ลิขิตพราย โดย วงแหวนดาวเสาร์ สนพ.อรุณ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางรอนแรมไปในหนทางมืดมิด
มีเพียงเสียงหริ่งเรไรและหิ่งห้อยนำทาง
เขากำลังหนีจากสังคม ผู้คน มาเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในป่าลึก... “บ่อพราย”
ตำนานเล่าขานกันว่าหากใครได้ส่องดูเงาตนเองที่บ่อในคืนเดือนมืด คนผู้นั้นจะมองเห็นสิ่งที่ตนตามหา

พี่นนท์คนใหม่กลายเป็นอีกคนที่เพลงพิณไม่รู้จัก จากผู้ชายขี้แพ้ สุภาพ อ่อนโยน ไม่สู้คน
กลายเป็นกระด้าง ปราดเปรียว สนุกกับชีวิตในเวลาที่ได้เอาชนะทุกสิ่งด้วยแววตาทรงพลังจนน่าขนลุก
ชั่วเวลาไม่กี่เดือนสรานนท์กลับกลายจากคนหมดตัวไปเป็นตากล้องมาแรงที่สุดในขณะนั้น
เขาเปิดนิทรรศการภาพถ่ายชวนพิศวงและดูสูงค่าจนเหล่าเศรษฐีแทบจะเหยียบกันเพื่อแย่งชิงไปไว้ในครอบครอง
ด้วยแรงดึงดูดแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่พลังจากน้ำมือมนุษย์
Tags: สรานนท์ เพลงพิณ ธิติ พล กมลณัฐ บ่อพราย

ตอน: บทนำ

ยามนั้นเป็นเวลากึ่งสนธยา ฟ้ามัวสลัวสีสันแปลกยังไม่ทิ้งแสงอึมครึม
ภายใต้ป่าทึบที่กำลังเริ่มราผลัดใบ ดูเหมือนใบไม้เท่าที่พอมีเหลืออยู่ก็เพียงพอจะป้องกัน
มิให้แสงสว่างลอดลงมาเกินจำเป็น

ในที่ซึ่งไม่มีผู้ใดผ่านมาพบเห็น ชายหนุ่มนั่งทอดกายอยู่กลางป่านั้นมาพักใหญ่
หมดกำลังไปต่อ เขาคิดว่าตนเองคงจะมาได้แค่นี้ นี่แหละ สุดทางแล้ว...
เจ้าของร่างสิ้นไร้แรงปล่อยให้ลมแล้งแตะสัมผัสทุกอณูกาย ท่วงท่าเผินๆ
คล้ายสบายๆ ทว่าเขากำลังปลงตก

“อืม...” เสียงแหบพร่าครางแผ่ว มือควานเปะปะไปข้างๆ คว้าเอากระเป๋ากล้อง
ขึ้นมากอดไว้กับอก จิตวิญญาณของเขาอยู่ในนั้น กล้อง...คือดวงตาอีกดวงของเขา
ให้นึกดีใจที่ยังเหลือมันเป็นเพื่อน แม้เป้สัมภาระขาดหล่นไปตอนกระโจนข้ามเหว
หวิดตายเมื่อวานนี้ เขาบาดเจ็บสะบักสะบอมไปทั้งตัวแต่ไร้ซึ่งยาจะมาสมานพยาบาลตน

แต่ช่างเถอะ...

ไหล่เขาทรุดลงอีกขณะที่ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอแห้งเป็นผงอย่างยากเย็น
สายตาเปล่าดายทอดผ่านแว่นตาเลนส์ร้าวข้างหนึ่ง มองไปตลอดตั้งแต่ยีน
ที่เพิ่งจะมาขาด จนปลายเท้า รองเท้าเดินป่าซึ่งใช้มาหลายปีมีอันชำรุดเสียหาย
เพราะพื้นที่ทุรเข็ญซึ่งเขาก้าวผ่านมาลำพังในชั่วระยะแค่สองสามวัน
เขามองรองเท้าคล้ายไม่เคยเห็นมันมาก่อน ราวกับว่าไปย่ำผ่านนรกมา
สภาพมันยับเยิน... เปื่อย... ผุ... เหมือนใบไม้แห้งเกลื่อนกลาดที่กลิ้งกรอบแกรบ
ไปด้วยแรงลมกวาดพวกมันเรี่ยพื้นผ่านไป
ใบไม้พวกนั้นเป็นสีน้ำตาล แห้งเหี่ยวพอๆ กับซากชีวิตของเขา



เขาเองตัดสินใจเข้ามาในป่านี้ตามลำพัง ลึกเข้ามา ลึกเข้ามาเรื่อยๆ
โดยไม่ฟังใครทัดทาน เพื่อหนีจากชีวิตอันบอบช้ำมาหาความหวังหนึ่งที่ซ่อนเร้นใจกลางป่าลึก
ยามนี้เขาไร้แรงไปต่อ แสบโพรงจมูกจนต้องเปลี่ยนมาหายใจทางปาก รู้สึกได้ถึงลม
ที่ไหลผ่านริมฝีปากแห้งแตกเป็นแผ่น หิว กระหาย ง่วง ยังเกรงภัยจากสัตว์ร้าย
ที่อาจกรายผ่านมา แต่ในเมื่อยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว สู้อุทิศร่างกายให้พวกมัน
กินเป็นอาหารเสียเลยจะเป็นไร

นั่นสินะ ที่เขาเป็นตลอดมา ถึงอยู่ท่ามกลางสังคมมนุษย์หรือว่ายามเร้นมายังป่า
ไม่ว่าจะพาตัวไปอยู่ที่ไหน...เขาก็คงยังเป็น ‘เหยื่อ’

นัยน์ตาโรยบอบช้ำยิ่งหรี่ปรือลง เมื่อเคลิ้มๆ ภาพเดิมๆ ที่ฉายวนเวียนก็กลับย้อน
ใจซึ่งหวั่นไหวยังปวดหนึบ รู้ดีว่าเมื่อตนเองหลับ
เขาก็อาจจะฝันถึงเรื่องราวเหล่านั้นอีกครั้ง และอีกครั้ง...




อรดีเป็นผู้หญิงสวย ทันสมัย ปราดเปรียวเกินกว่าจะมาคบหากับผู้ชายธรรมดาๆ อย่างสรานนท์
ถึงจะเป็นแบบนั้นเขากับเธอก็เป็นแฟนกันมาจวนสองปีอยู่รอมร่อ แต่ในวันนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไม
ทำไมเธอถึงเลือกที่จะบอกลาเขาไป

‘รดีว่าเราไม่เจอกันอีกดีกว่านนท์ ถ้านนท์ยังย่ำอยู่กับที่แบบนี้ ไม่สิ...ถอยหลังลงไปทุกวันๆ
รดีก็ไม่ไหวเหมือนกัน’

‘แล้วที่ดีบอกว่าเราจะมีกันตลอดไปล่ะ’

‘เหรอคะ ดีจำไม่ได้แล้ว... ขอโทษนะนนท์’

เธอเรียกตัวเองว่ารดี แต่เขาเรียกเธอว่าดีเฉยๆ
คนรักของเขาก็มีดีสมชื่อทุกอย่าง คงมีแต่เขาที่ไม่ดีพอสำหรับเธอ
เขาวิ่งตามคนที่กำลังกลายเป็น ‘คนรักเก่า’ ไปบนถนนสายยาวแสนว่างเปล่า
มื้อเอื้อมสุดแขนไปคว้าไหล่เธอไว้
แต่ที่หันมากลับเป็นใบหน้าอันคุ้นตามานานยิ่งกว่าของเพื่อนรัก...ธิติ

‘ถ้าแกไม่มีเงิน ฉันก็ให้แกอยู่ที่นั่นต่อไม่ได้ ความเป็นเพื่อนของแกกับฉัน
มันน่าจะจบไปตั้งแต่เรื่องคราวก่อนแล้ว’

ใช่ เรื่องคราวนั้น ความตายของพ่อเขากับพ่อธิติ
เรื่องสะเทือนใจที่ใครก็คงไม่คาดคิดว่ามันจะเกิด เมื่อมรณกรรมของคนทั้งคู่
มาถึงพร้อมกันอย่างแปลกประหลาด ความเจ็บปวดตกค้างยังชวนสะท้านในอก
จนร่างของสรานนท์กระตุกเยือกทั้งยังหลับใหล

‘ธิติ แกเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่หรือไง เราเป็นเพื่อนร่วมสาบานด้วยซ้ำ’
เสียงแหบโหยของเขาเองที่เอ่ยออกไป

‘ร่วมสาบานเหรอ นั่นมันก็แค่เรื่องเล่นๆ ของเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ดูหนังจีน
มากไปหน่อยอย่างฉัน แก แล้วก็ไอ้พล เอาเถอะ จะให้โอกาสอีกสักครั้ง รีบไปหาเงินมา
จะหาจากไหนก็เรื่องของแก หาไม่ได้ ก็เรื่องของแก...ห้องแถวนั่นก็จะเป็นของฉัน
ให้เวลาถึงสิ้นเดือน แต่ฉันว่าแกรีบไปเตรียมขนของย้ายออกแต่เนิ่นๆ ดีกว่า’

เขาหมดแรง นั่งแปะลงกับขอบถนนที่ก่อสูงขึ้นมา ซบหน้าลงกับฝ่ามืออย่างคนแพ้
ในขณะที่เสียงปรบมือจากมหาชนดังขึ้นรอบๆ
คล้ายจะเรียกให้สรานนท์เงยหน้าขึ้นมองความจริงอีกครั้ง

ภาพถ่ายชีวิตของผู้คน...ภาพนั้น ที่เขาเป็นคนลั่นชัตเตอร์กับมือ แสงไฟบนเวที
สาดไปจับยังเรื่องราวซึ่งปรากฏแก่ตา ทว่า...ชื่อที่ถูกประกาศ ไม่ใช่ชื่อเขา
‘ธิติ เหมวัช’ ถูกเรียกขึ้นไปรับรางวัล
ในขณะที่อีกภาพซึ่งเขาส่งในชื่อตัวเองถูกเขี่ยตกรอบอย่างไม่ไยดี

‘ก็ถือซะว่าแทนค่าเช่าห้องในตึกทำเลหรูที่ฉันให้แกอยู่มาตั้งหลายเดือนไง
ทั้งที่สมบัติพ่อแกมันควรจะเป็นของพ่อฉันทั้งหมดนานแล้ว’


นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย เขาสติขาด ปราดเข้าไปชกหน้าเพื่อนเต็มแรง
ธิติเองก็ทันได้ซัดตอบมาหมัดหนึ่ง รุนแรงยิ่งกว่าจนสรานนท์ล้มลง
แว่นตากระเด็นไปไกล เขาไม่ยอมแพ้ ใครต่อใครต้องกรูเข้ามาช่วยกันยื้อไว้

ธิติไม่เอาความในเรื่องนี้ เพราะมันได้ในสิ่งที่ใหญ่ยิ่งกว่าไปจนสาสมใจแล้ว
สรานนท์เกือบถูกให้ออกจากงาน แต่ในที่สุดก็เหลือเพียงขั้นพักงาน
ด้วยมีเสียงของใครคนหนึ่งช่วยเขาเอาไว้
...เธอเอื้อมมาจับมือเขาไว้ก่อนที่เขาจะจากมา เขาปลดมือขาวบอบบางออกช้าๆ
สบตาอีกฝ่ายแล้วหลุบตาลง เพลงพิณทำแบบนี้กับเขาเสมอ ทั้งที่มองเขาเป็นเพียงพี่ชาย

‘พี่นนท์จะไปไหน’

‘ขอบคุณนะเพลง พี่ไปไม่นานหรอก หายดีแล้วพี่จะกลับมา’ ตอนนี้เขาเป็นอิสระ
ด้วยพ้นช่วงที่จะต้องรีบร้อนลนลานหาเงินไปชดใช้หนี้ที่บิดาก่อไว้ ทุกอย่างมันเกินสายไปแล้ว


สรานนท์เป็นคนอ่อนไหว เขาอยากมีน้ำตากับเรื่องที่วนเวียนอยู่ในจิตสำนึก
ชีวิตเขาควรมี แต่กลับขาด... ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอ แต่ทุกสิ่งคล้ายถูกช่วงชิงไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
อาจเป็นที่เขาผิด ด้วยอ่อนแอเกินจะรักษาสิ่งที่มีในมือไว้

หลบเร้นหนีหน้าจากเมืองเข้ามาสู่อ้อมกอดของป่า หรือว่าจะเป็นกรงเล็บ...
เพื่อตามหาพรประการหนึ่งจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในป่าลึก ด้วยบันทึกถึงเรื่องพรายที่ปู่ทิ้งไว้ให้
ปู่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกอย่างเพราะความลับนี้งั้นหรือ เขายังมิทันได้คำตอบก็หลงทางมา
ไกลเกินกว่าจะถอยกลับในป่าอันเร้นลับ

ร่างมอซอคงหลับอยู่อย่างนั้นท่ามกลางลมโชยชายพรายพลิ้วแห่งไพรลึก
เจียนจะตายเพราะขาดทั้งอาหารและน้ำ
ฝนเริ่มตกลงมา เขาคิดว่ามันคือฝัน กระทั่งหยาดหยดฉ่ำเย็นไหลเข้าปาก
อณูแห่งชีวิตนั้นปลุกให้สรานนท์กะพริบตาอีกครั้ง สูดเอากลิ่นอันน่าสะพรึงเข้าไปเต็มปอด
ในที่สุดเขาก็ต้องตื่นมาพบความจริงอันน่าหวาดหวั่นที่ยังดำเนินไปไม่สิ้นสุด พวกมันคงกำลัง
รอคอยเขา จับตาดูเขาอยู่ในมุมมืดมุมใดมุมหนึ่งของป่า...

สรานนท์ลุกขึ้น เขาต้องก้าวต่อไป เพื่อค้นหา ‘บ่อพราย’ หรือบึงอันเป็นแหล่งของพวกมันให้พบ
ทำให้ความปรารถนาแรงกล้าทั้งหมดของตนเป็นจริง ชายหนุ่มหายใจเข้าเต็มปอด
กระชับมีดในมือมั่น ไม่ใช่มีดเดินป่าทันสมัย หากแต่เป็นมีดอย่างของชาวบ้าน
ลวดลายสลักโยเย้บนใบมีดลงดำขรึมขลัง ลายนั้นคลับคล้ายสะท้อนประกาย
เลื่อมวาบขึ้นรับกับกระแสลมประหลาดที่พัดมา


อาวุธเพียงอย่างเดียวที่จะพาเขาไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้
มีดสะกดพราย...








[โปรดติดตามบทที่ ๑ ใครบางคนที่หายไป]



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ค. 2555, 15:11:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:28:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1881





   บทที่ ๑ ใครบางคนที่หายไป(ตอนแรก) >>
อสิตา 2 ก.ค. 2555, 15:25:46 น.
กำลังเขียนอยู่ค่ะ โพสต์ต่อเนื่องจนจบแน่นอน แต่จบแล้วลบเลยนะ


ฮอบบิท 2 ก.ค. 2555, 15:34:34 น.
ดูลึกลับชวนติดตามสไตล์อสิตาจริงๆ จะรอตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ...เชื่อว่าชีวิตบัดซบของสรานนท์จะจบลงด้วยดี ผู้ชายอะไร น่าเห็นใจตั้งแต่ต้นเรื่อง ถูกแฟนทิ้ง ถูกเพื่อนขโมยงาน ฮ่วย!!!


อสิตา 2 ก.ค. 2555, 15:43:37 น.
นั่นสิคะ ชีวิตระกำช้ำชอก ต้องรอดูว่าฮีจะเปลี่ยนเป็นคนแบบไหนน้า...


บุลินทร 2 ก.ค. 2555, 15:45:56 น.
น่าสนใจนะ (มาอวยพี่มิ้งค์ ฮ่าๆๆๆ)


อสิตา 2 ก.ค. 2555, 15:47:24 น.
กรี๊ดดด กลัวเจอข้อหาอวย แต่มันสนุกจริงๆนี่เนอะทำไงได้ !!!


ameerahTaec 2 ก.ค. 2555, 15:59:10 น.
*0* *0* *0* (คนเขียน)อัคนิกลับมาแล้ววววววว น่าสนุกดีคะ ชวนติดตามสุดๆ อิอิ


sai 2 ก.ค. 2555, 16:03:42 น.
เปิดเรื่อง ทำให้สงสาร พระเอก แต่จบตอนด้วยความลุ้นว่าเมื่อไหร่ พรายจะมา o_O


อสิตา 2 ก.ค. 2555, 16:07:38 น.
แฟนคุณแทคยอน ไม่ได้คุยกะคนอ่านในสิรินดามาแรมเดือน คิดถึงค่ะ
เรื่องนี้ก็จะให้พี่นนท์เร้าใจไม่แพ้อัคนินะ
คุณซาอิ แกะน้อยงุงิ เจอกันอีกแล้ว กอดแกะ หมับๆๆ
พรายมาแล้วพี่นนท์จะเอาชนะพราย หรือโดยพราย...ก็ไม่รู้สิ


Auuuu 2 ก.ค. 2555, 16:24:41 น.
โว้วววววววววว มีพรายมาเกี่ยวข้องซะด้วยยยยย


goldensun 2 ก.ค. 2555, 17:04:54 น.
เปิดฉากน่าสนใจ ทั้งรันทด บีบคั้น ทอดอาลัย ผสมกับฮึดสู้ โดนคนรอบข้างทิ้งหมดเลย เหลือแต่เพลงพิณที่ยังพอเอาใจช่วยบ้าง อยากรู้จัง พรายมอบโชคลาภให้ แล้วพรายได้อะไรตอบแทน ปู่บอกมั้ย


Zephyr 2 ก.ค. 2555, 19:20:20 น.
โห มะม้าอ่า เปิดมาชีวิตพระเอกรันทดเชียว บัดซบได้อีก ดราม่าเยอะๆเลย
เป็นพระเอกของอสิตาต้องอดทนใช่มะ หึหึ
อืม น่าสนเนอะ เข้าป่าไปหาพราย พรายไหนอีกนี่ พรายป่า พรายน้ำ พรายไพร พราย...
แล้วกลับมาพี่นนท์จะโดนพรายสิงป่าว


Chii 2 ก.ค. 2555, 19:23:15 น.
คันมือ อยากได้ไลค์อ่ะจิท่า
ขออ่านหลาย ๆ ตอนก่อนค่อยไลค์นะ :P
(บีบให้มาลงต่อเร็ว ๆ อย่าให้ค้างคา :D)


อสิตา 2 ก.ค. 2555, 19:53:11 น.
^
^
เขี้ยวเกินไปแล้ว แม่นักอ่านสาว
แบบนี้ระวังน้า...วันใดที่ท่านติดแล้วจะกลับเป็นทีของนักเขียนสาวบ้างละ แสยะ


lovemuay 2 ก.ค. 2555, 20:38:55 น.
น่าอ่านจังเลยค่ะ นางเอกจะเป็นใครเนี่ย?


บุลินทร 2 ก.ค. 2555, 20:48:37 น.
กระทู้นี้เหมือนคนอ่าน มนตราอัญมณี alumni เลย


zilvermoon 2 ก.ค. 2555, 21:10:30 น.
มาแล้วๆ ตามมาอ่านกันต่อไป นอกจากพระเอกจะเป็นขี้แพ้ขนานแท้แล้ว ยังอุตส่าห์มีเพื่อนชั่วได้ใจ รอติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึก อิอิ


wane 3 ก.ค. 2555, 02:30:58 น.
เปิดเรื่องได้น่าติดตามสุดๆ เลยค๊าาาา


ByFaR 3 ก.ค. 2555, 05:34:33 น.
you back yeah
very good for grand opening new story ka


ดารานิล 3 ก.ค. 2555, 10:17:15 น.
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย ไรกันคะคุณพี่อัพเรื่องนี้ที่นี่แล้วเหรอ อิอิ


anOO 3 ก.ค. 2555, 13:17:56 น.
เหมือนจะเป็นเรื่องลี้ลับเลยแหะ


หมูอ้วน 3 ก.ค. 2555, 13:19:02 น.
ชอบค่ะชอบ เร้นลับ ตื่นเต้นดีค่ะ หุหุ


ริญจน์ธร 3 ก.ค. 2555, 13:56:22 น.
แวะมาดูพี่มิงค์ นึกว่าจะไม่อัพเสียแล้ว


ใบบัวน่ารัก 4 ก.ค. 2555, 21:37:34 น.
เศร้า


shadha 28 ก.ค. 2555, 21:33:07 น.
มี๊...มา มี๊ บอกว่าเค้าตามมาแล้วนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ


ClaireBear 9 ส.ค. 2555, 17:36:54 น.
ตามมาอ่านจากแดนไกล ขอบอกว่าสนุกมากๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งค่ะ


เขมปัณณ์ 17 ต.ค. 2555, 20:51:59 น.
ตามมาอ่านครับ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account