ม่านพรหม
เมขลา น้องสาวคนเล็กของผู้การจิรวัติ เธอผู้มีซิกเซ้นส์ สัมผัสพิเศษ สามารถยั่งรู้อนาคตของคนอื่นได้บ้าง..เมขลา ต้องพบกับภัยคุกคามจาก กฤษณะ อดีตคนรักของลูกค้า เพราะเธอไปดูว่า กฤษณะไม่ใช่เนื้อคู่ของเธอคนนั้น...จากเรื่องสนุก ๆ ที่ได้รู้อนาคตคนอื่น เมขลา เริ่มเครียด และเขาก็ค่อย ๆ ทำให้เธอรู้ว่า..คนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าได้นั้น ไม่ได้เกิดจาก รู้ดวงชะตา..
Tags: นายรถไฟ กับยายซิกเซ้นส์

ตอน: 20.2“เขาก็ไม่ได้เกิดมาชาตินั้นชาติเดียวแล้วมากลายเป็นนายกฤษณะในชาตินี้”

สัญญาณโทรเข้าจากกฤษณะหลุดไปเมขลาโทรกลับพอไม่มีสัญญาณก็เดาว่าเครื่องเขาอาจจะแบตเตอรี่หมด..หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายสวมเสื้อผ้าเป็นเสื้อกางเกงชุดนอนเมขลาก็นั่งอยู่บนเตียงในท่าเทพธิดา หลับตาสวดมนต์บทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วก็สวดบทพุทธคุณเท่าอายุตัวเองอยู่พักใหญ่จนกระทั่งรู้สึกง่วงนอน เมขลาจึงกราบพระกับหมอนแบบลวก ๆ สามครั้งแล้วทรุดตัวลงนอนตะแคง..

จิตที่คิดว่าจะหลับสบายกลับรู้สึกเหมือนถูกดูดให้เข้าไปอีกมิติหนึ่ง..และพอสะดุ้งตื่นอย่างชนิดสุดตัวเมขลาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนตั่งในวิมานของรัตนาเมขลาเหมือนครั้งที่แล้ว และครั้งนี้เจ้าของวิมานก็นั่งยิ้มให้ด้วยดวงตาเป็นมิตรเช่นเคย ซึ่งเมขลาเองก็ไม่ได้รู้สึกประหม่าแต่อย่างใด พร้อมกันนั้นเรื่องที่ค้างคาใจของเมขลาก็ถูกถามออกไปในทันทีเช่นกัน

“เด็กสองคนนั้นตายได้อย่างไร แล้วพวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว”

“ที่เขาตายก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด...มันเป็นบุพกรรมของตัวเขาเอง เพียงแต่เธออยู่ในช่วงเวลานั้นพอดี”

“ไม่ใช่ฝีมือของเธอใช่ไหม”

“ไม่ใช่..ต่อไป ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับใครที่อยู่รอบ ๆ ตัวเธอ ขอให้เธอได้รู้ไว้เลยว่า ไม่มีเทวดาตนใดบนสรวงสวรรค์ไปบันดาลให้เขาเป็นไปได้หรอก...กรรมในอดีตชาติ กรรมในปัจจุบันชาติทำเขาเองทั้งนั้น”

“ขอโทษ ที่ตอนแรกคิดว่าเป็นฝีมือของเธอ”

“ก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดว่าเป็นฉัน มนุษย์ส่วนใหญ่ชอบคิดว่า ชีวิตนี้มีเทวดาคอยบงการคอยบันดาลคอยช่วยเหลือ คิดว่าเทวดาอยู่เหนือจิตวิญญาณของตน”

“แล้ววันนี้ ฉันทำไมฉันต้องมาที่นี่อีก”

“เธออาจจะไม่ได้มาอีก”

“ทำไม”

“ถ้าวันหนึ่งเธอต้องเลือก เธอก็จะหมดสิทธิ์เป็นคนพิเศษบนโลกมนุษย์ ด้วยความปรารถนาดีกับเธอ ฉันจึงต้องบอกให้เธอได้รู้ล่วงหน้า”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ถ้าฉันให้เลือกระหว่างลงเอยกับคนที่เธอรัก กับการเป็นเมขลาอย่างทุกวันนี้เธอจะ
เลือกอะไร”

“มันยังมาไม่ถึงนี่” มาไม่ถึงเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกฤษณะนั้นก็เหมือนเพียงศึกษานิสัยใจคอกันอยู่...แม้จะรู้สึกดีกับเขาไม่น้อยแต่เธอกับเขาก็ยังไม่ได้ตกลงว่าจะเป็นคนรักกันหรือแต่งงานกันในวันสองวันนี้

“แต่มันกำลังจะมาถึง..”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ถ้าเธอเลือกที่จะเป็นคนพิเศษ ช่วงที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอจะติดต่อกับฉันได้ แล้วจะมีอะไรที่เธอคาดคิดไม่ถึงผ่านเข้ามาตลอดชีวิตพรหมจรรย์ของเธอ..”
“ขนาดไหน”

“ได้ออกโทรทัศน์ ดังเหมือนดาราคนหนึ่งเลยทีเดียว ใคร ๆ ก็อยากเข้ามาหาเธอ ให้เธอช่วยเหลือ...คนจะรู้จักเธอทั่วบ้านทั่วเมือง เธอจะมีทรัพย์สมบัติเป็นอัศจรรย์ทีเดียว”

“แล้วถ้าฉันไม่เลือกหนทางนี้...”

“สุดท้ายก็สุดแต่บุญแต่กรรมของเธอ ก็อย่างที่ฉันเคยบอกเธอนั้นแหละ พุทธองค์ตรัสไว้แล้วว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ถ้าอยากเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นฟ้าก็หมั่นประกอบคุณงามความดีไว้..เมื่อวิญญาณออกจากร่างก็จะเป็นเหมือนคนหลับแล้วตื่นมาเจอความสุขสบาย แต่ถ้าบาปหนากรรมหนักก็จะได้เจ็บปวดร้องห่มร้องไห้กันไป..”

“ฉันขอถามเธอเป็นเรื่องสุดท้ายได้ไหม”

“เรื่องนายกฤษณะผู้ชายที่เธอหลงรักเขาเข้าแล้ว”

“ใช่” เมขลาแปลกใจตัวเองเหมือนว่าทำไมถึงเผยความรู้สึกลึก ๆ ไปง่าย ๆ เช่นนั้นแต่ว่ามันก็หลุดไปแล้ว..

“อดีตชาติเขาเคยเป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถ ประหารข้าศึกศัตรูที่หวังมาทำลายประเทศชาติไปไม่น้อย และวิธีการเข่นฆ่านั้นก็สารพัดวิธี เกินกว่าที่ฉันจะบรรยายได้..”

“เขาต้องชดใช้กรรมของเขาอย่างนั้นหรือ”

“เขาก็ไม่ได้เกิดมาชาตินั้นชาติเดียวแล้วมากลายเป็นนายกฤษณะในชาตินี้”

“ฉันไม่เข้าใจ”

“กลับไปหาหนังสือธรรมะอ่านบ้างก็ได้..เรื่องสวรรค์ นรก ภพ ภูมิต่าง ๆ องค์พระศาสดาที่รู้แจ้งได้บอกไว้หมดแล้ว ไหนจะพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่รู้ตามจริงนั้นอีกก็มีอยู่ไม่น้อย..คนเราจะประสบเรื่องดีๆ เรื่องร้าย ๆ มันเป็นเรื่องของกรรมที่ร้อยรัดกันไปของแต่ละภพละชาติ ไม่ได้เจาะจงว่า ชาตินี้นั้น ชาตินั้นเท่านี้ ฉันบอกเธอได้แค่นี้”

“ฉันจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน..ฉันรู้อย่างเดียวว่า ถึงจุดหนึ่งเธอต้องเลือก...ฉันบอกเธอได้แค่นี้...แล้วถ้าเราจะไม่ได้เจอกันอีกจวบจนสิ้นอายุขัยของเธอ ก็เป็นเพราะเธอเลือกเอง...เอาละ กลับไปเถอะ”


เช้าวันนั้นเมขลาตื่นเร็วกว่ากำหนดด้วยตั้งใจว่าจะใส่บาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับแหววและเพื่อนชาย กับขอให้ผลบุญส่วนหนึ่งที่ได้ทำนั้นช่วยเหลือกฤษณะกับเรื่องที่เธอยังคาดเดาไม่ได้อีกทางหนึ่ง..ซึ่งวิจิตรศราที่ได้ยินเสียงว่าเมขลาตื่นนอนเร็วกว่าปกติก็ตามลงมาสมทบที่ในครัว

“ตื่นมาทำอะไรแต่มืดแต่ดึกหรือเม”

“ทำบุญให้เด็กสองคนนั่น” เมขลาตอบไปตามตรง

“แม่พระจริง ๆ”

“ฉันรู้ ฉันเห็น อะไรมากเกินกว่าที่จะเล่าให้เธอฟังได้แล้ววิ”

“ถ้าไม่อยากเล่า ก็ไม่เป็นไร..มา มีอะไรให้วิช่วยก็บอก”

“ใส่บาตรด้วยกันแล้ว วันนี้เมขอนะ ขอให้เด็กสองคนนั่นก่อนนะ เขากำลังลำบาก”
เมื่อใส่บาตรกับพระสงฆ์ที่บิณฑบาตผ่านหน้าร้านเสร็จแล้ว เมขลาก็รีบวิ่งขึ้นชั้นสองอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน โดยวิจิตรศราที่ยังรู้สึกเพลีย ๆ เพราะตื่นก่อนกำหนดก็เดินตามขึ้นไปยังชั้นบนด้วย พอสองสาวแยกย้ายกันเข้าห้องส่วนตัว โทรศัพท์ของวิจิตรศราก็ดังขึ้น พอวิจิตรศราคว้าโทรศัพท์มาดูจึงเห็นว่าเป็นเบอร์ของน้องอ้อ ซึ่งการที่เด็กในร้านโทรมาหาเธอในเวลานี้ มันต้องมีเรื่องไม่ดีแน่ ๆ

“มีอะไรหรืออ้อ”

“คุณวิ พี่เมไปทำงานหรือยัง”

“ยัง..มีอะไรหรือ”

“ทำใจดี ๆ นะคะ”

“มีอะไรหรือ”

“เมื่อคืน พี่กฤษณะประสบอุบัติเหตุ รถมอเตอร์ไซด์ล้มคว่ำ...พี่เขาไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อคด้วย” อาวุธนั้นไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของสองสาวจึงต้องโทรหาน้องอ้อแต่เช้า..และน้องอ้อก็ต้องเป็นคนบอกเรื่องนี้กับวิจิตรศราแทนที่จะบอกกับเมขลาโดยตรง

“หมายความว่า”

“ยังไม่ตายค่ะ เป็นตายเท่าๆ กัน อยู่ในห้องไอซียู” น้องอ้อบอกชื่อโรงพยาบาลและรายละเอียด อื่น ๆ ให้วิจิตรศราที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำได้รับรู้ก่อนจะวางสายไป...
และเมื่อเห็นว่าเมขลาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย วิจิตรศราที่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอย่างไรดีก็เดินเข้าไปในห้องของเมขลาแล้วก็เดินกลับไปกลับมา อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ จนเมขลาเองก็รู้สึกได้ว่ามีเรื่องผิดปกติ

“มีอะไรหรือวิ เป็นอะไร”

“วันนี้เมลางานสักวันได้ไหม”

“ทำไม ใครเป็นอะไร” ภวังค์นั้นเมขลาไม่ได้นึกถึงญาติของวิจิตรศราว่าจะมีเหตุไม่ดี แต่หญิงสาวนึกถึงกฤษณะขึ้นมาทันทีเช่นกัน

“กฤษณะใช่ไหม”

วิจิตรศราพยักหน้า..

“เขา ประสบอุบัติเหตุ เมื่อคืน... เดี๋ยวขอเวลาวิอาบน้ำแป๊บหนึ่งนะ เราจะไปเยี่ยมเขากัน เมทำใจ ดี ๆ นะ..”

“หนักขนาดไหน” เมขลากรากเข้ามาจับมือวิจิตรเขย่าถาม

“ก็ เดี๋ยวไปลุ้นที่โรงพยาบาลดีกว่า รอวิแป๊บนะเม ขอเวลาแป๊บ”



ร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องฉุกเฉินนั้นมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะเพราะคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนทางศีรษะอย่างรุนแรง เขาเข้าไปอยู่ในห้องนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยมีทีมแพทย์ได้ระดมความรู้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่...

“หนูเมขลา กฤษณะเขา เขาจะฟื้นไหมลูก” คนเป็นแม่พร่ำถามคำถามนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ว่าเมขลาก็ทำได้เพียงการส่ายหน้า เพราะหลังจากที่จับมือทั้งแม่และพ่อของกฤษณะแล้ว เมขลาก็ไม่สามารถรู้เรื่องอะไรของกฤษณะเหมือนกับที่ไม่เคยมองเห็นเนื้อคู่ของเขาอย่างที่เขาอยากรู้และตอนหลัง ๆ เธอก็อยากรู้เสียเอง

“ถามรัตนาเมขลาสิ” วิจิตรศราที่อยู่ข้าง ๆ เมขลาตลอดเวลากระซิบบอกเมขลาไม่รู้จักกี่ครั้งเช่นกัน แต่เมขลาก็ทำได้ตอบได้เพียงว่า “เขาไม่ยอมบอกอะไรอีกแล้ว เขาบอกว่า มันเป็นกรรมของเขา เขาทำกรรมของเขามาแบบนี้ เขาก็ต้องชดใช้”

“เขาจะกลายเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนั้นหรือ” วิจิตรศรากระซิบถามเบา ๆ
เมขลาส่ายหน้าอีกครั้ง..สายตานั้นก็มองไปหาพ่อกับแม่ของชายหนุ่มที่ยืนกอดกันร้องไห้อยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ส่วนที่นั่งตรงกันข้ามนั้นก็เป็นของอาวุธกับอุมารินทร์ ซึ่งอุมารินทร์นั้นได้โทรไปบอกเรื่องนี้ให้มัทนาได้รับทราบแล้วเช่นกัน ถัดจากอุมารินทร์เป็นจอยที่นั่งหน้าซีดหน้าเซียวโดยมีหน่องช่วยพัดบรรเทาอาการวิงเวียนอยู่ข้าง ๆ

“ไปให้หมอตรวจไหม” เมขลาได้ยินหน่องถามจอยไม่รู้กี่รอบ แต่ว่าจอยก็ยังไม่ยอมลุกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน ระหว่างที่ทุกคนกระวนกระวายใจ จอยก็วิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำอยู่บ่อย ๆ และจอย ก็มองเขลาด้วยสายตารังเกียจ แต่ว่าเมขลาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่ใจนั้นก็ปักไปแล้วว่า จอยกับกฤษณะอาจจะมีอะไรกันอย่างลึกซึ้ง...อาจจะลึกซึ้งขนาดมีหน่อเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ในท้องของจอย...
ความน้อยใจทำให้คิดไปอย่างนั้น..แต่เมขลาก็ได้สติเมื่อนึกถึงคำพูดของเขา..เขาพร้อมจะสาบานเขาพร้อมจะพิสูจน์ เธอจะต้องเชื่อใจเขา...และเธอจะต้องช่วงชิงเขากลับมาเป็นของเธอ ไม่ว่าจะสูญเสียอะไรไปก็ตาม..

และขณะที่ทุกคนกระวนกระวายรอคอยให้เขาฟื้นคืนสติอย่างไม่มีกำหนด โทรศัพท์มือถือของ กฤษณะที่อาวุธรับจากพ่อแม่ของกฤษณะไปชาร์จแบตไว้รอให้เพื่อน ๆ ของกฤษณะโทรมาถามไถ่อาการของเจ้าของเครื่อง ก็ส่งเสียงดังกลับมาพอเห็นชื่อที่หน้าจอ อาวุธก็ทำหน้าฉงนก่อนจะกดรับสาย...

“สวัสดีครับ”

“เจริญพรโยม”

“หลวงพี่..ใครหรือครับ”

“หลวงพี่เอง จำหลวงพี่ไม่ได้รึ”

“ผมไม่ใช่กฤษณะหรอกครับ ผมเป็นเพื่อนของเขา กฤษณะเขาประสบอุบัติเหตุอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ครับ”

หลังจากที่หลวงพี่ทราบอาการของกฤษณะ หลวงพี่ก็นิ่งไปอึดใหญ่ ๆ ก่อนจะแนะนำสั้น ๆ ว่า

“ดวงของเขายังไม่ถึงฆาตหรอก แต่ว่า กรรมเก่ามาตัดรอน ทำให้เขาต้องเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเขายังไม่ได้ออกจากร่าง”

“ทำอย่างไรเขาถึงจะฟื้นครับ..”

“มันต้องมีบุญใหม่และต้องใหญ่มาก”

“บุญอะไรครับ..”

“ถ้าเขาฟื้น ให้เขาบวชสักพรรษาแล้วกัน ขอคุยกับพ่อแม่เขาหน่อยได้ไหม”

วางสายจากหลวงพี่ที่บังเอิญโทรมาคุยธุระกับกฤษณะแล้ว นางกุหลาบก็ยกมือพนมแล้วกล่าวว่า “เจ้าพ่อคู้น ขอให้ลูกชายของอิฉันฟื้นคืนกลับมาด้วยเถิด อีฉันจะให้เขาบวชให้เจ้ากรรมนายเวรหนึ่งพรรษา”

“เจ้าพ่อคุณนี่ใครหรือเม” พอวิจิตรศรากระซิบถามในหัวของเมขลาก็ได้ยินเสียงดาบฟันกันเหมือนอย่างในละครสงครามไทยรบกับพม่า เมขลาหลับตาสำรวจใจทันทีเธออยากรู้ว่าเธอจะสามารถรู้อะไรได้อีกอยากรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้..หลังจากนั้นเมขลาก็ได้ยินเสียงบัญชาการของใครคนหนึ่งที่เสียงดังมาก และเสียงนั้นก็เหมือนเสียงของกฤษณะไม่ผิดเพี้ยน...

“ถ้าพวกมันไม่ยอมบอกก็ทุบหัวมันด้วยท่อนไม้ให้ดับดิ้นไปทีละคน ๆ”...

เมขลาเหงื่อกาฬแตกไปทั่วใบหน้าก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

เหตุดีเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับใครสักคนหนึ่งนั้น มาจากผลกรรมในอดีต..เขาทำกรรมของเขาไว้ กรรมนั้นจึงตามมาตัดรอนให้เขาต้องประสบอุบัติเหตุ จนกระทั่งไปนอนแน่นิ่งอยู่ในห้องนั้น และจะด้วยผลบุญในภพก่อนหรือในภพนี้เมขลาก็ไม่อาจทราบได้ ทำให้เขายังไม่มีลมหายใจอยู่..

อยู่เพื่อรอคอยทำอะไรสักอย่าง อย่างนั้นหรือ...เพื่อรอบวชให้พ่อกับแม่ของเขาอย่างนั้นหรือ?

หรือรอใช้กรรมส่วนอื่น ๆ ที่ยังจบสิ้นในชาตินี้ไม่ได้...

หรือเพื่อรอเธอ..เขารักเธอ เขาจึงรอเธออย่างนั้นหรือ..

เมขลาเดินไปเกาะที่ประตูห้องฉุกเฉิน มองไปยังร่างของคนเจ็บบ้าง...ที่รัตนาเมขลาบอกว่าเธอต้องเลือก เธอต้องเลือกเพื่อเขาอย่างนั้นหรือ รัตนาเมขลากำลังจะบอกว่า เขาเกิดมาเพื่อเธอ หรือเธอเองรู้ด้วยความรู้สึก สัมผัสด้วยจิตวิญญาณของเธอเอง ว่าเขาเกิดมาเพื่อเธอ

ใช่ เขาทำให้เธอมีความสุข เขาทำให้คืนวันสีเทา ๆ ของเธอมีความสว่างไสว...เขาทำให้เธอรักเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมันก็ใช้เวลาไม่นานเสียด้วย

พอคิดได้อย่างนั้น เมขลาก็ หลับตาสำรวจใจพนมมือ บอกกล่าวเทวดาฟ้าดินว่า

“ลูกไม่รู้หรอกว่าอนาคตเขามีความสำคัญกับลูกมากแค่ไหน แต่ปัจจุบันนี้ลูกรักเขา ดังนั้น ลูกขอแลกกับชีวิตเขาไว้ ขอให้เขาฟื้นคืนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ลูกก็พร้อมจะเป็นคนธรรมดา”

สิ้นคำพูดในใจของเมขลา...หญิงสาวก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของรัตนาเมขลา หลังจากนั้นเมขลาสติรับรู้ของเมขลาก็พร่าเลือน...



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 มิ.ย. 2555, 07:38:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 มิ.ย. 2555, 07:38:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 2215





<< 20.1ท่านรู้ว่าใครคู่กับใคร แม้ท่านออกมายืนยันเองไม่ได้ จับมือให้ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ได้ แต่ว่าท่านก็พยายามที่จะบอก   21.1 “ที่นี่เป็นที่ท่านจะได้อยู่เสวยสุขเป็นเวลานานเท่านาน ทำไมท่านไม่อยากอยู่ละ” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 4 มิ.ย. 2555, 07:39:26 น.
อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วรู้สึกอยากทำบุญทำกุศลขึ้นมา จิตใจเป็นกุศลขึ้นมา ผมก็อ้างเอาบุญนั้นขอให้เพื่อนนักอ่าน ประสบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นกันครับ.. //ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะคัรบ


imsoul 4 มิ.ย. 2555, 08:18:11 น.
สาธุ


โซดา 4 มิ.ย. 2555, 09:16:37 น.
ชอบมากค่ะ ผู้แต่งอย่าปล่อยให้คนอ่านรอนานนะค่ะ


แว่นใส 4 มิ.ย. 2555, 10:00:45 น.
ยัยจอยท้อง แล้วบอกเป็นลูกของกฤษณะแน่เลย


คิมหันตุ์ 4 มิ.ย. 2555, 14:29:47 น.
สาธุจ้าคุณเฟื่อง รอเชียร์ตาน้าอยู่ แล้วหนูเม เป็นลมทำไม?


nutcha 4 มิ.ย. 2555, 15:19:45 น.
คะนัาสู้ ๆ


anOO 4 มิ.ย. 2555, 17:06:15 น.
ถึงเวลาต้องเลือกแล้วจริงๆ กรรมมันมีติดตัวกันมาทุกคน


Zephyr 4 มิ.ย. 2555, 18:24:59 น.
สาธุ แปลว่าหนูนายอมแลกพรสวรรค์กับชีวิตของคะน้าสินะ


tuktuk 4 มิ.ย. 2555, 19:39:02 น.
สาธุด้วยค่ะ คุณเฟื่อง


wii 4 มิ.ย. 2555, 20:40:51 น.
อย่าบอกนะว่ารัตนาเมขลาจะลงมาเกิดเป็นลูกของหนูเมกับนายคะน้าเค้าน่ะ เพราะเธอเคยบอกหนูเมว่าอีกไม่นานก็จะตามลงมานี่นา


มะกัน 4 มิ.ย. 2555, 23:54:44 น.
ซึ่งมากเลยค่ะ ตอนที่บอกว่า ลูกก็พร้อมจะเป็นคนธรรมดา T__T


Orathai 5 มิ.ย. 2555, 01:30:54 น.
เศร้าปนซึ้งค่ะ...อ่านแล้วทำให้รู้สึกอยากทำบุญจริงๆค่ะ...ไม่รู้เราเคยทำกรรมอย่างไรมาบ้าง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account