วนาลีสีดำ
ปริศนา..ฆาตกรรม หนามชนวนชั้นดีกำลังรอคอยการล้างลบมลทินครั้งสำคัญ ความสะพรึงกลัวยังคงคละคลุ้งในเงามืด..เพราะ "มัน"..พรางตัวอยู่ ณ ที่แห่งนั้น..วนาลี!!
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๒ อิสซาเบล มอร์แกน

กลิ่นศพเน่าที่เสียชีวิตไม่ต่ำกว่าสามวันลอยอวลไปทั่วห้อง พลอยกุมภาผละจากศพที่จัดการเอาอวัยวะภายในออกหมดแล้ว ไปยังอ่างอะลูมิเนียมทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเกือบสุดผนังตรงกลางห้อง เพื่อดำเนินการแยกชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกขนไปวางโดยเจ้าหน้าที่ให้เป็นสัดส่วน อีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือ ตัดชิ้นเนื้อบางส่วนที่พบความผิดปกติจากการสังเกตด้วยตาเปล่าแยกใส่ขวดสีขาว นำส่งให้พยาธิแพทย์ตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ต่อไป

หญิงสาวหันไปตรวจสอบความเรียบร้อยของศพหญิงชราทีเพิ่งถูกเย็บหนังศีรษะเข้าด้วยกัน หลังจากสอยรอยผ่ากลางลำตัวเสร็จสิ้นดีแล้ว ศพนี้คุณหมอสาวแทบอย่างจะระบายลมหายใจยาวสักสองตลบแก้เบื่อ ไม่ใช่เบื่อในหน้าที่รับผิดชอบของตน ซึ่งเป็นแพทย์เวรผ่าศพชันสูตรที่ห้องศพของรพ.ในวันนี้ เพียงแต่เธออยากจะทำงานที่มันท้าทายความสามารถมากกว่า มานั่งผ่าศพคนชราภาพตาย ที่ถูกส่งมาชันสูตรไปแกนๆ ไม่มีญาติ ไม่มีคดี ไม่มีการสืบหาหลักฐานใด ไม่เข้าใจว่าพวกสถานสงเคราะห์คนชราที่ลูกหลานเอาญาติไปทิ้งจะขยันส่งเคสมาให้ผ่าอะไรกันนักหนา ตั้งแต่เช้ามาเธอยังไม่ได้แตะเคสแปลกใหม่อะไรเลยนอกจาก ผ่าอีหรอบเดียวกันไปถึงสี่ศพ จนเกือบจะพักเที่ยงแล้ว เธอยังต้องอยู่กับความจำเจอย่างนี้ไปตลอด

นึกแล้วก็ให้ขัดใจนายตำรวจใหญ่คนนั้นจริงๆ ถ้าไม่เพราะความขี้เกียจไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อหน้าที่เช่นนั้น ป่านนี้เธอก็คงได้ศพคดีฆาตกรรมมาชันสูตรลับฝีมือไปแล้ว อีกอย่าง...เรื่องที่เธอยังเคลือบแคลงในตอนนั้น..อาจจะได้รับการคลี่คลาย และพลิกคดีให้กลายจากหลังเท้าเป็นหน้ามือได้เลยทีเดียว..นึกแล้วหญิงสาวก็ทำได้เพียงเสียดาย..และสงสาร ด้วยความเป็นมือใหม่ของที่นี่ เธอจึงต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การปฏิวัติจริงจังเสียที อย่างน้อยก็ต้องหาพวกพ้องให้พอถูไถก่อนล่ะ...แต่นี่เธอยังไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวกับหัวใจ และความสามารถที่ถูกเก็บซ่อนไว้จนแทบเฉาตาย

เศษเนื้อจากตับกลีบขวาส่วนมุมล่างถูกตัดออก แล้วหย่อนลงในขวดใบสุดท้าย ไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากความผิดปกติดาษดื่นของคนดื่มเหล้าจัด สภาพความเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อที่รู้จักกันดีในนาม ตับแข็ง ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกได้ใช้ความสามารถอะไร หรือได้เห็นอะไรแปลกใหม่ไปกว่าคราวเรียนครั้งกระโน้นเลยสักนิด ภารกิจเสร็จสิ้นลงเมื่อเข็มนาฬิกาที่หน้าปัดข้อมือบอกเวลาเที่ยงตรง กะจะเรียกพักพวกในห้องอีกสามคนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน แต่พอเงยหน้าขึ้นมาพบเจ้าหน้าที่ทั้งสามคนที่เหลืออยู่ในห้องผ่าศพกำลังขะมักเขม้นกับการล้างศพ บ้างก็เย็บศพ ท่าทางมีสมาธิและเอาจริงเอาจังกันมากเกินกว่าที่เธอจะเข้าไปขวาง หญิงสาวเลยต้องเดินแกร่วออกมาจากห้องกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นเพียงลำพัง ด้วยท้องไส้กำลังประท้วงจนเกินรอไหวเสียแล้ว

“ไงยัยซ่า..งานล้นเสียจนหน้าโทรมเลยหรือ” พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นจากข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์ประจำวัน ชายหนุ่มหัวเราะขันให้กับท่าทางเซ็งจัดของเพื่อนสนิทคนสวย ด้วยความเป็นคนหน้าตาสะอาดแบบหนุ่มเจ้าสำอางค์ ผมเผ้าจัดทรงเลียบเฉียบ ดวงตามีประกายอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขายิ้มกว้างเห็นฟันขาวจัดตัดริมฝีปากสีสด จึงทำให้สาวใหญ่ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แถวนั้นแทบหลอมละลายไปตามๆกัน

“พูดมากแต่เช้านะแก เดี๋ยวแม่เหวี่ยงซะเลยเชียว” สาวหน้าโทรมเอ่ยอย่างเสียอารมณ์ ผมสลวยสีมะเกลือที่ถูกรวบขึ้นเป็นจุกใหญ่ๆเริ่มมีปอยร่วงลงมาปรกหน้าผากและข้างแก้มสีชมพูเรื่อ

“เที่ยงแล้วครับคุณเพื่อน ขอโทษทีเถิด ทำงานหัดดูเวล่ำเวลาเสียบ้าง” เขาหยอกหน้าระรื่น ชายหนุ่มสนิทกับหญิงสาวมานาน เพิ่งลาจากกันเมื่อหนึ่งปีที่แล้วนี่เอง หลังจากที่เขาเรียนจบเฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานชดใช้บุญคุณแผ่นดินอยู่ในรพ.รัฐชื่อดังแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวง

“อ่านอะไรอยู่น่ะ มีข่าวเด็ดแก้เซ็งเล่าให้ฟังบ้างไหม” พลอยกุมภานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนชาย มีโต๊ะขนาดกะทัดรัดรูปทรงทันสมัยกั้นกลางเพียงเอื้อมมือถึง

“ข่าวงานเด็ดเธอน่ะสิ นี่ดูซะ พาดหัวใหญ่สุดในหน้าแรกเลยนา มาถึงวันแรกก็มีศพรอต้อนรับเสด็จตั้งสองราย ดวงบรรเจิดจริงๆเลยนะคุณหมอพลอย” พิพัฒน์กล่าวติดตลก ทว่าคุณหมอคนเก่งรีบคว้าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นออกจากมือเพื่อนซี้แล้วกางอ่านทันทีอย่างไม่มีอารมณ์สนุก สภาพศพที่เห็นไม่ต่างจากที่หญิงสาวพบเจอเมื่อคืนวานเท่าใดนัก ผิดก็แต่แสงแฟลตช่วยทำให้ภาพผู้ตายสว่างชัดขึ้นมาเล็กน้อย ชายในมุมมืดที่ยืนทำหน้าไร้อารมณ์ข้างศพดึงความสนใจได้มากกว่า ความสงสัยก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง จึงถามขึ้นมาลอยๆ เผื่อได้คำตอบไขข้อข้องใจขึ้นมาบ้างจากจิตแพทย์หนุ่ม

“ผู้ชายคนนี้เป็นใคร..แกรู้ไหม” เธอกางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ ก่อนจะจิ้มนิ้วไปที่บุคคลดังกล่าว

“ทำไมถึงคิดว่าฉันจะรู้” เพื่อนตัวดีกลับย้อนถามเสียอย่างนั้น พลอยกุมภาเริ่มมีน้ำโห ยกมือเท้าสะเอวมองคนตรงหน้าอย่างจะบอกว่าให้รีบตอบมาเสียโดยดี อย่าโยกโย้

“ก็...ฉันเคยมาเที่ยวที่หัวหินบ้าง เลยพอจะได้ยินชื่อวนาลีรีสอร์ทผ่านหูอยู่เหมือนกัน” ชายหนุ่มว่าพลางจ้องมองไปที่รูปราวกับพยายามรำลึกความทรงจำบางอย่าง พลอยกุมภาทำหน้าเหมือนจะเซ็ง เป็นนัยว่าให้เขาตอบตรงประเด็นกว่านี้หน่อย พิพัฒน์จึงรีบอธิบายต่อ

“ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นคุณน้ำนิ่ง เคยเจอที่ตลาดโต้รุ่ง แม่ค้าเขาชี้ให้ฉันดู”

“เฮอะ..คนอะไรชื่อสมตัว” เธอเหน็บเพียงเท่านั้น แล้วพับหนังสือพิมพ์ไปวางไว้ในซอกหลืบของโต๊ะทำงาน ไม่อยากจะเอาสมองไปจดจำคนแบบนั้นให้เปลืองนี้ที่ “มิยักรู้ว่ามีนักข่าวในที่เกิดเหตุอยู่ด้วย ตอนฉันไปนึกว่ามีแต่ญาติๆ แล้วก็พวกตำรวจเฮงซวย”

ประโยคท้ายของเธอ ทำเอา เจ้าหน้าที่ที่เดินผ่านไปมาในบริเวณนั้นหยุดการเคลื่อนไหว แล้วหันมามองเธออย่างสนใจเป็นตาเดียว พลอยกุมภาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบออกปากชวน

“ไปกินข้าวกันได้แล้ว หิวจะตาย ลืมสัญญาภัตตาคารหรูของฉันไปหรือยัง”

พิพัฒน์ส่ายหน้าให้กับความจำที่แม่นยำเกินเหตุของหญิงสาว ก่อนจะรีบเดินนำออกไปเมื่อเพื่อนตัวแสบดุนหลังเข้าให้จนแทบล้มคะมำ

สิบนาทีต่อมา พลอยกุมภาก็ได้เข้ามานั่งยิ้มแป้นในห้องปรับอากาศตกแต่งด้วยเครื่องเรือนแบบไทยสมใจอยาก ร้านอาหารพฤกษาถึงแม้จะไม่ใหญ่โตเข้าขั้นภัตตาคาร ทว่าเมนูหลายอย่างที่วางเรียงอยู่ตรงหน้า เชิญชวนให้เธอรีบลงมือลิ้มลองเสียเหลือเกิน เครื่องเคียงแบบไทยๆเช่นนี้แหละ ที่เธอใฝ่หามานาน น้ำพริกสีสด ข้าวสวยร้อนๆ ปลาจาละเม็ดเนื้อดี คงช่วยให้เธอหายเลี่ยนจากอาหารฝรั่งที่จำเจมานานเกือบสี่ปี

“เนี่ย ร้านดังสุดในปราณบุรีแล้วขอบอก ไม่รักกันจริงไม่พามาหรอก” พิพัฒน์เอ่ยยิ้มๆ ขณะมองสาวสวยตรงหน้าจัดการกับเหยื่อบนโต๊ะอาหารอย่างไม่สนใจสิ่งรอบกาย ในบางเวลาคนเก่งอย่างเพื่อนจอมกล้าคนนี้ก็กลับดูเหมือนเด็กน่ารักน่าเอ็นดูคนหนึ่งได้เหมือนกัน

“อาหารอร่อยเลิศไปเลยแก...แต่ฉันว่าชื่อร้านนี่มันคุ้นหูยังไงชอบกล” พลอยกุมภาพูดทั้งที่ยังมีอาหารอยู่เต็มปาก แล้วเจ้าหล่อนก็สำลักข้าวลงไปในหลอดลมจนได้ พิพัฒน์ต้องรีบยื่นแก้วน้ำไปให้แทบไม่ทัน

“เจ้าของร้านเป็นญาติเจ้าของวนาลียังไง” คนเมืองกรุงแต่รู้รอบเมืองปราณฯชี้แจง “คุณพฤกษาเธอเป็นน้องสาวคุณวนาลี”

หญิงสาวเบิกตากว้าง ให้ความสนใจขึ้นมาทันทีหลังอาการสำลักเมื่อครู่หายดีแล้ว

“ก็เป็นญาติอีตาน้ำนิ่งอะไรนั่นด้วยน่ะซี”

เพื่อนซี้เอ่ยถึงชายคนนั้นเป็นครั้งที่สองแล้ว พิพัฒน์จึงขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ

“เธอมีอะไรกับคุณน้ำนิ่งเขานักหนา พูดถึงบ่อยจริง”

ได้ยินอย่างนั้นพลอยกุมภาถึงกับทำหน้ายู่ ห่อไหล่ลงทำท่าขยะแขยง

“บ้าหรือ..แค่สองครั้งเท่านั้นเอง คนแบบนั้นฉันไม่อยากจะยุ่งนักหรอก”

“เออ..ให้มันจริงแล้วกัน คุณน้ำนิ่งน่ะเสน่ห์แรงจะตายไป..สาวทั้งเมืองหลงแกกันแทบทุกคน..ระวังเธอจะติดหางเลขไปกับเขาโดยไม่รู้ตัว” จิตแพทย์หนุ่มกล่าวเตือนด้วยความหวังดีจากใจจริง “แต่ผู้ชายคนนี้ฉันว่าน่ากลัว...ไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด ทางที่ดีเธออยู่ห่างเขาไว้เป็นดีที่สุด”

“คุณเพื่อนมีอะไรดีๆที่ยังไม่บอกข้าพเจ้าใช่ไหม รู้อะไรเล่ามาให้หมดทีเดียวเชียว”

“น่า....ฉันก็ไม่แน่ใจนักหรอก...เป็นว่าอย่าไปยุ่งกับเขาถ้าไม่จำเป็นก็แล้วกัน”

พลอยกุมภาจึงได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ เก็บความสงสัยไว้ค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าลองเพื่อนตัวดีไม่ปริปากบอกอะไรแต่ทีแรกอย่างนี้แล้ว อย่าหวังเลยว่าพ่อคุณคนนี้จะยอมคาย

เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายดังขึ้น สองหนุ่มสาวจึงเลิกสนใจในบทสนทนาหัวข้อนั้นไปโดยปริยาย คุณหมอสาวเดินออกไปหาสัญญาณคุยกับคนปลายสายอยู่เป็นครู่ อาหารจานใหญ่หมดเกลี้ยงไปหลายชุดแล้ว เจ้าหล่อนจึงเดินกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิม

“ใครโทรมาน่ะ..หน้าตาระรื่นเชียว” พิพัฒน์ตั้งข้อสงสัย เมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินยิ้มอารมณ์ดีมาแต่ไกล

“พี่ชายมีเซอร์ไพรส์ว่ะแก” น้ำเสียงของเธอบอกว่าตื่นเต้นและดีใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“พี่เพชรกลับมาแล้ว”

“เนี่ยนะเซอร์ไพรส์ของเธอ” พิพัฒน์ส่ายหน้า ทำเสียงบางอย่างในลำคอ บอกให้รู้ว่าเรื่องนี้เห็นจะไม่น่าสนใจตรงไหน “กะแค่ไปทำงานพิเศษที่อังกฤษสองเดือน กลับมาเมืองไทยตอนนี้ก็ไม่เห็นแปลก”

“ก็ช่วยฟังให้มันจบเสียก่อนซี” พลอยกุมภาทำหน้านิ่ว คนกำลังดีใจมาเจอแบบนี้ก็เสียอารมณ์ได้เหมือนกัน “มาคนเดียวน่ะไม่แปลก..แต่คราวนี้ไม่ใช่”

“อย่าบอกนะว่าพี่ชายเธอเลิกแต่งกับงาน หันมาควงสาวอย่างชาวบ้านเค้าเป็นเหมือนกัน”

คุณหมอสาวย่นจมูก พยักหน้าช้าๆก่อนบอกเสียงใส

“ไม่ใช่แค่ควง...เขาหมั้นกันแล้ว..วันนี้จะพามาสาวมาโชว์ตัว”

จิตแพทย์หนุ่มถึงกับทำหน้าเหวอไปเลยทีเดียว เหนือความคาดหมายไปหลายโยชน์ ชายหนุ่มพยายามทบทวนความจำเท่าที่มี เกี่ยวกับ เพชรธันวา พี่ชายของเพื่อนสาว นึกยังไงก็นึกไม่ออก ว่าคนบ้างานขนาดนั้นจะคิดแต่งงานกับใครได้...พี่ชายคนเก่งของพลอยกุมภาครองตัวเป็นโสดมาโดยตลอด เรียกได้ว่าระมัดระวังตัวแจเลย กับไอ้เรื่องที่จะมีผู้หญิงมาหลอกจับ หรือเกาะแกะเอาง่ายๆ แม้ว่าเขาจะเป็นหนุ่มเนื้อหอมคนหนึ่งของเมืองไทยอยู่เหมือนกัน แต่ความเด็ดขาด และยึดมั่นในอุดมการณ์ของตนก็แรงกล้าเกินกว่าจะเปลี่ยนความตั้งใจกันง่ายๆ พิพัฒน์รู้จักกับพี่ชายของเพื่อนรักมานานพอๆกับที่รู้จักกับเธอ เพชรธันวายังเคยประกาศกลางวงสังสรรค์ในงานวันเกิดของเขาเลย ว่าจะขออยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต เรื่องผู้หญิง เขาไม่ขอยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด เหตุผลก็ไม่รู้ทำไม พิพัฒน์ไม่เคยถาม รู้แต่ว่าพี่ชายเพื่อนสาวเป็นคนคำไหนคำนั้น ไม่เคยมีสัจจะใดที่เขารักษาไม่ได้ ถ้าพูดออกมาแล้วต้องรักษาคำพูด

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน...เก่งทีเดียว” น้ำเสียงของชายหนุ่มยังคงไม่อยากเชื่อสนิทใจ “เอาพี่ชายของเธออยู่...นับถือว่ะ”

“ดาราฮอลลีวูด” พลอยกุมภารีบบอกอย่างตื่นเต้น แววตาเธอชวนฝัน เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ

“ฮ้า...ว่าไงนะ” พิพัฒน์ได้ฟังยิ่งแทบทรุด

“ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ น่ะ ถึงเป็นแค่ตัวประกอบหนัง แต่ดีกรีถึงขนาดฮอลลีวูดฉันก็กรี๊ดสนั่นแล้วแกเอ๊ย”

“พี่ชายฉันนี่เจ๋งจริงๆ ทำเหมือนจะโสด บทจะไม่มีใคร ก็ไม่มีเลยจริงๆจังๆ บทจะมี ก็คว้าเอาคนพิเศษถูกใจฉันเหลือเกิน แหม”

“ขนาดนั้นเลยหรือ...ไม่อยากจะเชื่อ”

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ..เย็นนี้พี่เพชรจะพามาแวะที่หาดส่วนตัวของฉันก่อน”

พลอยกุมภายังยิ้มค้าง อยากเห็นว่าที่พี่สะใภ้เสียให้ไว

“เห็นบอกจะพาแฟนไปเที่ยวน้ำตกสวยๆสักที่ แล้วก็พาช้อปเมืองไทยกันให้กระหน่ำ”

“ฉันชักอยากเห็นแม่สาวคนเก่งคนนั้นซะแล้วสิ คงสวยหยาดฟ้ามาดินอย่าบอกใคร” พิพัฒน์พึมพำเหมือนพูดกับตัวเองลอยๆ ถึงตอนนี้เขาก็ไม่เชื่อ ..จนกว่าจะได้พบหญิงสาวผู้นั้นตัวเป็นๆ ให้เต็มตา

และหญิงสาวคนดังกล่าวก็เป็นไปตามที่จิตแพทย์หนุ่มคิดไว้ไม่มีผิด เธอเป็นสาวสวยสะพรั่ง ผิวขาวจัดขับเรือนผมสีทองปล่อยยาวถึงกลางหลัง ริมฝีปากเป็นรูปกระจับบางกับดวงตากลมใหญ่สีน้ำทะเลทำให้เธอมีรูปลักษณ์ไม่ต่างกับตุ๊กตาบาร์บี้แสนสวย ที่ชายหลายคนล้วนหมายปอง รูปร่างเธอสูงเพรียวสมส่วน สง่างามเหมือนนางหงส์ที่หลุดออกมาจากแคทวอล์คเมืองมิลาน เสียงพูดภาษาไทยปนอังกฤษแม้จะแปร่งไปบ้างแต่นั่นก็ทำให้เธอมีเสน่ห์ น่ารัก เขาเพิ่งรู้พร้อมๆกับพลอยกุมภาเมื่อเธอมานั่งร่วมโต๊ะดินเนอร์ด้วยกันนั่นแหละ ว่าเธอเป็นลูกสาวหัวแก้วของมาเฟียอิทธิพลใหญ่คนหนึ่ง ที่คนในวงการสีเทารู้จักกันดี ว่าเป็นเจ้าของกิจการบ่อนกาสิโนร่ำรวยมหาศาล

พลอยกุมภาหนึ่งคนแน่ล่ะ ที่แทบสำลักน้ำส้มออกมาหมดแก้วเมื่อได้ล่วงรู้ความจริงจากคำบอกเล่าถึงชีวประวัติตั้งแต่เกิดจนสาวของ อิสซาเบล มอร์แกน ดาราฮอลลีวูด ตัวประกอบที่เธออยากเจอตัวนักหนา...มาถึงตอนนี้หญิงสาวแทบอยากถอนคำพูด และท่าทางตื่นเต้นดีใจเมื่อตอนกลางวันไปเสียให้หมด เพชรธันวายังนั่งยิ้มหัวเราะคิกอยู่ได้ยังไงกันนะ...เงาหัวจะขาดกันทั้งบ้านล่ะไม่รู้วันไหน เกิดทำลูกสาวเจ้าพ่อไม่พอใจขึ้นมา...พลอยกุมภามิโดนลูกหลงไปกับเขาด้วยล่ะหรือ

“คุณเบลลี่รักพี่เพชรมากเลยหรือคะ” คุณหมอสาวเอ่ยถามขึ้นมากลางวง หลังจากที่ปล่อยให้แม่สาวสวยหยาด กับพี่ชายสุดที่รักพร่ำเพ้อพรรณนากันจนพอใจแล้ว

“ถามอะไรแบบนั้นน่ะยัยพลอย...เธอคิดอะไรของเธออยู่หืม” เพชรธันวาทำหน้าไม่พอใจกับคำถามของน้องสาว ด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเคลือบแคลงบางอย่างจากคุณหมอนิติเวชหน้าหวาน

“หรัก ม้าก มาก ค่ะ นอง พลอย” เสียงแปร่งของมิสมอร์แกนชิงตอบขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา พลอยกุมภาลอบเบะปากให้กับความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อน

“ใช่ เรารักกันมาก ไม่อย่างนั้นจะหมั้นกันทำไมล่ะ” เพชรธันวาเอื้อมมือมายีผมที่เพิ่งสระเสร็จไม่นานก่อนเขาจะมาถึง แล้วเอ่ยอย่างไม่ติดใจอะไรอีก “คิดให้ดีก่อนถามสักนิดเถอะยัยพลอย ยัยเด็กโง่ของพี่”

“เอ๋อด้วยครับพี่เพชร อ้อ แถมยังซ่าก๋ากั่นอย่าบอกใครเชียว พี่เพชรต้องปรามมั่งนะครับ เดี๋ยวจะเคยตัว”พิพัฒน์เอ่ยทำลายความตึงเครียดของการสนทนานั้นลง เมื่อไม่ค่อยไว้วางใจคุณหมอสาวสักเท่าใด จนบัดนี้คุณเธอยังแปะเครื่องหมายคำถามอยู่บนหน้าผาก ตาใสจับจ้องอยู่เพียงใบหน้าคู่หมั้นของพี่ชายราวกับจะจับผิดไปทุกการเคลื่อนไหว ถึงแม้พิพัฒน์จะรู้สึกหวั่นเกรง และไม่เห็นด้วยกับการที่นายตำรวจมียศอย่างเพชรธันวาจะเข้าไปพัวพันกับลูกสาวเจ้าของธุรกิจสีเทา แถมยังเป็นมาเฟียใหญ่ขนาดนั้นสักเท่าใด แต่อย่างน้อยชายหนุ่มก็ยังอยากรักษามารยาท และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

“พิพัฒน์...หุบปากไปเลยแก” พลอยกุมภาเอ็ดเสียงเบา แต่ก็ยังดังพอที่จะได้ยินไปถึงหูพี่ชาย

“พูดจาไม่น่ารัก ไปเรียกคุณพัฒน์ว่าแกได้ยังไงยัยพลอย เบลลี่เขาฟังภาษาไทยออก เดี๋ยวเขาได้หาว่าฉันเลี้ยงน้องไม่ดี เสียชื่อหมดก็คราวนี้” เพชรธันวาดุน้องสาวเสียงจริงจัง จนคู่หมั้นต้องสะกิดเตือน

“ไปว่านองเคาไม่ดีค่ะ..นองเคานาหรักออก” ว่าพลางส่งยิ้มหวานให้พลอยกุมภา ราวกับจะให้กำลังใจ ถ้าไม่ติดว่าเธอคนนี้มีอาชีพนักแสดงในจอยักษ์แล้วล่ะก็ พิพัฒน์คงเชื่อสนิทใจเลยว่ามิสมอร์แกนคนนี้เอ็นดู เพื่อนของเขาด้วยความจริงใจ

“ตอนแรกพี่ก็ว่าจะพาเขาไปเที่ยวน้ำตกเมืองกาญจน์ แต่พอมาถึงที่นี่ เบลลี่เขาก็ติดใจ” เพชรธันวาเปลี่ยนเรื่องคุย น้ำเสียงเขาฟังสบายมากขึ้นเมื่อเอ่ยถึงคู่หมั้นสาว พลอยกุมภาชักจะหมั่นไส้แม่ดาราคนสวยมากขึ้นทุกที เห็นยิ้มแป้นลอยหน้าอยู่ตลอด ไม่เมื่อยกราม เมื่อยปากตัวเองบ้างหรือยังไงกัน คนเขาไม่เห็นจะยินดีด้วยเลย พี่สะใภ้คราบมาเฟียอย่างนี้...ยิ่งคิดยิ่งเสียวสันหลัง

“พี่เพชรจะพาเธอไปไหนล่ะคะ...อย่าบอกนะว่าจะมาอยู่ยาวที่บ้านพลอย”

“แล้วทำไมจะมาไม่ได้...หรือว่าเธอรังเกียจ..” เพชรธันวาไม่อยากใส่ใจเด็กเจ้าอารมณ์อย่างน้องสาวคนนี้อีก จึงหันไปยิ้มหวานทำตาซึ้งกับคนรักของตนแทน ก่อนเอ่ย “เบลลี่เขาอยากไปวนาลี”

คราวนี้คุณหมอสาวถึงกับสะดุ้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว...บรรยากาศในคืนนั้นยังตามมาหลอกหลอน เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีเรื่องไหนที่น่าประทับใจเก็บไว้ในความทรงจำเลยแม้แต่เรื่องเดียว

พิพัฒน์เองก็มีสีหน้าเจื่อนไปเหมือนกัน แต่เขาก็ยังไม่อยากพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรในตอนนี้มากนัก จึงทำได้แต่นั่งเงียบ..รอดูการเคลื่อนไหวของพลอยกุมภา ที่เขาเดาได้ไม่ยากว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับทริปใหม่ของพี่ชาย

“พลอยว่า..พลอยยอมให้พี่เพชรกับพี่เบลลี่พักที่นี่ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยออกมาในที่สุด หวังใจว่าพี่ชายของเธอคงตอบรับข้อเสนอแต่โดยดี ทว่าผิดความคาดหมาย

“ไม่ล่ะ..หาดที่นี่สงบเกินไป เบลลี่ชอบความแปลกใหม่” เพชรธันวาเอ่ยอย่างอารมณ์ดี มิสมอร์แกนสำทับขึ้นมาอีกคนว่า..

“ทีนี ธรรมาดา เกินไป ซำหรับ ฉาน” หญิงสาวเจื้อยแจ้วเสียงแปร่ง “วานาลี นาคนหา”

“พลอยไม่อยากให้พี่ทั้งสองไปที่นั่น...ไม่อยากเลยจริงๆค่ะ”

เพชรธันวาเลิกคิ้วประหลาดใจก่อนถาม

“เธอมีเหตุผลอะไรยัยเด็กโง่ ไหนลองบอกพี่มาซิ”

เจอคำถามย้อนเช่นนี้ หญิงสาวก็เหมือนมีก้อนอะไรมาอุดอยู่ที่ลำคอ พูดไม่ออก บอกไม่ถูกไปเสียอย่างนั้น

น่าแปลก..แม้แต่ตัวเธอเอง...

พลอยกุมภายังให้เหตุผลตัวเองไม่ได้

ทำไมถึงไม่อยากให้พี่ชายและคู่หมั้นของเขาไปที่นั่น

เหตุผลใดไม่อาจอธิบาย

สิ่งเดียวที่สัมผัสได้ในตอนนี้

มีแต่ความมืดดำ...ที่ไม่น่าไว้วางใจ!



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 มิ.ย. 2555, 21:53:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 มิ.ย. 2555, 21:53:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1209





<< บทที่ ๑ คดีแรก   บทที่ ๓ คดีคู่หมั้น >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account