อยากให้พระอาทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง # ชอนตะวัน (จบแล้ว)
สำหรับเรื่องนี้เป็นงาน y ครับ..ถ้าไม่ชอบกากบาทสีแดงขอบบนขวา แต่ถ้าชอบก็จะมีศาสนาประกอบกันไปด้วยครับ เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปี 49
พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..
สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com
ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
พิมพ์รวมเล่ม แบบปริ้น ออน ดีมาน
450 หน้า ราคาขาย 350 บาท พร้อมค่าจัดส่งครับ..
สอบถามเพิ่มเติม f_nakhon@hotmail.com
ปล. เคยโพสต์ในบล็อกเมื่อปี 50 มาแล้วหนึ่งครั้งครับ...
Tags: งาน y + ศาสนา
ตอน: 15
15.
สุริยานั่งมองใบทะเบียนการค้าและใบอนุญาตนำเที่ยว ซึ่งมีเลขที่บ่งบอกไว้ เขารู้สึกภาคภูมิใจแม้นรู้ว่าไม่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองทั้งหมด แต่ส่วนหนึ่งมันก็ได้มาด้วยกุศลคุณงามความดีที่เขาได้ตั้งใจช่วยเหลือคนหนึ่งคนไว้..ส่วนเรื่องหัวใจที่กำลังไล่ตาม ถือว่าเป็นกรรมที่เคยทำร่วมกันมา จะยับยั้งมันได้คงต้องตั้งสติใช้เวลากับมันสักนิด..
แต่บางครั้ง ยิ่งก้าวยิ่งถลำลึก
สุริยานึกถึงภาพข่าวในนิตยสารแนวปาปารัซซี่ ภาพเขากับรุ่งโรจน์เดินเคียงกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี..ถือดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไปสักการะบุคคลสำคัญของโคราช..มันทำให้ อีกไม่กี่วันต่อมา ก็มีข่าวว่ารุ่งโรจน์กับน้องหนูไฮโซประกายดาว รักสะบั้นลง..ด้วยฝ่ายหญิงกังวลว่าฝ่ายชายจะเป็นเกย์อย่างที่หนังสือฉบับนั้นและฉบับอื่น ๆ พากันออกมาเม้าท์ในลักษณะอักษรย่อ ผสมนั่งตอเขียน
สำหรับแสงทองดูไม่ใส่ใจกับรายละเอียดนั้น หญิงสาว พูดแต่ว่า
“หนูรู้จักพี่สองคนดี..พี่สุริยาคงไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ความรักมันทำให้คนตาบอด เห็นแต่ไม่รู้สึกในแบบที่เห็น
โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ตอนที่ตัดสินใจเช่าตึกที่อยู่ติดกับร้านเสริมสวยพี่สมใจทำเป็นออฟฟิศ โดยห้องพักชั้นบนดัดแปลงให้เป็นหอพักสตรี และด้านหน้าเก็บค่าเช่าจากแม่ค้าที่มาเปิดแผงขายของ ช่วงที่ช่างมาเก็บรายละเอียดตกแต่งสถานที่ด้านล่าง รุ่งโรจน์แทบจะมากินนอนอยู่ที่คอนโดในทุกค่ำคืน และพยายามรั้งให้สุริยาไปนอนเป็นเพื่อนด้วยในทุก ๆ ครั้ง
....แสงทองน่าจะฉุกคิด หรือถามไถ่ขึ้นมาบ้าง..
แต่นายต้องก็เคยพูดไว้
“มีผู้หญิงตั้งมากมายหลงใหลไปกับพวกเกย์ เพราะเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนดี ตั้งใจทำอะไรต่อมิอะไรให้ดีที่สุด..ดูดีเป็นหัวหน้าครอบครัว..เป็นผู้นำ หรือบางพวกก็รู้ว่าแฟนตนมีใจเบี่ยงเบน หวังจะรักษาเขาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด แต่สุดท้ายก็มีเพียงน้ำตา กับความกล้ำกลืนฝืนทน.”
สุริยาเพียงแต่รับฟัง และพยายามที่จะวางตัวกับแสงทองให้เป็นเพียงพี่ชายคนดีตามเดิม แต่หญิงสาวเองกลับไม่รู้นัยยะนั้น..ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน สายตาของแสงทองยังเชื่อมด้วยรักหวานน้ำตาลหยด ไปทัวร์ในทริปไหน ๆ ถ้ามีโปสการ์ดขายใกล้มือ หญิงสาวจะต้องเขียนมาระบายบอกเล่าความในใจ..แล้วส่งไปรษณีย์มาหา..มันเป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่สุริยาได้เรียนรู้กรรมวิธีสร้างสานความรักความผูกพันระหว่างกัน
แต่เขากลับเอาไปเติมเต็มให้อีกคน..
จนกระทั่งนานวัน
รุ่งโรจน์แทบจะไม่ไปไหนไกลตา
.. เกือบทั้งวันที่เขาขลุกอยู่ในออฟฟิศกับเครื่องคอมพิวเตอร์
และคืนทั้งคืน เขาจะรีบกลับคอนโด อาบน้ำแต่งตัว นั่งดูรายการโทรทัศน์หรือไม่ก็อ่านหนังสือหาความรู้เชิงพุทธศาสตร์ ประวัติศาสตร์กับสุริยา...
..เมื่อรุ่งโรจน์ตั้งใจ พอใจจะเป็นอย่างนี้..มีหรือที่คนทางบ้านจะไม่เดือดร้อน..หลายครั้งหลายหนที่สุริยาได้ยินรุ่งโรจน์โต้เถียงกับคนเป็นแม่ทางโทรศัพท์..จะเป็นเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่ เรื่องงาน กับเรื่องเกย์..
ลูกชายยืนกระต่ายขาเดียวว่า
“เขาไม่ใช่เกย์ครับคุณแม่ เขาเป็นหุ้นส่วนผม ไม่ใช่ผมกับเขาสองคน มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย..คุณแม่จะเอาอย่างไรครับ น้องเขาไม่ใช่เศรษฐีรวยทรัพย์เหมือนเพื่อน ๆ ผมคนอื่น ๆ แต่เรารักและพอใจที่จะทำตรงนี้ด้วยกัน คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับ ที่ผมตั้งอกตั้งใจทำงาน ไม่ดีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ อย่างเมื่อก่อน คุณแม่อยากให้ผมเป็นอย่างเก่า..เพราะผมจะได้มีเรื่องเข้าหาคุณแม่บ่อย ๆ ..นี่เราก็เจอะกันทุกสัปดาห์อย่างที่คุณแม่ขอแล้วนี่ครับ..ออกงาน ..ผมยังไม่พร้อมครับคุณแม่ ..เปิดตัวบริษัททัวร์ให้เป็นข่าว..อย่าเพิ่งเลยครับคุณแม่ รอให้มันทำกำไร รอให้คนรู้จักพวกเราอีกสักนิดนะครับ..ผมไม่ได้อยากดังกันนะครับ อยากแค่ทำอะไรที่มันหยิบยื่นความสุขให้คนอื่น ๆ ได้บ้าง เราได้เขาได้ ประโยชน์เกื้อกูล..ให้ผมจัดทัวร์ไปต่างประเทศ หรู ๆ แพง ๆ ..ไม่ใช่นโยบายบริษัทเรานะครับคุณแม่..แต่ถ้าให้นำฝรั่งมาเที่ยววัดในเมืองไทยนี่กำลังคิดกันอยู่ครับ แต่คงต้องใช้เวลาสักพักกำลังทำข้อมูลภาษาอังกฤษ ทำเว็บอยู่ครับ จริง ๆ งานนี้มีน้องเขาคนเดียวที่มีความรู้เรื่องวัดวาอาราม ส่วนผมกับน้องอีกคนกำลังศึกษาหาความรู้กัน..คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับที่ผมดูมีสติขึ้น..นี่คือสิ่งที่คุณแม่ต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือครับ ...แต่คุณแม่ก็ยังต้องการให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝากับใครสักคนในบรรดาลูกสาวเพื่อน ๆ คุณแม่..แม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าครับ”..
สุริยาฟังสองแม่ลูกคุยกันก็พอรู้ว่า แม่เขาเลี้ยงลูกมาอย่างไร ผิดกับที่เวลาแสงทองคุยกับ
คนเป็นป้า..ขานั้นดูแต่จะถูกบังคับ..
“แม่เชื่อเรื่องแม่ลิขิตใช่ไหม ผมก็เชื่อเรื่อง ผมลิขิตเองเหมือนกัน”
ฟังต่อไปแล้ว สองแม่ลูกเริ่มจะรวน ด้วยลูกชายคงจะหมดความอดทน เพื่อประโยชน์ตนกระมัง..
“แม่ครับ ผมขอเวลาพิสูจน์ตนเองสักปีแล้วกันนะ ถ้าผมจัดทัวร์แล้วไม่รุ่ง ไม่ทำมาซึ่งชื่อเสียงอย่างที่คุณแม่ต้องการ ผมจะยอมทำตามใจคุณแม่ โอเคไหม..แค่นี้นะครับคุณแม่...อ้อ..นิดนึงครับ คุณแม่ลูกทัวร์ผมเขาถามผมว่า ทำไมคุณแม่สวยจัง ถ้ามีโอกาส ผมอยากชวนคุณแม่มาเที่ยวกับผมด้วย..เพราะว่าทัวร์ผมจะได้เจริญ ๆ ยิ่งขึ้นเพราะมีดาราไฮโซ แก่แล้วแต่ยังสาวสวยมาออกทริปด้วย..คุณแม่ฝันดีนะครับ คุณแม่อย่าเกาะอกออกงานราตรีบ่อย ๆ ซิครับ เดี๋ยวปอดบวม ผมรักคุณแม่นะครับ..จุ๊บ ๆ ๆ ครับ”
พอรุ่งโรจน์วางโทรศัพท์ ...สักพัก แสงทองก็มีตาแดง ๆ ออกมาจากห้องน้ำ..พอถามไถ่ สาวเจ้าจึงว่า
“คิดถึงแม่..ทำไมพี่รุ่งโชคดีอย่างนี้ก็ไม่รู้ สมบูรณ์เสียทุกอย่าง ...”
“เธอมันก็เหมือนคนใจดำ เข้มแข็ง แต่ไหง ถึงขี้แงจังแสงทอง” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เอามือลูบศีรษะของแสงทองที่เช็ดน้ำตาปรอย ๆ ..ซึ่งภาพนั้น สุริยารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หญิงต้องคู่กับชาย..โลกจึงสมดุล..
พอเสร็จกิจเรื่องการก่อรูปสำนักงานขึ้นมาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา..ทีนี้ ก็ถึงเวลาที่ผู้บริหารใหญ่..ต้องลงบริหาร วางแผน เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ..
“ทบทวนอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์..ก่อนนะครับ” จริง ๆ ตั้งใจจะไปจดทะเบียนเป็นรุ่งสุริยาทัวร์ แต่มีคนอื่นจดตัดหน้าไปแล้ว จึงต้องเพิ่มแสงเข้าไปอีกคำเพื่อจะได้มีกำลังใจของคนถึงสามคน..
“กำไรของเรา ก็คือ รอยยิ้มและความสุขของลูกทัวร์..ท่องพร้อมกันสามรอบเดี๋ยวนี้” ..สุริยาออกคำสั่ง รุ่งโรจน์กับแสงทองหัวเราะกิ๊ก ๆ ..
“สมัยที่ผมเป็นเณรนะ ท่องพร้อมกันตะพึดตะพือ พระอาจารย์ท่านว่าเป็นการสร้างความสามัคคี แค่ท่องพร้อมกันไม่ได้ แล้วเรื่องอื่นมันจะทำด้วยกันได้อย่างไร.. ..อันลิงค่างกลางป่าจับมาหัดสารพัด หัดได้ดังใจหมาย เป็นสามเณรอาจารย์เพียรสอนแทบตาย ถ้าเอาดีไม่ได้ ก็อายลิง...สามเณรดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้..” พอบอกเล่าความหลังครั้งอยู่วัด ดวงตาสุริยาเป็นประกายสุขใส..
วันคืนไม่อาจหวนกลับ แต่วันคืนที่ล่วงผ่านไป เป็นบทเรียนที่ทำให้ชีวิตในวันนี้ เป็นอย่างนี้ได้..
แล้วหุ้นส่วน เจ้าของ..และเพื่อนสนิท ก็พากันท่องอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์ พร้อมกันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“เราคือหุ้นส่วน เราคือเพื่อนกัน เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข เราจะเปิดอกคุยกันเรื่องงาน เราจะไม่โกรธกัน ทะเลาะกัน เราก็จะรีบคืนดีกันโดยเร็ว รุ่งแสงสุริยาทัวร์จงเจริญ”
เป็นอุดมการณ์อีกข้อที่ทั้งสามคนร่วมร่างขึ้นมาและท่องพร้อม ๆ กัน..
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเมื่อเกิดขึ้นที่ใด แสดงว่าตรงนั้นมีคนมีความสุข และความสุขนั้น ทั้งสามคนปรารถนาที่จะแผ่ขยายออกไป หาเงินอย่างมีความสุข และใช้เงินให้ได้ความสุข...
เมื่อมีสำนักงานเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา..ทุกคนจึงต้องมีหน้าที่..
แสงทองเรียนจบปริญญาตรีสาขาสื่อสารมวลชนแล้ว เพียงรออบรมมัคคุเทศก์ให้ได้ใบอนุญาตจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในบริษัท.. หญิงสาวมีหน้าที่รับโทรศัพท์..รับจอง โทรตามขายลูกทัวร์เก่า จัดที่นั่ง ทำบัญชีรับ-จ่าย วางแผนค่าใช้จ่ายรวมถึงติดต่อร้านอาหาร ศึกษาในเรื่องที่สุริยาทำด้วยตัวเองมาตลอด..โดยสุริยาให้เหตุผลว่า
“วันหนึ่งข้างหน้าอะไรจะเกิดก็ไม่รู้ ถ้าพี่ไม่อยู่ ทัวร์นี้ต้องอยู่ต่อให้ได้”
หญิงสาวไม่ถามว่าสุริยาจะไปไหน..เพราะสุริยาเคยพูดไว้ ว่าทุกคนต้องมีมรณานุสติ ระลึกถึงความตายทุกวันเพื่อความไม่ประมาท..
ทุก ๆ วันเจ้าหล่อนก็จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย และงานที่ตนรัก อ่านหนังสือหาความรู้ใส่ตัว พร้อมกับจัดหมวดหมู่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละเส้นทาง..เพื่อที่จะรวบรวมเป็นหนังสือเที่ยวรอบกรุงพรุ่งนี้กลับ..ไปค้างสักคืน หรือไม่ค้างจะกลับในคืนนั้นก็ยังทัน..
สำหรับสุริยา เป็นคนวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวในแต่ละเดือน..เริ่มจากสามเดือนแรก ใกล้ไปหาไกล คิดเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์..คิดและทำให้ใบปลิวโฆษณาไปสู่มือกลุ่มเป้าหมายให้ได้..
วันปกติ ในเวลาเช้าขณะที่คนในย่านนั้นเร่งรีบขึ้นรถเพื่อไปทำงาน สุริยากับแสงทองซึ่งย้ายมาพักชั้นบนของสำนักงาน ก็มีหน้าที่มายืนแจกใบปลิว หรือไม่ก็ไปติดต่อกับเจ้าของรถที่ได้สัมปทานรับส่งพนักงานแต่ละบริษัท ฝากหรือจ้างให้ช่วยแจกเอกสารแนะนำทริปเที่ยว..หรือไม่ก็ฝากลูกทัวร์เก่าไปแปะตามบอร์ดในโรงงาน แฟกซ์ไปตามสำนักงานใกล้ ๆ แล้วก็มีบ้างที่เย็นค่ำ เดินแจกตามบ้าน ห้องพักในคอนโด อพาร์ทเมนต์ รวมถึงสถานที่รวมคนรักสุขภาพรักการออก
กำลังกายในสวนสาธารณะ..และคนรักบุญคือศาลาวัด
และรุ่งโรจน์ก็คือเจ้าของทุน ที่เพียงวันนี้ ขอมามีส่วนร่วมเป็นบางครั้ง..สุริยาจึงลองมอบหน้าที่เคยบอกไว้ คือ มัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ และอนาคตคือฝ่ายต่างประเทศ
รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติที่รุ่งโรจน์พึงมีในปัจจุบันชาติ เขาไม่ปรารถนาครอบครอง ยึดมาเป็นของตนเพียงลำพัง..เพราะรู้ว่าถ้าได้กาย ใจหรือจะหาสุขได้..สู้เมตตาต่อกัน ..ปรารถนาเพียงเห็นเขานำมาใช้ทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนา น่าจะดีกว่า
จิตที่ตั้งไว้เป็นอย่างนี้ แต่จะทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง
และสุริยาพยายามดึงเอาเหตุผลอย่างนี้มาใช้รักษาใจให้เป็นปกติยามอยู่เคียงกัน..
สองเดือนผ่านไป..อุปสรรคและปัญหาที่ขวางหน้าก็ถูกฟันฝ่าไปด้วยใจที่มุ่งมั่น.
“ลูกทัวร์บางคนนะ น่าตบม๊าก” เมื่อลงจากทัวร์ครั้งใด แสงทองเป็นต้องมาเม้าท์ ระบายความในใจ อีกความรู้สึกของงานขายบริการ..อดทน
“เรื่องนั่งหน้ากับนั่งหลัง เรื่องการตรงต่อเวลา ทีตัวเองขึ้นรถช้าแล้วเงียบ ทีคนอื่นช้าหน่อย ..รีบให้เราไปเร่ง..กับเรื่องรถ แหม ..ราคาตั๋วเท่านี้ จะนั่งรถโค้ช ทีบริษัทอื่นทำรถโค้ช ราคาแพง ๆ ก็ไม่ไปกับเขาอีก พอเราผิดพลาดนิดหน่อยก็เอาไปเมาท์ซะ แต่พอเราดีมีคนชมครึ่งค่อนคัน แม่เจ้าก็เงียบเสียนี่..คราวหลังนะถ้าโทรมาจองตั๋วอีกจะบอกว่าเต็มแล้ว..หรือจะบอกไปตามตรงดีไหมพี่รุ่งพี่ยา ว่าทัวร์เราไม่ต้องการคุณ..เบื่อ”
“บอกได้แต่เธอก็ต้องเตรียมตัวฟังเพลง จากพี่ยาของเธอว่า คุณจะรู้บ้างไหม คืนนี้ผมนอนไม่หลับ..คุณจะรู้ไหมครับหน้าคุณลอยอยู่เต็มฟ้า..เดี๋ยวก็ได้ตามไปขอโทษเขาอีกหรอก ขานี้เธอก็เห็นนี่ ให้อภัยกับแผ่เมตตา เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นเอง..จริง ๆ ดีขึ้นจริง ๆ นะ..พอเขาบ่นเราเงียบ..เขาก็มากับเราเรื่อย ๆ หลายทริปแล้วมั้ง.”
แววตาของรุ่งโรจน์มีประกายของความสุข
สุริยานึกถึงวันแรกที่รุ่งโรจน์ต้องขึ้นจับไมค์เป็นมัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ..วันนั้น เขากับแสงทอง ต้องให้กำลังใจยกใหญ่..
“มันตื่นเต้น..”
“เร็ว ๆ นะ จะได้เวลารถออกแล้ว ..เดี๋ยวผมพูดเสร็จแล้วผมจะโยนไมค์ให้คุณ..”
“ผมเสิร์ฟน้ำก็ได้นะ”
“เสิร์ฟน้ำจ้างเด็กที่ไหนมารับจ๊อบก็ได้ แต่คนมีความสามารถนี่หาได้ไม่ง่าย ต้องฝึก แล้วฝึกแล้วเขาจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่ไปไหนเห็นจะยาก เพราะที่นี่สวัสดิการยังไม่ดี..ตกลง พร้อมนะ.”
ครั้งแรกรุ่งโรจน์ตะกุกตะกัก..ผ่านไปสักห้านาที เขาก็ทำได้ดีไม่แตกต่างจากแสงทองในครั้งแรก..
หลังจากนั้น ลูกทัวร์ก็เรียกร้องให้เขาขึ้นทำหน้าที่อยู่บ่อย ๆ เพราะช่วงของเขา มีของรางวัล มีคำถามชวนให้ตื่นเต้น..มีท่าสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อ..สำหรับแสงทอง นอกจากประวัติศาสตร์ที่เจ้าตัวถนัด หญิงสาวก็มีมุกตลกหน้าตายขึ้นมาใช้อยู่เรื่อย ๆ ..ส่วนสุริยาบางคนยกให้เป็นอาจารย์ เพราะดูเคร่งครัดในหลักธรรมคำสั่งสอนเสียเหลือเกิน
“ผมรู้สึกว่าคุณมีความสุขกว่าวันโน้น เดือนกุมภาพันธ์ที่ผมพบคุณ” รุ่งโรจน์เอ่ยขึ้นขณะเลี้ยงฉลองผลการสอบเป็นมัคคุเทศก์ของแสงทองบนตึกสูงระฟ้า ใบหยก 2
“ผมเห็นคุณสองคนมีความสุขมั้ง..ผมจึงมีความสุขไปด้วย”
“ใครว่าหนูมีความสุข หนูกำลังมีความทุกข์ต่างหาก ทุกข์ว่า หนังสือที่หนูอุตส่าห์รวบรวมเรียบเรียงสำนักพิมพ์จะเยสหรือเปล่า..”
“อธิษฐานซิ” สุริยาว่า
“อธิษฐานกับอะไรพี่ยา..”
“กับพี่รุ่งของหนูนี่ไง ..เธอเข้าผิดช่องเอง..ไม่รู้หรือจ๊ะ ว่าเขาคนนี้มีญาติโกโหติกาเยอะ สมบัติแค่สำนักพิมพ์สำนักเดียว คงไม่ยากสำหรับเขา..”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบ..เมื่อไม่ตอบอีกแสงทองจึงพูดว่า
“อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ..ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ บุคคลเมื่อมีตนฝึกฝนได้ดีแล้วย่อมได้ที่พึ่ง ที่บุคคลอื่นได้โดยยาก..ไม่เข้าไม่ใจหรอก มั่วไป..แต่ถ้าเรื่องหนูมันดีจริงเขาคงมีอารมณ์เสี่ยงพิมพ์ขาย...จริง ๆ หนูชักมันส์กับไมค์แล้วซิ ถึงว่าไอ้พวกพี่ที่ราม ทำไม๊ทำไม มันถึงได้บ้าไมค์กันขนาด..ที่แท้ก็ดีอย่างนี้นี่เอง ..พี่รุ่ง เรื่องรายการโทรทัศน์ว่าไง หนูชักอยากเป็นพิธีกรแล้วซิ หนูมีใบผู้ประกาศนะ เคยอยากเป็นดีเจค่ะ เลยไปสอบไว้ แต่ตอนนี้ต้องมาเป็นคนพาคนไปไหว้เจดีย์แทน..”
“พูดถึงเรื่องเจดีย์..อีกสองเดือนก็ใกล้หนาวแล้วนะคุณยะ เราขึ้นเหนือกันไหม..เริ่มออกสำรวจเสียตั้งแต่เดือนสิงหา พอช่วงหนาวเราก็จัดไป หรือหน้าหนาวเราสำรวจใต้ หน้าร้อนเราก็จัดไป..”
“จริง ๆ คุณบ่นอยากไปมานานแล้ว ผมเองก็อยากไปในทุกที่ที่ในหนังสือแนะนำ แต่จริง ๆ แล้วนอกหนังสือสำรวจยังมีนะ วันนั้นผมเจอพระบาทห้วยต้ม ที่ทางไป อ.ลี้ ทางไปเชียงใหม่เส้นเดิม เส้นที่เรากลับมาจากจอมทอง สวยมาก ..หรือพระธาตุดอยน้อย เลยจอมทองไปขวามืออยู่บนยอดเขา มองเห็นแม่น้ำปิง ไกล ๆ สร้างโดยพระนางจามเทวี..นี่ผมก็เคยไปตอนเป็นพระ..ถ้าเราลงละเอียดจริง ๆ ดีไม่ดีได้จัดเจดีย์ร้อยแปดองค์เชียงใหม่....”
“เย้” แสงทองแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า..
“ใครจะดูเรื่องตั๋ว ไปหลายวันนะ” รุ่งโรจน์ปราม
“เสียใจที่หนูคิดได้ตั้งนานแล้วว่า สักวันมันต้องมีทริปสำรวจ หนูก็เลย..ตีซี้กับไอ้อ้อย ..ยกโทรศัพท์ไปให้มันที่ร้าน..อย่างอื่นมันก็รู้หมดแล้ว..ที่นี้หนูไปได้หรือยังคะ..
สุริยากับรุ่งโรจน์มองหน้ากันเป็นเชิงให้รู้ว่า..ยอมมัน
“อืมลืมไป..เย็นนี้เลี้ยงฉลองมงคลสมรสลูกทัวร์เรา พี่อิฐ กับ พี่เอ๋ เขาโทรมาย้ำนะคะว่า ถ้าไม่ไป โกรธ...เลิกเที่ยวกับเรา.. เพราะที่เขาเจอะกันรักกัน ก็เพราะพี่ยาเป็นพ่อสื่อให้..”
รุ่งโรจน์ซึ่งไม่ค่อยรู้รายละเอียดเหล่านี้จึงมองหน้าคนที่ว่าไม่เดียงสากับเรื่องความรัก..
“ผมคนจัดทัวร์ เขามาเจอะกัน ก็คงเหมาว่าผมมีส่วนทำให้เขาเจอะกัน ก็เท่านั้น ไม่มีอะไร ไม่ได้ชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกันสักหน่อย..”
“ตกลงจะไปหรือไม่ไป..”
“ไปเถอะ ไปดูงานเขาไว้ เอาไว้มาทำงานตัวเอง..” รุ่งโรจน์ต่อความ..แสงทองหน้าแดงเล็กน้อย..ส่วนสุริยาทำหน้าไร้ความรู้สึกใด ๆ ..แต่ใจจริงนั้นนึกตำหนิคนที่รู้อยู่แก่ใจแล้วยังแกล้งทำเป็นพูดดี..โยนไปให้คนนั้นคนนี้..
“จริง ๆ ผมชอบบรรยากาศแบบทัวร์เรานะ กันเองดี เที่ยวจนกลายเป็นพี่เป็นน้องกันไป เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นแสงทองหอบดอกไม้ไปให้ใครรึ”
“วันเกิดป้าโสภิตเค้า ลูกทัวร์สามสิบแปดรอบของพี่เค้า ...เรามาทำข้อมูลลูกค้าก็พลอยรู้ไปด้วย..ว่ารักกันเหนียวแน่น..”
“แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มมีแฟนคลับแล้วนี่”
“พี่ก็ใช่ย่อย”
“ต่อไปถ้าผมไม่อยู่คุณสองคนก็ทำกันได้สบายบรื๋อ..ง่ายนิดเดียว”
พอสุริยาพูดจบ ทั้งแสงทองและรุ่งโรจน์จ้องหน้าสุริยา
“เผื่อไว้เฉย ๆ ...”
“ไม่เอา พี่ยาไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกเลยนะ ..คนอะไรชอบพูดเรื่องตายอยู่เรื่อย วันนี้วันดีหนูนะคะ..อุตส่าห์บากบั่นพากเพียรเรียนจนได้บัตรไกด์เพื่อทัวร์ของเรา..ดื่มและกินบุฟเฟ่ต์ให้หมดโต๊ะให้ได้นะเสียดายของ..”
“ตายแล้วอย่างนั้น..อายเขาตาย” รุ่งโรจน์ส่ายหัวกับความขี้เล่น ของแสงทอง
“พี่รุ่งช่วงนี้ แม่พี่เงียบ ๆ ไปนะ..ไม่เห็นค่อยโทรมากวนใจเหมือนเมื่อก่อน”
“ใครว่า ทุกเที่ยว แม่ส่งสปายขึ้นรถไปด้วยทุกครั้ง ผมไม่บอกพวกคุณเองแหละ..”
“ขนาดนั้น”
“แม่ผมเชียวนะ..ท่านไม่ยอมให้ผมคลาดสายตาไปนานนักหรอก..คงไปดูว่าผมกับคุณสุริยากุ๊กกิ๊กอะไรกันออกนอกหน้าหรือเปล่า หรือไม่ก็ไปดูว่าผม มีตาไปมองสาวคนไหนอีก หรือถ้าผมมองอยู่ก็อยากจะรู้ว่า เธอคนนั้นเป็นอย่างไร”
“และอย่างหนูนี่เข้าสเป็คคุณแม่พี่ไหม”
“เธอต้องเจอแม่ผมเอง..จริง ๆ แม่ใจดี มีเหตุผลแต่เป็นเหตุผลแบบเลิศ ๆ นะ ..และตั้งแต่คบกับพวกคุณมา ยอดค่าใช้จ่ายผมก็ลดลง คุณแม่ท่านก็แปลกใจ..ผมเองก็เบื่อที่ต้องไปใช้ชีวิตให้เปลืองไปกับเหล้าบุหรี่หรือสถานที่แบบนั้นไปเสียดื้อ ๆ ด้วย”
“จะยอมรับสักหน่อยก็ไม่ได้ว่ามีเพื่อนดีอย่างหนูกับพี่ยา ..รึจริง ๆ ก็แก่แล้วมั้ง หรือไม่ก็คงจะใกล้บวชได้อีกคน”
“จริง ๆ ผมคิดอยากบวชเหมือนกันนะ อยากรู้เหมือนกันว่า ท่องบาลีทีละหลาย ๆ หน้าโดยไม่ดูหนังสือทำอย่างไร”
สุริยายิ้มด้วยเขายัดเยียดเรื่องราวเหล่านี้เข้าหัวรุ่งโรจน์อยู่เนือง ๆ ไม่มีเสียล่ะที่จะไม่ไปอยู่ในหัวบ้าง
“โอ๊ย..ไม่นะ อีกคนก็พูดเรื่องตาย อีกคนก็พูดเรื่องบวช..นี่จะหนีหนูไปหมดใช่ไหม..เผากิจการทิ้งจริง ๆ ด้วย”
“ไม่ดีรึแสงทอง เธอฮุบไปคนเดียว..สาวสวยเนื้อหอมมีหนุ่ม ๆ มาตอมเพียบแน่ ๆ ..”
แสงทองเบะปาก
“ลืมบอกพี่ ๆ ไป คือว่า คุณป้าหนูบอกว่า..จะบังคับหนูให้แต่งงานกับนายตำรวจคนหนึ่ง..แต่หนูไม่โอเค..”
“ทำไม อนาคตคุณนายนะนั่น”
“หนูอยากเป็นเถ้าแก่มากกว่าเจ้าค่ะ..ไม่หรอก เราไม่ได้รักเขานี่ ถ้ารักก็อีกเรื่อง..”
“แล้วเธอรักใครบ้างหรือยัง..” พอถามดังนี้ สุริยาจึงเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นขาคนพูดเสียทีหนึ่ง..
“อย่าพูดถึงมันเลย ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก” น้ำเสียงของแสงทองเศร้าลงในทันที ก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปาก..รุ่งโรจน์ส่ายหัว ส่วนสุริยาถอนหายใจออกมา..
สุริยาเชื่อว่าปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง เขาจึงต้องถอยออกมาจากแสงทองหนึ่งก้าว เป็นได้แค่พี่ชาย ก็ทำตัวให้เป็นพี่ชาย
สำหรับคนที่นั่งติดกันนี่ แม้ใจจะเทให้ไป แต่มันก็เป็นได้แค่เพื่อน..จึงต้องวางตัวแค่เพื่อน ..แค่คนรู้ใจกัน ซึ่งอีกคนก็รู้นัยยะที่เขาหยิบยื่นให้นั้น..
โลกหนอโลก..เดินไปยากเหลือเกิน..ที่สุดของคนคืออะไร..ในเส้นทางทำมาหากินความปรารถนาคือร่ำรวย หมดหนี้หมดสิน..สืบทอดถึงลูกหลาน..เมื่อมิได้ปรารถนาจะมีลูกเต้า อารมณ์ที่จะสร้างฐานะให้มั่งมีจึงหายไปนิดนึง
ลำพังตัวเอง รู้ตัวว่าแค่ไหนจึงจะอยู่ได้จนตาย...อย่างสบาย ๆ .. ภาระที่ยิ่งใหญ่คือพ่อแม่ ก็เหลือเพียงแม่คนเดียว..ซึ่งพี่ ๆ ก็รับไปเลี้ยงดูให้อยู่ในสายตา ให้อยู่แต่บ้าน ให้ไปวัดทำบุญ..นาน ๆ ทีเขาก็ไปรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านป้า แล้วก็พาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา อยู่ได้ไม่นาน แม่ก็ร้องขอกลับไปอยู่บ้านนอกด้วยรำคาญเสียงรถ กับความคับแคบของที่อยู่อาศัย..
..สุริยามองคนสองคนที่นั่งตรงข้ามกัน..หากทั้งคู่รักกัน..เขาคงมีความสุข
ความสุขจริง ๆ ไม่ได้หลอก หรือปลอบขวัญตัวเองเลยสักนิด..
ในค่ำคืนนั้นหลังจากกลับมาจากงานแต่ง.. สุริยาก็พบรุ่งโรจน์นั่งอ่านหนังสือรออยู่โซฟา เมื่อเขามาถึงรุ่งโรจน์ก็ยิ้มให้..พร้อมกับตบเบาะให้มานั่งเคียงกันเหมือนทุกครั้ง..
“เป็นไงเจ้าสาวสวยไหม”
สุริยายิ้มเนือย ๆ ด้วยช่วงหลัง ๆ ที่อยู่ด้วยกัน จากความตื่นเต้นกลายเป็นความอัดอึด แสร้งที่จะทำทั้งที่คิดไปอีกอย่าง..
“สวย สมกันจริงล่ะ..เห็นเจ้าบ่าวแล้วนึกถึงงานของคุณนะคุณรุ่ง ถ้าคุณยอมแต่งงานกับเจ้าสาวสักคนที่คุณแม่คุณหาให้...วันนั้นผมคงมีความสุขนะ”
รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง สุริยาเห็นดังนั้นจึงเดินตามไปยืนเคียงกันมองออกไปข้างนอกคอนโด ด้วยเป็นย่านชานเมืองพื้นที่ด้านนอกนั้น จึงไม่มีตึกสูงระฟ้าขัดลูกหูลูกตา ที่ไกลยังมีทุ่งนาเขียวขจีให้เห็นในเวลากลางวัน
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก”
“แต่คุณต้องยอมรับความจริงนะคุณรุ่ง ว่าสิ่งที่คุณคิดมันเป็นไปไม่ได้..”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะคุณยะ ทั้งที่มันก็เป็นอยู่นี่ไง”
“คุณมั่นใจนะว่าคุณมีความสุข..” สุริยาย้อนถาม..แล้วก็พูดความจริงว่า
“แต่ผมไม่มีความสุข”
“คุณกำลังโกหกนะคุณยะ ผมรู้ว่าคุณก็มีความสุข..”
“มันเป็นความสุขที่เจือด้วยความทุกข์นะ แล้วคุณจะว่าสุขหรือ..”
“ถ้าคุณเหม็นหน้าผม คืนนี้ผมกลับไปนอนที่บ้านก็ได้..” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็หยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถเปิดประตูห้องออกไป
เมื่อเห็นอาการของรุ่งโรจน์เป็นดังนั้น สุริยาได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ตรมลงในหัวอก..นี่แหละความรัก มันพาให้ทุกข์..แล้วเราจะรักเขาต่อไปได้อย่างไร ...อีกใจมันก็สอนตัวเองได้ แต่อีกใจมันก็เฝ้าชะแง้เงี่ยหูฟังที่ประตูหวังว่าเขาจะเคาะประตูง้อขอคืนดีดั่งเดิม
สุริยานั่งมองใบทะเบียนการค้าและใบอนุญาตนำเที่ยว ซึ่งมีเลขที่บ่งบอกไว้ เขารู้สึกภาคภูมิใจแม้นรู้ว่าไม่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเองทั้งหมด แต่ส่วนหนึ่งมันก็ได้มาด้วยกุศลคุณงามความดีที่เขาได้ตั้งใจช่วยเหลือคนหนึ่งคนไว้..ส่วนเรื่องหัวใจที่กำลังไล่ตาม ถือว่าเป็นกรรมที่เคยทำร่วมกันมา จะยับยั้งมันได้คงต้องตั้งสติใช้เวลากับมันสักนิด..
แต่บางครั้ง ยิ่งก้าวยิ่งถลำลึก
สุริยานึกถึงภาพข่าวในนิตยสารแนวปาปารัซซี่ ภาพเขากับรุ่งโรจน์เดินเคียงกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี..ถือดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไปสักการะบุคคลสำคัญของโคราช..มันทำให้ อีกไม่กี่วันต่อมา ก็มีข่าวว่ารุ่งโรจน์กับน้องหนูไฮโซประกายดาว รักสะบั้นลง..ด้วยฝ่ายหญิงกังวลว่าฝ่ายชายจะเป็นเกย์อย่างที่หนังสือฉบับนั้นและฉบับอื่น ๆ พากันออกมาเม้าท์ในลักษณะอักษรย่อ ผสมนั่งตอเขียน
สำหรับแสงทองดูไม่ใส่ใจกับรายละเอียดนั้น หญิงสาว พูดแต่ว่า
“หนูรู้จักพี่สองคนดี..พี่สุริยาคงไม่ใช่คนเช่นนั้น”
ความรักมันทำให้คนตาบอด เห็นแต่ไม่รู้สึกในแบบที่เห็น
โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ตอนที่ตัดสินใจเช่าตึกที่อยู่ติดกับร้านเสริมสวยพี่สมใจทำเป็นออฟฟิศ โดยห้องพักชั้นบนดัดแปลงให้เป็นหอพักสตรี และด้านหน้าเก็บค่าเช่าจากแม่ค้าที่มาเปิดแผงขายของ ช่วงที่ช่างมาเก็บรายละเอียดตกแต่งสถานที่ด้านล่าง รุ่งโรจน์แทบจะมากินนอนอยู่ที่คอนโดในทุกค่ำคืน และพยายามรั้งให้สุริยาไปนอนเป็นเพื่อนด้วยในทุก ๆ ครั้ง
....แสงทองน่าจะฉุกคิด หรือถามไถ่ขึ้นมาบ้าง..
แต่นายต้องก็เคยพูดไว้
“มีผู้หญิงตั้งมากมายหลงใหลไปกับพวกเกย์ เพราะเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนดี ตั้งใจทำอะไรต่อมิอะไรให้ดีที่สุด..ดูดีเป็นหัวหน้าครอบครัว..เป็นผู้นำ หรือบางพวกก็รู้ว่าแฟนตนมีใจเบี่ยงเบน หวังจะรักษาเขาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด แต่สุดท้ายก็มีเพียงน้ำตา กับความกล้ำกลืนฝืนทน.”
สุริยาเพียงแต่รับฟัง และพยายามที่จะวางตัวกับแสงทองให้เป็นเพียงพี่ชายคนดีตามเดิม แต่หญิงสาวเองกลับไม่รู้นัยยะนั้น..ทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน สายตาของแสงทองยังเชื่อมด้วยรักหวานน้ำตาลหยด ไปทัวร์ในทริปไหน ๆ ถ้ามีโปสการ์ดขายใกล้มือ หญิงสาวจะต้องเขียนมาระบายบอกเล่าความในใจ..แล้วส่งไปรษณีย์มาหา..มันเป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่สุริยาได้เรียนรู้กรรมวิธีสร้างสานความรักความผูกพันระหว่างกัน
แต่เขากลับเอาไปเติมเต็มให้อีกคน..
จนกระทั่งนานวัน
รุ่งโรจน์แทบจะไม่ไปไหนไกลตา
.. เกือบทั้งวันที่เขาขลุกอยู่ในออฟฟิศกับเครื่องคอมพิวเตอร์
และคืนทั้งคืน เขาจะรีบกลับคอนโด อาบน้ำแต่งตัว นั่งดูรายการโทรทัศน์หรือไม่ก็อ่านหนังสือหาความรู้เชิงพุทธศาสตร์ ประวัติศาสตร์กับสุริยา...
..เมื่อรุ่งโรจน์ตั้งใจ พอใจจะเป็นอย่างนี้..มีหรือที่คนทางบ้านจะไม่เดือดร้อน..หลายครั้งหลายหนที่สุริยาได้ยินรุ่งโรจน์โต้เถียงกับคนเป็นแม่ทางโทรศัพท์..จะเป็นเรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่ เรื่องงาน กับเรื่องเกย์..
ลูกชายยืนกระต่ายขาเดียวว่า
“เขาไม่ใช่เกย์ครับคุณแม่ เขาเป็นหุ้นส่วนผม ไม่ใช่ผมกับเขาสองคน มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย..คุณแม่จะเอาอย่างไรครับ น้องเขาไม่ใช่เศรษฐีรวยทรัพย์เหมือนเพื่อน ๆ ผมคนอื่น ๆ แต่เรารักและพอใจที่จะทำตรงนี้ด้วยกัน คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับ ที่ผมตั้งอกตั้งใจทำงาน ไม่ดีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ อย่างเมื่อก่อน คุณแม่อยากให้ผมเป็นอย่างเก่า..เพราะผมจะได้มีเรื่องเข้าหาคุณแม่บ่อย ๆ ..นี่เราก็เจอะกันทุกสัปดาห์อย่างที่คุณแม่ขอแล้วนี่ครับ..ออกงาน ..ผมยังไม่พร้อมครับคุณแม่ ..เปิดตัวบริษัททัวร์ให้เป็นข่าว..อย่าเพิ่งเลยครับคุณแม่ รอให้มันทำกำไร รอให้คนรู้จักพวกเราอีกสักนิดนะครับ..ผมไม่ได้อยากดังกันนะครับ อยากแค่ทำอะไรที่มันหยิบยื่นความสุขให้คนอื่น ๆ ได้บ้าง เราได้เขาได้ ประโยชน์เกื้อกูล..ให้ผมจัดทัวร์ไปต่างประเทศ หรู ๆ แพง ๆ ..ไม่ใช่นโยบายบริษัทเรานะครับคุณแม่..แต่ถ้าให้นำฝรั่งมาเที่ยววัดในเมืองไทยนี่กำลังคิดกันอยู่ครับ แต่คงต้องใช้เวลาสักพักกำลังทำข้อมูลภาษาอังกฤษ ทำเว็บอยู่ครับ จริง ๆ งานนี้มีน้องเขาคนเดียวที่มีความรู้เรื่องวัดวาอาราม ส่วนผมกับน้องอีกคนกำลังศึกษาหาความรู้กัน..คุณแม่ไม่ดีใจหรือครับที่ผมดูมีสติขึ้น..นี่คือสิ่งที่คุณแม่ต้องการมาตลอดไม่ใช่หรือครับ ...แต่คุณแม่ก็ยังต้องการให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝากับใครสักคนในบรรดาลูกสาวเพื่อน ๆ คุณแม่..แม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าครับ”..
สุริยาฟังสองแม่ลูกคุยกันก็พอรู้ว่า แม่เขาเลี้ยงลูกมาอย่างไร ผิดกับที่เวลาแสงทองคุยกับ
คนเป็นป้า..ขานั้นดูแต่จะถูกบังคับ..
“แม่เชื่อเรื่องแม่ลิขิตใช่ไหม ผมก็เชื่อเรื่อง ผมลิขิตเองเหมือนกัน”
ฟังต่อไปแล้ว สองแม่ลูกเริ่มจะรวน ด้วยลูกชายคงจะหมดความอดทน เพื่อประโยชน์ตนกระมัง..
“แม่ครับ ผมขอเวลาพิสูจน์ตนเองสักปีแล้วกันนะ ถ้าผมจัดทัวร์แล้วไม่รุ่ง ไม่ทำมาซึ่งชื่อเสียงอย่างที่คุณแม่ต้องการ ผมจะยอมทำตามใจคุณแม่ โอเคไหม..แค่นี้นะครับคุณแม่...อ้อ..นิดนึงครับ คุณแม่ลูกทัวร์ผมเขาถามผมว่า ทำไมคุณแม่สวยจัง ถ้ามีโอกาส ผมอยากชวนคุณแม่มาเที่ยวกับผมด้วย..เพราะว่าทัวร์ผมจะได้เจริญ ๆ ยิ่งขึ้นเพราะมีดาราไฮโซ แก่แล้วแต่ยังสาวสวยมาออกทริปด้วย..คุณแม่ฝันดีนะครับ คุณแม่อย่าเกาะอกออกงานราตรีบ่อย ๆ ซิครับ เดี๋ยวปอดบวม ผมรักคุณแม่นะครับ..จุ๊บ ๆ ๆ ครับ”
พอรุ่งโรจน์วางโทรศัพท์ ...สักพัก แสงทองก็มีตาแดง ๆ ออกมาจากห้องน้ำ..พอถามไถ่ สาวเจ้าจึงว่า
“คิดถึงแม่..ทำไมพี่รุ่งโชคดีอย่างนี้ก็ไม่รู้ สมบูรณ์เสียทุกอย่าง ...”
“เธอมันก็เหมือนคนใจดำ เข้มแข็ง แต่ไหง ถึงขี้แงจังแสงทอง” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เอามือลูบศีรษะของแสงทองที่เช็ดน้ำตาปรอย ๆ ..ซึ่งภาพนั้น สุริยารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก หญิงต้องคู่กับชาย..โลกจึงสมดุล..
พอเสร็จกิจเรื่องการก่อรูปสำนักงานขึ้นมาให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา..ทีนี้ ก็ถึงเวลาที่ผู้บริหารใหญ่..ต้องลงบริหาร วางแผน เพื่อผลกำไรทางธุรกิจ..
“ทบทวนอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์..ก่อนนะครับ” จริง ๆ ตั้งใจจะไปจดทะเบียนเป็นรุ่งสุริยาทัวร์ แต่มีคนอื่นจดตัดหน้าไปแล้ว จึงต้องเพิ่มแสงเข้าไปอีกคำเพื่อจะได้มีกำลังใจของคนถึงสามคน..
“กำไรของเรา ก็คือ รอยยิ้มและความสุขของลูกทัวร์..ท่องพร้อมกันสามรอบเดี๋ยวนี้” ..สุริยาออกคำสั่ง รุ่งโรจน์กับแสงทองหัวเราะกิ๊ก ๆ ..
“สมัยที่ผมเป็นเณรนะ ท่องพร้อมกันตะพึดตะพือ พระอาจารย์ท่านว่าเป็นการสร้างความสามัคคี แค่ท่องพร้อมกันไม่ได้ แล้วเรื่องอื่นมันจะทำด้วยกันได้อย่างไร.. ..อันลิงค่างกลางป่าจับมาหัดสารพัด หัดได้ดังใจหมาย เป็นสามเณรอาจารย์เพียรสอนแทบตาย ถ้าเอาดีไม่ได้ ก็อายลิง...สามเณรดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้..” พอบอกเล่าความหลังครั้งอยู่วัด ดวงตาสุริยาเป็นประกายสุขใส..
วันคืนไม่อาจหวนกลับ แต่วันคืนที่ล่วงผ่านไป เป็นบทเรียนที่ทำให้ชีวิตในวันนี้ เป็นอย่างนี้ได้..
แล้วหุ้นส่วน เจ้าของ..และเพื่อนสนิท ก็พากันท่องอุดมการณ์ของรุ่งแสงสุริยาทัวร์ พร้อมกันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“เราคือหุ้นส่วน เราคือเพื่อนกัน เรามีหน้าที่ทำให้คนมีความสุข เราจะเปิดอกคุยกันเรื่องงาน เราจะไม่โกรธกัน ทะเลาะกัน เราก็จะรีบคืนดีกันโดยเร็ว รุ่งแสงสุริยาทัวร์จงเจริญ”
เป็นอุดมการณ์อีกข้อที่ทั้งสามคนร่วมร่างขึ้นมาและท่องพร้อม ๆ กัน..
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะเมื่อเกิดขึ้นที่ใด แสดงว่าตรงนั้นมีคนมีความสุข และความสุขนั้น ทั้งสามคนปรารถนาที่จะแผ่ขยายออกไป หาเงินอย่างมีความสุข และใช้เงินให้ได้ความสุข...
เมื่อมีสำนักงานเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา..ทุกคนจึงต้องมีหน้าที่..
แสงทองเรียนจบปริญญาตรีสาขาสื่อสารมวลชนแล้ว เพียงรออบรมมัคคุเทศก์ให้ได้ใบอนุญาตจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในบริษัท.. หญิงสาวมีหน้าที่รับโทรศัพท์..รับจอง โทรตามขายลูกทัวร์เก่า จัดที่นั่ง ทำบัญชีรับ-จ่าย วางแผนค่าใช้จ่ายรวมถึงติดต่อร้านอาหาร ศึกษาในเรื่องที่สุริยาทำด้วยตัวเองมาตลอด..โดยสุริยาให้เหตุผลว่า
“วันหนึ่งข้างหน้าอะไรจะเกิดก็ไม่รู้ ถ้าพี่ไม่อยู่ ทัวร์นี้ต้องอยู่ต่อให้ได้”
หญิงสาวไม่ถามว่าสุริยาจะไปไหน..เพราะสุริยาเคยพูดไว้ ว่าทุกคนต้องมีมรณานุสติ ระลึกถึงความตายทุกวันเพื่อความไม่ประมาท..
ทุก ๆ วันเจ้าหล่อนก็จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย และงานที่ตนรัก อ่านหนังสือหาความรู้ใส่ตัว พร้อมกับจัดหมวดหมู่สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละเส้นทาง..เพื่อที่จะรวบรวมเป็นหนังสือเที่ยวรอบกรุงพรุ่งนี้กลับ..ไปค้างสักคืน หรือไม่ค้างจะกลับในคืนนั้นก็ยังทัน..
สำหรับสุริยา เป็นคนวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวในแต่ละเดือน..เริ่มจากสามเดือนแรก ใกล้ไปหาไกล คิดเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์..คิดและทำให้ใบปลิวโฆษณาไปสู่มือกลุ่มเป้าหมายให้ได้..
วันปกติ ในเวลาเช้าขณะที่คนในย่านนั้นเร่งรีบขึ้นรถเพื่อไปทำงาน สุริยากับแสงทองซึ่งย้ายมาพักชั้นบนของสำนักงาน ก็มีหน้าที่มายืนแจกใบปลิว หรือไม่ก็ไปติดต่อกับเจ้าของรถที่ได้สัมปทานรับส่งพนักงานแต่ละบริษัท ฝากหรือจ้างให้ช่วยแจกเอกสารแนะนำทริปเที่ยว..หรือไม่ก็ฝากลูกทัวร์เก่าไปแปะตามบอร์ดในโรงงาน แฟกซ์ไปตามสำนักงานใกล้ ๆ แล้วก็มีบ้างที่เย็นค่ำ เดินแจกตามบ้าน ห้องพักในคอนโด อพาร์ทเมนต์ รวมถึงสถานที่รวมคนรักสุขภาพรักการออก
กำลังกายในสวนสาธารณะ..และคนรักบุญคือศาลาวัด
และรุ่งโรจน์ก็คือเจ้าของทุน ที่เพียงวันนี้ ขอมามีส่วนร่วมเป็นบางครั้ง..สุริยาจึงลองมอบหน้าที่เคยบอกไว้ คือ มัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ และอนาคตคือฝ่ายต่างประเทศ
รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติที่รุ่งโรจน์พึงมีในปัจจุบันชาติ เขาไม่ปรารถนาครอบครอง ยึดมาเป็นของตนเพียงลำพัง..เพราะรู้ว่าถ้าได้กาย ใจหรือจะหาสุขได้..สู้เมตตาต่อกัน ..ปรารถนาเพียงเห็นเขานำมาใช้ทำประโยชน์กับพระพุทธศาสนา น่าจะดีกว่า
จิตที่ตั้งไว้เป็นอย่างนี้ แต่จะทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง
และสุริยาพยายามดึงเอาเหตุผลอย่างนี้มาใช้รักษาใจให้เป็นปกติยามอยู่เคียงกัน..
สองเดือนผ่านไป..อุปสรรคและปัญหาที่ขวางหน้าก็ถูกฟันฝ่าไปด้วยใจที่มุ่งมั่น.
“ลูกทัวร์บางคนนะ น่าตบม๊าก” เมื่อลงจากทัวร์ครั้งใด แสงทองเป็นต้องมาเม้าท์ ระบายความในใจ อีกความรู้สึกของงานขายบริการ..อดทน
“เรื่องนั่งหน้ากับนั่งหลัง เรื่องการตรงต่อเวลา ทีตัวเองขึ้นรถช้าแล้วเงียบ ทีคนอื่นช้าหน่อย ..รีบให้เราไปเร่ง..กับเรื่องรถ แหม ..ราคาตั๋วเท่านี้ จะนั่งรถโค้ช ทีบริษัทอื่นทำรถโค้ช ราคาแพง ๆ ก็ไม่ไปกับเขาอีก พอเราผิดพลาดนิดหน่อยก็เอาไปเมาท์ซะ แต่พอเราดีมีคนชมครึ่งค่อนคัน แม่เจ้าก็เงียบเสียนี่..คราวหลังนะถ้าโทรมาจองตั๋วอีกจะบอกว่าเต็มแล้ว..หรือจะบอกไปตามตรงดีไหมพี่รุ่งพี่ยา ว่าทัวร์เราไม่ต้องการคุณ..เบื่อ”
“บอกได้แต่เธอก็ต้องเตรียมตัวฟังเพลง จากพี่ยาของเธอว่า คุณจะรู้บ้างไหม คืนนี้ผมนอนไม่หลับ..คุณจะรู้ไหมครับหน้าคุณลอยอยู่เต็มฟ้า..เดี๋ยวก็ได้ตามไปขอโทษเขาอีกหรอก ขานี้เธอก็เห็นนี่ ให้อภัยกับแผ่เมตตา เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นเอง..จริง ๆ ดีขึ้นจริง ๆ นะ..พอเขาบ่นเราเงียบ..เขาก็มากับเราเรื่อย ๆ หลายทริปแล้วมั้ง.”
แววตาของรุ่งโรจน์มีประกายของความสุข
สุริยานึกถึงวันแรกที่รุ่งโรจน์ต้องขึ้นจับไมค์เป็นมัคคุเทศก์ฝ่ายกิจกรรมนันทนาการ..วันนั้น เขากับแสงทอง ต้องให้กำลังใจยกใหญ่..
“มันตื่นเต้น..”
“เร็ว ๆ นะ จะได้เวลารถออกแล้ว ..เดี๋ยวผมพูดเสร็จแล้วผมจะโยนไมค์ให้คุณ..”
“ผมเสิร์ฟน้ำก็ได้นะ”
“เสิร์ฟน้ำจ้างเด็กที่ไหนมารับจ๊อบก็ได้ แต่คนมีความสามารถนี่หาได้ไม่ง่าย ต้องฝึก แล้วฝึกแล้วเขาจะอยู่กับเรานาน ๆ ไม่ไปไหนเห็นจะยาก เพราะที่นี่สวัสดิการยังไม่ดี..ตกลง พร้อมนะ.”
ครั้งแรกรุ่งโรจน์ตะกุกตะกัก..ผ่านไปสักห้านาที เขาก็ทำได้ดีไม่แตกต่างจากแสงทองในครั้งแรก..
หลังจากนั้น ลูกทัวร์ก็เรียกร้องให้เขาขึ้นทำหน้าที่อยู่บ่อย ๆ เพราะช่วงของเขา มีของรางวัล มีคำถามชวนให้ตื่นเต้น..มีท่าสำหรับผ่อนคลายกล้ามเนื้อ..สำหรับแสงทอง นอกจากประวัติศาสตร์ที่เจ้าตัวถนัด หญิงสาวก็มีมุกตลกหน้าตายขึ้นมาใช้อยู่เรื่อย ๆ ..ส่วนสุริยาบางคนยกให้เป็นอาจารย์ เพราะดูเคร่งครัดในหลักธรรมคำสั่งสอนเสียเหลือเกิน
“ผมรู้สึกว่าคุณมีความสุขกว่าวันโน้น เดือนกุมภาพันธ์ที่ผมพบคุณ” รุ่งโรจน์เอ่ยขึ้นขณะเลี้ยงฉลองผลการสอบเป็นมัคคุเทศก์ของแสงทองบนตึกสูงระฟ้า ใบหยก 2
“ผมเห็นคุณสองคนมีความสุขมั้ง..ผมจึงมีความสุขไปด้วย”
“ใครว่าหนูมีความสุข หนูกำลังมีความทุกข์ต่างหาก ทุกข์ว่า หนังสือที่หนูอุตส่าห์รวบรวมเรียบเรียงสำนักพิมพ์จะเยสหรือเปล่า..”
“อธิษฐานซิ” สุริยาว่า
“อธิษฐานกับอะไรพี่ยา..”
“กับพี่รุ่งของหนูนี่ไง ..เธอเข้าผิดช่องเอง..ไม่รู้หรือจ๊ะ ว่าเขาคนนี้มีญาติโกโหติกาเยอะ สมบัติแค่สำนักพิมพ์สำนักเดียว คงไม่ยากสำหรับเขา..”
รุ่งโรจน์ไม่ตอบ..เมื่อไม่ตอบอีกแสงทองจึงพูดว่า
“อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ..ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ บุคคลเมื่อมีตนฝึกฝนได้ดีแล้วย่อมได้ที่พึ่ง ที่บุคคลอื่นได้โดยยาก..ไม่เข้าไม่ใจหรอก มั่วไป..แต่ถ้าเรื่องหนูมันดีจริงเขาคงมีอารมณ์เสี่ยงพิมพ์ขาย...จริง ๆ หนูชักมันส์กับไมค์แล้วซิ ถึงว่าไอ้พวกพี่ที่ราม ทำไม๊ทำไม มันถึงได้บ้าไมค์กันขนาด..ที่แท้ก็ดีอย่างนี้นี่เอง ..พี่รุ่ง เรื่องรายการโทรทัศน์ว่าไง หนูชักอยากเป็นพิธีกรแล้วซิ หนูมีใบผู้ประกาศนะ เคยอยากเป็นดีเจค่ะ เลยไปสอบไว้ แต่ตอนนี้ต้องมาเป็นคนพาคนไปไหว้เจดีย์แทน..”
“พูดถึงเรื่องเจดีย์..อีกสองเดือนก็ใกล้หนาวแล้วนะคุณยะ เราขึ้นเหนือกันไหม..เริ่มออกสำรวจเสียตั้งแต่เดือนสิงหา พอช่วงหนาวเราก็จัดไป หรือหน้าหนาวเราสำรวจใต้ หน้าร้อนเราก็จัดไป..”
“จริง ๆ คุณบ่นอยากไปมานานแล้ว ผมเองก็อยากไปในทุกที่ที่ในหนังสือแนะนำ แต่จริง ๆ แล้วนอกหนังสือสำรวจยังมีนะ วันนั้นผมเจอพระบาทห้วยต้ม ที่ทางไป อ.ลี้ ทางไปเชียงใหม่เส้นเดิม เส้นที่เรากลับมาจากจอมทอง สวยมาก ..หรือพระธาตุดอยน้อย เลยจอมทองไปขวามืออยู่บนยอดเขา มองเห็นแม่น้ำปิง ไกล ๆ สร้างโดยพระนางจามเทวี..นี่ผมก็เคยไปตอนเป็นพระ..ถ้าเราลงละเอียดจริง ๆ ดีไม่ดีได้จัดเจดีย์ร้อยแปดองค์เชียงใหม่....”
“เย้” แสงทองแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า..
“ใครจะดูเรื่องตั๋ว ไปหลายวันนะ” รุ่งโรจน์ปราม
“เสียใจที่หนูคิดได้ตั้งนานแล้วว่า สักวันมันต้องมีทริปสำรวจ หนูก็เลย..ตีซี้กับไอ้อ้อย ..ยกโทรศัพท์ไปให้มันที่ร้าน..อย่างอื่นมันก็รู้หมดแล้ว..ที่นี้หนูไปได้หรือยังคะ..
สุริยากับรุ่งโรจน์มองหน้ากันเป็นเชิงให้รู้ว่า..ยอมมัน
“อืมลืมไป..เย็นนี้เลี้ยงฉลองมงคลสมรสลูกทัวร์เรา พี่อิฐ กับ พี่เอ๋ เขาโทรมาย้ำนะคะว่า ถ้าไม่ไป โกรธ...เลิกเที่ยวกับเรา.. เพราะที่เขาเจอะกันรักกัน ก็เพราะพี่ยาเป็นพ่อสื่อให้..”
รุ่งโรจน์ซึ่งไม่ค่อยรู้รายละเอียดเหล่านี้จึงมองหน้าคนที่ว่าไม่เดียงสากับเรื่องความรัก..
“ผมคนจัดทัวร์ เขามาเจอะกัน ก็คงเหมาว่าผมมีส่วนทำให้เขาเจอะกัน ก็เท่านั้น ไม่มีอะไร ไม่ได้ชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกันสักหน่อย..”
“ตกลงจะไปหรือไม่ไป..”
“ไปเถอะ ไปดูงานเขาไว้ เอาไว้มาทำงานตัวเอง..” รุ่งโรจน์ต่อความ..แสงทองหน้าแดงเล็กน้อย..ส่วนสุริยาทำหน้าไร้ความรู้สึกใด ๆ ..แต่ใจจริงนั้นนึกตำหนิคนที่รู้อยู่แก่ใจแล้วยังแกล้งทำเป็นพูดดี..โยนไปให้คนนั้นคนนี้..
“จริง ๆ ผมชอบบรรยากาศแบบทัวร์เรานะ กันเองดี เที่ยวจนกลายเป็นพี่เป็นน้องกันไป เมื่ออาทิตย์ก่อนเห็นแสงทองหอบดอกไม้ไปให้ใครรึ”
“วันเกิดป้าโสภิตเค้า ลูกทัวร์สามสิบแปดรอบของพี่เค้า ...เรามาทำข้อมูลลูกค้าก็พลอยรู้ไปด้วย..ว่ารักกันเหนียวแน่น..”
“แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มมีแฟนคลับแล้วนี่”
“พี่ก็ใช่ย่อย”
“ต่อไปถ้าผมไม่อยู่คุณสองคนก็ทำกันได้สบายบรื๋อ..ง่ายนิดเดียว”
พอสุริยาพูดจบ ทั้งแสงทองและรุ่งโรจน์จ้องหน้าสุริยา
“เผื่อไว้เฉย ๆ ...”
“ไม่เอา พี่ยาไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกเลยนะ ..คนอะไรชอบพูดเรื่องตายอยู่เรื่อย วันนี้วันดีหนูนะคะ..อุตส่าห์บากบั่นพากเพียรเรียนจนได้บัตรไกด์เพื่อทัวร์ของเรา..ดื่มและกินบุฟเฟ่ต์ให้หมดโต๊ะให้ได้นะเสียดายของ..”
“ตายแล้วอย่างนั้น..อายเขาตาย” รุ่งโรจน์ส่ายหัวกับความขี้เล่น ของแสงทอง
“พี่รุ่งช่วงนี้ แม่พี่เงียบ ๆ ไปนะ..ไม่เห็นค่อยโทรมากวนใจเหมือนเมื่อก่อน”
“ใครว่า ทุกเที่ยว แม่ส่งสปายขึ้นรถไปด้วยทุกครั้ง ผมไม่บอกพวกคุณเองแหละ..”
“ขนาดนั้น”
“แม่ผมเชียวนะ..ท่านไม่ยอมให้ผมคลาดสายตาไปนานนักหรอก..คงไปดูว่าผมกับคุณสุริยากุ๊กกิ๊กอะไรกันออกนอกหน้าหรือเปล่า หรือไม่ก็ไปดูว่าผม มีตาไปมองสาวคนไหนอีก หรือถ้าผมมองอยู่ก็อยากจะรู้ว่า เธอคนนั้นเป็นอย่างไร”
“และอย่างหนูนี่เข้าสเป็คคุณแม่พี่ไหม”
“เธอต้องเจอแม่ผมเอง..จริง ๆ แม่ใจดี มีเหตุผลแต่เป็นเหตุผลแบบเลิศ ๆ นะ ..และตั้งแต่คบกับพวกคุณมา ยอดค่าใช้จ่ายผมก็ลดลง คุณแม่ท่านก็แปลกใจ..ผมเองก็เบื่อที่ต้องไปใช้ชีวิตให้เปลืองไปกับเหล้าบุหรี่หรือสถานที่แบบนั้นไปเสียดื้อ ๆ ด้วย”
“จะยอมรับสักหน่อยก็ไม่ได้ว่ามีเพื่อนดีอย่างหนูกับพี่ยา ..รึจริง ๆ ก็แก่แล้วมั้ง หรือไม่ก็คงจะใกล้บวชได้อีกคน”
“จริง ๆ ผมคิดอยากบวชเหมือนกันนะ อยากรู้เหมือนกันว่า ท่องบาลีทีละหลาย ๆ หน้าโดยไม่ดูหนังสือทำอย่างไร”
สุริยายิ้มด้วยเขายัดเยียดเรื่องราวเหล่านี้เข้าหัวรุ่งโรจน์อยู่เนือง ๆ ไม่มีเสียล่ะที่จะไม่ไปอยู่ในหัวบ้าง
“โอ๊ย..ไม่นะ อีกคนก็พูดเรื่องตาย อีกคนก็พูดเรื่องบวช..นี่จะหนีหนูไปหมดใช่ไหม..เผากิจการทิ้งจริง ๆ ด้วย”
“ไม่ดีรึแสงทอง เธอฮุบไปคนเดียว..สาวสวยเนื้อหอมมีหนุ่ม ๆ มาตอมเพียบแน่ ๆ ..”
แสงทองเบะปาก
“ลืมบอกพี่ ๆ ไป คือว่า คุณป้าหนูบอกว่า..จะบังคับหนูให้แต่งงานกับนายตำรวจคนหนึ่ง..แต่หนูไม่โอเค..”
“ทำไม อนาคตคุณนายนะนั่น”
“หนูอยากเป็นเถ้าแก่มากกว่าเจ้าค่ะ..ไม่หรอก เราไม่ได้รักเขานี่ ถ้ารักก็อีกเรื่อง..”
“แล้วเธอรักใครบ้างหรือยัง..” พอถามดังนี้ สุริยาจึงเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นขาคนพูดเสียทีหนึ่ง..
“อย่าพูดถึงมันเลย ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก” น้ำเสียงของแสงทองเศร้าลงในทันที ก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักอาหารเข้าปาก..รุ่งโรจน์ส่ายหัว ส่วนสุริยาถอนหายใจออกมา..
สุริยาเชื่อว่าปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง เขาจึงต้องถอยออกมาจากแสงทองหนึ่งก้าว เป็นได้แค่พี่ชาย ก็ทำตัวให้เป็นพี่ชาย
สำหรับคนที่นั่งติดกันนี่ แม้ใจจะเทให้ไป แต่มันก็เป็นได้แค่เพื่อน..จึงต้องวางตัวแค่เพื่อน ..แค่คนรู้ใจกัน ซึ่งอีกคนก็รู้นัยยะที่เขาหยิบยื่นให้นั้น..
โลกหนอโลก..เดินไปยากเหลือเกิน..ที่สุดของคนคืออะไร..ในเส้นทางทำมาหากินความปรารถนาคือร่ำรวย หมดหนี้หมดสิน..สืบทอดถึงลูกหลาน..เมื่อมิได้ปรารถนาจะมีลูกเต้า อารมณ์ที่จะสร้างฐานะให้มั่งมีจึงหายไปนิดนึง
ลำพังตัวเอง รู้ตัวว่าแค่ไหนจึงจะอยู่ได้จนตาย...อย่างสบาย ๆ .. ภาระที่ยิ่งใหญ่คือพ่อแม่ ก็เหลือเพียงแม่คนเดียว..ซึ่งพี่ ๆ ก็รับไปเลี้ยงดูให้อยู่ในสายตา ให้อยู่แต่บ้าน ให้ไปวัดทำบุญ..นาน ๆ ทีเขาก็ไปรับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านป้า แล้วก็พาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา อยู่ได้ไม่นาน แม่ก็ร้องขอกลับไปอยู่บ้านนอกด้วยรำคาญเสียงรถ กับความคับแคบของที่อยู่อาศัย..
..สุริยามองคนสองคนที่นั่งตรงข้ามกัน..หากทั้งคู่รักกัน..เขาคงมีความสุข
ความสุขจริง ๆ ไม่ได้หลอก หรือปลอบขวัญตัวเองเลยสักนิด..
ในค่ำคืนนั้นหลังจากกลับมาจากงานแต่ง.. สุริยาก็พบรุ่งโรจน์นั่งอ่านหนังสือรออยู่โซฟา เมื่อเขามาถึงรุ่งโรจน์ก็ยิ้มให้..พร้อมกับตบเบาะให้มานั่งเคียงกันเหมือนทุกครั้ง..
“เป็นไงเจ้าสาวสวยไหม”
สุริยายิ้มเนือย ๆ ด้วยช่วงหลัง ๆ ที่อยู่ด้วยกัน จากความตื่นเต้นกลายเป็นความอัดอึด แสร้งที่จะทำทั้งที่คิดไปอีกอย่าง..
“สวย สมกันจริงล่ะ..เห็นเจ้าบ่าวแล้วนึกถึงงานของคุณนะคุณรุ่ง ถ้าคุณยอมแต่งงานกับเจ้าสาวสักคนที่คุณแม่คุณหาให้...วันนั้นผมคงมีความสุขนะ”
รุ่งโรจน์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ระเบียง สุริยาเห็นดังนั้นจึงเดินตามไปยืนเคียงกันมองออกไปข้างนอกคอนโด ด้วยเป็นย่านชานเมืองพื้นที่ด้านนอกนั้น จึงไม่มีตึกสูงระฟ้าขัดลูกหูลูกตา ที่ไกลยังมีทุ่งนาเขียวขจีให้เห็นในเวลากลางวัน
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก”
“แต่คุณต้องยอมรับความจริงนะคุณรุ่ง ว่าสิ่งที่คุณคิดมันเป็นไปไม่ได้..”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะคุณยะ ทั้งที่มันก็เป็นอยู่นี่ไง”
“คุณมั่นใจนะว่าคุณมีความสุข..” สุริยาย้อนถาม..แล้วก็พูดความจริงว่า
“แต่ผมไม่มีความสุข”
“คุณกำลังโกหกนะคุณยะ ผมรู้ว่าคุณก็มีความสุข..”
“มันเป็นความสุขที่เจือด้วยความทุกข์นะ แล้วคุณจะว่าสุขหรือ..”
“ถ้าคุณเหม็นหน้าผม คืนนี้ผมกลับไปนอนที่บ้านก็ได้..” ว่าแล้วรุ่งโรจน์ก็เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็หยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถเปิดประตูห้องออกไป
เมื่อเห็นอาการของรุ่งโรจน์เป็นดังนั้น สุริยาได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ตรมลงในหัวอก..นี่แหละความรัก มันพาให้ทุกข์..แล้วเราจะรักเขาต่อไปได้อย่างไร ...อีกใจมันก็สอนตัวเองได้ แต่อีกใจมันก็เฝ้าชะแง้เงี่ยหูฟังที่ประตูหวังว่าเขาจะเคาะประตูง้อขอคืนดีดั่งเดิม

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 พ.ค. 2554, 10:41:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 พ.ค. 2554, 10:41:55 น.
จำนวนการเข้าชม : 1858
<< 14 | 16 >> |

Auuuu 6 พ.ค. 2554, 13:55:49 น.
เริ่มเครียดแล้วสิ :(
เริ่มเครียดแล้วสิ :(


จุฬามณีเฟื่องนคร 6 พ.ค. 2554, 14:29:52 น.
ดีที่ให้มีแก้ไขได้ครับ..เคยวางผิดเรื่องเหมือนกันครับ..
ดีที่ให้มีแก้ไขได้ครับ..เคยวางผิดเรื่องเหมือนกันครับ..

วรรณ 6 พ.ค. 2554, 18:36:19 น.
คุณเฟื่องคะ เห็นเข้าไปรายงานตัวกับคุณยักษ์ใจดี ไม่เห็นเข้าไปจองไอค่อนที่คุณยักษ์จัดเตรียมไว้ให้ หรือ รอดีไซน์ไอค่อนเองอยู่เอ่ย
คุณเฟื่องคะ เห็นเข้าไปรายงานตัวกับคุณยักษ์ใจดี ไม่เห็นเข้าไปจองไอค่อนที่คุณยักษ์จัดเตรียมไว้ให้ หรือ รอดีไซน์ไอค่อนเองอยู่เอ่ย

หมูบิน 6 พ.ค. 2554, 19:57:55 น.
ตามมาอ่านรวดเดียวเลยค่ะ บอกตามตรงเลยนะค่ะ ชอบพล๊อตเรื่องมากๆ ตอนนี้กำลังนั่งนึกภาพ ช+ช แล้วแบบบบ หยึ๋ยยยย อายอ่ะ
ตามมาอ่านรวดเดียวเลยค่ะ บอกตามตรงเลยนะค่ะ ชอบพล๊อตเรื่องมากๆ ตอนนี้กำลังนั่งนึกภาพ ช+ช แล้วแบบบบ หยึ๋ยยยย อายอ่ะ

จุฬามณีเฟื่องนคร 6 พ.ค. 2554, 23:09:18 น.
คุณวรรณ ผมส่งรูปไปแล้วครับ..ขอบคุณครับ.. /// ดีใจที่คุณหมูบินชอบพล้อต..อ่านจนจบเผื่อเปลี่ยนใจครับ..อิอิ
คุณวรรณ ผมส่งรูปไปแล้วครับ..ขอบคุณครับ.. /// ดีใจที่คุณหมูบินชอบพล้อต..อ่านจนจบเผื่อเปลี่ยนใจครับ..อิอิ

Auuuu 10 พ.ค. 2554, 00:48:11 น.
เอ.. พูดอย่างนี้ ตอนจบจะผิดคาดแบบว่า แสงทองกับใครคนใดคนหนึ่งป่าวเอ่ย???
เอ.. พูดอย่างนี้ ตอนจบจะผิดคาดแบบว่า แสงทองกับใครคนใดคนหนึ่งป่าวเอ่ย???

อมลลดาOWOอมรรัตน์ 30 พ.ค. 2554, 14:35:30 น.
ลุ้น ๆ อยู่ค่ะ
ลุ้น ๆ อยู่ค่ะ