เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์

ตอน: บทที่ี่่ 6

บทที่ 6

หลังจากที่ภานุมาศแยกกับเมศร์ ก็เข้าไปรายงานตัวกับสักรินทร์ตามที่ลูกน้องเขาบอกว่าเขาเรียกหา ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของสักรินทร์ หญิงสาวรู้สึกถึงความเย็นชาจากร่างสูงใหญ่ซึ่งนั่งหน้าบอกบุญไม่รับบนโต๊ะทำงานที่ระเกะระกะไปด้วยแฟ้มกองพะเนิน สำหรับภานุมาศแล้ว เธอรู้สึกเหมือนเด็กนักเรียนทำผิดที่กำลังรอการไต่สวนจากคุณครูทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเธอเลยสักนิด

“ไปไหนมาภานุมาศ” เสียงทุ้มของสักรินทร์เอ่ยทำลายความเงียบ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

“…”

“เงียบ ฉันถามทำไมไม่ตอบ ฉันไม่ชอบคนไม่ตอบคำถาม”

ภานุมาศถอนหายใจกับคำพูดที่ออกคำสั่งกลายๆ ของเขา จริงอยู่ว่าเขาจะปกครองลูกน้องนับร้อย แต่เธอไม่ใช่ลูกน้องของเขา เพราะฉะนั้นเขาไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น หญิงสาวกระแทกตัวบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้า หลังเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มองเขาอย่างยียวน

“ฉันไม่ได้อยากทำให้คุณชอบ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน ฉันมีสิทธิ์ที่จะบอกคุณหรือไม่บอกก็ได้”

“เธอ...ภานุมาศ” สักรินทร์ชี้หน้าเรียกหญิงสาวเสียงดัง

“ไม่เอาๆ สุภาพบุรุษเขาไม่ชี้หน้าสุภาพสตรีนะคะ”

“ภานุมาศ”

“โอ๊ย จะเรียกอะไรนักหนา ฉันรู้แล้วว่าฉันชื่อภานุมาศ เรียกอยู่นั่นแหละ รำคาญจริงเชียว” ภานุมาศแสร้งพูดเสียงเขียวเมื่อเห็นว่าสักรินทร์ไม่อาจปราบพยศเธอได้

สักรินทร์แทบจะขย้ำผมตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด ชายหนุ่มไม่ชินกับการต่อปากต่อคำกับผู้หญิงมาก่อนจึงไม่มีคำพูดแสบๆ คันๆ ไว้ลับฝีปาก เขาจึงได้แต่แสดงความงี่เง่าด้วยการเรียนชื่อเธอด้วยความโมโห

“เออ ไม่เรียกก็ได้ เธอช่วยหยุดกวนโอ๊ยสักทีได้ไหม ฉันถามเธอดีๆ ว่าไปไหนมา ทำไมไม่บอกฉันก่อนว่าเธอจะไปไหน รู้ไหมว่าฉัน...ฉันตกใจแค่ไหนที่หาเธอไม่เจอ” ฉันเป็นห่วง ชายหนุ่มเกือบจะพลั้งปากบอกไป

อมพระมาพูดทั้งวัดฉันก็ไม่เชื่อนายหรอก คนหูตายิ่งกว่าสับปะรดอย่างนายจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฉันไปไหนกับใคร ภานุมาศเถียงในใจ

“ฉันว่าคุณคงแยกแยะไม่ออกระหว่างคำว่าถามกับคาดคั้นนะ ถ้าคุณอยากให้คนอื่นตอบคำถามคุณ คุณก็ต้องพูดจาดีๆ พูดเป็นไหม”

“โอเคๆ แล้วเธอจะบอกได้หรือยังว่าไปไหนมาแล้วทำไมไม่บอกให้ฉันรู้” สักรินทร์ยกมือยอมแพ้ ทำให้ภานุมาศหัวเราะคิกอย่างได้ใจ

“ไปเที่ยว ไปกินข้าวแล้วก็ซื้อเสื้อผ้า ซื้อหนังสือ อีกอย่างฉันจะบอกคุณได้อย่างไร ก็คุณกำลังเมคเลิฟกะยัยหนิงอยู่ ฉันไม่อยากขัดจังหวะ” หญิงสาวบอกเนิบนาบไม่ใส่ใจ

“ฉันให้เธออยู่ที่นี่ในฐานะเชลย ไม่ได้ให้เธอมาพักผ่อน” เสียงทุ้มกลับห้วนเมื่อได้ยินคำตอบของเธอ

สักรินทร์คิดว่าจะเก็บอารมณ์ได้ดีกว่านี้ แต่เมื่อรู้จากปากเธอว่าเธอออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกในขณะที่เขาอยู่ที่นี่ก็อดระเบิดอารมณ์ไม่ได้

“นี่คุณสักรินทร์ คุณหนิงเขาบริการไม่ถึงใจคุณหรือไง ถึงได้น้ำลายฟูมปากอย่างนี้”

“ปากดีอย่างนี้ สักวันจะโดนดี” สักรินทร์ชี้หน้าถลึงตามองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง

“ฮื่อ...บอกแล้วว่าอย่าชี้หน้า อย่าพาล แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่หนีสักหน่อย ฉันออกไปกับเมศร์น่ะ”

“อ๋อ สนิทกันมากจนเรียกชื่อกันแล้วหรือ” สักรินทร์มองภานุมาศอย่างไม่พอใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขานัก

ภานุมาศยักไหล่แทนคำตอบ ไม่สนใจอารมณ์โกรธาของใครหน้าไหนทั้งสิ้น “แหม ถามอะไรแปลกๆ เมศร์น่ะเขาทั้งสุภาพ อ่อนโยน ผิดกับปีศาจอย่างคุณ”

สักรินทร์ขบกรามนูน มองร่างบางที่ยักคิ้วให้อย่างหาเรื่อง

“อย่ายั่วผมนะภานุมาศ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ”

เสียงตวาดกร้าวของสักรินทร์ในเวลานี้ หากเป็นลูกน้องเขาคงกลัวกันหัวหด หากแต่ภานุมาศกลับนั่งไขว่ห้างมองเขาตาแป๋ว

“ทำไม คุณจะโยนฉันออกไปข้างนอกไหมล่ะ ฉันจะได้ไปหาเมศร์”

ได้ยินชื่อชายอื่นทำเอาสักรินทร์แทบเต้น ไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนทำกับเขาอย่างนี้มาก่อน ให้ตายเถอะ และแล้วความอดทนที่มีจำกัดของเขา ร่างสูงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจเก้าอี้ที่เลื่อนล้มไปกองกับพื้นแม้แต่น้อย ภานุมาศเองก็ตกใจกับอาการน็อตหลุดของเขา หญิงสาวลุกขึ้นหมายจะวิ่งไปที่ประตู ทว่าช้ากว่าขายาวๆ ของเขาที่รวบตัวเธอซะก่อน

“เธอเป็นของฉัน ได้ยินไหมภานุมาศ”

ร่างแบบฉบับของนางแบบหนีจากอ้อมอกใหญ่ที่กอดรัดร่างเธอแน่นจึงเป็นโอกาสให้สองร่างได้แนบชิดกันยิ่งขึ้น

“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ใช่สมบัติของคุณ” สองมือน้อยทั้งหยิก ข่วน ตีแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากอ้อมแขนของชายหนุ่มได้

ทำไมแรงเยอะปานโคถึกอย่างนี้

ไม่ว่าเพลย์บอยที่มือไวปานวอกอย่างนิธิพนธ์ เธอยังต่อกรได้ แต่กับผู้ชายคนนี้ ยิ่งบอกให้ตัวเองอยู่ห่างๆ แต่ร่างกายกลับถวิลหา

“อย่าสะดีดสะดิ้งทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย”

ช่วงที่เขาให้คนติดตามน่านน้ำยังพอได้เห็นว่าน่านน้ำไปขลุกอยู่กับภานุมาศดึกดื่นค่อนคืนอยู่บ่อยครั้ง คิดถึงตรงนี้ สักรินทร์ก็หึงหวงร่างบาง ไม่อยากให้ใครแตะต้องสัมผัสเธอเลย

“หยุดความคิดโสโครกของคุณได้แล้ว คุณไม่มีสิทธิ์กล่าวหาฉัน...ปล่อย” ภานุมาศยังคงดิ้นรนแต่ไม่ทำให้สักรินทร์สะเทือนเลยแม้แต่น้อย

สักรินทร์ยิ้มกริ่มเมื่อหน้าอกหน้าใจของหญิงสาวเบียดชิดยิ่งขึ้นเมื่อเธอดิ้น

“ปล่อยก็โง่เต็มทน อย่าลืมนะว่าพ่อคุณเป็นหนี้ผม ผมไม่ให้คนของผมตามล่าพ่อคุณก็ดีขนาดไหนแล้ว”

“แน่ใจหรือว่าตามแล้วจะเจอ อีกอย่างนะ คุณมันก็แค่พวกแรงไร้สมอง” ภานุมาศบอกอย่างถือดี รู้ว่าบิดาของตนเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวขนาดไหน

“เธออยากลองดีกับฉันเองนะภานุมาศ”

ภานุมาศไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง รู้เพียงว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป แม้เธอจะคบหาน่านน้ำเป็นแฟน แต่เธอยังไม่เคยให้เขาทำอะไรไปกว่าจับมือเลย ความหอมหวานยามลิ้นของเขาเกี่ยวกระหวัดลิ้นน้อยๆ ของเธอทำเอาเธอแทบลืมหายใจ

ริมฝีปากอิ่มของภานุมาศถูกสักรินทร์แทะเล็มด้วยความกระหาย มือหนาคลายอ้อมกอดแล้วสอดในเรือนผมนุ่มสวย จับศีรษะเธอให้แหงนรับจุมพิตอย่างถนัดถ้วนถี่ ส่วนอีกมือหนึ่งสอดเข้าไปในเสื้อหญิงสาว ขยำทรวงอกอย่างมันมือจนอีกฝ่ายร้องอืออา เป็นผลให้เขาได้ชิมรสหวานปานน้ำผึ้งในโพรงปากอย่างเต็มที่ สักรินทร์ยิ่งได้ใจเมื่อร่างบางหยุดดิ้นเบียดร่างของเธอกับร่างแกร่งของเขา มือบางเลื่อนโอบคอเขาราวกับหาที่พึ่ง

คนอย่างสักรินทร์ ฆ่าได้หยามไม่ได้ ยิ่งเป็นคำหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจากผู้หญิงที่เขาติดใจยิ่งเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่พร้อมจะเผาผลาญเธอผู้นั้นด้วยไฟเสน่หา


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


เมรยาเคาะห้องตามมารยาทแล้วเปิดเข้าไปในห้องผู้ป่วยพิเศษ เมรยาส่งถุงเบเกอรี่ร้านอร่อยให้พยาบาลพิเศษที่ธนาดลจ้างมาดูแลภราดา สินน้ำใจเล็กน้อยที่หญิงสาวใช้มัดใจพยาบาลคนเก่งให้โทรรายงานความคืบหน้าอาการของอดีตนายจ้าง

ภราดานอนไม่ได้สติบนเตียงที่มีสายเครื่องมือการแพทย์ระโยงระยาง ใบหน้าที่เคยสวยด้วยเครื่องสำอางบัดนี้ซีดเซียว โรยราตามวัย ผิวพรรณเปล่งปลังอย่างคนได้รับการบำรุงหมองลงอย่างเห็นได้ชัด

“มาทำไม” เสียงวางอำนาจดังมาเบื้องหลัง ชุติมามองเลขานุการสาวของธนาดลอย่างไม่ไว้ใจ

“ไม่เกี่ยวกับเธอ” เมรยาบอกด้วยเสียงไม่ต่างกันนัก

ชุติมายักไหล่ตามแบบฉบับของเธอแล้วส่งสายตาเป็นสัญญาณให้พยาบาลสาวออกไปจากห้อง หญิงสาวรอให้ประตูห้องปิดสนิทก่อนเปิดบทสนทนากับคู่กัดตลอดกาล

“คุณดลกลับมาหรือยัง”

“คำตอบเดิมค่ะ ยังไม่กลับ”

“เธอเป็นเลขาที่แย่ที่สุดที่ฉันเคยเจอ ไม่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่” ชุติมาหงุดหงิดที่แหล่งข้อมูลที่เธอคิดว่าจะทราบข้อมูลของธนาดลนั้นไม่อาจให้คำตอบใดๆ กับเธอได้

เมรยากอดอกมองชุติมาเต้นเป็นเจ้าเข้า ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายที่ชุติมาแสดงอาการงี่เง่า กรี๊ดๆ ไล่ล่าผู้ชายในขณะที่ภราดาอาการหนักอย่างนี้

“หึ แม่ตัวเองนอนไม่รู้เรื่อง ยังจะหน้าด้านถามหาผู้ชายอีก ไม่ใช่ว่าฉันความจำสั้นนะ เธอนั่นแหละความจำไม่ดี ถามเรื่องนี้วันละสามเวลา ไม่ใช่สิหกเวลา สามเวลาก่อนแล้วก็หลังอาหารนะ”

“ลูกจ้างกระจอกอย่างแกกล้าดีอย่างไรมาว่าฉัน” ชุติมาหน้าม้าน

“ฉันกล้าที่จะพูดความจริง ความจริงที่เธอรับไม่ได้”

“รอคุณดลกลับมาก่อนเถอะ แกเตรียมตัวเตะฝุ่นหางานใหม่ได้เลย”

“ทำให้เขากลับมาก่อนเถอะ” ต่างฝ่ายต่างไม่ลดราวาศอก ตาจ้องตาไม่มีใครยอมใคร

“แกยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย ว่าแกมาทำอะไรที่นี่” ชุติมายังไม่ลืมคาดคั้นให้ได้ว่าเมรยามาเยี่ยมมารดาของตนทำไม

“ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ ฉันกลับล่ะ”

“อวดดี” เมรยาไม่สนใจคำถากถางของหลานสาวธนาดล เดินออกจากห้องมาอย่างไม่หยี่ระ ปิดประตูเสียงดังโครม

“นังเมรยำ !!”

จิตใจที่เต็มไปด้วยความแค้น อาฆาตทำให้ชุติมาตัดสินใจบางอย่าง หญิงสาวกดเบอร์โทรศัพท์ไปที่หมายเลขคุ้นเคย

ซีอาร์วีสีนำ้เงินของเมรยาขับมาด้วยความเร็วคงที่จนมาถึงทางสามแพร่ง รถจักรยานยนต์พุ่งสวนมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับก้อนหินก้อนใหญ่ในมือ หญิงสาวหักพวงมาลัยหนีตามสัญชาตญาณเป็นผลให้รถพุ่งชนต้นไม่ใหญ่ข้างทางทันที

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


ภานุมาศพยายามขืนตัวออกจากร่างแกร่งหลังจากมือหนาฟอนเฟ้นหน้าอกหน้าใจเธออย่างอาจหาญ สักรินทร์ไม่สนใจกับการดิ้นรนของหญิงสาว อาการขัดขืนของเธอทำให้ชายหนุ่มอยากเอาชนะ สักรินทร์ปลุกเร้าอารมณ์ของภานุมาศด้วยเชิงชายแต่เขาหารู้ไม่ว่าเธอไม่ได้พิสมัยกับความวาบหวามนั้นเลย แต่กลับขยะแขยงสัมผัสหยาบโลนของสักรินทร์

“โอ๊ย” เสียงโหยหวนอย่างเจ็บปวดของสักรินทร์ร้องขึ้น ชายหนุ่มทรุดกายลงไปคุกเข่ากับพื้น บัดนี้มือหนาที่เคยจับหน้าอกเนียนของภานุมาศต้องกุมกล่องดวงใจของตนเองไว้

“โดนแค่นี้ยังน้อยไป” ภานุมาศมองชายหนุ่มอย่างสมเพช หากหัวใจเธอยังคงเต้นแรงกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ได้รับผสมปนเปกับสิ่งที่เธอเพิ่งทำลงไป

“เธอ...” สักรินทร์พูดได้เพียงเท่านั้นเมื่อไม่อาจฝืนความเจ็บปวดได้

“กรี๊ด” หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจแล้วชักเท้าหนีเมื่อชายหนุ่มเอื้อมมือมาใกล้เท้าของเธอ แล้วเธอก็วิ่งปรู๊ดออกจากห้องไปทิ้งให้สักรินทร์มองตามตาละห้อย

สภาพของสักรินทร์เหมือนคนโดนถีบจากสวรรค์ เมื่อสักครู่ชายหนุ่มยังมีความสุขในสวรรค์บนดินที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา หากชั่วพริบตาก็โดนภานุมาศตีเข่าเข้าอย่างจังราวกับถูกกระชากลงนรก

สักรินทร์ยังคงอยู่ในท่าเดิม ตัวงอด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจสาวๆ เพียงแค่ส่งยิ้มให้นั้นกลับซีดเผือด ไร้สีเลือดบนใบหน้า นึกแค้นร่างบางที่ได้หนีหายไปราวกับว่าเขาเป็นฆาตกรโรคจิต

ภานุมาศวิ่งไปหยุดหน้าห้องของเมศร์ เคาประตูเรียกให้เขาไปดูอาการของสักรินทร์ แต่เมศร์ไม่อยู่ที่ห้อง หญิงสาวคอตกกลับไปหาสักรินทร์ที่ห้องตามเดิม

“เห็นแก่มนุษยธรรมหรอกนะเนี่ย” ภานุมาศบอกกับตนเอง

หญิงสาวประคองสักรินทร์ให้ไปนั่งบนโซฟาอย่างทุลักทุเล เพราะน้ำหนักที่สมส่วนกับส่วนสูงของสักรินทร์นั้นเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ของผู้หญิงร่างบอบบางของภานุมาศ

สักรินทร์อยากหักคอร่างนุ่มนิ่มเจ้าของไหล่บางให้แขนของเขาพาดอยู่ที่ทำร้ายอวัยวะสำคัญของเขา พลางคิดไปถึงธนาดลว่าถ้าเพื่อนของเขายังจัดการเรื่องของบวรไม่เสร็จในเร็ววัน เห็นทีคราวนี้เขาต้องสูญพันธุ์เป็นแน่แท้

“ตัวหนักอย่างกับยักษ์” ภานุมาศบ่นอุบ กอดอกมองสักรินทร์ที่อยู่ในสภาพไม่จืดเลย

“เธอทำฉันเจ็บนะ” สักรินทร์ว่าเสียงห้วน

“คุณลวนลามฉัน ฉันต้องป้องกันตัว”

“ผู้หญิงอะไรป่าเถื่อนเป็นบ้า ถ้าฉันสูญพันธุ์ไปเธอต้องรับผิดชอบ”

แม้ความเจ็บปวดจะบรรเทาลงไปแล้ว แต่คนที่ไม่เคยถูกทำร้ายอย่างนี้มาก่อนหวาดหวั่นว่ามันจะมีผลข้างเคียงกับกิจกรรมหรรษาที่เขาชื่นชอบ

“เขาไม่เรียกว่าป่าเถื่อนหรอก สมน้ำสมเนื้อกับคนที่ชอบหาเศษหาเลยกับผู้หญิงอย่างคุณแล้วนี่” ภานุมาศนึกขอบคุณบิดาที่สอนท่าไม้ตายจากการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานดังกล่าว

“เธอต้องรับผิดชอบฉันจนกว่าฉันจะหายดี”

“รับผิดชอบ...แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไร” แล้วภานุมาศก็ตกหลุมเซียนหมากรุกเจ้าเล่ห์อย่างสักรินทร์

“พรุ่งนี้ฉันจะบอกเธอว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ตอนนี้พาฉันกลับห้องแล้วเช็ดตัวให้ฉัน”

“ไม่ใช่เรื่อง” ภานุมาศว่าเสียงแข็ง

หญิงสาวคิดในใจว่าเรื่องอะไรจะให้ตัวเองไปเสี่ยงกับสถานการณ์ล่อแหลม อยู่กับเขาสองต่อสองในที่ลับตาคน แล้วที่ลับตาคนก็ห้องของเขา...ถ้ำเสือ

“สภาพของฉันตอนนี้คงลุกมาปล้ำเธอไม่ได้หรอก” สักรินทร์รู้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่

“อย่าแม้แต่จะคิด” ภานุมาศว่าในขณะที่ตัวเองหน้าแดงด้วยความอาย

“โอเคเลย ผู้หญิงอย่างเธอ ฉันคงขยาดไปอีกนาน”

สักรินทร์ยกมืออย่างยอมแพ้ หากคิดว่ามองแก้มปลั่งเป็นสีชมพูธรรมชาติอย่างครุ่นคิด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน แม้จะเขาจะไม่ได้รักเธอ แต่เขาอยากให้เธอรักเขา ถ้าเขาได้ฟังคำบอกรักจากเธอจะเป็นอย่างไรหนอ

“เดี๋ยวฉันไปตามเมศร์ให้มาดูแลคุณดีกว่า”

“เมศร์ไม่ว่างหรอก มันไปทำงานแทนฉัน”

ภานุมาศประเมินสถานการณ์คร่าวๆ ว่าสักรินทร์เจ็บอย่างนี้คงลากเธอขึ้นเตียงไม่ไหวแน่ๆ อีกอย่างเมศร์อาจเหนื่อยกับงานที่ถูกสักรินทร์สั่งให้ทำแล้ว และไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ที่สำคัญเธอเองก็มีส่วนรับผิดชอบกับการทำให้เขาต้องเจ็บตัว

“ก็ได้ๆ แต่ถ้าคุณทำรุ่มร่ามกับฉันอีก ฉันจะทำให้น้องชายของคุณใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต! ” ภานุมาศขู่เสียงเย็น หญิงสาวยิ้มกริ่มลำพองใจเมื่อสักรินทร์ทำตาปริบๆ ราวกับกลัวคำขู่ที่ได้ประกาศไป

ภานุมาศว่าเธอไม่น่าไปตกปากรับคำสักรินทร์เลย แม้เธอจะเคยเช็ดตัวให้บิดาบ่อยๆ แต่เธอไม่เคยประหม่าถึงเพียงนี้ หญิงสาวพยายามไม่มองอกบึกบึนสีทองแดงของสักรินทร์ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของเขาทำให้ภานุมาศหายใจไม่ทั่วท้อง แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ให้มอง แต่เมื่อผ้าขนหนูสีขาวเคลื่อนไปทางไหน เธอก็อดมองตามไม่ได้ เลือดในกายภานุมาศวูบวาบเมื่อมือน้อยๆ ของเธออ้อยอิ่งกับซิคแพ็คลอนสวย

“ชอบหรอ เห็นมองตาแป๋วเชียว” สักรินทร์เย้าภานุมาศ เขาเห็นเธอมองมาไม่กระพริบอยู่นานสองนาน

“บะ...บ้า” ภานุมาศบอกเสียงสั่น เท่านั้นยังไม่พอมือน้อยๆ ของเธอสั่นจนเห็นได้ชัด เธอบิดผ้าขนหนูในกะละมังอย่างยากเย็น

“ถ้าชอบก็ขอดูก็ได้ ไม่ว่าหรอก”

“ใครบอกว่าชอบ” เสียงสั่นของภานุมาศกับใบหน้าแดงกำ่ยืนยันคำปดของเธอได้เป็นอย่างดี

สักรินทร์หัวเราะจนตัวโยนกับคนปากไม่ตรงกับใจ เป็นผลให้หน้าท้องแข็งแรงของคนหมั่นออกกำลังกายกระเพื่อม

ภานุมาศตาโต ไม่อาจสั่งตัวเองให้ละสายตาได้ เสียงหัวเราะของสักรินทร์ดังก้องในหัว ภานุมาศไม่ได้ยินอะไรที่เขาพูดเลยเหมือนคนหูอื้อ อยากจะบอกให้เขาหยุดหัวเราะแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี หญิงสาวชาหนึบที่จมูก ไม่ทันได้คิดอะไรต่อเลือดกำเดาสีแดงสดไหลจากปลายจมูก!!


/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

นุ่นมีเรื่องจะสารภาพแหละค่ะ อิอิ เรื่องนี้นุ่นเคยโพสต์ไว้ในเว็บแจ่มใสเมื่อตอนเรียนมัธยมแล้ว ชื่อเรื่อง มากกว่ารัก แต่จำไม่ได้แล้วว่าอัพถึงไหน จึงนำมารีไรท์ใหม่ และเคยโพสต์นิยายไว้ที่เว็บเลิฟด้วยนามปากกาที่ต่างกันไป

วันนี้พร้อมแล้วที่จะให้มิตรรักนักอ่านลุมสับโทษฐานดองนิยายไว้ บางเรื่องแต่งแล้วก็หายหน้าไปซะดื้อๆ นุ่นจะแก้ตัวใหม่นะคะ แล้วไว้บอกบทหน้าว่ามีเรื่องอะไรจ่อคิวต่อจากเรื่องเสน่หาในเพลิงแค้นบ้าง อิอิ

ขอบคุณคอมเม้นท์จากคุณ Gingfara และ lovemuay ค่ะ เห็นคอมเม้นท์แล้วหายเหนื่อยเลย









เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 พ.ค. 2554, 23:05:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มิ.ย. 2554, 12:45:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 2394





<< บทที่ 5   บทที่ 7 >>
ปูสีน้ำเงิน 5 พ.ค. 2554, 00:15:31 น.
ไงเรื่องนี้ก็อย่าทิ้งกันนะ ขยัยอัพด้วยล่ะจะรออ่าน


lovemuay 5 พ.ค. 2554, 09:49:29 น.
สู้ๆค่ะ รอบนี้เอาแต่งจบเลย แถมตอนพิเศษด้วย อิอิ
โครงเรื่องดีมากเลยค่ะ เนื้อหาสนุกดีค่ะ lvl


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account