เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่๑๙ ต้นเหตุความผิดพลาด ๑/๒

มุกดายืนมองภาพฝันในคืนนี้ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป แม้หล่อนจะไม่ได้งมงาย เชื่อคำบอกกล่าวของไพลินเสียทั้งหมด แต่ก็จำต้องยอมรับ.. ใจหล่อนเอนเอียงไปเกินครึ่งว่า นี่คือเรื่องราวใน “อดีตชาติ” ของตัวเอง

มะลิน้อยกำลังเบิกตากว้าง ทำหน้าคล้ายมีอาการผวา เมื่อจู่ๆ ปรัชในวัยเยาว์ก็ทิ้งตัวลงหมอบบนพื้นหญ้าตรงนั้นเอง หลังจากหล่อนแนะนำตัวสั้นๆไม่ถึงนาที ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือรอยยิ้มอ่อนโรยบนใบหน้าคมคาย มุกดาเดาว่าเขาคงจะอ่อนแรงจากการดิ้นรนเอาชีวิตรอดในน้ำอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งร่างกายหมดพละกำลังสลบสไลไปแบบนั้น

“พาไปส่งญาติผู้ใหญ่ในบ้านของเขาเถิด คุณหนู”
เด็กรับใช้วัยไล่เลี่ยกับเธอยื่นข้อเสนอ มะลิรีบสั่นหัวดิกพลางยกมือห้าม

“ไม่ได้.. ทำอย่างนั้นก็จับได้น่ะซีว่าฉันแอบมุดมาเล่นในเขตบ้านเขา”
คุณหนูแก้มใสทำท่าหวาดระแวงเมื่อนึกถึงอีกข้อ..

“พอจับได้ เขาก็จะฟ้องคุณแม่..พอคุณแม่ทราบ ฉันก็โดนเอ็ดอีกสามวันเจ็ดวัน”
เด็กรับใช้คนเดิมพยักหน้าตามเหมือนเพิ่งนึกได้

“แล้วเราจะทำอย่างไรดีคะคุณหนู ทิ้งเขาไว้ตรงนี้ดีไหม?”

มะลิน้อยสั่นหัวอีกครั้ง พร้อมส่งสายตาเป็นเชิงดุ

“ได้ที่ไหน เกิดเขาตายฉันจะทำยังไง”
“ก็ปล่อยเขาไป ไม่ใช่ญาติเราเสียหน่อย คุณหนูแค่บังเอิญมาพบ”

มะลิตีเผียะลงบนไหล่เปลือยของสาวใช้ เด็กคนนั้นพันผ้าแถบไว้รอบอก จึงเผยเนื้อหนังให้สัมผัสได้ง่าย

“คิดได้ยังไง..ใจดำเสียจริง ชะเอม”

“บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ..แล้วทีนี้คุณหนูจะทำอย่างไรเล่า”

มะลิไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากกึ่งลากกึ่งหิ้วปีกร่างเด็กหนุ่ม โดยช่วยกันคนละไม้คนละมือกับเด็กรับใช้ชะเอม ไปยังรั้วพู่ระหงหนาทึบที่กั้นเขตแดนระหว่างบ้านของเขากับบ้านภรรยาน้อยคุณหลวงไผท บิดาของหล่อน มะลิอาศัยจังหวะที่มารดากำลังเจรจาทวงดอกเบี้ยจากการปล่อยเงินกู้ให้ภรรยาบ่าวของคุณหลวง เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ผู้ใหญ่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดกันอยู่ ไม่มีแก่ใจระวังเด็กซุกซนอย่างเธอ มะลิจึงมุดช่องโหว่ตรงมุมหนึ่งของรั้วข้ามมาเล่นอีกบ้าน..ซึ่งตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจจะรู้ว่าเป็นบ้านของคนธรรมดา หรือคหบดีที่ไหน นอกจากนึกสนุกตามประสาเด็ก

“พาไปพักที่ไหนดีเจ้าคะคุณหนู..ชะเอมจะหมดแรงอยู่แล้ว”

เด็กรับใช้ออกปากไปตามตรง ด้วยสังขารของเธอผอมเกร็งเป็นทุนเดิม ต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพยุงคนตัวสูงกว่า แถมน้ำหนักก็ไม่ค่อยได้เทไปทางคุณหนูของเธอเลย ขณะนั้นเด็กต่างวรรณะทั้งสองลากจูงเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นมาจนถึงหลังบ้านมุงด้วยหลังคาสังกะสี สีแดงเข้ม มีต้นมะม่วงใบเขียวครึ้มปลูกอยู่สองสามต้น

“เอาเรือนนี้แหละ ฉันจะขอร้องป้าอิ่มให้ช่วยดูแลเขาเอง อย่างน้อยก็ต้องรอจนฟื้น ถึงจะปล่อยให้กลับได้”

มะลิเข้าตาจน ไม่เห็นทางอื่นดีไปกว่านี้ เธอสนิทกับป้าอิ่ม คนใช้น้าไสว ภรรยาน้อยของผู้เป็นบิดา จนมั่นใจได้ว่า ป้าแกจะไม่เอาความลับไปแพร่งพรายให้ใครรู้ โดยเฉพาะแม่ของเธอ อีกอย่าง ป้าอิ่มเคยเป็นผู้ช่วยพยาบาลเก่า ก่อนจะมารับใช้คุณนายบ้านนี้ มะลิจึงแน่ใจว่าสามารถดูแลเด็กหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ได้ดีพอควร อย่างน้อยก็มีหวังว่าจะช่วยให้เขารอด

เรือนหลังนั้น เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาด้วยสีเขียวอ่อน ขอบเขตของพื้นที่ส่วนนั้น ถือว่ารองรับความเป็นอยู่ของคนใช้สองสามคนได้ค่อนข่างเหมาะควรแก่อัตภาพ มะลิหิ้วปีกเด็กชายหน้าแฉล้มไปจนถึงเชิงบันไดใต้ถุนเรือน เห็นป้าอิ่มกำลังสาละวนปรุงแกงเผ็ดหอมกรุ่นจากเตาไฟหน้าบ้าน หญิงวัยกลางร่างอวบท้วมหันมาเห็นเข้าก็ร้องทักกึ่งยินดีกึ่งประหลาดใจ

“อ้าว..คุณหนูมะลิน่ะเอง แล้วนั่นพาใครมาด้วยคะ ท่าทางไม่สู้ดี”
“เขาเกือบจะจมน้ำค่ะ หนูลิกับชะเอมช่วยไว้ทัน แต่คงสำลักน้ำเข้าจมูกมากทีเดียว เลยสลบไป”

ป้าอิ่มพยักหน้ารับรู้ หล่อนรีบกุลีกุจอเข้ามาพยุงร่างเด็กชายเข้าไปในบ้าน พอเข้ามามองให้ชัดก็จำได้ทันทีว่าเป็นลูกหลานคนสำคัญในเรือนข้างรั้วนั้นเอง ทว่าตอนนั้นความตกใจที่เห็นสภาพบอบช้ำของเด็กหนุ่มมีมากกว่าจะตั้งสติได้มั่นคง หล่อนจึงลืมบอกคุณหนูตัวน้อยให้ทราบถึงชื่อเสียงเรียงนามของเด็กชายผู้นั้น

“ป้าอิ่มอย่าบอกใครนะคะ ว่าหนูลิพาเขามาฝากไว้กับป้า...” คุณหนูมะลิก้มลงนั่งคุกเข่า แล้วคลานเข้าไปกระซิบสาวใช้คนคุ้นเคย เด็กหนุ่มถูกจัดวางให้นอนในท่าสบายตัวบนพื้นกระดานมีมุ้งคลุม ป้าอิ่มตรวจดูสัญญาณชีพคร่าวๆ ก็บอกให้มะลิโล่งใจว่า คงไม่เป็นอะไรมากนอกจากอ่อนเพลียจนหลับไปเท่านั้น

“คือหนูลิแอบมุดรั้วเข้าไปเล่นบ้านเขาค่ะ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูคุณแม่ หนูลิแย่แน่เลย”

ป้าอิ่มพอจะเข้าใจรูปการและความประสงค์ของเด็กน้อย ว่าไม่อยากให้มารดาสืบสาวราวเรื่องได้ว่าไปทำท่าไหนถึงพาลูกชายคนข้างบ้านเข้ามาพักฟื้นที่นี่ หล่อนไม่ได้ถามอะไรต่อ นอกจากวางมืออวบอูมลงบนมือน้อยที่พักพิงอยู่บนตักของตนอย่างจะยืนยันคำสัญญา

“ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณนายจะไม่ทราบเรื่องนี้”

“ป้าอิ่มช่วยดูเขาหน่อยนะคะ พักที่นี่สักคืน แล้วค่อยให้แอบกลับออกไปวันพรุ่ง หรือมะรืนนี้”

สาวใช้พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยตามความต้องการของเธอ เวลานั้นมะลิได้ยินเสียงแว่วๆ ของคุณนายทองทิพย์ดังมาจากหน้าเรือนหลังเล็ก

“หนูลิ..หนูลิอยู่ไหนลูก กลับบ้านกันได้แล้ว”

มะลิชะโงกหน้าออกไปมอง เห็นผู้เป็นแม่กำลังเดินตรงมาจนเกือบจะถึงหน้าบ้าน มีบ่าวคนสนิทอีกคนติดสอยห้อยตามมาด้วย เธอจึงเขย่าแขนชะเอมให้ลุกออกไปกับเธอทางประตูหลัง ตั้งใจไว้ว่าจะเร่งฝีเท้าวิ่งอ้อมไปให้ทัน ก่อนมารดาจะย่างกรายมาจนถึงเชิงบันได เธอหันไปบอกลาป้าอิ่มสั้นๆ แล้วรีบผลุนผลันกึ่งลากกึ่งจูงเด็กรับใช้ออกไป

ป้าอิ่มมองไล่หลังเด็กน้อยอย่างนึกเอ็นดู มะลิไม่เคยถือตัว ซ้ำยังชอบเข้ามาคลอเคลียหล่อนอย่างเอาใจ ทุกครั้งที่คุณนายทองทิพย์มาเจรจาเรื่องเงินที่ผู้เป็นนายของตนขอกู้ยืมเป็นประจำ

เสียงกระแอมไอ เหมือนน้ำติดคอของปรัช ดังแทรกเข้ามาในห้วงคำนึงของหญิงวัยกลาง หล่อนหันไปก็พบว่าเขานอนลืมตาใสแจ๋ว เหมือนรู้สึกตัวตื่นนานแล้ว

“เธอเป็นใครครับ..ป้ารู้จักไหม?”
เจ้าของใบหน้าอวบอูมก้มลงไปกระซิบข้างหูเขาพร้อมรอยยิ้ม

“ลูกสาวคุณนายทองทิพย์..ภรรยาเอกคุณหลวงไผทค่ะ”
ปรัชจึงจำติดหู ติดตรึงในความทรงจำตั้งแต่นั้นมา...

เธอคือ..ลูกสาวคุณนายทองทิพย์



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มิ.ย. 2555, 22:37:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มิ.ย. 2555, 22:37:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 1549





<< บทที่๑๘ ความเปลี่ยนแปลง ๒/๒   บทที่๑๙ ต้นเหตุความผิดพลาด ๒/๒ >>
เดิมเดิม 23 มิ.ย. 2555, 08:06:16 น.
แล้วทำไมป้าอิ่มไม่บอกไปด้วยว่าคนเล็ก


ศิลาริน 23 มิ.ย. 2555, 08:40:22 น.
ป้าอิ่มคงไม่ได้นึกว่าจะมีเรื่องยุ่งยากตามมามากมาย^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account