กรรมสิทธิ์หัวใจ
“แล้วทำไมหนูถึงต้องทำตามที่คุณพีต้องการทุกอย่างด้วยเล่า!”

วริณสิตาตะโกนก้อง ราวกับจะร้องเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ร้อนที่สุมในใจ สาวน้อยหารู้ไม่ ว่าการกระทำนั้นทำให้ดวงตาคมปลาบเบิกขึ้นสว่างวาบ

พีรพัฒน์ตวัดต้นแขนเล็กที่จับไว้ในมือให้ถลาเข้ามา กระซิบเย็นเยียบ หน้าเกือบประชิดหน้า

“เพราะเธอ คือ ‘กรรมสิทธิ์’ ของฉันไงล่ะวริณสิตา!”

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 23

ตอนที่ ๒๓

เสียงเคาะประตูห้องทำงานที่ดังขึ้นสองครั้งเรียกความสนใจของพีรพัฒน์ให้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ ทว่ายังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยปากอนุญาต คนที่อยู่ด้านนอกก็ถือวิสาสะผลักประตูเข้ามาเสียแล้ว พีรพัฒน์ไม่ได้มีเวลาพอจะนึกขุ่นใจเมื่อพบว่าผู้ที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องเขานั้นก็คือกรรมการบริหารผู้ถือหุ้นเป็นอันดับสองของเอพีกรุ๊ป...อมร วรโชติ

ชายหนุ่มรีบปิดแฟ้มเอกสารก่อนลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวทักทายคนที่อาวุโสสูงกว่าตามมารยาท

“สวัสดีครับคุณอา”
“อ่า สวัสดีๆ” คุณอมรรับไหว้ เดินเข้ามาหาชายหนุ่มถึงโต๊ะทำงาน “ว่างอยู่หรือเปล่า หวังว่าอาคงไม่ได้มารบกวนหรอกนะ”
“ไม่ครับ เชิญคุณอานั่งก่อน” พีรพัฒน์บอก ผายมือให้คุณอมรไปยังชุดโซฟารับแขก แต่หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบสามเลือกหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา

“อาว่าจะมาขอบคุณ แล้วก็ขอโทษแทนยายรัก ที่พักนี้รบกวนพีบ่อยๆ” คุณอมรกล่าว พีรพัฒน์คลี่ยิ้มบางๆขณะหย่อนตัวกลับลงนั่ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาตอบ ตั้งแต่ที่ต้องเข้ามาจัดการเรื่องมรดกของคุณอังกาบ พีรพัฒน์ก็เริ่มชินกับการที่ต้องพบหน้าหทัยรักบ่อยๆแล้ว ด้วยหน้าที่การงานที่เขาต้องรับผิดชอบในเอพีกรุ๊ปนี่ก็อย่างหนึ่งละ

“ยายรักเป็นคนเอาแต่ใจ” เสียงคุณอมรเอ่ย ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ราวคนที่เหนื่อยหน่ายกับชีวิตเสียเต็มประดา “บางทีอาก็คิดนะ ว่าอาน่ะเลี้ยงลูกมาแบบผิดๆหรือเปล่า เห็นเขากำพร้าแม่ตั้งแต่เล็กๆก็สงสาร เลยเอาใจเขา ตามใจเขาสารพัดจนมากเกิน พอมาเกิดเรื่องเมื่อวาน อาเลยไม่รู้จะทำยังไง”

พีรพัฒน์เข้าใจที่คนสูงวัยกว่าพูด แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่เขาก็แน่ใจ จากอาการฟูมฟายเคียดแค้นของสาวสวยคนนั้นที่ระบายกับเขา รวมถึงความปั้นปึ่งที่แสดงตั้งแต่เมื่อคืน กระทั่งการมาขอทานข้าวเช้าที่บ้านสุริยะธาดา หทัยรักคงอาละวาดกับคุณอมรอย่างหนักทีเดียว

“เป็นธรรมดาครับ รักเขารักคุณอา คงไม่อยากให้คุณอาแบ่งความรักให้ใคร”

“แต่สายสุนีย์เขาก็เป็นคนดี ตอนแรกอาก็คิดว่าจะค่อยๆบอก ไม่อยากให้บัวช้ำน้ำขุ่น แต่ไม่นึกว่ายายรักจะเห็นเข้าก่อนจนไปจ้างนักสืบมาสืบเรื่องของอาอย่างนี้”

พีรพัฒน์ไม่ได้เอ่ยอะไร เขาไม่มีความเห็นใดๆกับเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างพ่อลูก แม้หทัยรักจะพยายามลากเขาไปเกี่ยวด้วยการให้เขาลงคำสั่งไล่พนักงานทำความสะอาดที่ชื่อสายสุนีย์ออกก็ตาม

“แต่ยังไงอาต้องขอบใจพีมากนะ ที่เข้าใจและช่วยพูดให้จนยายรักยอมอ่อนลงมาก”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ที่จริงผมเองก็อยากให้รักเขาเป็นคนใจเย็นแล้วก็มีเหตุผลมากขึ้น เพื่อตัวของเขาเองด้วย” พีรพัฒน์บอก ไม่ได้คิดอะไรนอกจากความหวังดีที่มีให้สาวสวยคนนั้น แต่ทว่าจู่ๆคนสูงวัยกว่าก็ยื่นมือมากระชับไหล่เขาไว้อย่างไวด้วยท่าทางของลูกผู้ชาย

“อาดีใจนะที่พีรู้สึกดีๆกับลูกสาวอา ขอบใจมาก!”

กับท่าทีและสายตาเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมอย่างนั้นก็ทำให้พีรพัฒน์พูดอะไรไม่ออก! เพียงเพราะไม่อยากให้คู่สนทนาต้องรู้สึกเสียหน้า ชายหนุ่มจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆกับความเข้าใจไปเองของคุณอมร

“เอาละ หมดธุระแล้ว อาคงไม่รบกวนแล้วล่ะ” ว่าแล้วคุณอมรก็หมุนตัวทำท่าว่าจะออกจากห้องทำงานพีรพัฒน์ แต่จู่ๆหนุ่มใหญ่ก็ชะงัก หันกลับมา

“อ้อ! ไม่สิ ยังไม่หมดนี่นา” เสียงคุณอมรว่า “เพราะจริงๆอายังมีอีกเรื่องที่อยากขอแรงให้พีช่วย!”




และเรื่องที่ว่าคือการให้พีรพัฒน์ช่วยพูดกับหทัยรักอีกสัก...หลายๆครั้ง

เพราะคุณอมรนั้นอยากจะพาหญิงที่ชื่อสายสุนีย์เข้ามาอยู่ในบ้านด้วยในฐานะภรรยา ที่จริงชายหนุ่มลำบากใจมากกับการขอร้องแบบนั้น เพราะนั่นมันเป็นเรื่องของครอบครัว ส่วนตัวเขาเป็นคนนอก ไม่อยากยุ่ง แต่คนสูงวัยกว่าก็ยืนยันหนักหนา

“ไม่มีใครที่ยายรักจะยอมฟังอีกแล้วนอกจากพี”

และนั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เพราะตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้น หทัยรักก็จะขอตามไปบ้านสุริยะธาดาเพื่อทานข้าวเช้าข้าวเย็นกับเขาทุกวันจนพีรพัฒน์ตระหนัก ว่าเขาคงต้องช่วยแก้ปัญหาพ่อลูกไม่ถูกกันให้คนคู่นี้จริงๆ เพราะอย่างนั้น เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สองที่หทัยรักจะต้องเปิดประตูห้องทำงานเขาเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมประโยคอ่อนหวานแบบเดิมว่า

“พีคะ เย็นนี้รักขออนุญาตไปทานอาหารเย็นที่บ้านพีด้วยนะคะ รักยังไม่อยากจะญาติดีกับ”

“รัก” พีรพัฒน์เอ่ยเรียกตั้งแต่หทัยรักยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มหลับตา ตัดสินใจใช้เวลาตั้งสติราวๆหนึ่งวิ ก่อนเอ่ยกับอีกฝ่ายตรงๆว่า “นี่ตั้งหลายวันแล้ว คุณยังไม่ยอมคุยกับคุณอาอมรอีกหรือ?”
หทัยรักคอแข็งขึ้นมาทันที สาวสวยเชิดหน้า

“ทำไมคะ หรือพีก็เริ่มรำคาญรัก เบื่อรัก เกลียดรักแล้วเหมือนกับคุณพ่อน่ะ!” กับคำกล่าวหาที่แสดงให้เห็นวุฒิภาวะของอีกฝ่ายก็ทำให้พีรพัฒน์อดจะผ่อนลมหายใจออกไปไม่ได้

“ผมก็เคยบอกคุณแล้ว ว่าผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย” ชายหนุ่มพูด พยายามจะไม่นึกรำคาญสาวสวยตรงหน้า แต่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเอาการ “ทำไมล่ะรัก วันนั้นคุณยังบอกผมเลยว่าคุณจะใจเย็นลงแล้วลองคุยกับคุณอาอมรใหม่ แต่ทุกวันนี้ผมยังเห็นคุณเอาแต่ปั้นปึ่ง หลบหน้าแล้วก็ไม่ยอมพูดจากับคุณอาอมร”

“พี! นี่คุณพ่อให้พีมากล่อมรักใช่มั้ยคะ?!”

ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ สาวสวยจึงขมวดคิ้วมุ่น

“พีไม่เข้าใจหรอก!” หทัยรักว่า สะบัดตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกอย่างขัดใจ “พีน่ะไม่รู้หรอกว่าคุณพ่อต้องการอะไร คุณพ่อต้องการจะเอานังนั่นเข้ามาเชิดหน้าชูตาอยู่ในบ้านนะคะ รักรับไม่ได้หรอกค่ะ!”

คนฟังพ่นลมหายใจออกมา เรื่องนี้น่ะทำไมเขาจะไม่รู้

“รัก” พีรพัฒน์เอ่ย “ผมอยากให้คุณลองเปิดใจนะ คิดถึงความรู้สึกของพ่อคุณบ้าง แต่ไหนแต่ไร ที่ผ่านมาพ่อคุณรักคุณ ห่วงคุณ ตามใจคุณมากขนาดไหน คุณต้องการอะไรท่านไม่เคยขัด แล้ววันนี้หากมีสักเรื่องที่จะเป็นความสุขของท่าน คุณจะทำเพื่อท่านบ้างไม่ได้หรือ”

“พี!” หทัยรักร้องเสียงสูง ดีดตัวลุกขึ้นมาและจ้องหน้าพีรพัฒน์อย่างผิดหวัง ริมฝีปากเคลือบลิปติกสีกุหลาบถูกเม้มเข้าหากันจนบางเฉียบ

ใช่สิ! ก็เพราะว่าเธอน่ะเป็นทั้งที่รัก เป็นคนๆเดียวที่คุณอมรเคยห่วงใยและตามใจทุกอย่าง แล้วคิดว่าถ้าหากจู่ๆมีนังผู้หญิงที่ไหนไม่รู้โผล่มาดึงความเป็นหนึ่งไป ใครจะทนได้!

ทว่าแววคล้ายๆจะเหมือนเอือมระอาในสายตาของชายหนุ่มก็ทำให้หทัยรักเริ่มจะคิดได้ว่า การโวยวายงี่เง่าเอาแต่ใจ หรือแม้กระทั่งบีบน้ำตา ดูจะไม่ใช่วิธีการเอาชนะคนที่น่าประทับใจนัก!

สาวสวยเชิดหน้าขึ้นมา ไว้ท่าเย่อหยิ่งดุจนางพญาอีกครั้ง

“ก็ได้ค่ะ ถ้าคิดว่านี่จะเป็นความสุขของคุณพ่อ รักยอมก็ได้!”

พีรพัฒน์ได้แต่กะพริบตา หลังจากการยื้อไม่พูดคุยกันมาสองอาทิตย์ บทจะง่ายก็ง่ายกว่าที่คิดเหมือนกัน แต่ทว่าสาวสวยเดินดุ่มๆเข้ามา ตบมือลงบนโต๊ะทำงานพีรพัฒน์ก่อนประกาศตรงหน้าเขาว่า

“แต่วานพีไปบอกคุณพ่อด้วยนะคะ ว่ารักมีข้อแม้ รักจะไม่ยอมให้มันมาถือสิทธิ์ว่าเป็นญาติรัก และรักไม่อนุญาตให้คุณพ่อจัดงานแต่งงานกับมันออกหน้าออกตาเด็ดขาด ตามนี้นะคะ!” ประกาศก้องแล้วสาวสวยก็หมุนตัวจากไป นึกเข่นเขี้ยวในใจ

วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอก ลองให้มันเข้ามาอยู่เถอะ แล้วนังผู้หญิงหน้าไม่อายนั่นจะได้รู้ว่า คนที่จะมาแย่งความเป็นหนึ่งของหทัยรักน่ะจะต้องเจอกับอะไร!



แม้จะประกาศไปว่าจะไม่ยอมให้มีการจัดงานแต่งงานออกหน้าออกตาเด็ดขาด แต่อย่างไรเสียนักธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์อย่างอมร วรโชติก็ไม่ใช่บุคคลไร้ชื่อเสียง เพราะอย่างนั้นด้วยความพยายามอย่างมาก ท้ายสุดคุณอมรก็สามารถอ้อนวอนขอลูกสาวให้ยอมให้เขาจัดงานเล็กๆขึ้นจนได้ และแน่ละ คำว่า ‘เล็ก’ ของหทัยรักนั้นต้องหมายถึง ‘เล็ก’ จริงๆ รวมทั้งข้อห้ามอีกสารพัด

“ห้ามใช้พื้นที่ตึกใหญ่ที่รักอยู่ ห้ามจัดสถานที่ด้วยดอกไม้หรูหรา ห้ามจ้างวงดนตรีบรรเลงในงาน แล้วก็ห้ามจ้างภัตตาคารมาจัดเลี้ยง เข้าใจนะคะ!”

คุณอมรว่าอะไรลูกสาวสุดที่รักไม่ออก นอกจากมาระบายความดื้อดึงเอาแต่ใจของหทัยรักให้พีรพัฒน์ฟัง

“เฮ้อ! อาละกลุ้มจริงๆ” คนพูดบ่น ส่วนคนฟังคำบ่นก็ได้แต่กะริบตา อยากบอกเหมือนกันว่าเขาเองก็กลุ้ม แต่กลุ้มที่ดูเหมือนตัวเองจะถูกลากเข้าไปยุ่งกับปัญหาของครอบครัวนี้มากเข้าทุกทีเสียแล้ว หนนี้พีรพัฒน์จึงสัญญากับตัวเองว่า เขาจะแค่ฟังแล้วยิ้มเฉยๆ จะไม่เอ่ย ไม่พูดอะไรที่อาจชักงานที่ไม่ต้องการเข้าตัวเองเด็ดขาด เพราะลำพังแค่งานที่เป็นงานจริงๆให้ชายหนุ่มทำก็มากพออยู่แล้ว อย่าให้ต้องมาเป็นศิราณีความรักให้คุณอมรหาทางนำภรรยาใหม่เข้าบ้านไปมากกว่านี้เลย

พีรพัฒน์ได้แต่ยิ้ม

“เออ! แต่เรื่องนี้อาคิดหาทางออกไว้แล้วล่ะ อาน่ะ ทำงานมาจนเป็นถึงระดับผู้บริหารแล้ว มิหนำซ้ำยังเป็นพ่อยายรัก ถ้าอาจะหาทางพลิกแพลงเอาชนะลูกสักครั้งไม่ได้ก็คงจะเกินไป!”

คุณอมรทำสีหน้ายิ้มกริ่มอย่างผู้มีชัยก่อนยื่นมือมาคว้าไหล่พีรพัฒน์

“แต่ว่างานนี้น่ะ อาคงต้องขอแรงให้พีช่วยอาอีกสักหน่อยล่ะ!” แล้วคนพูดก็หัวเราะหึๆในคอด้วยทีท่ามาดมั่นขณะที่คนฟังได้แต่หลับตาลง

นี่ขนาดไม่ได้พูดอะไรเลยสักแอ่ะ แต่งานก็เข้าจนได้ ให้ตายเถอะ!


ทว่างานนี้ไม่ได้เข้าแค่พีรพัฒน์คนเดียวเท่านั้น แต่เรียกว่าเข้าทุกคนที่อยู่ในบ้านสุริยะธาดาต่างหาก ทั้งนี้เพราะข้อห้ามของหทัยรักคือห้ามจ้างคนมาจัดงาน คุณอมรจึงหัวใสไม่จ้างใคร เพียงแต่คิดจะให้เด็กๆรับใช้ในบ้านช่วยกันจัด แต่ลำพังแค่เด็กๆในบ้านของตนซึ่งมีอยู่นั้นคงไม่พอ คุณอมรเลยขอแรงพีรพัฒน์ให้คนของบ้านสุริยะธาดามาช่วยด้วย มันดูไม่ใช่เรื่องยากเหลือบากกว่าแรงหากจะไม่คิดเดาไปก่อนว่าหทัยรักจะอาละวาดอะไรบ้างในวันงาน

แต่พีรพัฒน์มีสิทธิ์จะปฏิเสธไม่ช่วยคุณอมรได้หรือในเมื่อฝ่ายนั้นขอเพียงแต่แรงคน!

ชายหนุ่มจึงได้แต่กลับมาพูดตรงๆกับนางบัวศรี นายก้าน รวมถึงเด็กในปกครองเขาด้วย

“บ้านคุณอมรเขาก็มีคนอยู่แค่ไม่กี่คน เพราะอย่างงั้นฉันขอแรงทุกคนให้ช่วยเขาหน่อยก็แล้วกัน”

และเพราะงานเลี้ยงที่บ้านคุณอมรจะมีขึ้นตอนวันเสาร์ วริณสิตาจึงมีเวลามาถามไถ่รายละเอียดจากคนที่คิดว่าน่าจะรู้เรื่องดี แต่การถามหนนี้กลับทำให้วริณสิตาได้รู้จักกับ ‘การนนท์ วรโชติ’ มากยิ่งขึ้น

“อ๋อ เราไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากหรอกจิ๊บ เราไม่ได้อยู่บ้านนั้น”

“อ้าว!” แล้วคำบอกเล่าก็ทำเอาคนถามงงเป็นยกใหญ่ “ก็การนนท์เป็นน้องคุณหทัยรักไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันล่ะ?”

การนนท์ยิ้มกว้าง แอบดีใจอยู่ที่วริณสิตาอยากรู้เรื่องตน

“ก๊อ...มันเป็นอย่างงี้ไง” เด็กหนุ่มขยับเข้ามาใกล้แล้วเริ่มเล่า “คือเรากับพี่รักน่ะเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน พ่อพี่รักเป็นลุงของเรา เราก็เลยไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเขาเพราะบ้านเราจริงๆอยู่ที่ปากช่อง”

“อ้าว เหรอ” วริณสิตาเพิ่งรู้ ตลอดมาเข้าใจไปเสียสนิทว่าการนนท์เป็นน้องชายแท้ๆของหทัยรักเพราะเห็นนามสกุลเดียวกัน อีกทั้งสภาพที่มีรถขับมามหาวิทยาลัยเองอีก ยังบ่อยๆเลยที่สาวน้อยเคยแอบสงสัยตงิดๆอยู่ในใจว่าการนนท์มาเลือกเรียนคณะเกษตรทำไม เพราะทั้งๆที่ถ้าเป็นญาติ แถมร่ำรวยอย่างสาวสวยคนนั้นก็น่าจะต้องเรียนไปเป็นนักบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พันล้านอะไรนั่นแล้วซี แต่นี่...

ก็ราวกับจะจับกระแสความสงสัยในน้ำเสียงของวริณสิตาได้ การนนท์เลยยิ้มอีก

“นี่...จะบอกให้น้า บ้านเราน่ะเป็นไร่เป็นฟาร์ม พ่อแม่เราก็เป็นเกษตรกรนั่นแหละ ทำไร่ทำสวนเหมือนกัน ไม่งั้นเราจะต้องมาเรียนเกษตรอย่างงี้ทำไม”

นั่นสิ! ก็คนทำธุรกิจเกษตร ร่ำรวยมีอันจะกินก็มีแยะไปนี่

“แฮะๆ” วริณสิตายิ้มแหย รู้สึกเปิ่นที่ดันไปคิดว่าคนที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิดจะเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน

“เออ! ว่าแต่ผู้ปกครองจิ๊บ สั่งให้จิ๊บไปช่วยงานที่บ้านลุงอมรเหรอ” การนนท์เปลี่ยนเรื่อง นึกสนใจขึ้นมา

“อือ” คนถูกถามพยักหน้า “คุณพีบอกว่าลำพังแค่คนที่บ้านคุณอมรคงไม่พอน่ะ”

หนุ่มน้อยหัวเราะเบาๆ

“อืม! เราก็ว่า แค่ต้องแบ่งคนไว้รับมือพี่รักตอนอาละวาดก็น่าจะแย่แล้ว” จากประโยคนั้นก็ทำให้รู้ว่าการนนท์เองก็คงรู้จักอุปนิสัยลูกพี่ลูกน้องดีอยู่ไม่ใช่น้อย แต่เรื่องแบบนี้ใช่เรื่องที่ควรแสดงความคิดเห็นเสียที่ไหน แม้วริณสิตาจะนึกเห็นด้วยชนิดหมดใจเลยก็ตาม
...................



ปาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 พ.ค. 2554, 11:27:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ค. 2554, 11:27:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 3417





<< ตอนที่ 22   ตอนที่ 24 >>
Gingfara 3 พ.ค. 2554, 14:30:50 น.
อ๊าย ผู้ปกครองให้ซักวันได้มั้ยคะ


ปูสีน้ำเงิน 3 พ.ค. 2554, 21:27:32 น.
อยากให้ถึงตอนที่เคยอ่านครั้งที่แล้วไวๆ จัง


padeedee 25 พ.ค. 2555, 12:13:36 น.
เฮ้อ....ให้กับพีระพัฒน์


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account