เพลงลิขิตบันดาลชักพา
เพลงรัก...สาวอวบที่เพิ่งอกหักเพราะรักเก่ากำลังหมั้นหมายกับคนอื่น โดนหลานสาวตัวดีหลอกให้มาเที่ยวปารีสเป็นเพื่อน แต่พอมาถึงเธอกลับต้องเล่นเรียลลิตี้เป็นคู่ฮันนีมูนของนักร้องดังซะงั้น งานนี้สาวอวบขึ้นคานจะทำอย่างไร..... ในเมื่อรักเก่าก็กลับมาทำให้หัวใจหวั่นไหว แต่ความรักครั้งใหม่ก็กำลังเริ่มต้น
Tags: รัก,ท่องเที่ยว,ฝรั่งเศส

ตอน: บทที่ 30

เธอทำไม่ได้….

สิ่งที่เธอรับปากกับผู้จัดการส่วนตัวของนักร้องหนุ่มในคืนสุดท้ายที่ปารีส.... เธอทำไม่ได้ ให้เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ เธอก็ยังทำไม่ได้

เธอตัดใจจากแทนกวีไม่ได้ ไม่ใช่เธอไม่พยายาม แต่ทุกอย่างมันกะทันหันเกินกว่าที่เธอจะเตรียมใจได้ เพราะเพียงเธอตอบรับคำร้องขอของนิยมการ คีตภัคก็ก้าวมาลากเธอกลับโรงแรม และไม่เปิดให้เธอได้เจอแทนกวีอีก เขาสั่งให้นักร้องหนุ่มแยกไปจากคณะพร้อมผู้จัดการตั้งแต่เช้าของวันถัดมา ก่อนจะพาขึ้นชั้นธุรกิจพร้อมด้วยอันนาและดาราฉาย ทั้งที่อยู่บนเครื่องบินลำเดียวกัน ห่างกันแค่ม่านสีม่วงกั้น แต่เธอกลับถูกกันให้รู้สึกห่างไกลจากนักร้องหนุ่ม ยิ่งตอนมาถึงเมืองไทย เพลงรักก็เพิ่งตระหนักว่าผู้ชายที่เธอใกล้ชิดมาตลอด 4 วัน โด่งดังจนเข้าถึงตัวยากแค่ไหน กองทัพแฟนคลับของเขาที่รอคอยอยู่ พร้อมเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งก้องสุวรรณภูมิ ผลักให้แทนกวีไกลจากเธอไปเรื่อยๆ

ไกลจนไม่มีวันบรรจบกันได้อีก....

มันคือการจากลาโดยปราศจากคำล่ำลา ครั้งสุดท้ายที่ได้พบหน้า เธอและเขายังมีความหวังร่วมกัน แล้วทำไม... ทำไมทุกอย่างถึงจบสิ้นรวดเร็วเช่นนี้

หญิงสาวร่างอวบที่พลิกตัวอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ในห้องสวีตสุดหรูของโรงแรมห้าดาวใจกลางกรุงเทพฯ ที่ผู้บริหารระดับสูง ซึ่งก็คือหลานชายตัวดีของเธอ ยกให้เธอพักระหว่างที่เธอยังไม่กลับเชียงใหม่ โดยทองทิมให้เหตุผลสำหรับความสะดวกสบายราคาแพงนี้ว่า เป็นการไถ่โทษ ที่เขารวมหัวกับน้องสาวหลอกเธอไประหกระเหินอยู่ที่ฝรั่งเศสถึง 5 วัน

แต่มันจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อผลของแผนการนั้น ทำให้เธอต้องมาทุกข์ทรมานไม่จบไม่สิ้นอย่างนี้

เธอจะทำอย่างไรดี... เพลงรักถามตัวเอง ขณะลุกขึ้นแล้วเดินอย่างเชื่องช้าไปยังระเบียงกว้างด้านนอก ลมร้อนตอนเที่ยงคืนของเมืองไทย ทำไมถึงทำให้เหน็บหนาวมากกว่าตอนเดินรับลมเย็นฉ่ำริมแม่น้ำสายหลักของฝรั่งเศส หรือเพราะตอนนั้นเธอมีบางคนอยู่ข้างกาย แต่ตอนนี้.... หญิงสาวก้มหน้ามองเวิ้งน้ำสีดำด้านล่าง

เพลงหวานที่เคยกังวานริมฝั่งแม่น้ำแซนน์ ไม่มีทางบรรเลงซึ้งอีกครั้งที่เจ้าพระยาได้แล้วใช่ไหม

หญิงสาวเดินไปชิดขอบระเบียงอย่างเลื่อนลอย ทุกอย่างมันจบแล้ว... เธอเองก็ควรจะจบด้วยเหมือนกัน

ลาก่อน....

“เอ๊ย!!! เพลง ไอ้เพลง แกจะทำอะไรวะ!!!” เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกดังขึ้นก่อนที่แรงมหาศาลจะฉุดร่างอวบของเธอกลับเข้ามาเพียงเสี้ยววินาที เพลงรักมึนงงเล็กน้อย ขณะที่เสียงห้าวคุ้นหูจะดังขึ้นใกล้ๆ

“นี่แกคิดจะกระโดดตึกฆ่าตัวตายหรือไง ไอ้บ้า ทำไมคิดสั้นอย่างนี้วะ”

“ใช่ ก็แค่อกหัก แกอย่าคิดทำเรื่องโง่ๆ เพื่อผู้ชายคนเดียวเด็ดขาดเลยนะ”

“ไม่ใช่โง่อย่างเดียวนะคะ แต่ว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาป เพลงจะต้องทำร้ายตัวเองไปอีก 500 ชาติ ชีวิตเป็นสิ่งมีค่านะคะ เพลงอย่าทำลายชีวิตตัวเองเลย”

คำพูดจากหญิงสาวสามคนที่ยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้า ไม่ได้ทำให้เพลงรักประหลาดใจได้เท่ากับเห็นว่าพวกเธอเหล่านั้นเป็นใคร

“ขิม รุ้ง คุณหนูขา!!! นี่พวกแกมากันได้ยังไง!?!”

---------------------------------------------------------------------

“ไหนว่าจะช่วยทำให้น้าเพลงกลับมาเป็นคนปกติได้ไงล่ะคะ นี่มันผ่านมาตั้งหลายวันแล้วนะ พลอยยังไม่เห็นว่าน้าเพลงจะทำใจเรื่องพี่แทนได้เลย”

เด็กสาวร่างบางที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะภายในห้องอาหารของโรมแรม โวยวายเสียงดัง เป็นการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ หลังสมาชิกทั้ง 5 คนมากันครบ

พิมพลอยมองหญิงสาวสามคนที่นั่งเรียงกันอยู่ฝั่งตรงข้ามทีละคน ขีโรชา เหนือฟ้าและฉายฉันท์ ผู้มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว เพราะเป็นเพื่อนรักของเพลงรักตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เธอรู้จักคุ้นเคยกับทุกคน ก่อนพี่สะใภ้ที่นั่งข้างเดียวกับพี่ชายบนเก้าอี้ฝั่งเดียวกับเธอจะเอ่ย “คุณเพลงคงรักพี่แทนมาก เลยถอนตัวยาก”

“เจอกันแค่ 4-5 วัน จะรักอะไรนักหนา” สาวร่างผมบางนิสัยห้าวหาญนามว่าขีโรชาส่ายหน้า ก่อนที่ดาดาริน อดีตนางแบบสาวผู้มีความรักและเชื่อมั่นในรักของเธอจะแย้ง

“จะสี่ห้าวัน หรือวินาทีเดียว ความรักมันก็เกิดขึ้นได้นะคะคุณขิม มันไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีเงื่อนไข... มันฉับพลันจนเราไม่ทันตั้งตัว กว่าจะรู้ก็รักหมดใจซะแล้ว” อดีตนางแบบสาวเอ่ยเสียงเคลิ้มฝัน พร้อมหันไปทางสามีที่นั่งอยู่ใกล้ ทองทิมส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ก่อนจะหันกลับไปหาคนอื่นที่ยิ้มแหยกับความเลี่ยน ด้วยสีหน้าจริงจัง

“พวกคุณคิดว่ายังไง... เพลงจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม”

“คำว่าเหมือนเดิมของคุณทองหมายถึงอะไรละ ถ้าหมายถึงก่อนหน้าที่จะพบไอ้นักร้องนั่น ตอนนี้ไอ้เพลงก็เป็นเหมือนเดิมนะ ฟุ้งซ่าน จมปลัก เมื่อตอนเลิกกับพี่คีย์ใหม่ๆ มันเป็นยิ่งกว่านี้อีก ฉันไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนมันได้ไหม นี่ฉันก็พยายามเต็มที่แล้ว อุตส่าห์พามันไปซ้อมมวยที่บ้านกะให้มันได้ออกกำลังกาย หัวสมองจะได้ปลอดโปร่ง ไม่เห็นมันจะดีขึ้นเลย”

“ใช่ ไม่ดีขึ้น... แล้วก็แย่ลงกว่าเดิมด้วย เพราะนอกจากใจจะเจ็บปวด ร่างกายของเพลงยังระบม ฟกช้ำดำเขียวไปหมดทั้งตัว ฉันว่าแกไม่ได้ซ้อมมวยให้เพลงหรอกใช่ไหมขิม แต่หลอกให้เพลงไปเป็นกระสอบทรายของแกมากกว่า” เหนือฟ้า...สตรีร่างบางในชุดเกาะอกลายเสื้อว่ากลับถ้อยคำของขีโรชา เพื่อนสาวสุดห้าวรีบหันมาตอบโต้ทันควัน

“แล้ววิธีของแกดีนักหรือไงไอ้รุ้ง พาไปชอปปิ้ง เข้าสปา นวดหน้า ทำเล็บ แล้วตกกลางคืนก็ไปลั๊นลาล่าผู้ชาย มันใช่แนวไอ้เพลงที่ไหน กลับมาฉันเห็นว่ามันหงอยกว่าเดิมอีก”

“ก็เพราะว่ามันไม่ยอมเอาผู้ชายที่ฉันเลือกไว้ให้นะสิ ไม่อย่างนั้น ป่านนี้คงแฮปปี้อยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้วล่ะ” เหนือฟ้าตอบโต้ก่อนโดนฉายฉันท์...สตรีร่างบางในเดรสยาวสีขาวร้องปรามเสียงเครียด

“รุ้ง!!! ทำไมอย่างนี้ละคะ คุณหนูขาขอโทษแทนรุ้งด้วยนะคะ รุ้งอาจพูดจาเกินงามไปหน่อย แต่ว่ารุ้งไม่มีเจตนาร้ายนะคะ พวกเราอยากให้เพลงสบายใจเลยใช้วิธีที่ตัวเองถนัด การพาไปเที่ยวก็เป็นวิธีของรุ้ง ส่วนคุณหนูขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก แค่พาไปทำบุญตักบาตร ปล่อยนกปล่อยปลา ไหว้พระเก้าวัดที่อยุธยา ปิดทองฝังลูกนิมิตอีกเก้าวัดที่สุพรรณเท่านั้นเอง เฮ้อ...แต่เพลงก็ยังไม่ดีขึ้นสักที สงสัยคุณหนูขาต้องชวนไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดแถวสิงบุรีอีกสัก 7 วัน เพลงอาจทำใจได้บ้าง”

“โห จัดทัวร์ทางธรรมเยอะขนาดนั้นแล้วยังช่วยอะไรไม่ได้ งั้นเราก็ปล่อยไอ้เพลงไปเหอะ”

“ปล่อยได้ยังไงละคะ” พิมพลอยที่ฟังมานานโพล่งขึ้น “เราจะปล่อยให้น้าเพลงเสียใจไม่ได้หรอกนะคะน้าขิม ตั้งแต่กลับมาจากฝรั่งเศส นี่ก็ปาเข้าไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว น้าเพลงยังไม่ยอมออกจากห้อง ไม่ยอมกินข้าว เอาแต่ฟังเพลงเศร้าแล้วก็ร้องไห้ พลอยไม่อยากเห็นน้าเพลงเป็นแบบนี้ แม้ว่าพลอยจะดีใจที่น้าเพลงไม่ได้คบกับพี่แทนจริงๆ แต่พลอยก็ไม่อยากให้น้าเพลงเป็นแบบนี้”

“แล้วที่มันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะพลอยเหรอ พลอยทำให้มันต้องเจอกับไอ้นักร้องคนนั้น แล้วมาตอนนี้อยากจะทำดีแก้ตัวหรือไง ความจริงไอ้เพลงมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายอย่างที่น้องพลอยบอกด้วย มันก็แค่ชอบอยู่กับความเศร้า ปล่อยมันไป แล้วก็เลิกเจ้ากี้เจ้าการกับมัน อีกไม่นานมันก็คงดีขึ้นแล้วล่ะ”

“น้าขิมน่ะ...” พิมพลอยว่าเสียงงอน รู้ว่าอีกฝ่ายพูดถูก เธอมีส่วนผิดจริงๆ แต่ก็อย่าว่าเธอได้ไหมล่ะ “พลอยรักน้าเพลง อยากให้น้าเพลงมีความสุขต่างหากล่ะถึงได้ทำแบบนี้ แต่ถ้าน้าขิมไม่อยากช่วยน้าเพลง อยากเห็นน้าเพลงเศร้าอย่างนี้ต่อไป เพลงก็ไม่ง้อน้าขิมแล้ว พลอยจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”

“พลอยจะทำยังไง” ทั้งหมดถามเกือบจะพร้อมกัน ขณะที่เด็กสาวผุดลุกขึ้น ท่าทางมุ่งมั่นจนน่ากลัว

“ไม่รู้ แต่ยังไงพลอยก็ต้องทำให้น้าเพลงมีความสุขให้ได้” เอ่ยจบเธอก็สะบัดหน้าหนีไป พี่สะใภ้ท้องแก่มองอย่างเป็นห่วง อยากจะลุกตามแต่ก็โดนชายหนุ่มข้างกายรั้งเอาไว้

“ไม่ต้องหรอก... พลอยเป็นคนผูกปมนี้ ผมอยากให้พลอยเรียนรู้ที่จะแก้มันเอง”
“แต่ว่าน้องพลอยไม่ได้ผูกคนเดียวนี่คะ...” ดาดารินเถียง แต่เมื่อเห็นสายตาของสามีที่มองมา เธอก็พยักหน้า “เข้าใจแล้วล่ะคะ คุณสามีอยากให้น้องพลอยเป็นผู้ใหญ่ขึ้นใช่ไหมคะ ให้ลองแก้ปัญหาที่สร้างเองขึ้นบ้าง น้องพลอยจะได้โตขึ้น ดีค่ะดี ดาสนับสนุน ถ้าอย่างนั้นดาจะคอยเป็นกำลังใจให้ คอยเป็นห่วง อยู่....เอิ่ม ไม่ห่างมากได้ไหม ก็ดาอยากรู้นี่นาว่าน้องพลอยจะแก้ปัญหานี้ยังไง แล้วตกลงคุณเพลงกับพี่แทนจะลงเอยกันแบบไหน ขอเป็นห่วงใกล้ๆ ละกันนะคะ นะ... คุณทองทิมน่ะ ทำไมไม่ตอบล่ะ”

“ก็ผมกำลังดีใจอยู่ ว่าทำไมภรรยาของผมช่างรู้ใจผมจริงๆ คุณไม่ห่างพลอย แล้วคิดว่าผมจะยอมห่างคุณเหรอ ผมไม่ปล่อยทั้งคุณทั้งพลอยให้คลาดสายตาหรอก”

“คุณมีแผนอยู่แล้วนี่เอง ร้ายจริงๆ” เธอว่า แล้วก็หยิกแก้มเขาอย่างหมั่นไส้ ทองทิมลงโทษด้วยการก้มลงกอดภรรยาฟอดใหญ่ หญิงสาวสามคนที่นั่งอีกฝั่งได้แต่ยิ้มแหยก่อนถอนหายใจ

ถ้าเพลงรักไม่ได้อยู่ในครอบครัวแบบนี้ ไม่ได้มีหลานสาวเอาแต่ใจ ไม่ได้มีหลานชายและหลานสะใภ้จอมเจ้าเล่ห์... เพลงรักจะอาการหนักขนาดนี้ไหมนะ

-------------------------------------------------------------------------

ที่น้าเพลงอาการหนัก... ไม่ใช่ฝีมือเธอสักหน่อย

พิมพลอยบอกตัวเอง ขณะกระแทกส้นเท้าออกจากลิฟต์ ตั้งใจจะเดินออกจากประตูกระจกแล้วมุ่งตรงกลับบ้าน แต่ก็นึกได้ว่าเธอมาที่นี่พร้อมพี่ชาย ซึ่งฝ่ายนั้นก็ไม่ได้ลงมาตามง้องอนเธอแต่อย่างใด เด็กสาวร่างสูงในเสื้อแขนกุดสีดำ กับกางเกงขาสั้นสีชมพูเลยถอนหายใจ ก่อนจะจำใจไปนั่งคอยที่ล็อบบี้อย่างไม่มีทางเลือก

เรื่องของผู้เป็นน้า น้าเพลงรักเองอกหักเองไม่ใช่ความผิดของเธอเลย เด็กสาวพยายามเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง แล้วอีกเสียงในใจก็แย้งเข้ามาว่า แล้วใครกันล่ะที่ทำให้เพลงรักต้องเจอกับแทนกวี เธออยากปฏิเสธ แต่ก็ต้องยอมรับ เพราะเธอนี่แหละที่ทำให้สองคนได้เจอกัน ได้เล่นเป็นคนรักกัน แล้วก็ตกหลุมรักกันจริงๆ แล้วจะให้เธอทำยังไง เธอพยายามห้ามแล้วแต่น้าเพลงก็ไม่ฟัง มาวันนี้น้าเพลงต้องเสียใจ แล้วคิดว่าเธอสบายใจเหรอ เฮ้อ... ทำไมเรื่องถึงได้วุ่นวายอย่างนี้นะ
เด็กสาวผ่อนลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย แล้วเสียงทุ้มต่ำของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา

“ท่าทางเธอจะมีเรื่องเครียดนะ”

พิมพลอยสะดุ้ง ก่อนเงยหน้าขึ้น ซึ่งร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏอยู่ข้างโซฟาก็ทำให้เธออุทานด้วยความประหลาดใจ “คุณคีตภัค คุณมาได้ยังไง!?!” เธอถามด้วยความตกใจพร้อมผุดลุกขึ้น ขณะชายหนุ่มที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองอาทิตย์ แต่โทรศัพท์มาหาเธอทุกวันเพื่อขอพบกับเพลงรัก จะตอบกลับมาเสียงเรียบนิ่ง

“ฉันมาหาเพลง”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าน้าเพลงอยู่ที่นี่ พลอยยังไม่ได้บอกคุณเลยนะ หรือว่าคุณสะกดรอยตามพลอยมา...”

ใบหน้าเฉยชาของเขาปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย “คราวนี้เธอเดาถูก ฉันแอบตามเธอมา แต่ฉันไม่รู้ว่าเพลงอยู่ที่นี่... จนกระทั่งเธอบอกเมื่อกี้นี้แหละ”

เด็กสาวชะงัก นึกเจ็บใจตัวเองที่หลุดปากออกไป เธอรีบเชิดหน้า ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำง่ายๆ “ถึงคุณคีตภัคจะรู้ว่าน้าเพลงอยู่ที่นี่ แต่พลอยก็ไม่ยอมให้คุณเจอน้าเพลงหรอก ที่นี่เป็นโรงแรมของพี่ชายพลอย พนักงานทุกคนที่นี่ก็เป็นคนของพลอย ไม่มีใครบอกคุณหรอกว่าน้าเพลงอยู่ห้องไหน แล้วถ้าคุณคิดจะค้น พลอยก็จะบอกให้พี่ยามโยนคุณออกไป โทษฐานที่มาก่อความวุ่นวาย”

“ฉันคงต้องกลัวเธอสินะ... ก็ที่นี่เธอเป็นเจ้าถิ่น” เขาว่า ไม่มีรอยยิ้ม แต่ทำไมพิมพลอยถึงรู้สึกว่าเขาเหมือนยิ้มเยาะเธออยู่ เด็กสาวเบ้ปาก ขณะที่เขาเอ่ยต่อ “เธอคิดจะซ่อนเพลงไว้อีกนานแค่ไหน”

“ก็จนกว่าน้าเพลงจะหายนั่นแหละ... คุณน่ะ เคยทำร้ายน้าเพลง แล้วตอนนี้ก็ยังมากีดกันน้าเพลงกับพี่แทน คุณอย่ามาทำให้น้าเพลงเสียใจอีก” เด็กสาวต่อว่าด้วยความยินดีที่โยนความผิดออกจากอกไปได้ แม้ไม่รู้ว่าเขาจะรับหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเธอก็โล่งขึ้น

“แล้วเธอไม่ได้อยากให้แทนกับเพลงยุ่งเกี่ยวกันหรอกหรอ”

“ก็... เอิ่ม...” พิมพลอยอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร คีตภัคมองก็พอจะเดาได้ เขาจึงเอ่ยต่อโดยไม่รอคำตอบ

“ฉันยอมรับว่าตัวเองผิด ฉันไม่อยากให้แทนกับเพลงคบกัน แต่ฉันก็มีเหตุผลของฉัน ซึ่งตอนนี้ ฉันก็อยากจะบอกเหตุผลนั้นกับเพลง เธอจะให้โอกาสฉันได้ไหม...พิมพลอย ฉันขอร้องเถอะ ขอให้ฉันได้เจอเพลงอีกครั้ง ได้แก้ไขในสิ่งที่ฉันทำลงไปด้วยเถอะ”

พิมพลอยมองเขาอย่างลังเล เมื่อเขายอมรับง่ายๆ พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิงวอน ท่าทีของเธอจึงอ่อนลง แต่ก็ยังคงมองเขาอย่างคลางแคลง

“คุณจะแก้ไขเรื่องน้าเพลงยังไง”

---------------------------------------------------------------------------

“นี่พลอยพาน้ามาที่ไหน”

หญิงสาวร่างอวบในเสื้อเชิ้ตสีส้มกับกางเกงยีนส์ซึ่งนั่งอยู่ยังเบาะหลัง บนรถแลนด์โลเวอร์คันใหญ่ เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ ขณะเงยหน้ามองไปยังกำแพงสูงเกือบสามเมตร ที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

เด็กสาวในเดรสคอบัวลายจุดที่นั่งบนเบาะข้างคนขับไม่ได้ตอบ แต่หันไปทางพี่ชายที่อาสามาทำหน้าที่สารถีให้ (โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา คือจับตามองน้องสาวแบบใกล้ชิดอย่างที่ได้บอกภรรยาไว้) “พี่ทองขับเข้าไปเลยค่ะ”

ทองทิมทำตามคำสั่งของน้องสาว แลนโลเวอร์คันใหญ่จึงแล่นผ่านประตูบานยักษ์ที่รปภ.ในป้อมด้านหน้ากดปุ่มเปิดให้ ก่อนเข้ามาจอดหน้าตึกไม้ทรงโบราณที่ซ่อนตัวหลังม่านพุ่มไม้หนาที่ปลูกไว้แทนรั้วอีกชั้น

“นี่มันบ้านคนหรือสถานที่ประกอบพิธีกรรมของลัทธิแปลกๆ ทำไมมันถึงได้ลึกลับขนาดนี้” เพลงรักเอ่ยเบาๆ จากประสบการณ์ที่ต้องตะลอนทัวร์กับเพื่อนรักทั้งสามคน เธอก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะถูกพาไปที่ไหนบ้าง

“ลงมาเถอะค่ะ เดี๋ยวก็รู้” หลานสาวที่ลงมาเปิดประตูให้เอ่ย ก่อนอุทานเมื่อหันไปเห็นใครคนหนึ่งก้าวลงมาจากบันไดไม้ทางด้านซ้ายมือพอดี “อุ้ย เจ้าของบ้านเดินมานั่นแล้ว”

เพลงรักหันมองตามโดยอัตโนมัติ แล้วร่างสูงใหญ่ที่คุ้นตา ก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “พี่คีย์!!!!”

คีตภัคพยักหน้าให้พี่ชายของพิมพลอยที่กำลังก้าวลงมาเป็นเชิงทักทาย ขณะที่ทองทิมก็พยักหน้าตอบกลับไปพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายอย่างประเมิน “ดีใจ...ที่เธอยอมพาเพลงมา”

“ก็ไม่อยากเท่าไรหรอก...” เด็กสาวตอบกลับ ท่าทางคุ้นเคยกับอีกฝ่ายมากกว่าคนที่รู้จักกันแค่สี่วัน “พลอยหวังว่าน้าเพลงเจอคุณคีตภัคคราวนี้ อาการจะไม่แย่ลงกว่าเดิมนะ”

“เดี๋ยวนะ... นี่พลอยพาน้ามาเจอพี่คีย์หรอ ทำไม...”

“ก็คุณคีตภัคบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับน้าเพลง” พิมพลอยตอบน้า ก่อนหันไปทางผู้ชายตัวสูงใหญ่ “แล้วนี่เราจะเริ่มคุยเลยหรือยังไง พลอยอยากรู้แล้วว่าเรื่องอะไร”

คีตภัคส่ายหน้า สบตาเด็กสาว ก่อนเลื่อนไปมองผู้หญิงอีกคนที่เขาไม่ได้เจอมานาน ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความบอบช้ำ ใบหน้าเคยอวบปรากฏร่องรอยหม่นหมองจนน่าใจหาย...เขารู้สึกเสียใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร นี่เขาได้ทำร้ายเธออีกครั้งแล้วใช่ไหม

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันขอคุยกับเพลงเป็นการส่วนตัว”

“ได้ยังไงละคะ พลอยพาน้าเพลงมาจะไม่ให้พลอยเข้าไปด้วยได้ยังไง เผื่อคุณคีตภัคทำอะไรน้าเพลง พลอยจะได้ช่วยได้ ยังไงพลอยก็จะเข้าไปด้วย” พิมพลอยโวยวายเสียงดัง จนพี่ชายต้องรีบเข้ามาห้าม

“ปล่อยให้เพลงเข้าไปเถอะ เรื่องที่คุณคีตภัคจะพูด คงเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ” ทองทิมว่า ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าของคนที่ยังคงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถมาถือให้ “ลงมาสิเพลง เพลงไม่อยากรู้เหรอว่าคุณคีตภัคเขามีเรื่องอะไร”

เพลงรักส่ายหน้า เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลจากคนเหล่านี้ เธออยากซ่อนตัวอยู่ในห้องพัก (ที่ไม่แคบเท่าไร) แล้วร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า เธอไม่อยากเจอหน้าใคร ไม่อยากพูดกับใคร โดยเฉพาะ...คนที่เธอเคยรัก แต่กลับมาทำลายความรักครั้งใหม่ของเธอ

“ลงมาเถอะเพลง...เรื่องมันจะได้จบสักที” คีตภัคเอ่ยเสียงเรียบ แต่ใบหน้าเครียดขึงจนเธอไม่กล้าปฏิเสธ ในที่สุดเพลงรักก็ค่อยๆ ก้าวลงมาด้วยความไม่เต็มใจ ก่อนทองทิมซึ่งเฝ้ามองทุกคนอย่างพิจารณาจะเอ่ยกับเจ้าของบ้านด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

“จำไว้ว่าผมพาเพลงมาหาคุณ เพื่อให้คุณได้แก้ไขสิ่งที่ทำพลาดลงไป แต่ถ้าคุณทำให้เพลงเสียใจอีกครั้ง ก็อย่าหวังว่าจะได้เจอเพลงอีก” ทองทิมวางมาดเข้มจนน้องสาวแอบยกนิ้วให้ แต่ประโยคเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาเป็นพี่ชายขี้เล่นตามเดิม “เราไปรอข้างนอกกันเถอะ พี่เห็นมีร้านอาหารเยอะแยะ โคตรน่ากินเลย ปะ”

“แต่ว่าพี่ทอง.....”

“ไป....” ทองทิมว่าพร้อมลากเด็กสาวร่างบางติดมือไปด้วย โดยไม่ลืมคืนกระเป๋าให้หญิงสาวตอนเดินผ่าน พร้อมกระพริบตาข้างเดียวให้หนึ่งที แบบที่เพลงรักก็แปลไม่ออกว่าหมายความว่ายังไง

รอจนกระทั่งแลนด์โลเวอร์คันใหญ่เลี้ยวพ้นกำแพงสูงออกไปแล้ว คีตภัคจึงเอ่ยทำลายความเงียบ

“เข้าไปข้างในเถอะ มีคนรอเพลงอยู่”



********************************************
สวัสดีค่ะ ตอนที่ 30 แล้วนะคะ อีกประมาณ 6 ตอนก็จบแล้ว TT^TT
เรื่องนี้รอพิจารณาจากสำนักพิมพ์อยู่ ยังไงก็ขอให้ทุกคนเอาใจช่วยกันด้วยนะคะ

โฉมฉาย : ตอบตามประสาธรรมะ คิดว่าเพลงรักน่าจะเป็นคนมีกรรมเก่าเยอะ กว่าจะได้รับความสุขในรักก็เลยต้องใช้เวลา (จริงจังไปไหม)

Pat : เอาใจช่วยเพลงรักด้วยนะคะ

issabel : เดี๋ยวพอเริ่มคลี่คลายก็ได้เวลาหวานแล้วค่ะ 5555 ใกล้จบพอดี

omelate : เพราะชีวิตเรามีขึ้นลงตลอดเวลาค่ะ ธรรมะเลยสอนให้คนเรามีสติ เพื่อจะได้ตามดูอารมณ์ของตนให้ทัน ((จริงจังไปอีกแล้ว 555 พอดีเพิ่งฟังธรรมมาอ่ะค่ะ))

nunoi : ช่วยเอาใจช่วยนางเอกของเราด้วยนะคะ

roseolar : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ (เอาอีกแล้ว) 5555 ยังไงก็เอาใจช่วยความรักของคนทั้งคู่ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ สำหรับทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด คนที่หลงเข้ามาอ่านด้วย ขอบคุณมากค่ะ ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ สู้ๆ ค่ะ



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มิ.ย. 2555, 19:15:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มิ.ย. 2555, 19:15:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1715





<< บทที่ 29   บทที่ 31 >>
pkka 2 มิ.ย. 2555, 20:02:29 น.
ดราม่าสุดๆเนอะ ^^


nunoi 2 มิ.ย. 2555, 20:05:34 น.
จะเป็นพี่แทนหรือเปล่าน๊าาา


omelate 2 มิ.ย. 2555, 21:03:04 น.
รอร๊อรอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ จะเป็นไงต่อน้า...ป้าเพลง


issbel 3 มิ.ย. 2555, 15:25:45 น.
pen kum lung jai hai pa'pleng naka


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account