เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์

ตอน: บทที่ี่ 4

บทที่ 4

ตะวันฉายแสงต้อนรับอรุณรุ่ง ไอหมอกจางๆ บดบังยอดเขาสูง แต่นั่นก็ทำให้ทิวทัศน์ระหว่างทางงดงามยิ่งนัก รัตติกาลกอดอกมองนอกหน้าต่างอย่างเพลิดเพลิน ในขณะที่ธนาดลยังคงรับหน้าที่สารถีมาตลอดสิบชั่วโมง ไม่หยุดพักที่ไหนเลย ครั้นเมื่อหันมามองรัตติกาลก็ส่งเสื้อสูทให้หญิงสาวด้วยคิดว่าเธอหนาวก่อนจะปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ

“ขอบคุณค่ะ” รัตติกาลขมุบขมิบปากขอบคุณในความมีน้ำใจของเขา

“พูดดังๆ ก็ได้” ธนาดลแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่แสดงอาการเป็นห่วงเธอ เตือนตัวเองอีกครั้งว่าพาเธอมาทรมาน ให้ได้รับบทเรียนราคาแพง

“ขอบคุณค่ะ” เสียงแหบเสน่ห์ที่ธนาดลแอบชอบทำให้หัวใจเขาสั่นได้ ย่ิงได้รับรอยยิ้มพิมพ์ใจแถมมาอีกทำให้ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูก ทำเป็นไม่สนใจเธออีก แล้วหันไปมองถนนต่อไป

‘ฟอร์มจัดนักนะ นายขี้เก๊ก’

สาวรักสะอาดอย่างรัตติกาลแอบดมเสื้อสูทว่ามีกล่ินสาบหรือไม่ หาจมูกโด่งได้กลิ่นน้ำหอม Flower by Kenzo จางๆ ทำให้หญิงสาวต้องเบ้หน้า แอบคิดว่าเขาเป็นผู้ชายนะฮะหรือเปล่า แต่เมื่อนึกถึงรสชาติของจุมพิตรสผลไม้ที่เขามอบให้ ใบหน้าสวยก็เปล่งเลือดฝาด รัตติกาลรีบสลัดความคะนึงหานั้นทิ้ง

‘แต่ยังดีที่มีน้ำใจ’

เมื่อไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ รัตติกาลรู้สึกยินดีที่จะใช้เสื้อสูทเนื้อดีคลายหนาว ดวงตากลมโตหันไปสนใจทิวทัศน์ด้านนอก

ส่วนภานุมาศนั้น ซุกหน้าหลับตาพริ้มในอ้อมกอดของสักรินทร์ทั้งที่เมื่อคืนยังรังเกียจเสื้อสูทของเขา แถมยังประกาศกร้าวว่าจะไม่ขอความช่วยเหลือใดๆ จากเขา

สักรินทร์นึกขำภานุมาศที่บ้าจี้คิดตามว่าเขาจะให้หล่อนทำหน้าที่นางบำเรอใช้หนี้แทนบิดา สักรินทร์อิจฉาน่านน้ำที่มีแฟนสาวที่ไม่ได้มีแค่รูปลักษณ์ภายนอก เธอคนนี้มีดีที่สมอง ใครให้นางบำเรอก็โง่เต็มที ผู้หญิงอย่างภานุมาศต้องเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ในเวลานี้เขาต้องเปลี่ยนแผนเล็กน้อยเมื่อภานุมาศมีส่วนรู้เห็นในการลักพาตัวรัตติกาล เขาและเพื่อนยังไม่อยากถูกลากเข้าซังเตข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว

“วันๆ กินอะไรบ้างเนี่ย ตัวเบาอย่างกับนุ่น”

สักรินทร์บ่นเบาๆ ขณะที่ปรับเปลี่ยนท่าให้ร่างบางนอนหลับสบายขึ้น แล้วกระชับหญิงสาวที่เขาบอกว่าไม่สวยนั้นไว้แนบอก

...เอื๊อก...

สักรินทร์กลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เมื่อร่างบางที่สวมใส่เสื้อผ้าชิ้นเล็กที่ปิดส่วนไหนแทบไม่มิดเบียดตัวหาร่างตนเพื่อความอบอุ่นให้ร่างกาย

‘เป็นบ้าไรไปวะ’

ชายหนุ่มขำกับท่าทางของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิง ออกจะช่ำชองด้วยซ้ำ สักรินทร์ปัดความคิดออกไปจากหัวก่อนจมดิ่งสู่นิทราพร้อมกับร่างบางที่หลับตาพริ้มอย่างเป็นสุขในอ้อมแขน

ธนาดลแอบตำหนิตัวเองที่เผลอแสดงความเห็นใจศัตรู ชายหนุ่มโทษว่าเป็นเพราะเธออยู่ในวัยเดียวกับชุติมา อีกอย่างอย่างเรียนคณะเดียวกัน เอกเดียวกัน และมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกับหลานสาวอีกด้วย เพลิงแค้นของธนาดลโหมกระพือเมื่อตระหนักได้ว่าผู้หญิงสวยอย่างรัตติกาลร้ายกาจเพียงใด หล่อนคบหากระทั่งบิดาของเพื่อน!!

“อย่าขับเร็วค่ะ มันอันตราย” รัตติกาลแทบจะกรีดร้องเมื่อรถยุโรปทะยานด้วยความเร็วสูง ครั้นหันไปหาธนาดล ก็พบดวงตาดุดัน เธอเชื่อแน่ว่าเขาจงใจให้เป็นอย่างนั้น คำพูดของเธอเปรียบเสมือนเพลิงชั้นดีให้ธนาดลเหยียบคันเร่งจนมิด รัตติกาลหลับตาปี๋ด้วยความกลัว แต่เพียงชั่วครู่ความเร็วของรถก็ชะลอลง อีกทั้งทางคดเคี้ยวไม่อาจทำให้ธนาดลขับรถได้ตามอารมณ์

รัตติกาลค่อยคลายอาการเวียนหัวแล้วสาละวนหาหมากฝรั่งมาเคี้ยว บรรเทาอาการหูอื้อ ดวงตาสีดำชื่นชมทัศนียภาพสองข้างทางอีกครั้ง ความรู้สึกของรัตติกาลเหมือนมาเที่ยวกับเพื่อนมากกว่า แม้ว่าบางครั้งเขาจะทำให้เธอรู้สึกตกใจ แต่เธอก็รู้สึกผูกพันกับเขาอย่างประหลาด

“นี่คุณ อีกนานไหมกว่าจะถึง” รัตติกาลรวบรวมความกล้าถามธนาดล

“อีกสักครึ่งชั่วโมงก็ถึง แล้วก็ไม่ต้องคิดจะหนีด้วย เพราะถึงยังไงเธอก็คงกลับกรุงเทพฯ ไม่ถูก” ธนาดลคิดว่าหญิงสาวสำรวจข้างทาง เก็บรายละเอียดบริเวณรอบๆ เพื่อหาทางหนีทีไล่

“อย่างน้อย ฉันก็ยังหวังว่าจะไปให้พ้นคนอย่างคุณ” รัตติกาลยังขวัญหนีดีฝ่อไปกับการซิ่งท้านรกอดแหวเขาไม่ได้ แต่เมื่อหันไปมองเบาะหลังก็พบว่าสองคนนั้นยังคงหลับสนิท ไม่ได้รับรู้เหตุการณ์เสี่ยงตายเมื่อครู่

“คนอย่างผมมันยังไง”

“คนโรคจิต คิดอกุศล จิตใจสกปรก”

“หึ อยากรู้นักว่าถูกแก้ผ้าล่อนจ้อนยังจะปากดีอย่างนี้อีกหรือเปล่า” ธนาดลมองหญิงสาวอย่างจาบจ้วง ทำให้เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาของเขาที่โลมเลียอย่างเปิดเผย หวาดหวั่นว่าเขาจะทำอย่างที่ว่าจริงๆ

“ขับรถไปสิคุณ เดี๋ยวก็ได้ตายกันหมดหรอก”

ธนาดลหัวเราะในลำคอกับประโยคคำสั่งของรัตติกาล ชายหนุ่มยักไหล่ก่อนประคับประคองพวงมาลัยรถให้ขับเคลื่อนบนถนนต่อไป

ขณะเดียวกันนั้น คฤหาสน์อมรวัฒนกุลไม่มีใครเข้าหน้าหนูเอ้ติดสักคน เมื่อเวลาอาหารเช้านั้นไร้วี่แววของธนาดล ชุติมาชักสีหน้าเมื่อไม่มีใครทราบว่าน้าชายของตนไปไหน

“คุณดลยังไม่กลับตั้งแต่เมื่อคืนเลยค่ะคุณหนู” ป้าอร คนเก่าคนแก่ของบ้านบอกคุณหนูของบ้านที่นั่งแกร่วรอบนโต๊ะอาหาร

“อะไรนะ ป้าอร”

เสียงแหลมตวาดลั่นแล้วกระแทกส้นเท้าปึงขึ้นไปชั้นบนทิ้งให้หญิงแก่มองตามอย่างอ่อนใจ ป้าอรมองรอบๆ บ้านอย่างเศร้าๆ บ้านช่องออกจะใหญ่โต สะดวกสบายด้วยสิ่งของอำนวยความสะดวกและข้าทาสบริพาร แต่ผู้อยู่อาศัยหาได้มีความสุข ความร่มเย็นไม่

โทรศัพท์มือถือยี่ห้อใหม่ล่าสุดกระเด็นไปนอนเล่นบนเตียงนุ่มเพราะแรงเหวี่ยงของเจ้าของ ชุติมากระแทกตัวบนเตียงอย่างขัดใจ

“ไปไหนนะ” ชุติมาพึมพำกับตัวเองที่ไม่สามารถติดต่อกับธนาดลได้

เครื่องนอนบนเตียงที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบถูกเหวี่ยงไปคนละทิศ คนละทาง หญิงสาวกระทำด้วยความโมโหที่ทุกอย่างต่างไม่ได้ดั่งใจ

“ฮัลโหล ขอสายคุณดล”

เสียงหวานของชุติมากลับห้วน เมรยาพอจะเดาออกว่าปลายสายคือหลานสาวสุดแสบ ถึงแม้ธนาดลจะเสน่ห์แรงแต่เขาก็ไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนติดต่อเขาด้วยเบอร์ที่ทำงาน และแน่นอนที่สุดที่หลานสาวที่หวังจะเขมือบน้าชายเป็นอาหารคงไม่รู้ว่าน้าชายลาพักร้อนไม่มีกำหนด ตลอดเวลาที่เธอรู้จักกับชุติมา เมรยายังไม่เคยได้ยินเธอเรียกธนาดลว่า ‘น้าชาย’ เลยสักครั้ง

“คุณดลลาพักร้อนคะคุณเอ้” เมรยาบอกอย่างไม่ใส่ใจมากนัก

“คุณดลไปไหน”

“ไม่ทราบคะ ท่านไม่ได้บอก” เมรยาบอกอย่างใจเย็น ทำให้ชุติมาปรี๊ดแตกที่เมรยาไม่ได้ถามธนาดล

“ไม่ได้เรื่อง”

เมรายาหูแทบดับเมื่อปลายสายกระแทกโทรศัพท์เสียงดัง นี่ธนาดลจะรู้ไหมว่าหลานสาวที่ตัวเองรักนักรักหนา ไม่ได้รักตนในแบบเดียวกัน

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


การเดินทางอย่างไม่รู้จุดหมายของรัตติกาลยังคงดำเนินต่อไป แต่หญิงสาวรู้ว่าใกล้จะถึงจุดหมายแล้วเมื่อรถยนต์แล่นสู่ถนนเส้นเล็กตัดจากถนนใหญ่ ภานุมาศก็เริ่มรู้สึกตัว เธอไม่อยากผละจากไออุ่นที่ได้รับเลย หากเมื่อถนนขรุขระทำให้หน้าผากเธอกระแทกอกแกร่งทำให้ภานุมาศต้องฝืนลืมตา

“กรี๊ด ไอ้บ้า” ถ้าหากผู้เป็นบิดามาได้ยินคงอบรมมารยาทลูกพลัมของตนเป็นการใหญ่ ความอบอุ่นจากร่างใหญ่ยังตราตรึงในทุกความรู้สึกของภานุมาศ หญิงสาวกระเถิบออกจากตักของชายหนุ่มแทบไม่ทัน

นี่เธอไปนอนบนตักเขาได้ไงนะ น่าอายชะมัด นี่ไม่รู้ว่าไปโดนส่วนไหนแล้วบ้าง

“อี๋ หยะแหยง” ภานุมาศปากไวพอที่จะบอกให้เขารู้

“นั่นปากหรอนะ” ว่าแล้วสักรินทร์ก็เอาผ้าสีดำที่เตรียมมาอีกเส้นปิดปากภานุมาศทันที

“นี่แน่ะ อี๋ หยะแหยง” สักรินทร์ดัดเสียงตามหญิงสาวอย่างหมั่นไส้ แล้วจัดการปิดปากของเธอด้วยผ้าบางนั้นอย่างแน่นหนา

“อื้อ...อุ๊บ” เสียงอู้อี้ของคนข้างหน้า ภานุมาศก็ได้รู้ว่ารัตติกาลก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนัก

“เฮ้ย นั่นไม่ใช่ทางที่จะไปนี่หว่าไอ้ดล เอ็งจะเข้าเมืองทำไมวะดล” สักรินทร์โวยเต็มที

“ก็ข้าว่าจะเอาเพื่อนของยัยนิกซ์ไปปล่อยให้ขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ” ธนาดลบอกโดยไม่หันมามองหน้าบูดบึ้งของเพื่อนตน

“ไม่ต้อง พ่อยัยนี่ติดหนี้ฉันอยู่”

ไม่ว่าเปล่า คางสากที่ห่างใบมีดของสักรินทร์ก็ถูกับแก้มเนียนของภาณุมาสที่พยายามหลบจากใบหน้าหล่อเหลานั้น ทว่าไม่เป็นผลนัก

“อี๊ด อ่อยอ้าน” เสียงกรีดร้องภายใต้ผ้าสีดำนั้นร้องอย่างบ้าคลั่ง

“...”

“ทำไมไม่ร้องต่อเล่า” ภานุมาศมองสักรินทร์อย่างหวาดๆ เมื่อมือหนาข้างหนึ่งเขารั้งร่างเธอให้นอนหนุนตัก ส่วนอีกข้างก็ลูบไล้บริเวณต้นแขนเธอเบาๆ

“พอได้แล้วไอ้ริน” เสียงของธนาดลบอกอย่างไม่ค่อยพอใจนักกับการกระทำของเพื่อนตน หลังจากที่มองร่างบางที่สั่นอย่างเห็นได้ชัดผ่านกระจกหลัง

“เดี๋ยวฉันจะพายัยนี่กลับเอง อยากรู้นักว่าสะดีดสะดิ้งอย่างนี้ลีลาจะเด็ดดวงขนาดไหน”

ราวกับอาญาสิทธิ์ประหารชีวิต ภานุมาศหน้าซีดเผือด ตัวเย็นเฉียบ ธนาดลซ่อนรอยยิ้มด้วยการผินหน้ามองข้างทาง เขารู้ว่าเพื่อนของเขาเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ข่มเหงน้ำใจเพศแม่ ส่วนใหญ่ก็สมยอมด้วยกันทั้งนั้น

รัตติกาลมองรอบบริเวณบ้านหลังเล็กอย่างกลัวๆ บ้านพักตากอากาศ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงไม่กี่ชิ้น ธนาดลพันธนาการสองมือไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนา ชายหนุ่มผลักเธอให้เดินตามเข้าไปในบ้านหลังจากที่รถยุโรปสีดำเคลื่อนหายไปกับดงไม้

อย่าบอกนะว่าเธอต้องเผชิญชะตากรรมกับนายนี่...ตามลำพัง

“เข้ามาเซ่! ” เสียงตวาดของธนาดลทำให้รัตติกาลลนลาน

รัตติกาลทำตัวไม่ถูก กลัวชายหนุ่มจับใจ ดวงตาคมกริบของเขาหันมามองเธออีกครั้งราวกับส่งสัญญาณให้เธอเร่งฝีเท้าให้ติดตามเขาไป

“โอ๊ย”

มือหนาผลักให้เธอเข้าไปในห้องนอน ห้องที่มีฉากกั้นเพียงห้องเดียวของบ้าน ร่างค่อนข้างสูงลงไปนั่งพับเพียบบนพื้นไม้ มันไม่เจ็บมากนัก แต่เนื่องด้วยสองมือที่ไร้ซึ่งอิสรภาพทำให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นได้ตามใจนึก

“ไปอาบน้ำซะ”

ธนาดลชี้ไปยังของใช้ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟันที่ถูกจัดใส่ขันพลาสติกตรงมุมห้อง แล้วปาเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ใส่หน้าเธอ การกระทำป่าเถื่อนไม่ได้หยุดแค่นั้น ธนาดลใช้มีดพกตัดเชือกที่มัดข้อมือขาวนั้นไว้ ไม่สนด้วยซ้ำว่ามันเป็นรอยแดง

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


ภานุมาศนั่งหน้าบอกบุญไม่รับบนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ด้านข้างเธอคือสักรินทร์ และลูกน้องของเขาอีกห้าคนอยู่ที่ชั้นประหยัด

‘แผนการลักพาตัวของรัตติกาลถูกวางแผนอย่างรัดกุม และพวกมันทำกันเป็นขบวนการ’ ภานุมาศเก็บอาการตื่นตระหนกไว้ในท่าทีที่เรียบเฉยเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ห้าคนอยู่ที่บ้านหลังนั้นก่อนแล้ว

นี่มันอะไรกันเนี่ย

คิ้วบางของภานุมาศยังผูกกันเป็นโบว์ หญิงสาวกำลังงงกับชีวิตตัวเอง เธอไม่อาจบอกตัวเองว่าเธอกำลังต่อกรกับคนระดับไหน เธอทราบเพียงว่าเขาหน้าตาดี รวยล้นฟ้า และมีอำนาจในมืออีกด้วย

ก็อดฟาเธอร์ชัดๆ เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันความคิดเธอ ขนาดจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เขายังมีแก่ใจไปเฝ้าถึงหน้าห้องน้ำ ภานุมาศจึงไม่มีโอกาสขอความช่วยเหลือกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ได้เลย

“ขอกาแฟครับคนสวย” เสียงทุ้มกังวานน่าฟังของสักรินทร์เรียกรอยยิ้มที่น่าประทับใจจากนางฟ้าบนเครื่องบินอกบึ้มเป็นอย่างดี ภาณุมาสเบือนหน้าหนีก่อนหันมาสนใจเกมส์ตรงหน้า “แล้วก็ขอน้ำส้มให้น้องสาวผมด้วยครับ”
น้ำเสียงยียวนทำให้คนที่ตั้งอกตั้งใจเล่นเกมส์ไม่อาจผ่านด่านได้สักที ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หญิงสาวอารมณ์ไม่ดี ภานุมาศเบือนหน้ามองออกไปนอกเครื่องบิน

“นั่งอย่างนั้นนาน ระวังคอเคล็ดนะ”

“จะเคล็ดก็คอชั้น อย่ามาเจ๋อ”

ภานุมาศชักสีหน้า ตวาดกลับอย่างคนมีอารมณ์ตรงข้ามกับสักรินทร์ที่อารมณ์ดีเป็นพิเศษที่สามารถยียวนแม่สาวเจ้าอารมณ์ได้

ทันทีที่เท้าแตะพื้นดิน ภานุมาศได้หายใจสะดวกอีกครั้ง ร่างบางเผ่นแนบทันทีเมื่อคล้อยหลังสักรินทร์ที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างเคร่งเครียดกับเมศร์ ผู้คนในสนามบินต่างสนใจหญิงสาวที่แต่งตัวเปรี้ยวสุดทธิ์ราวกับว่าหลุดออกมาจากแมกกาซีนที่มีผู้ชายหน้าโหดวิ่งตามมาติดๆ เป็นพรวน

“บ้าฉิบ” สักรินทร์สบถอย่างหัวเสียอยู่หน้าห้องน้ำหญิง โชคดีที่คนของเขาตาไวทันเห็นว่าภานุมาศวิ่งเข้าไปหลบในนั้น

ภานุมาศทิ้งตัวนั่งบนชักโครกอย่างหมดแรง หญิงสาวได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง มือก็ฉีกกระดาษทิชชูเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนเสียงอุปกรณ์สื่อสารของเธอกรีดร้อง

“เยส” หญิงสาวอุทานอย่างดีใจ ใครก็ตามที่โทรมาตอนนี้เป็นซูปเปอร์ฮีโร่ของเธอ

“พี่เต้ขา ช่วยพลัมทีสิ” ภานุมาศทอดเสียงหวานให้กับปลายสาย

เต้ หรือ นิธิพนธ์รุ่นพี่ต่างคณะที่มาติดพันเธอในขณะนี้ ชายหนุ่มมีนิสัยค่อนข้างเกเรเนื่องด้วยบารมีของบิดาที่เป็นนักการเมือง ภานุมาศทราบดีว่าเพลย์บอยสอยเวอร์จิ้นอย่างนิธิพนธ์ไม่ได้จริงจังกับเธอสักนิด เขาหวังเพียงได้ชื่นชมร่างกายของเธอเท่านั้น

“น้องพลัมจะให้พี่บุกน้ำลุยไฟที่ไหนพี่ก็ไม่หวั่น” คำหวานชวนอ้วกทำให้หญิงสาวเบ้หน้า เอาโทรศัพท์ออกจากหูแล้วแลบลิ้นใส่โทรศัพท์

“พลัมไม่ให้พี่เต้ทำอะไรลำบากขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่มารับพลัมที่สุวรรณภูมิเอง”

“โฮะๆ แค่นี้ ไม่มีปัญหาครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ” นิธิพนธ์ยิ้มกริ่ม เห็นสวรรค์อยู่รำไร

“มาถึงก่อนค่อยว่ากันนะคะ ถ้าพี่เต้มาช้า พลัมโทรหาคนอื่นนะ”

“โอเคครับน้องพลัม ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเจอกัน”

“ค่ะ พลัมจะรอนคะ”

เมื่อภานุมาศวางหูโทรศัพท์ไปแล้ว นิธิพนธ์กัดฟันกรอดๆ ที่เมื่อครู่หญิงสาวขู่ว่าจะโทรหาคนอื่น “ถ้ากูพามึงขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดให้ได้ไม่ต้องมาเรียกกูว่านิธิพนธ์”

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


สี่สิบห้านาทีหลังจากที่เธอวางสายจากนิธิพนธ์ หญิงสาวยังคงขังตัวอยู่ในห้องน้ำ ภานุมาศออกจากห้องน้ำด้วยอาการกล้าๆ กลัวๆ แม้ว่านิธิพนธ์จะบอกว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น

“ไม่เห็นมีใครเลย น้องพลัมคิดมากไปหรือเปล่า” นิธิพนธ์คว้าหมับที่เอวบางของหญิงสาว

“เอ่อ ช่างเถอะคะ เราไปกันดีกว่านะคะ” ภานุมาศอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเมื่อไม่อาจแกะมือปลาหมึกแถมกาวตราช้างนี้ได้

“พลัมอยากไปไหนคะ”

“ไปไหนก็ได้ตามใจพี่เต้คะ” หญิงสาวยิ้มแห้งๆ ให้กับชายหนุ่ม

“งั้นเราไปหาที่คลายร้อน แอร์เย็นๆ นั่งคุยกันสบายๆ ดีกว่าเนอะ”

นิธิพนธ์กระหยิ่มยิ้ม ยิ่งกว่าโชคทองหล่นตรงหน้าเมื่อภานุมาศว่าง่าย ไม่มีขัดเขินเหมือนที่เคย เขาทนพาเธอไปหาที่คลายร้อนอย่างโรงแรมแทบไม่ไหว ฉวยโอกาสหอมฟอดใหญ่ที่แก้มนวล

“ไปเที่ยวไหนมาคะ”

“อ๋อ พลัมไปดูหมีแพนด้าที่เชียงใหม่ค่ะ” พูดไปแล้วภานุมาศยังขำตัวเอง หญิงสาวโบกบอร์ดดิ้งพาสต์ให้นิธิพนธ์ดูแก้เก้อ

“อย่าหนีพี่ไปเที่ยวคนเดียวอีกนะ ถ้าคราวหน้าพลัมอยากไปไหน พี่พาไปหมดเลย”

“พลัมอยากไปเกาะโบรา โบราค่ะ” ภานุมาศบอกเสียงแจ๋วทำให้นิธิพนธ์สะดุ้งโหยง แม้จะเคยได้ยินมาว่าหญิงสาวใช้ของแบรนด์เนมแพงระยับ แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตนเอง ลำพังสาวๆ ที่เขาเคยควงไปไหนมาไหนด้วย เขาไม่เคยพาเจ้าหล่อนไปไกลกว่าหัวหินเลย

“โอเคครับ เกาะโบรา โบรา ทริปหน้าของเรา”

ภานุมาศทราบดีว่านิธิพนธ์รับปากเธอส่งๆ ไปอย่างนั้น หญิงสาวคิดว่าเขาคงไม่ใจปำ้พอที่จะพาเธอไป หรือถ้าพาไปจริงๆ เธอก็ไม่ไว้ใจไปกับเขาสองต่อสอง

โบราโบรา (Bora Bora) ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ เฟรนช์โปลินีเซียทางแปซิฟิกใต้ เป็นดินแดนโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส ลักษณะเป็นเกาะที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อน มีซากภูเขาไฟหลายลูก พื้นทะเลนิ่งเพราะมีปะการังล้อมรอบเกาะ และมีหาดทรายที่สวยงาม (http://th.wikipedia.org/wiki/เกาะโบราโบรา)

เมื่อมาถึงลานจอดรถ นิธิพนธ์เห็นสภาพรถสปอร์ตของตัวเองก็ต้องตกใจเมื่อล้อรถทั้งสี่ถูกปล่อยลมจนหมด ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่านี่คือการกลั่นแกล้ง มันบังเอิญเกินกว่าจะมองว่าเป็นอุบัติเหตุ

“เฮ้ย” นิธิพนธ์อุทาน มือหนาขยี้ผมจนเสียทรง “ใครแกล้งกูวะ รู้จักกูน้อยไปแล้ว อย่าให้รู้ก็แล้วกัน”

ภานุมาศสะใจไม่น้อยกับสภาพรถที่เจ้าของรักนักรักหนา

“ถ้ารู้แล้วแกจะทำอะไรได้” เสียงห้าวดังจากด้านหลังทำให้ทั้งคู่หันไปมอง

“คุณสักรินทร์” นิธิพนธ์หน้าเสีย เมื่อเห็นว่าใครที่เดินออกมาจากมุมเสา ร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนกว่าวัย รอยยิ้มบางอย่างคนใจดีแตะที่มุมปากหากทำให้นิธิพนธ์ขนลุกซู่

“พี่เต้เป็นอะไรคะ”

สภาพของนิธิพนธ์ทำให้ภานุมาศหน้าเสีย เสียงหวูดเตือนว่าเขาไม่อาจเป็นขอนไม้ให้เธอเกาะไปยังฝั่งได้ปลอดภัย หญิงสาวไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายอย่างนิธิพนธ์จะหวาดกลัวสักรินทร์ถึงเพียงนี้ เพียงคำพูดไม่กี่คำของสักรินทร์ทำให้นิธิพนธ์แทบลงไปกราบแทบเท้า

“ขอเวลาผมอีกหน่อยนะคุณสักรินทร์ ผมไม่เบี้ยวคุณหรอก เงินแค่สามแสน”

นิธิพนธ์คาดไม่ถึงว่าตนจะโชคร้ายได้ถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอเจ้าหนี้ตัว ไม่ใช่ลูกน้องเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ถ้าเขายังอยากมีลมหายใจอยู่ก็ไม่ควรตุกติกชายคนนี้ด้วยลูกไม้ใดๆ เป็นที่รู้กันอยู่ว่านายสักรินทร์ วาณิชณุกุลไม่ปรานีใคร

“หึ” สักรินทร์แสยะยิ้ม เขาจำไม่ได้ด้วยซำ้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นหนี้เขาเท่าไหร่ ภาพที่เห็นจนชินตาในบ่อนของเขาคือคำพูดโอหังอวดความมีอำนาจของบิดาเมื่อขอเครดิตจากทางบ่อนเพิ่ม โดยหารู้ไม่ว่าอำนาจของบิดาตนนั้นจะถูกสักรินทร์ขยี้เหยียบเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ “เรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า เอาเป็นซ่อนแอบดีไหม ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันให้เวลานายยี่สิบสี่ชั่วโมงก่อนที่ลูกน้องฉันจะตามเจอ”

เสียงของสักรินทร์ประกาศกร้าวอย่างวางอำนาจกับชายหนุ่ม พลันสายตามองมาที่มือของนิธิพนธ์ที่โอบเอวบางของหญิงสาวราวกับประกาศความเป็นเจ้าของ สายตาสักรินทร์เปล่งประกายเล็กน้อย นิธิพนธ์ผละมือจากเอวบอบบางของภานุมาศแทบไม่ทัน

ผู้ชายด้วยกันดูออก

“เดี๋ยวคะพี่เต้ พลัม...พลัมไปด้วย” ภานุมาศบอกลิ้นรัว รีบสาวเท้าตามนิธิพนธ์ไปอย่างเร่งรีบเมื่อเขาวิ่งออกไปโดยไม่สนใจเธอสักนิด

“จะไปไหน แม่ตัวแสบ” สักรินทร์กระชากแขนหญิงสาวไว้

“ปล่อยนะ” ภานุมาศพยายามแกะมือแกร่ง แต่ไม่เป็นผล

“เธอไม่มีทางหนีฉันได้เป็นครั้งทีสองหรอกภานุมาศ” ชายหนุ่มบอกเสียงต่ำ

ขณะเดียวกันนั้นรถตู้สีขาวก็มาจอดพอดี สักรินทร์ผลักร่างบางอย่าไม่ปรานีปราศรัยเข้าไปในรถแล้วสั่งให้ออกรถได้

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


กลิ่นหอมโชยมาจากหลังบ้าน รัตติกาลในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมาหยุดมองชายหนุ่มที่กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารอย่างแปลกใจ

“เอ่อ...คุณมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”

“อยู่เฉยๆ แหละดีแล้ว” ธนาดลบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนตักไข่เจียวใส่จานแล้วเปิดน้ำใส่กระทะที่เพิ่งใช้งานเสร็จ
รัตติกาลย่นจมูกอย่างลืมตัว ”ก็มันไม่สนุกนิ อยู่เฉยๆ”

“หึ เดี๋ยวเธอได้สนุกสมใจเธอแน่”

ธนาดลพูดขณะจัดโต๊ะอาหาร รัตติกาลไม่สนใจ เดินมานั่งแล้วลงมือทานข้าวโดยไม่รอคำเชิญจากพ่อครัว อาหารกลางวันดำเนินไปอย่างเงียบๆ โดยปราศจากบทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่

รัตติกาลทำหน้าที่ล้างจานด้วยเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนทำอาหารซึ่งธนาดลไม่ว่าอะไร เขาเดินมาเงียบๆแล้วคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป

“อีกไม่นานนะพี่ดา เดี๋ยวมันก็ได้รับบทลงโทษ” ชายหนุ่มพึมพำขณะทำภารกิจส่วนตัว

รัตติกาลยืนที่ชานหน้าบ้าน มือข้างหนึ่งถืออุปกรณ์สื่อสารเพื่อหาสัญญาณเพื่อการติดต่อสื่อสาร เครือข่ายที่ว่าคมชัดทั่วไทยก็ตามที เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน

“อับสัญญาณ เฮ้อ” รัตติกาลบอกกับตัวเองอย่างหมดหวัง

ผมยาวที่สะท้อนแสงแดดของรัตติกาลที่ยาวถึงกลางหลังดึงดูดให้ธนาดลมองตามอย่างเผลอไผล สะโพกกลมกลึงกับขาเรียวยาวพ้นกางเกงขาสั้นชวนให้น่าหลงใหล

“ที่นี่ไม่มีสัญญาณหรอก อย่าพยายามเลยรัตติกาล” รัตติกาลหันไปมองเจ้าของเสียงห้าวที่บอกเยาะๆ ตอกยำ้ว่าเธอไม่มีปัญญาหนีไปที่ไหนได้

“แล้วทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่...คะ” หางเสียงที่บ่งบอกว่าไม่พอใจที่จะพูด
เอาน่า อดทนแล้วจะได้ไปจากที่นี่ รัตติกาลปลอบใจตัวเองว่าไม่ให้ชวนเขาทะเลาะ

“ก็เพราะการกระทำของเธอไงรัตติกาล”

“เพราะการกระทำฉัน คุณบ้าหรือเปล่า เราไม่รู้จักกันสักหน่อย”

“เอาเป็นว่าฉันรู้จักเธอก็แล้วกัน รัตติกาล” เสียงของธนาดลบอกอย่างเกลียดชัง

“เหนื่อยจังพูดกับคุณนี่” รัตติกาลส่ายหน้าอย่างระอา

“ใช่สิ พูดกับฉันแล้วเหนื่อย ไม่เหมือนเวลาขึ้นเตียงกับผู้ชายที่มีค่าเหนื่อยให้”

และแล้วความอดทนของหญิงสาวก็สิ้นสุด “หยุดกล่าวหาฉันได้แล้วนะ ฉันไม่ได้มีพฤติกรรมตำ่ทรามอย่างที่คุณว่า”

“ทำไมฉันจะว่าผู้หญิงสำส่อนอย่างเธอไม่ได้”

“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ทำไมนะหน้าตาคุณก็ดี ดูมีการศึกษาแต่ทำไมหัวสมองคุณมีแต่เรื่องอย่างว่า” หญิงสาวต่อว่าอย่างเหลืออด สองมือเท้าสะเอว สองตามองอย่างหาเรื่อง

“...”

“แล้วก็ฉันจะบอกให้นะ ถึงแม้ว่าฉันจะขึ้นเตียงกับใครคุณก็ไม่ต้องมายุ่ง” รัตติกาลรีบขัดคอธนาดล ไม่ปล่อยโอกาสให้เขาได้พูดใดๆ ทั้งสิ้น รัตติกาลวิ่งไปดักหน้าร่างของชายหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะเดินหนี “ไหนๆ ก็พูดกันขนาดนี้ มาพูดให้รู้เรื่องเลยดีกว่า”

เรื่องอะไรจะยอมให้มาด่าเธอปาวๆ

“เงียบสักที รำคาญ”

สองมือหนาคว้าแขนร่างค่อนข้างสูงไว้แน่น เมื่อหญิงสาวทำท่าจะพูดต่อ ริมฝีปากบางของธนาดลบดขยี้ริมฝีปากอิ่มรุ่นแรง สองมือรัดร่างหญิงสาวไว้เมื่อเจ้าของร่างเริ่มดิ้นรน อาการขัดขืนในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นโอนอ่อนต่อชายหนุ่ม รัตติกาลตอนนี้ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เนื่องจากเธอไม่เคยถูกสัมผัสจากบุรุษเพศแบบนี้มาก่อนเหมือนที่เขากำลังทำ สองมือของหญิงสาวกอดเอวเขาไว้แน่นพลางแหงนหน้าเพื่อรับสัมผัสจากเขา

ในวินาทีนั้นเอง ธนาดลถอนริมฝีปากจากรัตติกาลแล้วปล่อยให้เธอเป็นอิสระ รัตติกาลทรุดฮวบไปบนพื้น เธอได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากคนใจร้าย

ธนาดลมองหญิงสาวที่นั่งไม่เป็นท่าบนพื้นแล้วยิ้มด้วยชัยชนะก่อนเดินเข้าไปในห้องนอน

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

@ คุณ Gingfara อีกคู่มาช่วยสร้างความหวานในเรื่องค่ะ

@ คุณ lovemuay อย่าหลงรักคู่นี้จนลืมคุณดลกับนิกซ์นะคะ

@ คุณปูสีนำ้เงิน จะพยายามมาให้ตรงเวลาค่ะ








เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2554, 18:59:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 พ.ค. 2554, 19:57:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 2175





<< บทที่ 3   บทที่ 5 >>
Gingfara 2 พ.ค. 2554, 19:11:49 น.
อ๊ายยยย น่ารักทั้งสองคู่เลยค่ะ
ก็เนอะ อยากกอดพระเอก
แหะๆๆๆถ้านางเอกเค้าไม่มาเฉาะหัวเอา อิอิ


lovemuay 2 พ.ค. 2554, 19:44:50 น.
น่ารักทั้งสองคุ๋เลยค่าา แหมแต่ชอบหนุ่มๆแบบสุภาพบุรุษค่าา
อ้ายย..เขินลล์ >//////<


ปูสีน้ำเงิน 2 พ.ค. 2554, 23:24:20 น.
ชอบคู่ของยัยพลัมนะ เฮี้ยวดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account