เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่๘ แต่งตัวตุ๊กตา ๒/๒

เพิ่งผ่านพ้นความประหม่าและอารมณ์กรุ่นๆมาได้ มุกดาก็ไม่มั่นใจเสียแล้วว่าสายตาทุกคู่ของคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปมา ตั้งแต่ก้าวแรกที่หล่อนลงจากรถแท็กซี่หน้าอาคารบริษัท มันหมายความว่าหล่อนคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ ที่บ้าบิ่นเปลี่ยนลุคตัวเองด้วยเสื้อผ้าสุดเก๋ของแพรวา

จนกระทั่ง รปภ. ผู้เคยคุ้นเปิดประตูต้อนรับหล่อนนั่นแหละ หญิงสาวจึงค่อยใจชื้น หน้าเชิดหลังตรง เหยียบย่างเข้าไปอย่างนางพญาได้

“โอโห! สวยเซ็กซี่ที่สุดเลยครับคุณไข่มุก”

หล่อนได้แต่ยิ้มแทนคำขอบคุณให้กับทุกคำชม และสายตาที่มองมาอย่างสนใจของพนักงานชายอีกหลายคนตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบน ทุกแผนกที่หล่อนเฉียดผ่านจะต้องมีคนทักด้วยความตกตะลึง ถึงแม้หล่อนรู้แก่ใจว่า หล่อนเป็นพนักงานหญิงคนเดียวในเอเคกรุ๊ป ย่อมต้องตกเป็นเป้าสายตาของหมู่ภมรทั้งหลาย แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครตำหนิการแต่งกาย ทรงผม และเครื่องประดับชุดใหม่ ซึ่งแต่ละอย่างสีสดแสบตาตัดกับสีผิวขาวผ่องเหมือนหิมะ จนหล่อนดูโดดเด่นเหมือนเดินออกมาจากภาพวาด หรือพวกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของต่างประเทศ

ความมั่นใจค่อยๆพอกพูนขึ้น เมื่อมีแต่เสียงชื่นชมออกนอกหน้า ชนิดที่ขัดแย้งกับคำพูดของเพทายจากดำเป็นขาว และนับจากนี้ไปไม่มีใครมองว่าหล่อนเป็นเด็กกะโปโลอีกแน่นอน...รอยยิ้มฉีกกว้างจนปากแทบจะถึงใบหูของมุกดาบอกความภาคภูมิใจได้ดีกว่าทุกคำพูด

“สวยเฉียบสุดๆเลยครับ ไข่มุก” หนึ่งเสียงของรุ่นพี่พนักงานเดินเอกสารที่หล่อนค่อนข้างสนิทด้วย เพราะความเฟรนลี่ของเขา

“เปรี้ยวมากน้องไข่มุก”
อีกหนึ่งคำชมจากคุณพี่หน้าหนวดแผนกบัญชี

“นึกว่านางแบบหน้าใหม่ของวงการ สุดยอดน้อง”

หนุ่มดิบเถื่อนหัวหน้าแก๊งครีเอทีฟ ดีดนิ้วดังเปาะ พร้อมเสียงผิวปากตบท้าย..ถึงแม้ว่าหล่อนจะแอบกลัวอากัปกิริยาที่เหมือนจะกลืนกินหล่อนลงไปทั้งตัว..แต่อย่างน้อยก็เป็นอีกหนึ่งคำชมที่ทำให้หล่อนมั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้น..สมคำว่า “สมบูรณ์แบบคือความมั่นใจ” ของพี่สาวสุดรัก

“นึกยังไงถึงเปลี่ยนลุค” รุ่นพี่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คนที่ขรึมสุดๆ ทำหน้าขวางโลกสุดๆ เพิ่งสวนกับหล่อนในลิฟท์ ถอดแว่นดำออกมา ก่อนบอก “สวยจนจำไม่ได้”

มุกดายิ้มแก้มแทบปริแล้วปริอีก เดินมาถึงแผนกของตัวเองกำลังจะเข้าไปในคอกทำงานส่วนตัว ก็มีชายหนุ่มมาดเนี้ยบคนหนึ่งเข้ามาขวางเสียก่อน น้ำหอมฟุ้งกระจายเต็มจมูกเจ้าหล่อนเมื่อ เขายกมือขึ้นวางค้ำฉากกั้นหน้าโต๊ะทำงานหล่อน เมื่อมุกดาเงยหน้าขึ้นสบตาเขาจึงได้รู้ว่าหนุ่มคนนั้นคือ..กฤษฏา หนุ่มมาดเพลย์บอยนั่นเอง

“ไข่มุก..คุณรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป” เสียงห้าวกับแววตากรุ้มกริ่มเต็มไปด้วยประกายระยิบระยับ ทำให้หญิงสาวน้ำลายติดคอขึ้นมากะทันหัน “คุณเอาหัวใจผมไปหมดเลย สวยจริงๆครับ..นางฟ้าของผม”

หากคิดว่าหญิงสาวจะเข่าอ่อนยวบ หลงเคลิ้มไปกับเขาก็ผิดเสียล่ะ มุกดาระเบิดหัวเราะใสแจ๋วบอกอารมณ์ขันหมดเปลือก

“คุณกฤษดาเคยเป็นลิเกเก่าหรือคะ”

ยิ้มจากริมฝีปากบางฉบับหนุ่มเจ้าสำอางแทบหุบไม่ทัน คารมที่สาวทุกคนเคยหลงใหล กลับไม่ทำให้สาวเจ้าคนนี้ปลาบปลื้มอย่างที่เขาคิด หล่อนกลับเห็นเป็นเรื่องขันเสียได้

“โธ่..คุณไข่มุก มันน่าขำตรงไหนเนี่ย”


เสียงเล็กแจ๋วยังคิกคักต่อเนื่อง จนหล่อนต้องงอตัวเอามือกุมท้อง พยายามเรียกสติก่อนหล่อนจะขำจนท้องคัดท้องแข็งตาย
“ขอโทษค่ะคุณกฤษดา..มาหาไข่มุกหรือพี่ทีมงานคนไหนเหรอคะ”
วิธีเดียวที่จะหยุดต่อมฮากระจายของตัวเองได้คือถือโอกาสเปลี่ยนเรื่องเสียเลย

“เที่ยงนี้ไปทานข้าวกันนะครับ”

กฤษดาชวนหล่อนดื้อๆแบบไม่ให้ทันตั้งตัว เขาส่งยิ้มพราย เอามือแตะริมฝีปากก่อนยื่นออกมาตรงหน้าเป็นเชิงส่งจูบ ก่อนหมุนตัวกลับไม่ทันรอคำตอบของฝ่ายหญิง

“อะ..อ้าว คุณกฤษ..” มุกดาได้แต่นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น “ฉันยังไม่ได้ตกลงกะคุณซะหน่อย”

ทุกคำชม ทุกท่าทาง ทุกสายตาของพนักงานชายที่มีต่อหล่อน โดยเฉพาะท่าทีเปิดเผยแบบฉบับหนุ่มเจ้าชู้ของกฤษดา..ไม่รอดพ้นสายตาของผู้เฝ้ามองอยู่นานแล้ว นับแต่เห็นมัณฑนากรสาวก้าวเข้ามาในตัวอาคาร

มุกดานั่งลงเปิดแฟ้มเรียนรู้งานบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์..ไม่รู้เลยว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะคืบคลานเข้ามาในไม่ช้า

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้มุกดารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะกำลังมีสมาธิอยู่กับการร่างแบบงานบนกระดาษ หล่อนควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา เห็นชื่อคนที่ปรากฏในจอก็ทำให้หญิงสาวต้องขมวดคิ้วฉงน สังหรณ์ใจประหลาด เพราะใครจะคิดว่าเจ้านายจะโทรมาหาตั้งแต่ก้นเพิ่งหย่อนลงนั่งทำงานแป๊บเดียว ความกังวลทำให้นั่งจ้องโทรศัพท์ตัวเองอยู่นานกว่าจะตัดสินใจกดรับสาย

“ทำไมเพิ่งรับ” เสียงเกรี้ยวกระแทกเข้าหูหล่อนเต็มๆ ผู้ชายคนนี้เดาใจยากมาก ไม่กี่วันเขาเพิ่งพูดดีกับหล่อนแท้ๆ วันนี้น้ำเสียงบอกชัดว่าโกรธจัด หล่อนนึกไม่ออกจริงๆว่าไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหน

“เอ่อ..ไข่มุกทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อยค่ะ เลยรับช้า”
หล่อนตะกุกตะกักตอบทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ

“ทำงานยุ่งหรือว่าทำอย่างอื่นกันแน่..มาพบผมที่ห้องด่วน!”
กวินเหน็บหล่อนด้วยน้ำเสียงเครียดกว่าเดิม ก่อนจะใช้คำสั่งตอนท้ายแล้วสัญญาก็ขาดหายไป

คำว่าเลือดขึ้นหน้ามันเป็นยังไง หล่อนได้รู้ชัดๆวันนี้เอง..เรื่องอะไร “พี่วิน” ต้องพูดกับหล่อนแบบนั้น หรือว่างานทดลองแบบห้องคอนโดที่เพิ่งส่งไปเมื่อวันก่อนไม่ถูกใจเขา..แต่ก็นั้นแหละ เขาก็ไม่น่าใช้คำพูดอย่างนั้น คนเป็นผู้นำที่ดีควรจะควบคุมอารมณ์ตัวเองและมีให้เกียรติลูกน้องมากกว่านี้...มุกดาคิด หล่อนต้องใช้เวลานั่งสงบสติอารมณ์ สูดลมหายใจเข้าออกเกือบร้อยครั้ง กว่าจะสงบพอกับการลุกเดินลงลิฟท์ไปชั้นสอง หญิงสาวได้แต่ภาวนาว่าพายุลูกใหม่คงไม่ซัดหล่อนอีกเมื่อไปถึง

เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่กี่ครั้ง มุกดาก็แทบถลาตัวเข้าไปในห้องเมื่อจู่ๆ กวินก็ดึงประตูเปิดรับ..ต้องเรียกว่ากระชากประตูออกมาถึงจะถูกกว่า


“เชิญ!” เสียงของเขาห้วนสั้น บอกอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นได้ดี มุกดารู้สึกตัวหล่อนหดเหลือนิดเดียว ทั้งที่ปกติก็ตัวแค่ไหล่เขาอยู่แล้ว ตอนนี้รู้สึกเหมือนคอหดเหลือแค่เอวของเขา
“นั่งสิ” เขาสั่งสั้นๆ เมื่อเห็นหล่อนยังยืนค้ำหัวเขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน

หญิงสาวชักอยากจะรู้เร็วๆเสียแล้ว ว่าสาเหตุที่ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เคยทอแววหวาน เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความเป็นมิตรกลับกลายเป็นแววดุดัน เกรี้ยวกราด หล่อนไม่ได้อุปาทานไปเองใช่ไหม ที่เห็นตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาเข้มขึ้น มีกระแสรุนแรงพุ่งตรงมายังหล่อนไม่ขาดระยะ

“คุณกำลังคิดอะไรอยู่”

เจ้านายหนุ่มถามประโยคแรก น้ำเสียงของเขายังเขียวขุ่นคงเส้นคงวา แน่นอนว่าไม่มีคำตอบจากมุกดา..เพราะหล่อนเดาใจเขาไม่ถูกว่า ถามเรื่องงาน หรือประชดหล่อนเรื่องอื่น

ความเงียบถือเป็นคำตอบที่เย็นชาและโหดร้ายที่สุดสำหรับกวิน เขาจึงเร่งเสียงให้ดังขึ้นอีกเท่าตัว
“ทำไมไม่ตอบ..ผมถามว่าที่แต่งตัวแบบนี้คุณคิดอะไรอยู่”

คราวนี้มุกดาเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างคาดไม่ถึง ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างนึกฉุนและไม่เข้าใจในคราวเดียวกัน

“คุณถามว่าอะไรนะคะ..” มัณฑนากรสาวเพื่อความแน่ใจว่าหล่อนไม่ได้หูฝาด มากกว่าจะถามเอาคำตอบจริงๆ

“แต่งมาล่อไอ้เข้หรือไง คุณไม่รู้หรือว่าตอนนี้คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวในเอเคกรุ๊ป ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้!”

เขาร่ายต่อเป็นชุดแทน กวินเห็นหล่อนนิ่งเงียบ นัยน์ตามีรอยวาววามแดงก่ำของหล่อนไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสงสาร เห็นใจ ทว่ากลับยิ่งกวนโทสะเขามากขึ้นอีก

“วันต่อไปอย่าให้เห็นแต่งตัวแบบนี้อีกนะ...น่าเกลียด”

เขาเน้นเสียงเข้มในประโยคท้าย ไม่ทันคาดคิดเสียงเล็กใสเล็ดลอดริมฝีปากกลีบบางออกมาอย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีก

“นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉันนะคะ..ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคุณเลยจนนิดเดียว” มุกดาพยายามกักกลั้นน้ำตาไม่ให้ร่วงรินต่อหน้าเขา “ฉันไม่เห็นว่าบริษัทจะมีกฎบ้าๆว่าห้ามพนักงานแต่งตัวตามใจชอบ”

“แต่มันไม่เหมาะกับคุณเลยรู้ตัวรึเปล่า”
กวินเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ทว่าอารมณ์กรุ่นยังหายไปไหน

“เหมาะหรือไม่เหมาะ..ฉันก็นึกไม่ออกว่าเดือดร้อนผลประโยชน์ของบริษัท หรือทำความเสียหายให้คุณตรงไหน”


วันนี้อาจจะเป็นวันแรกและวันเดียวของชีวิตที่มุกดากล้าเสียงแข็งและสบตาตอบเขาตรงๆ ปกติหล่อนไม่มีนิสัยชอบประชด หรือโต้แย้งกับใครแรงๆมาก่อนไม่รู้เหมือนกันว่าหล่อนทำได้อย่างไร..รู้แต่ว่าหล่อนทนไม่ได้กับความไร้เหตุผลของเขาในตอนนี้

“เท่านี้ใช่ไหมคะ..ธุระของคุณ”
หล่อนกัดฟันถาม อยากจะเสกตัวเองให้หายไปจากห้องนี้ในพริบตาถ้าทำได้

“ฉันขออนุญาตไปทำงานต่อนะคะ” พูดจบก็รีบหันหลังก้าวขายาวๆไปที่ประตู กำลังจะหมุนลูกบิดเอาตัวเองออกไปจากห้องนี้ หญิงสาวก็ต้องชะงัก หยุดฝีเท้าไว้แค่นั้นเมื่อเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเครียดกว่าเดิม

“ผู้ชายอย่างกฤษดาไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงอ่อนต่อโลกอย่างคุณ อย่าออกไปไหนกับมันเด็ดขาด ผมขอเตือน!”

อีกครั้งที่ความกล้าในตัวมุกดาพุ่งแรงแซงความกลัวตกงาน หล่อนหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเขา ริมฝีปากเหยียดยิ้ม

“ขอโทษที่ต้องบอกคุณว่า..ฉันกำลังจะไปทานข้าวกับเขา”
ไม่ทันตั้งตัว เจ้านายก็ย่างสามขุมออกมาจากหลังโต๊ะ ฉุดข้อมือหล่อนขึ้นมาบีบแน่น มุกดารู้สึกเหมือนถูกคีมเหล็กขบเข้าจนระบมร้าวไปถึงต้นแขน

“ผมเตือนด้วยความหวังดีนะ..เด็กอย่างคุณไม่มีวันทันเขา”

พังทลาย..มุกดาสรุปได้ใจความว่าอย่างนั้น ทุกคำชม ทุกความมั่นใจที่หล่อนได้รับเมื่อเช้านี้มันหายวับเข้ากลีบเมฆ เพียงคำสบประมาทของผู้ชายคนเดียว

แววตาตัดพ้อและท่าทางอิดโรยของหญิงสาวทำให้กวินใจอ่อนลง เมื่อความโกรธถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดชายหนุ่มก็ค่อยคลายมือคีมเหล็กนั้นออกจากข้อมือหล่อน

เขาเดินไปหยิบแฟ้มแผ่นบางบนโต๊ะ ก่อนจะกลับมายื่นให้หล่อน สีหน้าเป็นงานเป็นการเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อครู่

“แบบที่คุณเอามาส่ง..ผมดูแล้ว ยังไม่เหมาะ”

ไม่เหมาะ!..วันนี้มันเป็นวันอะไรนะ หล่อนทำอะไรก็ดูไม่เหมาะในสายตาเจ้านายไปหมด มุกดาตัดพ้อในใจ

“พรุ่งนี้เจ็ดโมงตรงมาเจอผมที่ห้อง..”

จากอารมณ์โกรธที่พุ่งสุดขีด หล่นฮวบลงมาเพราะถูกแทนที่ด้วยความหวั่นกลัว..มุกดารู้สึกตัวเองเข่าอ่อนพร้อมจะยวบลงไปกองกับพื้นเมื่อไหร่ก็ได้

หวังว่าพรุ่งนี้เขาคงไม่นัดหล่อนมาเพื่อไล่ออก!








ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ค. 2555, 08:23:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ค. 2555, 08:23:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1741





<< บทที่๘ แต่งตัวตุ๊กตา ๑/๒   บทที่๙ พรจากพี่สาว ๑/๒ >>
Edelweiss 26 พ.ค. 2555, 08:39:01 น.
ดื้อแบบนี้ก็เข้าทางยัยแพรน่ะสิ


แล่นแต๊ 26 พ.ค. 2555, 10:54:28 น.
หนูไข่มุกน่าสงสาร


ศิลาริน 26 พ.ค. 2555, 20:00:05 น.
เป็นกำลังใจให้ไข่มุกกันต่อนะคะ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account