บ่วงร้อยรัก
ชีวิตที่ถูกร้อยรัดไว้ด้วยหนี้บุญคุณและความแค้น หญิงสาวจะทำอย่างไร เมื่อบ่วงรักที่หล่อนเข้าใจ กลับกลายเป็นบ่วงมารที่ฆ่าหล่อนให้ตายทั้งเป็น
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บ่วงร้อยรัก ตอนที่ 8

สวัสดีค่ะ !
มากลางสัปดาห์เลยคราวนี้
ปวดฟันค่ะ ไม่เป็นอันทำอะไรไปตั้งสองวัน จนกระทั่งไปถอน
ตอนนี้ก็ยังไม่หายสนิทดี แฮ่ ๆ ไม่ใช่คำแก้ตัว แต่อยากเล่าให้ฟังค่ะ ^^
ว่างานคืบหน้าช้าเพราะมีเหตุผล ฮา...
---------------------------
คุณหมูอ้วน -- มีปมบางอย่างค่ะ ติดตามด้วยนะคะ
คุณEdelweiss -- คุณสองน่าเห็นใจค่ะ
คุณปอแก้ว -- ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายค่ะ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว
คุณเวียงแก้ว -- อ่านตอนจบก่อนไม่สนุกนะคะ อิอิ

ยินดีน้อมรับทุกคำติชมค่ะ
เป็นมือใหม่แนวดราม่า ช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

----------------------------

ตอนที่ 8

อรรถมองมือตัวเอง....
ก่อนจับดูร่างกายที่เคลื่อนไหวได้อย่างใจนึก ชายหนุ่มเหลียวมองรอบตัว แทนที่จะอยู่ในโรงพยาบาล หรือ นอนหลับอยู่บนเตียงนอนในห้องที่ถูกจัดไว้ในกุลชาติพร้อมเครื่องช่วยหายใจ เขากลับยืนอยู่กลางสวนผลไม้ริมคลองกว้าง ข้างหน้าคือต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบบ้านเรือนไทยที่ครั้งหนึ่งเขาและนวลอนงค์เคยนึกอิจฉาในความโอ่อ่าร่ำรวยของผู้เป็นเพื่อนสนิท การเติบโตมาจากความยากลำบากสอนให้อรรถทะเยอทะยานขวนขวาย ยิ่งมีนวลอนงค์คอยเป็นแรงผลักดันให้อยากมีอยากได้ อรรถก็ยิ่งเอื้อมมือคว้าโดยไม่สนใจวิธีการ

แต่คนธรรมดาที่เติบโตมาอย่างจนตรอก อดมื้อกินมื้อ การได้รับโอกาสให้สานต่ออาชีพเล็ก ๆ ในโรงงานเครื่องแก้วถือเป็นจุดพลิกผันครั้งยิ่งใหญ่ ที่แม้แต่นวลอนงค์ก็ไม่รู้ว่า ต้องใช้ความพยายามแค่ไหนในการได้ครอบครองโรงงานที่ไร้ผู้สืบต่อ กว่าจะบีบบังคับให้ ‘ ตาแก่ยายแก่ ’ ที่เขาเฝ้ากรอกยากล่อมประสาทให้กินทีละน้อย ยอมเซ็นยกมรดกทุกอย่างให้ในลมหายใจเฮือกสุดท้าย อรรถต้องแลกกับความกลัวจับใจเพียงเพราะต้องการให้ครอบครัวได้ ‘ มี ’ ในสิ่งที่ ‘ ไม่เคยมี ’

ชายหนุ่มก้มมองสองเท้าเปลือยเปล่าบนผืนหญ้าเย็นชุ่ม ค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าเหมือนเด็กชายเพิ่งหัดเดิน แต่พอรู้ว่าสองเท้าที่เหยียบยืนมั่นคง เขาก็เริ่มเดินไปยังบ้านเรือนไทยหลังใหญ่คล้ายมีแรงดึงดูด ท่ามกลางความมืดของคืนเดือนดับ ชายหนุ่มเห็นเงาตะคุ่มอยู่ใต้เรือน ร่างนั้นวิ่งวนไปรอบบริเวณด้วยท่าทีร้อนรน ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นน้ำมันฉุนกึก อรรถตัวเย็นวาบเมื่อรับรู้ด้วยสัญชาติญาณ วางเพลิง...เผาบ้าน ไม่ผิดไปจากนี้แน่

“ เฮ้ย ! จะทำอะไรน่ะ ”

อรรถตะโกนก้อง เมื่อแสงไฟในมืออีกฝ่ายวาบขึ้น ร่างสูงวิ่งเข้าหา ก่อนจะตกตะลึงเมื่อใบหน้าที่แหงนเงยขึ้นมองตามเสียงเรียก แสยะยิ้มเข้าใส่ พร้อมไม้ขีดไฟก้านเล็กที่ร่วงลงสู่พื้น แสงสว่างที่วาบขึ้นจุดความทรงจำต่าง ๆ ให้ไหลเวียนดุจกระแสน้ำเชี่ยวกราก อรรถเองที่เป็นคนวางเพลิงเรือนหลังใหญ่แห่งนี้ ‘ อติราช ’ ที่เขาเคยอิจฉา เพื่อนสนิท...ที่กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต สิ้นชื่ออยู่ใต้กองเพลิงในคืนเดือนมืด ลบล้างหนี้สินทั้งหมดที่เขาหยิบยืม รวมถึงหลักฐานอันแสดงว่าเขาเป็นคนวางยาเจ้าของโรงงานผลิตแก้วผู้มีบุญคุณภายในวินาทีที่แสงไฟลุกโชน !

เหตุการณ์ทุกอย่างย้อนกลับมา ดวงหน้าขาวเหี้ยมเกรียมขึ้น เมื่อนึกถึงเหตุผลที่ทำให้เขามายืนอยู่ที่นี่ ความแค้นที่ว่าอีกฝ่าย จงใจต้อนเขาให้จนตรอกจนต้องลุกขึ้นสู้ บีบบังคับให้อรรถต้องลงมือทำทุกอย่างทั้งที่ไม่อยากทำ เมื่อเพื่อนที่เขาเห็นว่าไม่มีแม้พิษภัยใด ๆ พยายามรื้อฟื้นคดีที่จบไปแล้วมา ทำหน้าที่เรียกร้องความยุติธรรมให้กับสองตายายที่มีบุญคุณกับเขาและอีกฝ่ายท่วมท้น ทำให้อรรถต้องคิดหาวิธีทำทุกอย่างเพื่อกลบเกลื่อน ‘ ความผิด ’ ที่ตัวเองก่อไว้ อรรถเริ่มต้นทำทุกอย่าง โดยไม่บอกแม้กระทั่งนวลอนงค์ผู้หญิงที่เขารักมากจนพร้อมจะปกป้องหล่อนด้วยชีวิต ครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้นของเขาจะต้องอยู่เย็นเป็นสุข โดยไม่มีรอยด่างพร้อยใดๆ เข้ามาแปดเปื้อน

ชายหนุ่มใช้สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนสนิท แกล้งเดินทางมาเยี่ยมระหว่างท่องเที่ยว อาศัยความไว้วางใจจาก อนภ ผู้เป็นเพื่อนและรุ้งระวีเหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมองหล่อนฉันท์คนรัก อรรถดึงนวลอนงค์และลูกมาเป็นฉากบังหน้า อำพรางทุกอย่างให้อยู่ในแผนที่วางไว้ ใช้เวลาทั้งวันกับการนำเที่ยวทั่วจังหวัดของอีกฝ่ายก่อนจบลงที่มื้อค่ำแล้วแกล้งทำเป็นแยกย้ายกลับโรงแรม ก่อนจะใช้ช่วงเวลาที่วางใจว่าทุกคนคงหลับสนิทดีแล้ว จัดการกับหลักฐานที่ อนภ เคยออกปากว่าได้มาไว้ในมือ

หลักฐานที่...สามารถบ่งชี้ถึงการตายอันผิดปกติของสองสามีภรรยาโรงงานผลิตเครื่องแก้ว เอกสารกู้ยืมนับสิบฉบับที่มีลายเซ็นอรรถประทับไว้ อนภจะได้ฉบับใดมาก็สร้างความหวาดระแวงให้ชายหนุ่มได้ทั้งนั้น เพราะสายตาของอนภที่มองเขาเหมือนคนที่ลังเลตัดสินใจไม่ได้ แค่เท่านั้นอรรถก็ทนไม่ไหว ตีความเข้าใจเอาว่าอีกฝ่ายคงรอเวลาให้เขาสารภาพความจริงทั้งหมด

อรรถที่ก้าวมาไกลเกินกว่าจะหันกลับหลังไขกุยแจที่ปิดอยู่ด้วยมืออันสั่นเทา ชายหนุ่มไม่อาจปล่อยเรื่องทั้งหมดให้คุโชนขึ้นอีกครั้งได้ เขาต้องดับควันไฟ เพื่อยั้งเปลวไฟ อาศัยจังหวะที่ อนภ ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นจับงานด้านการสื่อสาร ไม่มีแม้แต่เวลาจะเฉลียวใจ ทำทุกอย่างตามแผนที่วางไว้

ความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องทำให้อรรถต้องระมัดระวังเสียงฝีเท้า แสงจันทร์ที่ส่องสว่างแค่ทางเดินรอบตัวเรือนปรากฏเป็นเงาตะคุ่มเหมือนยักษ์ร้าย ในความเงียบสงัด อรรถได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวเร็วยามแตะปืนตรงปลายเอว ถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีเขาจะพ้นมลทินทั้งหมดที่ถูกสงสัย แต่ถ้าพลาดพลั้งไป แม้จะก่อเกิดบาปอันใหญ่หลวงอรรถก็จำเป็นต้องปกป้องตัวเองและครอบครัว ขอแค่อย่ามีใครตื่นขึ้นมาพบเขาในยามวิกาล ขอเพียงทุกอย่างนิ่งสงบอยู่ใต้เงื้อมเงาของพระจันทร์แค่เท่านั้น อรรถคงปลดเปลื้องความรู้สึกผิดบาปทั้งหมดในใจลงได้

ไฟฉายในมือถูกสาดส่อง ร่างสูง ล่ำสันด้วยกล้ามเนื้อ บุกตรงไปยังห้องที่เขารู้ดีว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านแทบจะกินอยู่หลับนอนในนั้น ชายหนุ่มเริ่มต้นค้นหาเอกสารจากตู้ใบแรก ท่ามกลางแสงจากถ่านไฟฉายกระบอกเล็ก อรรถหาหลักฐานอย่างร้อนรน ยานอนหลับที่วางไว้ให้ รุ้งระวีและเด็กชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจของอนภ คงทำให้ทุกอย่างราบรื่น หากยังไม่ทันพบสิ่งที่ต้องการ เสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจพร้อมไฟที่เปิดสว่างก็ทำให้อรรถสะดุ้งวาบ เหลียวกลับไปมองร่างเล็กบางที่กำลังจ้องมองมาอยู่ก่อนแล้วความรู้สึกเหมือนโลกกำลังถล่มทลายลงตรงหน้า

“ อรรถ ? ”

รุ้งระวีเรียกแขกที่ไม่ได้รับเชิญยามวิกาลด้วยน้ำเสียงแปลกใจ หญิงสาวพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่น่าจะนอนแล้วปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า

“ รุ้ง ! ทำไมรุ้งไม่หลับ ? ”

“ หมายความว่ายังไงที่รุ้งไม่หลับ แล้วอรรถกำลังทำอะไรอยู่ ? ”

รุ้งระวีขมวดคิ้วจริงจัง หญิงสาวพยายามทำใจดีสู้เสือ ในขณะที่ อรรถหน้าซีดลงตามลำดับ เขาใส่ยานอนหลับให้สองแม่ลูก รุ้งระวี และ ฆนาคม เด็กชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจของ อนภ และภรรยา ในอาหารมื้อเย็ที่จัดเลี้ยงอย่างเรียบง่ายโดยผู้เป็นเจ้าของบ้าน อรรถสบถอยู่ในลำคอ เมื่อทุกอย่างคลาดเคลื่อนต่างจากที่คิดไว้ เขาไม่อยากใจร้าย ไม่อยากทำร้ายใคร ชายหนุ่มพยายามทำทุกอย่างให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดแก่ทั้งสองฝ่าย หากการที่รุ้งระวีตื่นขึ้นมาเจอ อาจทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผน

“ เมื่อกี้นภโทร. มาหา ขอให้ผมหาเอกสารให้ เขาจำเป็นต้องใช้ด่วน ”

“ แล้วทำไมนภไม่โทร. บอกรุ้งล่ะอรรถ ? ”

รุ้งระวีหรี่ตามอง ท่าทางแปลกใจระคนสงสัย อรรถเลยถือโอกาสแก้ตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า

“ มันโทรศัพท์เข้าบ้านหลายครั้ง แต่ไม่มีใครได้ยิน เลยโทร.หาผม ผมบอกว่ารุ้งหลับไปแล้ว มันเลยวานให้ช่วย ”

หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าคลายออก ท่าทางหล่อนไม่ติดใจสงสัยสิ่งใดอีก รุ้งระวียิ้มให้ชายหนุ่ม เอ่ยอย่างเกรงใจว่า

“ ส่วนใหญ่นภเก็บเอกสารที่ต้องใช้ไว้บนโต๊ะนั่นแหละ รุ้งก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง อรรถลองหาดูนะ หรือจะให้รุ้งช่วย ? ”

“ ไม่เป็นไร นภบอกผมไว้แล้วว่าอยู่ตรงไหน รุ้งเข้านอนเถอะ เดี๋ยวเจ้าฝนตื่นจะแย่เอา ”

รุ้งระวีทำตามอย่างว่าง่าย หญิงสาวเดินกลับไปยังทางเดินเก่า โดยมีอรรถยืนส่ง หากพอร่างบางลับสายตาจากอรรถ หญิงสาวก็วิ่งเร็ว ๆ ไปยังประตูบานเล็กอันเป็นห้องนอนของบุตรชาย ปลุกคนที่ยังนอนหลับสนิทจนผิดปกติให้ลืมตาตื่น เด็กชายวัยห้าขวบมองผู้เป็นมารดาอย่างงุนงง ไม่วายถามตามประสาเด็กว่า

“ แม่...ฮะ ฝนง่วง...แม่ปลุกฝนจะไปไหนเหรอฮะ ? ”

ดวงตาคมเข้ม ภายใต้ขนยาวเป็นแพหนา กระพริบปริบ ต่ำลงมาใต้ตาคือไฝเม็ดเล็กที่ขับให้ดวงหน้าสะอาดเข้มดูโดดเด่น เด็กชาย ฆนาคม จับมือมารดาไว้ทั้งที่ง่วงงุน รุ้งระวีกอดลูกชายแน่น กระซิบแผ่วว่า

“ ฝน ฝนวิ่งไปบ้านอาปลื้มนะลูก ไปนะลูก ”

คำตอบรับที่ไดมีเพียงลมหายใจแผ่ว รุ้งระวีพยายามปลุกเรียกลูกชายแต่จนแล้วจนรอด คนอ่อนวัยกว่าก็ได้แต่อือออรับไม่รู้เรื่อง หญิงสาวเลยตักสินใจใหม่ หยิกมือลงบนแขนเล็กทั้งที่ใจเจ็บหนึบไม่แพ้กัน

“ เราจะเล่นซ่อนแอบกันนะลูก เดี๋ยวฝนหาที่ซ่อนในห้องนี้นะ”

“ ตอนนี้เหรอฮะ”

“ ตอนนี้จ้ะ”

“ กับแม่แค่สองคนเหรอฮะ ” คนที่กลัวว่าไม่สนุกเปิดปากหาวหวอด

“ ไม่จ้ะ มีคุณลุงอรรถด้วย ฝนต้องระวังอย่าให้คุณลุงอรรถรู้ว่าฝนอยู่ที่ไหนนะ ”

รุ้งระวีเน้นชื่อเพื่อนสนิทเป็นพิเศษ ฆนาคมจะรู้หรือไม่ว่าหล่อนหมายถึงอะไร รุ้งระวสีไม่สนใจ เพียงแต่ว่าเด็กชายต้องจำไว้ว่าควรห่างจากอรรถ

“ กับคุณลุงอรรถด้วยเหรอฮะ ”

“ จ้ะ ใช่จ้ะ ”

รุ้งระวีหยิบหุ่นยนต์ตัวใหญ่ให้เด็กชายถือ หญิงสาวพยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด เสียดายก็แต่ว่าเครื่องมือสื่อสารสำคัญอย่างโทรศัพท์อยู่ในห้องทำงานของอนภผู้เป็นสามี และอรรถวนเวียนอยู่ในนั้นเพื่อหาอะไรก็ตามแต่ที่รุ้งระวีเชื่อสุดใจว่าคงเป็นสิ่งสำคัญ เสียดาย...หล่อนติดต่อใครไม่ได้ โทรศัพท์เครื่องเดียวที่มีติดอยู่ในห้องทำงานของอนภ ร้องเรียกใครก็ไม่ได้ คนงานต่างมีบ้านพักของตัวเองอยู่ไกลออกไปจาก ละแวกรั้ว ไม่มีทางได้ยินเสียงร้องเรียกของหล่อนแน่

รุ้งระวีคิดหาทางออก คิดทุก ๆ ทาง ๆ เท่าที่จะคิดได้ ในเมื่อหล่อนยังคิดถึงครอบครัวคนรอบข้าง แล้วมีหรือที่อรรถจะไม่คิดถึงครอบครัวของตน นวลอนงค์จะทำอย่างไรถ้ารู้ว่าสามีที่หล่อนรักและเทิดทูนด้วยใจกำลังทำเรื่องไม่ดี ตรีนนท์และตรีประดับจะผิดหวังแค่ไหน ที่เห็นบิดากระทำเรื่องเลวร้าย ความห่วงกังวลและปรารถนาดี ‘ หวัง ’ ว่าอีกฝ่ายจะกลับใจเสียใหม่ทำให้รุ้งระวีตัดสินใจเผชิญหน้า หล่อนต้องเกลี้ยกล่อมให้อรรถวางมือจากทุกอย่างเพื่ออนาคตครอบครัวของอีกฝ่ายเอง อย่างน้อย...ก็น่าจะเห็นแก่สายสัมพันธ์ที่โยงใยมาจากอดีต เพื่อนที่สาบานจะร่วมเป็นร่วมตายกันไปตลอดชีวิต

“ ฝนง่วง ”

“ นะฝน เล่นเป็นเพื่อนแม่หน่อย แม่นอนไม่หลับ ”

“ งั้นฝนซ่อนในตู้ ”

“ จ้ะ อยู่ในนั้นนะลูก ได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามเปิดนะ ”

เด็กชายวัยห้าขวบพยักหน้าหงึกหงัก พยายามกระตุ้นให้ตัวเองกระตือรือร้นด้วยรอยยิ้ม ร่างเล็กผลุบหายเข้าไปในใต้เตียงแต่แล้วก็เปลี่ยนที่ใหม่ ขณะที่รุ้งระวีก้าวออกจากห้อง สีหน้าเคร่งเครียด ในมือหญิงสาวมีอุปกรณ์ป้องกันตัวที่หาได้ง่ายที่สุดคือแจกันใส่ดอกไม้ใบใหญ่ ร่างบางก้าวเข้าไปยังห้องที่เปิดไฟสว่าง เอ่ยกับคนที่หันหลังอยู่ด้วย

“ หยุดเถอะอรรถ ไม่มีประโยชน์ที่อรรถจะทำแบบนี้นะ ”

คนถูกเรียกหันหลังกลับมา ชายหนุ่มมองกระถางต้นไม้ในมือก่อนเลื่อนสายตาจับยังร่างเล็กบางที่พร้อมสู้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ยุ่งยาก...ยุ่งยากฉิบหาย !

“ ทำไมรุ้งยังไม่นอนอีก แล้วถือแจกันดอกไม้มาทำไมละนั่น ”

เสียงทุ้มเอ่ยอย่างใจเย็น รู้แล้วละว่ารุ้งระวีจับได้ถึงคำปดที่เขาสร้างขึ้น แต่อรรถไม่ต้องการที่จะทำให้ทุกอย่างบานปลาย และถ้าเลือกได้เขาอยากให้ทุกอย่างจบลงโดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อมากกว่า

“ ถ้าอรรถยังไม่หยุด ‘ หา ’ อะไรที่อรรถต้องการ รุ้งจะขว้างจริง ๆ ด้วย ”

“ ผมหาเอกสารตามที่เจ้านภมันบอกอยู่นะรุ้ง และถ้ารุ้งรู้ว่าอยู่ที่ไหน รุ้งควรรีบมาหยิบ ”

อรรถทิ้งท้ายกระตือรือร้นเปิดทางให้รุ้งระวีเข้าใกล้ หากหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูยังมองอย่างไม่ไว้วางใจ

“ อรรถมีอะไร ทำไมไม่คุยกันดี ๆ โกหกทำไม ”

“ ผมโกหกอะไรเหรอรุ้ง ” อรรถหัวเราะเยียบเย็น กุญแจที่สู้อุตส่าห์แอบปั๊มเก็บไว้ใช้ในยามคับขันไม่มีประโยชน์เลย

“ อรรถขึ้นมาบนเรือนใหญ่ มีกุญแจบ้านที่รุ้งกับนภไม่เคยให้ใคร และนภไม่ได้โทรศัพท์มาที่นี่ ที่สำคัญรุ้งไม่ได้หลับเพราะยานอนหลับของอรรถ ”

“ รุ้ง ! ”

อรรถทำเสียงตกใจ ชายหนุ่มมองร่างบางที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยแววตาคาดไม่ถึง รุ้งระวีล่วงรู้ทุกอย่างที่เขาปิดบังแถมยังเดาเรื่องราวได้อย่างถูกต้อง

“ รุ้งไม่รู้ว่าอรรถต้องการอะไร แต่ทำไมเราไม่คุยกันดี ๆ ถ้าอรรถไม่เห็นแก่นภ เห็นแก่รุ้งที่เป็นเพื่อนกันมาเป็นสิบปี ก็ให้เห็นแก่ครอบครัวและลูกของอรรถที่อยู่โรงแรม คิดถึงพวกเค้าไว้มาก ๆ อย่าทำอะไรที่จะทำให้พวกเค้าผิดหวังเลยนะอรรถ ”

หญิงสาวเกลี้ยกล่อม พยายามทำให้เห็นว่าหล่อนพร้อมจะให้อภัยเสมอถ้าอีกฝ่ายหยุดการกระทำของตัวเองได้

“ ผม...” คนถูกจับได้ทิ้งมือลงข้างตัว ร่างสูงเซผงะไปด้านหลังอย่างคนที่หมดสิ้นแล้วทุกอย่างในชีวิต “ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะรุ้ง ไม่รู้อะไรมันดลใจให้ผมทำอย่างนี้ ”

“ อรรถมีปัญหาอะไร ถ้ารุ้งกับนภช่วยได้ เราสองคนยินดีช่วย หรือว่าเป็นเรื่องเงินกับสัญญากู้ยืมที่อรรถทำไว้ รุ้งช่วยบอกนภได้นะ เราผ่อนผันกันได้ ”

“ ขอบคุณรุ้งมาก แต่สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่เรื่องเงิน รุ้งคงไม่รู้ เจ้านภมันสงสัยว่าผมวางยาฆ่าตาจั่นกับยายแจ่ม สองคนนั้นเป็นผู้มีบุญคุณของผมนะ ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ”

อรรถพูดเสียงซึม ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยน้ำตาให้รินไหลด้วยความอัดอั้น รุ้งระวีลดแจกันในมือลง หญิงสาวมองอีกฝ่ายอย่างค้นหาให้แน่ใจ และเมื่อสบดวงตาคู่หวานที่ฉายรอยแห่งความจริงใจ รุ้งระวีก็ใจอ่อน หล่อนรู้จักอรรถมาเป็นสิบปีเท่า ๆ อนภ ผู้เป็นสามี คบหากันมาในฐานะเพื่อนสนิทที่ไม่ถือแม้ชนชั้น แถมครั้งหนึ่งอรรถยังเคยสารภาพรักฝากฝังหัวใจไว้กับหล่อน แม้รุ้งระวีจะไม่เลือกชายหนุ่มแถมยังกังวลอยู่ตลอดว่าได้ทำร้ายจิตใจคนที่ดีที่สุด แต่วันงานที่อีกฝ่ายแสดงความยินดีและปฏิบัติตัวเป็นเพื่อนที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้รุ้งระวีไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะเลวร้ายโดยเนื้อแท้ ถ้าให้โอกาส...อรรถคงยอมก้าวกลับไปยังเส้นทางสว่างไสวตามเดิม

“ แล้วทำไมอรรถไม่คุยกับนภ การที่อรรถทำแบบนี้อาจยิ่งทำให้นภไม่เชื่อใจนะ ”

“ ถ้านภมันเชื่อใจผม มันคงไม่ระแวงสงสัยผมหรอกรุ้ง ผมเลยอยากเห็นหลักฐานที่มันว่า ผมร้อนใจทนไม่ไหว เลยถือวิสาสะบุกรุกขึ้นบ้านรุ้ง ”

“ รุ้งจะคุยกับนภให้ วันนี้อรรถกลับโรงแรมก่อนดีไหม แล้วพรุ่งนี้เราจะคุยกัน ”

อรรถไม่ตอบ แต่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี รุ้งระวียิ้มให้อีกฝ่าย ทั้งที่ในใจเต้นตึกตัก ที่ผ่านมา หล่อนคงหวาดระแวงไปเอง เพราะชายหนุ่มที่เดินนำไปข้างหน้าไม่มีทีท่าจะหันกลับมาทำร้ายใด ๆ อรรถมีท่าทีสำนึกผิดมากกว่าที่หล่อนคิดด้วยซ้ำไป

“ รุ้ง...รุ้งยังระแวงผมอยู่เหรอ ”

คนเดินนำที่หันมาก่อนลงบันไดมองแจกันที่รุ้งระวีกอดอยู่ด้วยแววตาหม่นซึม รุ้งระวีที่เห็นอย่างนั้นเลยรีบเดินไปวางแจกันแอบไว้มุมหนึ่งของห้อง หากตอนที่หล่อนหันกลับมา ร่างทั้งร่างก็ถูกกระชากจนล้มลงไปกระแทกกับพื้น หญิงสาวจุกจนพูดไม่ออก ก่อนเจ็บเมื่อมือแข็งแรงของอรรถเลื่อนมาบีบที่คอ กดหล่อนที่นอนอยู่ให้หายใจไม่ออก

“ อะ...อรรถ ! ”

รุ้งระวีพยายามเปล่งเสียงเรียก สองมือไขว่คว้าหยิกข่วนเพื่ออิสระ คนถูกเรียกยิ้มเหี้ยม มองอาการดิ้นรนของอดีตคนที่เขา ‘ เคยรัก ’ ด้วยแววตาเย็นชา

“ เพราะเห็นแก่มันน่ะสิ ผมถึงตั้งใจจะปล่อยรุ้งไป วางยาให้รุ้งหลับดีๆ แต่คุณดิ้นรนเองนะรุ้ง ดิ้นรนตื่นขึ้นมารับรู้เอง ”

รุ้งระวีดิ้นรนสุดชีวิต แต่อรรถไม่เปิดโอกาสให้หล่อนถอยหนี อรรถดึงร่างบางที่ตะเกียกตะกายถอยตัวออกห่างดึงกลับมา ชายหนุ่มที่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายหญิงสาวแต่ความกลัวทำให้ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ รุ้งระวีอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างก่อนค่อย ๆ แน่นิ่งไป
อรรถปล่อยมือจากร่างเล็กบาง ร่างสูงผละถอยหลังไปอย่างตื่นกลัว ชายหนุ่มพยายามเขย่าตัวหญิงสาวให้ตื่น แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความเงียบที่แฝงความเย็นเยียบในหัวใจ รุ้งระวีตายแล้ว ตายแล้วเพราะฝีมือของเขาเอง !

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเคว้ง หยาดน้ำตาซึมชื้นออกมาจากปลายหางตา เขาควรจะทำอย่างไรต่อไป หนี ! หรือว่ายอมรับผิดในสิ่งที่ก่อไว้

หากแล้วคนยืนอยู่ก็ได้สติ ดวงตาหม่นซึมฉายแสงกล้าขึ้น ชายหนุ่มวิ่งตรงไปยังห้องทำงานที่คนเป็นเพื่อนแทบจะกินอยู่หลับนอนในนั้น ลงมือค้นหาหลักฐานที่ อนภเปรยไว้แต่เขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน หากจนแล้วจนรอดไม่ว่าจะกี่ห้องต่อกี่ห้อง กี่ตู้ กี่ชั้นที่ล็อคไว้กลับไม่พบแม้สิ่งใดที่บ่งบอกว่า สิ่งที่อนภเอ่ยบอกเป็นเรื่องจริง คิดถึงตรงนี้...อรรถก็เฉลียวใจ ไม่แน่ว่าคนเป็นเพื่อนอาจเก็บไว้ใกล้ตัวหรือไม่ก็ในที่ที่ไม่มีใครคาดถึง ร่างสูงก้าวกลับไปทางเดิม ชะงักเล็กน้อยที่เห็นร่างของรุ้งระวีไม่ไหวติง ร่างสูงก้มตัวลงอุ้มร่างเล็กบางของอดีตคนที่เขาคิดว่าจะรักไปตลอดตรงเข้าไปยังห้องนอนที่ปิดเงียบ วางลงบนที่นอนนุ่มจัดแจงทำให้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายหลับสนิทอยู่ไม่เคยลุกออกไปไหน ชายหนุ่มปาดน้ำตาออกจากใบหน้ามองหญิงสาวอย่างขออโหสิกรรมทั้งหมด เมื่อทุกอย่างมันพลั้งพลาดจนไม่อาจหวนคืนได้เขาก็ต้องก้าวต่อไป ครอบครัวที่รอคอยอยู่เบื้องหลังต่างหากที่สำคัญเป็นแรงผลักให้อรรถสามารถเดินได้มั่นคง ในเส้นทาง...ที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว

ห้องนอนเล็กสว่างด้วยโคมไฟหัวเตียง อรรถไม่เห็นบุตรชายของรุ้งระวีบนเตียงแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไปไหนได้ไกล คนก้าวเข้ามามองสำรวจรอบห้อง ไม่มีเวลาให้คิดค้นหา อนภน่าจะเก็บเอกสารสำคัญไว้ในห้องนอนของบุตรชาย ไม่น่าจะมีที่อื่นใดให้ซุกซ่อนได้ดีไปกว่าที่นี่อีกแล้ว อรรถค้นหาทุกซอกตารางนิ้ว จนหยุดอยู่ที่ตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มเปิดประตูออกเพื่อพบว่าร่างเล็กของเด็กชายหลับสนิทอยู่ในนั้น เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาที่เคลื่อนผ่าน ทำให้อรรถต้องปิดประตูตู้กลับคืน ยานอนหลับยังคงออกฤทธิ์ของมันได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าเพียงแต่เขาจะพบสิ่งที่ต้องการอย่างที่หมายใจไว้ อะไร ๆ คงดีกว่านี้ อนภอาจเอาหลักฐานติดตัวไปด้วย แต่อีกฝ่ายต้องเสียใจที่ทำเช่นนั้น เพราะอรรถจำเป็นต้องอำพรางเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เขาลงมือทำลงไปโดยโทสะด้วยการเผาทำลายทิ้ง ชายหนุ่มก้าวลงบันไดด้วยฝีเท้ามั่นคงแน่วแน่ ทุกอย่างจะต้องหายไปในเปลวเพลิง รุ้งระวีกับลูกต้องตายเพราะอุบัติเหตุ...เพื่อให้เขากลายเป็นผู้บริสุทธิ์ !

***

รุ้งระวีผวาเฮือก...

หญิงสาวรู้สึกเจ็บบริเวณรอบลำคอจนต้องใช้มือคลำ อาการสูดหายใจเหมือนโหยหา เรียกความทรงจำของหญิงสาวให้คืนกลับมา อรรถทำร้ายหล่อนด้วยการบีบคอจนคิดว่าต้องตายแน่ ๆ หากรุ้งระวีก็ยังรอด หญิงสาวหันมองรอบตัวควันไฟที่คุโชนขึ้นจนหนาทึบ พาหญิงสาวก้าวลงจากเตียง หากอาการร้าวระบมและร่างกายที่ไม่เป็นไปอย่างใจคิดทำให้หญิงสาวล้มกระแทกพื้น กระนั้น รุ้งระวียังพยายามคืบคลานไปตามทาง ส่งเสียงเรียกหาเด็กชายตัวน้อยด้วยใจห่วง

“ ฝน ! ฝน ! ”

นอกจากม่านเพลิงที่กางกั้น หญิงสาวมองไม่เห็นสิ่งอื่นใดอีก ห้องทั้งห้องร้อนด้วยเปลวไฟที่ลามลุกอย่างรวดเร็ว หญิงสาวเกาะขอบประตูทรงตัวลุกขึ้นเพื่อนพยุงตัวเองตรงไปยังห้องนอนเล็กของเด็กชาย ร้องเรียกหาคนอ่อนวัยกว่าพร้อมหยาดน้ำตาที่พรั่งพรู

“ ฝน ! ฝน ! ฝนลูกแม่ ”

ประตูตู้บานเล็กถูกเปิดออก ร่างเล็กโงนเงนกลิ้งออกมา รุ้งระวีอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมอก คนอ่อนวัยกว่ายังหลับสนิทหายใจสม่ำเสมอ หญิงสาวเหลียวหาทางออก พยายามตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือจากหน้าต่างที่ติดลูกกรงเหล็กดัดท่ามกลางกลุ่มควันที่ทำให้แสบตาและสำลักไอ

“ ช่วยด้วย ! ช่วยด้วย ! ”

“ แม่ฮะ...ฝนร้อน ” เด็กชายที่รู้สึกตัวตื่นเพราะควันไฟแสบตางัวเงียบอก รุ้งระวีกกอด ร่างเล็กไว้แนบอก ปลอบว่า

“ ไม่ต้องกลัวนะฝน แม่จะพาฝนออกไปให้ได้ ”

“ แม่ฮะ...ฝนง่วงจัง ”

พูดได้เท่านั้น เด็กชายก็ซบหน้าแน่นิ่ง ฤทธิ์ของยานอนหลับให้ผลของมันอย่างเที่ยงตรง รุ้งระวีพยายามฝ่าเปลวเพลิงเพื่อออกจากห้อง หากความร้อนแรงทำให้หญิงสาวต้องเบี่ยงตัวเองออกห่าง สุดท้าย แทนที่จะหนีพ้น รุ้งระวีกลับติดอยู่ในห้องนอนเล็กไปไหนไม่ได้

“ ฝน...แม่ขอโทษนะฝน ”

หญิงสาวร้องไห้แทบขาดใจ พยายามควบคุมตัวเองให้หยุดสะอื้นไห้ด้วยการใช้ความคิดทั้งหมดเร่งหาวิธีเอาตัวรอด มือบางที่ขมุกขมัวด้วยฝุ่นควันคว้าผ้าห่มมาห่อตัวเด็กชายไว้ พร้อมใช้น้ำจากแจกันหัวเตียงเท่าที่มีพรมจนชุ่ม ก่อนจะกระตุกตัวกอดร่างเล็กไว้แน่นเมื่อจังหวะที่กำลังพรมน้ำ ไม้จากหลังคาร่วงลงมาเพราะเปลวไฟลามถึง หญิงสาวใช้ตัวบังร่างเล็กไว้อย่างปกป้องหวงแหน ตัวแทนของหล่อนและอนภ ‘ อติราช ’ ที่ต้องมีชีวิตรอด

รุ้งระวีกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พยายามปัดไม้ที่ล้มใส่ให้พ้นตัว หญิงสาวเขย่าปลุกคนอ่อนวัยกว่าที่หลับสนิทให้รู้สึกตัว

“ ฝน ! ตื่นลูก ฝน ! ”

คนที่ตื่นขึ้นมาเพราะแรงปลุกและความร้อนร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ เด็กชายกอดคอมารดาที่คลานตัวเองไปยังพื้นไม้ใกล้หน้าต่างแน่น ขณะที่รุ้งระวีหายใจแผ่วรอคอยความตายด้วยความหวังว่าในวินาทีใดวินาทีหนึ่งข้างหน้านั้น อนภ จะกลับมาเพื่อช่วยหล่อนและลูกได้ทัน หรือถ้าหล่อนต้องตายคนที่อยู่ในอ้อมกอดก็ต้องรอด รอดออกไปให้ได้ รุ้งระวีจะปกป้องอีกฝ่ายด้วยชีวิต ส่วน อรรถ นั้น หล่อนขอสาปแช่งให้ ‘ กุลชาติ ’ พบแต่ความวิปโยคโศกศัลย์ พินาศฉิบหาย อย่างที่ทำกับครอบครัวหล่อนไว้ อรรถจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้ เป็นบ่วงรอยรัดไม่ให้อีกฝ่ายมีชีวิตที่จนกว่าจะตายจากกัน !

***

ฆนาคมสะดุ้งตื่นจากความฝัน ชายหนุ่มผุดลุกจากที่นอนซึ่งปูหยาบ ๆ ด้วยเสื่อผืนบาง ดวงหน้าคร้าม แววตาวาววับเป็นประกายคม มองดูแสงจันทร์เจิดจ้าที่ทอลอดผ่านหน้าต่าง นานเท่าไหร่แล้ว...ที่เขาไม่ได้ฝันร้าย ฝันถึง ‘ อติราช ’ ในอดีต อาจเป็นเพราะ กุลชาติได้รับข่าวดี อรรถฟื้นจากเจ้าชายนิทรา ทุกคนกระตือรือร้นออกไปเยี่ยมด้วยความหวัง บ้านหลังใหย่กำลังกลับมาพร้อมเสียงหัวเราะ โดยเฉพาะเจ้าของบ้านสาว ลูกสาวคนเดียวที่อรรถรักอย่าง มิ่งโมรี หญิงสาวที่ดำเนินรอยตามผู้เป็นบิดาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหมิ่นที่ข้างฝา เสือกที่นอนไปอีกทางเพราะเกะกะ มือเรียวเอื้อมหยิบกระจกบานเล็กที่ซ่อนเก็บไว้เพื่อใช้ ‘ เตรียมตัว ’ ขึ้นส่อง ชายหนุ่มใช้มือข้างหนึ่งลูบคลำหนวดเคราที่รกครึ้มเต็มใบหน้า ดึงถุงพลาสติกที่แขวนไว้เหนือศีรษะที่คนอื่นมองเห็นว่าเป็นเศษขยะที่ไม่น่าสนใจลงมาค้นหยุกหยิก ภายในเต็มไปด้วยหนวดเคราปลอมสำหรับสลับเปลี่ยนและวิกผมหยิกยาวที่ตัดแต่งขึ้นเป็นพิเศษ ทุกชิ้นที่ทำขึ้นเนียนสนิทด้วยฝีมือช่างที่ถูกว่าจ้างมาโดยเฉพาะ ฆนาคมเลือกหยิบมาชิ้นหนึ่งเพื่อเติมลงบนใบหน้า ขยับตัวซ้ายขวาเพื่อดูความเรียกร้อย ก่อนนึกถึงคำพูดของประณีตที่เคยถามว่าทำไมเขาถึงไม่คิดโกนหนวดเครารกรุงรังออกเหมือนเช่นชายหนุ่มผู้รักสะอาดคนอื่น ๆ ฆนาคมในตอนนั้นให้เหตุผลง่าย ๆ ถึงใบหน้าอันอัปลักษณ์เพราะบาดแผลจากไฟไหม้ ชายหนุ่มตั้งใจโกหกโดยไม่หวังสักนิดว่าเด็กสาวจะเชื่อ กระนั้น ก็ยังทำให้คนอ่อนวัยกว่าเลิกเซ้าซี้ไม่กล้าถาม ฆนาคมก็พอใจที่จะให้เป็นเช่นนั้น เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มจำต้องละสายตาจากการสำรวจใบหน้า เครื่องมือสื่อสารบางเฉียบรุ่นใหม่ทันสมัยถูกกดรับ ภาพหน้าจอที่ตั้งไว้ฉายภาพของตรีประดับและตัวเขาในห้องแต่งตัวของสถานีโทรทัศน์ที่ชายถือครองหุ้นส่วนอยู่เกินครึ่ง

...กับพี่สาวของมิ่งโมรี ฆนาคมวางหล่อนไว้สูงสุดด้วยความเห็นใจ ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ไม่มีสักครั้งที่ชายหนุ่มจะเห็นหญิงสาวในรูปถ่ายมีความสุข ทั้งที่คนที่สมควรทนทุกข์ น่าจะเป็นมิ่งโมรี มากกว่าใคร

“ ว่าไง ? ”

“ ฟื้นแล้วครับ ตื่นขึ้นมาจริง ๆ คุณตรีประดับก็มาแล้ว คุณฝนจะให้ผมทำยังไงต่อครับ ”

“ คนเลวไม่ตายง่าย ๆ จริง ๆ ด้วย นายไม่ต้องทำยังไง แค่เฝ้าดูไว้ก็พอ ”

“ คุณมิ่งโมรีกำลังจะกลับบ้าน ” คนปลายสายรายงานราบเรียบ ฆนาคมรู้สึกเหมือนคนพูดน่าจะเป็นญาติห่าง ๆ ของ คุณละออง แม่บ้านเก่าของกุลชาติด้วยซ้ำ

“ ก็กลับมาสิ ทำไม คิดว่าฉันจะกังวลกับเรื่องแค่นี้เหรอ ”

“ ผมรู้ว่าคุณฝนไม่กังวล แต่ผมเป็นห่วง นายหญิงเองไม่อยากให้คุณฝนลงมือทำอะไร ”

“ ไม่ทำอะไรเลยต่างหากที่น่าห่วง บอกแม่นะ ว่าฉันไม่ฆ่าให้ตายหรอก แต่จะทำให้ตกนรกทั้งเป็น คงสบายไปหน่อยถ้าฉันปล่อยให้ตาย ต้องมีชีวิตอยู่สิ อยู่เหมือนตายทั้งเป็นอย่างนี้ สะใจกว่า ”

ชายหนุ่มกรอกเสียงลงอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่คนคอยสืบข่าวให้เอ่ยเสียงขรึมมาตามสาย

“ ผมยังยืนยันคำเดิม ว่าไม่เห็นด้วย เราสามารถสร้างหลักฐาน...”

“ อย่าพูดถึงหลักฐาน ” ฆนาคมเอ่ยทันควัน ดวงหน้าคร้ามกระด้างขึ้น “ เพราะมันไม่มีหลักฐาน จะเอาอะไรกับความทรงจำของคนบ้า นายรู้ดีฉันมันบ้า ประวัติการรักษาฉันมี ดีเท่าไหร่ที่ไม่มีข้อหาฆ่าคนตายเพิ่มลงไปด้วย ”

“ คุณฝน คุณไม่ได้บ้า ” คนปลายสายเอ่ยอ่อนโยน แต่กลับถูกชายหนุ่มเยาะหยันกลับมา

“ ใช่ ! ไม่ได้บ้า ก็แค่ป่วยเป็น PSTD ต้องเป็นคนไข้ให้หมอรักษาอยู่นานเกือบปี ”

คนที่พยายามชี้แจงเลยได้แต่ถอนหายใจเอ่ยตอบมาตามสายว่า

“ นักสืบของเรา ที่คุณฝนจ้างให้เปลี่ยนแปลงประวัติของคุณ ที่ทำงานให้กับทนายของคุณมิ่งโมรี ให้ข้อมูลว่าตอนนี้คุณมิ่งโมรีกำลังขอให้ช่วยสืบประวัติคุณเทียนสรวง ”

“ สืบทำไม ? ”

“ คุณฝนน่าจะรู้ว่าสืบทำไม ”

“ นายนี่มัน...” ฆนาคมเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยว เมื่อเจอคนปลายสายย้อนกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ ชายหนุ่มถอนหายใจไม่สบอารมณ์ จำใจถามเสียงขุ่นว่า “ แล้วได้อะไรไหม ? ”

“ ตอนนี้ยังไม่ได้ แต่เราได้รูปหลานชายของเจ้าสัวธนามาแล้ว ”

“ ใช่หรือเปล่า ? ”

“ ผมไม่แน่ใจ ถ้าจะให้บอกว่าใช่ก็คงต้องบอกว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปมาก เค้าโครงยังมีอยู่แต่ประวัติส่วนตัวหายหมด มันแปลกเกินไป แต่ถ้าให้บอกว่าไม่ใช่ ก็พูดได้อีกเหมือนกันว่าไม่ใช่ เพราะเทียนสรวงในตอนนี้กับในอดีต ทั้งสภาพแวดล้อมที่อยู่ การกระทำ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ”

“ สำหรับฉัน เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ ก็อาจเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นอยากเล่นด้วย จะเป็นตายร้ายดียังไงฉันไม่สน ที่ฉันสนคือเกมที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะเริ่มเล่นต่างหาก ”

“ คุณฝนไม่สืบต่อ... ”

“ รู้แล้วมีประโยชน์อะไร ฉันเอ็นดูตรีประดับในฐานะที่เขาตกเป็นรองมากกว่า เห็นใจแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ”

“ แต่คุณฝนปฏิบัติตรงกันข้าม อย่างน้อยก็ลำเอียงล่ะ ทั้งที่เป็นลูกสาวนายอรรถเหมือนกัน กุลชาติเต็มตัวมากกว่าด้วยซ้ำ ” คนปลายสายกรอกเสียงเย็น ๆ มาอย่างทักท้วง คนฟังเลยยิ้มหยันก่อนตอบ

“ นายพูดแปลก คนดีกับคนเลว จะให้ฉันปฏิบัติเหมือนกันได้ยังไง แล้วอีกอย่าง ฉันวัดความแค้นจากความรักลูกของหมอนั่น รักมากก็ควรให้เจ็บมาก ”

ฆนาคมเอ่ยเสียงเหี้ยม หยิบซองจดหมายที่เขาบรรจงเขียนแค่คำว่า ‘ อติราช ’ ส่งให้กับคนที่อยู่ในกุลชาติทุกเดือนจากกระเป๋าเสื้อผ้าที่ขยุกเป็นหมอน อดีต กับ ปัจจุบัน อยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือถึง หากต่อแต่นี้คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้ว เพราะมิ่งโมรีคงทนไม่ได้ที่จะถูกแย่งความรักเฉกเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต หญิงสาวที่มัวหมองเพราะความริษยาคงหาวิธีกำจัดตรีประดับให้พ้นทางในเร็ววัน เทียนสรวงคงเป็นเหยื่อชิ้นแรกที่จะถูกดึงเข้ามาในเกมที่หล่อนวางไว้

“ แล้วจะทำยังไงกับคุณตรีประดับ คุณฝนเล่นก่อเรื่องใหญ่ ”

“ กำลังจะก่อ พูดให้ถูก ”

“ กำลังจะก่อ ก็ไม่หมายถึงทำแน่ ”

คนปลายสายประชดกลับ อาการเคืองขุ่นที่ตีโต้ไม่ได้ ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของฆนาคมในคราบคนสวนหนุ่มดีขึ้นจนพอที่จะหยอกล้อกลับคืนบ้าง

“ ไม่คล้ายสิ เกิดก่อนเกิดหลัง นายนี้ต้องให้ย้ำบอก ”

“ งั้นผมขอแค่ความมั่นใจ ”

“ นายกลับไปบอกแม่ฉันนะ ตรีประดับจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จากความดีที่ทำ กุลชาติที่เหลือจะอยู่รอดได้เพราะผู้หญิงคนนี้ ฉันให้ความมั่นใจเท่านี้พอไหม ? ”

คนปลายสายไม่ตอบสิ่งใด นอกจากสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกตัดไป ฆนาคมมองซองจดหมายในมือด้วยแววตาชาเฉย การฟื้นคืนของอรรถเท่ากับเป็นตัวเร่งสัญญาณให้ทุกอย่างเริ่มต้นเร็วขึ้น ไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องอาศัยบ่วงเล่ห์ใด ๆ การปลอมตัวเพื่อรอเวลาทวงคืนทุกอย่างของเขาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว ใบหน้าคร้ามเปิดรอยยิ้มเยือกเย็น

เพื่อนรัก...อดีตคนเคยรัก... ครอบครัวที่รัก... และลูกรัก... อรรถรักสิ่งไหน เขาก็จะรักด้วย...และจะรักให้มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า !

***
โปรดติดตามตอนต่อไป...



บุรีวาด
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 พ.ค. 2555, 16:34:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 พ.ค. 2555, 16:36:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 1514





<< บ่วงร้อยรัก ตอนที่ 7   บ่วงร้อยรัก ตอนที่ 9 >>
Edelweiss 31 พ.ค. 2555, 23:43:03 น.
ชอบใจที่นายอุ่นฉลาดค่ะ ส่วนอรรถนี่เลวร้ายมาก ทำไมแต่ก่อนรักลูกเมีย แต่ตอนนี้กลับรักมิ่งโมรีเหลือเกินนะ


siita 1 มิ.ย. 2555, 22:36:14 น.
รอๆๆๆ อยากรู้ๆๆๆค่ะ


zilvermoon 18 มิ.ย. 2555, 11:34:01 น.
นายอรรถต้องการให้มิ่งรับเคราะห์แทนลูกเมียป่าวเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account