เพลงลิขิตบันดาลชักพา
เพลงรัก...สาวอวบที่เพิ่งอกหักเพราะรักเก่ากำลังหมั้นหมายกับคนอื่น โดนหลานสาวตัวดีหลอกให้มาเที่ยวปารีสเป็นเพื่อน แต่พอมาถึงเธอกลับต้องเล่นเรียลลิตี้เป็นคู่ฮันนีมูนของนักร้องดังซะงั้น งานนี้สาวอวบขึ้นคานจะทำอย่างไร..... ในเมื่อรักเก่าก็กลับมาทำให้หัวใจหวั่นไหว แต่ความรักครั้งใหม่ก็กำลังเริ่มต้น
Tags: รัก,ท่องเที่ยว,ฝรั่งเศส

ตอน: บทที่ 31

“กรี๊ด.........พี่แทน......กรี๊ด......”

เสียงกรีดร้องดังกระหึ่มทั่วลานกว้างภายในห้างสรรพสินค้าดังใจกลางกรุงเทพฯ แฟนคลับจำนวนมหาศาลยืนชูป้ายไฟหลากสีกันสลอน พร้อมตะเบ็งเสียงเรียกนักร้องหนุ่มที่เพิ่งโชว์เพลงสุดท้ายในงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้มของเขาเสร็จสิ้น
ร่างสูงแจกจ่ายรอยยิ้มละลายใจให้เหล่ากลุ่มคนผู้คลั่งไคล้ โดยไม่ลืมหยอดท้ายให้อุดหนุนอัลบั้มใหม่ของเขา ก่อนจะเดินลงจากเวทีขณะที่เสียงเรียกยังกึกก้อง

“รักใคร รักแทน... รักใคร รักแทน… รักใคร....”

“รักแทน...แหม....พี่แทน วันนี้ทำได้ดีมากเลยนะ พี่ล่ะปลาบปลื้มจริงๆ ร้องเพราะ เต้นเป๊ะ แฟนๆ กรี๊ดจนแก้วหูพี่แทบแตก ยอดสั่งจองล่วงหน้าเกินแสนแผ่น สุดยอดมากๆ มามะ มาให้พี่หอมชื่นใจที” นิยมการที่กำลังร่าเริงเต็มพิกัด เพราะได้เห็นความสำเร็จของศิลปินในการดูแล อ้าแขนทำท่าจะโผเข้ากอดอีกฝ่าย แต่ชายหนุ่มร่างสูงที่เหงื่อโทรมกาย เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ก่อนเอ่ยออกมาเสียงเบา

“ผมเหนื่อย” แล้วเขาก็เดินตรงไปยังห้องแต่งตัวด้านหลัง ผู้จัดการส่วนตัวถอนหายใจฟึดฟัด แล้วรีบตามไป

“นี่พี่แทน ทำไมทำตัวเนือยขนาดนี้ ไม่ดีใจหรอที่แฟนๆ ให้การตอบรับดี อุตส่าห์ทุ่มเทฝึกซ้อมจนไม่ได้นอนมาตั้งหลายคืน”

“ดีใจ แต่ผมบอกแล้วไงว่าผมเหนื่อย” นักร้องหนุ่มตอบสั้นๆ ขณะยืนนิ่งให้สไตลิสถอดเสื้อตัวนอกให้ แต่นิยมการก็รู้ว่าไม่ใช่แค่นั้น เขาปรายตามองฝ่ายเสื้อผ้า ช่างแต่งหน้า และช่างผมที่ทำเป็นนั่งคุยกันไม่สนใจ แต่จริงๆ ก็เงี่ยหูคอยเก็บข้อมูลไปแพร่ต่อ เขาจึงเอ่ยเสียงเฉียบ

“น้องๆ...ออกไปก่อน เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

เป็นความเด็ดขาดของผู้จัดการส่วนตัวที่ไม่มีใครกล้าหือ แม้หลายคนจะทำอิดออดแต่เมื่อเจอสายตาจิกไปถึงลำไส้ของชายหนุ่มร่างเล็ก ก็จำต้องยอมถอย นิยมการรอจนคนนอกคนสุดท้ายก้าวออกไป เขาจึงเอ่ยกับนักร้องหนุ่มที่เปลี่ยนเป็นคนละคนตั้งแต่กลับจากฝรั่งเศสด้วยเสียงเครียด

“แทน นี่เธอยังโกรธเรื่องที่พี่ห้ามคบกับคุณเพลงอยู่อีกหรอ พี่ก็บอกไปแล้ว ว่าพี่ทำไปเพราะความหวังดี”

“ผมรู้ว่าพี่นัดหวังดี” แทนกวีสวนกลับทันควัน ก่อนถอนหายใจเมื่อต้องพูดถึงเรื่องนี้...อีกครั้ง “พี่นัดหวังดีกับผม ส่วนพี่คีย์ก็หวังดีกับป้า ผมกับป้าก็ไม่ได้เจอกันแล้วไง ยังไม่พอใจอีกหรอ”

“เออ ไม่พอใจ...อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ ไอ้ที่แทนโหมซ้อมเต้นโต้รุ่ง ลุยงานหนัก ไม่พักไม่ผ่อน ทำตัวเหมือนผีตายซาก เนือยนอยไม่ค่อยพูด ก็เพราะต้องการประชดพี่ คิดว่าทำตัวอย่างนี้แล้วมันจะมีอะไรดีหรอ ตื่นได้แล้วแทน แทนไม่ได้ชอบคุณเพลงขนาดที่จะต้องทิ้งอนาคตของแทนนะ ไม่อยากเป็นแล้วหรอไง นักร้องดังทำฝันให้พ่อภูมิใจน่ะ”

“แล้วพี่นัดรู้ได้ยังไงว่าถ้าผมคบกับป้าแล้วผมจะไม่มีอนาคต แฟนคลับจะรับกันไม่ได้เลยหรอถ้าผมอยากมีแฟนสักคน สมัยนี้ทุกอย่างมันเปิดกว้างขึ้นนะพี่นัด”

“โลกมันเปิดกว้าง แต่ใจคนมันแคบลง ถ้าแทนเปิดเผยว่ามีแฟนแล้ว ก็ต้องมีแฟนคลับบางส่วนที่ชอบแทนน้อยลง หรือเลิกชอบไปเลย แล้วแทนจะทำยังไง”

“ก็พัฒนาฝีมือให้พวกเขายอมรับไง ให้ยอมรับว่าเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมันไม่เกี่ยวกัน แต่ถ้าการที่ผมซื่อสัตย์ความรู้สึกตัวเองแล้วทุกคนจะหันหลังให้ผม ผมก็คงต้องเป็นฝ่ายยอมรับ ผู้ชายที่โกหกหัวใจตัวเอง ก็คงไม่มีความจริงใจให้คนอื่นเหมือนกัน ผมไม่อยากเป็นผู้ชายแบบนั้น” ประโยคหลัง แทนกวีเอ่ยด้วยถ้อยคำที่เพลงรักเคยพูดไว้ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจอีกครั้ง “พี่นัด... ผมมีความฝัน แต่ผมอาจจะล้มหัวฟาดตกขอบเวทีกลายเป็นเจ้าชายนิทราก่อนที่พ่อจะได้เห็นความสำเร็จของผมก็ได้ อนาคตมันจะเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ ผมก็แค่อยากมีความสุขในวันที่ผมยังมีโอกาสจับต้องมันได้ แล้วผมก็เชื่อ ว่าป้าจะเติมเต็มส่วนที่ผมขาดหาย มันอาจจะไม่ใช่รักที่มั่นคงไปจนวันสุดท้ายของชีวิต แต่วันนี้...ผมรักผู้หญิงที่ชื่อเพลงรักจริงๆ” นักร้องหนุ่มเปิดเผยให้สมกับที่อัดอั้นมานานหลายสัปดาห์ นิยมการได้แต่ส่ายหน้า กรอกตาไปมาด้วยความขัดใจ

“เราเลิกพูดเรื่ืองนี้กันดีกว่า แทนรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เราจะได้กลับไปซ้อมร้องที่บริษัทต่อ”

เป็นการตัดบทของผู้จัดการส่วนตัว ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเพื่อไปตามช่างหน้าช่างผมให้กลับมา แต่ยังไม่ทันเดินผ่านม่านสีดำที่กั้นบริเวณห้องแต่งตัวเอาไว้ ร่างสูงโย่งของชายหนุ่มคนหนึ่ง ก็ถลามาขวางเสียก่อน

นิยมการสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะอุทานเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “น้องพล!!! มาได้ไงคะเนี่ย”

พลพรรคทำหน้าบูดบึ้ง ก่อนหันไปทางด้านหลัง หญิงสาวร่างบางฉีกยิ้มเจื่อนๆ ขณะก้าวเข้ามา “เรามาให้กำลังใจแทนค่ะ” เธอว่า พร้อมสะกิดให้แฟนหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ที่เธอสั่งมาแต่อยู่ในมือเขาไปยังนักร้องที่ยืนงง พลพรรคถอนหายใจก่อนทำตามอย่างเสียไม่ได้

“เป็นความคิดของแก้วทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับฉัน” ชายหนุ่มร่างสูงบอกเสียงห้วน แล้วรีบหันกลับมายังแฟนสาว “กลับกันได้หรือยัง”

ลูกแก้วพยักหน้า พยายามลอบส่งสัญญาณบางอย่างให้แทนกวี แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะมีสีหน้าเข้าใจ เธอก็โดนลากออกมา และทันทีที่ก้าวพ้นบริเวณงาน พลพรรคก็ถามทันที

“เธอคิดว่าทำอย่างนี้แล้วจะได้ผลจริงๆ หรอวะ”

“ก็ถ้านายไม่รีบลากฉันออกมา แทนก็คงรู้เรื่องแล้วล่ะว่าฉันตั้งใจจะ ‘ให้’ อะไร” หญิงสาวว่าพร้อมถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย ทำให้แฟนหนุ่มที่ตอนแรกเป็นฝ่ายโกรธ ต้องรีบง้องอนทันที

“ไอ้นักร้องนั่นมันไม่ได้ตาถั่ว มันต้องเห็นอยู่แล้วล่ะ นามบัตรใบเบ้อเริ่ม ว่าแต่... เธอจะบอกฉันได้หรือยังว่าทำไมต้องแอบเอานามบัตรของคุณเพลงรัก ก้องฟ้า ไปให้ไอ้แทนกวีด้วย เธออยากให้สองคนนั่นคบกันหรือไง”

“ก็ใช่นะสิ แทนน่ะ โดนกีดกันไม่ให้ติดต่อกับคุณเพลง ขนาดเบอร์โทรศัพท์ยังไม่มี แล้วเมื่อกี้นายไม่ได้ยินที่แทนพูดหรอ ก็แอบฟังอยู่ด้วยกัน แทนบอกว่ารักคุณเพลงนะ คนรักกันก็ควรได้คุยกัน เราในฐานะเพื่อนก็ควรช่วยเพื่อนสิ”

“แน่ใจว่าทำเพื่อเพื่อน แล้วเมื่อกี้เธอแอบถ่ายตอนไอ้แทนกวีมันคุยกับพี่นัดตี้ไว้ทำไม” พลพรรคชี้ไปที่กล้องวิดีโอตัวเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของอีกฝ่าย ลูกแก้วยิ้มน้อยๆ เมื่อโดนจับได้ ก่อนคำตอบจะทำให้แฟนหนุ่มต้องส่ายหน้า

“ก็...เพื่อใช้อะไรได้” ครีเอทีฟสาวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เธอวางแผนไว้ รับรองเรตติ้งรายการที่กำลังจะออนแอร์ตอนแรกคืนนี้ ต้องพุ่งกระฉุดแน่

------------------------------------------------------------------------------

“คุณแน่ใจนะ ว่ายายเพลงมาที่บ้านของคีย์จริงๆ”

หญิงสาวร่างบางระหงที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรค่ายเพลงของคู่หมั้น เอ่ยทวนสิ่งที่ ‘สาย’ คนเดิมโทรศัพท์เข้ามารายการด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยืนยันซ้ำอีกครั้ง

“แน่ใจครับ ก็ที่ผมเคยบอกคุณดารา ว่าผมได้ยินคุณคีย์คุยกับเด็กพิมพลอยว่าให้พาคุณเพลงมาที่บ้าน วันนี้ยายเด็กนั่นกับพี่ชายก็พาคุณเพลงมาจริงๆ เนี่ยผมสะกดรอยตามมาตั้งแต่ที่โรงแรม ตอนนี้คุณเพลงอยู่ข้างในนั้นคนเดียว... คุณดาราจะให้ผมทำยังไงต่อไปดีครับ”

“เฝ้าต่อไป แล้วคอยรายงานฉันเรื่อยๆ” ดาราฉายวางสาย ขณะที่ความโกรธเกรี้ยวแผ่ซ่านไปทุกอณูในใจ เธอกำพวงมาลัยแน่น จนเด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมาถามด้วยความสนใจ

“มีเรื่องอะไรหรอคะพี่ดารา”

“อย่ายุ่ง!!!” หญิงสาวตวาดกลับเสียงดัง จนอันนาที่ติดรถมาด้วย เพื่อไปแสดงความยินดีกับนักร้องหนุ่มที่ค่ายเพลงของเขาถึงกับสะดุ้ง เด็กสาวยอมปิดปาก แต่เมื่อรถที่ทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงเลี้ยวออกนอกเส้นทาง เธอก็เลิกร้องออกมา

“พี่ดารา จะไปไหนคะ นี่ไม่ใช่ทางไปหาพี่แทนนี่นา พี่ดารา กรี๊ด ว้าย.... ทำไมพี่ดาราขับรถเร็วอย่างนี้ กรี๊ด...” ประโยคหลังเด็กสาวได้แต่ร้องอุทานด้วยความหวาดกลัว ยามที่รถคันเล็กของอีกฝ่ายแซงปาดหน้ารถคันอื่นบนท้องถนน เธอพยายามร้องให้อีกฝ่ายชะลอความเร็วลง แต่ส้นสูงสีแดงเพลิงของคนขับก็ยังเหยียบคันเร่งจนมิด

------------------------------------------------------------------------------

เพลงรักไม่แน่ใจ...เกิดความเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า

ทำไมคนที่คีตภัคบอกว่ารอเธออยู่ ถึงเป็นชายวัยกลางคนบนรถเข็นที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องรับแขก คนที่เธอไม่เคยเจอหน้า แต่ต้อนรับเธออย่างดีราวกับรู้จักกันมานาน

“นี่นะหรอ เพลงรัก ก้องฟ้า” ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลาเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพลงรักมองดวงตาคมที่อ่อนแสงลง ซึ่งดูคล้ายดวงตาของคีตภัคตรงที่เต็มไปด้วยอำนาจ เช่นเดียวกับโครงร่างสูงใหญ่ แต่บัดนี้ผ่ายผอมลงไปจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

“นี่คุณพ่อของพี่เอง” คีตภัคแนะนำ ซึ่งทำให้เพลงรักร้องอ๋อในใจ เมื่อรู้ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับอีกฝ่ายอย่างประหลาด

เธอยกมือไหว้ทำความเคารพ ก่อนที่คิรากรจะกวักมือเรียกอย่างเชื่องช้า “มานั่งใกล้ๆ ตรงนี้สิ ขอเห็นหน้าชัดๆ หน่อย”

เพลงรักคลานเข่าเข้าไปใกล้อย่างว่าง่าย ทั้งที่ยังสงสัยว่าพี่คีย์พาเธอมาพบพ่อของเขาทำไม แล้วคำพูดของชายวัยกลางคนยามที่จ้องมองเธออย่างพิจารณา ก็ทำให้เธอต้องแปลกใจมากกว่าเดิม “เหมือน... เหมือนจริงๆ เธอเหมือนแม่ของเธอมากจริงๆ”

“คุณลุงรู้จักแม่ของหนูด้วยหรอคะ” หญิงสาวถามออกไปทันที สำหรับเธอ... ความทรงจำเกี่ยวกับแม่ช่างลางเลือนเหลือเกิน แม่จากไปตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ทิ้งให้เธออยู่กับพ่อที่อายุมากพอจะเป็นคุณตาของเธอได้ แต่พ่อของเธอก็เจ็บป่วยด้วยโรคร้าย ทำให้เธอไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อนัก เธอจึงไม่เคยรู้ว่าบิดามารดารู้จักใครบ้าง และไม่รู้ด้วยว่าพ่อของคีตภัคก็รู้จักแม่ของเธอ

“รู้สิ ฉันรู้จักแม่ของเธอดี แม่ของเธอเคยทำงานกับฉัน... ฉันเสียใจจริงๆ นะเพลงรัก ที่ฉันไม่เคยติดต่อไปหาพวกเธอเลย ฉันไม่เคยรู้ว่าพิณนรีมีลูกสาว จนเมื่อฉันรู้ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่นาน ฉันพยายามตามหาเธอและแม่ แล้วก็ได้รู้ว่าแม่ของเธอจากไปเสียแล้ว ฉันเสียใจจริงๆ แม้แต่งานศพของแม่เธอ ฉันก็ไม่ได้ไป”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เพลงรักเอ่ยทันที เมื่อเห็นสีหน้าของผู้สูงวัยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เธอเอื้อมมือไปกุมมือเหี่ยวที่เส้นเลือดปูดโปนของอีกฝ่ายไว้เพื่อเป็นการปลอบประโลม “แม้ว่าตอนนั้นเพลงจะยังเด็กเกินว่าจะจำอะไรได้ แต่พ่อก็เคยบอกว่าแม่จากไปอย่างกะทันหัน ไม่ทันได้บอกใครนัก เพื่อนของแม่หลายคนก็ไม่รู้ข่าว คุณลุงไม่ต้องเสียใจหรอกค่ะ”

“แต่ว่าฉันไม่ใช่แค่เพื่อน...” ชายวัยกลางคนเอ่ย ดวงตาของเขาจ้องมองมายังเธอเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เขาจึงเงยหน้าไปยังลูกชาย คีตภัครู้ว่าเวลานี้ต้องมาถึง เขาจึงเตรียมใจมาอย่างดียามที่ต้องเอ่ยอย่างที่เตรียมตัวเอาไว้

“เพลง จำที่พี่เคยบอกเพลงได้ไหม เรื่องที่เราเคยคุยกันที่แวร์ซายส์... พี่บอกว่าเพลงเป็นน้องสาวของพี่”

“ค่ะ พี่คีย์รักเพลงแบบน้องสาว เพลงจำได้ แล้ว...” มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เธออยากถามออกไป แต่ก็เพียงละคำไว้ให้เขาเอ่ยต่อ

คีตภัคเหลือบมองพ่อเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นคิรากรหลับตา เขาก็รู้ว่าพ่อกำลังมอบหน้าที่ที่ยากที่สุดให้เขา เขาจึงถอนหายใจ ก่อนจะพูด ‘ความจริง’ “พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไปสำหรับเพลง แต่พ่อกับพี่ก็รอช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว ที่พี่พูด พี่หมายความตามนั้นจริงๆ นะ เพลงเป็นน้องสาวของพี่ เป็นลูกสาวอีกคนของพ่อ”

“พ่อ!?! หมายถึง...พ่อของเพลง หรือว่าพ่อของพี่คีย์ พี่คีย์กำลังพูดถึงอะไร เพลงไม่เข้าใจ”

“ฉันกับพิณเคยมีความสัมพันธ์กัน แต่ว่า...หลังจากที่ภรรยาของฉันรู้เรื่องนี้ พิณก็หนีไป ฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นพิณท้อง ฉันไม่รู้จริงๆ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว เธอคือลูกสาวของฉันกับพิณ... เพลงรัก เธอคือลูกสาวของฉัน”

เหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า เพลงรักอ้าปากค้าง ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ชายวัยกลางคนกำลังพูดภาษาอะไร ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจเลย พักใหญ่ที่เธอตกอยู่ในห้วงแห่งความงงงัน จนกระทั่งแรงหนึ่งกระชากเธอให้ลุกขึ้น พร้อมวัตถุบางอย่างตบกระทบเข้าที่ใบหน้า....รุนแรงจนหน้าหันไปอีกทาง

“แม่!!!” เสียงอุทานด้วยความตกใจของคีตภัคก้องอยู่ในหู เพลงรักหันกลับมาช้าๆ พบหญิงวัยกลางคนในชุดสูทเนื้อดีกำลังยืนจ้องเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำ เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“นางลูกเมียน้อย แกมาที่นี่ทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป นี่!! คีตภัค ฉันสั่งแกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ทำแบบนี้ แกไม่ฟังฉันเลยใช่ไหม แกพามันมาเป็นเสนียดจัญไรแก่บ้านเราทำไม แกอยากทำลายครอบครัวของเราให้ได้เลยใช่ไหม ไล่ออกไป ไล่มันออกไปเดี๋ยวนี้” มารศรีแผดเสียงลั่นด้วยความกราดเกรี้ยว ทุกคนได้แต่ยืนอึ้งเพราะความตกใจ ซึ่งทำให้หญิงวัยกลางคนยิ่งโกรธจัดมากกว่าเดิม
ไม่มีใครทำตามที่เธอสั่ง แสดงว่าเสียงของเธอไม่มีความหมายเลยใช่ไหม

มารศรีที่เพิ่งกลับมาทันได้เห็นสามีตัวเองเรียกหนามยอกอกที่เธอเกลียดนักหนาว่า ‘ลูกสาว’ ถลาเข้าไปจะจัดการกับหญิงสาวร่างอวบซ้ำอีกครั้ง แต่คีตภัคก็รีบคว้าตัวของมารดาเอาไว้ หญิงวัยกลางคนร้องลั่น พยายามทั้งดิ้นทั้งสะบัดเพื่อให้หลุดจากการจับกุม ขณะที่คิรากรพยายามร้องห้าม เพลงรักตัวแข็งทื่อ ได้แต่ยืนมองความวุ่นวายเหล่านั้น ก่อนสมองจะสั่งให้เธอรีบหนีจากทุกอย่างเดี๋ยวนี้
หญิงสาวหมุนตัวแล้ววิ่งตรงไปยังทางออก ท่ามกลางเสียงร้องเรียกของชายวัยกลางคน และเสียงด่าทอจากภรรยาของเขา ซึ่งมันยิ่งทำให้เพลงรักสาวเท้าให้เร็วขึ้นไปอีก ความสับสนและตกใจ ทำให้เธอไม่ได้ใส่แม้กระทั่งรองเท้าที่ถอดไว้ ความเร่งร้อนของเธอทำให้รปภ. ในป้อมด้านหน้ามองอย่างประหลาดใจ แต่เขาก็รีบเปิดประตูให้โดยไม่ซักถาม ร่างอวบจึงก้าวออกมาจากบ้านหลังใหญ่ด้วยหัวใจที่เต้นแรงจนตัวสั่นสะท้าน จนเมื่อแน่ใจว่าความวุ่นวายทั้งหลายจะติดตามมาไม่ได้อีก เธอจึงหยุด

เสียงลมหายใจเข้าออกถี่ดังแต่ยังไม่เท่ากับเสียงของความคิดที่อลหม่านอยู่ในหัว นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์เมื่อกี้คืออะไร เธอฝันไปใช่ไหม เธอควรจะทำอย่างไร หญิงสาวพยายามทบทวนและตั้งสติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างช่างตีบตันเหลือเกิน

“น้าเพลง... น้าเพลง” เสียงเรียกที่แว่วมาจากอีกฝั่งของถนนทำให้เธอหันไปมอง เห็นหลานสาวยืนโบกมือไหวๆ อยู่ข้างรถคันใหญ่ สัมปชัญญะที่หลงเหลืออยู่ไม่มากสั่งให้เธอเดินไปหา แล้วขณะที่เท้าก้าวลงจากฟุตบาท เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของเธอก็กรีดร้องดัง เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ หวาดผวาว่าจะเป็นสายคนที่เธอพยายามหนี แต่เมื่อเสียงเรียกยังคงดังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เธอจึงจำเป็นต้องหยิบมันขึ้นมา แล้วเบอร์ไม่คุ้นที่โชว์อยู่ด้านหน้าก็ทำให้เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนในที่สุดจะกดรับ โดยไม่ยอมกรอกเสียงลงไป จนปลายสายเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน

“ป้า... นั่นใช่ป้าหรือเปล่า”

เสียงคุ้นหูที่ทำให้เพลงรักตกตะลึงอีกครั้งในรอบวัน เสียงที่เธอไม่ได้ยินมานานแต่ยังก้องอยู่ในหัวทุกค่ำคืน ใช่เขาจริงๆ หรือ

“แทนกวี” หญิงสาวเปล่งชื่อเขา ขณะที่ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แม้จะมีความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาในเวลาเดียวกัน แต่ในยามนี้ที่มากกว่าอะไรทั้งหมด คือความยินดีที่เปี่ยมล้นหัวใจ

เพลงรักยิ้ม แต่ขณะที่หยาดน้ำตารินไหล ชั่ววินาทีแห่งความดีใจ รถยนต์คันหนึ่งได้แล่นมาด้วยความเร็วสูง ก่อนพุ่งเข้าใส่ร่างที่ยืนนิ่งอยู่กลางถนน รวดเร็ว... หนักหน่วง จนร่างอวบกระเด็นจนล้มลง

ก่อนที่ภาพเบื้องหน้าจะดับหาย สัมผัสสุดท้ายทำให้เธอได้ยินเพียงเสียงที่แว่วมาตามลมอย่างแผ่วเบา

“ผมคิดถึงป้า”




*****************************
สวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ ไปทำบุญที่ไหนกันหรือเปล่าเอ่ยยย ขอให้มีความสุขกันมากๆ นะคะ

pkka : ก็ต้องมีดราม่ากันบ้างนะคะ 5555
ืnunoi : เสียดายไม่ใช่พี่แทน -___-"
omelate : มาลุ้นกันค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
issabel : ขอบคุณค้าา

ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 มิ.ย. 2555, 19:18:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2555, 19:18:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1798





<< บทที่ 30   เพลงลิขิตบันดาลชักพา ---- แจกนิยายจ้าาา >>
โฉมฉาย 4 มิ.ย. 2555, 20:22:17 น.
มารออ่านค่ะ เรื่องชักจะดราม่าขึ้นเรื่่อยๆ ป้าจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย


omelate 4 มิ.ย. 2555, 21:52:53 น.
โถ่ป้า จะเป็นไงบ้างเนี้ย น่าสงสารที่สุดดดดด....


พลอย 4 มิ.ย. 2555, 22:12:44 น.
เศร้าไปไหม สงสารป้า สงสารแทน


issbel 4 มิ.ย. 2555, 22:26:42 น.
อ้าวววว...ไม่เอาเศร้านะคะ หวานสักทีเถอะน้า


invisible 4 มิ.ย. 2555, 22:54:45 น.
อ่านสองตอนรวด ฮือๆ สงสารป้าอ่ะ


pattisa 4 มิ.ย. 2555, 23:15:37 น.
อย่าบอกนะว่ายัยดาราชน เศร้าเกินไปเเล้วอ่ะ


nunoi 4 มิ.ย. 2555, 23:46:14 น.
สงสารป้าจัง ทำไมเจอแต่เรื่องหนักๆยังไม่พอยังโดนรถชนอีก เศร้าไปไหม๊นี่


wane 5 มิ.ย. 2555, 05:29:37 น.
ไรเตอร์จัดหนักจริงๆ ตอนนี้เศร้าเกิ้นนนนน


ปอยฝ้าย 5 มิ.ย. 2555, 10:54:53 น.
ป้าต้องไม่เป็นอะไรนะ


kungkingsun 5 มิ.ย. 2555, 17:16:14 น.
ใครขับมา อย่าบอกนะว่าดารา แล้วตกลงเป็นพี่น้องกันจริงๆเหรอ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account