นิราศรักกรุงสยาม
ศักดิ์ศรีมีไว้ให้คนสรรเสริญมิใช่ทำลาย ความรักมีไว้เพื่อให้ได้รักในกันและกัน ปัญหาเดียวของความรักคือความไม่เข้าใจ

Tags: สู้ ไม่ยอม แพ้

ตอน: กลั่นแกล้ง


ช้องนางเดินออกมายืนต่อหน้าบ่าวทั้งสอง ครู่หนึ่งจึงเรียกไปยังที่นั่งในห้อง บ่าวทั้งสองตามไปโดยไม่ต้องสั่ง ช้องนางเป็นนาย จึงนั่งบนเก้าอี้ สองบ่าวนั่งพื้นคามสมควร
พับมีที่ท่าประดักประเดอกไม่น้อยเพราะก่อนหน้านี้ไม่เท่าไหร่ ผิวเคยปรามาศว่า มาเป็นบ่าวคุณนายช้องเมื่อไหร่ต้องถูกอบรมกิริยาเสียใหม่ ดังนั้นพับจึงไม่แปลกใจที่โดนผิงข่มทันทีว่า
“เอ็งเอาของไปเก็บเสียในห้องนอนเดียวกับข้า แล้วมาให้คุณช้องฝึกกิริยาเสียใหม่ คุณช้องเธอฝึกแมวให้คาบไม้ยังได้เอ็งควรรู้ไว้” ผิวอ้างเรื่องไม่จริงมาขู่บ่าวตัวแสบ
พับใจหายอีกซ้ำ นึกโทษว่าตัวเองไม่ควรไปกระด้างกระเดื่อง กับคุณนายแต่แรกเลย เพราะเธอเอาคืนได้แทบทันควันเลยทีเดียว จากต้นห้องคุณหญิง ร่วงมาเป็นบ่าวเบอร์สองรองจากผิวเสียอีก
พับต้องทำตามคำของผิว ซึ่งตามไปเร่งให้อีกฝ่ายจัดทำเรื่องส่วนตัวโดยไว พับจึงต้องรีบเร่งตัวเองเต็มที พอเร่งมากเข้า พานคิดถึงกรรมที่ไปแกล้งช้องนาง แม้เพียงเล็กน้อย แต่ได้รับสนองคืนไวเต็มที
“เอาล่ะ เอ็งต้องไปฝึกกิริยามารยาทกันใหม่นังพับ”
“อะไรกันนังผิว ข้ายังต้องฝึกอีกรึ ข้าเป็นคนของคุณหญิงนะ”
“เอ็งคงจะฟังความไม่เข้าใจ เอ็งเป็นคนของคุณช้องนายข้า และข้ามีอายุมากกว่าเอ็งถึงขวบปี อย่ามาเรียกจิกหัวข้าเด็ดขาดไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้กินพริกไม่ได้เทียว”
“นี่เอ็งคงคิดแกล้งข้าให้สมใจกระมัง”
“เอ๊ะ นังคนนี้ ดื้อเหมือนควายเทียวรึ บอกว่าจะสอนยังหาเรื่องนายข้า เดี๋ยวแม่ตบฟันหัก”
“ข้าจะไปเรียนคุณหญิงเดี๋ยวนี้ว่าเอ็งแกล้งข้า”พับกระแทกเสียใส่ผิว เบียดตัวเองจะออกจากห้อง ผิวเอ่ยตามหลังไปทันทีว่า
“ข้าก็จะบอกว่าเอ็งตีเสมอนายข้า ทำตัวอย่างคิดเป็นน้อยของคุณหลวง ดูทีคุณหญิงท่านจะรับฟังหรือไม่”
พับสะอึก ก่อนถอยหลังกลับมาแต่โดยดี เพราะข้อหาที่ผิวตั้งขึ้นมานั้น เป็นข้อหาที่คุณหญิงใหญ่ไม่อาจยอมรับบ่าวไพร่ในเรือนได้ ฉวยไม่ฟังเหตุผล คงได้หลังลายโดยใช่เหตุ
...ดังนั้นพับต้องก้มหน้ารับการเป็นบ่าวของช้องนางแต่โดยดี
สาวใช้หน้าสวย รูปร่างดีตามผิวออกไปภายนอกอย่างหมดฤทธิ์ ช้องนางลอบมองอย่างสมใจที่เอาคนของคุณหญิงมาไว้ที่ตนได้เสียคนหนึ่ง คราวนี้เรื่องที่ตนเองอาจจะโดนใส่ไคล้ หรือโดนกลั่นแกล้งจะมีคนนำไปฟ้องคุณหญิงบ้าง เห็นผิดเห็นชอบจะได้ว่ากล่าวกันโดยตรง
ช้องนางสั่งพับอย่างนายสั่งบ่าว
“อยู่เรือนนี้ผิวทำงานอะไร เอ็งก็ทำตามผิวไปนะพับ ข้าชอบคนทำงานมากกว่าคนชอบพูด เอ็งควรรู้เอาไว้ และกับคนเป็นนาย เอ็งอย่าได้คิดกลั่นแกล้งเด็ดขาด เอ็งคงได้รู้แล้วว่าผลออกมาเป็นเยี่ยงไร”
“เอ่อเจ้าค่ะ คุณช้องมีอะไรให้พับรับใช้เจ้าคะ”
“ให้เอ็งกรองดอกไม้สำหรับคุณหลวง ทำหีบสไบข้า และข้าจะทำครัวหวาน เอ็งเป็นลูกมืออีกคนช่วยหาของที่ต้องเตรียม ข้าจะทำไว้ให้คุณแม่ได้รับประทานเป็นของว่าง”
บ่าวคนใหม่ก้มหน้ารับคำ พลางคิด หากใครกระด้างกระเดื่องต่อคุณนายอีก ช้องนางคงจับมาทำงานรับใช้บนเรือนจนหมดบ้านเจ้าคุณเป็นแน่ แม้แต่ตนเองเป็นคนสนิทของคุณหญิงยังไม่วายโดนควักมาอย่างซึ่งหน้าทีเดียว!
ยายพุ่ม กำลังนั่งกินมะขามแก้ว อร่อยจนลืมหมาก นอนไขว้ห้างอยู่โรงนอนข้างครัว เพราะหมดหน้าที่ของนางในวันนี้แต่ แต่เมื่อบ่าวเดินสำรับกลับมาบอกว่า พรุ่งนี้ช้องนางจะทำมะพร้าวแก้ว ยายพุ่มผุดลุกนั่งขัดตะหมาด เอ่ยสั่งลูกมือทันทีว่า
“ปูหลนเต้าเจี้ยวอร่อยอย่าบอกใคร มื้อหน้ามีมะพร้าวแก้วมาอีก เห็นทีมะพร้าวหน้าตาฉีกของข้าจะเป็นหมันเสียแล้ว”
ลูกมือคนสนิท ตีฝีปากขึ้นทันทีว่า
“นี่ยายพุ่มนึกรายการอาหารให้คุณท่านเป็นของหวานเจียวรึ ฉันเพิ่งรู้”
“เอ๊ะ อีนังคนนี้ คุณช้องเธอทำเป็นตัวอย่างว่านายควรกินของดี ข้าก็อยากสนองพระคุณคุณหญิงบ้าง นี่นึกตำราอยู่เชียว”
“พรุ่งนี้ยายจะแข่งฝีมือกับคุณนายท่านรึ”
“แข่งก็เสียเชิงมวยข้าน่ะสิ”ยายพุ่มกล่าวแล้วเชิดหน้า ลูกน้องคนสนิท พากันหัวเราะ เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ข้าพนันข้างคุณนายหมดตัวเลยเทียว”
“ข้าก็ไม่เอาข้างยายทั้งที่ยายไม่ยอมเปรียบมวยนี่ล่ะ”
ยายพุ่มยกเท้าทำท่าจะถีบบ่าวตัวดี แต่นางหลบเร็ว ยายพุ่มเสียหลัก ทำท่าจะตกเรือนคนใกล้ต้องช่วยกันดึงร่างอ้วนของแกเอาไว้ได้ทัน
“มึงหนอพวกมึง กูรึป้อนข้าวมาตั้งแต่แบเบาะ พอคุณนายใหม่มา พวกมึงหันไปหาข้างเธอจนหมด อย่างนี้ดีละ พรุ่งนี้ พวกมึงพากันไปขึ้นมะพร้าวมาปอกรอคุณนาย อย่าให้ท่านต้องเหนื่อยมาก”
“จ้ายาย ว่าแต่ หน้าตาฉีกไม่เอาแน่แล้วใช่หรือหาไม่เล่า”
“กูก็บอกแล้วไงว่า เอาเข้าแข่งกูเป็นหมันแน่”
“พรุ่งนี้กูจะไปเลือกดูมะพร้าวเนื้อพอดีไม่ห้าวเกินอ่อนเกินให้ท่าน” ยายพุ่มบอกเด็กในครัว อย่างรู้งาน

ช้องนางนอนไม่หลับในคืนนี้ ในที่สุดเธอเดินออกไปเรียกผิวมาที่ห้อง พับลุกขึ้นนั่งระแวงระวังว่าจะมีเรื่องแกล้งตน แต่สองนายบ่าวพากันไปที่ห้องหอ เงียบไป พับจึงได้ล้มตัวลงนอน พลิกกายไปมานอนไม่ค่อยหลับ ทั้งแปลกที่ และคอยระวังตัวตลอดเวลา
ผิวหยิบพัดมานั่งพัดให้ช้องนาง ซึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง สาวใช้คนสนิทถามนายสาวอย่างเปิดเผยว่า
“คิดถึงเรื่องคุณหลวงหรือเจ้าคะคุณของบ่าว”
ช้องนางพยักหน้ารับ แล้วก้มหน้าซ่อนความอาย ก่อนจะยอมกลั้นอายถามสาวใช้ว่า
“ข้าไม่เข้าใจคนที่เขาท้องหรือมีท้อง เขาแค่กอดจูบก็ท้องกันได้รึ”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะคุณ”
“เช่นนั้นไยพวกแม่เลี้ยงจึงมาล้อข้าเรื่องอยากเปรี้ยวอยากหวาน ยายพุ่มนั่นก็หนหนึ่งแล้ว ข้าไม่อยากเก็บความโง่มาคิดเอง เอ็งรู้บ้างมั้ยผิว”
“เอ่อ แค่โดนตัวไม่ท้องดอกเจ้าค่ะคุณ หรือแค่อุ้มก็ไม่ท้องดอกจ้าค่ะ”
“จริงรึ”ช้องนางมีท่าทีดีใจเป็นอันมาก ทำให้ผิวสงสัยยิ่งนัก จึงได้กระซิบถามเอาความจริงว่า
“ไปโดนคนอื่นอุ้มมาหรือเจ้าคะ”
“เอ่อ ก่อนหน้านั้นวันที่ข้าแกล้งเป็นลม เอ่อ ข้าเป็นลมจริงในสวน ทิดแถมมาอุ้มข้าไปที่กระท่อม”
“อุแหม่ แค่อุ้มเท่านั้นใช่หรือไม่เจ้าคะ เอ่ออย่าได้กล่าวความว่า เพราะทิดแถมทำให้ไม่อยากแต่งงานนะเจ้าคะ”
“เอ็งนี่เพ้อคลั่งไปกันใหญ่เสียแล้วผิว ข้าจะไปมองทิดแถมไปข้างอื่นได้หรือ ทิดแถมไม่ใช่คนฐานะเดียวกับข้านะ”
ผิวรีบรับคำเพื่อไม่ให้ช้องนางโกรธ
“อยากเปรี้ยวอยากหวานข้ารู้ดอกว่าเป็นเฉพาะคนท้อง คุณพี่ทั้งสองก็เคยเป็น คุณแม่เคยพูด แต่สองแม่เลี้ยงพูดเหมือนดูถูกข้า ข้าไม่เข้าใจ”
“ขนาดไม่เข้าใจ ยังหาเรื่องปิดปากแม่เลี้ยงได้นะเจ้าคะ”
“เอ๊ะ ผิว เอ็งอยากให้ข้าส่งกลับเรือนนักหรือ”
“อูย ไม่เจ้าค่ะ ไม่หยอกเอินคุณของบ่าวแล้วเจ้าค่ะ เอ่อเรื่องที่คุณแม่เลี้ยงมาพาลว่า คงอยากให้คุณหลวงเจ้าใจผิด ท่านหมายเอาว่า คุณช้องกับคุณหลวงคงมีการล่วงเกินกันก่อนแต่งงาน หรือไม่ก็พาลให้คุณหลวงคิดว่าคุณช้องไปเสียตัวให้คนอื่น”
“แค่โดนอุ้มไม่เรียกว่าเสียตัวใช่หรือไม่”
“เอ่อเจ้าค่ะ แค่นั้นไม่เรียกว่าเสียตัวถึงขั้นท้องไส้ดอกเจ้าค่ะ แต่ชาวสยามเราก็ถือนักหนา จึงให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว”
“ข้าคิดว่าคุณหลวงกับคนที่ข้าเจองานกฐินหลวงจะเป็นคนเดียวกัน”
“จริงหรือเจ้าคะ”
ช้องนางข่มอายก่อนบอกความรู้สึกต่อบ่าวแสนดีว่า
“คุณหลวงท่านเอ่อ ท่านกอดจูบข้าก่อนไปราชการ แล้วเอ่อ เอ่อกลิ่นปาก กลิ่นกายนั้น เป็นกลิ่นเดียวกับชายคนที่ข้าพบที่งานกฐิน”
ผิวพยักหน้ารับ ค่อนข้างดีใจ เพราะว่านายสาวถูกผู้ชายคนเดียวกันถูกตัว เรื่องสองชายที่นายสาวพูดจนเป็นขี้ปากชาวบ้านว่าไม่อยากแต่งงานเป็นอันว่าเกิดจากความเข้าใจผิดเพราะช้องนางไร้เดียงสา
ผิวอยากบอก แต่ว่า นี่คงจวนเวลาที่ช้องนาง จะได้รู้ด้วยตัวเอง บ่าวตัวดีจึงยิ้มในสีหน้า ก่อนเอ่ยว่า
“ราชการมาทำเสียเรื่องนะเจ้าคะคุณของบ่าว”
“อะไร คุณหลวงทำราชการเสียหายรึ”
“มิได้เจ้าค่ะ เอ่อกลับจากราชการมาแล้วคุณหลวงคงจะ..เอ่อทำให้คุณของบ่าวเรียนรู้เรื่องจริงของการแต่งงาน ที่ว่า เสนอมา สนองไปน่ะ เจ้าค่ะ”
ช้องนางนิ่งอึ้ง ก่อนจะให้ผิวกลับห้องไปพักผ่อน หญิงสาวเอนตัวลงนอน ลมพัดมาอ่อนๆ สายลมพลิ้วปะทะแก้มบาง ทำให้หญิงสาวนึกถึงรอยจูบของคนที่ได้ชื่อว่าสามี ความวาบหวาม หวิวไหว ในอกทำให้หัวใจดวงน้อยๆสุดแสนคิดถึงหลวงไกร ทั้งที่ห่างกันไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม!!!
ช่วงสาย ช้องนางได้เข้าไปในสวน พร้อมผิว เสียงเอะอะของบ่าวไพร่ทำให้ช้องนางสงสัย จึงให้ผิวไปดูตัวเองอยู่กับพับ แผ้วแอบลอบมองอยู่แล้วจึงได้เดินไปเหมือนบังเอิญเห็น หญิงสาวเจ้าเล่ห์ทักช้องนางขึ้นมาก่อนว่า
“คุณช้องขยันจนขึ้นชื่อไปทีเดียว”
“อ้อพี่แผ้ว ลงมาเที่ยวสวนหรือจ๊ะ”
“พี่บอกคุณช้องแล้วไงว่าจะมาช่วยงาน มะพร้าวทางโน้นต้นไม่สูงนัก คุณช้องเดินไปถึงหรือยัง เอหรือว่าคุณช้องจะสั่งแต้พวกข้าในเรือนให้นำของมาให้”
“ก็อยากไปดูด้วยตาเองบ้าง เรือกสวนที่ไกลตาเจ้านายรกเรื้อไม่มีคนแผ้วถางเอาเสียเลย ที่ทางน่าจะปลูกผักได้หลายแปลงต้องมาทิ้งร้างน่าเสียดาย”
“บ้านเศรษฐีที่ไหนในสยามต่างหาซื้อกินทั้งบาง มีแต่พวกเจ๊กพวกจีนเร่ปลูกผักมาขาย จะได้สักกี่เฟื้องกี่สลึงกัน”
“คิดอย่างนี้ วันหน้าลูกหลานนั่งผลาญสมบัติ ส่วนคนทำมาค้าขายก็รวยทันตา ชาวสยามจะเป็นทาสต่างชาติไม่รู้ตัว”
แผ้วชิงชังฝีปากกล้า ที่ชอบยอกย้อนของช้องนางเป็นอันมาก เธอคิดอย่างที่ช้องนางพูด คือมีเงินก็ซื้อใช้ แต่อีกฝ่ายรักแต่เก็บ ทำให้แผ้วคิดว่าหญิงคนสวยจนน่าริษยานั้น กง และเห็นแก่ตัว ไม่ให้คนใกล้ได้สบาย ต้องลุกมาแข่งกันเอาหน้า อย่างที่แผ้วไปเห็นพวกยายพุ่ม เที่ยวไปหามะพร้าวกันครึกครื้น ชื่นชมช้องนางอย่างกับอีกฝ่ายเป็นคนสำคัญไปเสียแล้ว
หญิงสาวผู้มีเบื้องหลังชวนช้องนางไปยังสวนมะพร้าวพันธุ์เตี้ยตามที่เธอบอก ช้องนางตามไป ทางค่อนข้างรก ช้องนางจึงได้เอ่ยว่า
“เอาไว้ให้พวกบ่าวมาถางหญ้าให้เหี้ยน(เตียน)เสียก่อนเถิดพี่แผ้ว รกมากขนาดนี้ ไม่ดีแน่”
“พี่หลงคิดว่าคุณช้องจะสู้บุกป่าได้”
“อิฉันจะไปทำไมเล่า กลับกันเถอะพับ รกอย่างนี้เห็นจะไม่ปลอดภัย”
กล่าวแล้วช้องนางหันกายเดินกลับ พับรีบตาม แผ้วมองตามด้วยสายตาเหลือกพองดุร้าย และแล้วหญิงสาว แสร้งเดินไปกระทบเข้าที่ร่างของพับ หญิงสาวเสียหลักชนช้องนางเต็มแรง ช้องนางถลำเข้าไปในพงหญ้า พับอุทานด้วยความตกใจ ช้องนางร้องเสียงแหลม เมื่อร่างกายถูกเกี่ยวด้วยหนามแหลมคม
“โอ๊ย หม่อมยายช่วย”
พับตกใจ ทำท่าจะเข้าไปประคองช้องนาง แต่แผ้วรีบแทรกเข้าไปทันที
“ตายแล้วอีพับ มึงนะมึงมาชนคุณช้องเข้าพงหนามเสียได้ ต้ายตายแล้ว ดูหนามมะเยี่ยว*เกาะเต็มตัวคุณช้อง เอ็งเห็นรึหาไม่”(บางแห่ง เรียกต้นเล็บเหยี่ยว มีผลเล็กกว่าปลายก้อย ผมสีเขียวเปรี้ยวจัด เมื่อสุกงอมผลสีดำอมเปรี้ยวอมหวาน)
ขาดคำ แผ้วตวัดมือตบหน้าตบพับเต็มแรง พับถลาไปอีกทางอย่างเสียหลัก ช้องนางตื่นตะลึงคาดไม่ถึงว่าตนเองโชคร้าย แต่บ่าวซึ่งเพิ่งขอตัวมาดัดนิสัย โดนรังแกเต็มตา ช้องนางรีบห้าม เมื่อแผ้วจะเข้าไปตบตีพับอีกครั้ง
“พี่แผ้วหยุดเถิด พับมันไม่ได้แกล้งอิฉัน”
“คุณช้องตามมันไม่ทันเสียแล้ว พี่เดินข้างหลังได้เห็นเต็มสองตาว่ามันผลักคุณช้อง”
“พับ ไม่ได้...”พับจะแก้ต่างให้ตนเอง แต่แผ้วไม่รับฟังตบพับอีกฉาด
เผียะ
พับร้องไห้โฮ ช้องนางรีบห้ามปราม
“พี่แผ้ว อิฉันไม่ได้โกรธ พับ อย่าลงมืออีกได้หรือหาไม่”
“คุณช้องตามคนไม่ทันเสียแล้ว นี่นังพับมาแกล้งเสียอีก คุณช้องเห็นมีแต่ภัยเพราะบ่าวรอบตัวไม่ภักดี อย่างนี้แล้วยังเข้าข้างมันอีกรึ”
“พี่แผ้วมาตบตีพับดังนี้อิฉันไม่ชอบใจ”
พับได้เห็นที่พึ่งแล้วครานี้ หญิงสาวผู้เป็นบ่าวใหม่เข้าไปหาช้องนางอย่างยอมศิโรราบ แผ้วเห็นเหตุการณ์ผิดเป้าหมายไป จึงได้แต่ลบหลู่ช้องนางว่า
“นายโง่กว่าบ่าวระวังมันจะขี่คอ”
“เรื่องนั้นอิฉันคงจะโง่ชั่วบัดเดี๋ยว พับ เอ็งแกะหนามจัญไรนี่ออกไปที”
พับปาดน้ำตาเช็ดจนแห้ง ช่วย ต้นมันอยู่ที่ใดไม่แจ้ง แต่กิ่งหนามมากองเหมือนคนแกล้งดังนี้ กูสิโง่นัก”
แผ้วหุบปากเงียบเมื่อช้องนางมีเหตุผลกว่าที่เธอตั้งความหวังแต่แรก มิหนำซ้ำมาร้องด่าหนามพานไปถึงคนนำมาซ่อนไว้
พับค่อยแกะออกอย่างระวัง แผ้วเอ่ยว่า
“พี่เตือนคุณช้องแล้วนะว่าอีพับมันไม่รักดี มันแกล้งคุณแต่คุณไม่ฟัง เห็นทีพี่จะทำบุญคุณคนไม่ขึ้น พี่คงไปกับแม่ช้องไม่ได้แล้ว”
“ช้องมันคนดื้อรั้นจะเชื่อจะฟังใครต้องเห็นด้วยตา หากพี่แผ้วจะขุ่นเคืองก็เคืองไปตามใจชอบเถิด เพราะไอ้หนามจอมเสนียดนี้มันคงมีคนนำมาสุมไว้แกล้งคน”
“นี่คุณช้องคงไม่คิดว่า...อุแม่เจ้า นี่คุณช้องหมายเอาว่าพี่จะพาคุณช้องมาแกล้งเชียวหรือ”
“เรื่องนี้อิฉันไม่ได้เห็นกับตา ว่าได้ไม่เต็มปาก จะโทษก็โทษตัวเองไม่จารจำเท่านั้น”
พับรู้สึกสงสารช้องนางในเวลานี้ เมื่อเห็นผิวสีขาวลออตามีรอยหนามเกี่ยวแดง ที่แขนหลายแห่งยังที่ไหล่ ซึ่งผ้าคลุมไหล่เลื่อนตกขณะเสียหลัก ทำให้หนามเจ้ากรรมทิ่มตำหลายแห่ง
แผ้วจ้ำเดินจากไป สองนายบ่าวมองหน้ากัน พับเอ่ยว่า
“คุณนายเชื่อบ่าวนะเจ้าคะ บ่าวเอ่อบ่าวเสียหลักเพราะคุณแผ้วผลักบ่าว” กล่าวแล้วพับน้ำตาร่วงเผาะ
“เอาเถอะพับ ข้าไม่ชอบให้ใครมาตบตาข้าดอก ไปเราไปโรงครัว”
“คุณเจ้าขา รอยหนามนี้ไม่น้อยเลยนะเจ้าคะ ไม่ทายาสักหน่อยหรือเจ้าคะ”
“เรื่องนี้อย่าอึงไปพับ เรื่องเอ็งโดนตบก็อย่าไปบอกใครได้หรือไม่”
พับมองหน้าคุณนาย สาวใช้ได้เห็นรอยเอาเรื่องวูบหนึ่ง เธอได้คิดว่า คุณช้องนาง เป็นคนเอาเรื่อง เธอและพับโดนรังแก อาจบางทีคุณนายจะหาทางเอาคืน คิดแล้วพับรีบรับคำ
“เจ้าค่ะคุณนาย พับจะไม่ปริปากบอกใครเลยเจ้าค่ะ”
“แล้วเจ็บของเอ็งจะหายในเร็ววัน ไปเถิด ไปในครัวกัน”
สองนายบ่าวพากันไปในครัว ซึ่งยายพุ่มเป็นตัวเอ้ในการสั่งงาน เตรียมมะพร้าว เนื้อกำลังเหมาะ ขูดเป็นเส้นขาว ไม่มีกากก้นกะลาติดให้เห็น
ช้องนางยิ้มแย้ม แจ่มใส กล่าวชมเชยยายพุ่มเป็นอันมาก จากนั้นจึงได้สั่งเพิ่มให้หาใบเตย อัญชัน กุหลาบแดง นำมาคั้นน้ำสด เพื่อเปลี่ยนสีขาวของมะพร้าวให้มีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น

แผ้วกระหยิ่มใจ นำความไปบอกตามลำพังกับป้าของเธอว่าเล่นงานทั้งช้องนางและพับอย่างสมใจ
“นังคนนี้มันเอาเรื่องนัก อย่าเพ่อดีใจไปบัดเดี๋ยวเสียงหัวเราะจะเบาเร็ว”
“เห็นจะไม่มีทางเจ้าค่ะ”แผ้วยิ้มเยาะสาแก่ใจ ที่เอาเรื่องช้องนางได้ แม้อีกฝ่ายทำท่ารู้ทัน แต่หากบอกต่อคนอื่น คงคิดว่าช้องนางแต่งเรื่องเรียกร้องความสนใจเอาเอง

ผิวเห็นรอยแผลขอช้องนางให้นึกแค้นยิ่งนัก ส่วนพับหันไปดีกับผิว เพราะตนเองโดนแกล้ง และซาบซึ้งใจต่อความเอาใจใส่ของนาย ยายพุ่มเห็นรอยแผลหนามเกี่ยว จึงได้หายามาให้ช้องนางได้ทา
“ขอบใจมากนะยายพุ่ม”
“ขอตอบแทนเป็นของอร่อยก็พอเจ้าค่ะ” ยายพุ่มกล่าวออกมาจากใจ ลูกน้องสะกิดเท้า ยายพุ่มจึงดีดส้นส่ง พล่างเอ่ยว่า
“อิฉันพอกล่าวเล่นๆเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไรยายพุ่ม จะทำของดีให้กินสักสามมื้อทีเดียว”
“ผลบุญส่งทันตาเลยแม่คุณเอ๊ย”ยายพุ่มยกมือท่วมหัวไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช้องนางหัวเราะชอบใจ
การทำงานของบ่าวมีทั้งวัน หากนายเงินเป็นคนรู้จักใช้สอย นับแต่ช้องนางโดนหนามเกี่ยว วันรุ่งขึ้นเธอสั่งให้บ่าวผู้ชายเข้าถางหญ้าในสวน พร้อมสั่งให้หาลูกเล็บเหยี่ยวสุกมาให้ เพราะอยากกิน คนงานพากันแอบหัวเราะ เมื่อผู้ดีอยากกินของกินเล่นเด็กๆ
แต่เพราะต้องการรู้นี่เองเมื่อเจ้าเพลินนำลูกเล็บเหยี่ยวใส่กระทงใบตองมาให้ จึงได้รู้ว่าต้นเล็บเหยี่ยวอยู่ชายป่าสุดแดน




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2555, 09:43:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2555, 09:43:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 2079





<< ปากคน   เวรระงับด้วยการอย่าริจองเวร >>
Pampam 24 พ.ค. 2555, 10:41:21 น.
ช้องนางต้องเอาคืนนางแผ้วให้หนักแค้นแทนอินจัดไปมั๊ยเรา


Zephyr 24 พ.ค. 2555, 18:58:45 น.
เอาเลยช้อง ถ้าต้องการกองเสริม รีเควสมา จะจัดให้


องุ่น 27 พ.ค. 2555, 03:36:33 น.
เสนอไป สนองมา ....


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account