ร้อยเล่ห์ แสนรัก
ดาดาริน...นางแบบสาวสุดฮอต วางแผนพิลึกพิลั่นเพื่อให้ ทองทิมหลงเสน่ห์ สาเหตุมาจากเธอเข้าใจว่าเขากำลังจะแย่งผู้หญิงจากผู้ชายที่เธอหลงปลื้ม

ด้วยแผนการเหล่านี้ ทำให้เกิดความสัมพันธ์อลหม่าน ระหว่างนางแบบสาวกับทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์


เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ปรินเซสแล้วนะคะ จะลงแค่ 70% ที่เหลือช่วยอุดหนุนหนังสือกันด้วยนะ ><
Tags: รัก,โรแมนติกคอมมาดี้

ตอน: บทที่ 14

แพรฝันที่กำลังเก็บร้านเงยหน้าขึ้นมอง ใครคนหนึ่งที่ยืนยิ้มแป้น เคาะประตูอยู่หน้าร้าน ทำเอาหัวใจเธอสั่นไหว แต่แล้วเธอก็ต้องอึ้งไป เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว

“ดีใจจริงๆ ที่คุณแพรยังไม่กลับ” ทองทิมเอ่ยเสียงหวาน เมื่อแพรฝันเดินมาเปิดประตูให้ “ผมกลัวจริงๆว่าคืนนี้จะอดดื่มกาแฟฝีมือคุณแพร ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงนอนไม่หลับแน่”

“สงสัยคุณทองทิมจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ ถึงได้ไม่รู้ว่าในกาแฟมีสารคาเฟอีน แล้วสารตัวนี้แหละที่จะทำให้มนุษย์เรานอนตาค้าง มีใครบ้างที่นอนไม่หลับเพราะไม่ได้ดื่มกาแฟ” ดาดารินกระทบกระเทียบอย่างไม่เกรงใจ

“ก็ผมนี่ไงครับ....” ชายหนุ่มยกมือรับหน้าชื่น “ถ้าผมไม่ได้ดื่มกาแฟของคุณแพร ผมคงนอนไม่หลับ” เขาว่าเสียงหวาน จนดาดารินพาลจะอาเจียนเข้าให้

“คุณทองทิมมาเสียดึกเลยนะคะ” แพรฝันเปลี่ยนเรื่องอย่างอ่อนโยน เธอยิ้มให้กับผู้ที่ก้าวตามมาด้านหลังอย่างเป็นมิตร นางแบบสาวจำต้องยิ้มตอบตามมารยาท

“พอดีผมเพิ่งเลิกงานนะครับ คุณแพรปิดร้านดึกอย่างนี้คงเหนื่อยแย่” เขาถามเสียงอ้อน ดูห่วงใยจนออกนอกหน้า

“ไม่หรอกค่ะ คุณทองทิมอยากดื่มอะไรสักหน่อยไหมละคะ เดี๋ยวแพรทำให้”
ทองทิมอ้าปากจะปฏิเสธ แต่หญิงสาวที่ยืนเชิดคอราวกับนางพญาด้านหลัง กลับแทรกขึ้น

“ถ้า อย่างนั้น...ดาขอนมอุ่นๆ สักถ้วยละกันนะคะ ปกติดาไม่ค่อยรับประทานของหนักๆ ตอนกลางคืนอยู่แล้ว ได้ยินมาว่าร้านคุณ... คุณแพรใช่ไหมคะ ใช้นมสดในการชงกาแฟด้วย คงรสชาติดีจริงๆ เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณทองทิมคงไม่ติดหนึบอย่างนี้ ยังไงก็ขอดาชิมสักถ้วย ช่วยใส่ถ้วยกระเบื้องนะคะ ดาไม่ชอบรับประทานนมอุ่นๆ ในแก้วพลาสติก”

ดาดารินเอ่ยอย่างวางอำนาจ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมไม่ชอบหน้าสาวร่างเล็กบอบบาง ดูไร้พิษสงคนนี้ บางทีอาจเป็นเพราะว่าฝ่ายนั้นคือคนที่ธีร์แอบรัก นางแบบสาวเลยรู้สึกไม่ถูกชะตาด้วย

“ขอโทษจริงๆ นะคะ แต่ว่านมสดที่ร้านเราหมดตั้งแต่ตอนเย็นแล้วล่ะค่ะ คุณดาดารินรับอย่างอื่นแทนไหมคะ”

แพรฝันเอ่ยอย่างเกรงใจ ในขณะที่ทองทิมมองดูสองสาวสองบุคลิก คนหนึ่งอ่อนโยนราวกับนางฟ้า ส่วนอีกคน...เจ้ามารยาอย่างกับแม่มด

เขาคงไม่บ้าอุตริไปอยู่ข้างแม่มดใจร้ายแน่

“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ต้องลำบาก” ทองทิมออกโรงปกป้องนางฟ้าของเขา ถ้าดาดารินไม่กลัวว่ามันจะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นและสูญเสียภาพลักษณ์ เธอคงถลึงตา แลบลิ้น พร้อมกับเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้ไปแล้วแน่ๆ

“แล้วนี่คุณแพรกลับบ้าน ยังไงครับ ให้ผมไปสั่งไหม”

“ไม่รบกวนคุณทองทิมหรอกค่ะ วันนี้แพรขับรถมา”

“ลำบากแย่สิครับเนี่ย กลับบ้านดึกดื่น แถมยังต้องมาเปิดร้านเสียเช้าขนาดนั้น”

“ชีวิตการทำงานมันก็ลำบากกันทั้งนั้นแหละค่ะ ถ้าคุณทองทิมสงสารนักก็ให้คุณแพรไปอยู่กับคุณเลยสิคะ ยังมีห้องว่างอยู่อีกไม่ใช่เหรอในคอนโดมิเนียมของคุณน่ะ หรือไม่อย่างนั้นก็ให้อยู่ห้องเดียวกับคุณไปเลย จะได้สะดวกในการเดินทาง” นางแบบสาวตั้งใจประชด แต่ไม่คิดว่าคำพูดนั้นจะไปจุดประกายให้กับชายหนุ่มเข้าอย่างจัง

“จริง ด้วยสิครับ คุณแพรน่าจะย้ายมาอยู่คอนโดผมนะ น่าจะยังมีห้องว่างอยู่บ้าง เดี๋ยวขอผมไปเช็คดูก่อน คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง แล้วถ้าคุณอยู่ทำงานจนดึก ผมจะได้ไม่ต้องห่วงด้วย”

คำพูดของเขา เหมือนกะละมังสังกะสีใบใหญ่ตกมาฟาดหัวนางแบบสาวเข้าอย่างจัง ดาดารินมึนงงอยู่ชั่วครู่กับความใจป้ำของชายหนุ่ม เป็นห่วงเป็นใยกันขนาดนี้ทำไมไม่ขอเธอแต่งงานไปเลยละ

“ไม่เป็นไรค่ะๆ” แพรฝันรีบละล่ำละลักปฏิเสธ “คุณทองทิมไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ เพราะยังไงแพรก็คงไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้องในคอนโดของคุณอยู่แล้ว”

“ก็ ไม่เป็นต้องจ่ายเลยนี่ครับ...” คำตอบของเขาทำให้ทั้งสองสาวหันมามองเขาเป็นตาเดียว “แค่คุณแพรให้ผมดื่มกาแฟฝีมือคุณแพรตลอดชีวิต.... แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ”

-----------------------------------------------------------

“แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ.... พูดมาได้ยังไง ถ้าอยากดื่มกาแฟแทนค่าเช่าทำไมไม่เปิดร้านกาแฟไปเลยล่ะ หรือไม่นะ ถ้าอยากดื่มตลอดชีวิตขนาดนั้น ก็ขอยัยป้านั่นแต่งงานไปเลยสิ จะดื่มกันทุกมื้อให้นอนตายตาค้างไปเลย”

ดาดารินบ่นอย่างหงุดหงิดกับ ยาใจที่นอนยาวอยู่บนโซฟา ทันทีที่กลับมาถึงห้อง ซึ่งสาวร่างเล็กในชุดนอนไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไร เพราะมัวแต่จับจ้องโทรทัศน์เบื้องหน้า

“เหนื่อยหรือยัง... ขอฟังข้อสรุปด้วย ตกลงว่าคุณทองทิมให้คุณแพรฝันย้ายมาอยู่ที่คอนโดนี้หรือเปล่า”

“ก็...ไม่ใช่ตอนนี้แต่ก็คงอีกไม่นานแล้วล่ะ กระตือรือร้นเสียขนาดนั้น น่าหงุดหงิดจริงๆ ฉันแค่พูดเล่นๆ ไม่คิดว่าเขาจะบ้าจี้จริงจังด้วย หรือว่าเขาก็หาโอกาสนี้อยู่แล้ว อยากอยู่ด้วยกันขนาดนั้น ให้พ่อไปสู่ขอเลยป่ะ จะได้อยู่กินกันตลอดชีวิต”

นางแบบสาวใส่อารมณ์จนเพื่อนหรี่ตามองอย่างสงสัย
“แกพูดเหมือนว่าแกหึงเขาเลยนะ” ยาใจเอ่ยขึ้นลอยๆ แบบไม่ได้คิดอะไรมาก เธอก็แค่พูดในสิ่งที่เธอสังเกต เพราะเท่าที่ผ่านมา ดาดารินไม่เคยมีท่าทีอย่างนี้กับผู้ชายคนไหน

แม้แต่นายถ่าน.... เพื่อนเธอก็แค่ห่วงใย ไม่ใช่ ‘หึงหวง’

“อะไร ใคร ใครหึงใคร จะบ้าหรอ พูดอะไรบ้าๆ อย่างนั้น เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าหรอก ฉันไม่ได้หึงนายทองเทียมซะหน่อย แกมั่วแล้ว” ดาดารินปฏิเสธพัลวัน ทั้งๆ ที่คนถามไม่ได้จริงจังอะไรเลย

“ไม่หึงก็ไม่หึงสิ ทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า… แต่ฉันว่า มันก็ดีนะ ถ้าคุณทองทิมจะสานความสัมพันธ์กับคุณแพรฝันแบบจริงจัง เรื่องวุ่นๆ ก็คงจบลง”

“บ้า... มันจะดีได้ยังไง ทำอย่างนั้นธีร์ของฉันก็ได้อกหักแย่น่ะสิ”

“ไม่หรอก” ยาใจเอ่ยเหมือนรู้จักเขาเป็นอย่างดี “ฉันว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้ชอบคุณแพรฝันอย่างนั้นก็ได้”

สาวร่างเล็กทำท่าครุ่นคิด เธอเป็นพวกช่างสังเกต แล้วสิ่งที่เธอสังเกตเห็นจากนายถ่านมันก็ทำให้เธอรู้สึกตงิดๆ ในใจ

“อ้าว... ไหนแกเป็นคนบอกฉันเองว่าธีร์ของฉันชอบเจ้าของร้านกาแฟนั่น แล้วทำไมวันนี้ถึงมากลับคำอย่างนี้ล่ะ”

“ก็... ฉันก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่เท่าที่ฉันสังเกต เขาดูแคร์แกมากกว่าที่แคร์คุณแพรฝันเสียอีก เหมือนรู้สึกพิเศษอะไรกับแกอย่างนั้นแหละ”

“เดี๋ยวนะ!!!” ดาดารินขัดจังหวะ “แกไปสนิทสนมกับธีร์ของฉันตั้งแต่เมื่อไร ถึงได้มีเวลาสังเกตสังกาเขาเยอะขนาดนี้”

“ก็...เอิ่ม...” ยาใจอ้ำอึ้ง มีอีกหลายเรื่องที่ยาใจไม่ได้เล่าให้อีกฝ่ายฟัง ทั้งเรื่องที่เธอหลุดปากพูดความจริงกับนายถ่านไปแล้ว หรือแม้กระทั่งเรื่องที่เขาเข้ามาช่วยซ่อมรถให้วันนี้

กลัวว่าดาดารินจะตื่นเต้นโวยวายเสียสติไปกันใหญ่ เธอขี้เกียจตอบคำถามมากมายที่ต้องประเดประดังเข้ามา

“ก็... ก็วันที่แกให้ฉันไปบอกเขาว่าแกไม่ว่างไปตามนัดเขาไง ฉันก็เห็นจากวันนั้นแหละ”

“หรอ” นางแบบสาวเชื่อโดยไม่ติดใจสงสัย “แล้วยัยป้าร้านกาแฟนั่นล่ะ วันนั้นฉันก็เห็นว่าสายตาของธีร์ที่มองยัยป้านั่น มันหวานเยิ้มหยดย้อยแค่ไหน เขาไม่เห็นจะเคยมองฉันอย่างนั้นเลย”

อันนี้ก็เป็นอีกข้อกังขาหนึ่งของยาใจ ทำไมธีร์ทำเหมือนห่วงใยดาดารินเสียมากมาย ในขณะที่ส่งสายตาเป็นประกายให้กับผู้หญิงอีกคน

“เฮ้อ!!! ฉันว่าแกมั่วแล้วล่ะ ธีร์น่ะหรือจะรู้สึกอะไรกับฉัน แต่ช่างเถอะๆ... ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะชอบฉัน หรือว่าจะชอบใคร เพราะยังไงความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน ฉันจะทำทุกอย่างให้เขามีความสุข”

ดาดารินประกาศอย่างมุ่งมั่น แท้จริงแล้วเธอไม่เคยตระหนักเลยว่า การที่เธอไม่สนใจความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีต่อเธอ เป็นเพราะเธอรักเขาอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังผลใดๆ ตอบแทน

หรือว่าเธอ ไม่เคยคิดอะไรลึกซึ้งเกินกว่านั้น

“ฉันไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว นี่ใจ พรุ่งนี้ฉันไม่มีคิวเดินแบบที่ไหนใช่ไหม ดี...ฉันจะได้ไปเข้าฟิตเนสเสียหน่อย แกช่วยปลุกฉันแต่เช้าด้วยนะ เราจะได้ไปออกกำลังกายกัน” นางแบบสาวว่า ก่อนเดินนวดนาดกลับเข้าห้องตัวเองไป ได้ถามความเห็นของอีกคนเลยว่า พร้อมจะตื่นเช้าไปออกกำลังกายด้วยไหม

------------------------------------------------------------

นึกแล้วสะใจเหลือเกิน....

ตอนที่เห็นหน้าสวยๆ ของนางแบบสาวตกใจสุดขีด ก่อนเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ

คิดแล้วก็อยากหัวเราะออกมาดังๆ ทำมาเป็นประชดประชันดีนัก ก็ต้องเจอคนจริง ทำจริงอย่างเขานี่แหละ เป็นไงล่ะ ได้เดินงอนแก้มป่องขึ้นห้องตัวเองแทบไม่ทัน

ทองทิมคิดอย่างสนุกสนาน ก่อนก้าวบันไดขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า พื้นที่โล่งถูกแปลงให้เป็นสตูดิโอง่ายๆ สำหรับทำงานศิลปะ ข้าวของบางอย่างยังวางอยู่บนชั้นที่เดิม อย่างที่ดาดารินเคยจัดไว้ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าชายหนุ่มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น

เฟรมผ้าใบบนขาตั้งยังว่างเปล่า เขาเลื่อนเก้าอี้ไม้ไร้พนักพิงจากใต้โต๊ะตัวใหญ่มานั่ง ภาพหญิงสาวที่เพิ่งจากลาเด่นชัดขึ้นในความทรงจำ ดาดาริน....ผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรกันแน่

บางคราวเธอก็ดูเจ้าเล่ห์ แสนกล ร้อยมารยาจนน่าหมั่นไส้ แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ดูห่วงใย แสดงความจริงใจ เสียจนเขาไม่คิดว่าเป็นคนๆ เดียวกันได้

ทองทิมคิดไปเรื่อยเปื่อย มารู้ตัวอีกที ก็ตอนที่เห็นดวงตาคู่สวยจ้องมองกลับมาจากผืนผ้าใบตรงหน้า ภาพหญิงสาวในความคิด กระจ่างอย่างชัดเจนบนเฟรมที่เคยว่างเปล่า เขาแปลกใจตัวเองที่อยู่ๆ ก็ร่างภาพเธอขึ้นมา และร่างได้เหมือนแม้กระทั่งแววตาที่มองเขาอย่างไม่ยอมแพ้

ทำไม... เขาถามตัวเองขึ้นมาทันที ทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงได้วาดภาพเธอขึ้นมาได้ คงไม่ใช่เพ้อละเมอด้วยความคิดถึง เขารู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางจะหวั่นไหวกับผู้หญิงอย่างดาดาริน อย่างเขาต้องเรียบร้อย อ่อนหวานอย่างแพรฝันเท่านั้น

สำหรับนางแบบสาวร้อยเล่ห์ เขาแค่อยากเอาชนะ อยากกวนโมโห เพื่อให้เห็นรอยยิ้มหวานทั้งๆ ที่เธอโกรธสุด เขาแค่อยากกำราบคนที่ชอบปั่นหัวคนอื่น ว่าเวลาโดนอย่างนั้นบ้างจะรู้สึกอย่างไร

เขาบอกตัวเองว่าเท่านั้น... และมันก็ต้องเท่านั้นจริงๆ

---------------------------------------------------------

หลังจากใช้ความพยายามทั้งหมด ในการงัดร่างเล็กร่างเล็กที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นอยู่นาน ดาดารินก็ค้นพบว่าไม่มีทางที่ฝ่ายนั้นจะลุกจากเตียงขึ้นมาง่ายๆ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสมัครใจเข้าฟิตเนสในฝันมากกว่า

ในที่สุดดาดารินก็ปลง ถ้าขืนพยายามปลุกยาใจต่อ เธอคงหมดแรง ก่อนได้ไปเผาผลาญไขมันบนลู่วิ่งเป็นแน่

“ยัยขี้เซา ฉันไปฟิตเนสก่อนนะ” ดาดารินว่าใส่หูคนที่นอนหลับอุตุ มีเสียงอืออาตอบกลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว นางแบบสาวในชุดกีฬาเต็มยศส่ายหน้า ไม่รู้ว่าถ้าเธอกลับมายาใจจะยอมตื่นหรือเปล่า แต่เอาเถอะ... ฝ่ายนั้นทำงานหนักพอๆ กับเธอมาทุกวัน ให้พักยาวๆ อย่างนี้บ้างก็คงไม่เป็นไร

ดาดารินก้าวออกจากห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออกพอดี ต่างฝ่ายต่างชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่หญิงสาวจะเป็นฝ่ายตั้งสติได้ก่อน

“อะ... อรุณสวัสดิ์ค่ะธีร์” เธอทักทายอย่างเบิกบาน รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้านวลที่แต่งแต้มเพียงเครื่องสำอางอ่อนๆ มันดูกระจ่าง และสดใสกว่าทุกๆ ครั้งที่ได้เจอ ธีร์ทำตัวไม่ถูก เขาเอามือลูบหัวเกรียนๆ ของตัวเอง อย่างที่ทำเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าหญิงสาว ก่อนยิ้มตอบ

“อรุณสวัสดิ์ครับดา”

“ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” เธอเอ่ยต่ออย่างตื่นเต้น “แต่ปกติธีร์ก็ตื่นเช้าอยู่แล้วเนอะ แล้วนี่ธีร์จะไปไหนคะ แต่งตัวอย่างนี้อย่าบอกนะว่าจะไปออกกำลังกาย... ดาก็กำลังจะไปฟิตเนสอยู่เหมือนกันเลย ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเราจะใจตรงกันอย่างนี้”

นางแบบสาวกล่าวไปเรื่อย เปื่อยด้วยความเคยชิน ไม่ได้สังเกตอาการที่เกิดกับอีกฝ่ายเมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มผิวเข้มในเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นใส่สบาย ทำตัวไม่ถูก เขาดูเขินอายมากกว่าดาดารินด้วยซ้ำ

“แล้ววันนี้ธีร์ไม่มีงานหรอคะ” ดาดารินชวนคุย ขณะที่ทั้งสองเดินเคียงข้าง ตรงไปยังลิฟต์โดยสารปลายสุดของโถงทางเดิน

ได้เจอกันโดยบังเอิญอย่างนี้ ถือเป็นโชคดีนาทีทอง เธอต้องรีบตักตวงเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

หญิงสาวซ่อนความดีใจเอาไว้ด้วยการพูดคุยไม่หยุด ซึ่งธีร์ก็สมัครใจที่จะทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดีมากกว่าโต้ตอบอะไร

“ดาลืมถามไปเลยค่ะ วันนั้นที่ธีร์นัดเจอดา ธีร์มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ดาขอโทษจริงๆ ที่ไปไม่ได้ แล้วก็ไม่ยอมบอกก่อนล่วงหน้าด้วย ธีร์ไม่โกรธดาใช่ไหมคะ”

ชายหนุ่มร่างสูงส่ายหน้า เขาหรือจะโกรธเธอลง

“ไม่หรอกครับ ดาส่งคุณยาใจมาบอกผมแล้วนี่ครับ” พูดถึงตรงนี้ก็นึกถึงสาวตัวเล็กท่าทางเหมือนเด็กผู้ชาย เธอจะว่าอะไรบ้างถ้ารู้ว่าเขามีโอกาสได้อยู่กับดาดารินเพียงลำพัง

“ใช่ค่ะ ดาถามใจแล้วว่าคุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า มันก็บอกว่าไม่มีอะไร”

ธีร์แอบยิ้ม น่าจะเดาได้อยู่แล้วว่ายาใจคงจะบอกอย่างนั้น

“ครับ” เขาตอบสั้นๆ อย่างที่เคยชิน

“ดาไม่สบายใจเลยนะคะที่ผิดนัดธีร์วันนั้น งั้นเอาอย่างนี้ไหมคะ ไหนๆ วันนี้เราก็ว่างเหมือนกันแล้ว หลังออกกำลังกายเราไปทานข้าวกันดีไหมคะ ดามีร้านประจำอยู่ร้านหนึ่ง อาหารรสชาติดีทีเดียว บรรยากาศก็ดีด้วย เราไปทานด้วยกันนะคะ ธีร์จะต้องชอบแน่ๆ”

ดาดารินชวนอย่างกระตือรือร้น เธอไม่ใช่พวกสาวเหนียมอาย ที่ต้องรวบรวมความกล้าหน้ากระจกเนิ่นนาน กว่าจะชวนผู้ชายไปกินข้าวได้เหมือนผู้หญิงอื่นๆ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีโอกาสได้อยู่กับเขาตามลำพังเลย ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่เธอเอ่ยปากนัดเที่ยวกับเขา

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบรับหรือปฏิเสธ ประตูลิฟต์ตรงหน้าก็เปิดออก คนที่เจื้อยแจ้วอย่างเพลิดเพลินมาตลอดก็สะดุดกึก เกือบจะในทันทีที่เธอเห็นว่าคนที่อยู่ภายในลิฟต์ก่อนหน้าคือใคร

ทองทิมมองดูหญิงสาวในเสื้อกล้ามรัดติ้ว ที่สวมทับด้วยเสื้อวอร์มตัวสั้น กับกางเกงขากุดสีเหลืองสำหรับออกกำลังกาย ที่เน้นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างเปิดเผย คิ้วเข้มขมวดติดกันทันที แม้จะเป็นชุดกีฬา แต่เขาก็คิดว่ามันไม่เหมาะสม
ชายหนุ่มเหลือบมองคน ที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ ผู้ชายหน้าคุ้นตาที่เขานึกออกทันทีว่าเคยเจอที่ไหน

ธีร์... ช่างภาพหนุ่มที่เขาเจอเมื่อครั้งไปงานนิทรรศการภาพถ่ายของภานุ มาบัดนี้ทองทิมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ความทรงจำในเรื่องที่แพรฝันเล่าให้ฟังย้อนกลับมาในหัว คนที่ดาดาริน ‘ชอบ’ จนขนาดเอาตัวเข้าแลก ชื่อธีร์เช่นกัน

หรือว่า....

ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนเดียวกับคนที่ดาดารินหมายปอง

“จะเข้ามาไหมครับ” เขาถามเสียงห้วน ดาดารินมองอย่างหมั่นไส้ ทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นแหละ

นางแบบสาวก้าวเข้าไปอย่างมาดมั่น อยากประกาศให้รู้ว่าเธอไม่ได้ใยดีกับการกระทำของเขาสักนิด ไม่ว่าเขาจะทำเหมือนเธอเป็นคนแปลกหน้า หรือว่า...จะชวนใครมาอยู่ร่วมคอนโดฯ เธอก็ไม่สน

หญิงสาวเชิดหน้าอยู่ได้สักพัก ก็ตระหนักได้ว่าธีร์ไม่ได้ตามเข้ามาด้วย ความทรงจำแล่นเข้ามาตักเตือนเธอในวินาทีนั้น

ธีร์คงไม่สะดวกใจที่จะร่วมเดินทางไปในลิฟต์ตัวเดียวกับศัตรูหัวใจของเขา เธอกำลังทำอะไรอยู่ สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาทางอ้อมหรืออย่างไร

เขาไม่ไปเธอก็ไม่ไป หญิงสาวเตรียมจะก้าวออก แต่ประตูลิฟต์กลับปิดลงต่อหน้าต่อตา ดาดารินมัวแต่สะดุ้งด้วยความตกใจ ขณะที่ลิฟต์เคลื่อนตัวลงไปอีกชั้นเรียบร้อยแล้ว

หญิงสาวรีบหันมาโวยวายใส่ใครอีกคนทันที

“คุณทองทิม คุณแกล้งกันใช่ไหม ทำไมคุณไม่ช่วยกดเปิดประตูไว้ก่อน คุณก็เห็นว่าฉันกำลังจะออกนี่ หรือว่าคุณจงใจอยากให้ฉันโดนประตูหนีบ” ดาดารินขึ้นเสียงใส่อย่างลืมตัว จ้องหน้าเขาเขม็งด้วยความไม่พอใจ เห็นชัดเจนว่าเขาตั้งใจจะหาเรื่อง เธอไม่จำเป็นต้องแสร้งแสดงความอ่อนหวานอีกต่อไปแล้ว

“เปล่า... คุณชักช้าเอง ประตูลิฟต์มันก็ปิดอัตโนมัติ”

เขาตอบอย่างไร้เยื่อใย จนดาดารินอยากลองดูสักที ถ้าเธอเอาเล็บที่เพิ่งไปทำมาข่วนบนหน้าขาวๆ ของคนปากร้ายใจดำ ร่องรอยมันจะน่าเกลียดสักแค่ไหน เขาจะเจ็บแสบอย่างที่เธอรู้สึกตอนนี้บ้างหรือเปล่า

แต่สิ่งที่เธอทำได้ คือการกระหน่ำกดลิฟต์กลับไปที่ชั้นเดิม ทองทิมมอง ก่อนเหน็บขึ้นอย่างหมั่นไส้

“คุณจะกดให้ปุ่มมันทะลุเลยหรือไง ยังไงลิฟต์มันก็ไม่กลับขึ้นไปได้เร็วกว่านี้หรอก ทำไม กลัวเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณไม่รอเขาหรือไงนี่ ถ้าเขาอยากมากับคุณน่ะนะ เขาก็เดินเข้ามาแล้ว ไม่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นหรอกน่า”

“ก็เพราะคุณไงที่ทำให้เขาไม่เดินเข้ามา” ดาดารินสวนกลับไปทันควันโดยไม่ทันได้คิด
หญิงสาวเพิ่งระลึกขึ้นได้ ว่าคำพูดของเธออาจทำให้ชายหนุ่มเกิดความสงสัย เธอเลยไม่กล้าพูดอะไรอีก

ทองทิมมองดูท่าทางหญิงสาวแล้วอยากจะหัวเราะ เธอคงคิดว่าเขาไม่รู้ถึงแผนการปัญญาอ่อนของเธอสินะ

“ทำไม เขากลัวอะไรผม”

“ธีร์ไม่ได้กลัวคุณ” เธอโต้กลับ แสดงชัดว่าเข้าข้างฝ่ายไหนอย่างเต็มที่ ทองทิมได้ยินก็ยิ่งหงุดหงิด

“ไม่กลัวผม ถ้าอย่างนั้นก็คงกลัวคุณสินะ ทำไมล่ะ คุณไปจู่โจมอะไรจนเขารับไม่ได้หรือเปล่า อาทิเช่น... แต่งตัวไปยั่วเขาถึงห้อง ผมว่าผู้หญิงที่ทำตัวดีๆ รอให้ผู้ชายเป็นฝ่ายเข้ามาหา ดูจะมีคุณค่ามากกว่าอีกนะ”

ถ้อยคำร้ายกาจที่ย้อนกลับมาทำให้ดาดารินทนไม่ไหว เธอจ้องหน้าเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ โดยไม่ได้ตระหนักสักนิดว่าคำพูดของเขา บ่งบอกชัดเจนว่ารู้อะไรมากกว่าที่เธอคิด

“คุณทองทิม ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนไร้มารยาท แต่ไม่นึกว่าจะหยาบคายอย่างนี้ คุณดูถูกฉันมากไปแล้วนะ ฉันไม่ได้แต่งตัวไปยั่วธีร์ เราบังเอิญเจอกันหน้าห้อง แล้วกำลังจะไปออกกำลังกายด้วยกัน แต่ต่อให้ฉันทำอย่างที่คุณพูดจริงๆ คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าฉัน เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”

“ไม่เกี่ยวอย่างนั้นหรอ อย่าลืมว่าคุณก็เคยทำอย่างนั้นกับผมเหมือนกัน”

“ฉันทำอะไร”

“ก็... สะกดรอยตาม ดักเจอ เข้าหา คุณเรียกทั้งหมดว่าอะไรล่ะ” ทองทิมก่อนเว้นจังหวะเพื่อเอ่ยประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

“ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาให้ท่าผู้ชายอย่างนั้นกัน”

คำต่อว่าของทองทิมเหมือนหมัดหนักที่ชกมากลางเบ้าตา ดาดารินหน้าชาไปด้วยความเจ็บปวด และก่อนที่หญิงสาวจะได้สติ เขาก็ไม่ลังเลที่จะปล่อยกำปั้นสุดท้ายซ้ำรอยแผลเดิมจนสุดกำลัง

“จะมีก็แต่พวกขาดความอบอุ่น ชอบเรียกร้องความสนใจ คุณเป็นพวกมีปมด้อยอย่างนั้นหรอ”

คำพูดของชายหนุ่มเหมือนฟางเส้นสุดท้าย ที่พาดผ่านกลางหลังหนักอึ้งที่ดาดารินซุกซ่อน ถ้าดาดารินเป็นลูกแกะที่บาดเจ็บสาหัส ทองทิมก็คงเหมือนสิงโตที่พร้อมจะขยำให้เธอแหลกเหลวคามือ

ทั้งๆ ที่เธอเชื่อว่าตัวเองผ่านเรื่องเจ็บปวด จนภูมิต้านทานแข็งแกร่งเสียจนไม่มีใครหน้าไหนทำร้ายความรู้สึกเธอได้อีก แต่หญิงสาวก็ต้องสูดลมหายใจลึก เพื่อสะกดกลั้นเสียงสั่นเครือของตัวเอง

“ฉันยอมรับว่าเคยทำอย่างนั้นกับคุณจริงๆ สะกดรอยตาม ดักเจอ เข้าหา ให้ท่า...คุณอยากจะเรียกมันว่าอะไรก็แล้วแต่คุณ แต่คุณสบายใจได้ เพราะต่อจากนี้ฉันจะไม่มีวันทำอย่างนั้นอีกแล้ว”

เสียงระฆังหมดยกดังขึ้นพอดี กับที่ประตูลิฟต์เปิดออก ดาดารินไม่สนว่านี่เป็นชั้นที่เธอต้องการหรือไม่ หญิงสาวรีบสาวเท้ายาวๆ ออกไป อย่างคนที่มีบาดแผลเต็มตัว

----------------------------------------------------------

เขาทำกับเธอเกินไปหรือเปล่า

ภาพที่เธอเดินคลอเคลียกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ลอยสลับขึ้นมากับภาพใบหน้าที่เจ็บช้ำ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากลิฟต์

ทองทิมคิดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่ขับรถออกจากคอนโดมิเนียม จนมาถึงหน้าอาคารสูงที่ตั้งบริษัทของภานุ

ชายหนุ่มตอบคำถามตัวเอง ไม่ได้ว่าเขาควรทำอย่างไรต่อไป ระหว่างกล่าวคำขอโทษ หรือปล่อยให้เธอจากไปอย่างนั้น อยู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนลังเล ไม่กล้าตัดสินใจไปแล้ว
หวังว่าภานุจะช่วยแนะนำอะไรได้บ้าง


***************************************
มาต่อแล้วน้าาค้าา

คุณ issable : เรื่องของพลกับลูกแก้วก็อยู่ในเรื่องนี้แหละค่ะ แล้วก็มีต่อนิดหน่อยในเรื่อง 'เพลงลิขิตบันดาลชักพา' ค่ะ

คุณ pattisa : ไม่รู้ว่าจะสนุกถูกใจหรือเปล่า ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

คุณ nunoi : น่าจะสูสีกันนะคะคู่นี้

คุณ โฉมฉาย : 555 เรื่องใหม่กำลังแต่งอยู่นะ อดใจรออีกสักพัก ยังไม่ไปถึงไหนเลย เป็นคนแต่งช้าอ่ะ TT^TT

คุณ ling : ช่ายแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลายเป็นคู่รักซะทีนะ ><

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ





ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ค. 2555, 19:53:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ค. 2555, 19:53:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1618





<< บทที่ 13   บทที่ 15 >>
pattisa 3 ก.ค. 2555, 19:59:33 น.
ก้ต้องไปขอโทษเขาสิยะ นายทองทิม


Edelweiss 3 ก.ค. 2555, 21:58:55 น.
ธีร์ก็ชอบดาดารินใช่ม๊าาาา


issbel 3 ก.ค. 2555, 23:22:49 น.
คุณทองทิมใจร้าย!


nunoi 3 ก.ค. 2555, 23:31:29 น.
พูดซะแรงเลยนะคุณทองทิม รีบไปขอโทษด่วนนนน


ling 4 ก.ค. 2555, 14:14:48 น.
ทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้วนะ งานนี้ต้องมีเอาคืนบ้างอิอิ


Pat 5 ก.ค. 2555, 20:24:04 น.
เดี๋ยวเค้าเลิกตามแล้วจะรู้สึก คราวนี้ก็จะกลายเป็นถูกปั่นหัวโดยไม่รู้ตัว คุณทองทิม


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account