อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
สำหรับเรื่องนี้เป็นงาน y ครับ..ถ้าไม่ชอบกากบาทสีแดงขอบบนขวา แต่ถ้าชอบก็จะมีศาสนาประกอบกันไปด้วยครับ เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี 49

พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..

สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com


ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
Tags: งาน y + ศาสนา

ตอน: 13

“ขอโทษทีงานศพพ่อนาย ไอไม่ได้ไปร่วมงาน เสียใจด้วยนะ”

“ขอบใจ ไม่เป็นไรหรอก..” ปากพูดไปอย่าง แต่ใจนั้น

‘ถึงนายไม่ไปเผา อย่างไรพ่อก็มอดไหม้เป็นเถ้าถ่านอยู่ดี..’

นายต้องวันนี้ดูดีด้วยเสื้อผ้าและทรงผมทันสมัย...ขณะคุยกันก็ถือวิสาสะหยิบอัลบั้มรูปของสุริยามาดู

“ไอ้หมอนี่ที่เป็นข่าวกับนายในหนังสือนี่หว่า..ใช่ไหมเนี่ย..”

สุริยาพยักหน้า

“มันเป็นเกย์หรือ”

“ไม่รู้..” ก็คือไม่เข้าใจ

“นายดูออกด้วยรึว่าใครเป็นเกย์ ไม่เป็นเกย์..”

“ถ้าเจอะกันจัง ๆ ก็พอดูออกบ้าง..จากสายตาที่มองกัน และจากความรู้สึก ..เซ้นส์...” พอพูดจบนายต้องก็จ้องมองไปที่ใบหน้าคมคายของสุริยา

“นายนี่ก็ไม่แน่..”

“เฮ้ย ไม่ใช่..” คนถูกเพ่งมองรีบปฏิเสธ ทีนี้นายต้องหัวเราะคิก ๆ อย่างเป็นต่อ..

“ไอ้ยะ นายกำลังหนีตัวเอง..แต่เอาเถอะ..เป็นหรือไม่เป็น มันก็เรื่องของนาย แต่ถ้านายเป็น ไอ้หมอนี่เป็น จริง ๆ ก็เรื่องของนาย..ยังไม่มีอะไรกันใช่ไหม”

สุริยาสั่นหัว

“จริงดิ๊..ได้ข่าวว่าไปตกระกำลำบากที่เชียงใหม่ด้วยกัน นี่ก็เพิ่งกลับจากทะเลด้วยกัน..ไม่น่ารอดไปได้..”

“ไปกันสามคน และนี่ไม่ได้เป็น ถ้าเขาเป็น ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก” สุริยายังยืนกระต่ายขาเดียว..

“หมอนี่มันรวย มันเปย์ มันเคยพาเพื่อนไปเที่ยวในผับที่ไอทำงานอยู่ กลุ่มลูกบรรดาเศรษฐีทั้งนั้น พวกนี้พ่อแม่มันปั๊มเงินเองได้..อยากได้อะไร อยากให้ใครทำอะไรให้ก็ โชะเชะ..เงินคือพระเจ้า”

“นายดูดีกว่าเมื่อก่อนนะ รวยอะไรมา” สุริยารีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็มีคนเลี้ยง..จับมาลอกคราบ..บางทีไอ้ยะ เราก็ว่าเราไม่เป็นหรอก ไม่ชอบ ไม่ใช่ แต่ความดี ความรักของคน บางทีมันก็มีพลานุภาพว่ะ..อย่างไอ เคยมีใครมาเอาใจที่ไหน พอมีคนมาคุณต้องครับ คุณต้องครับทุกวัน ๆ เข้า..ใจละลายว่ะ..จะบอกอะไรให้นะ นายรุ่งโรจน์นี่..เห็นควงผู้หญิงไปเที่ยวกลางคืนบ่อย ๆ ได้ข่าวว่าเปลี่ยนแฟนจำพวกดาราบ่อย ๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือเปล่า มันเป็นเรื่องบนเตียง..แต่ในกลุ่มเขาบางคน ดูข้างนอกก็ผู้ชาย แต่ข้างใน..ผู้หญิงซะ..อยู่บนเตียงแล้วกรี๊ด ๆ ๆ เลย..วันหลังนะ ไอจะถามเจ้าหล่อนให้ว่าเพื่อนเจ้าหล่อนเป็นอย่างว่าด้วยหรือเปล่า..เพราะคนที่คบ ๆ กัน บางทีนะมันก็ต้องมีอะไรเหมือน ๆ กันบ้าง”

ใจจริงสุริยาอยากจะถามอะไรที่มันลึกไปกว่านั้น แต่เขารู้สึกอายที่ต้องมานั่งซักไซ้เรื่องพวกนี้ ข้อดีของนายต้อง คือเป็นคนไม่ปิดความมาแต่ไหนแต่ไร..ตั้งแต่รู้จักกัน เขาจะบอกเล่าทุกเรื่องที่ออกจากบ้านไปประสบมา..

มาระบายเมื่อคราวมีทุกข์ มาแบ่งปันเมื่อคราวมีสุข..เสื้อผ้า รองเท้า นายต้องคนนี้ก็เคยหยิบยื่นมาให้ แม้วิธีการที่เขาได้มานั้นมันจะไม่ดีนัก แต่น้ำใจที่ญาติคนนี้มีต่อตน ทำให้เขารู้สึกแน่นแฟ้นผูกพันฉันท์พี่น้อง

‘เกย์’ คำนี้..เป็นอีกเรื่องที่เขาต้องศึกษา...

“ทิดอย่างนาย..ควรที่จะรู้โลกให้หลาย ๆ มุม..ไอ จะบอกอะไรให้นะ ...แววตาของนายตอนนี้นายกำลังสงสัยอะไรบางอย่างในตัวไอใช่ไหม..จะบอกให้ก็ได้..”

“ไอ เป็นเสือไบ รู้จักไหม เคยได้ยินไหม”

“เคยได้ยิน แต่... ไม่เข้าใจ”

“ชายก็ได้ หญิงก็ได้ มีลูก มีเมียได้..แต่ก็พัฒนาไปสู่ความเป็นเกย์คิงได้ คืออยู่ ๆ เบื่อผู้หญิง แล้วก็สนใจพวกกระเทย แต่กระเทยหรือพวกควีนก็มีหลายแบบ แบบเปิดเผยกรี๊ดกร๊าดอยากเป็นหญิงเต็มร้อย แบบนี้บอกตรง ๆ นะ ไอไม่ชอบอยากเตะ ไม่อยากเดินไปไหนมาไหนด้วย สังคมยังมองด้วยสายตาเยาะเย้ยถากถางอยู่ แต่บางกลุ่มอีแอบ เงียบ ๆ เรียบร้อย กุ๊กกิ๊ก พวกนี้ก็จะมีความน่ารักอีกแบบ มีสื่อเล็ก ๆ ให้เรารู้ได้ เช่นน้ำเสียง ท่าเดิน กริยาที่แช่มช้อย ของที่ชอบ และสายตาที่มองไปที่หญิงกับชายแตกต่างกัน..แบบนี้พอทนไหว ที่บอกเพื่อให้นายไปพิจารณา นายรุ่งโรจน์ของนายด้วย..และจะบอกอะไรให้อีกนิดนะ ของอย่างนี้นะ ในฐานะที่ไอรู้ว่านายยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสากับเรื่องกามโลกีย์ ของอย่างนี้อย่าได้ริกระโจนไปลองกับมันเด็ดขาด ติดอกติดใจกันมาไม่ใช่น้อยแล้ว..”

“นายไม่กลัวโรครึ”

“กลัวเหมือนกันแต่จะทำอย่างไรได้..มันพลาดลงไปเล่นเสียแล้ว..เป็นหรือตายก็ช่างมัน..อย่าบอกแม่ไอ เรื่องนี้นะ ถึงบอกไปแกก็ไม่เข้าใจ เป็นกังวลทุกข์ใจไปเสียเปล่า ๆ”

นายต้องยังคุยเรื่องหลายเรื่องในแวดวง “เกย์” ให้เขาได้รับรู้..


เช่นดาราชายนายหนึ่งท่าทางแมนมาก เล่นหนังบู๊ล้างผลาญ แต่พออยู่บนเตียงเป็นสาว..สุริยาถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อได้รับรู้

“ความจริงไอยืนยันได้ แต่อย่างว่า ด้วยจรรยาอาชีพ ขออุบไว้..มันเป็นหน้าที่ของพวกนักข่าวเขา เรามันพวกกระทำ ก็หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไป..อีกนิดนะ ถ้านายอยากรู้ว่านายเข้าข่ายเกย์หรือไม่ นายเห็นผู้ชายด้วยกันโป๊เหลือแต่ลิง แล้วนายมีอารมณ์หรือเปล่าก็เท่านั้นเอง..”

นายต้องพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีรถเก๋งมาบีบแตรที่หน้าบ้าน ทีแรกสุริยานึกว่าเป็นรุ่งโรจน์ ผู้ชายในฝันเมื่อตอนเย็นที่กระทำการปลุกปล้ำเพื่อให้เขาสมยอม

ในฝันมันปฏิเสธ แต่ลึก ๆ ก็มีความสุขที่เขากล้าหาญเช่นนั้น

นายต้องนั่งรถกลับไปกับเพื่อนสนิทแล้ว ทิ้งไว้เพียงปัญหาที่สุริยาต้องกลับมา ทบทวน และแก้ไข..

‘นายเป็นหรือไม่เป็นนายรู้แก่ใจนายดี..นายเห็นผู้ชายด้วยกันโป๊ แล้วนายมีอารมณ์ ก็มีลุ้นแล้วล่ะว่า นายเป็นเกย์ แต่จะแบบไหน มันก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ครั้งแรก..หรือคนที่นายมีสัมพันธ์ด้วยจะทำให้นายติดใจแบบไหน แต่ของแบบนี้ อย่าลืมมันขึ้นอยู่กับครั้งแรกและประสบการณ์ครั้งต่อ ๆ มา....’

เมื่อได้ทบทวนจึงได้ตระหนก..เขามีอารมณ์เมื่อรุ่งโรจน์มากอดจูบลูบคลำแม้เพียงแค่ท่อนบน..แต่ล้วงลึกไปกว่านั้น รุ่งโรจน์ก็ไม่เคยมี..แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยไปล่วงละเมิดทางเพศกับหญิงใด จึงไม่รู้ว่า แท้จริงนั้น ตนเองเป็นอะไร..

‘ถ้ารู้ว่าใจเบี่ยงเบน ครั้งแรกถ้ามีสัมพันธ์กับหญิง มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัวได้อาจจะไม่สุขแต่ก็ไม่มีปัญหา..แต่ถ้าครั้งแรกเคยมีสัมพันธ์กับชายด้วยกัน แล้วคิดจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องการอยู่อย่างผาสุก จะลำบาก จะหลอกตัวเอง อยากกินในสิ่งที่เคยกิน..แต่จำฝืนทำหน้าที่ ถ้าเป็นคนดีคือยับยั้งชั่งใจ แต่ถ้าเห็นแก่ตัวก็เป็นทุกข์เสียเปล่า ๆ’

สุริยานึกขอบคุณนายต้อง..

ทำประการใดดีหนอ พิจารณาตั้งแต่วันที่เจอะกัน จนถึงวันนี้ อารมณ์นั้น..แค่เป็นห่วงในฐานะเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน แต่พอได้เห็นใบหน้าชัด ๆ กลับนึกสงสารจับจิต อยากดูแลอยากอยู่ใกล้ชิด..อยากรู้ทุกข์สุขของเขา..และเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ กัน จึงได้รู้ถึงความอบอุ่นที่รุ่งโรจน์ตั้งใจแผ่ออกมา จนกระทั่งถึงวันนี้..วันที่ความสัมพันธ์มีโอกาสพัฒนา ..หากเขารู้เห็นเป็นใจสักนิด

แต่ไม่.. เขาไม่ใช่คนอย่างที่รุ่งโรจน์ต้องการแน่นอน

สึกหาลาเพศบรรพชิตออกมา หาได้มีหญิงใดเข้ามาใกล้ชิด ผู้หญิงในกลุ่มพวกน้องแก้วก็ก๋ากั่นเกินรับได้ ส่วนเด็กอ้อยรึก็ยังเล็กนัก ในสายตาไม่เคยคิดในเชิงชู้สาว

แต่แสงทองทำเอาใจเขาไขว้เขวก็หลายครั้ง..เพราะคำว่า

“หนู” กับ “พี่” นี่ละมั้ง..ทำให้ผู้ชายอ่อนระทวยลงได้ และยิ่งได้ใกล้ชิด จึงได้เห็นน้ำจิตน้ำใจ ..ผู้หญิงในอุดมคติ คือคนที่พร้อมจะร่วมสุขร่วมทุกข์ เพราะตนเป็นคนมีแต่ตัวกับหัวใจ.. ตั้งแต่รู้จักกัน เจ้าหล่อนไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ ไม่มีดีใจได้ปลื้ม เมื่อเห็นอีกคนที่หล่อกว่า ร่ำรวยกว่า

อาจจะเคยคู่กันมา อยู่สุดหล้าฟ้าเขียวจึงได้พบพาน

แต่เมื่อค้นหาลงไปในใจ สาวเจ้าก็ยังอยู่ในข่ายที่เหนือกว่าน้องแก้วและเด็กอ้อยเพียงน้อยนิด..

แต่อีกคนนี่ซิ กลับทำคะแนนมาตั้งครึ่งค่อนหัวใจ..

สุริยาหยิบเช็คใบนั้นออกมาวาง ไม่ใช่อำนาจเงินที่รุ่งโรจน์ยื่นมาให้อย่างแน่นอน แต่เจ้าสิ่งนี้ มันกลับทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นต่างหาก เพราะมีกิจการทำร่วมกัน...

แต่ทำไม? นายรุ่งโรจน์ถึงได้กลับไปชวนแสงทองมาทำด้วย ถ้าเขามีใจให้ตนจริง ๆ เขาก็ต้องกันแสงทองออกไปจากชีวิตของเรา เพราะรุ่งโรจน์เองก็รู้ว่าแสงทองมีใจให้นายสุริยาคนนี้ แต่การกระทำที่เขาทำกับตน บางครั้งมันเกินที่เพื่อนชายพึงมีต่อกัน

เอาอย่างไรดี..ปวดหัวแล้วซิ กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ไปก็คงไปไม่ถึงอย่างที่พี่เบิร์ดว่าไว้ละมั้ง..กำลังสับสน โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น..เป็นคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่พอดี..

“แสงทองค่ะ พี่ยา หนูขอแสดงความเสียใจเรื่องพ่อพี่ด้วยนะ..แต่หนูรู้ว่าพี่เก่ง เพราะพี่เคยบอกว่า ตายหมด ไม่มีใครไม่ตาย อยู่แต่ว่าได้ทิ้งความดีไว้ให้แผ่นดินบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น..เหนื่อยไหมคะ..นี่แสดงว่าเรื่องงานทัวร์ยังไม่คืบหน้าใช่ไหม พี่รุ่งโทรบอกค่ะว่าพ่อพี่เสีย แกอยากไปงานศพนะคะ แต่หนูไม่ว่างติดสอบตัวสุดท้าย แกก็เลยไม่ไป..พี่ยา พี่รุ่งเขาดีกับเราจนหนูเกรงใจจัง..นึกถึงที่ปางจันทร์ แล้วขนลุกนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าอำนาจแห่งความดี คิดช่วยโดยไม่ได้หวังอะไร มันจะตอบแทนมามากมายขนาดนี้..พี่ก็ขนลุกหรือคะ..หนูเสียใจเล็ก ๆ นะคะ ที่มองคนผิด..พี่ยา หนูเห็นในหนังสือพิมพ์ มีภาพพี่รุ่งกับวัดพระปฐมเจดีย์ตีพิมพ์เมื่อวันก่อน เป็นช่วงไลฟ์สไตล์ ถึงคนอ่านจะว่าแกโกหก คือขัดกับความเป็นไฮโซของแก แต่แกก็ได้ทำอะไรดี ๆ ไปแล้ว พี่แกให้สัมภาษณ์ว่ามีโอกาสไปวัดแล้วสบายใจมีความสุข เขาบอกว่าตั้งใจจะไปไหว้พระธาตุเจดีย์ทั่วไทยกับกัลยาณมิตรที่เพิ่งรู้จัก..คงเป็นพี่แน่ ๆ.. และที่สำคัญมีภาพที่พี่รุ่งยืนพนมหันหลังให้พระปฐมเจดีย์ค่ะ เหมือนกับรูปที่พี่ถ่ายให้แกที่จอมทองเปี๊ยบเลย..”

ได้ฟังดังนั้นสุริยาปลาบปลื้มขึ้นมา..ปรารถนาแห่งใจตน คือเมตตาต่อกัน ปรารถนาให้สรรพสัตว์ สว่างไสวด้วยธรรม จากเปลือกสู่กระพี้และแก่นของธรรม..

หากใครบางคนได้พิจารณา เพียงไม่เที่ยง เป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน..แค่นี้ก็คือว่าเป็นกำไรของคน ๆ นั้น..นึก ๆ แล้วอยากจะเก็บหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้ตนมุ่งกระทำแต่ความดี..คือชักชวนคนให้เห็นดีเห็นงามในพระพุทธศาสนา

“หนูรู้ค่ะว่าพี่ไม่เห็นแน่นอน คงยุ่งงานศพ..หนูซื้อเก็บไว้ค่ะ ตั้งใจว่าจะอัดกรอบเอาไว้ที่บริษัททัวร์ของเรา..ของเราสามคน..อบอุ่นนะคะ มีตั้งสามคน”

สุริยาได้แต่ยิ้ม ๆ กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากเย็นขณะมองรูป ‘เราสามคน’ ในกรอบที่รุ่งโรจน์ซื้อให้

“พี่ยา หนูอยากไปเขาคิชฌกูฏ ได้ข่าวมาว่าหนุกหนาน เป็นอย่างไรพี่เคยไปมาไหม”

“เคยซิ ก่อนไปปางจันทร์ ตอนเปิดเขาใหม่ ๆ พี่ก็จัดแล้วหนึ่งครั้ง..หนูอยากไปรึ..ลำบากนะ
เดินขึ้นเขาไปไหว้พระบาท แต่บรรยากาศคือคนเยอะกว่าที่ปางจันทร์ของหนู ที่นั่นคนเป็นเรือนหมื่นที่มีจิตตรงกันศรัทธาในหินก้อนเดียวกัน”

“คือหนูไปหาหนังสือพระพุทธบาทสระบุรีมาอ่านค่ะ หลังสอบ เพราะเจ้านายให้ทำการบ้านก็รีบทำ..กลัวสอบตกแล้วไม่ให้มีหุ้นส่วนในบริษัทใหญ่ในอนาคต หนูนึกสภาพ พระพุทธบาทสระบุรีในสมัยก่อนไม่ออกจริง ๆ เพราะดูจากรูปในปัจจุบันไม่เหลือเค้าของไม้เท้ากับการดั้นด้นตั้งใจไปหลับนอนระหว่างทางเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ข่าวว่า เขาคิชฌกูฏที่จันทบุรียังมีอารมณ์นั้นก็อยากเห็น ฉลองสอบเสร็จพาหนูไปหน่อยซิ..พี่จะจัดหรือคะเมื่อไหร่..สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดป่า..ตั้งนาน ไปก่อนได้ไหม อยากไปนะค่ะ ..นะคะ พาหนูไปที..”

แสงทองออดอ้อนจนกระทั่งสุริยารู้สึกถึงความหวาน..ละม้ายกัน..แล้วภาพที่รุ่งโรจน์ยื่นมือให้ดึงแล้วลุกขึ้นมากอดที่เอวแล้วซุกไซ้ที่หน้าท้องให้สยิวเล่น

และแวบนั้นเขาก็สลัดศีรษะในทันที

เป็นสามีแสงทองคงดีกว่า ที่จะไปเป็นภรรยาหรือสามีของนายรุ่งโรจน์คนนั้นละมัง....ไม่ได้คิดอกุศลนะ แต่ถ้าต้องเลือก เขาขอเลือกแสงทองดีกว่าจะต้องไปดึง หรือร่วมมือกับผู้ชายคนนั้นให้ตกสู่วังวนแห่งทุกข์นี้

ส่วนรุ่งโรจน์ ให้เขาเดินไปให้สุดทาง ไปกับคนดีมีทรัพย์เหมาะสมกันอย่างที่คุณแม่เขาต้องการ อย่าให้เขาและตนกลับตัวไม่ได้หรือไปไม่ถึง..มันทุกข์และทรมาน

แล้วจีบหญิงเขาทำกันอย่างไร และใครจะเป็นครูให้..สุริยาครุ่นคิด ก่อนจะลำดับความสุขแห่งจิตใจตนที่นายรุ่งโรจน์มอบไว้ให้

“โอเค ไปกันสองคนนะ ขึ้นรถโดยสารไป อย่าบอกรุ่งโรจน์นะ เกรงใจเขา ขับรถไปค่าใช้จ่ายเยอะ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” น้ำเสียงของแสงทองมีความสุขสม..ก่อนจะวางหู เจ้าหนูคนสวยยังบอกว่า

“ดูแลตัวเองนะคะ ฝันดีนะคะ..ก็ฝันถึงหนูไง”..

สุริยากดวางหูพลางถอนหายใจออกมา..ใจหายอย่างแรงเมื่อนึกถึง.. หากต้องทำร้ายใจกัน..

ความรักเป็นดาบสองคม ทำให้สุขกับทุกข์...

หลังจากกินข้าวและอาบน้ำ ตั้งใจจะสวดมนต์ทำวัตรเย็นก่อนเข้านอน อุทิศผลบุญให้ผู้ซึ่งจากไปไกลลับตา..ป่านฉะนี้จะเป็นอย่างไร ผลบุญจะน้อมนำไปแดนสุขาวดีหรือบาปอกุศลที่ทำไว้จะพาไปสู่นรกที่มืดมิด มิหยั่งรู้ได้ บุญเท่านั้นเป็นที่ระลึกส่งถึง

แต่ยังไม่ทันจะนั่งคุกเข่าจุดธูปเทียนสักการะพระรัตนตรัย โทรศัพท์จากรุ่งโรจน์ก็แผดเสียง..ไอ้เจ้านี่ก็ดาบสองคม..สะดวก..แต่ก็รบกวนใจได้เช่นกัน..ตั้งใจจะไม่รับ ..ปล่อยให้ดังอยู่หลายรอบ นึกถึงใจของคนต้นสายจะเป็นทุกข์และกังวล ประกอบกับใจตนก็เรียกร้อง

“ทำไมรับสายช้าจัง ทำอะไรอยู่ครับ”

สุริยาหาข้อแก้ตัวไม่ทัน ด้วยไม่เคยโกหก ครั้นจะบอกความจริงคงไม่ได้

“ผมเสียใจเรื่องพ่อคุณด้วยนะ ไม่ได้ไปร่วมงานศพ ..แสงทองบอกคุณแล้วรึ..โทรคุยกันแล้ว..แล้วคุณเป็นไงบ้าง สบายดีนะ..แต่เสียงคุณเหมือนไม่สบายนะ..กุญแจที่ผมยื่นให้วันนั้นเป็นกุญแจที่คอนโดนะครับ ต้องการไปค้นหาข้อมูลหรือใช้เน็ต ไปได้เลย หรือว่าจะไปพักผ่อนหลับนอนเปลี่ยนบรรยากาศ หรือว่าอยากจะไปอยู่ก็ไปได้เลยตามสะดวก ให้เหมือนเป็นบ้านคุณแล้วกัน..ไม่เกรงใจซิ..ก็เราหุ้นส่วนกันนี่ ..คืนนี้จะสวดมนต์ก่อนนอน คือ..แสงทองบอกหรือยังว่าผมให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ว่าผมจะไปไหว้พระธาตุเจดีย์สิบสองราศีกับพระธาตุเจดีย์ทั่วไทย..บอกแล้ว..ไปด้วยกันนะ ผมจะจ้างคุณเป็นไกด์ส่วนตัวได้ป่ะ..แพงหรือ..เท่าไหร่ผมก็จ่าย..งั้นสวดมนต์ทำวัตรตามสะดวกเถอะ ก่อนนอนหลับก็อย่าลืมห่มผ้านะ..แล้วก็อย่าลืมคิดถึงผมด้วยนะครับ ครับฝันดีครับ..”

น้ำเสียงออดอ้อนหายไป..ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกว้าวุ่นสับสน..เขาต้องเดินไปในวิถีที่ชีวิตควรจะเป็น..

ชายกับชาย ไม่ใช่ธรรมชาติ

ชายกับหญิงต่างหาก คู่กันเพื่อสืบเผ่าพันธุ์วงศ์ตระกูล แต่เรื่องกรรมอันน่าอดสูเหล่านี้มีในพระไตรปิฎก มีมาแต่พุทธกาล หากแต่วันนั้นมิได้ติดใจคิดศึกษาเหตุที่มาและที่ไป...

จะถามใครได้...หาหนังสืออ่าน..หรือคุยกับใครสักคน..คิดถึงหลวงพี่แสงฉานที่เคยพบกันในป่า ปริวาสกรรม ท่านผู้นี้มีดวงปัญญาไม่เบาเหมือนกัน..เป็นพหูสูต ได้ฟังวิสัชนาหลายข้อได้คลายสงสัย..จะเป็นอยู่ประการใดบ้าง..พรุ่งนี้จะโทรไปถึง..สอบถาม เหตุแห่งกรรมนี้



ขณะยืนรอแสงทองอยู่ที่หมอชิต สุริยาฆ่าเวลาด้วยการไปยืนอ่านนิตยสารเล่มหนาราคาเกือบร้อยบาท และเขาก็รู้ว่าจะหาข่าวข้อมูลของรุ่งโรจน์ได้จากเล่มไหน

อีกครั้งกับ นิยามของความรักกับหนุ่มไฮโซ..

“สำหรับผม ..เมื่อใดที่เราอยู่ใกล้กัน แล้วเรามีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะมีความสบายใจ มีความสุข..โดยที่เค้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ..เพียงเห็นหน้ากันแล้วทำให้จิตใจเราหวั่นไหว อยากอยู่ใกล้ อยากเข้าไปหา อยากไปช่วยแบ่งเบาทุก ๆ เรื่องที่เค้ากำลังเผชิญ.. และที่สำคัญอยากบอกรักเค้า โดยที่เค้ายังไม่พร้อมจะฟัง มันคงตื่นเต้นดีนะครับ..”

สุริยาปิดหนังสือเล่มนั้น เพราะไม่อยากเห็นแววตาเสน่หาคู่นั้น..พอถอนหายใจออกมา แสงทองก็สะกิดเอวอยู่ทางด้านหลัง เขาหมุนตัวกลับเหลือบตาลงไปมอง เห็นรอยยิ้มสุกใสในกรอบผมม้ายาวระต้นคอ

“รถออกกี่โมงคะ”

“อีกครึ่งชั่วโมง กินอะไรมาหรือยัง” แสงทองสั่นหัว เขาจึงพาไปที่แคนทีนของหมอชิต โดยให้แสงทองนั่งเฝ้ากระเป๋าเป้ซึ่งถือมาคนละหนึ่งใบ โดยเขาอาสาที่จะเป็นฝ่ายบริการตลอดการเดินทาง พอถือข้าวมันไก่กลับมา ส่งจานให้ไปตรงหน้า แสงทองก็อมยิ้มมีความสุข

สุริยาพยายามเอาอกเอาใจ ถามไถ่สุขทุกข์ ฟังเรื่องส่วนตัวที่เขาก็ไม่ค่อยได้รับรู้ แสงทองบอกเล่าอย่างไม่ปิดบังอ้ำอึ้ง ไม่เหมือนคนมีเบื้องหลังด่างพร้อย รอยยิ้มและมุขตลกที่หญิงสาวหยิบยกมาผสมผสาน ทำให้เขารู้สึกเป็นสุขแบบเนือย ๆ ด้วยรู้สึกผิด ที่กำลังผืนเล่นละคร

พอรถเคลื่อนจากหมอชิต เขาก็นั่งตัวตรงโดยมีหัวใจที่สั่นหวิว เมื่อสาวเจ้าวางมือไว้หน้าขาใกล้มือตน..นึกถึงรุ่งโรจน์ในวันที่นั่งรถกลับมาจากจอมทอง จู่ ๆ รุ่งโรจน์ก็คว้ามือของเขาขึ้นมาแล้วชมว่ามือสวย..แล้วเกาะกุมไว้ไม่ยอมคลาย จนกระทั่งเอนศีรษะมาพิงซบสร้างความอบอุ่น

หากแต่วันนี้ในความเป็นหญิงดีมีสติยั้งคิด แสงทองคงไม่ทำเช่นนั้น..ตัวเขาเองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายรุกเร้าเอาเรื่องร้อนสิเนหาให้จงหนัก หากเอาเข้าจริง ๆ สำนึกผิดชอบชั่วดี จึงทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อไปตลอดทางจนกระทั่งถึงจันทบุรี ในเวลาบ่ายแก่ ๆ

“ขึ้นเขากลางคืนก็ได้ พรุ่งนี้เช้าลง หรือลงกลางคืนนอนในศาลาวัด มุดหาที่เอนกายในศาลา เช้าแล้วก็ขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ ”

แสงทองบอกว่านึกสภาพไม่ออก จนกระทั่งรถมาสด้าซึ่งดัดแปลงเป็นรถโดยสารประจำเมืองแล่นออกจากเมืองจันทร์ไป กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ ผ่านสวนผลไม้สองข้างทาง แล้วเลี้ยวเข้าวัดพลวง จึงได้เห็นพลังศรัทธาของสาธุชน ในลานจอดรถเนืองแน่นไปด้วยรถยนต์หลากยี่ห้อหลายรุ่นในเมืองไทย บ่งบอกให้รู้ถึงความเลื่อมใสแบบปากต่อปาก ทั้งที่ทางการไม่ได้เน้นโปรโมตเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์

“พลังศรัทธาที่สื่อไม่ได้ช่วยอะไร”

สุริยาพาสาวแสงทองไปซื้อธูปกำใหญ่ ดอกดาวเรืองอีกถุง เทียนอีกมัด แล้วก็พาไปไหว้ ณ จุดศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ภายในวัด กิจกรรมนี้ทำให้สองหนุ่มสาวต้องนั่งเคียงกัน ไอคอกแคกด้วยกลิ่นธูปควันเทียนมากเกินพิกัด จนกระทั่งทั้งสองคนเดินมาหยุดที่ท่ารถขึ้นเขาช่วงแรก ราคาเขียนไว้ 35 บาท..ได้ยินเสียงโฆษกประกาศเรียกขึ้นรถตามเบอร์บัตรที่อยู่ในมือ

“จริง ๆ การขึ้นไปไหว้ พระบาทมีสองแบบ บางคนนะแสงทอง ไหว้จากจุดนี้แล้วรอคิวขึ้นรถไม่ไหวก็เดินขึ้นไปประมาณ 5 กม. ถึงจุดที่สอง จุดที่สองถึงพระบาท มีทางลัด 3 กม แต่ทางเดินลำบาก พี่เคยเดินไปทางนั้น ก็สนุกดี เหนื่อยกว่าขึ้นปางจันทร์ 5 เท่าเพราะเป็นทางชันกว่าแล้วเร่งรีบขึ้นลงมากกว่า พี่เคยมาตั้งแต่สมัยเป็นพระ เคยเดินขึ้น..แต่เมื่อจัดทัวร์มาไม่ได้เดินเพราะ...ต้องคอยดูแลคนอื่น..แล้วหนูล่ะอยากไปแบบไหน..”

“ถ้าขึ้นรถก็สะดวก ไปต่ออีกทอด 1 กม. ค่ารถไปกลับทั้งหมด 150 บาทสองคน 300 บาทก็มากนะ”

“แต่ไม่เหนื่อย”

“แล้วพี่ยาอยากไปแบบไหน”

“พี่อะไรก็ได้ เดินขึ้นก็ภาวนา ซ้ายย่างหนอ ขวาย่างหนอ ไปด้วย พี่เชื่อ คนเราสำคัญที่ใจ ถ้าเราศรัทธาจะไป ต่อให้สุดหล้าฟ้าเขียวขนาดไหนเราต้องได้ไป ต่อให้หมดกำลังวังชา แก่เฒ่าชราก็จะไป ดูซิแสงทองเห็นคนแก่ไหม ทอดสุดท้าย 1 กม. เขาก็ต้องเดินขึ้นไป บางคนก็มาแก้บน บางคนก็มาเพราะได้ยินว่ามีคนมากันเยอะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขอพรอธิษฐานอะไรก็ได้ บางคนเดินขึ้นไปกลับ ก็เพราะประหยัด บางคนก็ต้องการวัดสมรรถภาพตัวเอง หนุ่มสาวก็นึกสนุกและประหยัด บวกกับต้องการขอพรให้ดลให้สุขสมอารมณ์หมาย”

แสงทองกรอกลูกตาไปมา คำนวณ พลางเอ่ยคำว่า “สองคน 300 บาท”

“ไม่ใช่เรื่องเงินนะแสงทอง แต่เป็นเรื่องของศรัทธา ถ้าเราเชื่อว่าเดินขึ้นไปเป็นพุทธบูชาให้รู้ว่าเหนื่อยยากแค่ไหนก็จะขึ้นมา เราก็ได้บุญเยอะ”

“งั้นเดิน แต่ไม่บอกเหตุผลนะคะ แต่นี่มันเย็นแล้วพี่ มันไม่มืดก่อนรึ”

“มืด แต่เดี๋ยวไปหาซื้อไฟฉาย แต่จริง ๆ เดี๋ยวก็มีคนขึ้นไปเรื่อย ๆ แหละ มีเพื่อนไม่ต้องกลัวอะไรหรอก”

ตกลงดังนั้นหนุ่มกับสาวซึ่งมีความสูงไล่เลี่ยกันผิวพรรณวรรณะหน้าตาคล้าย ๆ กัน ก็พากันไปตุนเสบียงใส่ท้อง..พออิ่มจึงค่อย ๆ เดินมุ่งหน้าไปสู่รอยพระพุทธบาทพลวง ที่โจษขานแต่โบราณกาลว่าศักดิ์สิทธิ์นัก

พอพ้นจุดเจ้าพ่อขุนด่าน สาวแสงทองก็เริ่มมีเหงื่อโทรมกาย กระเป๋าที่ตั้งใจถือมาก็ดูหนักขึ้น เรื่อย ๆ ..อ่อนล้า ผิดกับวันที่ปางจันทร์..จนสุริยาต้องพยายามเดินประคับประคองสูดกลิ่นหอมจากเรือนกาย

จนกระทั่งมาไต่เลาะช่วงทางลัดระหว่างโค้ง..ฉุดกระชากรั้งกันขึ้นไป อีกคนเหนื่อย อีกคนพูดให้กำลังใจ อีกคนหิว มีน้ำส่งให้..นวดเฟ้นแบ่งบรรเทา..ความรักมันเกิดขึ้นจากการได้ช่วยเหลือเกื้อกูลเห็นใจกัน ตั้งใจมาเพียงสองคนก็ต้องการให้ภาพเหล่านี้มันเกิดขึ้น

“ขอบคุณค่ะ” เมื่อใกล้ถึงจุดที่ต่อรถทอดที่สองแสงทองก็ขอกระเป๋าเป้คืนพร้อมกับยิ้มกว้าง คล้ายจะวัดใจกัน

“เหงื่อเต็มหน้าเลย มาหนูซับให้” ว่าแล้วแสงทองก็ดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงซับหน้าให้ช้า ๆ

“สงสัยหนูคงจะเอาบุญใหญ่แค่ครึ่งทางค่ะ ท่อนสองขึ้นรถเถอะ รู้แล้วว่า..บุญใหญ่เป็นอย่างไร” พอถึงจุดที่สอง สุริยาก็พาแสงทองไปจุดธูปเทียนบูชาหินรูปเจดีย์ซึ่งมีทองเปลวปิดอยู่เต็มองค์

“จะเจดีย์หินหรือทรายไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ใจเราจดจ่ออยู่กับอะไร ถ้าเจดีย์หินแต่เราระลึกว่าการกราบไหว้ครั้งนี้ เพื่อระลึกถึงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ์คุณ พระเมตตาคุณของพระพุทธเจ้า เราได้บุญเสมอกราบไหว้พระธาตุเจดีย์องค์ราคาหลายร้อยล้านบาทละนะ..”

ดูแสงทองสงบนิ่งเมื่อจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปตามจุดต่าง ๆ ..คบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น..ลำพังตัวเขาเอง ถ้าหญิงใดมิมีใจศรัทธาในศาสนาที่ตนมี ให้สวยหยาดฟ้าเพียงใด ก็คงต้องมองข้ามไป..เพราะความเชื่อที่แตกต่าง คงมินำมาซึ่งความสุขสำหรับตน

คุณสมบัติข้อนี้คนสองคนซึ่งเข้ามาพัวพันดูจะพัฒนาตนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

“กรรม”

“อะไร”

“เปล่า..ไปเถอะ ไปซื้อตั๋วทอดที่สองถึงจุดที่สาม 40 บาทสองคน 80 บาท เมื่อกี้ประหยัดไปตั้ง 70 บาทแต่เหนื่อยแย่”

“เหนื่อยแต่ก็คุ้ม..นะคะ” แสงทองจ้องหน้า ก่อนเขาจะจับมือพาขึ้นรถยนต์ดัดแปลงช่วงล่างให้มีกำลังขับเคลื่อนไต่ขึ้นลงเขา และความสนุกสนานก็กลับมา เมื่อรถยนต์คันนั้นพาสาธุชนนับสิบตะกุยตะกายไปตามทางดินบดอัดแน่น หักซ้ายขวาเร่งขึ้นเขาสูงชัน เมื่อสภาพถนนเป็นเช่นนี้แสงทองซึ่งนั่งอยู่ข้างในจึงไหลเข้าอ้อมกอดของสุริยาอย่างไม่ได้ตั้งใจ..

จนกระทั่งรถมาหยุดที่จุดที่สาม..จุดธูปเทียนสักการะลานพระปฏิมาขอกำลังใจให้เดินขึ้นสู่รอยพระบาทด้วยความสวัสดิภาพ..

“เรายังแข็งแรง มันก็ง่าย แต่คนที่มีอายุ หนึ่งกิโลที่ลัดเลาะไปตามหินตะปุ่มตะป่ำทางลาดชันไม่ใช่เรื่องง่าย ..เป็นบุญของเราแสงทอง ดันมามีใจเป็นกุศลตั้งแต่เด็ก ๆ มารู้ความตอนแก่ก็ไม่ไหว..”

และชาย หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ ที่เดินสวนลงมาบอกให้รู้ถึง ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของใจตน.

“ไปเถอะหนุ่ม สาว ไปขอพรให้สมปรารถนาอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่านะ” คนปากไวยังมี..แต่สุริยาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

จนกระทั่งเดินไปถึงจุดสำคัญ รอยพระบาทคู่เล็กใหญ่บนลานหิน ซึ่งมีหินลักษณะคล้ายบาตรคว่ำลูกใหญ่อยู่ริมผา..ถึงแม้เวลาจะดึกมากแต่สาธุชนผู้มีจิตศรัทธากลับเนื่องแน่นบริเวณอันจำกัด..เมื่อไปปิดทองโรยพลอยสักการะรอยพระบาท สุริยาจึงนั่งสงบใจหลับตาสวดมนต์เป็นพุทธบูชาแล้วอธิษฐานจิต

“ขอให้บริษัททัวร์เกิดขึ้นโดยง่าย ขอให้มีโอกาสพาผู้คนให้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขอให้ได้พาสาธุชนไปกราบไหว้พระธาตุเจดีย์ทั่วไทย ให้เดินทางปลอดภัย ให้รอดพ้นอันตรายใด ๆ เหยียบไปที่ไหนให้บังเกิดมหาโชคมหาลาภ..ช่วยเหลือคนได้เป็นอัศจรรย์”

เมื่อก้มกราบและเงยหน้าขึ้น จึงได้พบคนที่นึกถึงเมื่อวาน



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ค. 2554, 10:41:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ค. 2554, 10:41:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 1581





<< 12.   14 >>
อมลลดาOWOอมรรัตน์ 30 พ.ค. 2554, 14:34:05 น.
แวะมาให้กำลังใจค่ะ พี่เฟื่อง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account