กลัวเธอจะเปลี่ยนไป
ปาร เด็กสาวกำลังเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอได้พี่รหัสเป็นผู้ชาย แต่เกิดเหตุไม่เข้าใจกันขึ้น ต่อมาต้องไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ ปารต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาและเธอจะปรับความเข้าใจกันได้รึเปล่า ติดตามได้เลยค่า...


Tags: เรื่องยาว

ตอน: ตอนที่7

ทรายยุบตัวลงไปเป็นรูปรอยเท้า เมื่อเด็กสาวยกเท้าเปล่าเปลือยขึ้นจากเม็ดทราย ปรากฏรอยเท้าของเธอเองบนผืนทรายนั้น ไม่นานถูกน้ำทะเลซัดหายไป เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังหยอกล้อกันอยู่ไม่ไกล ปารหันไปมอง เห็นเด็กสาวอายุใกล้เคียงกับเธอนั่งอยู่บนตักชายหนุ่ม เสื้อสายเดี่ยวตัวเล็กนิดเดียวรัดรูปจนมองเห็นทรวดทรงของวัยสาวได้อย่างชัดเจน ผิวขาวเนียนบริเวณต้นคอเรื่อยลงมาไม่มีอะไรปกปิด ปารละสายตาจากภาพนั้นอย่างละเหี่ยใจ แล้วเดินเร็ว ๆ จากมาด้วยความรู้สึกสงสาร คนเป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กสมัยนี้

ไม่ทันได้มองทาง เธอชนเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างจัง!

“ขอโทษค่ะ..!!” ปารเงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะรีบถอยตัวออกมา

“พี่ยนตร์!!”

ชายหนุ่มส่งยิ้มให้
“มาเดินคนเดียวไม่กลัวหรอ อันตรายนะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ซึ่งเธอเองก็สัมผัสได้

“แล้วพี่ละคะ มาทำอะไร”
“มาเป็นบอดี้การ์ดให้ปารไงจ๊ะ” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี
“ปารหายโกรธพี่รึยัง” ไม่รู้ทำไมเขาจะต้องเฝ้าถามคำถามนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยนะ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะไม่สนใจแล้วว่าเธอจะอภัยให้เขาหรือไม่

ปารเดินต่อไปเงียบ ๆ อยากจะบอกเขาว่าหายโกรธแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมมันพูดไม่ออก หัวสมองกลับตื้อตันชอบกล
เขาเอื้อมมือมาจับแขนเธอไว้
ปารหันมามองด้วยสายตาดุ ๆ เป็นเชิงบอกให้เขาปล่อยมือ

ยนตร์ปล่อยมืออย่างว่าง่าย

ทันทีที่เขาปล่อยมือ เธอเดินสะดุดตกหลุมทรายที่ใครไม่รู้มาขุดเอาไว้อย่างไม่ทันมองเห็น

ยนตร์หัวเราะก๊าก จริง ๆ เขาเห็นหลุมนั้นอยู่แล้ว กำลังจะบอกเธอ

“พี่ยนตร์อ่ะ!! หัวเราะเยาะหรอ! เห็นแล้วก็ไม่บอก” เงยหน้ามองคนที่ก้มหน้ามองเธอตอนนี้ด้วยสายตาเขียวปัด

“ก็…กำลังจะบอก…” เขาพูดกลั้วหัวเราะ มองเธอนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในหลุมทรายอย่างขำ ๆ ขนาดมันพอดิบพอดีกับตัวเธอเลยทีเดียว

“เอ้า! ขึ้นมาเร้ว! คนเก่ง” เขาช่วยพยุงสาวน้อยขึ้นมาจากหลุมทรายตื้น ๆ

“ปารหายโกรธพี่นะ” เขาถามคนที่อยู่ในอ้อมแขน
เด็กสาวรีบผละออกมา แต่ถูกเขาล็อคตัวเอาไว้
“ไม่งั้น….พี่จะกอดไว้แบบนี้ไม่ให้ไปไหนเลย” เขาโน้มตัวลงเล็กน้อยสวมกอดเด็กสาวเบา ๆ

“พี่ยนตร์บ้า!! ทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ปารเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ”

แล้วดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแรงของคนหนุ่ม
“พ่อกับแม่ต้องไม่อนุญาติให้พี่ยนตร์ทำแบบนี้กับปารนะ” เธอได้แต่โวยวาย โดยไม่กล้าหันไปมองคนที่ประชิดตัวอยู่ขณะนี้แม้แต่นิดเดียว รู้สึกถึงอุ่นไอความอบอุ่น จากตัวชายหนุ่มที่สัมผัสโอบกอดเธอเอาไว้
“พ่อของปารฝากปารไว้กับพี่แล้วไง” เขายื่นหน้ามาวางคางไว้บนไหล่เด็กสาว ได้ยินเสียงลมหายใจของเขาอยู่ใกล้เหลือเกิน
“ก็ให้ดูแลเฉย ๆ ไม่ได้ให้ทำแบบนี้นี่…”

ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ
“ว่าไง จะหายโกรธมั้ย” เขากระชับวงแขนแน่นขึ้น พลางเอนศีรษะมาซบกับศีรษะของเธอ
“ก็เราอยากดื้อกับพี่ทำไม ต้องทำโทษด้วยวิธีนี้” เขากอดเธอนิ่ง หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข แหม…น่าจะคิดหาเรื่องกอดเธอแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ได้แต่อมยิ้ม คิดอยู่ในใจ

“หายแล้ว ๆ หายตั้งนานแล้ว…” ปารรีบพูดด้วยเสียงรัว ๆ

รีบผลักเขาออกไปไกล ๆ เมื่อเขาคลายวงแขนออก รู้สึกใจหายใจคว่ำอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าว หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ แต่สีหน้าคนหนุ่มกลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดเวลา

“พี่ยนตร์ห้ามทำแบบนี้อีกนะ!!” เธอตะเบ็งเสียงเอาเรื่องเอาราวน่าดู แต่จริง ๆ แล้ว แก้เขิน มันเขิน และอายจะแย่อยู่แล้ว

เขาหัวเราะ “ได้ ถ้าปารไม่ดื้อ และพูดรู้เรื่องนะ” เขามองอาการของเธออย่างขำ ๆ

ต่างคนต่างเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง เขาได้แต่มองสาวน้อยทำหน้าตึงอยู่เงียบ ๆ เหมือนกำลังช่างใจ หรือตัดสินใจอะไรบางอย่าง

“ปาร…”

เด็กสาวฟังเขาเรียกชื่อเธออย่างแปลกใจ น้ำเสียงของเขาไพเราะ และอบอุ่นเป็นพิเศษ

“พี่ถามไรปารหน่อยนะ”

ปารขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไมรู้สึกกลัวคำถามของเขาขึ้นมาตะหงิด ๆ ยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี๊ไม่หาย พยายามรักษาระยะห่างจากเขาพอสมควร กลัวเขาจะเข้ามากระโดดกอดเธออีก

“ปารชอบพี่ใช่มั้ย”

ปารทำตาโต แทบหยุดหายใจ นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ไม่นึกว่าถูกถามด้วยคำถามแบบนี้

“บ้า!! ขี้ตู่จังเลยอ่ะ พี่ยนตร์ เข้าข้างตัวเองจังเลยนะคะ” เธอเริ่มค่อนแคะชายหนุ่ม นึกอยู่ในใจ ถามออกมาได้ยังไง!!
“แต่…ไม่ต้องเสียใจนะคะ ยังไงปารก็ชอบพี่ยนตร์ค่า….” คำสุดท้ายลากเสียงซะยาวเชียว พลางตีสีหน้าระรื่นเกินเหตุ ทำหน้าตาทะเล้น แถมยังฉีกยิ้มกว้างแบบกวนประสาทให้อีกต่างหาก

“หน้าตาน่าเชื่อถือมากเลยนะ” มองหน้าเธอแล้วอยากจะเขกหัวเธอซักทีสองที เขาไม่อยากจะเชื่อเธอเลยว่าเธอพูดจริง อารมณ์ซึ้ง ๆ วิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปหมด

“อ้าว! ไม่เชื่ออีก ตามใจ” ปารลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก จริง ๆ เธอตอบตรงกับใจเธอทุกประการ แต่แกล้งทำหน้าตากวนบาทาไปอย่างนั้นเอง

“ว่าแต่ชอบพี่แบบไหนหรอ” เขายังไม่วายถามต่ออีก

ทำเอาปารอึ้งไปอีกเป็นรอบที่สอง
“เอาแบบไหนดีคะ” เธอขมวดคิ้ว ตีสีหน้าคร่ำเคร่ง เป็นจริงเป็นจังเกินเหตุ จนดูโอเวอร์มาก
“แบบพี่ชายสิคะ จะให้ชอบแบบไหนล่ะ” เธอไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจ เพราะเธอเองก็ยังไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกัน ว่าชอบเขาจริงหรือเปล่า หรือชอบแบบไหน ที่สำคัญกลัวเสียฟอร์ม กลัวเขาจะรู้ความในใจ

“แล้วพี่ยนตร์ละคะ รู้สึกยังไงกับปารคะ” เธอสวนถามเขากลับอย่างทันควัน

ปารจ้องมองริมฝีปากสีชมพูของเขาจะเอื้อนเอ่ย…อย่างใจจดใจจ่อ เขาทำหน้าลำบากใจอยู่ไม่น้อย…ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ต้องเจอเธอย้อนถามแบบนี้

==================

ความรู้สึกที่เลือนลางค่อย ๆ แจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนมีสติรู้ตัว ตื่นเต็ม ปารลืมตาขึ้นในความมืด พยายามลำดับความคิด ค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง มองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง มองเห็นบรรดาเพื่อน ๆ กำลังนอนหลับสนิท พลางยกมือเกาหัวแกรก ๆ

“ฝันไปนี่นา…โธ่..!!! เอ๊ย!!” ภาพความฝันยังฉายชัดอยู่ในหัวสมอง

“ฝันไรไม่รู้ บ้าจริง ๆ เลย ฝันแบบนี้ได้ยังไงนะ ขนาดอยู่ในฝันยังมาตามง้ออีกแฮะ” ปารอมยิ้มคนเดียวอยู่ในความมืด รู้สึกดีใจที่เป็นแค่ความฝัน หากเขาทำอย่างในฝันจริง ๆ ถามเธออย่างในฝันจริง ๆ ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะทำอย่างไร แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นว่า “พี่ยนตร์” ของเธอเป็นสุภาพบุรุษเสมอ มองออกไปที่หน้าต่าง เห็นแสงสว่างลาง ๆ ที่ขอบฟ้าไกล เหลือบมองนาฬิกาแล้วตัดสินใจลุกออกจากที่นอน

“รีบตื่นทำไมไม่รู้ เลยไม่รู้เลยพี่ยนตร์จะตอบว่าไง” เธอคิดทบทวนความฝันนั้น รอยยิ้มยังไม่จางหายไปจากสีหน้า หลังจากล้างหน้าล้างตาแปรงฟันเรียบร้อยแล้ว เดินตรงไปที่ทะเลทันที เธออยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเล…

ปารนั่งทอดอารมณ์อยู่บนพื้นทรายอย่างสบายใจ หูเงี่ยฟังเสียงคลื่น เสียงลม ที่คอยเป็นเพื่อนสำหรับยามเช้ามืดอย่างนี้ สายตากำลังจ้องมองแสงแรกอันงดงามที่จะโผล่พ้นขอบทะเลอย่างช้า ๆ ปลายฟ้าด้านตะวันออกระบายด้วยสีชมพูเข้ม แม้จะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบทะเลอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ก็ตาม เพราะเป็นฝั่งทะเลด้านตะวันตก แต่ภาพธรรมชาติยามเช้ายังเป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน

ยนตร์ตื่นเช้าพอ ๆ กับปาร เพื่อมาชื่นชมความงามของธรรมชาติยามเช้าเช่นกัน เขาได้แต่ยืนมองเธออยู่ห่าง ๆ กลัวว่า จะทำให้บรรยากาศยามเช้าของเธอหม่นหมองลงไป

เขาจำได้ว่า ตอนยังเด็ก ไม่ว่าเขาจะแข่งอะไรแพ้ก็ตาม เธอจะมาบอกเขาเสมอว่า
“พี่ยนตร์เก่งจังเลย” เขาไม่รู้ว่าการที่เขาพ่ายแพ้มันเก่งตรงไหน แต่เธอกลับบอกเขาว่า “พี่ยนตร์เก่งในสายตาปารเสมอ พี่ยนตร์เก่งที่ยอมรับกับความพ่ายแพ้ พี่ยนตร์มีน้ำใจเป็นนักกีฬา แค่นี้ก็เก่งแล้วค่ะ” คำพูดของเธอทำให้เขายิ้มได้ทุกครั้ง

และสิ่งที่เขาไม่เคยลืมเลย เธอเคยรับผิดแทนเขาจนถูกพ่อตี ตอนนั้นเขาถามเธอว่า
“ปารทำแบบนี้ทำไม รับผิดแทนพี่ทำไม ทำไมไม่บอกว่าพี่เป็นคนทำล่ะ พี่เป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำต้องกล้ารับ” ด้วยวัยเด็กของเขาจึงทำอะไรอย่างรู้เท่าไม่ถึงการ
“ไม่เป็นไรหรอก ปารไม่เจ็บเท่าไหร่ค่ะ” เขามองมือของคนที่บอกว่าไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ ที่แดงเป็นปื้นเต็มฝ่ามือน้อย ๆ นั้น
“คราวหลัง ห้ามทำแบบนี้อีกนะ”
“ปารเห็นพี่ยนตร์มีเรื่องราวไม่สบายใจมากอยู่แล้ว ก็เลย…แค่อยากช่วยแบ่งเบาพี่ยนตร์บ้างเท่านั้น หากปารพอจะช่วยได้” ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังมีปัญหามากมายหลังจากพ่อของเขาถูกยิงตายในหน้าที่
แม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านมานานแล้ว แต่ยังคงประทับอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ….


ปูลมตัวเล็ก ๆ ค่อย ๆ เดินกระดื๊บ ๆ มาผ่านหน้าสาวน้อย
“ว่าไง…เจ้าปูน้อย…” เธอมองเจ้าปู่ตัวเล็กกระจิดริดสีเดียวกับผืนทรายอย่างเอ็นดู
“ถ้าวันนี้พี่ยนตร์มาทำดีกับเราอีก เราจะให้อภัยเขาดีมั้ยเจ้าปู”
ปูน้อยไม่ตอบ มันมุดลงหลุมไป เธออยากจะขุดรูของปูเข้าไปดูว่า ปูเขาอยู่กันยังไงนะ แต่ก็..เลิกคิด ไม่อยากรบกวนเจ้าปูน้อย มันคงจะไม่ชอบแน่ ๆ เลย

ภาพความฝันแวบเข้ามาให้สมองอีกแล้ว…คิดถึงครั้งใดก็ทำให้ต้องอมยิ้มแล้วอมยิ้มอีกทุกที
ปารนั่งนับนิ้วมือของตัวเอง
“หืม…นี่เราโกรธกับพี่ยนตร์เป็นเดือนแล้วหรอเนี่ย…” เธอรู้สึกว่า มันเป็นเวลานานมากเลย จนใคร ๆ ต่างให้ฉายาเธอว่า “ยัยขี้งอน” ไปซะแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะงอนเขานานขนาดนี้เลย เพียงแต่มันยังโกรธอยู่เฉย ๆ เท่านั้นเอง แต่ก็ทำให้รู้ว่า เขายังแคร์เธอเสมอ เขาไม่เคยละลดความพยายามที่จะง้อเธอเลย แม้ว่าเธอจะทำตัวไม่น่ารักกับเขามาก ๆ เขาก็ยังอดทน ทั้งยังพูดจาด้วยถ้อยคำที่ทำให้เขาเสียใจ แต่เขาก็ยังทำดีกับเธอ คอยช่วยเหลือเธอเหมือนที่เคยทำมาตลอด

จะมีใครที่แคร์ความรู้สึกของเธอเท่ากับเขา…คง….ไม่มีอีกแล้ว…

“ถ้าเขาถามเราแบบในฝัน เราจะตอบเขาว่ายังไงดีนะ” ปารถามตัวเอง เธอรู้สึกหนักใจขึ้นมาทันที คำว่า “รัก” เป็นอะไรที่พูดยากเหลือเกิน เพราะเธอไม่เคยบอกรักใคร แม้แต่พ่อ ที่เธอรักเคารพเทิดทูนที่สุด แต่ใช้การกระทำ เป็นการบอกแทน เพราะพ่อทำตัวอย่างให้ดูมากกว่าที่จะพูดเสมอ

“แต่…พี่ยนตร์คงไม่ถามหรอก” เธอรู้ดี เพราะพี่ยนตร์ของเธอนิสัยเหมือนพ่อของเธอราวกับถอดแบบออกมาจากพิมพ์เดียวกัน เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอรักและศรัทธาในตัวเขามากกว่าใคร

“ถ้าเขาไม่ยอมถามเรา เราจะไปบอกเขาดีมั้ยนะ” บางครั้งเธอรู้สึกอยากจะไปบอกเขาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ก็ไม่เคยกล้า และรู้สึกกลัว…กลัวอะไรบางอย่าง เธอยังไม่รู้เหมือนกันว่าเธอกลัวอะไร

ปารขยับตัวลุกขึ้น สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อย่างรู้สึกสดชื่น บิดซ้ายบิดขวาเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อให้กระปี้กระเปร่าขึ้น เดินเล่นไปเรื่อย ๆ นึกสนุกเมื่อเดินผ่านประตูโกฟุตบอล มีแคร่เก่า ๆ วางอยู่ใต้นั้น เธอก้าวเท้าขึ้นไปยืนบนแคร่ แล้วกระโดดเกาะคานโกประตูฟุตบอล โหนไปมาได้สองสามที มือก็ลื่นหลุดจากคานนั้น เนื่องจากมีน้ำค้างยามเช้าเกาะอยู่ ร่างของเธอหล่นลงมากระแทกกับแคร่เก่า ๆ นั้นตามน้ำหนักตัว บวกกับแรงเหวี่ยงของการโหนตัว ลำตัวที่เลยออกจากแคร่ไปมากกว่าครึ่ง ทำให้เธอหงายหลังตกจากแคร่ บั้นเอวและแผ่นหลังตลอดจนศีรษะฟาดลงกับพื้นทรายอย่างแรง ส่วนขาตีกลับไปอยู่บนพื้นเหนือศีรษะ เรียกว่าถ้าเงยหน้าเหลือบมองข้างบนเมื่อไหร่ ต้องมองเห็นเท้าของเธอแหง ๆ

ยนตร์มองเหตุการณ์นั้นอย่างตกใจ แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเธอทันที

“ปาร! เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาประคองเธอไว้ในอ้อมแขน

“อู๊ย..ย…ย” เสียงซีดรอดออกมาตามไรฟันอย่างเจ็บปวดสุดแสน เป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความอดทนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นจนกว่าอาการดังกล่าวจะหายไป หรือค่อยทุเลาขึ้น ปารรู้สึกชาซ่านไปทั่วบริเวณบั้นเอว รู้สึกหัวมึนงง และหนักอึ้ง มองเห็นแต่แสงสีขาววิบวับเต็มไปหมด

ยนตร์เขย่าร่างสาวน้อยเบา ๆ ด้วยความเป็นห่วง
“ปาร…ไม่เป็นไรใช่มั้ย”

เด็กสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แล้วสะบัดหัวไปมา ยกมือนวดเฟ้นบริเวณที่กระแทกกับพื้น

“พี่ยนตร์หรือคะ”

“จ้ะ…พี่เอง เจ็บมากหรือเปล่า” เขายกมือช่วยกดช่วยนวดช่วยคลึงศีรษะให้ ทั้งยังดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาอังความร้อนจากริมผีปาก เป่าลมร้อน ๆ เพื่อให้ผ้าเช็ดหน้าอุ่น ๆ แล้วประคบให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“ซนจริง ๆ เลย ขึ้นไปโหนทำไมบนนั้น เกิดตกลงมาคอหักแล้วจะทำยังไง” เขาเริ่มดุ

ปารทำหน้าเหยเกบิดเบี้ยว เจ็บก็เจ็บ แถมยังถูกเขาต่อว่าอีก ยิ่งทำให้เจ็บมากกว่าเดิม คือเจ็บใจ

“พี่ยนตร์นะ!! แทนที่จะปลอบน่ะ ไม่มีเลย เจ็บจะตายอยู่แล้ว เอาแต่ว่า ๆ ๆ อยู่ได้ ดุยังกะปารเด็ก ๆ งั้นแหละ”

“พี่…ขอโทษ…อย่าโกรธนะ”



ริเศรษฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 มิ.ย. 2555, 21:34:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 มิ.ย. 2555, 21:34:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1386





<< ตอนที่6   ตอนจบค่า...^_^ >>
mhengjhy 21 มิ.ย. 2555, 10:33:20 น.
ปารผิดหวัง นึกว่าจะเหมือนในฝัน 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account