มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา

Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี

ตอน: ตอนที่ 5 (ครบ 100% แล้วค่ะ)

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เป็นแรงใจอย่างดีสำหรับนัก (อยาก) เขียนเลยค่ะ เม้นต์เยอะ ๆ นะคะ ขอบคุณค่ะ...อาทิตา

ตอนที่ 5



สิ้นเสียงประกาศของพิธีกร พริมาก็รีบลุกและจ้ำอ้าวลงจากเวทีไปทันที หญิงสาวรีบเดินตรงไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า พลางคิดหาทางหนีทีไล่จากพี่ชายเพื่อนสนิทไปในเวลาเดียวกัน

‘ปริม รอด้วยสิ’ เสียงใสจากภัทราไล่หลังมา พร้อมทั้งเจ้าตัวที่พยายามสาวเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อตามเพื่อนให้ทัน

‘จะรีบไปไหนแก พี่โป๊ปเขารอแกอยู่แล้ว ไม่ต้องรีบขนาดหรอก หรือแกอยากจะไปลอยกระทงกับพี่เขามากฮะ’ ภัทราแซวเพื่อนสนิทพลางพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นพริมาหันหน้ามาถลึงตาใส่

‘บ้าสิ! พี่ชายแกอะเล่นบ้า ๆ ฉันอายคนอื่นเขาจะแย่แล้วนี่’ พริมาตอบ พร้อมชะลอความเร็วลง

‘นั่นดิ ฉันก็ไม่คิดว่าพี่โป๊ปมันจะบ้าขนาดนี้ ตอนแรกที่ได้ยินเขาเม้าท์กันว่าแกโดนเหมารอบ ฉันยังคิดว่าเป็นเรื่องตลก ที่ไหนได้ ไม่คิดว่าพี่โป๊ปมันจะเอาจริง แถมยืนรอไม่ยอมไปไหนอีกต่างหาก สงสัยหลงเสน่ห์หางเครื่องอย่างแกเข้าอย่างจังแล้วล่ะทีนี้ ฮ่า ๆๆๆ’

‘ไม่ตลกเลยนะปั๊ป นี่ แกมาช่วยฉันคิดหน่อยว่าจะทำยังไงดี’

‘ทำอะไรฮะปริม ไม่เห็นต้องทำอะไรเลยนี่ ก็แค่ไปลอยกระทงเองนะ นี่! พี่ชายฉันไม่ได้ชวนแกไปทำมิดีมิร้ายอะไรสักหน่อยนะยะ’ ภัทราพูดอย่างมีเหตุผล

‘เออ จริงด้วยสิ แกพูดถูกเผงเลยปั๊ป ฉันก็โง่อยู่ตั้งนานสองนาน ขอบใจแกมากนะ’ พริมาที่หายตกอกตกใจและเพิ่งคิดได้บอกเพื่อนสนิทพร้อมทั้งยิ้มให้

‘โอเค งั้นเราไปเปลี่ยนเสื้อกัน จะได้ไปลอยกระทงด้วยกันเลยนะ’ พริมาบอกกับเพื่อนสนิท

‘นึกว่าจะไม่ชวนกันเสียแล้ว ไปสิ เดี๋ยวไปเรียกอัณณ์กะนังปรัชญ์ด้วย ไปกันเยอะ ๆ สนุกดี’ ภัทราหันมาบอกพริมาพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนสนิทต้องการจะสื่ออะไร



************************



ถึงแม้จะยังเศร้าและเครียดจากปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ภัทร์ก็ยังยิ้มออกมาได้ เมื่อนึกถึงเรื่องในวันวาน สรุปว่าปีแรกของการลอยกระทงของเขากับพริมา ก็จบลงด้วยการมีผู้ติดตามเป็นเรือพ่วงขบวนใหญ่ ประกอบด้วยเพื่อนสนิททั้ง 2 คนของเขาเอง และเพื่อนสนิทของพริมาอีก 3 คน ซึ่งก็คือ ภัทรา พิชญธิดา และวรปรัชญ์ ถึงแม้จะคืนนั้นเขาจะไม่ได้สวีทหวานแหววแต่ก็ไม่ได้จืดสนิท เพราะมีเสียงแซวเสียงล้อเรื่องการเหมารอบหางเครื่องให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา เรียกทั้งเสียงหัวเราะจากทุกคน และยังทำให้ใบหน้างามของคนถูกล้อมีสีแดงระเรื่ออยู่บนแก้มแทบตลอดเวลาที่เดินเที่ยวงานลอยกระทงด้วยกัน และนั่นก็เป็นอีกคืนที่เขาได้ไปส่งพริมาถึงคอนโด เพียงแต่ต้องมี ‘กอ ขอ คอ’ อย่างยายน้องสาวตัวแสบพ่วงมาเป็นมารผจญด้วยจนวินาทีสุดท้าย

หลังจากวันนั้นในช่วงเวลามื้อเที่ยงของแทบทุกวัน ภัทร์ พัฒนภิรมย์ ก็มาเป็นแขกขาประจำของโรงอาหารคณะอักษรฯ เพราะไหน ๆ ก็เป็นที่รู้จักของชาวคณะนี้ตั้งแต่คืนวันงานลอยกระทงในฐานะ ‘ผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของวงหางเครื่อง’ ไปแล้ว ภัทร์จึงไม่ต้องอายอะไรอีก ส่วนคนที่ต้องอายแล้วอายอีกก็คงหนีไม่พ้น นางสาวพริมา กีรติอนันต์ นิสิตปี 1 ผู้หารายได้เข้าคณะได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แม้พริมาจะรู้ดีว่าภัทร์กำลังจีบเธออยู่อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะพ่อเจ้าประคุณแสดงออกอย่างเปิดเผย ทั้งการดูแลเทคแคร์ ซื้อข้าวซื้อน้ำให้ทุกวัน แถมยังมีการส่งข้อความหวาน ๆ มาให้ทางมือถือ แต่พริมาก็ยังไม่กล้าเปิดหัวใจรับชายหนุ่มเข้ามา เพราะยังไม่แน่ใจเธอจะเป็นเพียงแค่ของเล่นชิ้นใหม่ที่กำลังถูกใจภัทร์อยู่หรือเปล่า ยิ่งมาได้ยินเสียงพรายกระซิบอย่างภัทราที่คอยกระซิบข้างหูอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันถึงความเจ้าชู้ไก่แจ้ของพี่ชาย พริมาก็ยิ่งต้องคิดหนัก และระวังหัวใจของตัวเองมากขึ้น ไม่ให้เผลอไปกับเสน่ห์ คารม และการเอาใจใส่ดูแลราวกับเป็นคนรักของคาสโนว่าภัทร์ไปมากกว่านี้ แต่......น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วจะนับประสาอะไรกับหัวใจไร้เดียงสาของพริมาที่ต้องมาเจอกับเสน่ห์อันเหลือร้ายของหมาป่าอย่างภัทร์ ดังนั้นหัวใจของพริมาค่อย ๆ เอียงไปทางภัทร์ทีละเล็กทีละน้อย แม้จะพยายามเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าอย่าไปตกหลุมพรางแล้วก็ตาม

‘น้องปริม เป็นแฟนกับพี่นะครับ’ ภัทร์บอกกับพริมาในวันสุดท้าย ก่อนที่จะปิดภาคเรียนที่ 2 ขณะที่เขาขับรถมาส่งหญิงสาวที่คอนโดฯหลังจากพาเธอและเพื่อน ๆ ของเธอไปทานข้าวเย็นฉลองปิดเทอม วันนี้เขาได้มาส่งพริมาตามลำพัง เพราะได้ทำข้อตกลงและสัญญากับน้องสาวตัวแสบไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน....

‘พี่ไม่ได้คิดเล่น ๆ กับปริม พี่ชอบเขาจริง ๆ นะปั๊ป’ ชายหนุ่มบอกกับน้องสาวระหว่างที่นั่งคุยสัพเพเหระกันอยู่หน้าทีวี

‘งั้นพี่โป๊ปก็ต้องสัญญากับปั๊ปมาก่อนว่าจะไม่ทำให้เพื่อนปั๊ปเสียใจ จะไม่เจ้าชู้อีกต่อไปด้วย และที่สำคัญจะต้องรักปริมมันจริง ๆ นะ ไม่ได้คิดแค่เรื่องอย่างว่านะ’ ภัทราคาดคั้นพี่ชาย

‘เออน่า รู้แล้วน่า’ ภัทร์ชักไม่พอใจที่น้องสาวพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้น

‘ก็สัญญามาก่อนสิ’ ภัทรารุกหนัก

‘พี่ให้สัญญา’ ภัทร์บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง

‘ว่าอะไร’ แต่ภัทราก็ยังคงจี้ต่อ

‘ก็ตามที่แกบอกมาทั้งหมดนั่นแหละ’ ชายหนุ่มเริ่มออกอาการบ้าง

‘จริงนะ’

‘จริงสิ พี่ชอบเขาจริง ๆ นะ แล้วปั๊ปว่าปริมเขาชอบพี่บ้างไหมอะ’

‘คาสโนว่าอย่างพี่ ไม่รู้จริง ๆ เหรอ’ ภัทราแกล้งถามย้อน

‘ก็พอเดาได้ แต่อยากให้ปั๊ปบอกให้แน่ใจ เพราะปริมเขาไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่พี่เคยจีบ’

‘ก็ใช่นะสิ คนอื่น ๆ น่ะ ไม่กี่วันพี่ก็ได้ ‘นอนคุย’ กันแล้วนี่’

‘ทะลึ่งแล้วปั๊ป! ว่าไง ตกลงปริมเขาชอบพี่ไหม เขาเคยบอกกับปั๊ปบ้างไหม’ ภัทร์อยากรู้และอยากได้ยินจากปากของน้องสาวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเอง เขาพอจะดูออกว่าพริมาก็คงมีใจให้กับเขาอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคนสวยคงไม่ไปไหนกับเขา ถึงแม้จะไปโดยมีก้างขวางคอตามไปด้วยแทบทุกครั้งก็เถอะ แต่คราวนี้เขาไม่แน่ใจ ซึ่งต่างกับทุกครั้งที่ผ่านมา หญิงสาวอื่น ๆ จะแสดงเจตนาและมีปฏิกริยาตอบสนองกลับมาอย่างชัดเจน ไม่อ้อมค้อม ชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ แต่ก็ยังไม่มีรายไหนที่แสดงออกมาอย่างหลังกับเขาเลยสักคน

‘ปริมไม่เคยบอกปั๊ปหรอก เขาคงไม่กล้าบอกปั๊ป เพราะปั๊ปห้ามเขาไม่ให้คบกับพี่อยู่ทุกวัน’

‘อ้าว! ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะคุณน้องสาวบังเกิดเกล้า’

‘ก็พี่เจ้าชู้จะตาย ปั๊ปสงสารเพื่อนปั๊ปนี่นา ไม่อยากให้ปริมโดนพี่หลอก.....ฟันน่ะ’

‘มากไปแล้วปั๊ป! ก็พี่บอกแล้วไงว่าจะเลิกเจ้าชู้ พี่ชอบปริมเขาจริง ๆ นะ ตกลงเขาชอบพี่เหมือนกันใช่ไหม’

‘พี่รับปากแล้วนะ ต้องรักษาสัญญานะ ไม่งั้นปั๊ปนี่แหละที่จะจัดการพี่ให้เละเลย’ ภัทราขู่พี่ชาย

‘จ้า คุณน้องบังเกิดเกล้า ว่าไง ปริมชอบพี่ใช่ไหม’

‘ไม่ชอบมั้งงงงง เล่นนั่งชะเง้อคอยาวทุกวันเวลา 11 โมงกว่า ๆ แถมคอยเช็คข้อความในมือถือทุกครึ่งชั่วโมง แบบนี้คงไม่ชอบใช่ไหมล่ะ’

‘จริงเหรอ ปริมเป็นแบบนั้น จริง ๆ เหรอ’ ภัทร์ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะพริมาไม่ได้แสดงทีท่าทำนองนั้นเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เมื่อมาได้ยินแบบนี้ชายหนุ่มจึงยิ้มหน้าบาน

‘อือ เป็นทุกวันแหละ วันไหนพี่มาสายหน่อย หน้าก็ม่อยแล้ว คิดดูขนาดไม่เป็นอะไรกันที ปริมมัยงเป็นขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วปริมต้องโดนพี่บอกเลิก ปริมมันคงตายทั้งเป็นแน่ ๆ เออ! แล้วนี่พี่ขอปริมมันเป็นแฟนยังอะ’

‘จะเอาเวลาที่ไหนไปขอ พวกแกอยู่ด้วยตลอดเวลาแบบนั้น’ ภัทร์ได้ทีรีบโวยใส่

‘ฮ่า ๆๆ ก็พี่ทำตัวไม่น่าไว้ใจเองนี่นา ประวัติโชกโชนเสียแบบนี้ ถ้าไม่ใช่พี่ชายแท้ ๆ นะ ปั๊ปคงบอกปริมให้อยู่ห่าง ๆ พี่ไปนานแล้ว เอางี้แล้วกัน เห็นแก่ความเป็นพี่น้องและสัญญาที่พี่รับปากออกมาแล้ว งั้นพรุ่งนี้ปั๊ปให้พี่ไปส่งปริมมันสองคนก็แล้วกัน ไหน ๆ ปริมมันก็จะกลับภูเก็ตอีกวันสองวันอยู่แล้ว ให้เวลาทำคะแนนหน่อย พี่ก็รู้ใช่ไหมว่ามันมีหนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบอยู่หลายคน ส่วนใหญ่พวกเขาเข้ามาแบบเนียน ๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครเข้ามากระโตกกระตากหรือห่าม ๆ แบบพี่หรอก’ ภัทราเปิดโอกาสให้พี่ชายในที่สุด

‘พี่รู้แล้วเรื่องนั้นน่ะ ก็ปริมเขาออกจะน่ารักแบบนั้น แต่ปริมก็ไม่ได้ไปไหนกับคนอื่น ไม่ใช่เหรอ’

‘รู้ได้ไง’

‘มีสปายบอกสิ’

‘นังปรัชญ์ล่ะสิ ชัวร์! มิน่า เวลาจะไปกินข้าวกับปริมทีไร บอกให้ชวนนังปรัชญ์ไปด้วยทุกที เป็นค่าสายสืบนี่เอง นังปรัชญ์นี่ก็มิเสียแรง นอกจากจะเป็นหูเป็นตาให้แล้ว ยังคอยกีดกันคนอื่น ๆ ให้อีก’ ภัทราที่จับสังเกตได้ว่าแทบทุกครั้งที่มีหนุ่ม ๆ มาจีบพริมา วรปรัชญ์มักจะมานั่งเป็นก้างขวางคออยู่ใกล้ ๆ แถมคอยบอกพริมาว่า อย่าไว้ใจหนุ่ม ๆ พวกนั้น เพราะดูไม่น่าเชื่อว่าจะยังโสดอยู่

‘ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เจ้าเล่ห์นะคะคุณภัทร์’

‘ฮ่า ๆๆ คนเราก็ต้องใช้ตัวช่วยกันบ้างสิ สรุปว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องไปเป็น กอ ขอ คอ นะคุณน้อง ขอเวลาคุณพี่สวีทกะแฟนบ้าง’

‘ย่ะ! แฟน! ระวังจะถูกปฏิเสธกลับมาล่ะ’

‘ไม่มีทาง มือชั้นนี้แล้ว ไม่มีวันพลาดอยู่แล้ว’ ภัทร์พูดอย่างมั่นใจ

‘ชิ! คอยดูนะ จะรอสมน้ำหน้า’ ภัทราแกล้งพูดไปอย่างนั้น เพราะรู้คำตอบอยู่แก่ใจจากดวงตาของเพื่อนสาวเวลาที่นั่งอ่านข้อความในมือถือ.....เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ



************************



‘ว่าไงครับน้องปริม ทำไมเงียบไปล่ะครับ คำถามพี่ตอบยากขนาดนั้นเลยเหรอ’ ภัทร์ถามขึ้นหลังจากเห็นพริมานิ่งไม่ตอบอะไร

‘เปล่าค่ะ ไม่ยากหรอกค่ะ เพียงแต่ปริมไม่มีคำตอบก็แค่นั้น’ พริมาตอบด้วยความสัตย์จริง และแอบดีใจที่ชายหนุ่มไม่ถามว่า ‘ชอบเขาบ้างไหม’ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็คงไม่มีทางเลี่ยง ที่สำคัญสีหน้าและท่าทางของเธอคงตอบออกไปก่อนคำพูดแน่ ๆ

‘หมายความว่าไงครับ!’

‘ปริมขอเวลาไปคิดก่อนได้ไหมคะ’ พริมาต้องการใช้เวลาไตร่ตรองก่อนให้คำตอบ

‘ทำไมต้องคิดด้วยล่ะครับ หรือปริมรังเกียจพี่เหรอ’ ภัทร์ใช้ลูกอ้อน แต่คราวนี้ไม่ได้ผลกับพริมา

‘เปล่าค่ะ แต่ปริมยังไม่แน่ใจกับบางอย่าง’ พริมาพูดเบา ๆ

‘เรื่องที่พี่เจ้าชู้ ใช่ไหมครับ’ ภัทร์ถามตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม เพราะไม่อยากเสียเวลา

‘ก็มีส่วนค่ะ’

‘พี่สัญญานะ ว่าจะมีปริมเป็นแฟนคนเดียว’

‘มีปริมเป็นแฟนคนเดียว ส่วนคนอื่น ๆ ให้เป็นอะไรล่ะคะ’ พริมาแกล้งเย้าชายหนุ่มเล่น

‘โธ่! น้องปริมครับ ไม่มีคนอื่น ๆ จริง ๆ ครับ’ ภัทร์อ้อนต่อ

‘ปริมขอไปคิดดูก่อนแล้วกันนะคะ อย่าเร่งรัดปริมเลย นะคะ’ พริมาบอกด้วยเสียงหวาน

‘เฮ้อ! ก็ได้ครับ และพี่ก็หวังว่าคำตอบของปริมจะไม่ทำให้พี่ต้องเสียใจนะครับ อ้อ! แล้วน้องปริมจะคิดนานไหมครับ’

‘ไว้เจอกันคราวหน้า แล้วปริมจะบอกนะคะ’ พริมาตอบ

‘เมื่อไรครับ’

‘ก็เปิดเทอมหน้าไงคะ’

‘โห! ไม่นานไปหน่อยเหรอครับ’ ภัทร์โอดครวญ

‘รอไม่ไหวเหรอคะ’ พริมาสวนกลับทันควัน

‘ไม่ไหวก็ต้องไหวละครับงานนี้’ ภัทร์แกล้งทำหน้าละห้อยเมื่อผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับจากหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ปกติเขาไม่เคยต้องรอคำตอบจากใครนานแบบนี้ อันที่จริงต้องพูดว่าเขาไม่ต้องเอ่ยปากถามเสียด้วยซ้ำ!

‘เปิดเทอม ก็เปิดเทอมครับ’ ภัทร์ยอมรับเงื่อนไขอย่างดุษฎี



************************



ระหว่างเดินทางไปสนามบินเพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินกลับไปยังบ้านพักที่จังหวัดภูเก็ต เปรมเป็นสารถีมาส่งน้องสาวเดินทางกลับตามลำพังในวันนี้ เพราะตัวเขาเองเลือกที่จะออกค่ายในชนบทกับทางคณะเนื่องจากต้องการเรียนรู้ชีวิตและหาประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ไปในตัว

‘ปริม พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ’ เปรมเปิดประเด็นพูดคุยกับน้องสาวที่เขารักและหวงมาก ปกติสองคนพี่น้องไม่เคยมีเรื่องอะไรปิดบังกัน พริมาก็มักปรึกษาทั้งเรื่องเรียนและเรื่องเพื่อน ๆ กับพี่ชายเป็นประจำอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องของหัวใจในสมัยที่เป็นเด็กมัธยมปลาย

‘มีอะไรคะพี่เปรม’ พริมาหันหน้าไปถามพี่ชายด้วยความอยากรู้

‘ปริมเป็นแฟนกับนายโป๊ปอะไรนั่นแล้วเหรอ’ เปรมไม่รอช้า เข้าประเด็นในทันที

‘เปล่าค่ะ’ แม้จะตกใจในคำถามเจาะประเด็นร้อนของพี่ชาย แต่พริมาก็ตอบไปตามความสัตย์จริงด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง....เพราะเธอก็ยังไม่ได้ตกปากรับคำที่จะเป็นแฟนกับภัทร์เลย

‘ยังไม่ได้เป็น แล้วคิดจะเป็นหรือเปล่า คิดดีแล้วหรือ’ เปรมรุกต่อเพราะมั่นใจว่าน้องสาวคงมีใจให้กับภัทร์เป็นแน่

‘พี่เปรมรู้จักพี่โป๊ปด้วยเหรอคะ’ พริมาเลี่ยงไม่ตอบคำถามของพี่ชายด้วยการเปลี่ยนประเด็น

‘ก็ไม่เชิงรู้จักหรอก พี่รู้แค่ว่าเขามาจีบปริมก็แค่นั้น จริงใช่ไหมละ’

‘พี่เปรมรู้ได้ยังไงคะ’ พริมาตั้งคำถามกลับเพื่อยืดเวลาให้กับตัวเอง

‘ใคร ๆ เขาก็รู้เรื่องในวันลอยกระทงนั่นกันทั้งนั้นแหละ ถึงพี่จะไม่ได้เรียนที่เดียวกับปริมก็เถอะ’ เปรมเฉลยแล้วพูดต่อทันทีว่า

‘แต่แปลกที่คราวนี้พี่กลับไม่ได้รู้จากเจ้าตัว ต้องรอให้เพื่อนสมัย ม.ปลายมาเล่าให้ฟังแทน’ เปรมเหน็บน้องสาวคนสวยของเขา เพราะปกติพริมาไม่เคยปิดบังอะไรเขาเลย

‘ปริมไม่ได้คิดจะปิดนะคะ แต่ยังหาเวลาเล่าพี่เปรมไม่ได้ต่างหาก’ พริมาตอบแล้วรีบเสหน้าหันออกไปทางหน้าต่างเพราะไม่อยากให้พี่ชายเห็นสีหน้าของคนที่กำลังพูดโกหก

‘จริงเหรอจ๊ะ’ ชายหนุ่มไม่ได้โกรธน้องสาว ไม่ได้น้อยใจเพราะคิดไตร่ตรองดูแล้วว่าน้องสาวของเขานั้นเป็นเด็กระดับมหาวิทยาลัยแล้ว เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่เขาอดเป็นห่วงน้องสาวไม่ได้เพราะชื่อเสียงที่พ่วงมายาวเหยียดของฝ่ายชายที่เข้ามาพัวพัน

‘พี่ไม่ได้ว่าอะไรปริมนะเรื่องการมีแฟน เพราะปริมก็โตแล้ว เป็นเด็กมหา’ลัยแล้ว และที่ผ่าน ๆ มาถึงปริมจะมีแฟนมาบ้าง ปริมก็ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง แต่คราวนี้พี่อยากให้ปริมคิดให้รอบคอบ เพราะฝ่ายโน้นน่ะไม่ใช่เล่น เจ้าชู้ขั้นเทพเลยไม่ใช่เหรอ’ ว่าที่คุณหมอที่กำลังขับรถอยู่เหลือบมองน้องสาวด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าพริมาไม่มีท่าทีที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว เขาจึงพูดต่อว่า

‘พี่ไม่อยากให้ปริมเสียใจ ไม่อยากเห็นปริมร้องไห้ ปริมแน่ใจในตัวเขาแค่ไหนกัน’ เปรมพยายามถามให้น้องสาวคิด

‘ถ้าเขาเป็นคนดี พี่ก็ไม่ห้ามที่ปริมจะลองคบหากันดู อย่างที่พี่บอก...ปริมโตแล้ว เรียนหนังสือระดับปริญญาแล้ว แต่ในเรื่องความรักพี่ว่าปริมยังอยู่แค่ระดับประถมฯเองมั้ง’ เปรมแกล้งพูดให้เป็นเรื่องตลกเพื่อคลายบรรยากาศที่เริ่มจะอึดอัดมากขึ้น การที่พริมาเงียบก็เป็นการบอกเขาเป็นนัย ๆ แล้วว่าหญิงสาวมีใจให้กับเจ้าหนุ่มคาสโนว่านั่น ถึงเขาจะไม่สนับสนุนให้พวกเขาได้คบกัน แต่เขาก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจของแม่น้องน้อย น้องสาวคนเดียวของเขา

‘พี่เปรมรู้จักพี่โป๊ปผ่านคนอื่นอยู่นะคะ’ พริมาพูดเสร็จก็รีบหลบสายตาของผู้เป็นพี่ที่หันมาจ้องหน้าเธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะถอนใจดังเฮือกแล้วจึงหันไปบังคับพวงมาลัยรถต่อ

‘พูดแบบนี้ งั้นก็แสดงว่าปริมรู้จักเขาดีแล้วสินะ’

‘เปล่าคะ ก็ปริมบอกพี่เปรมแล้วว่าเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน’

‘ปริมรับที่เขาเป็นคนเจ้าชู้ได้ ปริมแน่ใจว่าจะไม่เสียใจหากเขาทิ้งปริมไปหาคนอื่น ใช่ไหม’

‘........’ พริมาไม่ตอบเพราะรู้ดีว่าถ้าเป็นอย่างนั้น เธอคงเสียใจไม่น้อย

‘เอาเป็นว่า พี่อยากให้ปริมคิดให้ดี ๆ นะ รู้ทั้งรู้ว่าเขาเจ้าชู้ แล้วจะเอาหัวใจเราเข้าไปเสี่ยงทำไม ฮึ! ที่พี่พูดมาทั้งหมดนี่ก็เพราะว่าพี่เป็นห่วงเรานะ ไม่ได้อยากกีดกันอะไร ยังไงก็โต ๆ กันแล้ว และที่สำคัญหากเกิดอะไรขึ้นคนที่เจ็บก็คือปริม ไม่ใช่พี่’ เปรมพยายามเตือนสติน้องสาว เพราะเขาเชื่อว่าตอนนี้พริมาคงกำลังตาบอดอยู่เป็นแน่

‘ปริมเข้าใจดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่พี่เปรมเป็นห่วงปริมเสมอมา’ หญิงสาวหันมายิ้มหวานให้พี่ชาย แล้วตัดสินใจพูดต่อว่า

‘ปริมยอมรับได้ถ้าต้องเจ็บ ดีกว่าต้องมาเสียใจทีหลังว่า....ไม่น่าฟังคนอื่นเลย’ เปรมอึ้งเมื่อโดนน้องสาวย้อนกลับได้อย่างน่าคิด

‘งั้นก็ตามใจแล้วกัน มีอะไรก็บอกพี่ได้เสมอ ถึงพี่เจ็บแทนปริมไม่ได้แต่ก็พร้อมที่จะซับน้ำตาให้’ เปรมพูดทิ้งท้าย

‘อย่าแช่งน้องสิคะคุณหมอ’ พริมายิ้ม ก่อนที่จะเอื้อมมือไปแตะแขนพี่ชายที่กำลังขับรถอยู่

‘ยังไงปริมก็ขอบคุณพี่เปรมนะคะที่เป็นห่วงปริม รักปริม ปริมก็รักพี่นะคะ’ แต่กว่าพริมาจะรู้ซึ้งว่ารักของชายหนุ่มตรงหน้าที่มีให้เธอนั้นมีค่ามากมายเพียงใด ก็เป็นวันที่เธอต้องเจ็บเจียนตายอย่างที่พี่ชายคนเดียวของเธอได้เตือนไว้แล้วนั่นเอง



‘อ้อ! พี่เกือบลืมบอกปริมไปว่า วันนี้พี่ฝากเพื่อนพี่คนหนึ่งให้ปริมช่วยดูแล และพาเที่ยวให้ทั่วเกาะหน่อยนะ เพื่อนพี่มันไปฝึกงานที่คลินิคญาติมันที่อยู่ภูเก็ตน่ะ’ เปรมเอ่ยปากฝากเพื่อนสนิทให้น้องสาวช่วยดูแล…..แผนสำรองที่เชาได้เตรียมไว้ล่วงหน้า เพราะพอจะเดาออกว่าพริมาคิดอย่างไรกับภัทร์ เมื่อห้ามไม่ได้ ก็ต้องใช้ตัวช่วย คณิติน ศุภกิจ หรือติน ว่าที่คุณหมออนาคตไกลเช่นเดียวกันกับเขา ชายหนุ่มหน้าตี๋สไตล์เกาหลีที่กำลังมาแรงในบ้านเราเคยมาที่คอนโดฯของเปรมและบังเอิญได้เห็นรูปถ่ายของพริมา ชายหนุ่มตกหลุมเสน่ห์น้องสาวเพื่อนในทันที และยิ่งเมื่อได้มาแอบเห็นตัวจริงที่มหาวิทยาลัยของหญิงสาวด้วยแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ่งถอนตัวไม่ขึ้น ในที่สุดเขาจึงกล้าเอ่ยปากขอจีบน้องสาวเพื่อนจากพี่ชายซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตนเอง และเปรมก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด เพราะรู้จักและสนิทสนมกับชายหนุ่มมาตั้งแต่ปี 1 ทั้งคู่คบหากันมาถึง 4 ปี เปรมรู้ว่าเพื่อนคนนี้นิสัยดี ไม่เจ้าชู้เหมือนคนที่น้องสาวกำลังหลงใหลได้ปลื้มอยู่ แต่เขาก็ได้บอกกับชายหนุ่มไปแล้วว่า

‘ให้ทำใจไว้บ้างนะเว้ย น้องฉันเขาสวย มีคนมาจีบเยอะ ยิ่งตอนนี้ได้ข่าวว่ามีลูกเจ้าของธนาคารมาตามจีบทุกวัน แกเสียเปรียบเขาเยอะไอ้ติน เพราะแกไม่ได้เรียนที่เดียวกัน ไม่ได้เจอทุกวัน รักแท้แพ้ระยะทางมานักต่อนักแล้ว แถมที่สำคัญนะ เขาทำคะแนนนำหน้าแกไปหลายแต้มแล้วนะโว้ย’

‘ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ยังไงฉันก็สู้ไม่ถอย ถึงเขาจะนำหน้าไปแล้วแต่ฉันก็ไม่กลัว เพราะมีแกเป็นแบ็คอัพอย่างดี ใช่ไหมวะ’ คณิตินรีบมัดมือชกเปรมให้เป็นพวกเดียวกับเขา

‘เออ! ยังไงฉันก็ชอบแกมากกว่าฝ่ายโน้น แต่ถึงฉันจะช่วยแกได้นะ คนที่จะตัดสินใจก็ไม่ใช่ฉันอยู่ดี ถ้าปริมมันไม่ชอบแก ฉันก็ไม่บังคับน้องฉันนะ บอกให้รู้ไว้เสียก่อน’

‘เออ! แค่แกช่วยบ้างฉันก็โอเคแล้ว ที่เหลือฉันจัดการเอง ฝีมือฉันก็มีอยู่บ้างนะ หน้าตาก็น้อง ๆ นิชคุณเชียวนะ ฮ่าๆๆๆ’ หนุ่มตี๋ลูกชายผู้พิพากษาใหญ่อวดตัว

‘เออ! แล้วฉันจะคอยดู ไปฝึกงานที่ภูเก็ตตั้งเดือนกว่า ดูสิจะทำคะแนนได้บ้างไหม อย่าเอาไข่ไก่กลับมาฝากฉันนะเว้ย ฮ่าๆๆๆ’ เปรมจบบทสนทนาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ…..

‘ปริมไอ้ตินมันไม่เคยไปภูเก็ต พี่ฝากพามันเที่ยวหน่อยนะ ไอ้นี้นิสัยดี รูปหล่อพ่อรวยไม่แพ้นายโป๊ปของปริมหรอกนะ’ เปรมกระทบกระเทียบน้องสาวอีกครั้ง

‘พี่เปรม!’

‘ฮ่า ๆๆ พี่ล้อเล่น นี่มันคงมารอเราที่สนามบินแล้วมั้ง เห็นบอกว่าตื่นเต้นน่าดู’

‘ตื่นเต้นเรื่องฝึกงานน่ะเหรอคะ’ พริมาถามซื่อ ๆ

‘ตื่นเต้นเรื่องจะได้เจอปริมต่างหากล่ะ’ เปรมพูด

‘ตื่นเต้นทำไมคะ ปริมไม่ใช่ดาราสักหน่อย’

‘ก็มันชอบปริมไง มันเลยตื่นเต้น ฮ่าๆๆ’ เปรมเฉลยในที่สุดเพื่อเป็นการกรุยทางให้กับเพื่อนสนิท

‘ชอบปริมนี่นะ หน้าตาก็ไม่เคยเจอกัน จะมาชอบกันได้ยังไงมิทราบคะคุณเปรมขา’ พริมาถามอย่างงง ๆ ก่อนที่จะหยิบมือถือออกจากกระเป๋าถือมาดูเมื่อรู้สึกว่ามันสั่น

‘จะเคยเจอหรือไม่เคยเจอ จะชอบหรือไม่ชอบ เดี๋ยวก็รู้เอง พี่ขอแค่ปริมลองเปิดใจรับไอ้ตินเข้าไปพิจารณาบ้างก็พอ ลองเปรียบเทียบกับนายโป๊ปนั่นดู เผื่อปริมจะเห็นอะไรบ้าง’ เปรมทิ้งข้อคิดไว้ให้น้องสาวอีกข้อ โดยที่ไม่รู้ตัวว่าพริมาไม่ได้เก็บคำพูดของพี่ชายมาใส่ใจเลยเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วตั้งแต่ได้อ่านข้อความในมือถือ ‘เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ เอาหัวใจพี่ไปด้วย ต้องดูแลให้ดี ๆ นะ คิดถึงจัง โป๊ป’



***********************



ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คอมเม้นต์นะคะ

ไปให้กำลังใจที่ facebook กันได้นะคะ

http://www.facebook.com/ภารกิจรักภารกิจแค้น




อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 มิ.ย. 2555, 02:06:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 มิ.ย. 2555, 02:06:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1970





<< ตอนที่ 5 (50% ค่ะ)   ตอนที่ 6 (40%) >>
violette 30 มิ.ย. 2555, 23:18:04 น.
เฮ้อ อ่านจากแทกแล้ว คืนดีกันเหรอคะ เซ็งนิดหน่อย แต่ก็พอจะเข้าใจ
ชื่อเรื่องไม่ชวนให้คืนดีเลยนะคะ น่าจะแต่งานใหม่ซะเลยแหวกแนวดีค่ะ
เกลียดนักผู้ชายแบบนายโป๊ปเนี่ย ยิ่ง ไม่รั้งเมียตัวเองไว้แต่แรกยิ่งเกลียด มาหาทีหลังมันควรจะสายไปแล้วมากๆๆค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account