เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 22

ตอนที่ 22


ภาคินัยแต่งกายในชุดสูทเรียบหรูดูดี คืนนี้เขารู้ว่าพีระดามีงานเดินแบบสถานที่จัดงานนั้นเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ ยังไงซะคืนนี้เขาจะต้องเคลียร์กับเธอให้เข้าใจไม่อย่างนั้นมีหวังว่างานแต่งงานที่ใกล้เข้ามาทุกทีอาจมีแววสั่นคลอนถึงขนาดพีระดาอาจจะล้มเลิกเอาง่ายๆก็ได้เพราะเธอโกรธเขามาก ภาคินัยรู้สึกน้อยใจอยู่ลึกๆที่พีระดาไม่เชื่อใจเขาเลย


แต่เมื่อนึกถึงคืนวันเกิดเหตุจังหวะที่พีระดาเปิดประตูเข้ามาและเห็นภาพนั้นเข้าเป็นใครก็คงต้องเชื่อว่าเขากับเขมมิกากำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะบนเตียงกันอย่างสนุกสนาน คงไม่มีใครเชื่อว่าเขากำลังหนีจากการถูกผู้หญิงลุกลานในระยะประชิดตัวบนเตียง แต่ภาคินัยก็ต้องถอนหายใจแสดงความเหนื่อหน่ายออกมาอีกครั้งเพราะพอรู้มาว่าคืนนี้นอกจากพีระดาแล้วเขมมิกาก็ร่วมเดินแบบในงานนี้ด้วยไม่รู้ว่าหญิงสาวจะหาเรื่องมาให้เขาปวดหัวอีกหรือเปล่าคราวนี้เขาคงจะต้องเด็ดขาดกับเขมมิกาการที่เขาสงสารและใจอ่อนไม่อยากต่อว่าเขมมิการุนแรงมันยิ่งทำให้พีระดาคิดว่าเขาเป็นผู้ชายหัวใจโลเล ทั้งที่เขาเองชัดเจนว่าเขาเลือกเธอและไม่คิดจะมีใครอื่นอีกแล้วในชีวิต

++++++++++++++++++++++++++

“โอ้โห! หล่อจัง”หญิงสาวยิ้มหวานทำตาโต แต่ในใจกำลังค่อนแคะ


คนในชุดสูทหรูราคาแพงหันมากระตุกยิ้มเก๊กๆให้เล็กน้อย ก่อนหันกลับไปมองกระจกรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเพราะร้อยวันพันปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดจะใส่สูทหรูราคาแพงพวกนี้มาด่นเลย แต่วันนี้เขาเลือกสั่งสูทยี่ห้อดังราคาแพงเวอร์มาใส่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ


“ตั้งแต่รู้จักคุณมาเพิ่งจะพูดเข้าหูผมก็วันนี้ เวลาคุณพูดจาดีๆก็น่ารักนะ” ก่อนจะจัดทรงผมตัวเองให้เข้าที่



“หล่อ...อย่างกับหัวล้านได้หวี หนุมานได้แก้วยังไม่รู้ตัวอีก..ชิ”เธอพูดเบาที่สุดก่อนจะไหว
ไหล่และหอบอาหารเย็นหันหลังเดินเข้าครัว แต่แล้วก็ถูกลำแขนแข็งแรงกว่าคว้าแขนเอาไว้



“ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ที่พูดหมายความว่าไง”



“เปล่านะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยชมต่างหาก”คนพูดลอยหน้าเถียงฉอดๆ ไม่สะทกสะท้าน



“นี่ผมไม่ได้ตกภาษาไทยนะ สุภาษิตที่คุณเปรียบเปรยผมเข้าใจความหมายมันดี คุณว่าสูทราคาแพงนี่มันไม่เหมาะกับหนังหน้าผมใช่ไหม”


สุชาวีฝืนยิ้มแหยๆ“ถ้ารู้แล้วถามทำไมล่ะ ปล่อยแขนฉันด้วยถ้าคุณทำให้แขนฉันเจ็บคืนนี้ไม่มีใครบริการยกข้าวยกน้ำให้คุณแน่ ไม่มีใครทำแผลให้คุณด้วย”


“คืนนี้ไม่ต้องทำอาหาร หรือสั่งอาหารให้ผมทั้งนั้นเราจะไปทานอาหารกันที่โรงแรม”


“เราเหรอคะ” สุชาวีขมวดคิ้วตีสีหน้าสงสัย

"หมายถึงผมกับคุณ"เขจิ้มไปที่ตัวเธอและเขา

พยาบาลสาวส่ายหน้า

“เราจะไปงานเดินแบบกันที่โรงแรม...คืนนี้”น้ำเสียงกึ่งออกคำสั่ง

“ถึงว่านายหัวเมฆา ถึงได้สลัดคราบโจร...เอ้ย...ไม่ใช่”

คนตาคมใช้สายตาดุใส่ จากนั้นตรงไปหยิบถุงกระดาษแบรนด์ดังส่งให้เธอ


“อะไรคะนี่ส่งให้ฉันทำไม”


“ชุดที่คุณจะใส่ไปงานคืนนี้” เขามองไปที่เธอกางเกงยีนส์ตัวเก่งกลางเก่ากลางใหม่กับเสื้อยืดเข้ารูป “แต่งตัวแบบนี้เดี๋ยวเขานึกว่าผมพาคนใช้ไปงานด้วย”


“จะมากไปแล้วนะคะนายหัว ฉันไม่ไปมันไม่ใช่หน้าที่ของพยาบาลคุณชอบใช้งานฉันมากกว่าหน้าที่พยาบาลพิเศษอยู่เรื่อยเลย” เธอขยับปากเตรียมจะบ่นต่อแต่ทว่าถูกมือใหญ่ปิดปากเอาไว้


“หยุดพูด และไปแต่งตัวซะ อย่าลืมเสียล่ะคดีที่คุณพาคนลักลอบเข้าไร่ผม หลักฐานจากกล้องวงจรปิดผมยังเก็บเอาไว้อยู่”เขาใช้ไม้ตายขึ้นมาขู่ซึ่งมันได้ผลทุกครั้งเพราะสุชาวีจะหมดทางเลือก


พยาบาลคนสวยมีท่าทีฮึดฮัด ก่อนจะรับถุงกระดาษมาจากเขาอย่างไม่เต็มใจ


“ผมบอกให้เขาเลือกชุดที่สวยที่สุดในร้านมาให้คุณแล้วนะ แต่ไม่รู้ว่าไอ้ชุดสวยๆนี่มันจะช่วยทำให้นางพญามารอย่างคุณสวยขึ้นมาได้บ้างหรือเปล่า” เขาพูดจบก็เดินจากไป


“คนปากร้ายถ้าคนอย่างฉันเป็นนางพญามารแล้วคุณล่ะเป็นอะไร”


“เป็นผู้มีอำนาจเหนือคุณไง ”


สุชาวีแอบกรี๊ดในใจ หมั่นไสร้เขาจริง แต่เมื่อมองแผ่นหลังกว้างที่เดินไปกลับรู้สึกใจสั่นอย่างประหลาดเธอยอมรับกับตัวเองว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างน่ามองจริงๆหุ่นและหน้าตาแบบนี้ทำให้เธอจินตนาการว่าหากเขาแต่งกายแบบชาวอาหรับคงจะหล่อเหมือนพวกท่านชีคในนิยายทะเลทรายที่ชอบอ่าน


สุชาวีมัวแต่จินตนาการเพลิดเพลินแต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเสียงแข็งกร้าวกวนประสาตของใครบางคนตะโกนเข้ามา


“เป็นอะไรของคุณยืนยิ้มอยู่คนเดียว ทำไมไม่รีบไปแต่ตัว อย่าลืมซิกว่าคุณจะส่วยสำเร็จได้มันก็ต้องใช้เวลาหน่อยไม่ใช่เหรอ” เขาแกล้งยิ้มเยาะที่จริงแล้วในสายตาของนายหัวเมฆาพยาบาลสาวเป็นคนที่สวยคนหนึ่งเข้าประเภทสวยพิศยิ่งมองก็ยิ่งสวย


“ฝันสลายเจ้าชาย กลับมาเป็นซาตานเหมือนเดิม” จากนั้นเธอก็เดินหน้าหงิกเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของเธอพร้อมกับชุดราตรี

"ตกลงผมได้คนดีมาดูแลหรือว่าได้คนบ้ามาดูแลกันแน่” เขาส่ายหัว


แต่สุชาวีได้ยินเข้าหญิงสาวหันมามองค้อนเขาก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง เธอใช้เวลาอยู่ราวๆเกือบหนึ่งชั่วโมงซึ่งเป็นการแต่งตัวและแต่งหน้าที่ใช้เวลานานที่สุดในรอบสามปีของเธอเลยก็ว่าได้


นายหัวเมฆายกนาฬิกาข้อมือเรือนสวยเรียบราคาหกหลักขึ้นดูเวลา จากนั้นคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่


“หน้าก็มีแค่นั้นจะแต่งอะไรกันนักกันหนา คิดว่าแต่งแล้วจะสวยขนาดเปลี่ยนจากนางพยาบาลไปเป็นนางแบบเลยหรือไง”เขายิ้มเยาะ


“ใช่ค่ะ ฉันยอมรับถึงจะแต่งยังไงก็คงสวยสู้คุณพีระดาเขาไม่ได้หรอก” เสียงย้อนจากคนที่เดินมาข้างหลังทำให้นายหัวเมฆาหันกลับไปกะว่าจะบ่นหล่อนสักชุดใหญที่ทำให้ต้องนั่งรอนาน แต่คำพูดทั้งหลายกลับถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ


เขาตาค้างจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยได้รูปของเธอราวหนึ่งนาทีใบหน้ารูปไข่ของสุชาวียิ่งเกล้าผมทรงสูงประดับด้วยกิ๊บติดผมรูปผีเสื้อที่ทำมาจากเพชรแท้เม็ดเล็กๆ ทำให้ดูโดดเด่นสวยกว่าวันไหนๆที่เขาเคยเห็นเธอ ชุดราตรีเข้ารูปสีเงินขับผิวให้เธอดูโดดเด่นอีกทั้งสวดทรงองเอวก็ไม่ได้เป็นสองรองจากใครเลยจะว่าไปรูปร่างเธอก็ไม่แพ้นางในดวงใจของเขาอย่างพีระดามากนัก

“ตะลึงในความงามของฉันเหรอคะนายหัว”เธอยักคิ้วให้เจ้านายหนุ่ม


คำพูดของเธอปลุกสติเขา นายหัวมาดเข้มรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เหมือนเดิมมากที่สุด แต่ภายในใจกลับรู้สึกว่ามันเต้นดังตึกๆตักๆ ความรู้สึกนี้นายหัวเมฆาไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่เขาได้พบพีระดาครั้งแรกแต่ปากเจ้ากรรมก็ไม่ได้พูดออกไปแบบที่ใจคิดแม้แต่น้อย


“แต่งตั้งนานสวยได้แค่นี้เองเหรอ เสียเวลาคอยจริงๆนึกว่าจะสวยได้มากกว่านี้ แต่ช่างเถอะมันก็ดีกว่าเดิมนิดนึง พอให้ถูๆไถๆไปก่อนวันนี้ผมหาคนควงไม่ทัน” ริมฝีปากเขากระตุกยิ้มท้าทาย


“ใช่ สวยได้แค่นี่แหละค่ะ สวยได้สุดชีวิตก็แค่นี้ ถ้าความสวยของฉันมันยังไม่พอและทำให้คุณต้องอับอายไม่กล้าควงไปงานก็เชิญไปกับคนอื่นเถอะ” ถ้าเขาว่าเธอเรื่องแต่งตัวช้าสุชาวีคงไม่โกรธมากเท่าเขาว่าเธอไม่สวย ทั้งที่เธอบรรจงแต่งตัวแต่งหน้าอย่างเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาท


“ใจเย็นสิคุณพยาบาลทำใจน้อยไปได้”เขาดึงแขนเธอให้เดินตาม “นี่ใกล้จะเริ่มงานแล้วด้วยอย่าเล่นตัวหน่อยเลย”


“คุณเห็นฉันเป็นแรงงานทาสอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้สั่งนั่นสั่งนี้ไม่สนใจว่าฉันจะเต็มใจหรือไม่”


“แรงงานทาสเลยเหรอ ผมโหดกับคุณมากขนาดนั้นเชียวสุชาวี อุตสาห์ซื้อเสื้อผ้าราคาแพงให้ เครื่องประดับก็ซื้อจากร้านดังแพงหูฉี่ แถมจะพาไปดูแฟชั่นโชว์ฟรีๆอีกไม่มีความดีบ้างเลยเหรอ”


“ที่คุณทำไปก็เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ที่พาฉันไปก็เพื่อเป็นกันชนนึกว่าไม่รู้รึไง”



“ก็คุณได้เสื้อผ้าแพงๆไปแล้วก็ต้องตอบแทนกันหน่อย”


“ฉันไม่เคยต้องการมัน ฉันแค่ต้องการความสบายใจในการทำงานมากกว่า”


“ คุณทำอย่างกับผมเป็นพวกโรคจิตชอบทรมานลูกน้องแบบนั้นแหละ”


“คุณไม่ได้ทรมานกายฉันแต่ชอบทรมานใจ เคยถามฉันซักคำไหมว่าเต็มใจไปด้วยหรือเปล่า”


“ไม่ถามเพราะถึงไม่อยากไปก็ต้องไปเพราะมันเป็นคำสั่ง คุณอย่าลืมสิว่าคุณมีหน้าที่ติดตามดูแลผมอย่างใกล้ชิด”

“ อย่างคุณคงไกลความตายแล้วล่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องให้ฉันตามดูแลทุกฝีก้าวก็ได้”


“คุณคงเบื่อมากนักกับการต้องมาดูแลผม ขนาดผมแค่บาดเจ็บภายนอก ถ้าผมหน้าตาน่าเกลียด เนื้อตัวเน่าเฟะคุณคงไม่อยากแม้แต่มองหน้าผม” เขาเกิดอารามน้อยใจอย่างไม่มีเหตุผล


“ฉันเบื่อคุณมาก.....ถึงมากที่สุด”นางพยาบาลสาสวนกลับ

“จะมากไปแล้วนะสุชาวี”เขาไม่พอใจในคำพูดของเธอรู้สึกเสียหน้า คนไม่เคยถูกปฏิเสธรับไม่ได้กับคำพูดแบบนี้


“ไม่มากไปหรอกค่ะ เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหน นิสัยแย่ และเอาแต่ใจเท่าคุณเลยคนอะไรเขาไม่ชอบยังไปตื้ออยู่ได้รู้ก็รู้ว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว”เธอค่อนขอดเขาเรื่องพีระดา



“ก็ของยากๆมันท้าทายดี แต่ของง่ายๆไม่นานมันก็เบื่อ”เขายิ้มเย็นดึงร่างระหงกลมกลึงเขามาปะทะกับอกแกร่งและโน้มลำตัวไปหาหญิงสาวดันร่างบางแนบชิดผนังจนชุดราตรีสีน้ำเงินเปลือยช่วงหลังของสุชาวีสัมผัสถึงความเย็นของผนังห้อง นายหัวเมฆาประทับจุมพิตร้อนแรงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างต้องการสั่งสอนในตัวพยาบาลสาวปากกล้าแต่แล้วฝ่ามือของเธอก็กระแทกกับโหนกแก้มของเขาอย่างแรง


“คนเลว ฉันเกลียดคุณ คนฉวยโอกาสคุณคงเห็นว่าฉันง่ายคุณคิดผิด”สุชาวีผลักเขาเต็มแรงทั้งน้ำตา ก่อนจะวิ่งหนีกลับเข้าไปในห้อง



นายหัวเมฆาท้าวเอวอย่างหัวเสีย จากนั้นหันไปเตะโซฟา ก่อนจะกุมศีรษะอย่างหงุดหงิดและก้าวยาวๆไปทางห้องของสุชาวี


“อะไรกันนักหนา ผมบอกให้กลับมาเดี๋ยวนี้จะไปไหน งานใกล้เริ่มแล้วนะ”


“ไม่ไป”เธอปิดประตูห้องทันที


“สุชาวี ผมสั่งให้คุณออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม” เขาสั่งเสียงดังก่อนจะทุบประตูด้วยความโมโห



“ไม่เปิดใช่ไหม ประตูแค่นี้คนอย่างนายเมฆามีปัญญาจ่าย” เขาพูดจบด้วยแรงมหาศาลไม่ถึงหนึ่งนาทีคนมุทะลุอย่างนายหัวเมฆาก็เข้าไปยืนจังกล้า ใบหน้าหาเรื่องอยู่ในห้องสุชาวีที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและมองเขาด้วยสายตาโกรธจัด



+++++++++++++++++++++++++++
“เอานี่ให้มันกินให้ได้” เขมมิกาส่งยาเม็ดจิ๋วสีขาวบรรจุในซองพลาสติกยัดเยียดลงในมือของผู้จัดการสาวประเภทสองส่วนตัวของเธอ


“ยาอะไรคะน้องเขม ไม่เอ้า ไม่เอา พี่เก๋ไม่กล้าค่ะ”


เขมมิกาจิกตาใส่ก่อนจะท้าวสะเอว “พี่เก๋ต้องทำ ถ้าไม่ทำเขมจะเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ เข้าใจไหมอย่าทำตัวเป็นกระเทยปอดแหก” คำพูดของเขมมิกาทำให้ผู้จัดการสาวประเภทสองของเธอหน้าชา

“ไม่แรงไปเหรอคะคุณน้องเขม”


“น้อยไปด้วยซ้ำ พี่เก๋ได้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของเขมไปมากเท่าไหร่ ค่างานโฆษณา เดินแบบ ในจะถ่ายแบบลงนิตยสารวานให้ทำงานแค่นี้เอง”


“แต่ยานี่มันยาอะไร แล้วทำไมน้องเขมต้องให้พี่เอาไปใส่แก้วให้น้องพรีมด้วยล่ะ”


“ไม่ต้องสู่รู้ทำตามที่พูดก็พอ”


“น้องเขมคิดจะทำอะไรคะ พี่อยากเตือนน้องเขมเอาไว้บางทีสิ่งที่น้องเขมคิดจะทำมันอาจทำร้ายตัวน้องเขมเอง”


เขมมิกาอุดหู “เบื่อๆ อย่ามาสู่รู้ทำเป็นสั่งสอนเขมนะคะพี่เก๋ ผู้จัดการส่วนตัวไม่ใช่พ่อแม่อย่าริมาสอนเขมจำใส่หัวไว้ด้วย”


“น้องเขมไม่แรงไปหน่อยหรือคะ”


“แล้วจะทำไม่ทำ ถ้าไม่ทำก็หางานใหม่ได้เลย” เขมมิกายื่นคำขาดก่อนจะยัดยาเม็ดเล็กๆใส่ในมือของผู้จัดการส่าวและเดินไปที่ห้องแต่งตัวเมื่อเห็นพีระดานั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องนั้นก่อนแล้ว เธอก็จินตนาการไปถึงเรื่องเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้กับนางแบบรุ่นน้องอย่างสะใจ


“เอาไปใส่แก้วน้ำที่เสริฟให้พวกนางแบบหลังเวทีแล้วใส่ให้ถูกแก้วด้วยล่ะ”



“คืนนี้แกสนุกจนลืมทุกสิ่งในโลกแน่นังพีระดา คุณกิตติบอกว่าท่านได้ยาดีมาคงจะถึงเช้าแน่ เหอะ...”เขมมิกาเบ้ปากเหยียดยิ้มจนเป็นเส้นตรงอย่างสะใจก่อนจะเดินผ่านห้องแต่งตัวของพีระดาและไม่ลืมที่จะส่งสายตาจิกใส่ก่อนจะเชิดหน้าใส่นางแบบรุ่นน้อง แต่พีระดาพยายามทำเป็นมองไม่เห็นเธอไม่อยากทะเลาะกับเขมมิกาเพราะใกล้ถึงเวลาต้องขึ้นเดินแบบแล้ว เขมมิกาเดินไปที่ห้องแต่งตัวของตนซึ่งอยู่ถัดไปเธอแจ้งผู้จัดงานว่าหากไม่แยกห้องแต่งตัวให้เธอกับพีระดา เธอก็จะไม่ร่วมเดินแบบครั้งนี้ด้วยเพราะถือว่าตัวเองเป็นนางแบบดังแม้ว่าพีระดาจะเป็นนางแบบน้องใหม่ที่กำลังดังมากเช่นกัน


เสียงโทรศัพท์ของพีระดาดังขึ้นช่างแต่งหน้าหยิบโทรศัพท์ส่งให้เธอ “คุณน้องพรีมโทรศัพท์ค่ะ”


เมื่อหญิงสาวเห็นว่าสายที่โทรเข้าคือภาคินัยเธอก็รับโทรศัพท์จากช่างแต่งหน้ามาและกดเคลียร์สายทิ้งไม่รับสาย


ช่างแต่งหน้ามองด้วยความแปลกใจแต่ไม่กล้าถาม


สักพักหนึ่งเจ้าหน้าที่ในงานก็เดินมาหาพีระดาที่ห้องแต่งตัวพร้อมกุหลาบฮอลแลนด์สีขาวดอกใหญ่ช่อโต
“มีคนฝากมาให้น้องพรีมค่ะ”

หญิงสาวรับมาถือเอาไว้ในมือเมื่อมองเห็นชื่อในการ์ดก็อยากจะโยนทิ้ง แต่ไม่อยากทำต่อหน้าคนอื่น
“ใครส่งมาให้คะคุณน้องพรีม อย่าบอกนะคะว่าเป็นคุณภาคินัยว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อของคุณน้อง” ช่างแต่งหน้าแซว


“เปล่าหรอกค่ะ เป็นพวกโรคจิตต่างหาก” พีระดาวางดอกไม้ลงยังงอนเขาไม่หาย



“คนโรคจิตที่น้องพรีมพูดหล่อแบบคนข้างหลังหรือเปล่าคะ” ช่างแต่งหน้ายิ้มเขินๆให้พีระดาก่อนจะขอปลีกตัวออกไปอย่างรู้งาน ภาคินัยส่งยิ้มขอบคุณให้ช่างแต่งหน้าอย่างเป็นมิตร


นางแบบสาวหันกลับไปทันที “คุณภาคินัย มาทำอะไรที่นี่คะออกไปเถอะค่ะ ใกล้เวลาเดินแบบของฉันแล้ว”
เมื่อภาคินัยเห็นว่าไม่มีคนอยู่ในห้องแล้วเขาก็ดึงร่างบางมากอดอย่างโหยหา “ผมคิดถึงคุณมากรู้ไหม”
“ปล่อยนะคะอย่ามาทำรุ่มล่ามที่นี่”

“คืนนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องเสียที ผมจะรอจนกว่าคุณจะเดินแบบเสร็จ”


“แต่คืนนี้ฉันไม่ว่างค่ะ” พีระดา เชิดหน้าขึ้นอย่างมีทิฐฐิ




“ทำไม คุณมีนัดกับใครอย่างนั้นเหรอ”ภาคินัยรั้งข้อมือบางเอาไว้


เมื่อไม่ได้คิดเอาไว้ตั้งแต่ที่แรกหญิงสาวก็อึกอัก แต่แล้วก็นึกชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมาเพื่อยั่วโมโหคนตรงหน้า “นายหัวเมฆา ”



หากเป็นชื่ออื่นภาคินัยคงไม่รู้สึกเจ็บปวดดราวกับถูกเข็มนับพันเล่มมาทิ่มที่หัวใจได้เท่านี้


“มันยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ไอ้หมอนั่นมันยังมายุ่งกับคุณอีกเหรอ ทำไมคุณไม่บอกผมสักคำว่ามันมาหาคุณ”


“ใช่ เขามาหาฉันและคืนนี้เขาก็จะมาที่นี่จะมาดูฉันเดินแบบ หลังจากเดินแบบเราสองคนมีนัดกัน”


“ตอนแรกคุณทำเป็นรังเกียจมัน ดูสิตอนนี้คุณทำอะไรอยู่พีระดาคุณกำลังจะเป็นเจ้าสาวของผมทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ อย่าบอกนะว่าติดใจในรสรักของมัน หรือว่าเมื่อคืนคุณกับมันจะชวนกันลำลึกความหลัง”เขาพูดไปด้วยความโมโห


“จะมากไปแล้วนะ อย่ามาดูถูกคนอย่างฉัน ฉันไม่มีนิสัยลักกินโขมยกินแบบคุณ” เธอตบหน้าเขาเต็มแรงด้วยความโกรธ

“จะให้พูดอีกสักกี่ร้อยครั้งว่าคืนนั้นผมกับเขมมิกาไม่ได้มีอะไรกัน”



“ก็ใช่นะสิเพราะฉันเข้าไปทัน ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ดูหนังเอ็กซเรื่องยาว”



ภาคินัยยิ้มมุมปากนึกไม่พอใจที่หญิงสาวไม่ไว้ใจเขาเลย “คุณหึงผมเหรอ



“ไม่ได้หึง แต่ฉันกำลังสมเพชตัวเองต่างหาก ฉันตัดสินใจผิดที่คิดจะแต่งงานกับคุณ”



“พีระดา!” ภาคินัยขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน คำพูดของเธอเหมือนมีดปลายแหลมที่เสียดแทงหัวใจเขา


“ผมให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกครั้ง”


“ถ้าฉันจะพูดเหมือนเดิมแล้วจะทำไม อันที่จริงฉันคงตัดสินใจเร็วเกินไปจริงๆ สำหรับเรื่องการแต่งงานของเรา จะว่าไปนายหัวเมฆาก็เข้าท่าเหมือนกันถ้าฉันคิดจะตัดสินใจใหม่คุณคงไม่คัดค้านใช่ไหม” ที่พูดออกไปนั้นเพราะพีระดายังโกรธภาคินัยเรื่องที่เจอเขมมิกาอยู่บนเตียงของเขา


คำพูดของเธอเปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดมาบนกองไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ในใจของภาคินัยความร้อนและความแรงของเพลิงจึงยิ่งโหมกระหน่ำราวกับไฟลามทุ่ง


“อย่างว่าสินะ วัวเคยข้าม้าเคยขี่ คงจะคิดถึงรสชาติเก่าๆ คงติดอกติดใจมันมากล่ะสิ”

“หยุดนะคุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว”หญิงสาวฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของเขาแต่ภาคินัยจับมือเรียวเอาไว้และกระชับเอวบางเข้ามาประทะร่างแกร่งของตนเองอย่างแรง และจูบประทับริมฝีปากเธออย่างรวดเร็วรุนแรง



“ติดใจมันทั้งที่คุณยังไม่เคยลองเลยว่าผมจะทำได้ถึงอกถึงใจกว่าไอ้หมอนั่นหรือเปล่า ถ้าการแต่งงานกับผมแบบถูกต้องตามประเพณีมันยากเย็นนักก็วิวาห์เหาะมันเลยละกัน”


“คนถ่อย ทุเรศ ออกไปจากห้องนี้นะ” พีระดาแหวะใส่พร้อมผลักไสเขาออกห่างเมื่อเห็นว่าท่ทีเขาคุกคามและประชิดตัวเธอ


“ไม่ต้องเดินบงเดินแบบอะไรทั้งนั้นแล้วคืนนี้ ผมมีที่แคบๆให้คุณเดินได้แค่บนเตียง” เขาไม่พูดอะไรต่อนอกจากอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเดินออกทางประตูหลังของห้องแต่งตัวเพื่อไม่ให้ใครพบเห็น

กำปั้นน้อยๆของพีระดากระหน่ำฟาดที่แผ่นหลังกว้างอย่างถี่ยิบ “บอกให้ปล่อย คนบ้าจะทำอะไรฉัน จะพาฉันไปไหน อีกไม่กี่นาทีฉันจะต้องเดินแบบแล้วนะ”



“ผมจะให้คุณเดินแน่อยากเดินทั้งคืนก็ได้ แต่คุณต้องเดินในห้องนอนของผมทั้งนั้น ที่สำคัญมันต้องไม่มีเสื้อผ้า” เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะแบกเธอราวกับปุยนุ่นไปที่รถ ภาคินัยตั้งใจว่าถ้าคืนนี้เคลียร์กันไม่จบเขาจะไม่ปล่อยเธอออกจากห้องอย่างเด็ดขาด


++++++++++++++++++++++
“ผมสั่งให้คุณลุกขึ้นมาแล้วลงไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้สุชาวี ผมมีเวลาเหลือไม่มากนัก” เขายกนาฬกาขึ้นดู

“ไม่ไป ฉันจะเปลี่ยนชุดและเข้านอนเดี๋ยวนี้เชิญคุณไปคนเดียวเถอะ”


“อย่ามาทำตัวเป็นเด็ก ถ้าไม่ไปกับผมคุณก็ต้องเปลี่ยนชุดนอนต่อหน้าผมตรงนี้ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจะยืนดูคุณเปลี่ยนชุด”



“ทุเรศ ลามก เกิดมาฉันไม่เคยเจอใครนิสัยน่ารังเกียจเท่าคุณมาก่อน”


“ถ้าอย่างนั้นถือว่าเป็นความโชคดีของคุณที่ได้เจอแล้ว เกิดมาทั้งทีถ้าไม่ได้เจอคนแบบผมคุณคงจะเสียชาติเกิดแย่”รอยยิ้มเขายียวนชวนให้โมโห



“ฉันไม่ไปไม่รู้เรื่องเหรอ ” เธอผลักเขาออกไปจากห้องแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ขยับไปไหน

“คุณอย่าทำตัวเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กๆได้ไหมสุชาวี ผมชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ ผมไม่อยากพลาดดูการเดินแบบของพีระดาในคืนนี้ เพราะคืนนี้เธอจะสวมชุดฟิลนาเล่ด้วย”


“นี่นายหัวคะฉันไม่เคยคิดที่จะเรียกร้องความสนใจจากคุณแม้แต่น้อยอย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนเขาอยากจะวิ่งไล่จับคุณไปเสียหมด อย่างน้อยคุณพีระดานั่นก็หนึ่งคน และฉันอีกคนที่ไม่คิดสนใจคุณ”


สุชาวีพยายามดันร่างสูงใหญ่ของนายหัวเมฆาออกจากห้องทำให้เธอเหยีบชายกระโปรงกรุยกรายของชุดราตรีแบรนด์หรูราคาแพงจนล้มลงทำให้ร่างระหงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของนายหัวแทน และเขาก็รับร่างเธอ



เอาไว้ได้พอดิบพอดีเมื่อผิวเนื้อนวลของเธอถูไถอยู่กับเสื้อสูทของเขาความร้อนวูบวาบบางอย่างแทรกซึมผ่านเสื้อสูทตัวเก๋เข้าไปทำให้นายหัวเมฆาชะงักกับความรู้สึกประหลาดนั้น อีกครั้งแล้วสินะที่เขารู้สึกแปลกๆกับผู้หญิงคนนี้หญิงสาวพยายามขืนตัวออกแต่อ้อมกอดแข็งแรงนั้นกลับไม่ปล่อยให้เธอทำตามความต้องการ


“จะดิ้นไปไหนล่ะ ก็คุณวิ่งเข้ามาหาอ้อมอกอันอบอุ่นของผมเองไม่ใช่เหรอ”


“แหวะ เลี่ยน ลิเกสุดๆ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะคะกรุณาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”


“ไม่รู้สิผมไม่อยากปล่อยแล้ว ผิวคุณมันนุ่มลื่นดี ผมชักอยากดมดูแล้วสิว่ามันจะหอมชื่นใจแค่ไหน” เขาเฉยคางหญิงสาวเบาๆก่อนจะก้มจุมพิตริมฝีปากกระจับน่ารักอย่างรวดเร็ว


“ไม่นะ อย่า ปล่อยฉัน อย่ามาทำตัวหื่นกับฉัน” เธอหยิกและจิกที่หลังเขา แต่นายหัวเมฆากลับไม่ฟังเขาหยุดเสียงต่อต้านของเธอด้วยการลุกลานเรียวปากอิ่มสีเชอร์รีย์พาลิ้นร้อนเข้าไปดูดชิมความหอมหวานอย่างช่ำชองจนหญิงสาวไม่อาจคัดค้านได้อีกรู้สึกอึดอัดแน่นไปหมดพยายามดิ้นรนให้พ้นพันธนาการของเขา นายหัวเมฆาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆเขาถึงมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้ เขาอยากลิ้มรสและครอบครองเธอขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งที่เขาพยายามบอกและเตือนสติตัวเองว่าเขากำลังตกหลุมรักพีระดาไม่ใช่ผู้หญิงบ้านๆ แม่พยาบาลปากร้ายตรงหน้าสักหน่อย

++++++++++++++++++++++++++++++++++







“เปล่าหรอกค่ะ เป็นพวกโรคจิตต่างหาก” พีระดาวางดอกไม้ลงยังงอนเขาไม่หาย
“คนโรคจิตที่น้องพรีมพูดหล่อแบบคนข้างหลังหรือเปล่าคะ” ช่างแต่งหน้ายิ้มเขินๆให้พีระดาก่อนจะขอปลีกตัวออกไปอย่างรู้งาน ภาคินัยส่งยิ้มขอบคุณให้ช่างแต่งหน้าอย่างเป็นมิตร

นางแบบสาวหันกลับไปทันที “คุณภาคินัย มาทำอะไรที่นี่คะออกไปเถอะค่ะ ใกล้เวลาเดินแบบของฉันแล้ว”

เมื่อภาคินัยเห็นว่าไม่มีคนอยู่ในห้องแล้วเขาก็ดึงร่างบางมากอดอย่างโหยหา “ผมคิดถึงคุณมากรู้ไหม”


“ปล่อยนะคะอย่ามาทำรุ่มล่ามที่นี่”


“คืนนี้เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องเสียที ผมจะรอจนกว่าคุณจะเดินแบบเสร็จ”


“แต่คืนนี้ฉันไม่ว่างค่ะ” พีระดา เชิดหน้าขึ้นอย่างมีทิฐฐิ


“ทำไม คุณมีนัดกับใครอย่างนั้นเหรอ”ภาคินัยรั้งข้อมือบางเอาไว้


เมื่อไม่ได้คิดเอาไว้ตั้งแต่ที่แรกหญิงสาวก็อึกอัก แต่แล้วก็นึกชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมาเพื่อยั่วโมโหคนตรงหน้า “นายหัวเมฆา ”


หากเป็นชื่ออื่นภาคินัยคงไม่รู้สึกเจ็บปวดดราวกับถูกเข็มนับพันเล่มมาทิ่มที่หัวใจได้เท่านี้


“มันยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ไอ้หมอนั่นมันยังมายุ่งกับคุณอีกเหรอ ทำไมคุณไม่บอกผมสักคำว่ามันมาหาคุณ”


“ใช่ เขามาหาฉันและคืนนี้เขาก็จะมาที่นี่จะมาดูฉันเดินแบบ หลังจากเดินแบบเราสองคนมีนัดกัน”



“ตอนแรกคุณทำเป็นรังเกียจมัน ดูสิตอนนี้คุณทำอะไรอยู่พีระดาคุณกำลังจะเป็นเจ้าสาวของผมทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ อย่าบอกนะว่าติดใจในรสรักของมันหรือว่าเมื่อคืนคุณกับมันจะชวนกันลำลึกความหลัง”เขาพูดไปด้วยความโมโห


“จะมากไปแล้วนะ อย่ามาดูถูกคนอย่างฉัน ฉันไม่มีนิสัยลักกินโขมยกินแบบคุณ” เธอตบหน้าเขาเต็มแรงด้วยความโกรธ


“จะให้พูดอีกสักกี่ร้อยครั้งว่าคืนนั้นผมกับเขมมิกาไม่ได้มีอะไรกัน”


“ก็ใช่นะสิเพราะฉันเข้าไปทัน ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ดูหนังเอ็กซเรื่องยาว”


ภาคินัยยิ้มมุมปากนึกไม่พอใจที่หญิงสาวไม่ไว้ใจเขาเลย “คุณหึงผมเหรอ


“ไม่ได้หึง แต่ฉันกำลังสมเพชตัวเองต่างหาก ฉันตัดสินใจผิดที่คิดจะแต่งงานกับคุณ”


“พีระดา!” ภาคินัยขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน คำพูดของเธอเหมือนมีดปลายแหลมที่เสียดแทงหัวใจเขา


“ผมให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกครั้ง”


“ถ้าฉันจะพูดเหมือนเดิมแล้วจะทำไม อันที่จริงฉันคงตัดสินใจเร็วเกินไปสำหรับเรื่องการแต่งงานของเรา จะว่าไปนายหัวเมฆาก็เข้าท่าเหมือนกันถ้าฉันคิดจะตัดสินใจใหม่คุณคงไม่ว่า” ที่พูดออกไปนั้นเพราะพีระดายังโกรธภาคินัยเรื่องที่เจอเขมมิกาอยู่บนเตียงของเขา

คำพูดของเธอเปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดมาบนกองไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ในใจของภาคินัยความร้อนและความแรงของเพลิงจึงยิ่งโหมกระหน่ำราวกับไฟลามทุ่ง


“อย่างว่าสินะ วัวเคยข้าม้าเคยขี่ คงจะคิดถึงรสชาติเก่าๆ คงติดอกติดใจมันมากล่ะสิ”

“หยุดนะคุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้ว”หญิงสาวฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของเขาแต่ภาคินัยจับมือเรียวเอาไว้และกระชับเอวบางเข้ามาประทะร่างแกร่งของตนเองอย่างแรง


“ติดใจมันทั้งที่คุณยังไม่เคยลองเลยว่าผมจะทำได้ถึงอกถึงใจกว่าไอ้หมอนั่นหรือเปล่า ถ้าการแต่งงานกับผมแบบถูกต้องตามประเพณีมันยากเย็นนักก็วิวาห์เหาะเลยละกัน”


“คนถ่อย ทุเรศ ออกไปจากห้องนี้นะ” พีระดาแหวะใส่พร้อมผลักไสเขาออกห่างเมื่อเห็นว่าท่ทีเขาคุกคามและประชิดตัวเธอ


“ไม่ต้องเดินบงเดินแบบอะไรทั้งนั้นแล้วคืนนี้ ผมมีที่แคบๆให้คุณเดินได้แค่บนเตียง” เขาไม่พูดอะไรต่อนอกจากอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเดินออกทางประตูหลังของห้องแต่งตัวเพื่อไม่ให้ใครพบเห็น

กำปั้นน้อยๆของพีระดากำหน่ำฟาดที่แผ่นหลังกว้างอย่างถี่ยิบ “บอกให้ปล่อย คนบ้าจะทำอะไรฉัน จะพาฉันไปไหน อีกไม่กี่นาทีฉันจะต้องเดินแบบแล้วนะ”


“ผมจะให้คุณเดินแน่อยากเดินทั้งคืนก็ได้ แต่คุณต้องเดินในห้องนอนของผมทั้งนั้น ที่สำคัญมันต้องไม่มีเสื้อผ้า” เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะแบกเธอราวกับปุยนุ่นไปที่รถ ภาคินัยตั้งใจว่าถ้าคืนนี้เคลียร์กันไม่จบเขาจะไม่ปล่อยเธอออกจากห้องอย่างเด็ดขาด

++++++++++++++++++++++
“ผมสั่งให้คุณลุกขึ้นมาแล้วลงไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้สุชาวี ผมมีเวลาเหลือไม่มากนัก” เขายกนาฬกาขึ้นดู


“ไม่ไป ฉันจะเปลี่ยนชุดและเข้านอนเดี๋ยวนี้เชิญคุณไปคนเดียวเถอะ”


“อย่ามาทำตัวเป็นเด็ก ถ้าไม่ไปกับผมคุณก็ต้องเปลี่ยนชุดนอนต่อหน้าผมตรงนี้ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจะยืนดูคุณเปลี่ยนชุด”

“ทุเรศ ลามก เกิดมาฉันไม่เคยเจอใครนิสัยน่ารังเกียจเท่าคุณมาก่อน”


“ถ้าอย่างนั้นถือว่าเป็นความโชคดีของคุณที่ได้เจอแล้ว เกิดมาทั้งทีถ้าไม่ได้เจอคนแบบผมคุณคงจะเสียชาติเกิดแย่”รอยยิ้มเขายียวนชวนให้โมโห


“ฉันไม่ไปไม่รู้เรื่องเหรอ ” เธอผลักเขาออกไปจากห้องแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ขยับไปไหน


“คุณอย่าทำตัวเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กๆได้ไหมสุชาวี ผมชักจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะ ผมไม่อยากพลาดดูการเดินแบบของพีระดาในคืนนี้ เพราะคืนนี้เธอจะสวมชุดฟิลนาเล่ด้วย”


“นี่นายหัวคะฉันไม่เคยคิดที่จะเรียกร้องความสนใจจากคุณแม้แต่น้อยอย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนเขาอยากจะวิ่งไล่จับคุณไปเสียหมด อย่างน้อยคุณพีระดานั่นก็หนึ่งคน และฉันอีกคนที่ไม่คิดสนใจคุณ”


สุชาวีพยายามดันร่างสูงใหญ่ของนายหัวเมฆาออกจากห้องทำให้เธอเหยีบชายกระโปรงกรุยกรายของชุด

ราตรีแบรนด์หรูราคาแพงจนล้มลงทำให้ร่างระหงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของนายหัวแทน และเขาก็รับร่างเธอ

เอาไว้ได้พอดิบพอดีเมื่อผิวเนื้อนวลของเธอถูไถอยู่กับเสื้อสูทของเขาความร้อนวูบวาบบางอย่างแทรกซึมผ่านเสื้อสูทตัวเก๋เข้าไปทำให้นายหัวเมฆาชะงักกับความรู้สึกประหลาดนั้น อีกครั้งแล้วสินะที่เขารู้สึกแปลกๆกับผู้หญิงคนนี้หญิงสาวพยายามขืนตัวออกแต่อ้อมกอดแข็งแรงนั้นกลับไม่ปล่อยให้เธอทำตามความต้องการ


“จะดิ้นไปไหนล่ะ ก็คุณวิ่งเข้ามาหาอ้อมอกอันอบอุ่นของผมเองไม่ใช่เหรอ”


“แหวะ เลี่ยน ลิเกสุดๆ ฉันทนไม่ไหวแล้วนะคะกรุณาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”


“ไม่รู้สิผมไม่อยากปล่อยแล้ว ผิวคุณมันนุ่มลื่นดี ผมชักอยากดมดูแล้วสิว่ามันจะหอมชื่นใจแค่ไหน” เขาเฉยคางหญิงสาวเบาๆก่อนจะก้มจุมพิตริมฝีปากกระจับน่ารักอย่างรวดเร็ว


“ไม่นะ อย่า ปล่อยฉัน อย่ามาทำตัวหื่นกับฉัน” เธอหยิกและจิกที่หลังเขา แต่นายหัวเมฆากลับไม่ฟังเขาหยุด


เสียงต่อต้านด้วยการลุกลานเรียวปากของเธอพาลิ้นร้อนเข้าไปดูดชิมความหอมหวานอย่างช่ำชองจนหญิงสาวไม่อาจค้านได้อีกรู้สึกอึดอัดแน่นไปหมดพยายามดิ้นรนให้พ้นพันธนาการของเขา นายหัวเมฆาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมจู่ๆเขาถึงมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้ เขาอยากลิ้มรสและครอบครองเธอ ทั้งที่พยายามบอกตัวเองว่าเขากำลังตกหลุมรักพีระดาไม่ใช่ผู้หญิงบ้านๆ แม่พยาบาลปากร้ายตรงหน้าสักหน่อย

++++++++++++++++++++++++++++++++++









อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ค. 2555, 15:31:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2555, 15:43:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 3825





<< ตอนที่21   ตอนที่ 23 >>
konhin 15 พ.ค. 2555, 16:20:14 น.
ลงซ้ำนิดนึงตอนท้ายๆค่ะ

นางแบบโดนหิ้วไปแล้ว แล้วจะเอาใครมาเดินแทนหล่ะนิ แล้วใครจะซวยกิน"ยา"นั่น หมองูตายเพราะงูให้นังเขมโดนซะเองเลยยยยยยยย


อัปสรา 15 พ.ค. 2555, 16:24:51 น.
รอลุ้นนะคะตอนหน้าค่ะ


goldensun 15 พ.ค. 2555, 19:40:51 น.
งานนี้สงสัยเคลียร์ทีเดียวสองคู่ แถมนางแบบในห้องมีคนเดียว กรรมติดจรวดหาเขมด้วยมั้ยนี่


lovemuay 15 พ.ค. 2555, 19:47:53 น.
พระเอกช่วยนางเอกไว้ได้ด้วยความหึงนิเอง อิอิ


violette 15 พ.ค. 2555, 22:02:43 น.
แอบมีลงซ้ำนะคะ อิอิ
รอตอนต่อไปด่วนเลยค่า


Pampam 15 พ.ค. 2555, 23:22:22 น.
ไรเตอร์ขาาาาาา ยัยเขมควรรับกรรมที่ก่อไว้ค่ะ อินไปมั๊ยเนี่ยเรา


kaero 16 พ.ค. 2555, 11:54:03 น.
กำลังมันส์ ต่อๆๆๆน๊ะ


wane 16 พ.ค. 2555, 11:54:38 น.
ยัยเขมเสร็จแน่คืนนี้


แพม 16 พ.ค. 2555, 15:32:59 น.
มันซ้ำชิมิ คืนนี้ 2 คู่???


อัปสรา 16 พ.ค. 2555, 16:30:32 น.
ระวังมันพลิกนะ


Pampam 17 พ.ค. 2555, 01:14:43 น.
อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป มาต่อไวไวนะคะ


กาซะลองพลัดถิ่น 18 พ.ค. 2555, 04:55:53 น.
ิ่อ่านตอนแรกนึกว่าตาลายว่าทำไมมันซ้ำกันหว่า คริ คริ ....ขอตอนต่อไปด่วนเลยคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account