หวานรักละมุนใจ
เรื่องราวแสนวุ่นเกิดขึ้นเมื่อน้องสาวขี้หวงประกาศลั่นไม่ยอมให้พี่ชายมีแฟน "ชาตินี้ทั้งชาติโต๋จะต้องอยู่กับเค้า ดูแลเค้าไปตลอดชีวิต!" ติณณะกุมขมับ โธ่ เขาอายุสามสิบแล้วนะ ไม่มีแฟนตอนนี้จะให้ไปมีตอนไหนวะ ?!
Tags: โต๋, เต๋, มณชยาภา,หวาน,นิยายหวาน,พี่ชาย,น้องสาว,น่ารัก

ตอน: IV : Sweet Love (2)


แมวสาวตัวกลมป้อมขนฟูสีเทา หน้าตายับยู่มู่ทู่ตามพันธุ์ของมันเดินส่ายอาดๆ และกระโดดขึ้นมานั่งบนโซฟา เมื่อได้ที่แล้วก็ขยับลิ้นออกมาเลียทำความสะอาดขนทั่วตัวจนพอใจ...ก่อนจะนั่งตัวตรงแด่ว รอเจ้าของผู้เป็นสุดสวาทขาดใจของมันลงมาหา

“นี่น่ะเหรอไอ้ตัวที่ป่วย ท่าทางมันเหมือนไม่ป่วยสักนิดเลยนะ” จักราวุธที่อาบน้ำสะอาดแล้วเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมกับเจ้าของแมวหน้าตากวนอารมณ์

ติณณาบ่นจมูกใส่อีกฝ่าย รีบเดินแซงมาหาสัตว์เลี้ยงตัวโปรด

“มามะ...ติ๊ดตี่...มาให้เต๋กอดทีสิ”

ในขณะนั้นคนตัวสูงอยากเกิดใหม่เป็นไอ้ก้อนกลมๆ ในอ้อมกอดหญิงสาวเป็นบ้าเลย!

ไอ้ก้อนกลมๆ นั่นดูเหมือนจะแสนรู้เกินแมว เพราะเขาเห็นมันมองมาทางเขาแปลกๆ ชอบกล

“อ๋อ...เต๋ลืมแนะนำไป นี่พี่วุธนะติ๊ดตี่...พี่วุธเป็นเพื่อนรักของโต๋...เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศน่ะ” ติณณาอุ้มติ๊ดตี่ไปใกล้ๆ จักราวุธเพื่อให้มันซึบซับกลิ่นของอีกฝ่าย จะได้คุ้นเคยกันไว้

ติ๊ดตี่คล้ายกับจะล่วงรู้ความในใจของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้เจ้านายสุดแสนรักของมัน จึงจัดการเตือนด้วยท่าทางหวงแหนติณณาไปหนึ่งงับ!

“เฮ้ย!” คนโดนงับนิ้วร้องเสียงหลง

ติณณาตกใจรีบวางติ๊ดตี่ลงบนโซฟา และรีบมาดูแผลบนนิ้วของเขา

ส่วนไอ้แมวตัวแสบเหมือนมันจะพอใจในผลงานของตัวเอง จึงทำท่าชูคอที่มีอยู่น้อยนิดขึ้น พลางปรายตาเยาะๆ มาที่เขา

จักราวุธได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ...ไอ้แมวบ้านี่มันกวนโอ๊ยชะมัดยาด ทำท่าประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าของติณณา...โธ่! คอยดูแล้วกันว่าระหว่างแมวกับคน...ใครมันจะแน่กว่ากัน

“เป็นอะไรมากไหมคะพี่วุธ จริงๆ แล้วติ๊ดตี่ไม่ค่อยงับใครนะคะ”

จักราวุธปรายตายั่วแมวนรกนั่นนิดๆ และเขาก็แน่ใจมากทีเดียวว่ามันแสนรู้มากๆ เพราะเมื่อเขาขยับตัวไปใกล้ๆ ติณณา มันรีบลุกขึ้นยืน พร้อมกับจ้องหน้าเขาเขม็ง

“สงสัยจะต้องปวดไปอีกสักพักล่ะเต๋” อ้อนพลาง เขยิบเข้าไปใกล้ร่างบางพลาง “พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกเต๋ กลับบ้านกินยา เดี๋ยวก็หาย”

ไอ้ก้อนกลมๆ บนโซฟาชักทนไม่ไหว เพราะตอนนี้มันเริ่มร้องเรียกติณณาให้สนใจมันบ้าง

“หยุดเลยนะติ๊ดตี่ ทำไมถึงเกเรแบบนี้ล่ะ...ไม่น่ารักเลย”

ติ๊ดตี่ทำหน้าจ๋อยๆ คล้ายกับจะขอโทษติณณา ก่อนจะยกขาหน้าสองข้างเพื่อให้ติณณาอุ้ม “ม้าววว”

เจ้าของแมวดุใส่ “ไม่ต้องมาอ้อน วันนี้ไม่อุ้มแล้ว เต๋ไม่ชอบแมวเกเร” ก่อนจะหันมาทางเพื่อนพี่ชาย “เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยพาแมวเกเรไปฉีดยา”

แมวเกเรเอาขาลง คอตก ซึมไปเลย จักราวุธเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ขณะนั้นก็นึกขำตัวเองที่หาเรื่องได้แม้กระทั่งแมว

ก็แหม...เจ้าของแมวน่ารักขนาดนี้...ต่อให้โดนไอ้แมวบ้านั่นงับอีกสักทีสองที...เขาว่ามันก็คุ้มนะ!



--------------------------------------------------------------------


ติณณะยืนขึ้นหลังจากปิดการประชุมลงหลังจากได้ข้อสรุปว่าจะไปดูงานที่ไร่กาแฟธารารินจังหวัดชุมพรเป็นเวลาสามวันสองคืน ออกเดินทางด้วยรถตู้บริษัทเช้าวันศุกร์และกลับถึงกรุงเทพประมาณช่วงเย็นๆ ของวันอาทิตย์ เขารอให้ทุกคนในห้องออกไปหมดก่อนจึงหันมาบอกเลขาสาว

“คุณต้องไปกับผมด้วยนะเตย”

“คะ?...ฉันต้องไปด้วยเหรอ” ตรีญดาทวนคำถามซ้ำ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องไปด้วย “ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานนะคะ กลัวว่าจะช่วยเหลืออะไรคุณได้ไม่มาก”

เจ้านายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะเอื้อมมือบางมากุมไว้ “ทำไมจะช่วยอะไรไม่ได้ ผมน่ะดีใจมากเชียวล่ะที่เราจะได้ไปที่ไร่กาแฟกันวันศุกร์นี้”

“มันมีอะไรให้น่าดีใจขนาดนั้นคะ”

“อ้าว...คุณไม่รู้เหรอเตยว่าโอกาสที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบห่างหูห่างตาน้องสาวของผม มันหาได้ยากแค่ไหน”

ตรีญดายิ้ม

“แต่ฉันจะช่วยอะไรคุณได้ล่ะคะ ความรู้เกี่ยวกับไร่กาแฟก็ไม่ค่อยจะมี”

“แค่ยืนยิ้มหวานๆ ให้ผมทุกวินาที แค่นี้ก็สร้างกำลังใจให้ผมได้มากแล้วล่ะเตย”

คนโดนเกี้ยวหน้าแดงเรื่อ

“ขนาดนั้นเชียวหรือคะ เราเพิ่งกลับมาเจอกันเองนะ”

ติณณะยกมือบางขึ้นมาจูบแผ่วๆ บนปลายนิ้ว แต่สัมผัสเพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของตรีญดาสั่นไหว “จะบอกให้ว่าผมไม่อยากเสียเวลาแม้สักวินาทีเลยล่ะ เราใช้เวลาโดยไม่มีกันและกันมานานมากแล้วนะเตย อายุผมก็เหมาะสมที่จะมีครอบครัวได้แล้วด้วย”

“โต๋...”

“อย่าปฏิเสธผมเลยนะเตย หรือระหว่างที่เราเข้าใจผิดกันมาเกือบสิบปี...คุณมีคนอื่นดูแลแล้ว”

“ไม่ค่ะ...ฉันเพียงแค่...เหมือนยังไม่มั่นใจ” เธอบอกเสียงเบา

“คุณไม่มั่นใจผม?”

“ฉันหมายถึงฉันไม่มั่นใจในตัวเราทั้งสองคนค่ะ เราห่างกันมานานเกินไป อีกอย่างความสัมพันธ์ตอนนั้นของเรามันก็แค่...คืนเดียว...”

“คุณเคยได้ยินไหม ความสัมพันธ์คืนเดียวสามารถเปลี่ยนเป็นความผูกพันชั่วชีวิตได้”

หญิงสาวก้มหน้าลงต่ำ รู้สึกเหมือนละอายใจอย่างไรบอกไม่ถูก เธอเป็นคนเอ่ยปากขอเริ่มต้นใหม่กับเขาเองด้วยซ้ำ...เหตุผลเพราะอะไร...เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ

“แต่ฉัน...”

นิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะริมฝีปากอิ่มแดงเพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ เขารู้สึกว่าการกลับมาเจอกันอีกครั้งระหว่างเขาและเธอมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆ มันคือพรหมลิขิต...บุพเพสันนิวาส

“ไม่มีแต่แล้วเตย” เขาขยับตัวเข้ามาชิดร่างบาง “ผมรู้ว่าคุณกังวลใจ แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่มีใคร เหตุผลก็เพราะว่าผมไม่เคยลืมคุณได้เลย”

“โต๋...ฉันก็ไม่เคยลืมคุณได้เหมือนกัน...คุณเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน” พูดพลางใบหน้านวลก็แดงก่ำ “และที่สำคัญคือฉัน...ฉัน...หลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น”

“ผมดีใจที่เราใจตรงกัน ผมเองก็หลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน”

ตรีญดาเม้มปากแน่น กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง ทว่าริมฝีปากหยักได้รูปก็โน้มลงมาจนชิดติดกับริมฝีปากของเธอ

จูบของเขาช่างแสนหวาน...สัมผัสแผ่วเบาราวกับขนนกลากผ่านพาให้หัวใจลอยละล่อง...พลิกคว่ำพลิกหงายอย่างน่าหวาดเสียว ตรีญดาคล้ายกับถูกขโมยลมหายใจ ลิ้นอุ่นแทรกสอดเข้ามาหยอกล้อด้านในโพรงปากซึ่งฉ่ำหวานสักครู่ เขาก็ละเรียวปากออก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แต่คนโดนจูบกลับทำอะไรไม่ถูกเพราะรู้สึกเหมือนโดนสะกด

“ผมมีแค่ตัวและหัวใจ แต่รับรองได้ว่ามันเป็นของคุณคนเดียว”

“โต๋...”

หญิงสาวครางเรียกชื่อเขาได้แค่นั้น จำใจต้องกลืนคำพูดทุกคำลงคอ ไม่กล้าบอกความจริงกับติณณะว่าเหตุใดเธอจึงรีบคว้าโอกาสในการคืนดีกับเขาไว้!

------------------------------------------------------------------



เช้าวันต่อมา...ตรีญดายืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้านกาแฟของน้องสาวติณณะ รู้ดีอยู่แก่ใจว่าการกระทำของเธอมันเข้าข่ายนางร้ายในละครที่มาทำเนียนตีสนิทกับคนที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของแฟนหนุ่ม

ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ เมื่อมองผ่านกระจกใสด้านหน้าเข้าไปแล้วเห็นคนตัวเล็กในชุดเดรสสีฟ้ากำลังยิ้มแย้มแจ่มใสกับลูกค้า...เธอก็สงสัยเพราะดูท่าทางแล้วติณณาไม่น่าจะร้ายกาจหรือมีพิษสงอะไรเลย

โต๋คงจะคิดมากไป

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูกระจกเข้าไปด้านใน...





เจ้าของร้านสาวเงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟ ใบหน้าดูกระจ่างตาขึ้นมาเพราะรอยยิ้มหวานสดใส

“พี่ใบเตย...”

คนถูกทักด้วยน้ำเสียงหวานๆ นึกละอายใจขึ้นมาวูบหนึ่ง หากแต่พยายามใจแข็ง

“น้องเต๋ มาแต่เช้าเชียวนะคะ”

“ค่ะ...ปกติเต๋ต้องออกมาแต่เช้าอยู่แล้ว เต๋ต้องเตรียมของเปิดร้านก่อนค่ะ พี่เตยเองก็มาเช้าเหมือนกันนะ เอ้อ...แล้วพี่เตยทานอะไรมาหรือยังคะ...นั่งเลยค่ะเต๋เป็นเจ้ามือเอง” ติณณาเอ่ยปากเชิญเลขานุการคนใหม่ของพี่ชายซึ่งเธอเองเป็นคนคัดเลือกมากับมือให้นั่งลง ขณะฉีกยิ้มดีใจที่คิดว่าตัวเองคงเลือกคนไม่ผิด

“ไม่เป็นไรค่ะน้องเต๋ พี่ไม่รบกวนขนาดนั้นหรอก” ตรีญดาเอ่ยอย่างเกรงใจ

“รบกงรบกวนอะไรกันคะพี่เตย จะบอกให้นะว่าเต๋น่ะไม่ค่อยถูกชะตากับใครง่ายๆ หรอก”

ตรีญดากะพริบตาปริบๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวสวยริมหน้าต่างกระจกบานยาว ติณณาหัวเราะ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูด

“ทำงานกับโต๋เป็นยังไงบ้างคะพี่เตย”

“เอ่อ...เมื่อวานก็ไม่มีอะไรนะคะ” ตรีญดาพยายามไม่นึกถึงอ้อมกอดแสนอบอุ่นกับจูบแสนหวานที่ได้รับมาเมื่อคืนนี้ “คุณโต๋เป็นกันเองดีค่ะ”

“โต๋วุ่นวายกับพี่เตยหรือเปล่า”

“วุ่นวาย? น้องเต๋หมายถึง...”

“เต๋หมายถึงทำท่าเจ้าชู้ประตูดินใส่พี่เตยน่ะค่ะ”

คนถูกถามส่ายหน้า โกหกอย่างแนบเนียน “ไม่ค่ะ คุณโต๋ไม่ได้วุ่นวายกับพี่ลักษณะนั้น”

“ถ้าโต๋ทำให้พี่เตยรำคาญใจก็บอกเต๋ได้นะ โต๋น่ะเชื่อฟังเต๋เสมอแหละ” คนพูดยืดอกอวด “เต๋รู้สึกถูกชะตากับพี่เตยจริงๆ นะคะ ทั้งชีวิตของเต๋มีแค่โต๋ ลุงต้อม ป้าตุ้ม พี่ตั้งโอ๋ ติ๊ดตี่...” หางเสียงตอนท้ายฟังแล้วเศร้า ก่อนที่คนพูดจะเปลี่ยนท่าทางอย่างฉับไวจนคนฟังตามอารมณ์ไม่ทัน “เราเลิกพูดเรื่องเศร้าๆ กันดีกว่าค่ะพี่เตย บอกเต๋มาเลยว่าพี่เตยชอบกาแฟรสชาติไหน เต๋จะชงให้”

ตรีญดาเอื้อมมือไปจับมือเล็กนุ่มนิ่มเอาไว้ “ถ้าน้องเต๋มีเรื่องไม่สบายใจ อยากจะคุยตามประสาผู้หญิง...คุยกับพี่ได้นะคะ ถือเสียว่าพี่เป็นพี่สาวอีกคนก็ได้ค่ะถ้าน้องเต๋ไม่รังเกียจ”

ติณณาเหลือบมองกริยาของอีกฝ่ายอย่างคาดคะเน สักครู่ริมฝีปากบางก็เผยรอยยิ้มกว้างๆ

“เต๋ไม่รังเกียจหรอกค่ะ ดีซะอีกที่มีพี่เตยมาเป็นพี่สาวอีกคน...จริงๆ แล้วโต๋เองก็ให้คำปรึกษาอะไรต่อมิอะไรกับเต๋ได้ไม่มากเลย ขอบคุณนะคะพี่เตยที่รักเอ็นดูเต๋”

“ช่างพูดจริงๆ เด็กคนนี้” ตรีญดาเย้า “ขี้อ้อนแถมน่ารักแบบนี้ไงเล่า พี่ถึงหลงรักน้องเต๋ตั้งแต่แรกเห็น”

“จริงเหรอคะ! พี่เตยหลงรักเต๋ตั้งแต่แรกเห็นจริงๆ น่ะเหรอ”

คนถูกถามพยักหน้า “จริงสิจ๊ะ พี่คิดว่าน้องเต๋น่ารักมากเชียวล่ะ”

“ไม่เห็นเคยมีใครชมเต๋สักคน ส่วนใหญ่เพื่อนของโต๋ชอบว่าเต๋ว่าเป็นนางมารร้ายกันทั้งนั้น อ้อ! รวมโต๋ด้วยนะพี่เตยที่ชอบว่าเต๋ว่าร้ายกาจบ้างล่ะ เดวิลตัวแม่บ้างล่ะ” คนอายุน้อยได้โอกาสฟ้อง

ตรีญดาขมวดคิ้ว “จริงๆ แล้วน้องเต๋ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยใช่ไหม”

เจ้าของร้านกาแฟส่ายหน้าเบาๆ “อันที่จริงเต๋ก็อาจจะร้ายนิดหน่อยน่ะพี่เตย คือแบบว่าเต๋หวงโต๋มากๆ เลยล่ะ เต๋ยอมรับตรงๆ เลยนะพี่เตยว่าเต๋กลัว...กลัวว่าถ้าโต๋มีแฟน โต๋จะห่างเต๋ออกไป ไกลออกไป และในที่สุด...โต๋ก็จะอยู่ในจุดที่เต๋มองไม่เห็น แตะไม่ได้...ไม่เหมือนตอนนี้ที่ทุกลมหายใจของโต๋มีแต่เต๋ และทุกลมหายใจของเต๋มีแต่โต๋ ถ้ามองความร้ายกาจของเต๋ในมุมของเต๋ว่าที่เต๋ขัดขวางหรือพรากความรักไปจากโต๋...เต๋ทำทุกอย่างลงไปเพราะเต๋รักโต๋มาก”

ตรีญดาชะงัก...ตกลงว่าสิ่งที่ติณณะพร่ำบอกกับเธอก็คือเรื่องจริงใช่ไหม เพียงแต่เปลี่ยนไปนิดหน่อยตรงที่ยายตัวแสบของเขาเป็นเพียงเด็กขาดความอบอุ่นคนหนึ่งเท่านั้นเอง

ถ้าอย่างนั้นหากเธอตีสนิทไปเรื่อยๆ จนติณณารักเธอ ไว้ใจเธอมากๆ แล้วค่อยบอกเรื่องที่ติณณะคบกับเธอ...ติณณาคงไม่ว่าอะไร

แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคต เธอควรจะทำปัจจุบันให้ดีเสียก่อน...ก่อนที่ทุกอย่างจะพลาดและหลุดมือไป

“ตกลงว่าพี่เตยชอบทานกาแฟแบบไหนดีคะ อ้ะๆ ห้ามปฏิเสธด้วยนะคะเพราะพี่เตยขอเต๋เป็นน้องสาวแล้ว ถ้าพี่เตยคิดว่าเต๋เป็นน้องสาวจริงๆ พี่เตยก็ต้องบอกความจริงมา”

“พี่ขอคาปูชิโนร้อนก็ได้จ้ะ”

“พี่เตยกินเหมือนโต๋เลยอ่ะ” ติณณาพูดแบบไม่คิดอะไร พลางหมุนตัวไปชงเครื่องดื่มตามที่อีกฝ่ายบอกมาจึงไม่ทันสังเกตเห็นแววตาของพี่สาวหมาดๆ ซึ่งมองตามหลังเธอด้วยความเสียใจระคนละอายใจ



----------------------------------------------------------------


ติณณะเดินหน้าเครียดผ่านหน้าตรีญดาเข้าไปในห้องทำงาน ไม่มีแม้แต่จะเอ่ยทักทายหรือปรายตามองเธอเลยแม้แต่น้อย

“สงสัยจะทะเลาะกับน้องเต๋มาแหงๆ ...ถึงได้ทำหน้าตาแบบนี้”

เสียงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งตั้งข้อสังเกต ซึ่งเธอแอบฟังอยู่เงียบๆ

“นั่นสิ...หน้าบึ้งแบบนี้มีประเด็นเดียวคือทะเลาะกับน้องเต๋...นั่นก็นะ...น้องสาวอาไร้หวงพี่เสียยิ่งกว่าแม่หวงลูกซะอีก”

“ก็เขาเล่าๆ กันต่อมาว่าพอพ่อแม่เสีย น้องเต๋แกก็ยึดพี่ชายไว้แน่น เธอก็เห็นฤทธิ์มาแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนที่เธอตั้งท่าจะอ่อยคุณโต๋น่ะ”

“ใช่...” คนเคยโดนฤทธิ์เดชเดวิลตัวแม่ย่นคอ “ฉันเกือบแย่ โชคดีที่ตอนนั้นแค่คิดจะยั่ว เธอคิดดูเถอะจนทุกวันนี้น้องเต๋ยังมองฉันแบบจะกินเข้าไปทั้งตัวอยู่เลย”

“คุณโต๋นะคุณโต๋ หล่อก็หล่อ แสนดีก็เท่านั้น...คงต้องเป็นโสดไปจนแก่แน่นอน...อ้ะ! อุ๊ย!” เสียงอุทานดังขึ้นเพราะคนที่เป็นหัวข้อสนทนาเปิดประตูออกมากจากห้อง พร้อมกับกระแอมเสียงดังๆ

“คุณเตย...เข้ามาพบผมหน่อย ผมจะสั่งงานที่คุณต้องเตรียมในวันดูไร่” สั่งสั้นๆ แล้วหายตัวเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว

ตรีญดาสุดแสนจะเสียดายที่ไม่ได้ฟังเรื่องราวความร้ายกาจของติณณาต่อ เธอรีบคว้าสมุดจดงานพร้อมกับปากกาขึ้นมา และเดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านาย

คนเป็นเจ้านายกำลังเดินไปเดินมา คนเข้ามาใหม่ได้แต่งง เพราะไม่รู้สาเหตุว่าเขาเป็นอะไร

“คุณ...เป็นอะไรหรือเปล่าคะโต๋”

ติณณะหยุดเดิน พลางยกมือกอดอก “เมื่อเช้าคุณทำอะไรลงไปน่ะเตย”

“ทำอะไรคะ”

“คุณเข้าไปหาเต๋”

หญิงสาวยิ้มบางๆ “ทำไมฉันจะเข้าไปหาน้องเต๋ไม่ได้ล่ะคะ”

“คุณไม่รู้หรือไงว่ายายเด็กนั่นเขาจะต้องกีดกันผมออกจากผู้หญิงทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดผม”

“รู้ค่ะ น้องเต๋เล่าให้ฟังแล้ว” เธอตอบเสียงใส

ติณณะขมวดคิ้ว ขณะทวนคำ “เล่า?...ยายเด็กนั่นเล่าเรื่องอะไรให้คุณฟัง”

“ก็...เล่าทุกเรื่องเลยค่ะ เล่าว่าทำไมถึงต้องกีดกันคุณจากผู้หญิงหลายๆ คน วิธีการบางวิธีฉันนั่งขำจนแทบตกเก้าอี้เลยนะคะโต๋”

“พวกคุณสนิทกันมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

ตรีญดาพยักหน้าเบาๆ รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาร่างสูง

“คุณคงไม่ว่าอะไรนะคะโต๋ ฉันเห็นว่าคุณกังวลเรื่องน้องเต๋มากๆ ฉันเลยตัดสินใจลองเข้าหาแกน่ะค่ะ เท่าที่ฉันเห็น...น้องเต๋เป็นเด็กน่ารัก และแกคงจะขาดความรัก ความอบอุ่น ขาดหลักยึดเกาะ น้องเต๋เลยทำเรื่องแบบนั้นน่ะค่ะ”

ชายหนุ่มรั้งเธอเข้ากอดแนบอก “คุณรู้ไหมเตยว่าตอนแรกที่ผมได้ยินว่าคุณเข้าไปในร้านกาแฟของเต๋ หัวใจผมแทบจะวาย...แต่ถ้าคุณเข้ากับยายเต๋ได้ ผมก็สบายใจ แต่ผมยังยืนยันคำเดิมนะว่าอยากให้คุณเก็บเรื่องของเราเอาไว้ก่อน...ผมยังไม่อยากให้เต๋รู้ ไม่รู้สิ...ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจยายเต๋อยู่ดี”

ตรีญดารับคำ ก่อนจะย้ำ “ฉันยอมทุกอย่างค่ะ...เพื่อความรักของเรา” และเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวเธอด้วย...ประโยคท้ายเธอไม่ได้พูดออกไป แต่ซุกใบหน้าลงบนหน้าอกอบอุ่นแทน


-----------------------------------------------------------



มณชยาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2555, 11:19:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2555, 11:40:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 1348





<< III : Sweet Love (1)   V : ถ้าฉันไม่อยู่...แล้วใครจะดูแลเธอ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account