วิวาห์บ่มรัก
เสน่ห์ของผู้ชายคืออะไรนะ
รูปร่างหน้าตา น้ำจิตน้ำใจและนิสัยใจคอ หรือถ้อยคำยามเจรจาพาทีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งในสิ่งเหล่านี้หรือว่าควรจะทั้งหมดนั่น
ก็แล้วถ้าคนสองคนที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน
แต่หลายๆ อย่างกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิงเล่า
แบบนี้แล้วฝ่ายไหนควรจะมีเสน่ห์มากกว่ากัน
ใครกันที่หัวใจบอกว่าใช่ หัวใจบอกว่ารัก...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่1

มีไม่มาก เพราะจิ้มเสร็จก็แด๊ะแด๋มาลงเลย ไม่มีสต็อก
ขอฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้ง แวะเวียนมาแล้วทักทายกันสักนิดก็ดีเด้อจ้า

วัฒน์นันท์

บทที่ 1

จอมจันทร์เหลือบมองหน้าอดีตเจ้านาย...ผู้ชายที่เข้าใจว่าเขาคืออิศวร รัตน์บวรสกุล แล้วจึงเมินหนีคล้ายไม่อยากเห็นหน้าอีก หัวใจพลันกระตุก เจ็บจี๊ดขึ้นมาครามครัน

“ใช่ค่ะ”

“แกแน่ใจนะ”

“ทำไมพี่ฟ้าถามแปลกๆ”

“เออน่า...ตอบมาเหอะ”

จอมจันทร์นึกฉงน ไยพี่ชายจึงซักถามราวกับว่าคนที่จับมาไม่ผิดตัว ในขณะที่อินทัชนึกลุ้นอยู่ในใจ หวังสุดชีวิตว่าหญิงสาวจะช่วยยืนยันตัวตนที่แท้จริงให้

หล่อนปรายตามองเขาเพียงนิด พลางตอบสั้นๆ แล้วจึงเมินหนีอีกครั้ง

“เขามีแผลเป็นที่คาง คงเป็นคนอื่นไม่ได้หรอก”

ยินคำยืนยันนั้นแล้ว อินทัชก็หน้าเหี่ยว ความหวังที่หมายมาด อยากให้จอมจันทร์ช่วยบอกนายข้ามฟ้าปล่อยเขาไปเริ่มริบหรี่สลัวราง ด้วยว่าท่าทางของหญิงสาวคล้ายขุ่นเคืองบางอย่างในตัวเขาอยู่กระนั้น ทั้งยืนยันถึงแผลเป็นที่ตนมีเสียอีกด้วย

ครั้นพินิจดูหล่อนชัดๆ ก็พบว่ารูปร่างแสนอรชรแลดูอวบอิ่มสมบูรณ์กว่าเดิมมาก...พูดง่ายๆ ก็คือ อ้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าให้เรียกแบบถนอมน้ำใจน่าจะเป็นคำว่า อวบระยะสุดท้ายนั่นล่ะ

เกิดอะไรขึ้นหนอ จอมจันทร์จึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้ และมีสิ่งใดบาดหมางระหว่างนายข้ามฟ้าจอมโหดกับอิศวรหรือไร เขาจึงได้เป็นเดือดเป็นแค้นแทนเสียนัก

นี่เขาคงไม่รู้เลยกระมังว่าทำพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะสุดท้ายก็จับผิดตัว

“นายจะต้องอยู่ที่นี่ รับผิดชอบกับเรื่องชั่วๆ ที่เคยทำไว้”

ฟังคำประกาศิตดังลั่นที่ข้ามฟ้าพูดแล้วอินทัชก็ใบ้กิน นานทีเดียวกว่าจะเค้นเสียงออกมาตอบโต้ได้

“ผมว่าต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ ผมไม่เคยทำผิดอะไรกับคุณนะ อย่ามากล่าวหา...”

“หุบปากปากไปเลย...ยังมีหน้ามาสะตออีก”

“ผมไม่ได้โกหก แต่พยายามจะบอกความจริง” อินทัชไม่ยอมแพ้ เพราะเขาไม่มีวันสวมบทโสรยารับโทษทัณฑ์แทนพี่ชายแน่ๆ จะว่าเห็นแก่ตัวก็ยอมล่ะ

แค่คิดก็ขนลุกขนตั้ง เพราะนางเอกตามท้องเรื่องถูกปลุกปล้ำทรมาน แล้วถ้าเขายอมรับสมอ้างจะมิถูกไอ้หมอนี่พาไปตุ๋ยให้เสียเชิงชายหรอกหรือ

ไม่มีวัน...แม้ความบริสุทธิ์จะเสียไปตั้งแต่อายุสิบแปด จำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าตกเป็นของสาวสวย หมวย เอ็กซ์ ไปกี่รายแล้ว แต่เขาก็ไม่มีวันยอมตกเป็นของนายข้ามฟ้าจอมโหดนี่เด็ดขาด...สาบาน

“ไม่ฟังเว้ย...”

“แต่ผม...ไม่ใช่อิ...” ครั้นจะบอกว่าไม่ใช่อิศวรผู้เป็นพี่ชาย ข้ามฟ้าก็ชี้หน้าให้หุบปากพลางตวาดจนสะดุ้งไปตามๆ กัน

“ก็บอกว่าไม่ฟังไงโว้ย!!!”

เออหนอ จะบอกว่าไม่ใช่นายอินทร์ก็ไม่ฟัง ถ้างั้นถามสักหน่อยก็แล้วกันว่าสรุปแล้วความผิดทั้งหลายทั้งมวลเกิดจากอะไร

“แต่คุณควรให้โอกาสผมบ้าง ผมควรรู้ว่าทำผิดเรื่องอะไร”

ข้ามฟ้าแยกเขี้ยว หายใจแรงแล้วหันไปทางจอมจันทร์ สายตายามมองน้องสาวอ่อนแสงลงเพราะความรักที่มีให้ ก่อนบอกเสียงรอดไรฟันว่า

“นายบังอาจทำน้องสาวฉันอกหัก”

“เฮ้ยคุณ...ผม...เนี่ยนะ” อินทัชตาเหลือกขณะเลื่อนมือขึ้นชี้หน้าตัวเอง อีกฝ่ายตอบเสียงเข้มเป็นมะนาวไม่มีน้ำ

“เออ”

“แต่...” อินทัชอยากบอกว่า เขาไม่เคยคิดจะจีบหญิงสาวเสียด้วยซ้ำ หากก็ยั้งปากไว้เสียก่อน ขืนบุ่มบ่ามพูดอะไรไม่เข้าท่าคงโดนหนัก กระนั้นก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งล่ะว่าถูกจับมาด้วยประเด็นทำจอมจันทร์อกหัก มิใช่ความผิดที่เกิดกับนายข้ามฟ้าโดยตรง

โอย...จะทำยังไง จะเอาตัวรอดจากสภาพโสรยา...เอ๊ย...สถานการณ์น่าวิกฤตไปได้อย่างไร คร่ำครวญในใจแล้วก็ชักจะรู้สึกคันยิบๆ จึงขยับมือไม้ถู จิกเกาไปตามหน้าตาเนื้อตัว นี่เขาคงไม่ได้แพ้ฉี่ไอ้เด็กนรกที่ชื่อป๋องนั่นหรอกนะ

“อาจอม...ลุงคนนี้เขาเป็นขี้กลากหรือเปล่า ถึงได้เกาเป็นลิงไม่หยุดเลย” เด็กหญิงวัยสิบขวบเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรก แต่ละคำล้วนเรียกรอยยิ้มไปตามๆ กัน อินทัชทำหน้าเซ็งเมื่อยินคำที่ถูกเรียก ฟังแล้วมันแก่พิลึก ก่อนจะนึกสะดุดหูกับคำเรียกขานจอมจันทร์

อา...ที่หมายถึงน้องของพ่ออย่างนั้นใช่ไหม เหลือบมองข้าฟ้าแล้วคำนวณอายุคร่าวๆ ภายในใจ นายจอมโหดนี่ดูหนังหน้าแล้วอายุน่าจะไม่ถึงสามสิบ ถ้ามีลูกสาวโตขนาดนี้จะมีลูกตอนอายุเท่าไหร่หนอ...อาจไม่ใช่กระมัง คงเป็นลูกของพี่น้องคนอื่นนั่นล่ะ

อินทัชเอาตัวเองเป็นตัวชี้วัด เนื่องจากยังไม่มีห่วงผูกคอแม้จะอายุขึ้นเลขสามแล้วก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่อิศวรผู้พี่ด้วยเช่นกัน

“ผมว่าคุณปล่อยผมไปดีกว่า จับผมมาแบบนี้เท่ากับลักพาตัวแล้วยังจะพยายามกักขังหน่วงเหนี่ยวมันผิดกฎหมายนะคุณ” บอกไปพลางเกาไปพลางส่งผลให้เด็กชายสุดแสบทั้งสามหัวเราะร่วน เพราะขำกับท่าทางเกาเป็นลิงของชายหนุ่ม

“ที่สำคัญ ตอนนี้ผมอยากอาบน้ำมาก ผมคัน แสบ แล้วก็เหม็นตัวเองสุดๆ”

“ไม่กลัว ไม่ปล่อย...มีอะไรมั้ย” ข้ามฟ้าตอบกวนๆ แต่จอมจันทร์คิดต่างจากพี่ชาย ด้วยว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องบานปลาย

“พี่ฟ้า...จอมว่า...”

“ไม่ต้องพูดเลยยายจอม ฉันรู้ว่าแกจะพูดอะไร ไม่ว่ายังไงก็ตามไอ้หน้าหล่อนี่ต้องได้รับบทเรียนที่บังอาจมาแตะกล่องดวงใจ...” พูดแล้วก็หยุดนิ่งไปนิด ก่อนจะเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่เพราะคำว่ากล่องดวงใจมันมีความหมายชวนจั๊กจี้เกินไป

“เอ่อ...แก้วตาดวงใจของพี่ เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไว้กับแก!”

“เฮ้ย จะให้ผมรับผิดชอบอะไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย มั่วแบบนี้ไม่ดีนะ นี่มันยุคไหนแล้ว คนมีการศึกษาเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก ถามจริงเหอะ...กลัวน้องสาวหาสามีไม่ได้ใช่มั้ย ถึงต้องจับผมมาแบบนี้”

ฟังคำนี้แล้วสองพี่น้องก็ของขึ้น ข้ามฟ้าถึงกับเลือดขึ้นหน้าขาดสติรีบปรี่เข้าหา ก่อนจะกระชากคอเสื้อคนปากดีแล้วต่อยไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูกสุดแรง

อินทัชเซแซดๆ ไม่เป็นท่า ปากที่บวมเป็นครุฑอยู่แล้วมีเลือดซึมออกมาอีกระรอก และเพราะคำแสนดูถูกเหยียดหยามเสียที่ได้ฟัง จอมจันทร์จึงสาปส่งชายหนุ่มด้วยการยุพี่ชายเสียเลย

“พี่ฟ้าอยากจะล่ามโซ่ ทรมาน หรืออยากทำอะไรกับผู้ชายคนนี้ก็ทำไปเลยค่ะ แต่ช่วยเอาไปอยู่ไกลๆ ให้พ้นสายตาจอมด้วยนะคะ เพราะจอมไม่อยากเห็นหน้า...หรือแม้แต่เงาของเขาอีกแล้ว” หล่อนเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนจะดึงหลานสาวเดินจากไปโดยไม่เหลียวมองมาอีกเลย

อินทัชอ้าปากค้าง มองตามตาปริบๆ ก่อนจะหลับตาพลางกัดริมฝีปากเมื่อรู้ตัวว่าทำพลาดไปเสียแล้ว ครั้นเหลียวกลับมายังข้ามฟ้าจึงพบว่าอีกฝ่ายยิ้มเหี้ยมเกรียมอย่างไรพิกล

ขนลุกชันอย่างเสียวสันหลังขึ้นมาพลัน แล้วสิ่งที่กริ่งเกรงก็เป็นจริงเมื่อคำพิพากษาถูกประกาศก้องออกมา

“ไอ้เดช ไอ้ยา จัดการเอาไอ้หน้าหล่อนี่ไปขังที่หลังบ้าน ล่ามโซ่มันไว้ด้วยล่ะ”

“เฮ้ยคุณ...คุณจะทำกับผมอย่างนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ใช่ไอ้ด่าง ที่สำคัญ ผมอยากอาบน้ำ...” ชายหนุ่มขอร้อง พลางขัดขืนทุกวิถีทาง ทว่าไม่เป็นผลเลยสักนิด เพราะท้ายที่สุดเขาก็ถูกนายยาใจและนายเดช...ชื่อเสียงเรียงนามเต็มๆ ว่าณเดชซึ่งเจ้าตัวภูมิใจเสียนักหนา หิ้วปีกกันคนละข้างก่อนจะถูกลากถูลู่ถูกังไปยังทิศทางที่ข้ามฟ้าบัญชาการ

“ไม่ไป...ปล่อย...ปล่อยสิว้อย ฉันไม่ใช่นายอิน ฉันคัน ฉันอยากอาบน้ำ...เฮ้ย...ปล่อย...” ระหว่างโวยวาย นายณเดชนึกรำคาญเลยสอยปลายคางเชลยคนสำคัญจนสลบคามือ

“ค่อยเงียบหูหน่อย โวยวายน่ารำคาญ เฮ้ยรีบลากไอ้หมอนี่ไปเร็วๆ เถอะว่ะ มันกลิ่นตุๆ ฉุนๆ ชอบกลจะอ้วกแล้วว้อย”

นายยาใจพยักหน้าเออออ แล้วรีบออกแรงอย่างแข็งขันพาอินทัชไปขังที่กระท่อมปลายนา...เอ๊ย กระท่อมท้ายบ้าน กระทั่งไปถึงทั้งสองจึงผลักคนหมดสติเข้าไปนอนเค้เก้อย่างไม่ดูดำดูดี ก่อนจะจัดการล่ามโซ่ที่ข้อเท้าชายหนุ่มตามคำสั่งของเจ้านาย



พินพัชน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มิ.ย. 2555, 19:43:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มิ.ย. 2555, 19:43:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 1426





<< บทนำ(รีไรท์)   2 >>
Edelweiss 9 มิ.ย. 2555, 20:49:48 น.
โศรยาขาวีน อิอิ


ใบบัวน่ารัก 9 มิ.ย. 2555, 22:46:29 น.
ใครเค้าพูด ฟังบ้าง จับผิดคนมา
หนังไทยอีก ไม่ยอมฟังคนเค้าพูด
อธิบายกันซะเลย แย่


anOO 11 มิ.ย. 2555, 16:41:40 น.
ชักอยากรู้เหตุผลที่แท้จริงของยัยจอมซะแล้ว


ปูจ้า 17 ก.ย. 2555, 18:33:15 น.
ฉี่นี้จะไม่ให้เค้าได้ล้างออกเลยหรือคะ 555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account