ลิลลี่สีเพลิง

Tags: โรแมนติก-ดราม่า

ตอน: การเริ่มต้นของสายสัมพันธ์...2

อิศราวดีแกล้งเจซาเร็ตด้วยการเลี้ยงอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขาพันกว่าสาขาทั่วโลก บุรุษหนุ่มทั้งขำทั้งฉิวคนชอบแกล้งที่งกเงินแต่ก็ไม่ว่าอะไร จัดการเลือกสั่งอาหารพร้อมกับหญิงสาว ก่อนจะเดินลำเลียงคู่กันมานั่งที่โต๊ะว่าง จัดการแฮมเบอร์เกอร์กับมันฝรั่งทอดอย่างเรียบง่าย หนุ่มสาวนั่งสนทนากันด้วยหัวข้อสัพเพเหระ โดยที่อิศราวดีไม่ลืมที่จะถามไถ่อาการบาดเจ็บของเขาว่าหายดีแล้วหรือยัง และเจซาเร็ตก็รู้สึกว่าตนคุยถูกคอกับอิศราวดีเป็นเวลาชั่วโมงกว่า จนกระทั่งแสงสุดท้ายของวันเริ่มจางหาย ภายในร้านฟาสต์ฟู้ดจึงสว่างไสวมากกว่าเดิม
“ฉันต้องกลับแล้วค่ะ”
“ฉันจะไปส่ง และพรุ่งนี้จะมารับเธออีก แค่เลี้ยงมื้อเดียวยังไม่เพียงพอกับค่าซ่อมรถของฉันหรอกนะ” เจซาเร็ตยิ้ม เมื่อเห็นอิศราวดีค้อน เสริมต่อว่า
“ถ้าไม่รังเกียจ ฉันอยากทานอาหารฝีมือเธอสักครั้ง ถ้าเธอยอมรับคนแปลกหน้าคนนี้เข้าบ้าน” สีหน้าของเขาดูขี้เล่น แต่แววตาจริงจังจนตรึงสายตาคู่หวานของหญิงสาวได้ชั่วขณะ อิศราวดีหลุบตาลงต่ำ ครุ่นคิดทั้งๆที่ใจเต้นตึกตัก ความรู้สึกบางอย่างกระซิบบอกว่าเธอไว้วางใจผู้ชายคนนี้ได้
“งั้นพรุ่งนี้ฉันจะรอเจซาเร็ตมารับ แล้วเราไปเลือกซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกันนะคะ”
“ตกลงจ๊ะ คนสวย” บุรุษหนุ่มยิ้มกว้าง
อิศราวดีสะพายกระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินตามเจซาเร็ตออกจากร้านเพื่อขึ้นนั่งเจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิลกลับบ้าน ครั้งแรกที่นั่งเจ้าสุดเปรี้ยวคันนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะกอดเอวเขาเพื่อกันตก จนเจซาเร็ตต้องหันมาคว้าลำแขนเธอโอบเอวแทน ตอนแรกเธอสุดแสนขัดเขินกับความใกล้ชิดเกินควร แต่เพราะเขากระซิบดุและคาดโทษ อิศราวดีจึงต้องกอดเอวเขาแน่นไปตลอดทาง และในครั้งนี้เธอไร้ซึ่งความเคอะเขินแล้ว สามารถที่จะกอดรอบเอวเขาได้อย่างสบายใจและอบอุ่นใจด้วยซ้ำ
ฮาร์เลย์ เดวิดสันสีเงินวาววับจอดสนิทหน้าบ้านพักหลังกะทัดรัดไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยมากนัก สามารถเดินไปถึงได้ภายในยี่สิบนาทีหรือไม่ก็เลือกนั่งรถเมล์ อิศราวดีก้าวลงจากมอเตอร์ไซค์ ยื่นหมวกกันน็อกคืนเจ้าของ
“เก็บไว้เถอะ พรุ่งนี้ยังต้องใช้อีก และอาจจะ...ตลอดไป” เจซาเร็ตทอดเสียงนุ่มในตอนท้าย ตรึงเรียวตาคู่สวยด้วยประกายประหลาด อิศราวดีรีบหลุบตาลงต่ำมิกล้าประสานสายตาตรงๆ กลัวตัวเองจะเปิดเผยความรู้สึกออกไปให้เขาจับได้ ก่อนสายตาจะแลเห็นรอยสีถลอกและรอยขีดข่วนเป็นเส้นยาวบนตัวถังเจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิล หญิงสาวเผลอเดินไปลูบรอยนั้นแผ่วเบาด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้น
“ฉันพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พรุ่งนี้ฉันจะเอาไปให้คุณไว้นำไปจ่ายค่าซ่อมแซมเจ้าซิลเวอร์ สปารคเคิลนะคะ” เธอรู้จักชื่อเพื่อนยากของบุรุษหนุ่มจากการถามเขาในร้านฟาสต์ฟู้ด
“ไม่จำเป็นหรอก แค่เธอไถ่โทษด้วยการทำอาหารให้ฉันทานทุกครั้งเวลาที่ฉันมาหาเธอก็พอแล้ว เอลย่า”
“เหมือนแฟนกันเลย” อิศราวดีอุบอิบ หน้าแดงระเรื่อ เจซาเร็ตหัวเราะร่วน
“เฮ้...เอลย่า ฉันคิดว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะ เธอยังเห็นฉันเป็นคนแปลกหน้าอีกอย่างนั้นหรือ”
“ก็...ฉันคิดว่าคุณแค่ขอคบเล่นๆเท่านั้น” บุรุษหนุ่มหัวเราะอีกครั้ง เอื้อมคว้ามือบางมากุมหลวมๆ
“ฉันจริงจังนะ...กับเธอ” เจซาเร็ตบอกเสียงทุ้มแผ่ว มองอิศราวดีด้วยสายตาอ่อนโยนลึกซึ้ง หญิงสาวจ้องตอบเขาอย่างเปิดเผยความรู้สึก ทั้งตื้นตันใจ ดีใจ คาดหวังและโหยหา เจซาเร็ตหัวใจสั่นไหวเมื่อเห็นความหมายในดวงตาสีม่วงแสนสวย
“แต่ฉันไม่รู้ว่าเธอจะจริงจังกับพนักงานล้างรถอย่างฉันแค่ไหนกัน เธอเป็นลูกคนรวย แต่ฉันก็แค่หนุ่มจนๆคนหนึ่ง” น้ำเสียงมิได้แฝงความดูถูกตัวตน แต่มันเรียบเฉยเหมือนสีหน้าจนน่าตกใจ อิศราวดียกมือบางอีกข้างทับมือหนาอุ่นที่กุมมือเธอหลวมๆ มองเขาอย่างปลอบประโลม คลี่ยิ้มอ่อนโยน
“ไม่สำคัญหรอกค่ะความรวยความจน...ค่าของคนมันขึ้นอยู่กับการกระทำ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี เจซาเร็ต และฉันก็ภูมิใจในสิ่งนี้ ถ้าฉันจะรักใครสักคนก็ต้องเพราะเขาเป็นคนดี...เวลานี้คุณอาจจะเป็นแค่พนักงานล้างรถธรรมดา แต่ในวันหนึ่งใครจะรู้ล่ะคะว่าคุณอาจจะเป็นมหาเศรษฐีก็ได้ คนรวยคนจนมีเวลาที่เท่ากัน ต่างกันตรงที่ว่าพวกเขาจะใช้เวลาให้คุ้มค่ามากแค่ไหน ฉันชอบเจซาเร็ตตรงที่คุณเป็นคนใจดีค่ะ ถ้าคุณเป็นคนใจดีคุณก็ต้องเป็นคนดีด้วย”
“อย่างงั้นหรือ...คนใจดีคือคนดีอย่างงั้นหรือ” บุรุษหนุ่มยิ้มรับบางๆ อิศราวดีพยักหน้า ก่อนถอนมือบางออกอย่างนุ่มนวล หันหลังเดินเข้าไปในรั้วบ้านแล้วหันกลับมามองเขา พร้อมโบกมืออำลา
“เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ เจซาเร็ต” อิศราวดียืนมองดูเขาสตาร์ทเครื่อง เจซาเร็ตฉีกยิ้มบาดตาบาดใจ พินิจมองเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดกระโปรงยาวสีขาวปักลายดอกไม้ที่ส่งให้เจ้าของร่างโปร่งระหงดูบอบบางเหมือนดอกไม้
เอลย่าเหมือนลิลลี่...ใช่...ลิลลี่สีขาวที่บอบบาง หากดูน่ารัก พิสุทธิ์ และสง่างาม...
เจซาเร็ตไม่สวมหมวกกันน็อก เขาเดินเครื่องจากไปด้วยความเร็วปานกลาง บุรุษหนุ่มกำลังวุ่นวายใจ เอลย่า...ไม่ใช่สาวในสเปกเขา แต่ทันทีที่ประสานสายตากันบนหน้าต่างห้องนอนของเธอ สเปกสาวในฝันเขาก็ละลายหายไปราวกับสายหมอกต้องแสงอรุณ และจากการทำความรู้จักกันและกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในวันนี้ เขาก็พบว่าเอลย่าไม่ใช่สาวน้อยจืดชืดเหมือนการแต่งตัวของเธอ เธอคุยสนุก มองโลกในแง่ดี และหัวเราะง่าย เธออ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติคนทุกชนชั้นเวลาเขาแสร้งคุยเรื่องการเมืองกับคนยากจน เอลย่ามีทัศนคติที่เป็นกลางและบางทัศนะใช้ไม่ได้กับความเป็นจริงบนโลกการเมือง แต่เขาก็รู้สึกว่ามุมมองเธอน่าทึ่ง
เธอเล่าให้เขาฟังว่ากำลังเรียนปีสอง ช่วงนี้เธอต้องเรียนหนักและทำรายงานให้ดีเพื่อนำไปใช้สมัครเข้า WWS การได้เข้าเรียนในWWS ถือเป็นความฝันส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ แล้วเขาจะคู่ควรกับหญิงสาวที่ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้สูงอย่างเธอได้เช่นไรกัน
พระเจ้า...คนอย่างเจซาเร็ต เดโอบานส์ แม็คลาฟลิน หนุ่มเสเพลแห่งบรู๊คลินต้องการครอบครองและเป็นเจ้าของยัยเพี้ยนคงแก่เรียนจนแทบกระอักเลือดตายได้ ถ้าเขาไม่ได้กอดร่างนุ่มนิ่มของเธอในเร็ววันนี้ แน่นอน...เขาต้องการให้เธอนอนข้างกายเขาตราบชั่วชีวิต ซึ่งไม่เคยมีสาวสวยนางใดทำให้เขาร้อนรุ่มยิ่งกว่าตกอยู่ในดงเพลิงได้เท่าเอลย่าอีกแล้ว
แต่ให้ตายเถอะ...เขาอายุ25 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง นอกจากใช้ชีวิตสุดโต่ง เป็นเพลย์บอยสุดแสบ ยกเว้นเรื่องยาเท่านั้นที่เขาทำตามคำขอร้องของพ่อว่าจะไม่เข้าไปยุ่ง และถ้าเขาอยากจะให้ตัวเองคู่ควรกับเอลย่า เขาก็ต้องกลับไปหา...พ่อ!



อิลวลาอิลตาร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 มิ.ย. 2555, 18:08:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มิ.ย. 2555, 18:09:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1214





<< การเริ่มต้นของสายสัมพันธ์...1   การเริม่ต้นของสายสัมพันธ์...3 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account