หวานรักละมุนใจ
เรื่องราวแสนวุ่นเกิดขึ้นเมื่อน้องสาวขี้หวงประกาศลั่นไม่ยอมให้พี่ชายมีแฟน "ชาตินี้ทั้งชาติโต๋จะต้องอยู่กับเค้า ดูแลเค้าไปตลอดชีวิต!" ติณณะกุมขมับ โธ่ เขาอายุสามสิบแล้วนะ ไม่มีแฟนตอนนี้จะให้ไปมีตอนไหนวะ ?!
Tags: โต๋, เต๋, มณชยาภา,หวาน,นิยายหวาน,พี่ชาย,น้องสาว,น่ารัก

ตอน: VI : มันหมายความว่ายังไง!?


จักราวุธยืนละล้าละลังหน้าร้านกาแฟของติณณา...รู้ดีว่าวันนี้ไอ้โต๋มันไปชุมพร แทบจะไม่มีเหตุผลอะไรที่มายืนตรงนี้ แต่ทำไงได้เขาไม่เจอติณณามาตั้งสองวันแล้ว

...คิดถึง

เหตุผลแค่นั้นแหละที่ทำให้เขามาอยู่ตรงนี้

ทั้งที่ติณณาเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างติณณาจะทรงอิทธิพลต่อหัวใจเขามาก...ขนาดที่ว่าแค่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าหวานใส หัวใจเขาก็เต้นแรง สั่นไหว...

ถ้าว่ากันตามจริง เขาไม่ควรมีอาการแบบนี้!

ใช่สิ...เขาไม่ควรมาตกหลุมรักเด็กน้อยจอมแสบ พูดมากก็เท่านั้น แถมยังแก่นเซี้ยว ช่างออดอ้อน ช่างประจบประแจง รูปร่างก็ไม่อวบอึ๋มเท่ากับสาวๆ ที่เขาเคยคบมา แต่...ไม่รู้สิ...หุ่นผอมคล้ายกุ้งแห้งของยายเด็กนั่นกลับเย้ายวน เชิญชวนให้เขาพาตัวเข้าไปชิดใกล้ และยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กุ้งแห้งตัวน้อยมาครอบครอง

จักราวุธยิ้มกริ่ม ก่อนจะผลักประตูร้านเข้าไป...

กุ้งแห้ง...เอ๊ย! ติณณาเงยหน้าขึ้นจากเคาน์เตอร์ และเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามา ริมฝีปากบางก็เผยรอยยิ้มสว่างสดใส

“พี่วุธ...มาได้ไงเนี่ย”

“ขับรถมาจ้ะ” คนถูกทักตอบด้วยน้ำเสียงยียวนนิดๆ

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ติณณาหุบยิ้มฉับ “พี่วุธบ้า! กวนเต๋แต่หัววันเชียวนะ”

“ไม่กวนเต๋ แล้วจะให้พี่ไปกวนใคร” พูดพลาง ร่างสูงก็เดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ เคาน์เตอร์ “ไอ้โต๋ก็ไม่อยู่ให้กวน เฮ้อ...เหงาชะมัด พี่ขอชานมร้อนแก้วหนึ่งนะเต๋ อ้อ...ขอบัตเตอร์เค้กชิ้นนึงด้วยจ้ะ”

“สาวๆ ในฮาเร็มล่ะคะ โต๋เล่าให้เต๋ฟังออกจะบ่อยว่าพี่วุธน่ะ...เจ้าชู้จะตายไป อย่ามาโกหกเต๋เลยว่าเหงา” เธอแซว แต่มือชงเครื่องดื่มแล้ววางใส่ถาดแก้ว วางบัตเตอร์เค้กใส่จานสวย ก่อนจะยกไปเสิร์ฟคนขี้เหงาที่โต๊ะ

จักราวุธคาดโทษไอ้เพื่อนตัวดีไว้ในใจ...หนอยๆ แล้วมาบอกว่าน้องร้ายกาจ หวงพี่ ไม่อยากให้พี่มีแฟน...ตัวเองก็ใช่ย่อยนะไอ้โต๋!

“ฮารงฮาเร็มอะไรกันเต๋ จำไว้เลยว่าเวลาไอ้โต๋พูดอะไรเกี่ยวกับพี่ต้องเอาจำนวนประชากรจีนหารไปเลย” เขาตีหน้าเครียด

ติณณาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับเขา พลางส่ายหัวดิก ไม่เชื่อคำพูดของคนไม่ยอมรับความจริง

“เต๋เกือบเชื่อเลยนะพี่วุธ ถ้าหากว่าวันนี้เต๋ไม่เห็นข่าวที่พี่วุธประคองนางแบบสาวเข้าโรงแรม”

คนปากแข็งแทบสำลักชา “หะ...ข่าวอะไร...พี่พาใครเข้าโรงแรม”

ติณณายิ้มแฉ่ง ก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์มากางให้เขาดู “นี่ไง หวีดหวานซ้า ว่าแต่พี่วุธเปิดตัวแฟนแบบนี้ ไม่กลัวโต๋หึงเหรอจ๊ะ”

จักราวุธส่ายหน้าช้าๆ เขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่านางแบบสาวที่ควงด้วยเมื่อคืนรอบจัดขนาดไหน...คงจะวางแผนไว้ทุกอย่างแล้ว ดูเอาเถอะ...ขนาดโดนแอบถ่ายนะ ยังเห็นหน้าค่าตาเจ้าหล่อนชัดเจนเลยทีเดียว

“กลัวสิ เต๋ต้องช่วยพี่อธิบายนะ ถ้าโต๋หึงพี่ แล้วบอกเลิกพี่ขึ้นมา พี่คงทนไม่ได้” เขารับมุก

คนอายุน้อยกว่าทำหน้าปุเลี่ยนๆ แล้วหัวเราะเสียงดังลั่น

“รู้ไหมว่าเต๋เห็นเป็นพี่วุธหรอกนะ เต๋ถึงไม่อาละวาดใส่ ถ้าเป็นคนอื่นมาประกาศตัวว่าเป็นแฟนโต๋ขนาดนี้นะ...หึ! ไม่รอดแน่ๆ”

“เราจะหวงอะไรไอ้โต๋มันนักหนาฮะเต๋ โต๋มันโตจนหมาไล่งับตูดไม่ถึงแล้ว ปล่อยๆ มันบ้างเถอะ”

“ไม่เอา...” ติณณางอแงทันที ใบหน้าหวานงอง้ำ “พี่วุธคิดดูสิ ถ้าหากโต๋มีแฟน อีกสักพักก็ต้องแต่งงาน พอแต่งงานแล้วมีลูก พอมีลูกแล้วโต๋ก็ลืมเต๋แน่ๆ เต๋ไม่มีใคร...เต๋กลัว”

“จะกลัวทำไม เต๋ก็หาแฟนบ้างสิ หาแฟนแล้วก็แต่งงาน แล้วก็มีลูกน่ะ”

“ไม่!” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง “เต๋ไม่อยากมีครอบครัว เต๋กลัวว่าถ้าเต๋มีครอบครัว แล้วถ้าสักวันพวกเขาหายไป...เต๋คงทนไม่ได้แน่ๆ”

เป็นคราวของชายหนุ่มที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“คิดแบบนี้มันก็แย่น่ะสิ ไม่แน่หรอกนะ ถ้าเต๋ได้ลองมีความรัก เต๋อาจจะติดใจก็ได้” ดวงตาคนเสนอแนวทางส่องประกายวิบวับ

“มีความรักเหรอ...เหอะ! น่าเบื่อจะตาย” ติณณาทำท่าสยอง “ไม่เอาแล้ว เต๋ไม่คุยกับพี่วุธแล้ว”

เจ้าของร้านกาแฟได้โอกาสลุก เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในร้าน แต่กลับเคลื่อนไหวไม่ได้อย่างใจนึก เพราะมือใหญ่ยุดข้อมือเธอไว้

“วันนี้พี่จะส่งไปที่บ้านเอง”

ติณณาขมวดคิ้ว “พี่วุธว่างเหรอ ไม่มีนัดกับสาวในฮาเร็มหรือไง”

“พี่เป็นคนรักเดียวใจเดียวนะเต๋” เขาพูดเสียงขรึมๆ ดูท่าทางเป็นการเป็นงานจนเธอฟังแล้วขนลุก “ถ้าพี่ลองได้รักใครแล้วล่ะก็ คนอื่นก็ไม่มีความหมายแล้ว”

ความร้อนส่งผ่านจากข้อมือสู่หัวใจ...หัวใจของสาวน้อยเต้นถี่รัว ยิ่งสบตากับดวงตาคมเข้มฉ่ำหวานด้วยแล้ว...

โอ๊ย! ใจละลาย

“โอเคๆ เต๋เข้าใจแล้วว่าพี่วุธรักโต๋มาก เต๋จะไม่กีดกันความรักของพี่วุธกับโต๋หรอก สบายใจได้” ติณณาดึงข้อมือออกจากการเกาะกุมแสนอบอุ่นอย่างแผ่วเบา “ตอนนี้เต๋ต้องขอตัวก่อนนะ เดี๋ยวลูกค้าจะด่าเอา”

จักราวุธพยักหน้า ยอมปล่อยให้เธอไปแต่โดยดี แต่ไม่ละสายตาสักวินาทีระหว่างที่มองร่างบางตรงไปยังเคาน์เตอร์

เอาน่า...หยอดนิด...หยอดหน่อย...หยอดใส่ยายตัวดีทุกวัน ให้มันรู้กันไปว่าจะไม่สำเร็จ!



..................................................................................




คณะเดินทางมาเยี่ยมชมไร่กาแฟธารารินจังหวัดชุมพรถึงจุดหมายในระยะเวลาการเดินทางตามที่คาดการณ์ไว้

ติณณะเลือกจะจอดรถหลบมุมนิดหนึ่ง ก่อนจะชวนแฟนสาวลงจากรถเพื่อสูดอากาศแสนสดชื่น

“สวยจังเลยนะคะ หอมด้วย”

ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการจัดห้องพัก จึงโน้มใบหน้าลงขโมยความหอมจากแก้มนวลของคนข้างกายหนึ่งที

“ใช่...หอมจริงๆ”

หญิงสาวยกมือกุมแก้มที่โดนขโมยหอม พร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“โต๋! ทำอะไรน่ะ”

“อ้าว ไม่รู้เหรอว่าผมทำอะไร” เขากระซิบถาม ดวงตาแพรวพราววาวระยับ “ทำอีกทีดีไหม?”

“ไม่ดีค่ะ” ร่างบางเบี่ยงตัวหลบ “ใครเห็นเข้าจะว่ายังไงคะ”

“คนอื่นจะว่ายังไงก็ช่างเขาสิ” ติณณะว่า ก่อนจะรุกคืบเข้าไปใกล้เธออีก

ตรีญดาเบี่ยงตัวหลบ

“ไม่สนได้ยังไงคะ ถ้าเกิดมีคนเห็นแล้วเอาไปบอกน้องเต๋...เราจะแย่นะคะโต๋”

ใบหน้าคมจึงขรึมลง “ก็จริงของคุณนะเตย ผมลืมคิดไป คิดแต่ว่าห่างหูห่างตาเจ้าเต๋แล้ว ผมจะทำอะไรก็ได้”

“เรามีเวลาอยู่ด้วยกันตั้งสามวันกับอีก...เอ่อ...สองคืน”

“เราจะได้คุยกันสักกี่คำฮะเตย กลางวันผมคงต้องลงไร่ กลางคืนคงเหนื่อย หลับเป็นตายแน่ๆ”

“ฉันเป็นเลขาของคุณนะคะโต๋ มันคงไม่แปลกหรอกมั้งคะถ้าเราจะพักห้องใกล้ๆ กัน”

“จริงๆ ผมอยากพักห้องเดียวกับคุณมากกว่า อกผมจะแตกอยู่แล้วรู้ไหมเตย”

“ฉันก็อยากจะอยู่ใกล้ๆ คุณเหมือนกัน”

คำพูดของหญิงสาวทำเอาติณณะตาวาว

“คุณพูดจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกผมแน่นะ”

“ฉันจะหลอกคุณทำไมคะโต๋ เราโตกันแล้วนะ ความรักสวีทหวานหวานแบบที่จีบกันไปจับกันมาน่ะ มันเลยวัยของพวกเราไปแล้ว วัยของฉันในตอนนี้ควรจะคิดไกลๆ คิดยาวๆ กับคนที่ใช่สักที”

ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม จ้องพวงแก้มที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงเข้มอย่างรักใคร่

“ถ้าอย่างนั้นที่ผมพาคุณมาที่นี่ก็ไม่เสียเที่ยวน่ะสิ”

“คุณหมายความว่ายังไงคะ”

“เอาน่า เดี๋ยวคุณก็รู้” เขาตัดบทด้วยการบอกให้เธอตามเขาไปรับกุญแจห้องพัก “ไปล้างหน้าล้างตากันก่อนดีกว่าเตย”

“อะไรกันคะ ที่คุณพูดเมื่อกี้ยังไม่เคลียร์เลยนะ”

“เดี๋ยวค่อยเคลียร์กันคืนนี้ โอเค?”

เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนมุมปากของเขา ตรีญดาก็ร้อนวูบๆ ที่ใบหน้าอีกครั้ง เนื่องจากพอจะเดาได้ว่าคำว่า ‘เคลียร์’ ของเขานั้น...มันหมายความว่าอย่างไร



............................................................................................


มือบางลังเลมากในการเลือกหยิบชุดนอนจากกระเป๋าเดินทาง เธอไม่แน่ใจว่าควรจะใส่อะไรดีระหว่างชุดนอนธรรมดาซึ่งเป็นเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสามส่วนลวดลายคิกขุอาโนเนะ หรือจะเป็นชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวตัวโปรด

ตรีญดาเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพราะมั่นใจอย่างมากว่าหากเธอเลือกใส่ชุดหลัง รับรองได้เลยว่าเรื่องคืนนี้จะจบลงเหมือน ‘เรื่องคืนนั้น’ แน่นอน

แต่ถ้ามันจะจบแบบนั้น เธอก็ควรจะได้รับ ‘สิ่งตอบแทน’ ที่มันคุ้มค่าด้วยสิ

คิดไตร่ตรองละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เธอก็เลือกจะหยิบชุดนอนกางเกงยัดใส่ใต้กระเป๋าเดินทางทันที ก่อนจะฉวยชุดนอนกระโปรงพร้อมผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป




จะด้วยความอายหรืออะไรก็ไม่รู้...ตรีญดารีบคว้าเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นมาสวมทับชุดนอนแสนเซ็กซี่เมื่อได้ยินเสียงติณณะเคาะประตู

ร่างบางรีบถลาไปปลดล็อกกลอนประตู คนตัวโตรีบเร้นกายเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว

แต่พอได้อยู่ในห้องพักซึ่งมีเตียงนอนกว้างด้วยกันสองต่อสอง...หญิงสาวก็ใจเต้นโครมคราม

ติณณะเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เขาเก้ๆ กังๆ อยู่สักครู่ ก่อนจะเดินตรงมานั่งที่ขอบเตียง พลางกวาดตามองแฟนสาวที่อยู่ในชุดลำลอง และเริ่มบทสนทนา

“คุณจะนอนชุดนี้เหรอเตย”

“ค่ะ...ทำไมเหรอคะ ชุดนี้มันแปลกตรงไหนคะโต๋”

“เอ่อ มันไม่แปลกหรอก ถ้าคุณไม่สวมเสื้อกลับตะเข็บ”

ตรีญดาตาโต รีบก้มมองเสื้อตัวเอง

“ว้าย! ตายแล้ว ฉันขอเข้าไปเปลี่ยนก่อนนะ”

“เชิญๆ เชิญตามสบาย” เขาหัวเราะเบาๆ พร้อมกับมองตามเธอเดินเขินๆ เข้าห้องน้ำไป

ร่างสูงเอนตัวลงนอนบนเตียงกว้าง ใช้แขนสองข้างหนุนต่างหมอน...ระหว่างนั้นริมฝีปากหยักได้รูปก็เผยรอยยิ้ม ใบหน้าหล่อเหลาดูกระจ่างสดใส คงเป็นเพราะได้ทำอะไรๆ ตามใจตัวเองและพ้นหูพ้นตาน้องสาวตัวแสบได้กระมัง

คำพูดที่เตรียมมาตั้งแต่วันที่รู้ข่าวว่าจะได้มาชุมพรเต็มสมองไปหมด ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาคิดไม่ออกว่าจะคุยอะไรกับตรีญดาเป็นเรื่องแรก

หรือเขาควรจะเริ่มที่การขอแต่งงาน...มันคงเร็วไป

แล้วจะคุยอะไรดีล่ะ

คิดเพลินๆ ดวงตาคมก็ค่อยๆ ปิดปรือลงเพราะความง่วงงุน ความร้อนจากไอแดดปะปนกับความเมื่อยล้าจากการเดินทางและออกเดินสำรวจตรวจไร่ทำให้ร่างกายของเขาต้องการพักผ่อน

ตรีญดาเยี่ยมหน้าออกมามอง เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพัก...เธอขัดเขินเกินกว่าจะอยู่กับเขาสองต่อสองในห้องนอนแบบนี้ จึงแอบหลบเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ

ร่างบางหรี่ตามองชายคนรักซึ่งนอนทอดตัวยาวอยู่บนเตียงของเธอ ดวงตาคมที่มีแววหวานอยู่เสมอปิดสนิทบวกกับลมหายใจที่ผ่อนขึ้นลงสม่ำเสมอทำให้ตรีญดารู้ว่าเขากำลังหลับ

เฮ้อ...หญิงสาวลอบระบายลมหายใจออก ก่อนจะค่อยย่องเข้าไปใกล้คนนอนหลับสบาย

ดวงตากลมโตจ้องมองเขาเหมือนไม่เคยเห็น นานมากเหลือเกินที่เธอไม่ได้เห็นเขาใกล้มากขนาดนี้ ความคิดถึงแผ่ซ่านยึดครองพื้นที่หัวใจ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ค่อยๆ โน้มหน้าลงไปใกล้เขาทีละนิด...ทีละนิด

แต่ก่อนที่จะทำอะไรได้มากกว่านั้น...คนกำลังหลับกลับยื่นแขนมารัดรอบเอวบางพร้อมกับออกแรงฉุดให้ล้มตัวลงมานอนเคียงข้างกันบนเตียง

“ว้าย!”

ศีรษะทุยสวยนอนลงบนท่อนแขนกำยำพอดิบพอดีราวกับจับวาง คนนอนหลับในท่านอนหงายกลับตะแคงข้างมาหา ลมหายใจอบอุ่นเป่ารดพวงแก้มในระยะประชิด ตรีญดาแทบขยับตัวไม่ได้เลย ได้แต่นอนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อยู่อย่างนั้นเอง

การได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มในระยะประชิดทำให้ตรีญดามีโอกาสได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มอย่างถนัดถนี่ คิ้วเข้มของเขารับกับจมูกโด่งเป็นสันสวย ริมฝีปากอิ่มเต็มได้รูปที่เธอจำได้อย่างแม่นยำไม่มีวันลืมเลยว่ารสชาตของมันหวานล้ำแค่ไหน และยิ่งยามที่เขาไล้ไปตามนวลเนื้อด้วยแล้ว...

ขนอ่อนทั่วร่างลุกเกรียว ร่างกายแข็งแกร่งขยับเบียดแนบชิดมากขึ้นเรื่อยๆ ตรีญดาเผยอริมฝีปากไปแตะเบาๆ ที่ปลายคางและแก้มสากอย่างอดใจไม่ไหว

แต่ก่อนจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น...คนกำลังหลับกลับเอ่ยเสียงแหบพร่า ทั้งๆ ที่ตาปิดสนิท

“ถ้าคุณยังไม่หยุดจูบผมล่ะก็ รับรองเลยว่าคืนนี้ผมจะจูบคุณจนถึงเช้าเชียวล่ะ”

ตรีญดาอ้าปากหวอ หลังจากพบว่าเสียรู้คนตัวโต เธอจึงดิ้นขลุกขลักเพื่อพยายามให้พ้นจากอ้อมอกกว้าง

“คนบ้า! แกล้งหลับนี่นา ปล่อยฉันนะคะ”

แทนที่จะปล่อยดังที่อีกฝ่ายต้องการ ติณณะกลับกอดกระชับร่างน้อยมากขึ้น

“ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะเตย ขอผมนอนกอดคุณนิ่งๆ อย่างนี้สักพักได้ไหม”

คนถูกถามไม่ตอบ แต่ค่อยๆ สงบลง

“ดีมากเด็กดีของผม” เขาชมโดยไม่ลืมตา

ใบหน้างามร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นตึกตัก โครมคราม ราวกับจะหลุดออกมาจากขั้ว ยิ่งเมื่อลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดพวงแก้มและริมหูด้วยแล้ว...ตรีญดาแทบคุมสติไม่อยู่

ใช่ว่าคนกอดจะไม่มีอาการ...เขาแสร้งทำเป็นหลับเพื่อจะสงบสติอารมณ์ซึ่งกำลังกระเจิดกระเจิงให้เข้าที่เข้าทาง มิเช่นนั้นแล้ว...

“ตัวคุณหอมจังเลยนะเตย ผมมีความสุขจังที่ได้นอนกอดคุณแบบนี้ ถ้าเป็นไปได้...ผมอยากจะทำแบบนี้ทุกคืน ทุกวันเลยล่ะ”

“ฉันก็อยากค่ะ” เธอรีบตอบ...ใช่! ความสุขส่วนตัวนั่นส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือหากได้แต่งงาน จดทะเบียนสมรสกับเขา...ครอบครัวของเธอก็จะสบาย...สบายแบบตลอดชาติเลยด้วย

ติณณะลืมตาขึ้น ก่อนจะมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง มีความหมาย

“เรามาแต่งงานกันไหม”

ตามจริงแล้วเธอควรจะปฏิเสธเล็กน้อยพอเป็นพิธี แต่เธอก็หาเหตุผลมาค้านว่าคงเป็นเพราะสายตาของเขา ทำให้เธอลืมคำปฏิเสธเหล่านั้น

“ค่ะ...”

คำตอบรับแผ่วเบาของหญิงสาวในอ้อมกอดทำเอาติณณะเปี่ยมความสุข เขาก้มหน้าลงหอมแก้มนวลตรงหน้าอย่างห้ามใจไว้ไม่ไหว

“คุณเป็นผู้หญิงที่มีค่าที่สุดของผมนะเตย ผมรักคุณมากนะ” ชายหนุ่มกระซิบ “คุณรักผมบ้างหรือเปล่าเตย”

ตรีญดาสะอึก จุกตื้อในอก ความละอายใจกลั่นกลายเป็นน้ำอุ่นร้อนรื้นคลอขอบตา

“รักสิคะ ฉันรักคุณค่ะโต๋”

คำตอบนั้นแผ่วเบา ทว่าติณณะได้ยินมันชัดเจน

“ผมดีใจที่คุณรู้สึกเหมือนผม” นิ้วเรียวยาวเชยคางกลมมนขึ้นมา ก่อนจะประทับจูบลงไป

ตรีญดาลืมหายใจไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าจูบนี้คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอในค่ำคืนนี้ ทว่าเธอก็ตอบสนองเขาอย่างลืมตัว

มือใหญ่สอดเข้าหาความนุ่มเนียนใต้เสื้อยืดตัวเก่า คลึงเคล้นทรวงอกอวบผ่านชุดนอนสายเดี่ยวตัวสวยอีกชั้นอย่างเบามือ ในขณะที่ปลายลิ้นกำลังสำรวจความหอมหวานในเรียวปากอิ่มแดง

หญิงสาวครางฮือ ร้อนวูบไปหมดทั้งอณูเนื้อ หัวใจเต้นแรง ไม่เป็นจังหวะ

สติที่ยังมีเหลืออยู่น้อยนิด ทำให้เธอตัดสินใจยกมือดันร่างสูงออกห่าง เมื่อริมฝีปากผละจากกัน เธอจึงถามเขาเสียงสั่น

“คุณไม่ได้เอาคำขอแต่งงานมาขอนอนกับฉันใช่ไหมคะ คุณไม่ได้หลอกฉันใช่ไหมโต๋...คุณจริงจังและจริงใจกับฉันจริงๆ ใช่ไหมคะ”

ติณณะยิ้ม จูบแก้มหอมอีกหนึ่งที ก่อนจะลุกขึ้น แล้วหยิบซองเอกสารยื่นให้เธอ

“อะไรคะ”

ตรีญดาลุกขึ้นนั่งข้างๆ เขา พลางเอื้อมมือมารับซองเอกสารสีน้ำตาลมาถือไว้

“เปิดดูสิเตย...มันน่าจะช่วยยืนยันได้ว่าผมจริงใจกับคุณมากแค่ไหน”

ดวงตากลมโตเปิดกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในซองเต็มๆ ตา

__________________________________________________________





มณชยาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2555, 11:31:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2555, 11:41:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1290





<< V : ถ้าฉันไม่อยู่...แล้วใครจะดูแลเธอ   VII : จะบอกว่ารักซ้ำๆ ให้เธอได้จำขึ้นใจ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account