต่ถอนใจกับคำพูดของเธอ
“ถ้าวันนั้นคุณควบคุมตัวเองได้ หรือฉันที่จะพยายามผลักไสคุณให้มากพอก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”
“อืม เรื่องนี้ผมเกิดมีอารมณ์ในวันถุงยางหมดพอดีและเชื้อของผมคงจะแข็งแรงทั้งอึดทั้งอดทนมาก ขนาดว่าหลั่งข้างนอกก็แสดงว่ามีส่วนที่เล็ดลอดก็เพียงนิดเดียวเท่านั้น ยาคุมฉุกเฉินก็ ‘เอาไม่อยู่’ จำได้ไหมมีรถตัดหน้าทำให้ต้องเบรกยาเม็ดที่สองเลยร่วงขนาดว่าไปหามากินได้ทันเวลา แต่ลูกก็ยังอยู่ จากทั้งหมดนี้แสดงว่าฟ้าส่งเขามาให้เราแล้วล่ะ” ก้องภพค่อยๆเลื่อนตัวลงไปนั่งที่พื้นแล้วก็พูดกับหน้าท้องเธอว่า
“ว่าไงครับเจ้าตัวเล็ก อยู่ในท้องแม่สบายดีไหม แคบไปหรือเปล่า” ว่าแล้วก็เอาหูแนบกับท้องแบนๆแต่ทว่าเสียงที่ได้ยินกลับมาคือเสียงท้องร้องดัง ครืดๆ
“ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่นั่งร้องจนไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหมนี่”
“ก็ฉันไม่มีอารมณ์จะกินนี่นา”
“คุณไม่กินแต่ลูกผมต้องกินนะ คุณไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมทำอาหารให้”
“คุณทำเป็นด้วยเหรอ” ก็ปกติเธอเป็นคนทำอาหารตลอดไม่เคยจะเห็นเขาทำเลยสักครั้ง
“ทานแล้วอย่ามาหลงเสน่ห์ปลายจวักผมก็แล้วกัน คนมีบุญเท่านั้นที่จะได้กินฝีมือผม”
ฝีมือในการทำกับข้าวของก้องภพถือว่าดีมากแต่เธอก็ไม่เอ่ยชมมันออกมาหรอก
“คุณไปล้างหน้าแรงฟันนอนเถอะ”
“กินแล้วนอนก็ลงพุงสิ ยิ่งท้องอยู่ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ประคบใต้ตาก็ได้ จะเอาน้ำแข็งหรือถุงชามาประคบ”
“เอาถุงชาก็ได้ค่ะ”
คืนนี้ก้องภพขอนอนอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี้ นอนเคียงข้างกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ไม่มีการแตะต้องร่างกายกันแต่ก็ไม่ได้ทำให้ก้องภพรู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใดเพราะในหัวมีแต่เรื่องเจ้าตัวน้อยในท้องเธอ
“คุณว่าลูกของเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ผมว่าน่าจะเป็นผู้ชายนะอดทนเสียขนาดนั้น” พอไม่ได้รับเสียงตอบกลับก็ชะโงกหน้าไปดูอีกฝั่งก็เห็นดวงหน้าใสหลับตาพริ้มไปแล้ว
ยิ้มที่แสนจะอบอุ่นผุดขึ้นมาก่อนที่จะแอบจูบหน้าผากเธอเบาๆ
เมื่อคืนก่อนที่จะนอนก้องภพบอกว่าจะพาเธอมาฝากครรภ์แต่วันนี้เขากลับพาเธอมาที่โรงแรม
“ไหนบอกว่าจะพาไปฝากครรภ์”
“แวะมาบอกพี่ตาก่อนเรื่องที่คุณท้อง”
ทั้งคู่ก้าวเข้ามาในโรงแรมโดยไม่สนใจสายตาของพนักงานร่วมสิบที่จ้องมองมาคงจะคิดว่าเขาและเธอคืนดีกันแล้วพอลิฟต์เปิดก็ขึ้นไปหาสิริตาทันที
คนเป็นพี่เห็นคนทั้งคู่มาพร้อมกันก็นึกดีใจที่คิดว่าคงจะคืนดีกันแล้ว
“ดีกันแล้วเหรอ”
“จะดีกันก็ไม่เชิงนะครับ”
“ยังไง”
“ก็ยังไม่ถึงกับดีกันจนเป็นแฟนกันได้เหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่ตัดความสัมพันธ์กันเพราะเข็ม...ท้องครับ”
“ว่ายังไงนะ”
“เข็มท้องครับ”
“พี่จะเป็นลม” แล้วร่างของสิริตาก็นั่งกระแทกลงบนเก้าอี้อย่างแรงมือก็ควานหายาดมในลิ้นชัก
“แล้วจะเอายังไงต่อไป”
“การดูแลลูกจะเป็นสิทธิ์ของเข็มทิพย์โดยที่ผมส่งเสียค่าเลี้ยงดู”
“ไม่แต่งงานกันเหรอ”
“ไม่ค่ะ แค่สองเดือนเข็มก็เข็ดแล้ว นี่ทั้งชีวิตคงไม่ไหวมั้งคะ” คราวนี้เข็มทิพย์ที่เงียบอยู่นานเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว
“แล้วจะบอกพ่อแม่นายว่ายังไง”
“พี่อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่นะครับ ผมจะเป็นคนบอกเอง”
“จะบอกเมื่อไหร่ล่ะ”
“เมื่อแน่ใจว่าคุณพ่อจะอยู่ข้างผมพร้อมที่จะค้านคุณแม่เมื่อท่านมีความคิดแปลกๆ” ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจระหว่างสองพี่น้องถึง’ความคิดแปลกๆ’ของภรรยาเจ้าของโรงแรม
“เดี๋ยวผมพาเข็มไปฝากท้องนะครับ ขอลางานให้เข็มวันนึง”
“อืม ไปเถอะ”
หลังจากพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเสร็จก้องภพก็เห็นว่าเธอสวมรองเท้าส้นสูง
“นี่คุณท้องอยู่นะ ใส่รองเท้าส้นสูงได้ยังไง เดี๋ยวก็ล้มหรอก”
“ก็ฉันมีแต่รองเท้าส้นสูงนี่นา อีกอย่างคุณเคยเห็นฉันใส่แล้วล้มเหรอ”
“กันไว้ดีกว่าแก้นะ อย่าประมาท”
“เดี๋ยวนี้คนท้องเขาก็ใส่ส้นสูงกันนะคะ ก็แค่ต้องระวังมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ล้ม”
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะพาไปซื้อใหม่ ห้ามใส่ส้นสูงเด็ดขาด”
พอถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังก้องภพก็ลากแกมประคองเธอราวกับเธอเป็นคนป่วยไปร้านรองเท้าทันทีแล้วก็กว้านซื้อรองเท้าที่เหมาะกับคนท้องซึ่งสวมใส่สบายที่สำคัญคือก้องภพเลือกที่ส้นสูงไม่เกิน 1 นิ้วทั้งหมด รวมๆแล้วก็ได้มา 4 คู่
“คุณตัวสูงอยู่แล้ว จะใส่ส้นสูงไปอีกทำไม” เขาแย้งเมื่อ ‘แม่ของลูก’ โอดครวญเรื่องส้นรองเท้า
“ก็ฉันไม่มั่นใจนี่นา สาวๆฝรั่งตัวสูงกันทั้งนั้น”
“ที่ที่คุณทำงานอยู่มีแต่คนไทยนะ จะไปเทียบกับฝรั่งทำไม นี่ก็เกินมาตรฐานหญิงไทยแล้ว” ถึงแม้จะมีแขกเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่แต่เมื่อนำจำนวนมาเทียบกับพนักงานที่เจอกับเธอคนไทยก็เยอะกว่าอยู่ดีตามที่เขาว่า
“แล้วเวลาฉันไปเรียนละคะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย 9-10 เดือนเอง” คนฟังก็ขี้เกียจจะเถียงต่อก็ได้แต่ยอมให้เขาไป
เสร็จจากร้านรองเท้าแล้วก็แวะร้านหนังสือต่อเพื่อหาคู่มือให้สำหรับ ‘พ่อ-แม่มือใหม่’
“หมอนัดครั้งหน้าเตือนผมด้วยนะ ผมจะไปด้วย” แม้ปากจะพูดกับเธออยู่แต่ตากับมือก็ค้นหาหนังสือต่อไปเพื่อให้ได้เล่มที่ถูกใจ แต่ไปๆมาๆก็แทบจะถูกใจทุกเล่มที่หยิบดู
“ค่ะ”
สรุปแล้ววันนี้ได้รองเท้า 4 คู่ หนังสืออีกเกือบโหล เธอกะว่าจะช่วยเขาจ่ายค่าหนังสือบ้างหลังจากที่เขาจ่ายค่ารองเท้าไปแล้วเพราะอย่างไรก็ลูกเธอเหมือนกัน
“ให้ฉันจ่ายค่าหนังสือนะ”
“ไม่ต้องหรอก ตามที่ตกลงกันไว้ไงว่าผมจะจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก แล้วนี่ก็ถือเสียว่าเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยก็แล้วกัน” ก็ตามใจเขาเถอะ
ยังดีที่อย่างน้อยวันนี้เขาเห็นว่าเธอเดินเลือกซื้อหนังสือนานแล้วจึงรีบพากลับมาพักผ่อนไม่อย่างนั้นคงจะชวนเธอไปซื้อเสื้อผ้าของใช้เด็กอ่อนเลยละมั้ง
“กลับเถอะ วันนี้คุณเดินนานแล้ว กลับไปพักผ่อนดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ”
“หิวหรือยัง หาอะไรทานก่อนไหม”
“ฉันอยากทานแกงส้มกุ้งกับไข่เจียวหมูสับ”
ชายหนุ่มพาเข็มทิพย์ไปร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านนั้น แม้รสชาติจะสู้ต้นตำหรับที่เมืองไทยไม่ได้แต่ก็พอจะทานแก้ขัดไปก่อน
บรรยากาศไทยๆภายในร้านกับอาหารจานโปรดทำให้หญิงสาวนึกถึงมารดาผู้ล่วงลับ อยากให้ท่านมาทำเมนูนี้ให้กับเธอและหลานเสียจริงๆ
‘แม่คะ แม่มีหลานแล้วนะ’
สองหนุ่มสาวนั่งอยู่บนโซฟาหน้าจอโทรทัศน์ ภายในจอสี่เหลี่ยมปรากฏรายการที่เกี่ยวกับคุณแม่และเด็ก ในระหว่างที่พักโฆษณาก้องภพก็ทำลายความเงียบด้วยการนำเรื่องเดิมกลับมาพูดใหม่นั่นคือ
“ตอนนี้คุณท้องแล้ว”
“ทำไมคะ” คนถามยังงงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องอะไร
“ลาออกจากงานดีไหม”
“ทำไมคุณพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่”
“ก็คุณจะได้มีเวลาดูแลลูกได้เต็มที่ไง คนท้องต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะ ยิ่งตอนนี้คุณก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เดี๋ยวก็เครียดหรอก ผมเป็นห่วง”
“คนอื่นๆเขาก็ทำกันได้นี่คะ ทำไมฉันทำบ้างไม่ได้”
“ก็ในเมื่ออยู่สบายๆได้ แล้วจะทำทำไมให้เหนื่อย ผมจ่ายค่าเลี้ยงดูเอง”
“อีกไม่นานคุณก็กลับเมืองไทยแล้วแล้วถ้าคุณเกิดเบี้ยวฉันละคะฉันจะทำยังไง จะทำมาหากินอะไร”
“ผมไม่เบี้ยวหรอกน่า”
“ไม่ต้องเอาอะไรมาก คุณจำได้ไหมตอนที่ฉันคบกับคุณ คุณก็ขอให้ฉันลาออก แล้วเป็นไงสองเดือนต่อมาก็เลิกกัน ถ้าฉันลาออกตอนนั้นแล้วตอนนี้ฉันจะเป็นยังไงละคะ”
“ตามใจ ไม่ออกก็ไม่ออก”
เวลาที่ไปทำงานหรือไปเรียนก้องภพยังคงทำหน้าที่สารถีที่ดี เธอกับเขายังคงพบเจอกันทุกวันเพียงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่านั้น เวลาเดินเข้าโรงแรมก็มักจะมาประคองราวกับเธอเป็นผู้ป่วยหนัก หากเป็นไปได้เขาคงอุ้มเธอไปแล้ว จนพนักงานที่พบเห็นก็เข้าใจว่าเธอและเขาคืนดีกลับมาคบกันเหมือนเดิมทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช้เพียงแต่ก้องเปลี่ยนสถานะจากตำแหน่งแฟนเป็นว่าที่คุณพ่อต่างหาก
“พี่ตาครับถ้าเข็มง่วง พี่ก็ให้เข็มนอนนะ อย่าใช้งานเธอหนักนะ เดี๋ยวลูกผมเหนื่อย”
“นี่ยังไงก็หลานฉันเหมือนกันนะยะ ฉันไม่ใช้งานหนักหรอก”
“ถ้าคุณง่วงคุณก็ไปนอนที่ห้องพักของผมก็ได้”
“แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็นอนพักห้องของพี่ก็แล้วกันนะเข็ม” ว่าที่คุณป้าก็รีบขัดน้องชายทันทีอย่างไม่ยอมแพ้
“ขอบคุณค่ะพี่ตา” เข็มทิพย์ยิ้มรับในความเมตตาของสิริตาทำให้ใครอีกคนแสดงอาการน้อยใจแต่มันน่าหมั่นไส้มากกว่า
“แล้วไม่ขอบคุณผมบ้างเหรอ” คนหน้าหมั่นไส้ทำหน้าตูมใส่เธอเสียอย่างนั้น
“จะขอบคุณทำไม มันเป็นหน้าที่คุณอยู่แล้ว”
“ทำดีแล้วไม่ได้ดีเลยคนเรา” แอบบ่นดังๆเสียอย่างนั้น
“ทำฉันท้องนี่เหรอดี” เจอสวนมาแบบนี้ก้องภพก็ได้แต่จอดไม่ต้องแจวแล้วรีบหันหัวเรือไปทางอื่นทันที
“เวลาเข็มนอนพี่ก็เอาเลขาผมมาใช้ก็ได้นะครับ”
“ก็ดี ตอนนี้พี่ว่าไปทานข้าวด้วยกันดีกว่า”
ว่าที่คุณพ่อและคุณป้าต่างสั่งอาหารที่คิดว่าดีและมีประโยชน์มาจนเต็มโต๊ะ ทำเอาคนที่นั่งมองก็เกิดอิ่มโดยที่ยังไม่ได้ทานอะไร
“อันนี้ก็ดีนะเข็ม ไขมันต่ำ” สิริตาตักอาหารนั้นมาให้เธอ
“ผมว่าอันนี้ดีกว่า มีประโยชน์” ก้องภพเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่สาวจึงตักอาหารอีกจานที่เขาสั่งมาให้เธอทานบ้างจนตอนนี้ในจานเธอมีแต่กับข้าว
“เอ่อ ขอบคุณค่ะเดี๋ยวเข็มตักเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ตักให้”
“ทานเยอะ ลูกจะได้อิ่มๆ” เห่อพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง เข็มทิพย์ก็ได้แต่ทานอาหารที่ตัวเองไม่ได้ตักเองสักอย่างต่อไป
-------------------
กลับไปอ่านที่เด็กดีก็ได้ค่ะ http://writer.dek-d.com/goszy/story/view.php?id=179449
ภายในห้องสุดหรูกลับมือสนิทเพราะเจ้าของห้องนั้นตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลก็เอาแต่นั่งร้องไห้ตั้งแต่บ่ายยันค่ำไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ใต้ตาที่บวมช้ำ ดวงตาแดงก่ำซึ่งมีหยาดน้ำตาเอ่อท้นแล้วไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา สมองขาวโพลนตั้งแต่แพทย์พูดแสดงความยินดีกับเธอ ตอนนี้มือที่กุมหน้าท้องที่ยังแบนราบเรียบอย่างไม่รู้จะเอาอย่างไรกับชีวิตดีแต่ที่แน่ๆคือต้องเก็บลูกไว้อย่างแน่นอนที่สุด
ทำไมต้องเป็นเธอ ทำไมเธอต้องเป็นคนส่วนน้อยที่ยาคุมฉุกเฉินช่วยไม่ได้
สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกเบื้องหน้าแล้วนึกถึง ‘พ่อของเด็ก’ ว่าจะโทรไปบอก ‘ข่าวดี’ นี้หรือไม่
หากเป็นในนิยายหรือละครหากนางเอกท้องก็จะไม่บอกพระเอกแล้วจะพาลูกหนีไปเพราะกลัวจะถูกไล่ให้ไปทำแท้งจนกระทั่งผ่านไปหลายปีพระเอกก็มาเจอลูกแล้วก็จะเอาแต่ลูก หากเลือกได้เธอก็ไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กไม่มีพ่อหลายปีเหมือนในนิยายน้ำเน่านักหรอก ดังนั้นจึงต้องเสี่ยงที่จะโทรไปบอกเขาเรื่องลูก แม้จะกลัวว่าเขาไม่ยอมรับหรือไล่เธอไปทำแท้ง ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็จะยอมให้ลูกไม่มีพ่อดีกว่าจะทำบาปกับชีวิตบริสุทธิ์ที่เกิดจากการกระทำของพ่อแม่
หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาของก้องภพก็แทบจะเมาทุกวัน แต่ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหน เข็มทิพย์ทำให้เขาเสียศูนย์ไปเลย พอลองจะมีอะไรกับใครสักคนก็เห็นแต่หน้าเธอ นึกถึงเวลาดีๆที่มีด้วยกันแล้วก็พังทลายกับความโมโหและความไม่เชื่อใจ
ความจริงแล้ววันนี้ชายหนุ่มมีนัดกับรับประทานอาหารมื้อเย็นลูกค้าสาวสวยแต่ก็ปฏิเสธเธอไปเพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงสักพัก
พลันเสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์มือถือก็ดังทำลายความเงียบในห้องสุดหรูขึ้น หน้าจอแสดงชื่อ ‘อดีตคนรัก’ แวบแรกก็รู้สึกงงๆ แต่ต่อมาก็คลี่ยิ้มเพราะ
“ว่าไงครับคนสวย จะโทรมาง้อผมเหรอ”
“ฉะ...ฉันท้อง” น้ำเสียงปลายสายสั่นเครือ แต่คนฟังนี่สิแทบจะหาเสียงของตัวเองไม่เจอ มันชาจนไร้ความรู้สึกตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ว่า...ว่าไงนะ” ถามดูอีกรอบเผื่อเธอจะพูดผิดหรือล้อเล่น
“ฉันท้องคุณมาหาฉันได้ไหม” แล้วอีกฝ่ายก็ปล่อยโฮออกมา
“ดะ...ได้เดี๋ยวผมไปหา” วางสายเสร็จเข่าก็อ่อนนั่งทรุดลงไปที่โซฟา มองมาที่มือที่กำลังหงายอยู่มันสั่นไม่หยุด ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจเขาหยุดเต้นไปหรือยัง นั่งนึกย้อนไปยังวันเกิดเหตุ
ก้องภพไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าขับรถมาหาเธอทั้งที่สติไม่เต็มร้อยได้อย่างไร มาถึงประตูหน้าห้องก็ใช้คีย์การ์ดที่มีอยู่เปิดเข้าไป ภายในห้องยังคงมือจนเขาต้องเป็นฝ่ายเปิดไฟไล่ความมืดเสียเองก็พบว่าเจ้าของห้องคนปัจจุบันนั่งน้ำตานองหน้าอยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ก้องภพก็เดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ
“ทำไมฉันต้องท้อง ทำไมต้องเป็นฉัน ทำไมฉันโชคร้าย ทำไมฉันต้องเป็นคนส่วนน้อยที่ยาคุมฉุกเฉินใช่ไม่ได้ผล” หญิงสาวยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเครือๆ
“ฉันจะทำยังไงต่อไป”
“ผมจะรับผิดชอบ”
“จะรับผิดชอบยังไงไม่ทราบ อย่าบอกนะว่าจะแต่งงาน หึ ผู้ชายเจ้าชู้แบบคุณหรือจะเสียสละชีวิตโสดอันมีค่าของคุณได้” ก้องภพก็ได้แต่ขบกรามนิ่งเพราะว่าเขาคงไม่พร้อมที่จะสละโสดจริงๆตามที่เธอว่า
หลังจากที่ถกเถียงกันก็สรุปคำตอบได้ว่าการดูแลลูกจะเป็นสิทธิ์ของเข็มทิพย์โดยที่เขาส่งเสียค่าเลี้ยงดู มาเยี่ยมหรือช่วยเลี้ยงได้ตามต้องการ แต่เข็มทิพย์ไม่ให้เขามาอยู่ด้วยเพราะเกรงว่าเขาจะเกิดอารมณ์อยากร่วมรักกับเธอตอนท้องแม้จะรู้ว่ามีได้แต่ป้องกันไว้ดีกว่า
“แค่ลองใช้ชีวิตอยู่กับคุณมาสองเดือนก็เข็ดแล้วล่ะ ไม่มีทางที่คุณจะมาอยู่ที่นี่” ก้องภพก็ได้แต่ถอนใจกับคำพูดของเธอ
“ถ้าวันนั้นคุณควบคุมตัวเองได้ หรือฉันที่จะพยายามผลักไสคุณให้มากพอก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”
“อืม เรื่องนี้ผมเกิดมีอารมณ์ในวันถุงยางหมดพอดีและเชื้อของผมคงจะแข็งแรงทั้งอึดทั้งอดทนมาก ขนาดว่าหลั่งข้างนอกก็แสดงว่ามีส่วนที่เล็ดลอดก็เพียงนิดเดียวเท่านั้น ยาคุมฉุกเฉินก็ ‘เอาไม่อยู่’ จำได้ไหมมีรถตัดหน้าทำให้ต้องเบรกยาเม็ดที่สองเลยร่วงขนาดว่าไปหามากินได้ทันเวลา แต่ลูกก็ยังอยู่ จากทั้งหมดนี้แสดงว่าฟ้าส่งเขามาให้เราแล้วล่ะ” ก้องภพค่อยๆเลื่อนตัวลงไปนั่งที่พื้นแล้วก็พูดกับหน้าท้องเธอว่า
“ว่าไงครับเจ้าตัวเล็ก อยู่ในท้องแม่สบายดีไหม แคบไปหรือเปล่า” ว่าแล้วก็เอาหูแนบกับท้องแบนๆแต่ทว่าเสียงที่ได้ยินกลับมาคือเสียงท้องร้องดัง ครืดๆ
“ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่นั่งร้องจนไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหมนี่”
“ก็ฉันไม่มีอารมณ์จะกินนี่นา”
“คุณไม่กินแต่ลูกผมต้องกินนะ คุณไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมทำอาหารให้”
“คุณทำเป็นด้วยเหรอ” ก็ปกติเธอเป็นคนทำอาหารตลอดไม่เคยจะเห็นเขาทำเลยสักครั้ง
“ทานแล้วอย่ามาหลงเสน่ห์ปลายจวักผมก็แล้วกัน คนมีบุญเท่านั้นที่จะได้กินฝีมือผม”
ฝีมือในการทำกับข้าวของก้องภพถือว่าดีมากแต่เธอก็ไม่เอ่ยชมมันออกมาหรอก
“คุณไปล้างหน้าแรงฟันนอนเถอะ”
“กินแล้วนอนก็ลงพุงสิ ยิ่งท้องอยู่ด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ประคบใต้ตาก็ได้ จะเอาน้ำแข็งหรือถุงชามาประคบ”
“เอาถุงชาก็ได้ค่ะ”
คืนนี้ก้องภพขอนอนอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี้ นอนเคียงข้างกันเหมือนเมื่อก่อนแต่ไม่มีการแตะต้องร่างกายกันแต่ก็ไม่ได้ทำให้ก้องภพรู้สึกหงุดหงิดแต่ประการใดเพราะในหัวมีแต่เรื่องเจ้าตัวน้อยในท้องเธอ
“คุณว่าลูกของเราจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ผมว่าน่าจะเป็นผู้ชายนะอดทนเสียขนาดนั้น” พอไม่ได้รับเสียงตอบกลับก็ชะโงกหน้าไปดูอีกฝั่งก็เห็นดวงหน้าใสหลับตาพริ้มไปแล้ว
ยิ้มที่แสนจะอบอุ่นผุดขึ้นมาก่อนที่จะแอบจูบหน้าผากเธอเบาๆ
เมื่อคืนก่อนที่จะนอนก้องภพบอกว่าจะพาเธอมาฝากครรภ์แต่วันนี้เขากลับพาเธอมาที่โรงแรม
“ไหนบอกว่าจะพาไปฝากครรภ์”
“แวะมาบอกพี่ตาก่อนเรื่องที่คุณท้อง”
ทั้งคู่ก้าวเข้ามาในโรงแรมโดยไม่สนใจสายตาของพนักงานร่วมสิบที่จ้องมองมาคงจะคิดว่าเขาและเธอคืนดีกันแล้วพอลิฟต์เปิดก็ขึ้นไปหาสิริตาทันที
คนเป็นพี่เห็นคนทั้งคู่มาพร้อมกันก็นึกดีใจที่คิดว่าคงจะคืนดีกันแล้ว
“ดีกันแล้วเหรอ”
“จะดีกันก็ไม่เชิงนะครับ”
“ยังไง”
“ก็ยังไม่ถึงกับดีกันจนเป็นแฟนกันได้เหมือนเดิมแต่ก็ยังไม่ตัดความสัมพันธ์กันเพราะเข็ม...ท้องครับ”
“ว่ายังไงนะ”
“เข็มท้องครับ”
“พี่จะเป็นลม” แล้วร่างของสิริตาก็นั่งกระแทกลงบนเก้าอี้อย่างแรงมือก็ควานหายาดมในลิ้นชัก
“แล้วจะเอายังไงต่อไป”
“การดูแลลูกจะเป็นสิทธิ์ของเข็มทิพย์โดยที่ผมส่งเสียค่าเลี้ยงดู”
“ไม่แต่งงานกันเหรอ”
“ไม่ค่ะ แค่สองเดือนเข็มก็เข็ดแล้ว นี่ทั้งชีวิตคงไม่ไหวมั้งคะ” คราวนี้เข็มทิพย์ที่เงียบอยู่นานเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว
“แล้วจะบอกพ่อแม่นายว่ายังไง”
“พี่อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่นะครับ ผมจะเป็นคนบอกเอง”
“จะบอกเมื่อไหร่ล่ะ”
“เมื่อแน่ใจว่าคุณพ่อจะอยู่ข้างผมพร้อมที่จะค้านคุณแม่เมื่อท่านมีความคิดแปลกๆ” ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจระหว่างสองพี่น้องถึง’ความคิดแปลกๆ’ของภรรยาเจ้าของโรงแรม
“เดี๋ยวผมพาเข็มไปฝากท้องนะครับ ขอลางานให้เข็มวันนึง”
“อืม ไปเถอะ”
หลังจากพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเสร็จก้องภพก็เห็นว่าเธอสวมรองเท้าส้นสูง
“นี่คุณท้องอยู่นะ ใส่รองเท้าส้นสูงได้ยังไง เดี๋ยวก็ล้มหรอก”
“ก็ฉันมีแต่รองเท้าส้นสูงนี่นา อีกอย่างคุณเคยเห็นฉันใส่แล้วล้มเหรอ”
“กันไว้ดีกว่าแก้นะ อย่าประมาท”
“เดี๋ยวนี้คนท้องเขาก็ใส่ส้นสูงกันนะคะ ก็แค่ต้องระวังมากกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ล้ม”
“ไม่รู้ล่ะ ผมจะพาไปซื้อใหม่ ห้ามใส่ส้นสูงเด็ดขาด”
พอถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังก้องภพก็ลากแกมประคองเธอราวกับเธอเป็นคนป่วยไปร้านรองเท้าทันทีแล้วก็กว้านซื้อรองเท้าที่เหมาะกับคนท้องซึ่งสวมใส่สบายที่สำคัญคือก้องภพเลือกที่ส้นสูงไม่เกิน 1 นิ้วทั้งหมด รวมๆแล้วก็ได้มา 4 คู่
“คุณตัวสูงอยู่แล้ว จะใส่ส้นสูงไปอีกทำไม” เขาแย้งเมื่อ ‘แม่ของลูก’ โอดครวญเรื่องส้นรองเท้า
“ก็ฉันไม่มั่นใจนี่นา สาวๆฝรั่งตัวสูงกันทั้งนั้น”
“ที่ที่คุณทำงานอยู่มีแต่คนไทยนะ จะไปเทียบกับฝรั่งทำไม นี่ก็เกินมาตรฐานหญิงไทยแล้ว” ถึงแม้จะมีแขกเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่แต่เมื่อนำจำนวนมาเทียบกับพนักงานที่เจอกับเธอคนไทยก็เยอะกว่าอยู่ดีตามที่เขาว่า
“แล้วเวลาฉันไปเรียนละคะ”
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย 9-10 เดือนเอง” คนฟังก็ขี้เกียจจะเถียงต่อก็ได้แต่ยอมให้เขาไป
เสร็จจากร้านรองเท้าแล้วก็แวะร้านหนังสือต่อเพื่อหาคู่มือให้สำหรับ ‘พ่อ-แม่มือใหม่’
“หมอนัดครั้งหน้าเตือนผมด้วยนะ ผมจะไปด้วย” แม้ปากจะพูดกับเธออยู่แต่ตากับมือก็ค้นหาหนังสือต่อไปเพื่อให้ได้เล่มที่ถูกใจ แต่ไปๆมาๆก็แทบจะถูกใจทุกเล่มที่หยิบดู
“ค่ะ”
สรุปแล้ววันนี้ได้รองเท้า 4 คู่ หนังสืออีกเกือบโหล เธอกะว่าจะช่วยเขาจ่ายค่าหนังสือบ้างหลังจากที่เขาจ่ายค่ารองเท้าไปแล้วเพราะอย่างไรก็ลูกเธอเหมือนกัน
“ให้ฉันจ่ายค่าหนังสือนะ”
“ไม่ต้องหรอก ตามที่ตกลงกันไว้ไงว่าผมจะจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก แล้วนี่ก็ถือเสียว่าเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วยก็แล้วกัน” ก็ตามใจเขาเถอะ
ยังดีที่อย่างน้อยวันนี้เขาเห็นว่าเธอเดินเลือกซื้อหนังสือนานแล้วจึงรีบพากลับมาพักผ่อนไม่อย่างนั้นคงจะชวนเธอไปซื้อเสื้อผ้าของใช้เด็กอ่อนเลยละมั้ง
“กลับเถอะ วันนี้คุณเดินนานแล้ว กลับไปพักผ่อนดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ”
“หิวหรือยัง หาอะไรทานก่อนไหม”
“ฉันอยากทานแกงส้มกุ้งกับไข่เจียวหมูสับ”
ชายหนุ่มพาเข็มทิพย์ไปร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านนั้น แม้รสชาติจะสู้ต้นตำหรับที่เมืองไทยไม่ได้แต่ก็พอจะทานแก้ขัดไปก่อน
บรรยากาศไทยๆภายในร้านกับอาหารจานโปรดทำให้หญิงสาวนึกถึงมารดาผู้ล่วงลับ อยากให้ท่านมาทำเมนูนี้ให้กับเธอและหลานเสียจริงๆ
‘แม่คะ แม่มีหลานแล้วนะ’
สองหนุ่มสาวนั่งอยู่บนโซฟาหน้าจอโทรทัศน์ ภายในจอสี่เหลี่ยมปรากฏรายการที่เกี่ยวกับคุณแม่และเด็ก ในระหว่างที่พักโฆษณาก้องภพก็ทำลายความเงียบด้วยการนำเรื่องเดิมกลับมาพูดใหม่นั่นคือ
“ตอนนี้คุณท้องแล้ว”
“ทำไมคะ” คนถามยังงงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องอะไร
“ลาออกจากงานดีไหม”
“ทำไมคุณพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่”
“ก็คุณจะได้มีเวลาดูแลลูกได้เต็มที่ไง คนท้องต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนะ ยิ่งตอนนี้คุณก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เดี๋ยวก็เครียดหรอก ผมเป็นห่วง”
“คนอื่นๆเขาก็ทำกันได้นี่คะ ทำไมฉันทำบ้างไม่ได้”
“ก็ในเมื่ออยู่สบายๆได้ แล้วจะทำทำไมให้เหนื่อย ผมจ่ายค่าเลี้ยงดูเอง”
“อีกไม่นานคุณก็กลับเมืองไทยแล้วแล้วถ้าคุณเกิดเบี้ยวฉันละคะฉันจะทำยังไง จะทำมาหากินอะไร”
“ผมไม่เบี้ยวหรอกน่า”
“ไม่ต้องเอาอะไรมาก คุณจำได้ไหมตอนที่ฉันคบกับคุณ คุณก็ขอให้ฉันลาออก แล้วเป็นไงสองเดือนต่อมาก็เลิกกัน ถ้าฉันลาออกตอนนั้นแล้วตอนนี้ฉันจะเป็นยังไงละคะ”
“ตามใจ ไม่ออกก็ไม่ออก”
เวลาที่ไปทำงานหรือไปเรียนก้องภพยังคงทำหน้าที่สารถีที่ดี เธอกับเขายังคงพบเจอกันทุกวันเพียงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่านั้น เวลาเดินเข้าโรงแรมก็มักจะมาประคองราวกับเธอเป็นผู้ป่วยหนัก หากเป็นไปได้เขาคงอุ้มเธอไปแล้ว จนพนักงานที่พบเห็นก็เข้าใจว่าเธอและเขาคืนดีกลับมาคบกันเหมือนเดิมทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช้เพียงแต่ก้องเปลี่ยนสถานะจากตำแหน่งแฟนเป็นว่าที่คุณพ่อต่างหาก
“พี่ตาครับถ้าเข็มง่วง พี่ก็ให้เข็มนอนนะ อย่าใช้งานเธอหนักนะ เดี๋ยวลูกผมเหนื่อย”
“นี่ยังไงก็หลานฉันเหมือนกันนะยะ ฉันไม่ใช้งานหนักหรอก”
“ถ้าคุณง่วงคุณก็ไปนอนที่ห้องพักของผมก็ได้”
“แต่ถ้าขี้เกียจเดินก็นอนพักห้องของพี่ก็แล้วกันนะเข็ม” ว่าที่คุณป้าก็รีบขัดน้องชายทันทีอย่างไม่ยอมแพ้
“ขอบคุณค่ะพี่ตา” เข็มทิพย์ยิ้มรับในความเมตตาของสิริตาทำให้ใครอีกคนแสดงอาการน้อยใจแต่มันน่าหมั่นไส้มากกว่า
“แล้วไม่ขอบคุณผมบ้างเหรอ” คนหน้าหมั่นไส้ทำหน้าตูมใส่เธอเสียอย่างนั้น
“จะขอบคุณทำไม มันเป็นหน้าที่คุณอยู่แล้ว”
“ทำดีแล้วไม่ได้ดีเลยคนเรา” แอบบ่นดังๆเสียอย่างนั้น
“ทำฉันท้องนี่เหรอดี” เจอสวนมาแบบนี้ก้องภพก็ได้แต่จอดไม่ต้องแจวแล้วรีบหันหัวเรือไปทางอื่นทันที
“เวลาเข็มนอนพี่ก็เอาเลขาผมมาใช้ก็ได้นะครับ”
“ก็ดี ตอนนี้พี่ว่าไปทานข้าวด้วยกันดีกว่า”
ว่าที่คุณพ่อและคุณป้าต่างสั่งอาหารที่คิดว่าดีและมีประโยชน์มาจนเต็มโต๊ะ ทำเอาคนที่นั่งมองก็เกิดอิ่มโดยที่ยังไม่ได้ทานอะไร
“อันนี้ก็ดีนะเข็ม ไขมันต่ำ” สิริตาตักอาหารนั้นมาให้เธอ
“ผมว่าอันนี้ดีกว่า มีประโยชน์” ก้องภพเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่สาวจึงตักอาหารอีกจานที่เขาสั่งมาให้เธอทานบ้างจนตอนนี้ในจานเธอมีแต่กับข้าว
“เอ่อ ขอบคุณค่ะเดี๋ยวเข็มตักเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ตักให้”
“ทานเยอะ ลูกจะได้อิ่มๆ” เห่อพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง เข็มทิพย์ก็ได้แต่ทานอาหารที่ตัวเองไม่ได้ตักเองสักอย่างต่อไป
-------------------
กลับไปอ่านที่เด็กดีก็ได้ค่ะ http://writer.dek-d.com/goszy/story/view.php?id=179449

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ค. 2555, 09:55:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ค. 2555, 11:43:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 53769
<< S2บ่วงที่8 | S2บ่วงที่10 >> |

sirynth 13 พ.ค. 2555, 13:25:55 น.
narak ka, come back soon please.
narak ka, come back soon please.