เรือนกุหลาบ
กุหลาบแสนสวยดอกนั้น ช่างแสนดี เป็นที่รักเทิดทูนบูชาของหล่อนสุดหัวใจตั้งแต่เล็กจนโต..หญิงสาวไม่รู้เลย ว่าเบื้องหลังกุหลาบสีสวยนั้นซ่อนคมหนามไว้มิดชิด..เพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของหล่อนทุกวิถีทาง!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่๒๑ สาวแสบ ๑/๒

ห้องบอลรูมแห่งนั้นมีโคมระยิบระยับหลากสีจากบนเพดานตำแหน่งใจกลางห้อง สะท้อนรับกับลำแสงสป็อตไลท์จากทุกทิศทางเบื้องล่าง ทำให้ให้แท่นเวทีแนวยาวยกระดับเกือบสองเมตรเป็นที่หน้าจับตามองและดึงดูดสายตาแขกผู้มีเกียรติทุกคนให้สะกดอยู่กับความเคลื่อนไหวบนผืนพรมแดงสุดอลังการ

ลวดลายเพ้นสีน้ำออกพาสเทลและปุยหิมะบนฉากหลังตบแต่งสไตล์วินเทจ สมกับเป็นแฟชั่นฤดูหนาว ที่จัดขึ้นกลางเดือนมกราคม หุ่นจำลองของนกฟลามิงโกสีสันสดใส ประดับอยู่ห่างๆกันสองข้างเวทีทำให้พรมสีสดนั้นดูเย้ายวนปนกับความน่ารัก พิธีกรหนุ่มสาวในเครื่องแต่งกายสวยหรูกลืนกับลวดลายของงานเริ่มประกาศอย่างเป็นทางการ

“ผลงานคอลเล็คชั่นwinter จากดีไซเนอร์มือหนึ่งพร้อมแล้วนะคะผู้มีเกียรติทุกท่าน..”

เสียงปรบมือจากผู้ชมดังกระหึ่มไปทั่วห้องโถงใหญ่แห่งนั้น แขกที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สองข้างของเวทีล้วนแล้วแต่เป็นชาวต่างชาติหน้าตามีสกุล บอกยี่ห้อว่าใช้ของแบรนด์เนมมาเกือบตลอดชีวิต พิธีกรอีกคนกล่าวอะไรสั้นๆต่ออีกสองสามคำ ไฟจากทั่วมุมห้องก็ถูกหรี่แสงลง เหลือเพียงความสว่างจากสป็อตไลท์จับอยู่ตลอดแนวเวทียาว และสีระยิบระยับจากโคมหรูเบื้องบน ความเคลื่อนไหวของนางแบบประจำงานเริ่มปรากฏสู่สายตาผู้ชม ห้องทั้งห้องเกือบเงียบกริบ มีเพียงเสียงชัตเตอร์รัวเร็วจากตากล้องของนักข่าวทั้งไทยและเทศดังขึ้นราวกับประชันกัน

หนึ่งในกลุ่มชาวไทยไม่กี่คนคือกวิน ที่นั่งอยู่เกือบติดขอบเวทีด้านหน้าสุด เพทายเป็นธุระจับจองเก้าอี้ตัวนี้ให้เขาเสียตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจทราบ รู้เพียงแต่ว่าหล่อนกำชับนักหนา..ให้เขาจับตามองตำแหน่งหน้าสุดบนเวทีนั้นอย่างไม่กระพริบตา โดยเฉพาะเมื่อนางแบบโพสต์ท่านิ่งเพื่อให้ตากล้องเก็บภาพ และจังหวะหมุนตัวกลับช่วงที่นางแบบคนต่อไปจะเข้ามาแทนที่ ชายหนุ่มนิ่วหน้าเมื่อหันไปมองเก้าอี้ข้างกายแล้วพบเพียงความว่างเปล่า

“อาจารย์ผมเขาไปไหนแล้วล่ะครับ คุณลิน?”

ชายหนุ่มนับสาวปากจัดอย่างเพทายเป็น “อาจารย์” ตั้งแต่หล่อนเริ่มปริปากหลุดข้อมูลเกี่ยวกับกุหลาบ แม้เพียงน้อยนิดก็ตาม ให้เขารับรู้ในวันนั้น กวินเริ่มเรียนรู้ว่าเขาควรจะวางตัวอย่างไร และพูดจาแบบไหนเพื่อให้คุณครูจำเป็นคนนี้ถ่ายทอดวิชาให้กับเขาอีกเรื่อยๆ และมากยิ่งขึ้น แม้จะไม่ถูกหูนักกับคำสบประมาทและคำหลอกด่าต่างๆนานาของหล่อน แต่เขาก็ต้องอดทนเพื่อให้หญิงสาวยอมรับ และเมื่อเขาเรียกหล่อนว่า..อาจารย์ตั้งแต่ไปรวมตัวกันที่เรือนกุหลาบเมื่อเช้านี้ ก่อนออกเดินทางมาที่งาน ตามคำเชิญชวนของแพรวา กวินก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น..อย่างน้อยเจ้าหล่อนก็ยกยิ้มมุมปากให้เขาสักสองสามวินาที แล้วก็ไม่มีคำประชดประชันให้แสบคันหัวใจอย่างเคย

“เอ..ไม่ทราบซีคะ มัวแต่เพลินมองนางแบบครู่เดียวเอง หันมาก็ไม่เห็นเสียแล้ว”

ไพลินตอบเสียงสุภาพตามแบบของหล่อน หญิงสาวนั่งเก้าอี้ถัดจากเขาไปอีกหนึ่งตัว มีเพทายคั่นระหว่างกลาง ความจริงหล่อนไม่ได้อยากมางานนี้ ประการแรกคือเจ้าของห้องเสื้อไม่ได้ออกปากชวน ประการที่สองคือ หล่อนไม่ถนัด และไม่นิยมเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ถึงแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อนางแบบเริ่มเฉิดฉายกันออกมาบนเวที รูปร่างสูงเพรียว บุคลิกมาดมั่น และท่วงท่าในการเดินจะดึงดูดสายตาหล่อนไม่น้อย..หากเพทายไม่คะยั้นคะยอ หาเรื่องโน้มน้าวอย่างเช่น มุกดาถูกจับเป็นนางแบบชุดฟินาเล่ของงานนี้ หล่อนต้องช่วยมาเป็นหูเป็นตาไม่ให้น้องสาวคนเล็กถูกกลั่นแกล้ง ไพลินคงยินดีที่จะนั่งตรวจการบ้านนักเรียนส่วนที่คั่งค้างเพียงลำพังในห้องของหล่อน ไม่ออกมาชื่นชมแฟชั่นอย่างตอนนี้

“จอยเห็นหลังไวๆ เดินไปทางห้องแต่งตัวเมื่อกี้นี้เองค่ะ ท่าทางพิกลยังไงไม่รู้ค่ะ เอาแว่นดำบะเร่อบะร่ามาใส่ ขัดตาชะมัด”

ลลิตพรรณที่นั่งติดกับกวินอีกฝั่งหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมาพลางขมวดคิ้วมุ่น หล่อนเป็นคนหูตาไว ใครเคลื่อนไหวนิดเดียวก็จับสังเกตได้

“งั้นหรือ..” กวินทำเสียงในลำคอเป็นเชิงขัน “ผมว่าพิกลตั้งแต่ให้พวกเรามานั่งหน้าเวทีแล้วล่ะครับ..ใครไม่รู้จักเขาจะนึกว่าผมเป็นพวกลามกอนาจาร เที่ยวมานั่งชะเง้อคอมองขาอ่อนผู้หญิง”

เสียงหัวเราะของสาวหน้าหมวยกับไพลินดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน การแสดงคล้ายบัลเล่ต์โชว์ของสาวตาน้ำข้าวสามสี่คนออกมาคั่นกลางนางแบบที่เพิ่งกลับเข้าไปหลังฉาก ชุดที่พวกหล่อนใส่ออกมาอวดโฉมล้วนเป็นลวดลายเบาๆ น่ารักๆ เน้นลายฟลามิงโกสีพาสเทล สไตล์สำหรับใส่ไปเที่ยววันสบาย เสียงชัตเตอร์ยังรัวถี่ไม่ขาดสาย ลลิตพรรณและไพลินหันกลับไปสนใจความสวยงามบนเวทีตามเดิม เสียงของกวินลอยผ่านหูเข้ามาเหมือนสายลมแผ่วเบา

“แพรบอกจะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่..ผมชักอยากรู้เสียแล้วซี..เค้าหมายถึงอะไร?”

ห้องแต่งตัวของเหล่านางแบบจัดอยู่บริวณปีกซ้ายหลังฉากม่านสีดำใกล้เวที ความเคลื่อนไหวของผู้มาใหม่ทำให้สาวสวยหลายคนเหลียวไปมอง เสียงหัวเราะคิกคักดังตามมาติดๆ เมื่อบุคคลที่ล่วงเข้ามาในเขตมิใช่นางแบบหรือนักแสดงที่กลับเข้ามาเปลี่ยนชุดออกโชว์ ทว่ากลับเป็นหญิงสาวชาวไทยร่างเล็กในเครื่องแบบพนักงานทำความสะอาดของโรงแรม เดินลากไม้ม็อบถูพื้นกับถังน้ำเข้ามา

ถึงแม้ว่าหล่อนจะพยายามหลบสายตาผู้คนด้วยการเดินเลียบไปตามขอบผนังห้อง แต่ความประหลาดของใบหน้า ที่ทาสีลิปสติกเอาไว้แดงแจ๋เคลือบริมฝีปากชนิดที่เลยขอบออกมาอย่างคนแต่งหน้าไม่เป็น ปลัชออนสีชมพูแหววสองพวงแก้มที่ตบแต่งเป็นลายจุดกลมๆเหมือนแก้มลิงมากกว่าแก้มคน และสะดุดตาที่สุดคือแว่นดำอันใหญ่ปิดส่วนของใบหน้าไปเกือบหนึ่งในสาม..เป็นที่มาของเสียงหัวเราะขบขันจากสาวงามทุกคนที่บังเอิญหันมาเห็นเข้า

“ดูนั่นสิ..แม่บ้านคนนั้นคงอยากเด่นอย่างพวกเรา โถ..น่าสงสาร”

สำเนียงภาษาอังกฤษชัดแจ๋วของนางแบบเมืองผู้ดีคนหนึ่งดังกระทบหู “แม่บ้านจำเป็น” หล่อนชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันมาเหยียดยิ้มเพียงครู่เดียวแล้วเดินลากไม้ม็อบลึกเข้าไปด้านใน สาวผมทองอีกคนตีเผียะเข้าที่ท่อนแขนเพื่อนร่วมงาน

“นี่เธอ..ไปว่าเขา สงสัยฟังภาษาเราออก เมื่อกี้หันมามอง”
“คิดมากไปได้..ฟังไม่รู้เรื่องหรอก พวกคนชั้นต่ำแบบนั้น”

สาวเมืองผู้ดีเบะปากเป็นเชิงเหยียดหยัน ส่ายหน้าช้าๆ มองเพื่อนด้วยสายตาทำนองว่า..เธอพูดอะไรช่างตลกพิลึก หล่อนยักไหล่ก่อนจะหันไปแต่งเติมสีสันบนใบหน้าตัวเองต่อ

ไม่มีใครสนใจ “ตัวตลก” คนนั้นอีกเลย เมื่อได้เวลาอวดโฉมชุดใหม่บนเวทีสุดอลังการ เสียงกังวานใสของแพรวาประกาศให้ทุกคนเตรียมตัว สำรวจความงามให้พร้อมก่อนเยื้องย่างออกไปอย่างสง่าอีกครั้ง

ทุกคนวิ่งไปกระจุกตัวอยู่ตรงปากทางออกเชื่อมเวที ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า แม่บ้านถือไม้ม็อบคนนั้นกำลังมุ่งตรงไปยัง นางแบบชุดฟินาเล่ ที่กำลังนั่งสะอื้นไห้บนโซฟา ด้วยความแน่วแน่..




ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ค. 2555, 22:41:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ค. 2555, 22:41:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1675





<< บทที่๒๐ ความจริงหลังหน้ากาก ๒/๒   บทที่๒๑ สาวแสบ ๒/๒ >>
wane 3 ก.ค. 2555, 02:17:10 น.
เพทายเท่ห์มาก


เดิมเดิม 3 ก.ค. 2555, 08:08:11 น.
พี่เพแสบจริงๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account