กลัวเธอจะเปลี่ยนไป
ปาร เด็กสาวกำลังเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอได้พี่รหัสเป็นผู้ชาย แต่เกิดเหตุไม่เข้าใจกันขึ้น ต่อมาต้องไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ ปารต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาและเธอจะปรับความเข้าใจกันได้รึเปล่า ติดตามได้เลยค่า...


Tags: เรื่องยาว

ตอน: ตอนที่6

ตอนค่ำ…ฟ้าสีน้ำเงินเริ่มปรากฏดาวประจำเมืองทอแสงสว่างสุกสกาวเด่นเหนือดาวอื่นใด เสียงคลื่นยังคงบรรเลงเพลงซัดฝั่งตลอดเวลา เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร พี่รหัสทุกคนต้องคอยดูแลน้องรหัสของตัวเอง ต้องทำหน้าที่หาข้าวหาน้ำให้น้อง พร้อมกับต้องไปนั่งทานข้าวกับน้องรหัสของตัวเองด้วย ห้ามนั่งจับกลุ่มกับรุ่นพี่ด้วยกันเด็ดขาด พี่รหัสทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อการสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างพี่กับน้อง

ปารยกจานข้าวหันไปทางอื่น เมื่อยนตร์ส่งจานข้าวให้ แล้วนั่งลงตรงหน้าเธอ น้ำตาพาลจะไหลซึมออกมาอีก เมื่อมองเห็นใบหน้าของเขา สมองของเธอกำลังสับสนวุ่นวาย ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจว่า ต่อไปนี้ เธอจะต้องเข้มแข็งและยืนหยัดด้วยตัวเองให้ได้ จะไม่รับความช่วยเหลือใด ๆ จากเขาอีกเลย แต่ทุกครั้งที่คิดว่า เธอจะไม่มีเขาอีกแล้ว หัวใจกลับเจ็บปวดเหลือเกิน และไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของตัวเองลึก ๆ ไปได้เลยว่าเธอยังต้องการความรัก ความหวังดี ความห่วงใยจากเขาอยู่…

ยนตร์กลืนเม็ดข้าวแต่ละเมล็ดลงคออย่างยากลำบากที่สุด เป็นมื้อเย็นที่ไม่อร่อยเอาเสียเลย เขารู้สึกเหนื่อยใจ และเริ่มท้อใจเป็นครั้งแรก

“นี่เราต้องทนสภาพแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่” เขาถามตัวเอง

เขาอยากจะพยายามไม่สนใจ ไม่ใส่ใจเธอ แต่ก็ทำไม่ได้ หากเขาทำอย่างนั้น มันเป็นแค่การประชดประชัน มันไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง เป็นการพยาบาท เป็นแค่การแก้แค้น สุดท้ายเธอและเขาก็ต้องเจ็บปวดมากกว่าเดิม และไม่รู้ว่า เขาจะทรยศต่อความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเพื่ออะไร ทำไมจะต้องทำอะไรตรงกันข้ามกับหัวใจตัวเองอย่างนั้น มันขัดกับนิสัยของเขาที่ทำอะไรตรงกับใจ ตรงกับความรู้สึกของตัวเอง ที่สำคัญการที่เขาเป็นคนมีน้ำใจ ชอบดูแล ชอบช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ๆ ทำให้เขาไม่อาจทำเฉยชา เมื่อเห็นเธอกำลังเดือดร้อน หรือต้องการความช่วยเหลือ เธอสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อขังตัวเองเอาไว้มากพอแล้ว เขาคงไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงของตัวเองขึ้นมาขังตัวเองเอาไว้อีก เพราะเท่าที่เป็นอยู่นี้มันก็ย่ำแย่เหลือเกิน…

………………….

เขาคิดวกวนอยู่นาน อยู่ในความน้อยใจ ความเสียใจ ในสิ่งที่เขาทำให้เธอ มันไม่มีค่า ไม่มีความหมายกับเธอเลย เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาอีกแล้ว…

“ต่อไปนี้ พี่ยนตร์ไม่ต้องมาคอยช่วยปาร หรือทำอะไรให้ปารอีกแล้ว ปารไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากพี่ยนตร์อีกต่อไปแล้ว”

ประโยคนั้นดังขึ้นมาตอกย้ำความเสียใจ ในใจครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนพายเรือวนอยู่ในบ่อ ที่หาทางออกไปสู่ทะเลกว้างใหญ่ไม่ได้

ในที่สุดเขาก็เลิกคิด

เลิกกังวล

และจะไม่สนใจเธอ…อีกแล้ว…

ว่าเธอจะยกโทษให้เขาหรือไม่!!

เขาจะไม่ทำดีกับเธอ

เพื่อขอให้เธอรู้สึกดีดีกับเขาเหมือนเดิม

แต่เขาจะทำดีกับเธอเพื่อทำตามหัวใจของตัวเอง ที่ยังอยากดูแลเธอ ยังห่วงใยเธอเสมอ และขอทำตามความถูกต้อง ความเหมาะควรที่พึงช่วยเหลือกัน

สมองของเขารู้สึกโล่งขึ้นมาอย่างประหลาด

รู้สึกสบายใจขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี๊หัวมันยังหนักอึ้ง ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรทั้งนั้น เหมือนหมดอะไรตายอยาก หมดเรี่ยวหมดแรง หมดกำลังใจ จนเขารู้สึกแย่เอามาก ๆ

แต่ตอนนี้….

เขากลับรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง

“ครูครับ ครูไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลปารเหมือนที่เคยสัญญากับครู และผมไม่ได้ทำเพราะผมสัญญากับครู แต่ผมจะทำ เพราะ ผมทำตามความรู้สึกของตัวเองที่ยังอยากจะดูแลปารเหมือนเดิม เหมือนที่เคยดูแลปารเมื่อยังเด็ก” เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มราวกับว่าอยากส่งผ่านถ้อยคำไปถึงใครบางคนที่เขายังรัก เคารพ และศรัทธาเสมอ

เขาหันกลับมามองปารอย่างสงสาร ที่เธอกำลังกักขังตัวเองอยู่กับความโกรธ ความเสียใจ ความผิดหวัง และผูกโซ่ตรวนให้ตัวเองด้วยภาพอดีต ที่ทำร้ายจิตใจตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เขารู้ดีว่า เธอคงไม่มีความสุขเลย เขาจะไม่โกรธเธออีกแล้วที่เธอทำบึ้งตึงและเย็นชากับเขาอย่างนี้ เพราะเธอกำลังทุกข์อยู่กับความรู้สึกนั้นมากเกินพอแล้ว เขาจะไม่ซ้ำเติม ไม่เพิ่มความทุกข์ให้กับเธออีก เพียงแต่เขายังไม่รู้ว่าจะใช้กุญแจดอกไหนเพื่อไขให้เธออกมาจากกรงขัง และโซ่ตรวนอันหนักอึ้งนั้น

เขาอยากช่วยเธอ….

เขาอยากช่วยเธอจริง…จริง….

================

กองไฟถูกก่อขึ้นริมหาดทรายในยามค่ำคืน มีแสงไฟวอมแวมจากร้านขายอาหารใกล้ ๆ มองไปในทะเลพบแต่ความมืด ยกเว้นแสงไฟจุดเล็ก ๆ จากเรือประมง คลื่นยังคงบรรเลงเพลงซัดฝั่งเหมือนเดิม บนท้องฟ้าประดับด้วยเพชรพราวจากบรรดาดวงดาวนับร้อยนับพัน เรียงรายเป็นรูปร่างต่าง ๆ ระยิบระยับตัดกับความมืดของยามราตรี เป็นความงดงามที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นภาษาได้หมด

เกมภาคค่ำเริ่มขึ้นแล้ว….

ทุกคนนั่งล้อมกันเป็นวงกลม พี่รหัสและน้องรหัสที่เป็นผู้หญิงกับผู้ชายจะโดนแกล้งมากกว่าเพื่อน เริ่มต้นที่เกมอุบาทก์เกมแรก เกมพับหนังสือพิมพ์ ที่หญิงชายจะต้องอยู่บนหนังสือพิมพ์ให้ได้ เมื่อมันถูกพับให้เล็กลง ๆ และเล็กลงเรื่อย ๆ เด็กสาวเด็กหนุ่มบางคนสนิทกันมากกอดคอกัน ขี่หลังกัน กอดกันอย่างไม่อาย หัวเราะกันอย่างสนุกสนานเฮฮามาก

ยนตร์แกล้งล้มออกมานอกหนังสือพิมพ์ คู่ของเขาจึงต้องออกจากการแข่งขัน เขาเบื่อและอึดอัดที่จะต้องเล่นเกมบ้าบอพวกนี้ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเพื่อปกป้อง และรักษาเกียรติของปาร เธอเองคงไม่ชอบเหมือนกัน เขามีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ใช้เกมเหล่านี้ล่วงเกินเธอ ตลอดจนหญิงสาวทุกคน แต่ก็ไม่วาย โดนเรียกออกมาแกล้งเกือบทุกรอบ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนหลายคนก็รู้ว่าเธอกับเขามีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันอยู่

เกมอุบาทก์ยังคงดำเนินต่อไป เกมถัดไปเป็นเกมเก้าอี้ดนตรี ที่จะใช้บรรดาหนุ่ม ๆ เป็นเก้าอี้ นั่งขัดสมาธิบนพื้น แล้วให้สาว ๆ เต้นและเดินวนรอบ ๆ ไปตามเสียงเพลงและจังหวะดนตรี เมื่อเสียงเพลงหยุดจะต้องนั่งบนเก้าอี้ทันทีตามแบบฉบับของเกมเก้าอี้ดนตรีทั่วไป เพียงแต่นี่ไม่ใช่เก้าอี้ธรรมดา

ยนตร์แอบยิ้ม ที่เห็นปารฉลาดพอ เธอไม่ได้นั่งบนตักของผู้ชายคนไหน ได้แต่นั่งอยู่ที่พื้นห่าง ๆ เท่านั้น และแกล้งนั่งไม่ทันในรอบต่อมา ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันไป

มาถึงเกมอุบาทก์เกมสุดท้าย ที่อุบาทส์สุด ๆ ไม่รู้ว่า หัวสมองของใครที่มันคิดเกมนี้ขึ้นมาได้ ปารและยนตร์ถูกเรียกออกมาอีกตามระเบียบ รวมทั้งคู่อื่น ๆ เริ่มด้วยแต่ละคู่ หญิงชายต้องหันหน้าเข้าหากัน คาบแท่งป๊อกกี้ไว้คนละหนึ่งแท่ง กติกามีว่า แต่ละคู่คาบป๊อกกี้แล้วต้องช่วยกันประคองยางวงเล็กวงหนึ่งที่อยู่ระหว่างกลาง พร้อม ๆ กับค่อย ๆ กัดกินแท่งป๊อกกี้เข้าไปเรื่อย ๆ

ยนตร์มองหน้าปารที่อยู่ตรงหน้า มีระยะห่างแค่แท่งป๊อกกี้สองอันเท่านั้น ปารก็จ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบเช่นกัน เป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาและเธอมีเรื่องไม่เข้าใจกัน ทำให้ไม่ได้มองหน้ามองตากันอีกเลย เพิ่งมีโอกาสมองหน้ากันเต็มตาก็ครั้งนี้เอง

การแข่งขันเริ่มต้นไปได้สักครู่ ยนตร์แกล้งตวัดยางออก ทำให้เขาและเธอรอดตัว ออกมานั่งดูคู่อื่น ๆ ที่ยังแข่งขันต่อไป และไม่เข้าใจว่า จะทนแข่งเกมอุบาทก์ ๆ อย่างนี้กันต่อไปทำไม ส่วนใหญ่แล้วฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายทนไม่ได้รีบออกมาก่อนเสมอ

เวลาประมาณห้าทุ่มเกมงี่เง่าจึงเลิกลา กว่าจะเก็บงานเสร็จก็ปาเข้าไปเที่ยงคืน แต่เพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นบรรดาสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ต่างพากันไปกินเหล้า เล่นไพ่กันต่อ เป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว

“ยนตร์ไปกินเหล้า เล่นไพ่กัน” เพื่อนคนหนึ่งหันมาชวน

ยนตร์โบกมือปฏิเสธ เป็นอันรู้กันในกลุ่มเพื่อนว่าเขาไม่ใช่พวกนักดื่มหรือนักเที่ยวกลางคืน

“แหม…กลัวน้องปารว่าเอาเหรอ” เพื่อน ๆ ก็ยังอุตส่าห์ส่งเสียงแซวหยอกล้อมาอีกจนได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เขาไม่เคยเกเรเสเพลไร้สาระอย่างนั้นเลย

===============

ความรู้สึกที่ค่อย ๆ สะสมมาทีละเล็กละน้อย ความอึดอัดใจ ความน้อยใจที่ทับถมอยู่ในใจ วันแล้ววันเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เธอแสดงแต่อาการเฉยชา ถูกกดดันจนระเบิดออกมาอย่างสุดที่จะทนอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว

“หยุด!! อยู่ตรงนั้นนะปาร!!” ยนตร์ตะโกนสั่งเสียงดังลั่น

เด็กสาวชะงัก!!

น้ำเสียงโกรธจัดจนแตกพร่านั้น ทำให้เธอไม่กล้าที่จะก้าวเท้าออกไป และสัมผัสได้ว่าเขากำลังโกรธเธอมาก ๆ ที่เธอปฏิเสธความหวังดีของเขาอย่างนี้ อยากจะสั่งเท้าให้วิ่งออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เท้ากลับไม่ยอมทำตามคำสั่ง

“มานี่! เดี๋ยวนี้!”

นอกจากเท้าจะไม่ยอมทำตามคำสั่งเธอแล้ว ยังเดินเข้าไปหาเขาตามคำสั่งเขาอีก ตอนนี้เธอหยุดโกรธเขาชั่วคราว ราวกับว่า ความโกรธถูกถ่ายเทไปกองรวมอยู่ที่เขาหมดแล้ว เลือดฝาดฉีดขึ้นหน้าจนใบหน้าเขาแดงจัด ในดวงตาเหมือนมีน้ำใส ๆ คลออยู่

ยนตร์เข้านอนอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ยังนอนไม่หลับ เรื่องของปารยังวนเวียนอยู่ในสมอง เขานึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา รู้สึกใจชื้นขึ้น และรู้ว่า อย่างน้อยเธอก็ยังแคร์เขาอยู่ ไม่เช่นนั้นคงไม่หยุดอยู่ตามที่เขาสั่ง ตอนนั้นเขาตั้งใจไว้ว่า หากเธอกล้าเดินจากเขาไป เขาจะไม่สนใจเธออีกเลย

มีรอยยิ้มคลี่บนใบหน้าชายหนุ่มเล็กน้อย เมื่อนึกถึงตอนที่เขาสั่งให้เธอเดินกลับมา เธอก็เดินกลับมาอย่างว่าง่าย

“ยัยปารขี้งอนเอ๊ย!! ถ้าพรุ่งนี้ยังงอนอยู่อีก จะจับมาตีก้นให้เข็ดเลย” เขาหงุดหงิดรำคาญขึ้นมาอย่างลืมตัว ที่วันนี้ทั้งวันเธอยังคงเฉยเมย บึ้งตึงมาตลอด

“พรุ่งนี้…ปารอาจจะหายโกรธก็ได้” เขาปลอบใจตัวเอง

ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจไว้แล้วว่า จะทำดีกับเธอ โดยไม่หวังว่าเธอจะคืนดีกับเขาหรือไม่ก็ตาม แต่ความคิดที่อยากให้เธอรู้สึกดีดีกับเขาเหมือนเดิมก็ยังแวบขึ้นมาอยู่ในสมองอยู่ดี

================



ริเศรษฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 มิ.ย. 2555, 19:18:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 มิ.ย. 2555, 19:18:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1469





<< ตอนที่5   ตอนที่7 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account