ม่านพรหม
เมขลา น้องสาวคนเล็กของผู้การจิรวัติ เธอผู้มีซิกเซ้นส์ สัมผัสพิเศษ สามารถยั่งรู้อนาคตของคนอื่นได้บ้าง..เมขลา ต้องพบกับภัยคุกคามจาก กฤษณะ อดีตคนรักของลูกค้า เพราะเธอไปดูว่า กฤษณะไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอคนนั้น...จากเรื่องสนุก ๆ ที่ได้รู้อนาคตคนอื่น เมขลา เริ่มเครียด และเขาก็ค่อย ๆ ทำให้เธอรู้ว่า..คนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าได้นั้น ไม่ได้เกิดจาก รู้ดวงชะตา..
Tags: นายรถไฟ กับยายซิกเซ้นส์

ตอน: 18.1 “ถึงท่านไม่บอก ผมก็รู้ว่าเนื้อคู่ของผมคือคุณหนูนา”

ม่านพรหม
18.


กฤษณะยิ้มที่มุมปาก..นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่อยู่ในโรงหนัง ด้วยอากาศเย็นเขาจึงค่อย ๆ เอนตัวเข้าไปร่างบอบบางเพื่อหาไออุ่น ตอนแรกเขาคิดว่าเมขลาจะขยับตัวหนี แต่ว่าหญิงสาวกลับนั่งนิ่งยอมให้เขาแอบอิงสูดความหอมจากเส้นผมและเรือนกายที่อยู่ห่างเพียงคืบ..

ในตอนนั้นเลือดในกายหนุ่มของเขาสูบฉีด จนเขาดูหนังไม่รู้เรื่อง แต่ครั้นจะขยับมือเล่นปูไต่หาเศษหาเลย เขาก็ยั้งคิดได้ว่า หากสาวเจ้าไม่มีใจในแง่ลึกซึ้ง หรือคิดว่าเขาดูถูกน้ำใจ เขาจะสูญเสียความดีความชอบที่ได้ทำมาในทันที..และเมื่อหักห้ามใจปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กัน กฤษณะก็ค้นพบว่า ยิ่งอยู่ใกล้เมขลามากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกได้ว่า จะช้าหรือเร็ว ผู้หญิงคนนี้จะไม่มีวันจากเขาไปไหน..เธอเกิดมาเพื่อเขา และเขาก็เกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ ต้นรักที่เขาค่อย ๆ หมั่นรดน้ำพรวนนี้จะต้องให้ผลเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน..

เมขลาลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ากฤษณะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ตาสองคู่ประสานกัน กฤษณะยิ้มบาง ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ แม้เขาไม่ได้นั่งจนชิด แต่เมขลากับรู้สึกอบอุ่นไปทั้งร่างกายเหมือนกับว่าเขากอดและหอมเธอไปแล้ว..

“ง่วงนอน หรือไม่สบาย เป็นอะไร หน้าตาเหมือนปวดหัว”

“มีเรื่องให้คิดเยอะ..เหนื่อยทั้งงานประจำ และก็เหนื่อยกับเรื่องของคนอื่น” เมขลาอยากจะระบายความในใจของเธอให้เขาได้รับรู้ไว้บ้าง...เพราะตั้งแต่วิจิตรศราคบหากับศุภนิมิตรอย่างเปิดเผย ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับวิจิตรศราก็เหมือนมีม่านบาง ๆ มากั้นไว้ วิจิตรศรามีเรื่องส่วนตัวมาระบายให้เธอฟังน้อยลง อาจจะเป็นได้ว่า วิจิตรศราได้บอกเล่าความรู้สึกต่อเรื่องต่าง ๆ ในระหว่างวันกับศุภนิมิตไปแล้ว และเรื่องของเธอนั้น บางทีก็เป็นเรื่องซ้ำซากไม่น่าสนใจ ตอนที่วิจิตรศราอยู่กับศุภนิมิตรคุยหยอกล้อกันอย่างคนรัก เมขลารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน และตามอารมณ์ของธรรมชาติ เมขลาก็อยากจะมีใครสักคนอย่างที่วิจิตรศรามีบ้าง..และตอนนี้ชีวิตของเธอก็มีเพียงเขาคนเดียวที่เข้ามาในลักษณะชู้สาว ซึ่งในตอนนี้ เธอก็รู้สึกไว้วางใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก

“คนอื่นหมายถึงคนที่มาดูดวงใช่ไหม”

เมขลาพยักหน้าเบา ๆ

“เหนื่อยก็พักบ้างสิ เหมือนทำงานเจ็ดวันเลยนะ”

“พักไม่ได้ มีหน้าที่ต้องช่วยคน”

“ช่วยทำไม” หัวคิ้วหนาของเขาขมวดเข้าหากัน

“ช่วยให้เขาพ้นทุกข์”

“แล้วตัวเองมีความสุขหรือเปล่า”

เจอคำถามนี้เข้าไป เมขลาถึงกลับหยัดกายตรง..ความสุขของเธอมีหรือเปล่า..หลาย ๆ ครั้งเธอไม่มีความสุขกับการดูดวง แต่หลาย ๆ ครั้งเธอก็มีความสุขที่ได้ดูดวง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักกันแล้ว คนมาให้เธอช่วยเหลือทำให้เธอมีความทุกข์ใจเสียมากกว่า ที่จะทำให้เธอมีความสุขได้ก็เคสแม่กุหลาบของเขา ช่วยให้หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย เธอรู้สึกว่าได้บุญมากกว่าทำนายว่าธุรกิจจะไปรอดหรือไม่รอด

“สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ก็ต้องทน”

“ทำไมต้องทน”

“ก็ดันไปปรารถนาไว้..” เผลอปากระบายไปแล้ว เมขลาก็ได้สติ..เธอไม่ควรเล่าเรื่องนางฟ้ารัตนาเมขลาให้เขาได้รับรู้...หญิงสาวลุกขึ้นพร้อมกับบอกกับกฤษณะว่า

“ไป กลับบ้านเถอะดึกแล้ว..”

“ผมนั่งแท็กซี่ไปส่งนะ”

“แล้วก็นั่งแท็กซี่กลับ เปลืองเงินแย่ ไม่ต้องหรอก”

“เดี๋ยวนั่งรถเมล์กลับก็ได้”

“มันเสียเวลา”

“สำหรับคุณหนูนาไม่มีคำว่าเสียเวลา..”

“ตามใจ” บอกเขาแล้วเมขลาก็เดินนำเขาลงบันไดเลื่อน เขาเดินตามมาหยุดอยู่เคียงกันสบตากันแล้วต่างฝ่ายต่างก็เมินหน้าไป ยิ้มบาง ๆ ให้กับความรักที่ค่อย ๆ ผลิบานในหัวใจ

“แล้วรถคุณล่ะ”

“ผมเคยขอให้เรียกผมว่าน้า..”

“ไม่อยากเรียกซ้ำกับคนอื่น”

“ผมกับเขาไม่ได้มีอะไรกันจริง ๆ นะ สาบานได้เลย..”

“สาบานว่าไง”

“ถ้าผมคิดเสน่หาหรือพิสวาสเขาสักนิด ขอให้ผมกับคุณหนูนาต่างคนต่างไปไม่ต้องเจอกันอีกทั้งชาตินี้และชาติหน้า แต่ถ้าผมไม่ได้รักเขา ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแบบชู้สาวอย่างที่ผมบอกไว้ ก็ขอให้ผมได้แต่งงานกับคุณหนูนา อยู่กินด้วยกันฉันท์ผัวเมียไปทุกภพทุกชาติ..” พอกฤษณะพูดจบเมขลาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของรัตนาเมขลา ...เมขลาชะงักเท้า เพราะอยากจะรู้ว่าเธอจะบอกอะไรกับตน แต่ว่าทุกอย่างก็เงียบงั้นเช่นเดิม

“หยุดทำไม” กฤษณะคิดว่าที่เมขลาหยุดเพราะอึ้งกับคำพูดที่กลั่นออกไปจากจิตใจ ชนิดที่เขาเองก็งงอยู่เหมือนกันว่าพูดแบบนั้นไปได้อย่างไร...หญิงสาวไม่ตอบคำถามของเขา แต่ว่าก้าวเท้าต่อไปอย่างเนิบนาบ กฤษณะจึงต้องไปบอกเล่าเรื่องที่หญิงสาวเคยถามไว้

“ผมไม่ได้เอารถมา เดินมาเหมือนวันที่เจอคุณที่นี่ครั้งแรกแหละ แล้ววันนี้ ทำไมคุณถึงมาคนเดียว เพื่อนรักคุณไปไหนแล้วยอมปล่อยให้คุณมาได้ไง”

“ฉันก็มาที่นี่คนเดียวบ่อย ๆ”

“ดื้อชะมัดเลย” เขาหมายถึงที่หญิงสาวไม่ยอมแทนตัวเองว่าหนูนาอย่างที่เขาร้องขอ และพอเขาพูดจบเมขลาก็หันมาค้อนให้เขา เขาก็เลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย

“หิวอะไรไหม”

“จะกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวที่หน้าร้าน”

“งั้นเราก็รีบไป ผมหิวไส้กิ่วแล้ว”

“แล้วนี่ฉันตกลงให้คุณไปส่งแล้วเหรอ”

“ผมก็บอกไปแล้วว่า ถ้าผมไม่ได้ไปส่งคุณ คืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่ ๆ..นะให้ผมไปส่ง ให้ผมได้อยู่ข้าง ๆ คุณอีกนิด..”

“เพื่อ”

“คุณหนูนาก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนิ”

เมขลาพยายามกลั้นยิ้ม แต่ว่าก็เกือบจะไม่สำเร็จ ดีแต่ว่าโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาดังขึ้นเสียก่อน เขาเดินตามเมขลาไปพลางกดรับสาย..

“พ่อ มีอะไรเหรอครับ..ฮะ อะไรนะ..” เขาชะงักเท้า ฟังทางฝ่ายนั้นพูดยืดยาว เมขลาเห็นว่าเขาหยุดเพราะน่าจะเป็นเรื่องสำคัญหญิงสาวจึงต้องชะลอฝีเท้ารอเขา..พอเขาคุยโทรศัพท์เรียบร้อยก็เดินตามมากระทั่งได้เดินเนิบนาบเคียงกัน

“พ่อผมบอกว่า หมอตรวจเจอโรคของแม่แล้วครับ”

“เป็นอะไร”

“กระดูกตรงที่คุณจับนั่นแหละ งอกทับเส้น ต้องผ่า แม่กังวลใจเป็นอย่างมาก พ่อก็เลยอยากให้ผมกลับไปให้กำลังใจแม่บ่อย ๆ โดยเฉพาะวันที่แม่เข้าห้องผ่าตัด ผมควรจะไปส่งแม่และอยู่รอจนกว่าแม่จะออกมา”

พอเขาเอ่ยมาอย่างนี้ เมขลาจึงได้สำรวมใจส่งจิตถึงรัตนาเมขลาเผื่อว่าทางนั้นจะบอกอะไรมาบ้าง..แต่ว่าทุกอย่างก็เงียบกริบ เมขลาจึงต้องเฟ้นปัญญาให้กำลังใจเขาเสียเอง

“หมอสมัยนี้เก่ง เครื่องไม้เครื่องมือพร้อม คุณแม่หายแน่นอนค่ะ”

“เทพเบื้องบนบอกหรือ”

“เปล่าหรอก ฉันติดต่อเขาไม่ได้หรอก เขาจะมาก็ต่อเมื่ออยากจะมา..อยากจะบอก”

“แล้วเขาบอกคุณหรือเปล่าว่าเนื้อคู่ของผมเป็นใคร”

เมขลาส่ายหน้า..ก่อนจะได้ยิ้มพร้อมทำหน้าระอาเมื่อเขาบอกว่า

“ถึงท่านไม่บอก ผมก็รู้ว่าเนื้อคู่ของผมคือคุณหนูนา”

“รู้ได้อย่างไร”

“ก็ใจของเราตรงกัน”

“ตรงไหน”

“มาโรงหนังเหมือนกัน..”

“เอาง่าย ๆ เลยนะ”

“ก็หยุดเดินแล้วหันมาหาผมสิ..”

“ไม่เอา” เมขลาปฏิเสธก่อนจะสาวเท้ายาว ๆ แต่ว่าเขาก็วิ่งไปดักหน้าไว้ หันหลังให้ ก่อนจะย่อตัวที่สูงกว่าเมขลาประมาณยี่สิบเซ็นติเมตรให้หัวใจของเขาตรงกับหัวใจของเมขลา..เมขลาชะงักเท้านึกอยากจะทุบหลังไล่ความทะเล้นของเขา แต่ว่าเธอก็ทุบเขาไม่ลง..



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ค. 2555, 21:39:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ค. 2555, 21:39:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 2156





<< 17."ก็คะน้ากับหนูนาไง เข้ากันออก นะนะ"   18.2 “สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หนึ่งวันหนึ่งคืนเท่ากับหนึ่งร้อยปีโลกมนุษย์” >>
nutcha 28 พ.ค. 2555, 22:13:08 น.
ได้อ่านหนูนากับคะน้าก่อนนอนคืนนี้หลับฝันดีแน่ ๆ หนูนากับคะน้าตอนนี้น่ารักมั๊ก มากเลยคุณเฟื่อง


คิมหันตุ์ 28 พ.ค. 2555, 22:18:57 น.
เอามุขแบบนี้เลยนะน้า


Orathai 29 พ.ค. 2555, 02:00:08 น.
ตอนนี้ได้ความรู้สึกว่าคะน้าจริงใจมากขึ้น...ไม่เจ้าเล่ห์แค่ทะเล้นน่ารักๆ


konhin 29 พ.ค. 2555, 02:11:46 น.
ฮ่าๆๆ ใจของเราตรงกัน น่ารักชะมัดเลย


imsoul 29 พ.ค. 2555, 07:15:26 น.
น่ารักอ่ะ


innam 29 พ.ค. 2555, 08:19:44 น.
น่ารักมาก


แว่นใส 29 พ.ค. 2555, 08:54:23 น.
แอบหวานนะเนี่ย


nunoi 29 พ.ค. 2555, 10:26:50 น.
คะน้าตอนนี้ น่ารัก จริงใจ จริงๆ


anOO 29 พ.ค. 2555, 18:25:57 น.
โธ่....ไอ้เราก็นึกว่าจะเล่นมุกอะไร


Zephyr 30 พ.ค. 2555, 19:55:13 น.
โห มุกใจตรงกัน อืมมมมม.....
น่ารักจริง คู่นี้อ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account