นิราศรักกรุงสยาม
ศักดิ์ศรีมีไว้ให้คนสรรเสริญมิใช่ทำลาย ความรักมีไว้เพื่อให้ได้รักในกันและกัน ปัญหาเดียวของความรักคือความไม่เข้าใจ
Tags: สู้ ไม่ยอม แพ้
ตอน: ให้พระคุณ
“เอาล่ะ ข้าจะทำต้มยำ อ้ายคนนั้นหน่วยก้านดีขึ้นต้นไม้คงได้ ข้าผ่านต้นมะพร้าวก่อนมาถึงครัว เอ็งไปหมาให้ข้าสักทลาย”
“เอามาทำไมเจ้าคะคุณนาย”ยายพุ่มสงสัย
“ต้มย้ำมะพร้าวน้ำหอม ใส่เนื้อลงไปบ้าง”
ทำแปลก...ยายพุ่มนึกค่อน ส่วนคนที่โดนให้ขึ้นมะพร้าวร้องถามคุณนาย
“เอาทั้งทะลายเทียวรึขอรับ”
“เอ็งจะขึ้นไปเด็ดทีละลูก ลงมาใหม่ แล้วขึ้นไปสักสิบทีก็ตามใจเอ็งเป็นไร” ผิวเหน็บแนมคนเรื่องมาก ซึ่งต้องรีบไปทันที หาไม่เกิดคุณนายสำทับลูกน้องให้ลงทันธ์เทียวขึ้นเทียวลงเป็นลิงโดนตี เขาคงแย่
คนอื่นรีบตั้งใจฟังช้องนาง ส่วนคนหัวอ่อนสอบถามงานครัวกับผิวอย่างหาพวก ต่างเห็นฤทธิ์อีกครั้งว่าคุณนายไม่ได้แค่มีอภินิหารเท่านั้น แต่มีอำนาจกลัวใครเสียที่ไหนกัน
“ต้มยำเป็นของเปรี้ยวเผ็ด ข้าอยากจะเพิ่มของเค็มอีกสักอย่าง ยายพุ่มมีปลาตากแดดเดียวมั้ยเล่า หากไม่มีก็แล้วไป”
“ไม่มีเจ้าค่ะ เรือนนี้ไม่มีใครรับประทานของเก็บของของดอง”
“ก็ดี ไปหาปลาช่อนตัวพอดีสักข้องมาแร่ก้างกลางออก ข้าจะให้ยายพุ่มทอดให้กรอบ เคล้าน้ำปลา ที่เหลือหมักเกลือไว้ จากนี้จะได้มีของหมักไว้กินไม่ต้องเสียเวลา นี่ถ้าช้าไปคุณหญิงแม่คงได้ลดชั้นยายพุ่มเป็นแน่ เพราะงานที่ฉันสั่งไม่ได้ความ”
นางพุ่มได้ยินเต็มสองรูหู ได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่า ภายใต้ท่าทีนุ่มนวล หากว่าวาจาเราะร้าย ครั้นนางจะไม่ทำตาม และช้องนางนำไปบอกเจ้าคุณ หรือคุณหลวงว่าโดนแกล้ง นางคงโดนหวายหลังลายเป็นแน่ เพราะว่าข่าวลือเลื่องมาว่า เจ้าคุณกับหลวงไกรโปรดปราณคุณนายน้อยคนนี้นักหนา
ท่าทางร้ายอย่างไม่น่ารัก ทำให้นางพุ่มมองไม่ออกว่าหลวงไกรหลงแต่รูปสวยหรือไร ครั้นจะหาทางตำหนิอย่างอื่น นางพุ่มไม่เห็นรอยตำหนิได้เลย นอกจากสวยแล้ว นางพุ่มมองดูการแกะสลักของช้องนางซึ่งทำอย่างแคล่วคล่อง รู้งาน และเป็นงาน ครู่เดียว ฟักทองสีเหลืองเป็นดอกไม้ แตงกวาเป็นใบไม้ ช้องนางและผิวแกะได้หลากสีตามผักแต่ละอย่าง ครู่เดียวสาวใช้ในโรงครัวเห็นเป็นของสนุก จึงช่วยคุณนายจัดทำจากนั้นถามว่า
“แกะผัก สลักใบ*ไปทำอะไรเจ้าคะ” (คนไทยชองพูดต่อคำ เรียกว่าคำสร้อย บางคำก็ซ้อนทับเป็นคำเดียวบางคำ ไม่มีความหมายแต่เป็นคำคล้องก็นำมาใช้จนติดปาก จึงมีคนกล่าวว่า คนไทยเจ้าบทเจ้ากลอน)
“แกงเรียงปลาช่อนทั้งตัว นึ่งปลาก่อนจะได้ไม่คาว ผักสลักพวกนี้ต้มพอสุก ส่วนที่หั่นเป็นพอคำใส่ต้มไปกับน้ำแกงจะได้หวานน้ำผัก โขกเครื่องให้ถึง จักไม่จืดชืดเพราะฉันไม่ได้ใส่เนื้อปลา ต้องใส่เครื่องเป็นสองเท่า เว้นกะปิใส่มากจักเสียรสไป”
ช้องนางสั่งบ่าวผู้ชาย เมื่อเขาแบกมะพร้าวมาทั้งทะลายมาให้
“ปาดเอาแต่ปากและหัวไว้ตั้งได้ ทำให้สะอาดล่ะ เอามาทั้งหมดนั่นล่ะ จะได้กินกันทั่วครัว”
“เอ่อมีของอิฉันด้วยหรือเจ้าคะ”
ช้องนางยิ้มเยื้อนในสีหน้า ยายพุ่มรู้สึกดีด้วยขึ้นมาในทันที
ในความคิดของยายพุ่มเวลานี้คือ คุณนายเธอจะไปร้ายกับใครยายพุ่มไม่ขอรับรู้ แต่ถ้าคุณนายเธอมีเมตตาให้ยายพุ่ม วันข้างหน้าเรือนนี้เป็นของคุณหลวง คุณนายก็จะพลอยเป็นใหญ่ ยายพุ่มก็ยังเป็นยายพุ่มหัวหน้าแม่ครัว แยกข้างเสียเลยก็แล้วกัน
ยายพุ่มคิดอย่างกระหยิ่มใจ รอคอยดูต้มยำในลูกมะพร้าวด้วยความสนใจ!!
หลวงไกรรอคอยช้องนางกลับเรือนอย่างกระวนกระวายใจ ชายหนุ่มเกรงหญิงสาวที่เขาแสนรักจะถูกแกล้งใช้ให้ได้รับความลำบากจนพานมาชิงชังเขามากไปกว่าเดิม แค่คิดเขาก็ร้อนใจจนอยากไปโรงครัวหลายครั้ง แต่ต้องยั้งใจไว้ เพราะเกรงมารดาจะเอาเรื่องช้องนางไม่จบสิ้น
ฝ่ายช้องคุมงานครัวเรียบร้อยแล้วจึงได้ชวนผิวกลับ เธอถอนใจด้วยความเหนื่อยเพราะทำอาหารพลิกแพลง อวดฝีมือลืมกำลังตัวเองว่าไม่ใช่ที่เรือนเก่า ที่นั่นทุกคนเป็นงาน สั่งคำเดียวเครื่องเคียงเรียงมาลงหม้อกันโดยเร็ว แต่นี่ช้องนางต้องลงมือเองทุกอย่าง ผิวเห็นความเหนื่อยของนายสาว จึงประชดคนนั่งหน้านวลใกล้ผู้ใหญ่ว่า
“แม่สาวชาววังไม่ลงมาเหลียวแลเลยนะเจ้าคะ”
“คุณหลวงคงไม่อยากให้เล็บคนของเขาหักกระมัง ถึงได้เลี้ยงไว้ใกล้คุณแม่”ช้องนางประชด อารมณ์ขุ่น
“หวงคุณหลวงหรือเจ้าคะ”
“หวงอะไร ข้าจะหวงไปทำไม”
ผิวไม่เอ่ยอะไรอีก ได้แต่คิดว่านายของตัวเองจริงๆแล้วผ่าน การมีสามีจริงๆหรือยัง จึงดูเหมือนคนไม่เคยมืออย่างนี้..น่าเป็นห่วงเสียแล้ว
หลวงไกรรอหญิงสาวกลับมาเรือนหอด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าภรรยากลับมาถึงเรือน ชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าสามีจึงสำทับอย่างห่วงใยว่า
“แม่ช้องคราวหลังไม่ต้องลงครัว ไม่ต้องลำบาก”
“คุณหลวงห่วงอิฉันด้วยรึ” หล่อนย้อนถาม ผิว บ่าวตัวโปรดใจหาย เพราะนายของตน ชวนเขาทะเลาะได้ทั่วไม่เว้นแม้แต่สามีซึ่งดูเหมือนห่วงแทบขาดใจ
“แม่ช้อง นี่คุณแม่ฉันทำให้หล่อนไม่ชอบใจมากใช่มั้ย”
“อิฉันไม่อาจเอื้อมดอกเจ้าค่ะ อิฉันยังเด็กและมาอยู่ที่นี่อย่างตัวคนเดียว”
“แม่ช้อง อย่าพูดเหมือนกับหล่อนโดนลอยแพอย่างนั้นได้หรือไม่”
“อิฉันเพิ่งทราบเจ้าค่ะว่าสุภาษิตเก่ายังใช้ได้ทุกคราว คับที่พออยู่ได้ คับใจอยู่ยาก”
หลวงไกรสงสารร่างอรชรแทบขาดใจ เขาประคองหล่อนไว้ มิใยที่หญิงสาวจะสะบัดสะบิ้งเข้าใส่ ชายหนุ่มเข้าใจกับความน้อยใจนี้ได้ เพราะช้องนางเพิ่งอายุสิบหกเท่านั้น ความโกรธ ความอดกลั้น ต่อให้มีมากแค่ไหน คงขาดยับยั้งได้ เมื่อถึงที่สุดของความอดทน
“ไปอาบน้ำเถอะแม่ช้องฉันเรียนคุณแม่ไปแล้วว่าไม่ให้หล่อนลงครัวอีก”
“ไม่เจ้าค่ะ มันเป็นหน้าที่ของอิฉันที่ต้องทำอยู่แล้ว คุณหลวงมิต้องลำบากใจไปดอกเจ้าค่ะ” หล่อนปลดมือเขาออก หากไกรยังขืนเกาะกุมเป็นครู่จึงปล่อย ก่อนเอ่ยถึงเรื่องเข้าใจผิดของช้องนางว่า
“อ้อเรื่องที่แม่ช้องว่าเห็นน้ำผึ้ง ท่าทางจะเข้าใจผิด ฉันไปถามคุณแม่มาแล้ว น้ำผึ้งไม่ได้มาดอก มีแต่แผ้ว หลานคุณน้าเหม”
นี่ไม่ใช่ชาววังจริงๆ แล้วน้ำผึ้งซึ่งผู้ใหญ่ออกปากคำแล้วคำเล่าให้ช้องนางรกหูคือใคร สาวชาววังคนนั้นคือใครหรือ ตกลงเตียงในห้องหอคือเตียงของใคร หรือว่าหลวงไกรนึกจะพาใครมานอนก็ได้
โอ้...คุณหลวงเกลือกกลั้วไปทั่วหรือนี่ ช้องนางครุ่นคิดสับสนวุ่นวาย แต่ที่ร้ายนักคืออยากทุบแต่คุณหลวงผู้เป็นสามีให้สาแก่ใจ!!
มื้อเย็นมาถึง
บ่าวผู้หญิงลำเอียงอาหารหวานคาวไปบนหอนั่งเรือนใหญ่ เจ้าคุณแต่งกายด้วยกางเกงแพรไม่สวมเสื้อมีผ้าพาดไหล่ผืนเดียว คุณหญิงแสง คุณเหม คุณส้มลิ้ม เหน็บผ้าแถบ นั่งร่วมวง สักครู่หลวงไกรซึ่งแต่งกายเรียบร้อยด้วยนุ่งจูงกระเบน ไม่สวมเสื้อ มีผ้าคาดเอวเรียบร้อย ช้องนางเหน็บผ้าแถบ ตามปกติของหญิงไทยสมัยนั้น ทั้งสองเดินตามกันมา
ท่านเจ้าคุณนั่งเป็นประธาน เรียงไปคือคุณหญิง คุณเหม คุณส้มลิ้ม และแผ้ว ซึ่งช้องนางยังเข้าใจว่าเป้นเมียเก่าของหลวงไกร
คุณหญิงใหญ่เห็นอาหารสวยงามเรียงรายวาง ถึงกับเอ่ยปากชม
“นี่รึฝีมือแม่ช้อง”
“ทำไมแม่ช้อง ต้องลงครัวเอง” เจ้าคุณย้อนถามภรรยา คุณหญิงรีบว่า
“อิฉันยังติดใจ ที่ไปทาบทามแม่ช้องแล้วได้ชิมฝีมือจึงให้แม่ช้องทำให้”
“เหนื่อยมั้ยแม่ช้อง” ท่านเจ้าคุณเทศาถามด้วยความเมตตา ท่านรู้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องให้ช้องนางลงครัว นอกจากคุณหญิงใหญ่แกล้งสะใภ้เล่น
“มิได้เจ้าค่ะท่าน คุณแม่ท่านชอบอาหารที่อิฉันทำถึงเพียงนี้ อิฉันดีใจมากแล้วเจ้าค่ะ”
“แค่รู้ว่าโรงครัวอยู่ที่ใดก็พอแม่ช้อง ต่อไปเรียนอยู่บนเรือนอย่างคุณนายของคุณหลวงก็พอ”
“ขอบพระคุณในความเมตตาของเจ้าคุณพ่อมากเจ้าค่ะ”
คุณเหมแอบเกลียดชัง เพราะช้องนางทำทีกิริยาอ่อนหวานกับพ่อสามี แต่เมื่อเช้า นางโดนถอนหงอก คุณเหมพานนึกชังไปที่ คุณหญิงใหญ่ เพราะทำเป็น ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของสะใภ้ชื่นชมไม่ขาดปาก ทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าได้แกล้งสะใภ้ร่วมกัน
จนกระทั่งบ่าวเก็บสำรับลงเรือน คุณหญิงเอ่ยเมื่อนั่งคุยเพื่อให้อาหารย่อย
“ต้องกวนให้แม่ช้องกำกับงานครัว”
“กระผมจะจ้างครูแหม่มมาสอนภาษาแม่ช้องเพิ่มเติม คงไม่มีเวลามากนักขอรับคุณแม่ ถึงโอกาสพิเศษจึงลงมือทำดีมั้ยขอรับ”
“ขวางพ่อไกร ไม่ทันไรก็หลงเมีย เอาเถอะตามใจคิดอ่านมาอย่างนี้ขัดขวางก็จะขัดใจกันเสียเปล่า”
เจ้าคุณเข้าข้างลูกชายทันที
“ถูกของเจ้าไกร เพื่อนฝูงเป็นฝรั่งงานติดต่อกับฝรั่ง เมียรู้ภาษาไว้บ้างก็ดี แม่ช้องเคยเรียนมาบ้างพูดได้มั้ย”
“พูดได้ งู ๆ ปลา ๆ เจ้าค่ะ” หล่อนถ่อมตัว ทั้งที่ในลูกศิษย์ทั้งหมด มิชชันนารีชมช้องนางว่าเก่งที่สุด
“อืม” เจ้าคุณลงเสียงในลำคอ
หลวงไกรลองภูมิภรรยา ถามไถ่เป็นภาษาอังกฤษ ช้องนางโต้ตอบทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่อมพะนำไว้
เจ้าคุณตบเข่าผางภาคภูมิใจที่ขนทรัพย์สินไปสู่ขออีกฝ่ายมาเป็นสะใภ้ ช้องนางมีดีอย่างนี้หัวบันไดบ้านจึงไม่แห้ง ท่านเอ่ยกับสะใภ้ว่า
“ไหนว่าเรียนไม่จบ ดูรึพูดออกคล่องปรื๋อ”
“คุณพ่อจัดหาตำราเรียนจากครูแหม่มมาให้เรียนที่บ้านเจ้าค่ะคุณพ่อ”
“จะให้ฝึกไปทำไม รึรู้ว่าต้องมาเป็นเมียพ่อไกร” คุณเหมเหน็บซึ่ง ๆ หน้า
“อิฉันไม่ได้ฝึกไว้เพื่อรอใครดอกเจ้าค่ะ”
“คิดไม่เหมือนใครเชียว พ่อของหล่อน” คุณส้มลิ้มกระทบ
“เอาแต่เลี้ยงลูกเป็นโขยงอย่างแม่วาดเห็นจะไม่ก้าวหน้า เป็นลูกเจ้าคุณ นี่ถ้าไม่ได้เงินเจือจุนคงอดตาย เลือกหากันโดยสมัครใจแล้วเป็นอย่างไร ดีแต่ทำลูกไปวันๆ”
เจ้าคุณวกเข้าหาลูกสาวคุณส้มลิ้มซึ่งได้สามีเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย จนป่านนี้พึ่งได้ตำแหน่งหัวพัน ส่วน คุณไกรข้ามชั้นไปเป็นคุณหลวง
“พุทธเจ้าหลวงทรงโปรดคนหนุ่มหัวคิดก้าวหน้า ผัวแม่วาดจึงดูเหมือนย่ำอยู่กับที่ ทั้งที่พ่อตาเป็นท่านเจ้าคุณ” คุณส้มลิ้มยอกย้อนสามี ซึ่งหากท่านเจ้าคุณจะช่วยลูกเขยก็ทำได้แต่ท่านเป็นอย่างที่คุณเหมเหน็บแนม
“นี่เพราะคนในไม่ส่งเสริมสามีแม่วาด”
“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน บ้านเมืองเราเจริญไปมากก็เพราะพระราชดำริก้าวหน้าของพระองค์ท่าน เจ้าไกรทำงานเก่งทำงานได้ดีจึงไปไกลกว่ารุ่นเดียวกัน เขยของหล่อนเอาแต่ขีด ๆ เขียน ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขวาง ผูกเรือนต้องตามใจคนอยู่ แม่วาดรักชอบเขา ฉันจึงยกให้ นี่หล่อนก็เหมือนกันนะแม่ส้มลิ้ม ถ้าหล่อนไปรักชอบใครบ้างฉันจะได้ยกให้เขาไป ไม่ขัดใจหล่อนเลยสักนิด” ท่านหยอก
ทุกคนเห็นขัน เว้นแต่คุณส้มลิ้มทำหน้างอง้ำที่โดนยกเป็นตัวอย่างให้ได้อายสะใภ้ซึ่งไม่ชอบหน้ากัน จากนั้นท่านเจ้าคุณชายตามองแผ้ว คุณเหมไหวระแวงเป็นล้นพ้น ส่วนแผ้วนั้นได้แต่หลบหน้ามองพื้น กิริยาอาการของแผ้ว ทำให้ช้องนางเห็นว่าแปลก เพราะเธอเข้าใจว่าน่าที่จะเป็นคนของไกรมากกว่า แต่นี่ ดูเหมือน เจ้าคุณพ่อผัว จะกล้าทำเจ้าชู้ และอีกฝ่าย มีท่าทีไม่รักษากิริยา ทำสะดิ้งขวยเขิน
ผิวก้มหน้าแทบติดพื้น จะออกปากหลุดขำเป็นหลายครั้ง แต่พับเขม้นมองอยู่ ผิวจึงเก็บอาการเอาไว้ หยอกนายสาวของตนให้คลายมึนตึงลงจากการเข้าใจหลวงไกรผิดไป!!
ที่โรงครัว
นางพุ่มคอยตีมือคนครัวสาว ๆ ที่แย่งกันหยิบช้อนสังกะสีซึ่งเป็นช้อนกลางกันอย่างไม่ละมือ พวกเธอต่างอยากลิ้มชิมรสฝีมือคุณนายว่าจะทำต้มยำมะพร้าวอ่อนได้รสเด็ดเพียงใด
“ของข้าโว้ย” ยายพุ่มออกหวง พลางตักทั้งเนื้อน้ำซดโฮกใหญ่
“ป้าพุ่มจะแบ่งให้ฉันได้เป็นบุญปากไม่ได้เทียวรึ”
“แหมรสเด็ดถึงใจ พริกสดนี่แสบไส้ดีแท้”ยายพุ่มพรรณนา พวกแม่ครัวจึงพากันยึดมือยายพุ่มไว้ แล้วแกล้งพากันตักใส่ชามสังกะสีของตนเองกันจ้าละหวั่นทีเดียว
“มีบุญแล้วไม่แบ่งปัน ระวังจะท้องแตกเหมือนชูชกนะป้า”
ยายพุ่มเรอเอิก ก่อนลูบท้องทำเป็นอิ่ม และเย้ยหยันพวกลูกมืออย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก
“คุณนายเธอเก่งนะป้าพุ่ม”
“อาหารอร่อยมาก การจัดจานแบบชาวรั้วชาววังเลยทีเดียว”
“ป้าเคยอยู่วังมาก่อนรึ”
“อุวะ ก็คราวคุณน้ำผึ้งมาเยี่ยมคุณหญิง เธอก็ลงมาคุมโรงครัว ฝีมือเธอก็เป็นดังคุณนายนี่เอง”
“นี่ถ้าให้คุณน้ำผึ้ง กับคุณนายทำปลาแนมแข่งกัน แล้วให้คุณหลวงท่านรับประทาน ป้าว่าคุณหลวงจะชมใคร”
ยายพุ่มนิ่งคิดก่อนตอบว่า
“ไม่รู้เว้ย ข้าไม่ใช่ สร้อยฟ้า ศรีมาลา ในเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนละเลงขนมเบื้องนี่นาจะได้มองใครทำอาหารเป็นไม่เป็น”
พวกลูกมือนึกขำ เพราะพวกนางมีความรู้อันน้อยนิด หรือไม่มีเลย ดังนั้นการได้ดูละครนอก และพวก ลิเก (ยี่เก)จึงเป็นเรื่องที่ให้ความบันเทิงพร้อมความรู้อย่างขอไปทีได้เช่นกัน
“ที่ป้าพุ่มตัดสินไม่ได้เพราะคุณน้ำผึ้งไม่ทำอาหารเผื่อให้ป้าอย่างคุณนายท่านเอื้อเฟื้อ”
ครานี้ยายพุ่มไม่ปริปากให้เป็นภัยแก่ตัวเอง เพราะว่าสาวใช้ผู้ช่วยในครัวพูดจริง อาหารของนาย คุณน้ำผึ้งเธอจัดแต่พอดี ไม่เคยได้ให้บ่าวไพร่ได้ลิ้มชิมรส ต่างจากคุณนายช้องนางที่ยายพุ่มแอบฝากตัว หญิงสาวได้ซื้อใจยายพุ่มโดยอาจจะรู้หรือไม่รู้ ไม่มีใครคาดเดาน้ำใจช้องนางได้เลย!!
“ว่าแต่คุณน้ำผึ้งเธอไม่มา แต่คุณแผ้วหลานสาวคุณเหมมาเป็นหลายวันแล้ว จะมาแข่งเรือแข่งวาสนากันกับคุณนายหรือเปล่ายายพุ่ม”
“อย่าอึงกันไป” พวกลูกมือในครัวคนที่ไม่ช่างนินทาเตือนคนปากสว่าง
“เอาข้างใครล่ะ ข้าน่ะไม่เอาข้างอื่นแล้ว”คนปากอยู่ไม่สุข สะกิดถาม
“ชิชะ ขี้ใหม่หอมล่ะสิ”ยายพุ่ม กระแนะกระแหนลูกมือ ซึ่งย้อนกลับทันควัน
“หรือยายจะไม่เอาข้างคุณนายล่ะ ฉันน่ะไม่กล้าดอกยาย ท่านสอนฉันทำครัว” กล่าวพลางหัวเราะกันคิกคัก หมายความไปทางอื่นมากกว่า
“แล้วฉันก็รู้บุญคุณข้าวแดงแกงอร่อยเมื่อค่ำนี้ด้วยนะ อาหารชาววังอย่างนี้ใครไม่มีบุญเป็นไม่ได้เคยกินยายว่ามั้ย”
“เออน่า ข้าไม่เอนข้างใครดอก”
“จริงหรือยาย ฉันเห็นยายซดแกงเรียงเสียงโฮก นังปั้นยังได้แกงเรียงไปเร่งน้ำนมหม้อดินเชียวล่ะ”
ยายพุ่มต้องยอมรับจริงๆว่า เสน่ห์ปลายจวัก ของคุณนาย คุณหลวงไกรมีมากเหลือหลายทีเดียว โดยเฉพาะทั้งดีทั้งร้ายอย่างนี้ บริวารต่างเกรงใจกันถ้วนหน้า
เวลาค่ำมากแล้ว ช้องนางและผิวนั่งอยู่ในห้องหอ ส่วนหลวงไกรไปอาบน้ำในที่มิดชิด ซึ่งกั้นไว้สำหรับอาบบนเรือน โดยมีบ่าวผู้ชายตักน้ำมาให้ใช้อย่างไม่พร่องโอ่ง
ชายหนุ่มร่างสูง นุ่งผ้าผืนยาว เปลือยอกอย่างชายไทยทั่วไป ใช้ผ้าขาวม้าพาดบ่า เดินเข้ามาในห้องหอ!!
“เอามาทำไมเจ้าคะคุณนาย”ยายพุ่มสงสัย
“ต้มย้ำมะพร้าวน้ำหอม ใส่เนื้อลงไปบ้าง”
ทำแปลก...ยายพุ่มนึกค่อน ส่วนคนที่โดนให้ขึ้นมะพร้าวร้องถามคุณนาย
“เอาทั้งทะลายเทียวรึขอรับ”
“เอ็งจะขึ้นไปเด็ดทีละลูก ลงมาใหม่ แล้วขึ้นไปสักสิบทีก็ตามใจเอ็งเป็นไร” ผิวเหน็บแนมคนเรื่องมาก ซึ่งต้องรีบไปทันที หาไม่เกิดคุณนายสำทับลูกน้องให้ลงทันธ์เทียวขึ้นเทียวลงเป็นลิงโดนตี เขาคงแย่
คนอื่นรีบตั้งใจฟังช้องนาง ส่วนคนหัวอ่อนสอบถามงานครัวกับผิวอย่างหาพวก ต่างเห็นฤทธิ์อีกครั้งว่าคุณนายไม่ได้แค่มีอภินิหารเท่านั้น แต่มีอำนาจกลัวใครเสียที่ไหนกัน
“ต้มยำเป็นของเปรี้ยวเผ็ด ข้าอยากจะเพิ่มของเค็มอีกสักอย่าง ยายพุ่มมีปลาตากแดดเดียวมั้ยเล่า หากไม่มีก็แล้วไป”
“ไม่มีเจ้าค่ะ เรือนนี้ไม่มีใครรับประทานของเก็บของของดอง”
“ก็ดี ไปหาปลาช่อนตัวพอดีสักข้องมาแร่ก้างกลางออก ข้าจะให้ยายพุ่มทอดให้กรอบ เคล้าน้ำปลา ที่เหลือหมักเกลือไว้ จากนี้จะได้มีของหมักไว้กินไม่ต้องเสียเวลา นี่ถ้าช้าไปคุณหญิงแม่คงได้ลดชั้นยายพุ่มเป็นแน่ เพราะงานที่ฉันสั่งไม่ได้ความ”
นางพุ่มได้ยินเต็มสองรูหู ได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่า ภายใต้ท่าทีนุ่มนวล หากว่าวาจาเราะร้าย ครั้นนางจะไม่ทำตาม และช้องนางนำไปบอกเจ้าคุณ หรือคุณหลวงว่าโดนแกล้ง นางคงโดนหวายหลังลายเป็นแน่ เพราะว่าข่าวลือเลื่องมาว่า เจ้าคุณกับหลวงไกรโปรดปราณคุณนายน้อยคนนี้นักหนา
ท่าทางร้ายอย่างไม่น่ารัก ทำให้นางพุ่มมองไม่ออกว่าหลวงไกรหลงแต่รูปสวยหรือไร ครั้นจะหาทางตำหนิอย่างอื่น นางพุ่มไม่เห็นรอยตำหนิได้เลย นอกจากสวยแล้ว นางพุ่มมองดูการแกะสลักของช้องนางซึ่งทำอย่างแคล่วคล่อง รู้งาน และเป็นงาน ครู่เดียว ฟักทองสีเหลืองเป็นดอกไม้ แตงกวาเป็นใบไม้ ช้องนางและผิวแกะได้หลากสีตามผักแต่ละอย่าง ครู่เดียวสาวใช้ในโรงครัวเห็นเป็นของสนุก จึงช่วยคุณนายจัดทำจากนั้นถามว่า
“แกะผัก สลักใบ*ไปทำอะไรเจ้าคะ” (คนไทยชองพูดต่อคำ เรียกว่าคำสร้อย บางคำก็ซ้อนทับเป็นคำเดียวบางคำ ไม่มีความหมายแต่เป็นคำคล้องก็นำมาใช้จนติดปาก จึงมีคนกล่าวว่า คนไทยเจ้าบทเจ้ากลอน)
“แกงเรียงปลาช่อนทั้งตัว นึ่งปลาก่อนจะได้ไม่คาว ผักสลักพวกนี้ต้มพอสุก ส่วนที่หั่นเป็นพอคำใส่ต้มไปกับน้ำแกงจะได้หวานน้ำผัก โขกเครื่องให้ถึง จักไม่จืดชืดเพราะฉันไม่ได้ใส่เนื้อปลา ต้องใส่เครื่องเป็นสองเท่า เว้นกะปิใส่มากจักเสียรสไป”
ช้องนางสั่งบ่าวผู้ชาย เมื่อเขาแบกมะพร้าวมาทั้งทะลายมาให้
“ปาดเอาแต่ปากและหัวไว้ตั้งได้ ทำให้สะอาดล่ะ เอามาทั้งหมดนั่นล่ะ จะได้กินกันทั่วครัว”
“เอ่อมีของอิฉันด้วยหรือเจ้าคะ”
ช้องนางยิ้มเยื้อนในสีหน้า ยายพุ่มรู้สึกดีด้วยขึ้นมาในทันที
ในความคิดของยายพุ่มเวลานี้คือ คุณนายเธอจะไปร้ายกับใครยายพุ่มไม่ขอรับรู้ แต่ถ้าคุณนายเธอมีเมตตาให้ยายพุ่ม วันข้างหน้าเรือนนี้เป็นของคุณหลวง คุณนายก็จะพลอยเป็นใหญ่ ยายพุ่มก็ยังเป็นยายพุ่มหัวหน้าแม่ครัว แยกข้างเสียเลยก็แล้วกัน
ยายพุ่มคิดอย่างกระหยิ่มใจ รอคอยดูต้มยำในลูกมะพร้าวด้วยความสนใจ!!
หลวงไกรรอคอยช้องนางกลับเรือนอย่างกระวนกระวายใจ ชายหนุ่มเกรงหญิงสาวที่เขาแสนรักจะถูกแกล้งใช้ให้ได้รับความลำบากจนพานมาชิงชังเขามากไปกว่าเดิม แค่คิดเขาก็ร้อนใจจนอยากไปโรงครัวหลายครั้ง แต่ต้องยั้งใจไว้ เพราะเกรงมารดาจะเอาเรื่องช้องนางไม่จบสิ้น
ฝ่ายช้องคุมงานครัวเรียบร้อยแล้วจึงได้ชวนผิวกลับ เธอถอนใจด้วยความเหนื่อยเพราะทำอาหารพลิกแพลง อวดฝีมือลืมกำลังตัวเองว่าไม่ใช่ที่เรือนเก่า ที่นั่นทุกคนเป็นงาน สั่งคำเดียวเครื่องเคียงเรียงมาลงหม้อกันโดยเร็ว แต่นี่ช้องนางต้องลงมือเองทุกอย่าง ผิวเห็นความเหนื่อยของนายสาว จึงประชดคนนั่งหน้านวลใกล้ผู้ใหญ่ว่า
“แม่สาวชาววังไม่ลงมาเหลียวแลเลยนะเจ้าคะ”
“คุณหลวงคงไม่อยากให้เล็บคนของเขาหักกระมัง ถึงได้เลี้ยงไว้ใกล้คุณแม่”ช้องนางประชด อารมณ์ขุ่น
“หวงคุณหลวงหรือเจ้าคะ”
“หวงอะไร ข้าจะหวงไปทำไม”
ผิวไม่เอ่ยอะไรอีก ได้แต่คิดว่านายของตัวเองจริงๆแล้วผ่าน การมีสามีจริงๆหรือยัง จึงดูเหมือนคนไม่เคยมืออย่างนี้..น่าเป็นห่วงเสียแล้ว
หลวงไกรรอหญิงสาวกลับมาเรือนหอด้วยความกระวนกระวายใจเมื่อหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าภรรยากลับมาถึงเรือน ชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าสามีจึงสำทับอย่างห่วงใยว่า
“แม่ช้องคราวหลังไม่ต้องลงครัว ไม่ต้องลำบาก”
“คุณหลวงห่วงอิฉันด้วยรึ” หล่อนย้อนถาม ผิว บ่าวตัวโปรดใจหาย เพราะนายของตน ชวนเขาทะเลาะได้ทั่วไม่เว้นแม้แต่สามีซึ่งดูเหมือนห่วงแทบขาดใจ
“แม่ช้อง นี่คุณแม่ฉันทำให้หล่อนไม่ชอบใจมากใช่มั้ย”
“อิฉันไม่อาจเอื้อมดอกเจ้าค่ะ อิฉันยังเด็กและมาอยู่ที่นี่อย่างตัวคนเดียว”
“แม่ช้อง อย่าพูดเหมือนกับหล่อนโดนลอยแพอย่างนั้นได้หรือไม่”
“อิฉันเพิ่งทราบเจ้าค่ะว่าสุภาษิตเก่ายังใช้ได้ทุกคราว คับที่พออยู่ได้ คับใจอยู่ยาก”
หลวงไกรสงสารร่างอรชรแทบขาดใจ เขาประคองหล่อนไว้ มิใยที่หญิงสาวจะสะบัดสะบิ้งเข้าใส่ ชายหนุ่มเข้าใจกับความน้อยใจนี้ได้ เพราะช้องนางเพิ่งอายุสิบหกเท่านั้น ความโกรธ ความอดกลั้น ต่อให้มีมากแค่ไหน คงขาดยับยั้งได้ เมื่อถึงที่สุดของความอดทน
“ไปอาบน้ำเถอะแม่ช้องฉันเรียนคุณแม่ไปแล้วว่าไม่ให้หล่อนลงครัวอีก”
“ไม่เจ้าค่ะ มันเป็นหน้าที่ของอิฉันที่ต้องทำอยู่แล้ว คุณหลวงมิต้องลำบากใจไปดอกเจ้าค่ะ” หล่อนปลดมือเขาออก หากไกรยังขืนเกาะกุมเป็นครู่จึงปล่อย ก่อนเอ่ยถึงเรื่องเข้าใจผิดของช้องนางว่า
“อ้อเรื่องที่แม่ช้องว่าเห็นน้ำผึ้ง ท่าทางจะเข้าใจผิด ฉันไปถามคุณแม่มาแล้ว น้ำผึ้งไม่ได้มาดอก มีแต่แผ้ว หลานคุณน้าเหม”
นี่ไม่ใช่ชาววังจริงๆ แล้วน้ำผึ้งซึ่งผู้ใหญ่ออกปากคำแล้วคำเล่าให้ช้องนางรกหูคือใคร สาวชาววังคนนั้นคือใครหรือ ตกลงเตียงในห้องหอคือเตียงของใคร หรือว่าหลวงไกรนึกจะพาใครมานอนก็ได้
โอ้...คุณหลวงเกลือกกลั้วไปทั่วหรือนี่ ช้องนางครุ่นคิดสับสนวุ่นวาย แต่ที่ร้ายนักคืออยากทุบแต่คุณหลวงผู้เป็นสามีให้สาแก่ใจ!!
มื้อเย็นมาถึง
บ่าวผู้หญิงลำเอียงอาหารหวานคาวไปบนหอนั่งเรือนใหญ่ เจ้าคุณแต่งกายด้วยกางเกงแพรไม่สวมเสื้อมีผ้าพาดไหล่ผืนเดียว คุณหญิงแสง คุณเหม คุณส้มลิ้ม เหน็บผ้าแถบ นั่งร่วมวง สักครู่หลวงไกรซึ่งแต่งกายเรียบร้อยด้วยนุ่งจูงกระเบน ไม่สวมเสื้อ มีผ้าคาดเอวเรียบร้อย ช้องนางเหน็บผ้าแถบ ตามปกติของหญิงไทยสมัยนั้น ทั้งสองเดินตามกันมา
ท่านเจ้าคุณนั่งเป็นประธาน เรียงไปคือคุณหญิง คุณเหม คุณส้มลิ้ม และแผ้ว ซึ่งช้องนางยังเข้าใจว่าเป้นเมียเก่าของหลวงไกร
คุณหญิงใหญ่เห็นอาหารสวยงามเรียงรายวาง ถึงกับเอ่ยปากชม
“นี่รึฝีมือแม่ช้อง”
“ทำไมแม่ช้อง ต้องลงครัวเอง” เจ้าคุณย้อนถามภรรยา คุณหญิงรีบว่า
“อิฉันยังติดใจ ที่ไปทาบทามแม่ช้องแล้วได้ชิมฝีมือจึงให้แม่ช้องทำให้”
“เหนื่อยมั้ยแม่ช้อง” ท่านเจ้าคุณเทศาถามด้วยความเมตตา ท่านรู้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องให้ช้องนางลงครัว นอกจากคุณหญิงใหญ่แกล้งสะใภ้เล่น
“มิได้เจ้าค่ะท่าน คุณแม่ท่านชอบอาหารที่อิฉันทำถึงเพียงนี้ อิฉันดีใจมากแล้วเจ้าค่ะ”
“แค่รู้ว่าโรงครัวอยู่ที่ใดก็พอแม่ช้อง ต่อไปเรียนอยู่บนเรือนอย่างคุณนายของคุณหลวงก็พอ”
“ขอบพระคุณในความเมตตาของเจ้าคุณพ่อมากเจ้าค่ะ”
คุณเหมแอบเกลียดชัง เพราะช้องนางทำทีกิริยาอ่อนหวานกับพ่อสามี แต่เมื่อเช้า นางโดนถอนหงอก คุณเหมพานนึกชังไปที่ คุณหญิงใหญ่ เพราะทำเป็น ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารของสะใภ้ชื่นชมไม่ขาดปาก ทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าได้แกล้งสะใภ้ร่วมกัน
จนกระทั่งบ่าวเก็บสำรับลงเรือน คุณหญิงเอ่ยเมื่อนั่งคุยเพื่อให้อาหารย่อย
“ต้องกวนให้แม่ช้องกำกับงานครัว”
“กระผมจะจ้างครูแหม่มมาสอนภาษาแม่ช้องเพิ่มเติม คงไม่มีเวลามากนักขอรับคุณแม่ ถึงโอกาสพิเศษจึงลงมือทำดีมั้ยขอรับ”
“ขวางพ่อไกร ไม่ทันไรก็หลงเมีย เอาเถอะตามใจคิดอ่านมาอย่างนี้ขัดขวางก็จะขัดใจกันเสียเปล่า”
เจ้าคุณเข้าข้างลูกชายทันที
“ถูกของเจ้าไกร เพื่อนฝูงเป็นฝรั่งงานติดต่อกับฝรั่ง เมียรู้ภาษาไว้บ้างก็ดี แม่ช้องเคยเรียนมาบ้างพูดได้มั้ย”
“พูดได้ งู ๆ ปลา ๆ เจ้าค่ะ” หล่อนถ่อมตัว ทั้งที่ในลูกศิษย์ทั้งหมด มิชชันนารีชมช้องนางว่าเก่งที่สุด
“อืม” เจ้าคุณลงเสียงในลำคอ
หลวงไกรลองภูมิภรรยา ถามไถ่เป็นภาษาอังกฤษ ช้องนางโต้ตอบทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสไม่อมพะนำไว้
เจ้าคุณตบเข่าผางภาคภูมิใจที่ขนทรัพย์สินไปสู่ขออีกฝ่ายมาเป็นสะใภ้ ช้องนางมีดีอย่างนี้หัวบันไดบ้านจึงไม่แห้ง ท่านเอ่ยกับสะใภ้ว่า
“ไหนว่าเรียนไม่จบ ดูรึพูดออกคล่องปรื๋อ”
“คุณพ่อจัดหาตำราเรียนจากครูแหม่มมาให้เรียนที่บ้านเจ้าค่ะคุณพ่อ”
“จะให้ฝึกไปทำไม รึรู้ว่าต้องมาเป็นเมียพ่อไกร” คุณเหมเหน็บซึ่ง ๆ หน้า
“อิฉันไม่ได้ฝึกไว้เพื่อรอใครดอกเจ้าค่ะ”
“คิดไม่เหมือนใครเชียว พ่อของหล่อน” คุณส้มลิ้มกระทบ
“เอาแต่เลี้ยงลูกเป็นโขยงอย่างแม่วาดเห็นจะไม่ก้าวหน้า เป็นลูกเจ้าคุณ นี่ถ้าไม่ได้เงินเจือจุนคงอดตาย เลือกหากันโดยสมัครใจแล้วเป็นอย่างไร ดีแต่ทำลูกไปวันๆ”
เจ้าคุณวกเข้าหาลูกสาวคุณส้มลิ้มซึ่งได้สามีเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย จนป่านนี้พึ่งได้ตำแหน่งหัวพัน ส่วน คุณไกรข้ามชั้นไปเป็นคุณหลวง
“พุทธเจ้าหลวงทรงโปรดคนหนุ่มหัวคิดก้าวหน้า ผัวแม่วาดจึงดูเหมือนย่ำอยู่กับที่ ทั้งที่พ่อตาเป็นท่านเจ้าคุณ” คุณส้มลิ้มยอกย้อนสามี ซึ่งหากท่านเจ้าคุณจะช่วยลูกเขยก็ทำได้แต่ท่านเป็นอย่างที่คุณเหมเหน็บแนม
“นี่เพราะคนในไม่ส่งเสริมสามีแม่วาด”
“ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน บ้านเมืองเราเจริญไปมากก็เพราะพระราชดำริก้าวหน้าของพระองค์ท่าน เจ้าไกรทำงานเก่งทำงานได้ดีจึงไปไกลกว่ารุ่นเดียวกัน เขยของหล่อนเอาแต่ขีด ๆ เขียน ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้ขัดขวาง ผูกเรือนต้องตามใจคนอยู่ แม่วาดรักชอบเขา ฉันจึงยกให้ นี่หล่อนก็เหมือนกันนะแม่ส้มลิ้ม ถ้าหล่อนไปรักชอบใครบ้างฉันจะได้ยกให้เขาไป ไม่ขัดใจหล่อนเลยสักนิด” ท่านหยอก
ทุกคนเห็นขัน เว้นแต่คุณส้มลิ้มทำหน้างอง้ำที่โดนยกเป็นตัวอย่างให้ได้อายสะใภ้ซึ่งไม่ชอบหน้ากัน จากนั้นท่านเจ้าคุณชายตามองแผ้ว คุณเหมไหวระแวงเป็นล้นพ้น ส่วนแผ้วนั้นได้แต่หลบหน้ามองพื้น กิริยาอาการของแผ้ว ทำให้ช้องนางเห็นว่าแปลก เพราะเธอเข้าใจว่าน่าที่จะเป็นคนของไกรมากกว่า แต่นี่ ดูเหมือน เจ้าคุณพ่อผัว จะกล้าทำเจ้าชู้ และอีกฝ่าย มีท่าทีไม่รักษากิริยา ทำสะดิ้งขวยเขิน
ผิวก้มหน้าแทบติดพื้น จะออกปากหลุดขำเป็นหลายครั้ง แต่พับเขม้นมองอยู่ ผิวจึงเก็บอาการเอาไว้ หยอกนายสาวของตนให้คลายมึนตึงลงจากการเข้าใจหลวงไกรผิดไป!!
ที่โรงครัว
นางพุ่มคอยตีมือคนครัวสาว ๆ ที่แย่งกันหยิบช้อนสังกะสีซึ่งเป็นช้อนกลางกันอย่างไม่ละมือ พวกเธอต่างอยากลิ้มชิมรสฝีมือคุณนายว่าจะทำต้มยำมะพร้าวอ่อนได้รสเด็ดเพียงใด
“ของข้าโว้ย” ยายพุ่มออกหวง พลางตักทั้งเนื้อน้ำซดโฮกใหญ่
“ป้าพุ่มจะแบ่งให้ฉันได้เป็นบุญปากไม่ได้เทียวรึ”
“แหมรสเด็ดถึงใจ พริกสดนี่แสบไส้ดีแท้”ยายพุ่มพรรณนา พวกแม่ครัวจึงพากันยึดมือยายพุ่มไว้ แล้วแกล้งพากันตักใส่ชามสังกะสีของตนเองกันจ้าละหวั่นทีเดียว
“มีบุญแล้วไม่แบ่งปัน ระวังจะท้องแตกเหมือนชูชกนะป้า”
ยายพุ่มเรอเอิก ก่อนลูบท้องทำเป็นอิ่ม และเย้ยหยันพวกลูกมืออย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก
“คุณนายเธอเก่งนะป้าพุ่ม”
“อาหารอร่อยมาก การจัดจานแบบชาวรั้วชาววังเลยทีเดียว”
“ป้าเคยอยู่วังมาก่อนรึ”
“อุวะ ก็คราวคุณน้ำผึ้งมาเยี่ยมคุณหญิง เธอก็ลงมาคุมโรงครัว ฝีมือเธอก็เป็นดังคุณนายนี่เอง”
“นี่ถ้าให้คุณน้ำผึ้ง กับคุณนายทำปลาแนมแข่งกัน แล้วให้คุณหลวงท่านรับประทาน ป้าว่าคุณหลวงจะชมใคร”
ยายพุ่มนิ่งคิดก่อนตอบว่า
“ไม่รู้เว้ย ข้าไม่ใช่ สร้อยฟ้า ศรีมาลา ในเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนละเลงขนมเบื้องนี่นาจะได้มองใครทำอาหารเป็นไม่เป็น”
พวกลูกมือนึกขำ เพราะพวกนางมีความรู้อันน้อยนิด หรือไม่มีเลย ดังนั้นการได้ดูละครนอก และพวก ลิเก (ยี่เก)จึงเป็นเรื่องที่ให้ความบันเทิงพร้อมความรู้อย่างขอไปทีได้เช่นกัน
“ที่ป้าพุ่มตัดสินไม่ได้เพราะคุณน้ำผึ้งไม่ทำอาหารเผื่อให้ป้าอย่างคุณนายท่านเอื้อเฟื้อ”
ครานี้ยายพุ่มไม่ปริปากให้เป็นภัยแก่ตัวเอง เพราะว่าสาวใช้ผู้ช่วยในครัวพูดจริง อาหารของนาย คุณน้ำผึ้งเธอจัดแต่พอดี ไม่เคยได้ให้บ่าวไพร่ได้ลิ้มชิมรส ต่างจากคุณนายช้องนางที่ยายพุ่มแอบฝากตัว หญิงสาวได้ซื้อใจยายพุ่มโดยอาจจะรู้หรือไม่รู้ ไม่มีใครคาดเดาน้ำใจช้องนางได้เลย!!
“ว่าแต่คุณน้ำผึ้งเธอไม่มา แต่คุณแผ้วหลานสาวคุณเหมมาเป็นหลายวันแล้ว จะมาแข่งเรือแข่งวาสนากันกับคุณนายหรือเปล่ายายพุ่ม”
“อย่าอึงกันไป” พวกลูกมือในครัวคนที่ไม่ช่างนินทาเตือนคนปากสว่าง
“เอาข้างใครล่ะ ข้าน่ะไม่เอาข้างอื่นแล้ว”คนปากอยู่ไม่สุข สะกิดถาม
“ชิชะ ขี้ใหม่หอมล่ะสิ”ยายพุ่ม กระแนะกระแหนลูกมือ ซึ่งย้อนกลับทันควัน
“หรือยายจะไม่เอาข้างคุณนายล่ะ ฉันน่ะไม่กล้าดอกยาย ท่านสอนฉันทำครัว” กล่าวพลางหัวเราะกันคิกคัก หมายความไปทางอื่นมากกว่า
“แล้วฉันก็รู้บุญคุณข้าวแดงแกงอร่อยเมื่อค่ำนี้ด้วยนะ อาหารชาววังอย่างนี้ใครไม่มีบุญเป็นไม่ได้เคยกินยายว่ามั้ย”
“เออน่า ข้าไม่เอนข้างใครดอก”
“จริงหรือยาย ฉันเห็นยายซดแกงเรียงเสียงโฮก นังปั้นยังได้แกงเรียงไปเร่งน้ำนมหม้อดินเชียวล่ะ”
ยายพุ่มต้องยอมรับจริงๆว่า เสน่ห์ปลายจวัก ของคุณนาย คุณหลวงไกรมีมากเหลือหลายทีเดียว โดยเฉพาะทั้งดีทั้งร้ายอย่างนี้ บริวารต่างเกรงใจกันถ้วนหน้า
เวลาค่ำมากแล้ว ช้องนางและผิวนั่งอยู่ในห้องหอ ส่วนหลวงไกรไปอาบน้ำในที่มิดชิด ซึ่งกั้นไว้สำหรับอาบบนเรือน โดยมีบ่าวผู้ชายตักน้ำมาให้ใช้อย่างไม่พร่องโอ่ง
ชายหนุ่มร่างสูง นุ่งผ้าผืนยาว เปลือยอกอย่างชายไทยทั่วไป ใช้ผ้าขาวม้าพาดบ่า เดินเข้ามาในห้องหอ!!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ค. 2555, 10:36:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ค. 2555, 10:36:06 น.
จำนวนการเข้าชม : 2614
<< ใช้พระเดช | ต่างคนต่างคิด >> |

tookta 21 พ.ค. 2555, 11:01:33 น.
ส่งกำลังใจมาจ้า หนูจ๋า
ส่งกำลังใจมาจ้า หนูจ๋า

นางแก้ว 21 พ.ค. 2555, 11:36:55 น.
ขอบคุณค่ะพี่ตา คอมเม้นจะได้ไม่ว่าง555
ขอบคุณค่ะพี่ตา คอมเม้นจะได้ไม่ว่าง555

คิมหันตุ์ 21 พ.ค. 2555, 12:48:36 น.
คุณหลวงเปลือยมาในห้องแล้ว. อิอิ
คุณหลวงเปลือยมาในห้องแล้ว. อิอิ

tookta 21 พ.ค. 2555, 15:16:52 น.
ได้เเต่เปลือยน้อคุณคิมหันต์ 5555 แต่คุณหลวงขาดน้ำยา5555
ได้เเต่เปลือยน้อคุณคิมหันต์ 5555 แต่คุณหลวงขาดน้ำยา5555


Zephyr 21 พ.ค. 2555, 19:12:20 น.
โอ๊ะ โชว์หุ่น คาดว่าคงได้แต่โชว์ละน้า ทำไรไม่ได้ หึหึ
ได้หน้ามืดเข้าสักวัน ช้องนางจะลำบากน้า
คริคริ ขอขำยายพุ่มหน่อยเหอะๆ ฮ่าๆ ให้ออกมาเป็นแม่ยกช้องนางบ่อยๆได้มั้ยคะ น่ารักดีออก
โอ๊ะ โชว์หุ่น คาดว่าคงได้แต่โชว์ละน้า ทำไรไม่ได้ หึหึ
ได้หน้ามืดเข้าสักวัน ช้องนางจะลำบากน้า
คริคริ ขอขำยายพุ่มหน่อยเหอะๆ ฮ่าๆ ให้ออกมาเป็นแม่ยกช้องนางบ่อยๆได้มั้ยคะ น่ารักดีออก

พี่เจี๊ยบ 24 พ.ค. 2555, 17:41:03 น.
ยอดเยี่ยมจริง ๆ อ่านเพลินมากเลยค่ะ
ยอดเยี่ยมจริง ๆ อ่านเพลินมากเลยค่ะ
