แผนร้ายในทางรัก
ยัยฝนตัวร้ายสร้างมายาให้นายมะนาวต้องตามเอาคืน ผลจะเป็นอย่างไร
Tags: แผนร้าย

ตอน: แผนร้ายในทางรัก15

เนื่องจากตอนที่ 15 อยู่ในระบบใหม่ที่ทดลอง คาดว่าถูกลบไปช่วงก่อนแล้ว จึงนำมาโพสอีกรอบ เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้อ่านได้อ่านนะคะ
^^

**********************************************

เสียงเคาะประตูดังเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน ก่อนมีเสียงเปิดประตูห้องเข้ามา มองร่างที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะเลือกไปยังด้านที่มีเส้นผมยาวสยายโผล่ออกมา แล้วเข้าไปสะกิด

“มาม้าฮับ” น้ำตานองหน้าเพราะตกใจกับสถานที่แปลกใหม่พร้อมกับกางเกงนอนที่เปียกโชก ทำให้เขาตื่นตระหนกไม่น้อย ยิ่งตอนที่ตื่นขึ้นมาไม่เห็นแม่

กันพิรุณสะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้วหันซ้ายขวา มองลูกชายที่กำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างเตียง จึงถามอย่างงัวเงีย “อะไร ลูก”

“มาม้ามานอนห้องพ่อทำไมฮับ ซัมเมอร์ตกใจไม่เห็นมาม้า” ซัมเมอร์ท่องจนเรียกเรย์มอนด์ว่าพ่อได้ติดปาก

กันพิรุณพลิกตัวมองเขาที่นอนอยู่ ก่อนจะหันไปมองลูกพร้อมรวบผ้าเอาไว้กับตัวให้มากที่สุด “อ๋อ เตียงห้องหนูมันแคบ มาม้าเลยขอยืมเตียงลุง เอ๊ย พ่อเรย์หน่อยไงฮับ หนูเป็นอะไรหรือเปล่า ลูก ทำไมไปนั่งยองๆ ตรงนั้นล่ะ”

“หนูฉี่ฮับ” ซัมเมอร์เข้ามากระซิบที่ข้างหูแม่อย่างอายๆ ก่อนจะยืนขึ้นส่งกลิ่นฉี่ไปทั่ว

“กลิ่นอะไร” เรย์มอนด์ตื่นขึ้นมาเพราะกลิ่น แล้วต้องเจอกับตาแป่วๆ ที่กำลังจะร้องไห้

ซัมเมอร์ร้องไห้ทันทีที่เรย์มอนด์ตื่นมาเห็นเขา พร้อมกลิ่น

“ทำไมคุณไม่รู้จักเงียบนะ รู้ไหมว่าลูกก็อายเป็น” กันพิรุณบอกกับเขา ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมผ้าห่ม จากนั้นก็รัดมันเป็นผ้าถุง ก่อนจะพาลูกชายออกไปจากห้อง เพื่อล้างตัวในห้องน้ำ

เรย์มอนด์ได้แต่งง ก่อนนึกได้ว่าเมื่อคืนลูกมาค้างที่นี่ ก่อนจะมองเธอที่กำลังจัดการลูกชายในห้องน้ำ “มีอะไรให้ผมช่วยไหม”

ซัมเมอร์รีบหันหลังแทบทันทีอย่างอายๆ ก่อนกันพิรุณจะไล่เขา “ช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนในห้องคุณกับในห้องลูกด้วย แล้วคุณก็อาบน้ำในห้องน้ำคุณซะ ฉันก็จะอาบเหมือนกัน จากนั้นจะได้ไปนอนอัดในห้องเดียวกัน ไปสิคะ”

เรย์มอนด์ได้แต่ทำตาม แล้วออกจะงงเล็กน้อยว่าทำไมต้องเปลี่ยนผ้าปูในห้องเขาด้วย แต่ก็ทำ ก่อนจะมองเธอเดินออกมาพร้อมลูกชาย

“ไม่ต้องอายลูก พ่อน่ะไม่ใช่ใครที่ไหนนี่นะ” กันพิรุณผลักลูกเบาๆ ก่อนยื่นให้เขาดูแลลูก “คุณนั่งดูการ์ตูนกับลูกสักเดี๋ยวก็แล้วกัน ฉันขอไปอาบน้ำก่อน”

แม่คุณ...ช่างเป็นเมียจริงๆ ขนาดยังไม่แต่งงานยังออกคำสั่งได้สมกับเป็นเมียจริงๆ

ซัมเมอร์นั่งแตะนิ้วอยู่ห่างๆ โดยไม่เข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะถูกดึงไปแล้วยกขึ้นนั่งบนตัก

“ไม่ต้องอายหรอกครับ ผู้ชายทุกคนก็เคยฉี่รดที่นอนทั้งนั้นล่ะ พ่อก็เคย” เรย์มอนด์พยายามเป็นพวกเดียวกับลูกชายให้มากที่สุดเพื่อให้เจ้าตัวเล็กสบายใจ

ซึ่งก็ได้ผล เมื่อเจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มออก ก่อนจะพูดคุยกันอย่างถูกคอ เมื่อคนตัวโตเป็นฝ่ายยอมตลอด แล้วปล่อยให้เจ้าตัวเล็กหลับคาอกไปในที่สุด

กันพิรุณออกมาเห็นก็บอกกับเขา “พาลูกเข้าไปนอนได้แล้วค่ะ แล้วก็ไปอาบน้ำด้วย”

“อาบน้ำนานจัง ดูสิลูกหลับสนิทเลย” เรย์มอนด์พูดยิ้มๆ เมื่อรู้เหตุผลที่เธออาบน้ำนานกว่าปกติ

กันพิรุณไม่ตอบเขา จัดท่าที่ลูกชายจะนอนหลับได้อย่างสบาย ก่อนจะกอดเจ้าตัวเล็กที่กำลังนอนกลางเตียงเพื่อพยายามหลับ

หลายครั้งที่เธอมองเจ้าตัวเล็กขยับอยู่ข้างตัวแล้วรู้สึกรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไร้เหตุผล ยามที่เขาดื้อรั้น ยามที่เขาหัวเราะสนุกสนาน ยามที่เขาร้องไห้ แล้วเข้ามาเกาะขาเธอเพื่อให้เธอปลอบเขา

เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นเธอนอนมองเจ้าลูกชายตัวเล็ก เขาก็รู้ว่าลูกมีค่ามากกว่าอะไรที่เธอมี และที่เขาได้เปรียบทุกอย่างก็เพราะเขาเอาลูกมาขู่เธออยู่ตลอด

พอเธอช้อนตาขึ้นมองเขาแล้วสบตากัน เธอก็ไม่สนใจเขาแล้วหลับตาลงเพื่อนอนหลับ ทั้งยังยื่นแขนไปกอดลูกเอาไว้ ให้ลูกนอนหนุนแขนเธอ แล้วเขาก็ทิ้งน้ำหนัก ก่อนจะกอดทั้งแม่ทั้งลูกเอาไว้ แล้วรู้สึกว่าเธอขัดขืนเพียงเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยเลยตามเลย

เขายิ้ม...แล้วบอกตัวเองอย่างแปลกๆ ว่ามีสักครั้งเช่นกันที่เขาพยายามไม่คิดถึงช่วงเวลานี้ ซึ่งเขาก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่ามีความสุขมากกว่าพยายามไม่คิดถึง

เจ็บปวดทุกครั้งที่เคยคิดถึงอนาคต ซึ่งเขาคาดว่าจะมีกับเธอแล้วตื่นขึ้นพร้อมความผิดหวัง ทว่าเวลานี้กลับคุ้มค่าที่สุดยิ่งกว่าเวลาที่มีแต่ความเจ็บปวดผ่านเข้ามาในความรู้สึกเขา

จะมีสักกี่คืนที่เธอรู้สึกเป็นสุข...หรืออาจต้องถามตัวเองใหม่...ช่วงเวลานี้จะมีอีกนานแค่ไหน

**********************************************


วันเวลาที่ผ่านไป เธออยากให้เป็นช่วงเวลาที่เชื่องช้าที่สุด แต่หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ทั้งเธอและลูกต่างก็มีความสุขกับการมีเขาอยู่ใกล้ๆ เพียงแต่เธอก็มีนิสัยมองโลกในแง่ร้าย เมื่อคิดถึงวันที่ต้องจากเขาไป

“มาม้าฮับ หนูลืมสร้อยคอเอาไว้ที่บ้านพ่อ เอ๊ย ลุงเรย์ฮับมาม้า วันนี้เราไม่ได้กลับไปค้างที่บ้านลุงเรย์ไม่ใช่เหรอฮับ” ซัมเมอร์บอกแล้วก็เอามือจับที่คออยู่ตลอดเวลา เพราะรู้สึกเหมือนอะไรหายไป

“ไว้ให้ลุงเรย์เอามาให้ก็ได้จ๊ะ” กันพิรุณบอกกับลูกชายที่กำลังเดินข้ามถนนไปโรงเรียนพร้อมกับท่าทางกังวลใจ

“แต่หนูจะนอนไม่หลับนะฮับ ถ้าไม่ได้จุ๊บสร้อยอ่ะฮับ” ซัมเมอร์ออกจะงอแงเล็กน้อยเพราะสร้อยเส้นนั้นเขาสวมติดคอมาตั้งแต่เกิด

“ได้จ๊ะได้ นี่มาม้าก็ไม่รู้ว่าลุงเรย์ออกไปทำงานหรือยัง เห็นว่าจะกลับกรุงเทพเย็นนี้ด้วยสิ” กันพิรุณบอกกับลูกชายพลางครุ่นคิด

เจ้าตัวเล็กติดคุณพ่อคนโปรดมากเสียด้วย เพราะติดใจไออุ่นเวลานอนด้วยกันบนเตียงสามคนราวกับโหยหาไออุ่นของคนเป็นพ่อ จนเธอยังหนักใจ จึงคุกเข่าลงข้างเก้าอี้หินในโรงเรียน

“ซัมเมอร์อยากมีพ่อไหมลูก พ่อที่คอยอยู่ด้วยตลอด ซัมเมอร์อยากมีน้องไว้วิ่งเล่นด้วยไหมลูก” กันพิรุณถามลูกชายด้วยความกังวลใจ

ซัมเมอร์ขมวดคิ้วแล้วแตะนิ้วที่แก้มบุ๋มอย่างครุ่นคิดแบบเด็กๆ “หนูมีพี่วินเทอร์ แล้วก็น้องเมเปิ้ลแล้ว ก็เยอะแล้วฮับ หนูมีพ่อเรย์แล้วก็พอแล้วฮับ”

“ถ้าวันหนึ่ง พ่อเขาไม่อยู่กับเราแล้วล่ะ อย่างอาทิตย์นี้พ่อเขากลับไปอยู่กรุงเทพตั้งสองอาทิตย์น่ะ หนูจะไม่คิดถึงพ่อเขาเหรอลูก แล้วถ้าวันหนึ่งพี่วินเทอร์กับน้องเมเปิ้ลไม่อยู่เล่นกับหนูล่ะ” กันพิรุณถามลูกชายแล้วก็คิดตาม

“ทำไมมาม้าถามอะไรที่ทำให้หนูงงจังเลยฮับ” ซัมเมอร์ขมวดคิ้วออกจะงงกับคำพูดของแม่

“อืม สมมติวันพ่อปีนี้ พ่อเรย์ไม่ได้มางานวันพ่อเหมือนปีที่แล้ว หนูจะรู้สึกยังไง” กันพิรุณถามถึงวันพ่อที่ผ่านมาเพื่อให้ลูกชายเข้าใจมากขึ้น

“ทำไมฮับก็พ่อเรย์เป็นพ่อของซัมเมอร์แล้วนี่ฮับ” ซัมเมอร์ยังคงไม่เข้าใจ

“เหมือนพ่อมะนาวไง แต่ต่างกันที่ พ่อเรย์เขาจะมีครอบครัวของเขาเอง เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่โตมากๆ แล้วมีลูกของเขาเองเหมือนมาม้ามีซัมเมอร์ เขาก็คงต้องดูแลลูกเขาไงลูก เขาเป็นพ่อซัมเมอร์ตลอดไปไม่ได้ ซัมเมอร์อยากมีพ่อตลอดไปไหม มีน้องตลอดไปไหม น้องที่เกิดจากแม่น่ะ ที่เราจะนอนห้องเดียวกันทุกวัน คุยกันได้ทุกเรื่องไงลูก” กันพิรุณพยายามอธิบายให้ลูกเข้าใจ

“อ่า ถ้าได้ก็ดีฮับ ซัมเมอร์ไม่อยากเสียใจเวลาที่พี่วินเทอร์เอาแต่ดูแลน้องเมเปิ้ล ไม่อยากเสียใจถ้าพ่อเรย์ไม่มางานวันพ่อของซัมเมอร์ฮับ” ซัมเมอร์เริ่มคิดตามและคล้อยตาม

“มาม้าจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของหนู” กันพิรุณตั้งมั่นที่จะหาทางไปจากเขาก่อนที่เขาจะนำพาความทุกข์มาให้เธออีก

แม้เธอจะงุนงงไปบ้าง แต่เธอก็รู้ว่าต้องเป็นฝีมือเขาที่ทำให้เสี่ยเอ๋จนตรอก เธอยังจำภาพเพื่อนเขาที่มีท่าทีหวาดเกรงเรย์มอนด์ในเวลาที่เขาโกรธเงียบ

เธอสงสารเสี่ยเอ๋ไม่น้อย แต่ก็นั่นอีก...หากเขาไม่เอาความคิดน่าเกลียดนั่นมาใส่หัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ เธออาจจะสงสารเขามากกว่านี้ แต่เพราะความใจแคบของผู้ชายคนหนึ่ง ทำให้ซัมเมอร์ต้องดื้อแพ่ง เธอก็ต้องเห็นแก่ลูกมากกว่าอยู่แล้ว

สองสามเดือนที่ผ่านมา เขาก็พิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นพ่อที่ดีได้ เพียงแต่เธอก็รู้อีกนั่นแหละว่าต้องมีสักวันที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขามากกว่าเธอ

เธอครุ่นคิดจนกระทั่งมาถึงประตูห้องคอนโดเขา เมื่อเคาะประตู เขาก็เปิดมารอด้วยรอยยิ้ม

“นี่ไงสร้อยคอ แหม สร้อยคอสวยนะ ดูเฉพาะเจาะจงมากๆ” เรย์มอนด์ยิ้มๆ อย่างรู้ความหมาย

“คุณบ็อบกับคุณโรสให้ฉันต่างหาก แล้วฉันก็เห็นว่ามันแพงดีก็เลยใส่ไว้ให้ซัมเมอร์” กันพิรุณจะเอาสร้อยจากมือเขา แต่เขากลับไม่ยอมให้ง่ายๆ “อะไรของคุณอีก”

“ก็นะ ขอบคุณสักคำก็ไม่มี อุตส่าห์หาให้นะ” เรย์มอนด์ยั่วโมโหเธออย่างเพลิดเพลิน ยิ่งช่วงหลังๆ เธอยิ่งโมโหง่ายจนเขารู้สึกสนุก

กันพิรุณยกมือขึ้นปิดหน้าข้างหนึ่งอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพูดประโยคที่เขาอยากฟัง “ขอบคุณค่ะ พอใจหรือยังคะ ขอสร้อยของซัมเมอร์คืนด้วยค่ะ”

“อืม ก็ดีนะ แต่ยังไม่พอใจเท่าไร วันนี้คุณว่างไหม ผมว่างแล้วล่ะ แล้วก็คิดว่าจะกลับดึกๆ น่ะวันนี้” เรย์มอนด์พูดพร้อมมองเธอราวกับจะกินเธอทั้งตัว

“สายตาคุณมันบอกว่า ฉันไม่ควรว่าง เอาสร้อยมาเถอะค่ะ ฉันจะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน” กันพิรุณปฏิเสธแต่ก็คงยาก เพราะเขาลากเธอเข้าห้องแล้วปิดประตู ก่อนจะสูดดมกลิ่นสบู่ของเขาที่โชยมาจากร่างเธอ

“คุณเนี่ยมีแต่กลิ่นที่ผมคุ้นเคยทั้งนั้นเลยนะ หอมถูกใจผมมากด้วยสิ” เรย์มอนด์ไม่กอดเปล่าๆ ยังคงสูดกลิ่นหอมจากร่างเธอ

“คุณเนี่ยยังไงนะ” กันพิรุณพยายามจะผลักเขาออกจากตัว

“ก็นะ เมื่อคืนก็มีลูกมานอนคั่นนี่นะ ผมน่ะอยากจะจำกลิ่นหอมจากตัวคุณเอาไว้ ช่วงที่ไปเคลียร์งานนะ พอผมรู้ว่าคุณจะมานะ ผมก็เคลียร์งานหมดแล้ว” เรย์มอนด์ช้อนร่างเธอขึ้นแล้วพาไปที่ห้องนอน และดูเหมือนเธอจะไม่ขัดเสียด้วย

แม้กันพิรุณจะเป็นผู้หญิง หากเพราะเขาได้จุดไฟความต้องการให้กับเธออีกครั้ง หลายเดือนที่ผ่านมาเขากระตุ้นจุดสัมผัสอ่อนไหวของเธอทีละจุด จนเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอก็มีความต้องการเช่นกัน

นึกแล้วก็กลัวว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น...เพียงแต่ความสุขนี้ที่เธอก็อยากจะฝังเอาไว้ในความทรงจำไม่รู้ลืมเช่นกัน

**********************************************


เสียงกดกริ่งถี่ๆ ดังขึ้นจนคนที่นอนอยู่ในห้องไม่อาจทนได้อีก เรย์มอนด์หยิบเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ ก่อนจะออกไปเปิดประตู แล้วก็ต้องตกใจ เมื่ออรจิรากับก้อยกุ้งมายืนอยู่หน้าห้องเขา

“มาได้ยังไง ยายอร เอ่อ คุณก้อย” เรย์มอนด์งุนงงอย่างหนักว่าพวกนี้มาได้ยังไง ก่อนจะต้องหลบเมื่อญาติเขาลากแฟนที่ยายเขาเลือกให้เข้ามาด้วย

“มันอยู่ที่ไหน” อรจิรามองหาราวกับตนเองมีสิทธิ์ ก่อนจะเห็นผู้หญิงนอนอยู่ในห้องญาติหนุ่ม แล้วก็เข้าไปอาละวาดทันที

ขณะที่ก้อยกุ้งตกใจที่เห็นหญิงสาวกับสภาพห้องก็เกิดอายขึ้นมารีบวิ่งออกไปจากห้อง

“คุณก้อย” เรย์มอนด์มองชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่กระจายอยู่ก็รู้ว่าอะไร จึงรีบตามแฟนสาวออกไป

ขณะที่กันพิรุณเห็นเขาตามผู้หญิงที่เธอคุ้นๆ ว่าเป็นแฟนเขาตามข่าวก็หน้าชา และไม่ทันระวังเพราะอรจิราเข้ามาลากเธอและกำลังจะตบหน้าเธอ ดีที่ชั่ววินาทีนั้น เธอตั้งสติได้ จึงยึดมือข้างนั้นเอาไว้ พออีกข้างมา เธอก็ยึดไว้แล้วจับบิด ก่อนจะฟังอีกฝ่ายอาละวาดต่อ

“แก นังแมวขโมย นังหน้าไม่อาย คนอื่นเขามีแฟนอยู่ทนโท่ ยังจะมาเกาะติดเขาอีกนะแก” อรจิรากรนด่าต่อหยาบๆ คายๆ อีกหลายคำ จนกันพิรุณโมโหจัดยกเข่าขึ้นกระแทกเข้าที่ท้องอีกฝ่ายอย่างจัง ก่อนจะโยนลงพื้น แล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ

“ไม่เจอกันสี่ปี คุณยังโรคจิตเหมือนเดิมนะคุณอร” กันพิรุณไม่พูดเปล่า เมื่อได้โอกาสเอาคืนเธอก็จัดการอีกฝ่ายทันที

อรจิรามองหน้าอีกฝ่ายแล้วครุ่นคิด แต่จำไม่ได้ หากพูดได้แค่ “แก”

อีกด้านเรย์มอนด์ตามก้อยกุ้งไปจนทันจึงดึงแขนเอาไว้ “คุณก้อย”

ก้อยกุ้งสะบัดมือเขาแทบทันที มีท่าทีรังเกียจชัดเจน ก่อนตั้งสติได้ แล้วยืนนิ่งอยู่นานเพราะพูดไม่ออก

“ผมขอโทษ แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะบอกคุณเรื่องนี้เหมือนกัน คือผมเจอคนที่ผมรักแล้ว ก็ผู้หญิงที่คุณเห็นในห้องนั่นแหละ ผมรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณก็ไม่ได้รักผม เพียงแต่ทำตามมารยาท แล้วก็โดนยายเราบังคับใช่ไหม” เรย์มอนด์ค่อยๆถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับนี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพียงจำเป็นต้องอธิบายเท่านั้น

ก้อยกุ้งครุ่นคิด ก่อนพยักหน้าช้าๆ แล้วยอมรับตามจริง “ใช่ค่ะ”

“ผมไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับผมอีก อย่าใช้ผมเพื่อปิดโอกาสตัวเองจากผู้ชายดีๆ อีกหลายคนที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตคุณเลยนะครับ ผมรู้ว่าที่ผ่านมาผมเลวมาก แต่เลวยังไง ผมก็ไม่เคยล่วงเกินคุณเลย คุณก็รู้ดีที่สุด” เรย์มอนด์พยายามจบปัญหาที่คิดว่าจะกลับไปจัดการ แล้วหาทางจับแม่ของลูกมาเป็นเมียตามกฏหมายให้ได้

“ค่ะ แต่ฉันจะทำยังไงดีล่ะ ถ้าย่ารู้เข้าฉันต้องปวดหัวแน่ๆ ยายคุณล่ะ เขาจะไม่ว่าอะไรเหรอ” ก้อยกุ้งถามขึ้นเพราะไม่อยากมีปัญหา

“เรื่องยายผม ผมจัดการเองได้ เรื่องย่าคุณนั้น ผมว่านะ คุณอย่าเอาอิสระของตัวเองไปผูกติดกับควาต้องการของผู้ใหญ่ดีกว่านะครับ ชีวิตมันสั้น ถ้าไม่คิดอยากแต่งงาน เราก็ต้องยืนด้วยตัวเอง ถ้าคิดอยากแต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคน ก็ควรจะเป็นคนที่ใช่นะครับ” เรย์มอนด์พยายามโน้มน้าวให้เธอเชื่อมั่นในการเลือกทางของตัวเอง

ก้อยกุ้งถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “จริงๆ ไม่ใช่เพราะฉันยอมหรอกค่ะ แต่เพราะฉันขี้เกียจเลือกมากกว่า อีกอย่างก็สบายดีอยู่ แต่ในเมื่อคุณไม่เต็มใจ ฉันก็ไม่อยากจะฝืนอีก เพราะที่ผ่านมาคุณไม่พูดชัดเจน ฉันจึงไม่ทำอะไร เอาเป็นว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหมคะ”

“แน่นอนครับ” เรย์มอนด์ค่อยสบายใจที่เคลียร์กันได้ ก่อนจะตกใจ “แย่แล้ว ฝนกับยายอร”

ก้อยกุ้งนึกขึ้นได้เช่นกัน จึงรีบพากันขึ้นไปด้านบน เมื่อเข้าไปก็ต้องตกใจกันใหญ่เลยทีเดียว

**********************************************


ด้านกันพิรุณเมื่อผลักอีกฝ่ายได้สำเร็จพร้อมสวมเสื้อคลุม เธอก็ขึ้นคร่อมร่างแล้วตบอีกฝ่ายหลายฉาดจนหน้าชา ก่อนจะคิดแผนเด็ดได้ จึงดึงชุดกระโปรงรัดรูปของอีกฝ่าย ขึ้นจนรัดแขน ก่อนจะมัดกับเสาเตียง แล้วหยิบลิปสติกมาเขียนข้อความ ก่อนจะจับปากอีกฝ่ายแล้วตบเรียกสติ

“ไงคะ ยังนึกไม่ออกอีกเหรอว่าฉันเป็นใคร เมื่อสี่ปีก่อน ฉันเป็นคนที่อยู่กับคุณเรย์ไงคะ ผู้หญิงเฉิ่มๆ ที่คุณพยายามวางยาให้ผู้ชายเอาไปล่อไง จำไม่ได้อีกเหรอ” กันพิรุณเค้นหัวเราะออกมาอย่างโหดๆ ก่อนจะดึงกางเกงในของอีกฝ่ายออกพร้อมเสื้อชั้นในแล้วมัดขาเอาไว้ พร้อมถ่ายรูปหน้าให้ชัดเจน

“แก นังเฉิ่มนั่น แกไม่ได้หนีไปแล้วงั้นเหรอ” อรจิรานึกขึ้นมาได้ ถึงรอยตบของเรย์มอนด์ เพราะหลังจากที่กันพิรุณหายไป เธอเคยแกล้งทำเป็นพูดถึง จึงถูกตบเสียตัวปลิว

“ใช่แล้วค่ะ แล้วฉันก็จะเอาภาพคุณไปขายให้หนังสือพิมพ์เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า คุณน่ะร่านแค่ไหน” กันพิรุณใช้กล้องถ่ายอีกหลายภาพจนพอใจ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายโวยวายตามใจชอบ

ขณะที่เรย์มอนด์กับก้อยกุ้งกลับมาเป็นสภาพของหญิงสาวที่พื้นก็ต้องตกใจ จนเขาต้องถอดเสื้อเชิ้ตออกคลุมให้ญาติสาว “นี่มันอะไรกันเนี่ย”

“ไปถามนังสารเลวเอาเองสิ เอาภาพฉันคืนมาด้วยนะ มันถ่ายภาพฉันเอาไว้ บอกจะเอาไปให้นักข่าว” อรจิราทั้งโกรธทั้งอาย ทั้งแค้น

เสียงประตูเปิดออกก็ดังขึ้น กันพิรุณแสดงตัวชุดเดิม ไร้สีสันแต่งแต้มเป็นหญิงสาวหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง มองทุกอย่างแบบไม่แยแส

“อีชั่ว อีเลว แกถ่ายรูปฉัน เรย์ อย่าให้มันเอารูปอรไปให้นักข่าวนะ” อรจิราพยายามหาคนช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครช่วยแกะเธอออกจากการเกาะกุม เพราะเกรงว่าจะร้ายมากกว่าดี

“ฝน” เรย์มอนด์จะเข้าไปคุยกับเธอ แต่กลับถูกเธอตบหน้า

“ต่อไปนี้ ฉันไม่รู้จักคุณอีก” กันพิรุณหยิบทุกอย่างที่หยิบได้ รวมถึงสร้อยของลูกชาย แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้อง ขณะที่เรย์มอนด์ โดนอรจิราเอาขาขัดไว้กันไม่ให้เขาตามออกไป

“ยายอร โธ่เว๊ย ถ้าฝนทำอย่างนั้นกับเธอ มันก็สมควรแล้วล่ะ” เรย์มอนด์พูดอย่างโมโห จนลืมไปว่ามีคนอื่นอยู่อีก “ขอโทษนะคุณก้อย คุณออกไปรอที่นอกห้อง จนกว่าผมจะจัดการยายอรเสร็จ”

เรย์มอนด์บอกแล้วมองจนก้อยกุ้งออกไปจากห้อง ก่อนจะต้องฟังคำโอดครวญของญาติเขาอีก

“อย่าทำอะไรอรเลยนะ อรไม่ได้ทำอะไรแม่นั่นเลยนะ แม่นั่นทั้งใส่เข่า ทั้งตบจนอรไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว ดูสภาพอรสิ” อรจิรารีบกลัวลนลาน เพราะยังขยาดกับรอยตบนั้นอยู่ไม่หาย

“ฉันจะทำอะไรเธอ ยายอร ฉันจะช่วยแก้มัดเธอต่างหาก” เรย์มอนด์ดูสภาพญาติเขาแล้วก็ได้แต่อ่อนใจ ส่วนอีกคนที่เขาต้องจัดการนั้นเห็นทีจะต้องละเอาไว้ก่อน

“แต่งตัวเธอให้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวกลับพร้อมคุณก้อย ฉันจะไปคุยกับฝน” เรย์มอนด์บอกกับเธอ แต่ทันทีที่เป็นอิสระ เขาก็โดนเธอเกาะเอาไว้แน่น

“อย่าไปเลยนะ เรย์ ยังไงแม่นั่นก็ไม่เหมาะสมกับพวกเราอยู่แล้ว เธอเหมาะกับก้อยมากกว่านะ” อรจิราพยายามใช้คนอื่นรั้งเขาเอาไว้

เรย์มอนด์หัวเราะขบขัน ก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขน “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้หน่อยเลย เธอน่ะไม่ใช่คนแบบที่จะสนับสนุนใครหรอก อีกอย่างนะ สมองอย่างเธอตัดสินใครได้ด้วยเหรอ เอาไว้อายุความคิดเธอมากกว่าเด็กห้าขวบแล้วล่ะก็ ค่อยมาคุยกับฉันก็แล้วกัน”

“นี่เธอว่าฉันเหรอ ฉันเนี่ยไม่โง่หรอกนะ” อรจิราพยายามจะเถียง

“ฉันไม่ได้บอกว่าเธอโง่ แต่ถ้าเธอจะโง่ด้วยการมายุ่งกับผู้หญิงของฉันอีกล่ะก็ เธอคงรู้นะว่าจะเจออะไร ฉันจะไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่ แม้ว่าเธอจะเอาพ่อแม่เธอมาขู่ จำเอาไว้” เรย์มอนด์บีบแขนญาติสาวแรงๆ แทนการขู่ ก่อนไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยในห้องน้ำด้านนอก

อรจิรารู้สึกเหน็บหนาว เพราะสี่ปีที่ผ่านมา เธอได้รู้จักเรย์มอนด์ในมุมมองที่แตกต่างออกไป จะมีกี่คนที่สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาได้อีก ถึงกระนั้นเธอก็ลืมตัวอยู่หลายครั้ง

หากไม่ใช่เพราะเธอเป็นญาติ...ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงหนอ

ทว่าเรย์มอนด์ก็ช่างเป็นชายหนุ่มที่เย้ายวนและไม่เคยพลาดให้เธอได้มีโอกาสเหมาะๆ ที่จะครอบครองเขา

**********************************************


กันพิรุณกลับเข้าไปในห้องทันทีโดยไม่รอช้า ก่อนจะก้มหน้ากับหมอนแล้วปล่อยให้น้ำตาซึมออกอย่างเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เธอรู้สึกโง่ที่หลงคิดว่าทุกอย่างจะยังคงอยู่ไปอีกพักให้เธอได้เตรียมใจ

เหงาเหลือเกิน..กับความลับที่บอกใครไม่ได้

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในความเงียบงันที่เธอพยายามเก็บเอาไว้ เธอมองปลายสายแล้วมองผ่าน ก่อนปรับเสียงพูดที่อาจกลายเป็นเสียงสะอื้นไห้อย่างสุดทน

“ไงคะพี่ริว” น้ำเสียงที่เธอคิดว่าต้องร่าเริงกลับสั่นเครือ ก่อนจะกลายเป็นเสียงสะอื้นจนปลายสายตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น ใจเย็นๆ ก่อนนะฝน ร้องออกมาเถอะ” เขาปลอบเธอด้วยความเป็นห่วง

“ปละๆ” เธอพยายามจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก สุดท้ายก็ต้องร้องไห้ให้เต็มที่ ก่อนจะตั้งสติได้ “ฝนขอโทษที่มาร้องไห้ให้พี่ริวฟังนะคะ”

“บ้าน่า ฝน รู้ไหมพี่ดีใจที่พี่เป็นคนหนึ่งที่ฝนอยากร้องไห้ให้ฟัง” ริวพยายามพูดติดตลก ก่อนฟังเสียงหัวเราะแกนๆ ของเธอ

“พี่ริวบ้า มาชอบฟังคนอื่นเค้าร้องไห้อีก” กันพิรุณค่อยสบายใจขึ้น เมื่ออีกฝ่ายพยายามทำให้เธออารมณ์ดี

“ไหนๆ ก็ร้องไห้ให้พี่ฟังแล้ว จะอารมณ์ดีพอเล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาทอดเสียงช้าลงด้วยความเป็นห่วงเธอ...คนที่เขาคิดมากกว่าน้องสาว

กันพิรุณถอนหายใจออกมา แล้วก็ต้องพยายามเรียบเรื่องราวในหัวก่อน “พี่ริวสัญญาได้ไหมคะจะไม่บอกใคร”

“ได้สิ พี่รู้ว่าถ้าไม่ใช่เรื่องหนักหนาจริงๆ ฝนคงไม่พูดแบบนี้ เล่ามาเถอะ ให้พี่ช่วยเหลือแบ่งเบาความเครียดที่อยู่ในใจน้องสาวคนนี้ของพี่บ้างได้ไหม” ริวพยายามกล่อมเธอให้ระบายความในใจออกมา

“แม้แต่ไอ้หลินด้วย” กันพิรุณย้ำอีกครั้ง กว่าจะเล่าให้ฟัง “คือ จริงๆแล้วพ่อของซัมเมอร์น่ะ ยังมีชีวิตอยู่นะคะ แล้วตอนนี้เขาก็อยู่ไม่ไกลจากฝนกับลูก เขารู้เรื่องซัมเมอร์แล้วด้วยค่ะ”

“อะไรนะ เรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่เนี่ย พี่งงไปหมดแล้ว ตกลงนายมะนาวไม่ตาย ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นเหรอ” ริวพยายามเรียบเรียงด้วยอีกคน

“ค่ะ คือตอนนั้นฝนคิดว่าฝนไปกับเขาไม่รอด แล้วเขาก็รวยมากด้วย ฝนกลัวอิทธิพลของเขา ฝนเลยคิดว่า ถ้าฝนมีลูกแล้วไม่บอกเขา เขาจะต้องเอาลูกไปจากฝน ฝนถึงต้องโกหกทุกคนว่าเขาตายไปแล้วน่ะค่ะ” กันพิรุณเล่าให้ฟังแบบกำกวมที่สุด

“เรื่องใหญ่นะฝน ทำไมทำเรื่องแบบนี้ เฮ้อ แต่ช่างเถอะ มันเกิดขึ้นมาแล้ว พี่จะว่าอะไรฝนได้ ช่างมันเถอะ นี่อย่าบอกนะว่าที่ร้องไห้เพราะกลัวว่าเขาจะมาเอาซัมเมอร์ไป” ริวสรุปเรื่องไปเสร็จสรรพ

“ก็ไม่เชิงค่ะ เขาแค่ขอเวลาอยู่กับลูกบ้างก็เท่านั้นเอง ฝนร้องไห้เพราะอึดอัดมากกว่า” กันพิรุณก็ตอบตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าเพราะอะไรจึงร้องไห้

เมื่อทบทวนแล้ว เธอก็รู้สึกตอกย้ำปมที่พร่ำบอกตัวเองเสมอ ยามนึกถึงดวงหน้ากิริยาท่าทางของแฟนสาวของเขา เธอก็รู้ว่า เธอคิดไม่ผิด เมื่อเธอไม่คู่ควรกับเขาจริงๆ

เธอต่ำต้อยเกินไปสำหรับเขา...

“เฮ้อ พี่ก็เข้าใจนะว่า ฝนอึดอัด แล้วนี่มีใครเคยเห็นเขาหรือยัง” ริวถามขึ้น

“เห็นค่ะ เขามาที่นี่ออกบ่อย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นพ่อของซัมเมอร์ก็เท่านั้นเอง พี่ริวก็เคยได้ยินชื่อเขา นายเรย์มอนด์ ริชมอนด์ แล้วถ้าพี่หาข่าวซุบซิบไฮโซมาอ่านก็ต้องมีชื่อเขาอีกนั่นแหละ” กันพิรุณเล่าความให้พี่ชายเพื่อนรักฟัง แล้วก็ถอนหายใจ

“หา แล้วนี่ฝนไปเจอกับเขาได้ยังไง เอาล่ะ ช่างเถอะ ไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นถึงอดีตนะ อย่าคิดมาก พยายามเลี่ยงเขาก็ได้นี่ หรือกลัวว่าเขาจะแย่งซัมเมอร์ไป” ริวถามด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

“ก็ไม่ค่ะ เขาทำหนังสือสัญญาว่าจะไม่ขอแย่งสิทธิ์เลี้ยงดูลูกของฝนเด็ดขาด แต่ฝนก็ไม่อยากเห็นหน้าเขานี่คะ พี่ริวอาจจะไม่เข้าใจ คนมันเคยคบกันแล้วเลิกกัน เจอหน้ากันบ่อย มันก็อึดอัดน่ะ” กันพิรุณพยายามแก้ตัวแล้วเลี่ยงเหตุผลจริงๆ ในใจ

“เฮ้อ เอาเถอะ พยายามอย่าคิดมาก ไว้พี่จะไปหาบ้างนะ แต่ช่วงนี้งานที่ไร่ยุ่งมาก แทบปลีกตัวไม่ได้เลยล่ะ เอาไงดีล่ะ” ริวคิดอยากจะไปเยี่ยมเธอ เป็นเพื่อนเธอให้เธอคลายเครียดบ้าง

“ไม่เป็นไรค่ะ อีกวันเดียวซัมเมอร์ก็จะปิดเทอมแล้ว ฝนว่าจะพาลูกไปเที่ยวเกาะเสม็ดสักสามคืนน่ะค่ะ คงได้พักจากเรื่องวุ่นๆ ได้บ้าง เนี่ย แค่พี่ริวโทรมาถามไถ่ ฝนก็ดีใจจะแย่แล้ว อย่าลำบากเลย ไว้ฝนพาซัมเมอร์ไปเที่ยวหาพ่อเลี้ยงดีกว่าเนอะ” กันพิรุณพยายามเรียกความร่าเริงของตัวเองกลับมา

หากก็ทำได้ยาก เมื่อเขาพยายามโทรเข้าแม้ว่าเธอไม่ยอมรับสายก็ตาม

“พี่ริวแค่นี้ก่อนนะ แบตฝนจะหมด แล้วอีกชั่วโมงฝนต้องไปรับซัมเมอร์ที่โรงเรียนด้วย ไว้ในโทรหานะคะ ขอบคุณค่ะ แล้วอย่าลืมนะคะ ห้ามบอกใครเรื่องนี้” กันพิรุณย้ำสัญญาทิ้งท้าย ก่อนจะบอกลากกัน

เธอมองเขาโทรเข้ามาก็กดตัดสาย ก่อนครุ่นคิด...

ถึงเวลาที่เรื่องระหว่างเธอกับเขาจะต้องจบลงอย่างถาวรแล้ว...

**********************************************


เขาต้องงงเมื่อไปถึงบ้านเธอ และพบคำตอบที่ผิดคาดที่สุด

“ไอ้ฝนพาซัมเมอร์ไปเที่ยวเกาะเสม็ดครับ ค้างสามคืน เห็นว่าจะไปบ้านเพื่อนแถวนั้นก่อน แล้วค่อยไปลงเรือ แล้วมันก็ไม่ได้บอกว่าจะไปเกาะวันไหน มันบอกว่าอยากจะพาลูกไปเยี่ยมเพื่อนหน่อยน่ะครับ” กันเหมันต์บอกกับเพื่อนน้องสาวเมื่อมาถาม โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะร้อนใจแค่ไหน

คิดจะจีบยายน้องสาวตัวแสบของเขาก็ต้องทำใจ...

“เพื่อนคนไหนเหรอครับ” เรย์มอนด์ยังคงพยายามถามให้ได้ข้อมูลมากที่สุด

“ถ้าผมรู้ ผมก็คงบอกคุณไปแล้วล่ะ ช่วงนี้ไอ้ฝนมันชอบทำอะไรมีลับลมคมใน ผมก็ไม่รู้จะบอกคุณยังไงเหมือนกัน มันไปรับลูกตั้งแต่โรงเรียนเพิ่งเลิก แล้วก็เอาลูกผมมาส่ง แล้วก็ออกไปเลย ไม่ทันได้ซักมันหรอกครับ” กันเหมันต์ให้ข้อมูลเท่าที่เขารู้ เพราะเจ้าน้องสาวก็ไม่ยอมบอกอะไรมากเหมือนกัน

“เฮ้อ” เขากระแทกลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด ก่อนจะบอกลาพร้อมขอบคุณ ก่อนจะถูกโทรมาเร่ง “ผมรู้แล้วครับคุณยาย ถ้าไปไม่ทัน ผมก็ไม่ไป แค่นี้นะครับ ผมจะขับรถแล้ว”

ถ้าวันพรุ่งนี้ไม่มีงานด่วน เขาก็คงไม่ต้องรีบกลับบ้านแบบนี้ ให้ตายเถอะ หวังว่าเธอคงไม่พาลูกหนีเขาไปอีกนะ เพราะไม่งั้นนอกจากจะไม่ได้แม่มาเป็นเมียแล้ว เขายังอดได้เจอหน้าลูกอีก

ให้ตายเถอะ...ทำไมมันต้องวุ่นวายแบบนี้

**********************************************





เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 พ.ค. 2554, 04:57:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 พ.ค. 2554, 04:57:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 2656





<< แผนร้ายในทางรัก17   แผนร้ายในทางรัก18 >>
น้องอ้อ 7 พ.ค. 2554, 06:30:04 น.
ตามมาอย่างเร็วเลยค่ะ เจิมๆ


Noka 10 พ.ค. 2554, 10:39:44 น.
รอค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account