เพลงลิขิตบันดาลชักพา
เพลงรัก...สาวอวบที่เพิ่งอกหักเพราะรักเก่ากำลังหมั้นหมายกับคนอื่น โดนหลานสาวตัวดีหลอกให้มาเที่ยวปารีสเป็นเพื่อน แต่พอมาถึงเธอกลับต้องเล่นเรียลลิตี้เป็นคู่ฮันนีมูนของนักร้องดังซะงั้น งานนี้สาวอวบขึ้นคานจะทำอย่างไร..... ในเมื่อรักเก่าก็กลับมาทำให้หัวใจหวั่นไหว แต่ความรักครั้งใหม่ก็กำลังเริ่มต้น
Tags: รัก,ท่องเที่ยว,ฝรั่งเศส

ตอน: บทที่ 29

โต๊ะที่น่านฟ้าได้จองไว้ คือตำแหน่งที่ดีที่สุด และราคาแพงที่สุด สำหรับสมาชิกทัวร์ที่พิเศษสุดของเขา

หลังผ่านทางเดินที่สองข้างประดับภาพนางโชว์ไว้ในกรอบกระจก สู่ล็อบบี้ที่ติดโคมระย้าขนาดมหึมาส่งประกายระยิบระยับ ไกด์หนุ่มก็พาเข้าด้านใน ไปยังโต๊ะที่อยู่ตรงกลาง ตัวแรก ติดพื้นกว้างที่เป็นเวที

ขณะที่เพลงรักทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งฝ้ายตามการชี้นำของลูกแก้ว คู่ฮันนีมูนกำมะลอของเธอที่ถูกกันให้อยู่ห่าง ก็เดินมาทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม เธอได้แต่ก้มมองมือที่ประสานไว้บนตัก เพราะไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร ซึ่งแทนกวีก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นกัน จึงมีแต่เพียงความเงียบที่น่าอึดอัดนานหลายนาที โดยมีสายตาของเหล่าสมาชิกที่เหลือคอยมองลุ้นอยู่บนโต๊ะตัวยาวที่อยู่ถัดเข้ามา

แต่ลุ้นที่ว่านี้ก็ไม่เหมือนกันหรอกนะ ต่างคนต่างลุ้นด้วยความรู้สึกคนละแบบ ลูกแก้วลุ้นให้ทั้งคู่คุยกันเพื่อจะได้มีงานไปออกอากาศ ส่วนพิมพลอย อันนา นิยมการลุ้นให้ไม่เกิดเหตุการณ์ช็อควงการเหมือนเมื่อตอนบ่ายอีก ทางฝ่ายคีตภัคก็ลุ้นว่าเพลงรักจะตัดสินใจกับเรื่องหัวใจอย่างไร ดาราฉายก็ลุ้นไม่ให้ชายหนุ่มร่างสูงข้างกายทำอะไรที่ทำร้ายชื่อเสียงและความรู้สึกเธอเหมือนที่ผ่านมา โดยมีพลพรรคที่ลุ้นแบบไม่รู้ตัวว่าขอให้นักร้องหนุ่มรู้ใจตัวเองเสียที ขณะที่น่านฟ้าและโต้งก็ลุ้น... ขอให้งานจบไวๆ จะได้หมดเรื่องยุ่งยากเสียที

เกือบครึ่งชั่วโมงที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างนั้น ก่อนที่อาหารเรียกน้ำย่อยถูกนำมาวาง ถ้วยแก้วใบเล็กที่มีตับห่านเนื้อละเอียดวางอยู่ชั้นล่าง ราดด้วยน้ำซอสจากเห็ดทรัฟเฟิลรสเข้มข้น พร้อมด้วยขนมปังแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้าสำหรับจิ้ม ก็ไม่อาจทำให้คนชอบกินและคนชอบดูคนอื่นกิน รู้สึกผ่อนคลายคงได้เลย

ลูกแก้วมองภาพที่นักแสดงของเธอหมางเมินต่อกัน หากเป็นอย่างนี้ต่อไปคนดูคงคิดว่าเป็นรายการใบ้ ดังนั้นเมื่อวงดนตรีที่มาขับกล่อมบทเพลงระหว่างมื้ออาหารได้เริ่มต้นบรรเลง โดยมีชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งออกมาเต้นรำคลอเสียงหวานของนักร้องสาวที่ยืนอยู่บนพื้นกว้างใกล้ๆ ครีเอทีฟของรายการก็นึกอะไรออก เธอรีบเดินมาบอกแทนกวีทันที

“แทน... นายเต้นรำกับคุณเพลงสักเพลงสิ”

“เต้นรำ?” แทนกวีทวนคำ ในจังหวะที่เพลงรักเงยหน้าขึ้นมาสบตาพอดี เขาชะงัก มองดูหญิงสาวตรงหน้า ขนาดหัวใจของเขายังเต้นผิดจังหวะ แล้วตัวเขาจะเต้นรำให้เข้าจังหวะได้ยังไง “ไม่ล่ะ เต้นไม่เป็น”

คำปฏิเสธของเขาทำให้หญิงสาวได้แต่ผิดหวัง ตั้งแต่คำว่ารักออกจากปาก เธอก็ไม่มีโอกาสได้คุยกับเขา หนทางใกล้ชิดเดียวที่ลูกแก้วยื่นมา เขาก็ไม่คว้าไว้ อย่างนี้แปลว่าอะไร

“งั้นก็ได้” ครีเอทีฟสาวยอมรับง่ายดายเกินคาด แทนกวีที่คิดว่าอีกฝ่ายจะคะยั้นคะยออีกสักหน่อยจึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง ทันได้เห็นสาวร่างเล็กก้าวฉับๆ ไปหาไกด์หนุ่ม ที่นั่งอยู่ปลายสุดของอีกโต๊ะที่อยู่ติดกัน “คุณน่านคะ รบกวนคุณน่านเต้นรำกับคุณเพลงทีนะคะ ไม่ต้องเต้นเป๊ะมากก็ได้ เอาแค่โยกๆ ไปตามเพลงก็พอ... อย่างนี้โอเคไหมคะคุณคีย์”

“เอาสิ” โปรดิวเซอร์หนุ่มที่นั่งติดกับคู่หมั้นพยักหน้าอนุญาต สีหน้าเรียบเฉยของเขา ทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาตระหนักถึงแผนการในใจของครีเอทีฟสาวหรือไม่

“เชิญค่ะคุณน่าน พี่โต้ง...เดี๋ยวเก็บภาพตั้งแต่ตอนที่คุณน่านเดินไปเลยนะ โอเค... ถ้าพร้อมแล้วก็...เริ่มได้” ลูกแก้วสั่งยาวเป็นชุด ก่อนน่านฟ้าที่ไม่มีท่าทีอิดออดเหมือนสองครั้งที่ผ่านมายามขอให้เข้าฉากรายการด้วยกัน จะลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวร่างอวบที่นั่งอยู่หน้าสุด แล้วโค้งขอเธอเต้นรำด้วยความเต็มใจ
เพลงรักมองมือที่ยื่นมาให้อย่างลังเล อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปยังคนที่นั่งตรงข้าม แต่เมื่อเห็นเขายังคงนิ่ง เธอก็ตัดสินใจวางมือลงบนมืออีกฝ่าย เดินตามฝ่ายนั้นไป ท่ามกลางสายตาที่ลอบมองอย่างหงุดหงิดของนักร้องหนุ่ม

แทนกวีมองตามทั้งคู่ที่ยืนเคียงข้างกาย คราวนี้หัวใจของเขาดังก้องจนทำให้หูอื้อ ตาพร่า แต่กระนั้นเขาก็เห็นไกด์หนุ่มกระซิบบางอย่างกับหญิงสาว ก่อนที่ทั้งคู่จะคลอเคลียกันไปไปตามเสียงเพลงอ่อนหวาน เป็นความใกล้ชิดเพียงไม่กี่วินาทีแต่เขากลับรู้สึกว่ามันแสนเนิ่นนาน และในที่สุด... เขาก็ทนต่อไปไม่ไหว
ชายหนุ่มร่างสูงผุดลุกขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่กลางฟลอร์อย่างรวดเร็ว

“ผมขอคู่ของผมคืน” เขาเอ่ยเสียงห้วน ท่ามกลางความประหลาดใจของเพลงรักที่เพิ่งหันมาเห็น ขณะที่น่านฟ้ายิ้มกริ่ม ไม่ยอมปล่อยมือ

“รอให้จบเพลงก่อนสิครับ”

“รอไม่ได้หรอกครับ เพราะเพลงนี้...เป็นของผม” นักร้องหนุ่มว่า ก่อนคว้าร่างอวบของหญิงสาวที่กำลังยืนงงมาประจันหน้ากับตัวเอง เพลงรักเงยหน้ามองด้วยความประหลาดใจ ขณะไกด์หนุ่มยกมือยอมแพ้ ก่อนล่าถอยไปพร้อมรอยยิ้มที่ไม่มีใครเห็น

“ไหนบอกว่าเต้นรำไม่เป็น” เพลงรักเอ่ย พยายามถอยเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา แต่มือของชายหนุ่มที่โอบเอวเธออยู่กลับดึงร่างอวบของเธอเข้าไปใกล้กว่าเก่า พร้อมดวงตาหวานที่สบลึกลงมา ความแนบชิดที่สัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจ ส่งผลให้เสียงหัวใจทั้งสองดวงดังกึกก้องกลบทุกสรรพเสียงรอบกาย

วินาทีนั้นเหมือนทั้งโลกมีเพียงเขาและเธอ ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่ท่วมล้นในหัวใจ ก่อนที่นักร้องสาวบนฟลอร์จะเอื้อนเอ่ยเพลงบทใหม่ ที่ดังเข้าไปในใจของคนทั้งคู่

‘If I got down on my knees And I pleaded it with you…If I cross a million oceans just to be with you
Would you ever let me down?
If I climb the highest mountain just to hold you tight… If I said that I would love you every single night
Would you ever let me down?
Will I’m sorry, If it sounds kind of sad, just that worried, so worried that you’d let me down
Because I love you, love you, love you… love you
So don’t let me down’

ถ้าฉันคุกเข่าเพื่ออ้อนวอนเธอ ถ้าฉันข้ามล้านมหาสมุทรเพื่อมาอยู่เคียงข้างเธอ ถ้าฉันปีนป่ายยอดเขาที่สูดที่สุดเพื่อโอบกอดเธอ และถ้าฉันจะบอกรักเธอทุกๆ ค่ำคืน...

เธอจะทำให้ฉันผิดหวังไหม

ฉันอาจเป็นกังวลมากเกินไป ฉันกังวลว่าเธอจะทำให้ฉันผิดหวัง เพราะฉันรักเธอ รักเธอ รักเธอ และรักเธอ ดังนั้น... อย่าทำให้ฉันผิดหวังเลยนะ

ความหมายบทเพลง Because I love you ของ Shakin Stevens ที่ถูกขับร้องใหม่อีกครั้ง ช่างตรงกับความรู้สึกที่อยู่ในใจของเพลงรักตอนนี้เสียเหลือเกิน

“แทนกวี...เธอคิดยังไงกับฉันกันแน่” หญิงสาวถามออกไปอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะรอฟังคำตอบด้วยใจระทึก ได้โปรด...อย่าทำให้เธอผิดหวังอีกเลยนะ
แล้วชายหนุ่มช่างพูดก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร ทั้งที่หัวใจคล้ายจะระเบิดออกมา

“ผมไม่รู้ว่ะป้า ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเพิ่งเจอกัน รู้จักกัน แล้วเราจะรักกันได้ยังไง ป้าชอบผมตรงไหน แล้วผมชอบป้าตรงไหน แค่สี่วันเองนะ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ คนอย่างผมเนี่ยนะจะรักป้า แล้วป้าเนี่ยนะ จะชอบคนอย่างผมจริงๆ ผมไม่เข้าใจ… ป้าให้เวลาผมหน่อยเถอะ”

เพลงรักมองหน้าเขา ไม่เชิงผิดหวัง แต่รู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก เขาขอเวลาจากเธอ นั่นหมายความว่าเธอต้อง ‘รอ’ อีกแล้วใช่ไหม

“ฉันเคยรอคำตอบจากผู้ชายคนหนึ่งมา 5 ปี แล้วตอนนี้ฉันต้องรออีกนานแค่ไหน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือชั่วชีวิตของเธอ อายุขนาดฉัน ฉันไม่อยากรอแล้วนะ ถ้าเธอไม่ชอบฉัน ก็ควรจะบอกฉันตรงๆ ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลา แต่ถ้าเธออยากยื้อฉันไว้เรื่อยๆ เพราะการยอมรับความรู้สึกตัวเองมันยากนักละก็ ฉันจะช่วยทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นดีไหม ผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเอง ก็คงไม่จริงใจต่อหัวใจคนอื่นเหมือนกัน... ที่ฉันเคยบอกว่าชอบเธอ ฉันขอถอนคำพูด...สบายใจหรือยังล่ะ”

สิ้นเสียง เธอก็สะบัดหนี แต่แทนกวีก็ไวกว่าด้วยการ กางมือออกมากั้นเอาไว้ ก่อนรวบเธอเข้าไปใกล้อีกครั้ง ชั่ววินาทีที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว ชายหนุ่มก็โน้มหน้าลงมา ประกบริมฝีปากหนักของตัวเองกับริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ลมหายใจของเธอตกเป็นของเขา...เนิ่นนาน กว่าที่นักร้องหนุ่มจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ แววตาของเขาที่จ้องมาคราวนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ถึงป้าจะถอนคำพูดได้ แต่ป้าก็เปลี่ยนความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ป้าเลิกชอบผมไม่ได้หรอก”

เพลงรักได้แต่มองเขาด้วยความตกใจ เธอยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากของตัวเองด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว ขณะที่เขาเอ่ยต่อ พร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาคู่เล็กของเธอ

“ที่ผมขอเวลา เพราะอยากให้เราได้ลองคบกัน ให้มันมากกว่าเวลาสามสี่วันที่เราอยู่ที่นี่ เราควรได้เรียนรู้กันโดยไม่ต้องมีคำว่าการแสดงมาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น..ผมจะไม่ยอมให้ป้าเลิกขอบผมเด็ดขาด!!!.”

----------------------------------------------------------------------------

เพลงรักรู้สึกมึนงงเหมือนบทเพลงที่เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ท่วงทำนองแสนเศร้าจากคีย์ไมเนอร์กำลังบรรเลง อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนเป็นเสียงดนตรีสดใสจากคีย์เมเจอร์เสียอย่างนั้น ใครจะไปตั้งตัวได้ทัน เธอจึงรีบวิ่งหนีจากฟลอร์เต้นรำออกมาสูดอากาศหายใจในห้องน้ำด้านนอก เพื่อปรับจังหวะหัวใจให้เต้นช้าลง

หญิงสาวก้มหน้าลงกับอ่างล่างมือสีขาว อยากสาดน้ำคลายความร้อนผ่าวบนใบหน้า แต่ก็เกรงว่าเครื่องสำอางที่แต่งแต้มไว้จะเลือนหาย เมื่อกี้...แทนกวีขอคบกับเธอ เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เธอเลยได้แต่หลับตาเพื่อไล่ความตื่นเต้นออกไป แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อแรงหนึ่งเหนี่ยวร่างเธอให้เงยขึ้นอย่างสุดกำลัง

“นี่!!! ยายน้าอ้วนอืดหมูตอนสามชั้น น้ามายั่วพี่แทนของหนูทำไม คนอย่างน้าไม่มีทางเป็นแฟนพี่แทนได้ น้าไม่คู่ควรกับพี่แทน รู้ตัวไว้ซะด้วย” เสียงต่อว่ารวดเร็วจากเด็กสาวหน้าตาบูดบึ้ง พร้อมนิ้วที่ชี้ใส่หน้าเธอในกระจกอย่างไม่เกรงใจ ทำให้เพลงรักชะงัก ก่อนสูดลมหายใจแล้วหันกลับไปตอบเสียงเย็น

“ฉันรู้ตัวดีว่าฉันเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่ หนูเองก็ควรรู้ตัวด้วยเหมือนว่าเป็นใคร กำลังทำอะไร แล้วเหมาะสมหรือไม่ การมายืนชี้หน้าด่าทอคนอื่นไม่ใช่มารยาทที่ดีเลย หนูรู้จักไหม คำว่าสัมมาคารวะ สัมมาแปลว่าที่ดี ที่ชอบ ที่ควร ส่วนคารวะ หมายความความเคารพ ต่อให้หนูไม่ชอบฉัน แต่หนูก็ควรมีความเคารพที่ดี เพราะการแสดงออกที่ดีมันก็จะแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของจิตใจ ฉันไม่ได้ว่านะ แล้วหนูจะเกลียดฉันต่อไปก็ได้ แต่ฉันอยากให้หนูมองไปยังอนาคต ตอนที่หนูโตขึ้น แล้วเด็กรุ่นใหม่ๆ มายืนด่า ยืนต่อว่ากันอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ หนูคิดว่าสังคมมันจะน่าอยู่ไหม หนูอยากใช้ชีวิตแบบนั้นเหรอ”

“นี่!!! นี่น้าพูดพล่ามอะไรมากมายเนี่ย ไม่รู้เรื่อง คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาสั่งสอนหนู ตัวเองน่าเกลียดกว่าอีก ไปอ่อย ไปยั่วให้พี่แทนจุ๊บๆ กับน้า โอ๊ย...หนูไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีผู้หญิงแบบนี้อยู่ในโลก” อันนาที่ตามออกมาจัดการกับผู้หญิงตัวอ้วนที่เธอแสนเกลียดเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว ในเมื่อคนอื่นมัวแต่แข็งทื่อเป็นหุ่นยามเห็นฉากจูบดูดดื่มระหว่างพี่แทนกับยายน้าอ้วนอืดนี่ ก็เห็นทีว่าเธอจะต้องออกโรงตามแผนที่พ่อบอกไว้

คราวนี้เพลงรักพยักหน้า หลังยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว “เรื่องนั้นฉันไม่เถียง เมื่อกี้...มันไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ว่าฉันก็ควบคุมอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากความรู้สึก ไม่ได้ไตร่ตรอง ไม่ได้ผ่านสมอง ฉันต้องขอโทษที่ทำให้หนูเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีไป”

“โอ๊ย ตัวอย่างที่ไม่ดีอะไร นี่มันพฤติกรรมที่แย่ที่สุดเลยต่างหาก น้ากล้าทำไปได้ยังไง ไม่รู้หรือไงว่าแค่นี้คนก็เกลียดน้ากันทั้งประเทศแล้ว คอยดูนะ ถ้าคนอื่นรู้ว่าน้าจุ๊บกับพี่แทน น้าตายแน่”

“เกลียดทั้งประเทศ!?! หนูหมายถึงอะไร” เพลงรักเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ เด็กสาวยิ้มเหยียดก่อนหยิบสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวกับพิมพลอย มาเปิดรูปที่เตรียมไว้ ก่อนยื่นใส่หน้าอีกฝ่าย

“ความจริงหนูก็ไม่อยากเอามาให้น้าดูหรอกนะ แต่ดูเหมือนน้าจะไม่สำนึกเสียทีว่าตัวเองเป็นที่น่ารังเกียจขนาดไหน เอ้า!!! ดูซะ ว่าไม่ใช่แค่หนูที่ไม่ชอบน้า แต่คนเกือบ...กี่พันคนนั่นน่ะ ก็เกลียดน้าเหมือนกัน”

หญิงสาวร่างอวบรับมาดูด้วยความสงสัย แล้วเมื่อสายตาเลื่อนไล่ไปตามตัวอักษรในหน้ากระทู้จากเวบไซต์ดังที่เปิดไว้ ความตกใจก็จู่โจมทันที

ภาพด้านบนคือรูปถ่ายตอนที่เธอและแทนกวีอยู่ด้วนกัน ซึ่งมีไม่กี่ภาพเท่านั้น แต่ความสนิทสนมที่เห็นมันทำให้มีข้อความแสดงความคิดเข้ามาอย่างถล่มทลาย
‘นี่เหรอคนที่ได้เล่นเป็นคนรักของพี่แทนในรายการใหม่ อี๋...เลือกมาได้ไงไม่ดูหน้าตาเลย’

‘นางนี่มันเป็นใคร ญาติฝ่ายไหนของผีเสื้อสมุทรเหรอ สงสารพี่แทนจริงๆ’

‘สงสารผีเสื้อสมุทรด้วย ยังสวยกว่านางนี่เลย สงสัยพี่แทนกำลังมีเคราะห์ ถ่ายติดวิญญาณทุกรูปเลยเนี่ย’

‘ฉันขอสาปส่งค่ายแกรนด์ มิวสิค มาทำร้ายพี่แทนของฉันอย่างนี้ได้ยังไง ห่วยแตกที่สุดในสามโลก จะไม่ดูรายการเด็ดขาด’

ถ้อยคำร้ายกาจทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเพลงรักอ่านต่อไม่ไหว รู้สึกชาวูบตั้งแต่ชาไล่มาจนถึงใบหน้า มือทั้งสองไร้เรี่ยวแรง อันนารีบคว้าโทรศัพท์กลับคืนได้ทันก่อนที่มันจะร่วงลงพื้น รอยยิ้มสะใจปรากฏบนใบหน้าของเด็กสาว ขณะที่เพลงรักพยายามสูดลมหายใจเพื่อควบคุมสติตัวเอง

“เธอเป็นคนทำเหรอ” หญิงสาวถามออกไปด้วยเสียงสั่น ทั้งที่ยากลำบากเหลือเกิน แต่เธอก็ฝืนทำเป็นเข้มแข็งที่สุดยามเอ่ยต่อ “รู้ไหม... ว่ารายการนี้มีกฎ ห้ามนำรูป วิดีโอ เสียงที่ถ่ายทำกันไปเผยแพร่ ถ้าฝ่าฝืนจะโดนปรับห้าล้านบาท แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ พี่คีย์ก็คงจะหาวิธีอื่นลงโทษเธอเอง...ไป ไปกับฉัน ไปให้พี่คีย์ตัดสินเรื่องนี้กัน”

เพลงรักยื่นมือจะไปจับตัวอีกฝ่าย แต่อันนาก็รีบเบี่ยงหลบ

“ไม่...ไม่ใช่ หนูไม่ได้เป็นคนทำนะ” เด็กสาวร้องเสียงหลง ตอนที่บิดาส่งข่าวนี้มาให้พร้อมบอกวิธีจัดการกับมารหัวใจ ก็ไม่ได้เตือนไว้ว่าจะเจอแบบนี้ “หนู... หนูก็แค่เห็น... เพื่อนมันส่งมาให้ ก็เพื่อนมันรู้ใช่ไหมว่าหนูมากับพี่แทน พอมันเห็นข่าว มันก็เลยส่งมาให้ดู มาถามว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง แค่นั้นเอง หนูไม่ได้ทำสักหน่อย ความจริงหนูก็ไม่ได้กะจะให้น้าดู แต่ช่วยไม่ได้ น้าอยากมายุ่งกับพี่แทนทำไมล่ะ” โกหกคำแรกได้ คำต่อมาก็ลื่นไหล อันนาจึงกล่าวด้วยความมั่นใจ ก่อนตบท้ายด้วยการโยนความผิดทุกอย่างให้อีกฝ่าย

“แล้วถ้าเธอไม่ได้ทำ แล้วทำไมมันถึงมีรูปพวกนี้ในข่าว”

“ก็...โอ๊ย...แล้วหนูจะไปรู้ได้ยังไง รูปพวกนี้หนูไม่ใช่คนถ่ายซะหน่อย ดูดีๆ สิ รูปที่เล่นเปียโนกับตอนอยู่บนเรือนี่หนูยังมาไม่ถึงเลยนะ ถ้าน้าจะสงสัยก็สงสัยคนที่ถ่ายรูปพวกนี้ดีกว่า”

“แล้วใครถ่าย!?!”

“หนูจะไปรู้เหรอ โอ๊ย อุตส่าห์บอกด้วยความหวังดีจะได้เจียมตัว ดันมาหาว่าเราเป็นคนทำซะนี่ ไม่เอาด้วยแล้ว” ว่าเสร็จอันนาก็สะบัดหน้าหนี เพราะกลัวโดนซักฟอกมากไปกว่านี้ เพลงรักวิ่งตามเพราะต้องการคาดคั้นให้รู้ชัด แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อทางเดินกลับไปโต๊ะที่นั่ง มีใครยืนอยู่

“คุณนัด!!”

------------------------------------------------------------------------------

“คุณคีตภัค!!! คุณจะไม่ทำอะไรเลยเหรอคะ เมื่อกี้พี่แทนจูบน้าเพลงนะ”

พิมพลอยกระซิบถามชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ห่างไปนัก หลังเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงไปเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่กลับคืนมาได้ แต่คนที่ตอบไม่ใช่ท่านประธานใหญ่ หากเป็นหญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างเขาต่างหาก
“เธอยังไม่ชินอีกหรอจ๊ะ น้าของเธอก็ทำอย่างนี้บ่อยๆ อยู่แล้วนี่ ตอนเช้ากอดผู้ชายอีกคน ตอนเย็นจูบกับผู้ชายอีกคน”

“คุณดารา!! พูดจาอย่างนี้เหมือนดูถูกน้าเพลงเลยนะ” เด็กสาวขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ ซึ่งก็ทำให้นักร้องหนุ่มได้ยินพอดี

“ผมขอโทษครับที่ขัด แต่ว่าเรื่องนี้ผมเป็นคนเริ่มก่อน ผมควรโดนด่ามากกว่า”

“เธอน่ะ ต้องโดนอยู่แล้ว ไม่ต้องทำมาเป็นปกป้องคนอื่นหรอก” ดาราฉายว่าพร้อมปรายตาไปยังคู่หมั้นที่นิ่งเงียบ “คีย์คงมีเรื่องด่าเธอเยอะจนไม่รู้จะพูดเรื่องไหนก่อน ถ้าอย่างนั้น ฉันจะพูดก่อนเลยก็แล้วกัน ไม่รู้จริงๆ นะว่าน้องเพลงทำอีท่าไหนเธอถึงติดใจขนาดนี้ หรือว่าเป็นท่าแรกตั้งแต่คืนแรกที่นอนด้วยกัน แต่ดีนะ ง่ายดี ฉันสนับสนุน น้องเพลงจะได้เลิกปีนต้นงิ้วกับคู่หมั้นของฉันซะที แล้วก็หวังว่าเธอคงจะดูแลน้องเพลงอย่างดี จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับคีย์ของฉันอีก”

“ดารา!! พอเถอะ” คีตภัคตวาด จนดาราฉายสะดุ้ง ก่อนที่เขาจะหันไปทางนักร้องหนุ่ม ด้วยสีหน้าเคร่งขึงจนน่ากลัว “แทน เลิกเล่นละครได้แล้ว”

“เล่นละครอะไรพี่คีย์”

“ก็ที่นายทำ เพราะต้องการทำตามข้อตกลงของเราไม่ใช่เหรอ ร่วมรายการให้สมจริง เพื่อคอนเสิร์ตทั่วประเทศของนาย ฉันเห็นแล้วว่านายทุ่มเทแค่ไหน ฉันจะจัดการให้ นายได้เล่นคอนเสิร์ตอย่างที่ต้องการแน่... ส่วนเรื่องรายการนี้ ให้ฉากเมื่อกี้เป็นฉากจบ ไม่ต้องถ่ายทำอีก!!” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ประกาศลั่น ก่อนจะผุดลุกขึ้น ขณะที่แทนกวีได้แต่อ้าปากค้าง มองตามโดยไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้

-----------------------------------------------------------------------------

“ก็อย่างที่นัดตี้บอกคุณเพลงไปนั่นแหละค่ะ แทนกวีทำไปทั้งหมด ก็เพราะสัญญาที่คุณคีย์ให้ไว้”

คำบอกเล่าจากปากนิยมการ ทำให้เพลงรักอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เธอเหมือนถูกหลอกให้ขึ้นบอลลูนลอยฟ้า ชมทิวทัศน์สวยงามเพลินตาแค่อึดใจเดียวก็ถูกปล่อยให้ร่วงลงกับพื้น

“คุณคีย์สัญญาว่าจะยอมลงทุนจัดคอนเสิร์ตใหญ่ให้ 4 จังหวัดทั่วประเทศ ความจริงอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับแทน นี่คือเป้าหมายของเขา คุณเพลงคงรู้เรื่องคุณพ่อของแทนแล้ว แทนพยายามอย่างหนักเพื่อจะให้พ่อยอมรับ เขาคิดว่าถ้าไปจัดคอนเสิร์ตในจังหวัดที่พ่ออยู่ พ่อจะยอมมา แล้วจะได้เห็นความสำเร็จของเขา แทนทุ่มเทกับเรื่องนี้มาก”

“เขาก็เลยหลอกฉัน...เพื่องาน” เพลงรักเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ขาดหาย นิยมการรีบส่ายหน้า

“ไม่ค่ะ แทนไม่ได้หลอกคุณ นัตดี้คิดว่าแทนจริงใจกับคุณ ในแบบที่คุณเป็นของแปลกแล้วเขาต้องการจะลองให้ได้ แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนนะคะ คือสิ่งสำคัญที่นัดตี้จะบอกก็คือ การเป็นนักร้องไม่ใช่เป็นแค่ความฝันของเขา แต่มันคือชีวิต คือจิตวิญญาณของเขา เขาฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดหลายปี เวลานอนบ้างครั้งแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ เขาทำงานหนักมาก หนักจนไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์ธรรมดาจะทนไหว เขารักตรงนี้ และนัดตี้ก็อยากให้เขารักษามันไว้ให้นานที่สุด ถ้าเขาคบกับคุณ... อย่าโกรธนัดตี้นะคะถ้าจะต้องพูดตรงๆ ถ้าเขาคบกับคุณ อนาคตของเขาก็จะสั่นคลอน แม้สมัยนี้แฟนคลับจะยอมให้ดาราคบใครก็ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความโสดมีภาษีดีกว่าเยอะ นัดตี้ไม่อยากให้สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมด ต้องล่มสลายมลายกลายเป็นอดีต นัดตี้เลยอยากขอร้อง ถ้าคุณเพลงรักแทนจริงๆ ทำเพื่อแทนได้ไหม ตัดใจจากเขาซะเถอะนะคะ”

“ตัดใจ!?!” เพลงรักทวนคำด้วยสมองที่ว่างเปล่า ก่อนเอ่ยถาม ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าตอนโดนอันนาต่อว่าร้อยเท่าพันเท่า “นี่ฉันเป็นตัวถ่วงของเขามากเลยเหรอคะ”

“ก็...เอิ่ม ไม่เชิงตัวถ่วงหรอกค่ะ แต่ว่าถ้าไม่มีคุณเพลง แทนคงเดินสบายกว่าเยอะ”

เพลงรักหน้าชาอีกครั้ง เข้าใจคำพูดของนิยมการจากกระทู้ข่าวที่เด็กสาวอีกคนเพิ่งให้มา หากเธอคบแทนกวีคงมีคนต่อต้านไม่น้อย เธอจะพลอยทำให้เขาเดือดร้อน แล้วเธอจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร

เขาคือดวงดาวที่พราวแสง หากเธอคิดจะครอบครอง ก็ต้องเอื้อมมือไปดึงเขาลงมาจากฟ้า เธอคงไม่เห็นแก่ตัวพอจะทำเช่นนั้น หญิงสาวก้มหน้าลงด้วยความเสียใจ เธอเกือบสมหวังในความรัก แต่เพราะความรักเธอจึงยอมมีความสุขด้วยการทำลายเขาไม่ได้ ถ้าเธอยอมปล่อยให้เขาได้ก้าวหน้าต่อไป มันคงเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่เธอจะทำได้เพื่อเขา

“ค่ะ ฉันจะพยายามตัดใจจากเขา ต่อให้มันยากแค่ไหน... ฉันก็จะทำให้ได้”



*************************************
มาถึงตอนนี้อาจงงว่าทำไมเพลงรักยอมง่ายจัง แต่ขอให้เข้าใจนางด้วยนะคะ นางไม่ใช่นางเอกสมัยใหม่ขนาดนั้น บางครั้งนางก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไร ขอกำลังใจให้นางด้วยนะคะ

ต่อไปจะเริ่มเข้าโหมดซีเรียสแล้ว ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปด้วยค่ะ

nunoi : ตอนนี้แทนรู้ใจตัวเองแล้ว ยิ่งกว่าตะลึงเสียอีกค่ะ
issabel : ขอบคุณค่ะ
invisible : อายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ
roseolar : มีซาวเอฟเฟคด้วย อ่านแล้วได้อารมณ์จริงๆ 555 คอยติดตามกันต่อไปนะคะ

ขอบคุณทุกๆ กำลังค่ะ ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มิ.ย. 2555, 19:10:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มิ.ย. 2555, 19:10:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1689





<< บทที่ 25   บทที่ 30 >>
โฉมฉาย 1 มิ.ย. 2555, 21:05:08 น.
โอย สวีตไม่ทันไร เสียใจอีกแล้ว


Pat 1 มิ.ย. 2555, 21:09:54 น.
เอาล่ะสิเพลงรัก จะเดินลุยไปข้างหน้า หรือถอยหลังออกห่างดีล่ะนี่


issbel 1 มิ.ย. 2555, 21:53:32 น.
ขอแบบหวานๆๆเยอะๆหน่อยสิคะ


omelate 1 มิ.ย. 2555, 22:38:38 น.
ตอนนี้ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า ปรับอารมณ์ไม่ทัน แต่สงสารป้าเพลงจัง


nunoi 2 มิ.ย. 2555, 00:28:37 น.
สงสารเพลงรักจัง


roseolar 2 มิ.ย. 2555, 16:12:54 น.
คำว่าขอเวลาของนายแทนทำให้ดูหล่อขึ้นมาทันที
แต่พออีกฝ่ายพร้อมลุก อีกฝ่ายที่เคยยืนรอ..กลับมีท่าทีว่าจะก้าวถอยซะงั้น เฮ้อ~


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account